ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    【Inazuma Eleven all series x OC】月の花嫁 Tsuki no Hanayome

    ลำดับตอนที่ #19 : 19 Why?

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 66


     

    Warning

    • มนุษย์ถูกใช้เป็นหนูทดลอง

     

     

     

    “เท่าที่ผมรู้ก็มีอยู่ประมาณนี้”

    เด็กหนุ่มผมสีชมพูอมแดงกล่าว ดวงตาสีเทาหมองจับจ้องไปยังร่างของพนักงานใหม่ที่แสดงสีหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด

    “แล้วหินเอเลียที่ว่าล่ะ?”

    หนุ่มผมสีบริสุทธิ์ถาม

    โนซากะครุ่นคิด

    “หินเอเลียเป็นส่วนหนึ่งของอุกกาบาตก็เปรียบเสมือนเศษเสี้ยวพลังงานของแพนโดร่า”

    มิสึกิหันไปมองโนซากะ เขาเองก็มองมาทางนี้เช่นกัน

    “วิธีสมัยก่อนคงเป็นการใช้วิธีที่คล้ายกับลิฟต์เคลื่อนย้ายคน พอมีหินเอเลียก็เลยเปลี่ยนมาใช้หินนั่นเป็นแกนมอบพลังแพนโดร่าให้สินะ?”

    โนซากะปรบมือให้แก่คำตอบนั้น

    “ถูกต้องครับ ผมเองก็ถูกใช้ด้วยวิธีรับพลังจากหินเอเลียเหมือนกัน”

    “ทุกคนที่เป็นตัวทดลองได้ใช้วิธีแบบนายทุกคนมั้ย?”

    ชายผมสีชมพูอมแดงทำท่าครุ่นคิด

    “ถ้าไม่นับตัวทดลองที่อยู่ชั้นมนุษย์ปกติ ตัวทดลองทุกคนในแล็ปก็ใช้วิธีเดียวกับผมหมดนั่นแหละ”

    คำตอบที่ได้รับมานั้นสร้างความพึงพอใจให้แก่มิสึกิเป็นอย่างมาก

    ในบรรดาหนูทดลองของแล็ปเอย์เซย์ทั้งหมด มีแค่โนซากะ ยูมะที่อยู่ในห้องทดลองสี่เหลี่ยมนานที่สุดแล้ว

    “แต่ก็ยกเว้นคนนึง”

    ดวงตาสองสีจับจ้องไปยังเจ้าของดวงตาสีเทาหมอง

    “คนที่ไม่ได้รับพลังจากหินเอเลีย ผมไม่รู้ที่มาที่ไปที่แน่ชัด แต่เขาได้รับพลังของแพนโดร่าจากหลุมนั่นแล้วคงสภาพตัวเองได้สมบูรณ์แบบ เหมือนกับว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของมัน—”

    “นั่นก็คือฮาคุริวคุง”

    เด็กหนุ่มผมสีบริสุทธิ์ที่ได้ยินถึงกับช็อค

    นี่เป็นข้อมูลใหม่ที่เขาไม่เคยทราบมาก่อน ตั้งแต่วิธีการใช้หินเอเลียกับมนุษย์ หรือ การส่งมนุษย์ไปตายในสถานที่แบบนั้น

    แม้แต่ฮาคุริว...

    มือบางจิกขากางเกงแน่น เขาเองก็รับไม่ได้กับการใช้มนุษย์เป็นหนูทดลอง

    ถึงเขาจะไม่ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริงของคิระ เซย์จิโร่ แต่อย่างน้อยก็ได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของแล็ปนี้มากขึ้น

    “ขอบคุณที่บอกนะ ฉันไม่รบกวนนายแล้ว”

    มิสึกิหยัดกายขึ้น ตัดสินใจที่จะกลับ ป่านนี้คงมีงานให้เขาทำมาเพิ่มแล้ว แต่ขณะที่มิสึกิกำลังก้าวขาออกจากห้อง เขาก็รู้สึกถึงแรงบางอย่างที่จับข้อมือของเขาไว้

    เป็นโนซากะที่รั้งเขาไว้

    “ถึงผมจะไม่รู้จุดประสงค์ของคุณที่ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่จะขอบอกสักเรื่องเป็นการช่วยเหลือนะครับ”

    เด็กหนุ่มผมสีแดงอมชมพูเดินเข้ามาใกล้มิสึกิแล้วโน้มตัวลงไปข้างหูของเขา

    “ระวังตัวจากคิยามะ ทัตสึยะ”

    มิสึกิเบิกตากว้าง

    ถึงจะไม่รู้สาเหตุที่จะต้องระวังทัตสึยะ แต่ทัตสึยะอันตรายขนาดที่ต้องระวังตัวเลยงั้นหรอ?

