ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : 17 Cage | 10:1-18
⚠️ Warning ⚠️
• บรรยายฉากการใช้มนุษย์ในการทดลอง
• ตัวละครเสียชีวิต
• การใช้มนุษย์เป็นหนูทดลอง
• การใช้สัตว์ในการทดลอง
• อ่านตอนนี้จบ กรุณาอ่านตรง ท้อค ๆ กับเราด้วยนะคะ ไม่งั้นงง
มนุษย์ ชื่อในทางวิทยาศาสตร์ คือ Homo Sapiens มีความหมายในภาษาละตินว่า คนฉลาด หรือ ผู้มีปัญญา
มนุษย์มีลักษณะพิเศษ คือ มีสมองใหญ่ เมื่อเทียบกับขนาดตัว โดยเฉพาะสมองชั้นนอก สมองส่วนหน้า และสมองกลีบขมับที่พัฒนาเป็นอย่างดี ทำให้มนุษย์สามารถให้เหตุผลเชิงนามธรรม ใช้ภาษา แก้ปัญหา และสร้างสรรค์วัฒนธรรมผ่านการเรียนรู้ทางสังคม ความสามารถทางจิตใจของมนุษย์ ประกอบกับการปรับตัวมาเคลื่อนไหวสองเท้าซึ่งทำให้มือว่างจัดการจับวัตถุได้ ทำให้มนุษย์สามารถใช้อุปกรณ์เครื่องมือได้ดีกว่าสปีชีส์อื่นใดบนโลกมาก มนุษย์ยังเป็นสปีชีส์เดียวเท่าที่ทราบที่ก่อไฟ และทำอาหารเป็น สวมใส่เสื้อผ้า และสร้างสรรค์ รวมถึงมีความสามารถที่จะใช้เทคโนโลยี และศิลปะอื่น ๆ
เอกลักษณ์ที่สำคัญของมนุษย์ ได้แก่ ความถนัดในการใช้ระบบการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ เช่น ภาษา เพื่อการแสดงออก แลกเปลี่ยนความคิด และการจัดระเบียบ มนุษย์สร้างโครงสร้างทางสังคมอันซับซ้อน ซึ่งประกอบด้วยการรวมกลุ่มจำนวนมากที่มีทั้งร่วมมือ และแข่งขันกัน จากครอบครัว และวงศาคณาญาติ ไปจนถึงรัฐปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างมนุษย์ได้ก่อตั้งค่านิยม บรรทัดฐานทางสังคม และพิธีกรรม ซึ่งรวมกันเป็นรากฐานของสังคมมนุษย์ มนุษย์ขึ้นชื่อในความปรารถนาที่จะเข้าใจ และมีอิทธิพลเหนือสิ่งแวดล้อม แสวงหาคำอธิบาย และปรับเปลี่ยนปรากฏการณ์ต่าง ๆ ผ่านวิทยาศาสตร์ ปรัชญา เทพปกรณัม และศาสนา
เพราะแบบนั้น กลุ่มคนบางส่วนจึงอยากรู้ว่า ถ้าหากมนุษย์เราสามารถมีพลังทัดเทียม หรือ ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า YHWH หรือที่เรียกกันว่า พระเป็นเจ้า
กลุ่มมนุษย์ที่เรียกตนว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์นั้นจึงได้คิดค้นวิธีการดัดแปลงสิ่งมีชีวิต โดยเริ่มจากสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ และจบลงที่มนุษย์...
จากผลการวิจัยพบว่าบรรดาสัตว์เล็กที่ถูกนำไปดัดแปลงนั้นไม่สามารถดัดแปลง หรือ ต่อเติมอะไรกับมันได้ พวกมันรับได้แค่สารเคมี หรือ จำพวกยา บรรดาสัตว์ใหญ่เองก็เช่นกัน แม้ขนาดตัวจะใหญ่กว่าสัตว์เล็กมาก แต่ก็ไม่อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี ยกเว้นสัตว์ชนิดหนึ่งที่เริ่มเห็นผล นั่นก็คือ ลิง
ลิงถูกนับว่าเป็นสัตว์ที่มีคล้ายกับมนุษย์มาก และมนุษย์ยุคแรกถูกวิวัฒนาการมาจากลิง
นักวิทยาศาสตร์จึงเริ่มคิดวิธีการใช้มนุษย์เป็นตัวทดลองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..
