คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 04 Hakuryuu and his mother.
Warning
• ตัวละครมีความสับสนทางเพศ
“แม่...”
ใครน่ะ?
“แม่...”
แม่? หมายถึงใคร?
“แม่! ตื่นได้แล้ว!”
ร่างเล็กสะดุ้งด้วยความแตกตื่น เมื่อร่างกายถูกกระชากขึ้นมาพร้อมกับแรงเขย่าที่มหาศาลจนมิสึกิมึนหัว
“ยะ หยุดก่อน ฉันมึนหัว..” มิสึกิห้ามปรามอีกคน
อีกคนที่ได้ยินแบบนั้นก็หยุดการกระทำของตัวเอง
“แม่ จำฉันได้มั้ย?”
จำ? จำอะไร? แล้วนายเรียกฉันว่าแม่งั้นหรอ?
“ขอโทษนะ.. พวกเราเคยรู้จักกันมาก่อนหรอ?” มิสึกิที่ไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้จึงถามชายตรงหน้า
เจ้าของดวงตาสีแดงทำหน้ามืด แขนยาวเอื้อมไปกระชับไหล่ของหนุ่มร่างเล็ก
“เธอชื่อมิสึกิ อากิระใช่มั้ย?”
“ใช่ แล้วนายล่ะ?”
“ฉันฮาคุริว” มิสึกิได้ยินแบบนั้นแอบตกใจ
“ฮาคุริว..? งั้นนาย คือ โค้ด 66, ฮาคุริวสินะ?” มิสึกิถามซ้ำ
“โค้ดอะไร? ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนั้นสักเท่าไหร่ แต่ฉันมั่นใจว่าแม่ตั้งชื่อให้ฉันว่าฮาคุริว” อีกคนตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“แม่นายคือใครงั้นหรอ?”
“ก็เธอไง มิสึกิ อากิระ นั่นคือชื่อแม่ของฉัน” ฮาคุริวตอบพร้อมกับดึงมิสึกิเข้ากอด
“เอ๊ะ? แต่ฉันเป็นผู้ชายนะ และพึ่งอายุ 18 เอง” มิสึกิที่ถูกกอดก็พยายามผลักฮาคุริวให้ออกห่างจากตัว แต่ดูเหมือนอีกคนจะแรงเยอะกว่า
“อย่ามาโกหกฉันนะแม่ แม่น่ะเป็นผู้หญิง!” ฮาคุริวกระชับกอดแน่น
“โกหกอะไร? นายจำผิดคนแล้ว! ฉันเป็นผู้ชายจริง ๆ นะ” คนถูกกอดเถียง
ฮาคุริวดันร่างของมิสึกิออกมาให้อยู่ต่อหน้าเขา ดวงตาของทั้งสองสบเข้าด้วยกันก่อนที่ฮาคุริวจะเอ่ยขึ้น
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ แต่ฉันจำคนไม่ผิดแน่นอน เธอคือแม่ของฉัน..”
สีหน้าเศร้าสร้อยถูกแสดงออกมาที่ใบหน้าของฮาคุริว
มิสึกิ อากิระรู้สึกสับสน เขาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายพูดอะไรออกมา แต่หัวใจที่อกข้างซ้ายของกลับรู้สึกเจ็บเหมือนถูกเข็มทิ่มเข้าที่หัวใจ
เจ็บจัง..
เจ้าของดวงตาสองสีคิดในใจ แค่ประโยคนั้นประโยคเดียว ทำไมมันเจ็บขนาดนี้กัน?
ฮาคุริวเห็นสีหน้าของคนที่เขาเรียกว่าแม่ก็รู้สึกใจคอไม่ดี เขาคิดว่าเขาไม่ได้พูดอะไรที่มันทำร้ายจิตใจของแม่ แต่ทำไมแม่ถึงทำหน้าเจ็บปวดกันล่ะ?
เด็กหนุ่มยื่นหน้าไปใกล้ข้างแก้มของผู้เป็นแม่ เขาแนบจมูกไปคลอเคลียที่แก้มของมิสึกิแล้วดันหัวของเขาไปถูไถที่แก้มนิ่ม
การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงความรักแบบหนึ่งตามชาติพันธุ์ของเขา
“ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาพรากแม่จากฉันอีกเป็นครั้งที่สอง และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะปกป้องแม่...
ตลอดไป”
ฮาคุริวเอื้อมแขนมากระชับกอดหลวม ๆ
มิสึกิที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ แต่กลับรํ้สึกว่าการกระทำของฮาคุริวทำให้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด
เป็นความรู้สึกที่โหยหามานาน
ทำไมกันนะ? ทำไมฉันถึงดีใจที่ได้เจอฮาคุริวอีกครั้ง..