    โนซากะที่เห็นว่าหนุ่มข้างตัวกำลังช็อคกับประโยคเมื่อครู่จึงใช้จังหวะที่เจ้าตัวเผลอ หอมแก้มอีกฝ่ายไปฟอดหนึ่งแล้วก้าวขาถอยออกมา

    หนุ่มผมขาวที่พึ่งรู้สึกตัวว่าถูกฉวยโอกาสหอมแก้มก็หน้าขึ้นสี

    ปฏิกิริยาตอบสนองของมิสึกิทำให้โนซากะ ยูมะพึงพอใจ

    “ยังไงก็ขอให้โชคดีนะครับ”

    เจ้าของห้องทดลองพูดแบบนั้น พร้อมกับโบกมือส่งท้ายให้

    เจ้าของดวงตาสองสีรีบก้าวขาออกจากห้องทดลองนั้นทันที โดยมีดวงตาสีเทาหมองมองตามหลัง

    เจ้ายูมะคนบ้า!

    คิดในใจไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้ล่ะนะ

    หลังจากที่หนุ่มผมสีบริสุทธิ์ออกจากห้อง โนซากะก็กลับไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม

    นิ้วเรียวชี้ขึ้นข้างบน เขาวนนิ้วสองถึงสามครั้งก็ปรากฏตัวหมากขนาดพอดีฝ่ามือ ตัวหมากนั้นลอยอยู่เหนือนิ้วของโนซากะก่อนจะถูกนิ้วนั่นสั่งให้วางบนโต๊ะ

    รอบตัวหมากมีออร่าสีฟ้าอ่อนเปล่งออกมา โนซากะใช้นิ้วของเขาจิ้มที่ตัวหมากแล้วพึมพำกับตัวเองคนเดียว

    “การที่คุณมาหาผม เพื่อถามข้อมูลแบบนั้น—คุณพร้อมที่จะเสี่ยงชีวิตกับพวกโอลิมปัส และคนทั้งโลกแล้วสินะครับ?”

    “ถึงเจ้าตัวจะไม่ใช่ร่างจริง แต่ผมก็สัมผัสได้”

    “ว่านางฟ้ากำลังส่งสารมาเพื่อช่วยพวกเรา”

     

     

     

    มิสึกิเดินออกมาจากชั้น 5 เป็นที่เรียบร้อย และเป้าหมายต่อไปที่เขากำลังไปนั่นก็คือห้องของคิยามะ ทัตสึยะ

    ตามคำสั่งของหัวหน้าคิระ มิสึกิจะต้องรับงานจากทัตสึยะจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง

    ขณะที่เข้าไปในลิฟต์ ดวงตาสองสีก็สบเข้ากับชายร่างสูงที่สวมแว่นก๊อกเกิ้ล

    มิสึกิไม่ได้จดจำพนักงานในแล็ปนี้ทุกคน เขาจึงทำได้แค่ปล่อยเบลอกับพวกมนุษย์นักวิจัยพวกนั้น

    “นายคือพนักงานคนใหม่ที่เขาลือกันสินะ?”

    ชายสวมแว่นก๊อกเกิ้ลถาม

    มิสึกิจึงตอบไปตามมารยาท

    “ใช่ ทำไมหรอ?”

    “ฉันคิโด ยูโตะอยู่แผนกดูแลตัวทดลองมนุษย์ชั้นล่าง ยินดีที่ได้รู้จัก มิสึกิ อากิระ”

    ชายคนนั้นกล่าวแนะนำตัว มิสึกิจึงไม่ได้ตอบอะไร นอกจากพยักหน้ารับ

    ก็อีกฝ่ายเขารู้ชื่อเราแล้วจะแนะนำไปเพื่อ?