คิระ เซย์จิโร่ ลูกหลานทายาทของตระกูลคิระ ตระกูลผู้เสียสละ เพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับอุกกาบาต เขามีภรรยาคนหนึ่ง และลูกอีกสองคน คนแรกเป็นลูกสาว ชื่อ คิระ ฮิโตมิกะ คนที่สองเป็นลูกชาย ชื่อ คิระ ฮิโรโตะ
ถึงคิระ เซย์จิโร่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่หน้าที่การงานที่แสนสำคัญ จึงทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัวมากนัก และเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น เขาสามารถใช้ทุกวิธีการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้จะต้องพรากชีวิตมนุษย์ร่วมโลกกันเองก็ตาม
ภายในแล็ปเอย์เซย์มีมนุษย์ที่เป็นตัวทดลองเพียงน้อยนิด พวกเขายังไม่ได้พาตัวมนุษย์จากประเทศอาร์เทมิสที่กำลังล่มสลายจากพลังของอุกกาบาต มีมนุษย์บางส่วนที่บ้าบิ่นเดินลงไปในหลุมยักษ์จนมนุษย์เหล่านั้นได้มีบางส่วนกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดที่แสนดุร้าย พวกมันทำร้ายมนุษย์แล้วกัดกินราวกับอาหารมื้อโปรดก็ไม่ปาน
เพราะเหตุนั้นมันได้สร้างสิ่งที่คิระ เซย์จิโร่สนใจ มันคือหนทางแห่งการเป็นพระเจ้า!
คิระ เซย์จิโร่มัดมนุษย์บางส่วนที่อยู่ในห้องทดลองด้วยเชือกแล้วพาพวกเขาลงหลุมแพนโดร่าอย่างไม่ใยดี ทุกขั้นตอนมีนักวิทยาศาสตร์ และหน่วยงานติดอาวุธมากมายคอยช่วยเหลือ โดยมีชายผมแดง ดวงตาสีเขียวใต้กรอบแว่นคอยประสานงาน
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง คิระ เซย์จิโร่สั่งให้ดึงเชือกขึ้น เมื่อดึงเสร็จ ผลลัพธ์ก็ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้
เชือกขาดแหว่ง ตามเส้นเชือกที่รอยเลือดมากมาย ชายผมแดงสรุปว่าอาจจะถูกกินไปแล้ว
วันถัดมา คิระ เซย์จิโร่จึงให้มนุษย์อยู่ในกรงเหล็ก แต่มนุษย์กลับมีจำนวนไม่พอตามมาตราฐานที่เขาคิดไว้ ความอมหิตของการวิจัยเริ่มเกิดขึ้น คิระ เซย์จิโร่กระชากภรรยา และลูกชายของเขายัดใส่กรงแบบไร้ความเยื้อใย เขาสั่งให้คนโยนกรงเหล็กลงในหลุมแพนโดร่า โดยมีเสียงกรีดร้องของภรรยา และลูกชายสุดที่รัก
ชายผมแดงหันไปมองหัวหน้าแล็ป ชายคนนั้นถามว่าคิดดีแล้วหรอ แต่สิ่งที่ตอบกลับมานั้นช่างไร้ความเห็นใจ
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หน่วยติดอาวุธลากกรงเหล็กขึ้นมา คราวนี้ผลลัพธ์ดีกว่าที่เขาคิดไว้นิดหน่อย เพราะกรงเหล็กมีรอยข่วนเล็กน้อย แต่มนุษย์ที่เป็นตัวทดลองข้างในนั้นหลับยังอยู่ดีบางส่วน
ที่บอกว่าบางส่วน นั่นก็เพราะบางมีคนตายในสภาพที่ไม่เหลืออะไรเลย นอกจากเลือด และบางส่วนที่ตายในขณะที่ยังกลายพันธุ์ไม่เสร็จ
ถึงจะไม่ได้สัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ตามที่หวังไว้ แต่อย่างน้อยก็มีบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์แบบพอนำไปวิจัยต่อได้
โดยที่เขาลืมคิดไปว่าเขาพึ่งพรากคนที่เขารักมากที่สุดทิ้งลงข้างทาง...