ทั้งที่ฉันเป็นพนักงานวิจัย—
“เจอตัวแล้วครับหัวหน้าคิระ!”
“โค้ด 66 ฮาคุริว รีบปล่อยเด็กคนนั้นออกมาซะ”
“ยาสลบพร้อมแล้วนะครับหัวหน้า”
เสียงเอะอะโวยวายดังเป็นระยะ
มิสึกิได้ยินเสียงสลับกระสุนของกระบอกปืน ได้กลิ่นยาฆ่าเชื้อที่มันรุนแรงจนเริ่มเวียนหัว
“ไอ่เตี้ย ปลอดภัยปะ!”
ได้ยินเสียงของฮิโรโตะ
“มิสึกิคุงแข็งใจไว้นะครับ!”
แล้วก็เสียงของทัตสึยะ
“ชิ น่ารำคาญชะมัดพวกมนุษย์”
อ่า.. เสียงของฮาคุริว
ทำไมร่างกายมันไม่มีแรงที่จะขยับเลย แค่จะเปล่งเสียงมันยัง—
“ริวจัง...”
แล้วฉัน.. พูดชื่อใครออกมาน่ะ?
และแล้วรอบข้างฉันก็มืดสนิท
“แม่! แม่! แม่เป็นอะไร? ตอบฉันสิ แม่!” ฮาคุริวเขย่าร่างของผู้เป็นแม่ด้วยความวิตกกังวล
เกิดอะไรขึ้น? แม่เป็นอะไร? หรือว่า—
“พวกแก..”
“พวกแกทำอะไรแม่ของฉัน!”
ฮาคุริวตะหวาดลั่น เขางอข้อต่อนิ้วมือขวาจนรูปร่างออกมาเป็นกรงเล็บ
“แย่แล้วครับหัวหน้าคิระ! โค้ด 66 จะใช้กรงเล็บวายุพังห้องนี้!” เสียงของเจ้าหน้าที่หนึ่งตะโกน
“สภาพจิตใจของโค้ด 66 ติดลบสูงมาก มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการคลั่ง แบบนี้ไม่ดีแล้วนะครับหัวหน้าคิระ!” นักวิจัยคนหนึ่งพูด
“เลวร้ายสุด ๆ แบบนี้มันแย่อย่างที่พวกนายว่ามาจริง ๆ” คิระ เซย์จิโร่พูดขึ้น
“เตรียมยาสลบกับแก๊สสลบไว้ให้พร้อม ยังไงโค้ด 66 ก็ยังสำคัญต่อการวิจัยของเรา”
เมื่อสิ้นสุดคำสั่ง เจ้าหน้าที่ และทีมวิจัยบางส่วนก็เตรียมอุปกรณ์สารสลบไว้รอบตัวฮาคุริว
“เจ้าพวกมนุษย์—” ฮาคุริวที่เตรียมปล่อยกรงเล็บวายุ แต่ร่างกายของเขากลับนิ่งค้างราวกับถูกหยุดไว้ตรงนั้น
ตึก— ตึก— ตึก—
“พลังนี้มัน..” ฮิโรโตะมองอย่างตะลึง เขาคิดว่าเขาจะต้องตาย เพราะท่าหมาข่วนของเจ้าโค้ด 66 ซะแล้ว
“ก็มีอยู่คนเดียวที่ใช้พลังนี้ได้” ทัตสึยะถอนหายใจก่อนจะตอบฮิโระโตะ
“เสียงดังไปยันโซน B เลยนะ พวกโง่นั่นก็ขอร้องไห้ฉันมาช่วยหยุดฮาคุริวกันยกใหญ่ เฮ้อ ฉันเคยบอกไปแล้วไงว่าฉันหยุดเจ้าจิ้งเหลนลมนั่นไม่ได้หรอก อย่างน้อยแค่ถ่วงเวลาได้ก็เท่านั้น”
คำบ่นที่ถูกร่ายยาวจนทัตสึยะต้องหัวเราะแห้ง ๆ อย่างช่วยไม่ได้
“ขอบคุณที่มาช่วยนะครับ อะฟุโระคุง”
“ไม่เป็นไร ถึงใจจริงอยากให้ฮาคุริวทำลายแล็ปนี้พังก็เถอะ”
อะฟุโระยืนอยู่หน้าทางเข้าห้องของโค้ด 66 ด้วยคำพูดที่ติดตลก แต่แฝงไปด้วยความหวัง
“พลังของโค้ด 80 หรอ?”