    และแล้วทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบ ไม่มีใครเอ่ยปากพูดต่อจากนั้น

    เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก มิสึกิจึงขอตัวไปก่อน คิโดขานรับก่อนที่บานประตูลิฟต์จะปิดลง

    “เป็นอย่างที่พวกเอลโดราโด้บอกไว้ไม่มีผิด”

    “มิสึกิ อากิระคือขาซ้ายของเทเรเซีย”

    คิโดทำหน้าเครียด

    การส่งสารในครั้งนี้จะช่วยเทเรเซียออกมาจากหลุมแพนโดร่าได้จริงงั้นหรอ?

    โนวิโอ้...

    บานประตูลิฟต์เปิดอีกครั้ง คิโดก้าวขาออกมาออกมาจากลิฟต์ เขาเดินไปตามทาง โดยจุดหมายปลายทางเป็นชั้นของพวกมนุษย์ทดลองธรรมดาที่ยังไม่ได้รับพลังจากหินเอเลีย

     

     

     

    หลังจากที่แยกย้ายกับพวกซารุ และเฟย์เรียบร้อย อัลฟ่า เบต้า แกมม่า และโนวิโอ้จึงวางแผนที่จะบุกเข้าไปในแล็ปเอย์เซย์

    “ระบบป้องกันแน่นหนาชะมัด” แกมม่าสถบ

    ทั้งสี่คนมองหน้าจอแล็ปท็อปที่แสดงภาพชั้นระบบการป้องกันของแล็ปเอย์เซย์

    “เพราะแบบนั้นไง คิโดซังถึงได้เข้าไปทำงานในนั้น” โนวิโอ้ตอบ

    “Yes” อัลฟ่าพยักหน้าเห็นด้วย

    “แกมม่านี่โง่จัง” เบต้าหันไปแขวะใส่ชายผมตั้ง

    “เธอนี่ชักจะกวนมากเกินไปแล้วนะ!”

    “แกมม่าโง่เองนี่!”

    ขณะที่แกมม่ากับเบต้าทะเลาะกัน อัลฟ่าจึงเข้ามาขัดทั้งสอง

    “อย่าทะเลาะกัน”

    “ชิ!” ทั้งสองที่ถูกห้ามเชิดหน้าหนีคนละฝั่ง

    โนวิโอ้นั่งเงียบ เขากำลังคิดแผนการหลาย ๆ อย่าง

    เริ่มตั้งแต่ออกจากประเทศอาร์เทมิส เพราะที่ประเทศแห่งนี้เต็มไปด้วยอาบีสไร้สติปัญญามากมายรอเขมิบคุณอยู่

    ถึงฐานทัพของเอลโดราโด้อยู่ที่ประเทศอะโฟรไดท์ ประเทศที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับพวกโอลิมปัสจึงง่ายต่อการเป็นที่หลบภัย และด้านล่างของฐานก็มีทางลับที่เป็นเส้นทางใต้ดินที่เชื่อมกับประเทศต่าง ๆ แต่ก็ต้องขอบคุณอาฟุโระ เทรุมิ ลูกหลานของจักรพรรดิประเทศอะโฟรไดท์ที่อนุญาตให้ใช้เป็นแหล่งกบดาน

    ยกเว้นประเทศซีอุสที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะใต้ประเทศนั้นมีฐานของแล็ปเอย์เซย์ที่มีระบบป้องกันหนาหลายชั้น ถึงโกเอนจิ ชูยะ— ไม่สิ ตอนนี้เจ้าตัวใช้ชื่อปลอม คือ อิชิโดะ ชูจิ ขึ้นเป็นจักรพรรดิของประเทศซีอุสก็ยังไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้มาก

    เพราะมันยังมีคนอยู่เบื้องหลังอีกที ซึ่งโนวิโอ้เองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร

    แต่ก็ต้องขอบคุณอาฟุโระซัง สองพี่น้องฟุบุกิ และคิโดซังที่ยอมเข้าไปเสี่ยงในแล็ปเอย์เซย์

    อาฟุโระซังต้องใช้พลังของตัวเองย้อนร่างของตัวเองไปเป็นเด็ก ส่วนฟุบุกิคนพี่ที่สามารถแปลงร่างได้ก็ปรับขนาดตัวได้ตามใจชอบ มีแต่ฟุบุกิคนน้องเท่านั้นที่ยังเป็นเด็กตามปกติ

    ทางแล็ปเอย์เซย์เองก็ต้องพึ่งคิโดซัง เพราะอุตสาหกรรมของบริษัทเทย์โทคุดีเลิศขนาดที่โอลิมปัสลงทุนเงินไปเยอะกับบริษัทนี้