คิระ เซย์จิโร่ทรมานกับการที่กลับมาแล้วไม่พบลูกชาย และภรรยา พยายามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ นอกจากลูกสาวคนโต
ฮิโตมิกะ และชายผมแดงคอยห้ามเขา และยังเตือนสติว่าเป็นเขาที่ฆ่าลูกชาย และภรรยา
หัวหน้าแล็ปเอย์เซย์ร้องไห้ เขาซึมไปหลายวัน บางครั้งเขาก็เดินไปที่ห้องของลูกชาย และภรรยาแล้วก็พูดขอโทษซ้ำ ๆ
ด้วยความโศกเศร้าที่เสียคนรัก และลูกชาย คิระ เซย์จิโร่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง โดยการไปที่แพนโดร่า สถานที่ที่เขาส่งลูก และเมียตัวเองไป
ขณะที่เดินอยู่ เขาได้ยินเสียงฮัมเพลงบางอย่าง ถึงเขาจะไม่ใช่สายฟังเพลง เมื่อได้ยินครั้งแรกก็รู้ทันทีว่าเป็นจังหวะที่ไพเราะ และอ่อนโยนมากแค่ไหน
ราวกับถูกต้องมนต์สะกด คิระ เซย์จิโร่เดินไปหาเสียงเพลงนั้น สองขาก้าวอย่างรีบร้อน ไม่นานเขาก็พบแสงปรายทางที่เขาตามหา
เด็กสาวในชุดมินิเดรสสีม่วงพาสเทล ผมสีขาวของเธอถูกรวบมัดในทรงทวิลเทล ไฮไลท์สีฟ้าถูกปล่อยออกมาให้เป็นผมข้าง ดวงตาสีฟ้าอ่อนเปล่งประกายอย่างสดใส ใบหน้ามีความสุขของเธอถูกแสดงออกมาให้คิระ เซย์จิโร่ประจักษ์
แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะสังเกตเห็นจึงกวักมือเรียกให้คิระ เซย์จิโร่เดินไปหา
ชายชราหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสาวที่นั่งบนชิงช้า น้ำเสียงหวานถามเขาสารพัดอย่างว่าชื่ออะไร มาจากไหน มาที่นี่ทำไม ฯลฯ
คนฟังถึงกับยิ้ม พอได้มองใกล้ ๆ มันเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อย ๆ กำลังถามสารทุกข์ของมนุษย์เดินดินแบบเขา
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงที่คิระ เซย์จิโร่ใช้เวลาร่วมกับเด็กน้อย ทั้งวิ่งไล่จับ ก่อทราย เดินเล่น แกว่งชิงช้า มันช่างมีความสุขมาก ๆ จนเผลอคิดว่าถ้าใช้เวลานี้ร่วมกับลูกชายก็คงดี แค่คิดก็น่าเศร้า
เด็กน้อยที่เห็นว่าอีกคนทำหน้าอมทุกข์จึงปลอบเขาด้วยเสียงเพลง อย่างน้อยสิ่งนี้ก็ทำให้คิระ เซย์จิโร่ยิ้มอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่เขาเผลอเล่าเรื่องตัวเองให้เด็กสาวฟัง แต่ก็ได้คำตอบรับกลับมาดีอย่างเกินคาด
‘มนุษย์ไม่มีทางกลับมาได้หรอก เว้นว่าจะเป็นพระเจ้า หรือ นางฟ้า’
เขาเบิกตากว้าง
แต่นี่ก็ใกล้มืดแล้ว เด็กน้อยจึงต้องรีบกลับบ้าน นั่นจึงสร้างความสงสัยให้แก่คิระ เซย์จิโร่ เขาถามว่าบ้านของเด็กคนนั้น แต่เธอไม่ตอบ พร้อมกับบอกว่า
‘เดี๋ยวชูดุ’
ใครคือชู?