ฮิโรโตะถามคนผมแดง
“ใช่ครับ แต่ตอนนี้เราต้องรีบช่วยมิสึกิคุงก่อนดีกว่า”
“มิสึกิ? ใครหรอ”
“เดี๋ยวก็รู้” ฮิโรโตะยักไหล่
คิระ เซย์จิโร่ที่เงียบมานานก็สั่งให้หน่วยงานปลดอาวุธลง
“รีบไปช่วยมิสึกิได้แล้ว อะฟุโระ เทรุมิ” หัวหน้าแล็ปเอย์เซย์สั่ง
เจ้าของชื่อทำหน้าบึ้ง
“รู้แล้วน่า” หนุ่มผมบลอนด์ก้าวขาเดินไปทางฮาคุริว
ดวงตาสีน้ำตาลมองใบหน้าของฮาคุริวที่มีสีหน้าดุร้ายราวกับสัตว์ป่า
เขาเลื่อนตาลงต่ำมองร่างใต้อ้อมแขนของฮาคุริว มือของฮาคุริวกอดร่างนั้นไว้แน่น
คงเป็นคนสำคัญมากเลยสินะ? นายถึงได้โกรธเจ้าพวกนั้นน่ะ
“ขอโทษที่ต้องพาเธอไปก่อนนะ ฮาคุริว” อะฟุโระพูด เขาเอื้อมมือไปจับร่างของมิสึกิแล้วออกแรงดึงร่างนั้นออกมา
ความสามารถของอะฟุโระ เทรุมิ หรือ โค้ด 80 คือ การหยุดเวลา เป็นการหยุดเวลาเฉพาะบุคคล หรือ สิ่งของ เช่น ตอนนี้เขาหยุดเวลาของฮาคุริว ฮาคุริวก็จะถูกหยุดเวลาเอาไว้ แต่ว่า—
ถ้าหากเขาสัมผัสอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับฮาคุริว อย่างการจับส่วนใดส่วนหนึ่งตามร่างกายของฮาคุริวในระหว่างที่ความสามารถในการหยุดเวลายังคงทำงานอยู่ ฮาคุริวก็จะกลับเดินเวลาได้อีกครั้ง
และใช่ การที่อะฟุโระ เทรุมิจับร่างของมิสึกิ อากิระที่อยู่ในอ้อมแขนของฮาคุริว นั่นแสดงว่า—
ฮาคุริวจะกลับมาเดินเวลาของตัวเองอีกครั้ง เพราะเขาสัมผัสกับสิ่งที่เกี่ยวข้องผ่านฮาคุริวอีกที
“แก! อะฟุโระ!!”
เมื่อร่างของมิสึกิหลุดมาอยู่ในอ้อมแขนของอะฟุโระ ฮาคุริวก็ตะหวาดลั่นอย่างเหลืออด
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ฮาคุริวติดอยู่ในห้วงมิติแห่งเวลา เขาเห็นมันหมด
เห็นตั้งแต่สายตาของไอ้เดนมนุษย์นั่นที่มองมาทางเขาราวกับว่าเขา คือ ของล้ำค่า
“ฉันไม่มีวันให้อภัยพวกแกที่ทำแบบนี้กับฉัน และแม่เด็ดขาด!”
ฮาคุริวกลายร่างเป็นมังกรสีขาว ตามลำตัว และหางมีเกล็ดสีฟ้าอ่อน ความสูงอยู่ที่ประมาณ 7 เมตร
อะฟุโระ และคนอื่น ๆ รีบพากันถอยห่างจากมังกรขาวให้ได้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัย
“แล้วผู้หญิงคนนี้จะไว้ที่ไหน?” อะฟุโระเดินไปหาทัตสึยะ
“เดี๋ยวผมรับช่วงต่อเอง แต่มิสึกิคุงเป็นผู้ชายนะครับ อะฟุโระคุง”
หนุ่มหน้าสวยได้ยินแบบนั้นก็ช็อคจนค้าง
“เลิกคุยกันก่อน จะเอาไงดีกับมังกรขาวนั่นล่ะ? พวกนักวิจัยกับพวกถืออาวุธมันแตกตื่นจนหนีเละเทะหมดละ”
ฮิโรโตะทำหน้าเอือมระอา พลางเหลือบมองร่างของมิสึกิที่ถูกส่งต่อให้กับทัตสึยะ
“แต่ฮาคุริวบอกว่าคน ๆ นี้ คือ แม่งั้นหรอ?” อะฟุโระถามด้วยความสงสัย
“เรื่องนั้นผมรู้ไม่มากครับ ในประวัติของมิสึกิคุง เขาเป็นผู้ชายแท้แน่นอน จะไปท้องมาจากไหนก่อน..”