    ถึงเราจะมีเส้นสายมากพอ แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรตามใจตัวเองได้

    จริงอยู่ที่โนวิโอ้ตัดสินใจลบความทรงจำของมิสึกิ หรือ ขาซ้ายของเทเรเซีย พร้อมกับป้อนคำสั่งให้รวบรวมข้อมูลของที่นั่นแล้วส่งเธอไปทำงานในแล็ป แต่มิสึกิเป็นร่างที่มีความผิดปกติอยู่มาก ตั้งแต่สีผม สีตา ความคิดด้านเพศของตัวเอง การกระทำ เป็นตัวตนที่ห่างไกลจากร่างต้นแบบสุด ๆ อาจจะไม่มีใครสังเกตก็ได้ว่าเธอคือขาซ้ายของเทเรเซีย แต่ถ้ามีคนในแล็ปที่สมรู้ร่วมคิดกับคิระ เซย์จิโร่รู้เข้าละก็—

    เทเรเซียจะไม่สามารถเดินได้ตลอดกาล

    “แค่อยากอยู่ด้วยกันกับเด็กผู้หญิงคนเดียว แล้วทำไมนายต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้!” โนวิโอ้สถบ

    ทั้งเจ็บใจ เสียใจ เสียคนสำคัญไปมาก

    “ทำไมนายถึงทำแบบนี้ ชู!!”

     

     

    “นั่นสินะ ทำไมฉันต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โต?”

    พูดจบ เขาก็หัวเราะออกมาเบา ๆ

    “ฉันก็แค่—”

    “อยากใช้ชีวิตร่วมรักกับเทเรเซีย เหมือนที่มนุษย์ทำกัน...”

    “ก็เท่านั้น”

    ชูหลับตาลง ใต้ตามีหยดน้ำสีดำคลอออกมาแล้วมันก็ไหลลงข้างแก้มของเขา

     

     

     

     

    Talk with Roselle

    โอ้ย ๆ ดราม่า ๆ เราลืมอธิบายเรื่องหินเอเลียจากตอนที่แล้วเลยค่ะ 5555

    หินเอเลีย (Aliea Meteorite) เป็นเศษหินจากอุกกาบาตของ Inazuma Eleven ที่คาเซมารุใส่ตอนอยู่ทีม Dark Emperor (DE)

    เหตุผลที่นิยายเรื่องนี้ต้องมีอุกกาบาต หลุมยักษ์ที่อุกกาบาตตกก็เพราะใช้อ้างอิงแบบนี้แหละค่ะ (แค่หลุมยักษ์อ้างอิงมาจาก Made in Abyss)

    สำหรับใครที่งงว่าแล้วเทรุมิกับสองพี่น้องฟุบุกิได้รับพลังมายังไง ตอนก่อนหน้าที่เคยบอกไป คือ Fake ค่ะ ข้อมูลปลอมที่ใช้อ้างในการเป็นหนูทดลองในแล็ปจะขออธิบายตรงนี้เลยละกันนะคะ

    เทรุมิแค่อยากรับรู้ถึงความเป็นพระเจ้าที่ฟังจากขี้ปากชาวบ้านกันเลยเอาตัวเองไปเสี่ยง ก็ได้พลังมานะ แต่ตอนนั้นทางแล็ปไม่รู้ไงว่าเทรุมิได้มาตั้งนานแล้ว จนตอนนี้พี่เขาโตแล้ว แต่ก็ต้องหดตัวเองกลับไปเป็นเด็ก เพื่อช่วยคิโดกับฟุบุกิ

    ชิโร่ได้รับจากอุบัติเหตุตอนไปช่วยอัตสึยะเลยได้รับพลังมาทั้งคู่ แต่ชิโร่อ้างอิงจากภาค GO ส่วนอัตสึยะอ้างอิงจากภาค Ares/Orion ก็คือชิโร่อายุ 24 ส่วนอัตสึยะอายุ 14 แต่เนื่องจากชิโร่มีพลังหมาป่า ปรับขนาดร่างตัวเองได้ตามใจชอบตั้งแต่ร่างคนยันร่างหมาเลยเนียนเข้าไปได้ ส่วนอัตสึยะก็เคยมีวีกรรมไปทำร้ายคนอื่นมาก่อน เพราะนิสัยตัวเองล้วน ๆ เลยได้อยู่ร่วมชั้นกับฮาคุริว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×