เด็กน้อยวิ่งจากไปโดยไม่ลืมโบกมือลา
หลังจากที่คิระ เซย์จิโร่กลับมาที่แล็ป เขาวางแผนมากมาย เพื่อที่จะสร้างสิ่งที่เรียกว่านางฟ้าขึ้น โดยจะสร้างให้เหมือนนางฟ้าจริง ๆ ในเทพนิยาย ชายผมแดงผู้เป็นมือขวาเถียงแทบขาดใจว่าการจะสร้างได้ ต่อให้ใช้เวลาอีกสิบปีก็คงไม่สำเร็จ กล่าวคือมันไม่มีทางเป็นไปได้
‘มันต้องได้สิ ฮิโรโตะ เพราะฉันคิดออกแล้วว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นนางฟ้าของโครงการนี้’
ฮิโรโตะ หรือ คิยามะ ฮิโรโตะ ชายผมแดง ผู้เป็นมือขวาของคิระ เซย์จิโร่มองหัวหน้าของเขาที่กำลังจมดิ่มสู่ความคิดที่ชั่วช้าอีกครั้ง
เหมือนกับวันนั้น
วันที่เขาใช้ลูกเมียของตัวเองเป็นหนูทดลอง..
‘แล้วคุณจะใช้ใครเป็นหนูทดล—’
ยังไม่ทันที่ฮิโรโตะจะพูดจบ ชายชราใช้กำปั้นทุบโต๊ะ สีหน้าของเขากำลังแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
‘อย่าเรียกเธอว่าหนูทดลองนะ! เด็กคนนั้นเหมาะสมที่จะเป็นนางฟ้าที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอ!’
คิระ เซย์จิโร่ลุกขึ้น เขาเดินไปที่บานหน้าต่างที่อยู่ด้านหลัง เจ้าของดวงตาสีมรกตใต้กรอบแว่นทำหน้าไม่เข้าใจ เขากำลังหมายถึงใคร?
‘เพื่อที่มนุษย์จะทัดเทียมกับพระเจ้า..’
‘ฉันจะให้เด็กคนนั้นเป็นนางฟ้าที่สวยงามที่สุด เพื่อส่งสารมาปกป้องมวลมนุษยชาติ’
ชายคนนี้บ้าไปแล้ว
ฮิโรโตะทำหน้าผิดหวัง หัวหน้าของเขาเริ่มกู่ไม่กลับแล้ว
วันถัดมา คิระ เซย์จิโร่ได้จัดทีมตามหาเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณ 14-15 เธอมีผมสีขาว ไฮไลท์ผมสีฟ้าที่ด้านข้าง ดวงตาสีฟ้าอ่อน และพบเจอได้ที่ประเทศอาร์เทมิส
นักวิจัยบางส่วนในแล็ปเอย์เซย์ และโอลิมปัสช่วยกันตามหาเด็กสาวในข้อมูลที่ลงรายละเอียดที่คิระ เซย์จิโร่ระบุไว้
หน่วยงานดังกล่าวได้ไปเยือนพื้นที่ประเทศอาร์เทมิส ยอมรับเลยว่าทุกครั้งที่ไปที่ประเทศนี้ก็มักจะต้องพบเจอกับอะไรที่น่ากลัว และน่าสยดสยอง
การมีอยู่ของอุกกาบาตที่มีชื่อว่าแพนโดร่าได้สร้างความน่าเกรงกลัวให้แก่มวลมนุษยชาติ มนุษย์ที่โหยหาความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจมดิ่งสู่ความสิ้นหวัง