“จะท้อง ไม่ท้อง เป็นชาย หรือ หญิงก็ช่างมันไปก่อน ตอนนี้หมอนี่มันสลบไปแล้วคงคุยกับฮาคุริวไม่ได้ พวกเราต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่นี่จะเละเป็นรังขยะแน่”
ฮิโรโตะบ่นด้วยความหัวเสีย ทัตสึยะได้ยินแบบนั้นก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมาได้
“งั้นเอางี้ละกัน อะฟุโระคุงช่วยเกลี้ยกล่อมฮาคุริวให้ทีนะครับ เดี๋ยวผมจะช่วยอีกแรง”
“ห๊า? นายจะให้ฉันไปคุยกับแย้ขาวนั่นอ่ะนะ ไม่มีทางอ่ะ มีหวังฉันโดนมันซัดติดกำแพงแน่” อะฟุโระปฎิเสธทันที
“เดี๋ยวผมเปิดเอง” คนผมบลอนด์หันไปมองหนุ่มผมแดงด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“งั้นก็สวยสิ”
ถ้าไม่ลองเสี่ยงก็ไม่รู้หรอก
“ฮาคุริวคุง”
ทัตสึยะเดินไปหามังกรสีขาวตรงหน้า ด้านหลังเขาก็มีร่างของมิสึกิ อากิระ พนักงานใหม่ของแล็ปเอย์เซย์ที่นอนอยู่บนหลังของเขา
ฮาคุริวที่ได้ยินเสียงของทัตสึยะก็พร้อมจะกางเล็บข่วนใส่ แต่ด้านหลังของชายผมแดงกลับมีร่างของคนสำคัญอยู่บนหลัง
มังกรขาวคำรามอย่างหงุดหงิด
“ใจเย็นก่อน ใจเย็นก่อน”
“ผมแค่มีเรื่องจะบอกนายน่ะ ฮาคุริวคุง เกี่ยวกับแม่ของนาย”
ถึงทัตสึยะในสายตาของฮารุริวจะดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ถ้าเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับแม่ เขาจะลองฟังสักหน่อยก็ได้
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่นายเอามิสึกิคุงไป แต่การที่เขาสลบแบบนี้คงต้องพาไปพักฟื้นตัวในสถานที่ที่เหมาะสมก่อนใช่มั้ยล่ะ? ฉะนั้น พวกเรามาคุยกันดี ๆ ก่อนดีกว่ามั้ย?”
ทัตสึยะที่พยายามเกลี้ยกล่อมฮาคุริวพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ฮาคุริวหลี่ตาลง ใครจะไปเชื่อมันลงกันฟระ ตะ แต่อาการแม่น่ะ อีกเรื่อง...
“ถ้านายพาแม่ของนายไป นายจะพาไปที่ไหน? บนโลกนี้ไม่มีใครรับอมนุษย์เข้าโรงพยาบาลของคนปกติหรอกนะ ฮาคุริว” อะฟุโระช่วยเสริมให้อีกแรง
“.....” ฮาคุริวไร้ปฏิกิริยาโต้ตอบ จนกระทั่งมีควันลอยฟุ้งทั่วบริเวณรอบ ๆ ฮาคุริว
ปรากฏเงาที่มีรูปร่างของมนุษย์ท่ามกลางควัน เมื่อควันจางลงก็เห็นร่างของฮาคุริวในรูปแบบของมนุษย์
เขายอมกลับร่างมนุษย์แล้ว..
ฮิโรโตะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“อยากกลับไปเล่นเกมแล้วว่ะ”
“ดูเหมือนว่าพวกเขาทำได้ดีเกินคาดเลยนะครับ”
“อืม ฉันไม่คิดว่าฮาคุริวจะรู้จักพนักงานใหม่.. และดูเหมือนจะติดมิสึกิมากเสียด้วย— แบบนี้ก็เข้าทางเลยสิ จะได้ใช้งานฮาคุริวได้ง่ายขึ้น.. หึหึหึ”
Talk with Roselle
ตอนนี้เหนื่อยมากจ้า เหนื่อยตรงไหนหรอ? อ่อ ฉากบู๊ไง ถึงไม่ได้สู้กันจริง แต่บรรยายฉากที่ใกล้เคียงกับฉากบู๊มันเหนื่อยมากเลย แง
ความคิดเห็น