การมีตัวตนของสัตว์ประหลาด หรือที่รู้จักกันดี คือ อาบีสไร้สติปัญญา พวกมันคอยกัดกิน สูบเลือดสูบเนื้อ และสร้างโรคภัยให้แก่มนุษย์จนเป็นที่หวาดหวั่น
ราวกับว่าพวกมันคือสัตว์เลี้ยงของพระเจ้า ใครที่คิดจะต่อกรกับพระเจ้าจะมีชีวิตอันเป็นไป
ผู้คนเหล่านั้นต้องฝ่าฟันพวกอาบีสไร้สติปัญญาอย่างไม่จบสิ้น และเป้าหมายที่เป็นเพียงแค่สาวน้อยคนหนึ่งก็ยังไม่มีใครพบ
‘พวกเราไม่เจอเธอครับ หัวหน้าคิระ’
‘ไม่ใช่ว่าเด็กคนนั้นตายไปแล้วหรอ? ขนาดพวกเราเองก็เกือบไม่รอ—’
คราวนี้ชายชราใช้กำปั้นทุบโต๊ะ
‘ถ้าหาไม่เจอก็ไม่ต้องกลับมา!!’
หลังจากที่นักวิจัยเหล่านั้นออกไป คิระ เซย์จิโร่ก็หันไปมองผนังห้อง เขามองรูปวาดในกรอบหรูหรา รูปนั้นประกอบไปด้วยชายคนหนึ่งในชุดฮากามะ พื้นหญ้าสีเขียว และก้อนเมฆ ในกระดาษแผ่นนั้นมีชื่อที่ถูกเขียนว่า คิระ ฮิโรโตะ อยู่ที่มุมล่างซ้ายของรูป
‘ถ้าเป็นเด็กคนนั้น..’
‘จะต้องช่วยพวกเราได้แน่ ๆ’
หนุ่มผมแดงในเสื้อสูทสีขาวมองหัวหน้าแล็ปเอย์เซย์ด้วยความคิดมากมาย
เจ้าของดวงตาสีมรกตกล่าวลากับหัวหน้าคิระ แม้อีกฝ่ายจะไม่ตอบสนอง แต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจมากนัก
หลังจากที่เดินออกมาจากห้องทำงานของหัวหน้าแล็ปเอย์เซย์ ชายในเสื้อสูทสีขาวจึงถอดแว่นกรอบดำออก ขายาวก้าวไปตามทางเดินโยมีเป้าหมายเพียงที่เดียวภายในแล็ปเอย์เซย์
ห้องของคิยามะ ฮิโรโตะ
เมื่อเขามาในห้องของตัวเอง ดวงตาสีมรกตจับจ้องไปที่เด็กชายที่นั่งจิบชาอยู่ที่โซยรับแขก ชายคนนั้นมีทุกอย่างที่เหมือนกับฮิโรโตะ ยกเว้นทรงผม ชุดแต่งกาย และชื่อเท่านั้นที่ต่างกัน
‘หน้าที่ของผมมันจบลงแล้วล่ะครับ’ ฮิโรโตะพูด
‘หรอ? ทนไม่ได้แล้วสินะครับ’ ชายที่มีความคล้ายคลึงกับเขาทุกประการตอบ
‘ผมจะออกจากที่นี่ นายล่ะ จะเอายังไง?’ ฮิโรโตะถาม
ชายคนนั้นวางแก้วชาลง เขาลุกขึ้นแล้วเดินมาทางฮิโรโตะ
ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีส่วนสูงที่ต่างกับฮิโรโตะหลายเซน แต่ทุกสัดส่วนก็เหมือนกับฮิโรโตะทุกอย่าง
‘ผมจะอยู่ดูเขาจนกว่าวาระสุดท้ายของคิระ เซย์จิโร่จะจบลง’
‘และจนถึงตอนนั้น—’
‘ช่วยมาเป็นพยานในการตายของเขาด้วยนะครับ ฮิโรโตะคุง—☆’
ฮิโรโตะมองใบหน้าของชายผมแดงอีกคนด้วยสีหน้าที่อ่านความคิดไม่ออก ก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าอีกฝ่ายเป็นร่างแยกของเขา แต่ก็ไม่คิดว่าจะหัวรุนแรงขนาดนั้น
‘ก็ได้ จนกว่าจะถึงตอนนั้น’
‘ผมจะเป็นสักขีพยานในวันที่นายจัดการผู้ชายคนนั้น แกรนด์’
Talk with Roselle
ตอนย้อนอดีตค่ะ ถามว่าใครย้อน? เอ่อ.. ตอบยากอยู่น้า เพราะว่า—
จริง ๆ แล้วมัน คือ พาร์ทที่เล่าเรื่องวิธีการที่มนุษย์ได้รับพลังจากอุกกาบาตกับวิธีการสร้างนางฟ้าประดิษฐ์รวมอยู่ในนี้ และมีเฉลยเรื่องของทัตสึยะ , ทำไมในแล็ปถึงมีแต่หนูทดลองที่เป็นมนุษย์กับนางฟ้า simp ของคิระ เซย์จิโร่ (พ่อของคิระ ฮิโรโตะ) ไปด้วย (แต่มีต่ออีกตอนหน้า)
ปะ เข้าสู่เกร็ดสาระของตอนที่ 17 ที่ใช้ชื่อตอนว่า Cage (กรง) | 10:1-18 เริ่มกันเลย!
YHWH aka พระยาห์เวห์ (อังกฤษ : Yahweh) เป็นชื่อของพระเป็นเจ้าที่ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม (ทานัค) ในคัมภีร์ดั้งเดิมเขียนด้วยอักษร 4 ตัว แต่เนื่องจากอักษร 4 ตัว (ยฮวฮ | YHWH) นั้นผู้เขียนไม่ได้ใส่สระไว้ ทำให้การออกเสียงที่ถูกต้องถูกถ่ายทอดต่อกันมาโดยการพูด
พระเป็นเจ้า สามารถเรียกอีกชื่อ คือ พระเจ้า ได้ พระเป็นเจ้าถือว่าเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติ พระผู้สร้าง และปกครองเอกภพ
พระผู้สร้าง (Creator) หมายถึง พระเป็นเจ้า (ตามความเชื่อแบบเอกเทวนิยม) หรือ เทวดาผู้เป็นใหญ่ (ตามความเชื่อแบบพหุเทวนิยม) ที่มีอำนาจบันดาลให้โลก (ทั้งเอกภพ และจักรวาล) เกิดขึ้น
เอวนิยมจะเป็น YHWH ของศาสนายูดาห์กับศาสนาคริสต์ พวกความเชื่อตำนานการสร้างโลก
พหุเทวนิยมจะเป็นพวกความเชื่อเทพเจ้าหลายองค์ เช่น ลัทธิเต๋า ศาสนาชินโต เทพอียิปต์ ฯลฯ
นางฟ้า aka ทูตสวรรค์ หรือ เทวทูต (Angel) เป็นชาวสวรรค์ตามความเชื่อทางศาสนา และเทพปกรณัมต่าง ๆ มีหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร (ฟิลเต้อประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน หรือ ตามห้าง) คอยส่งสารจากสวรรค์มาให้โลกทราบ ซึ่งในภาษากรีกแปลว่าผู้แจ้งข่าว อาจเป็นได้ทั้งมนุษย์ และอมนุษย์ แล้วแต่บริบทในคัมภีร์ และนางฟ้ายังถูกมองว่าเป็นตัวตนที่อยู่เหนือเพศ
การที่พ่อฮิโรโตะบอกว่าเทเรเซียสามารถช่วยมนุษยชาติได้ เพราะคำว่า ทูตสวรรค์ ยังถูกใช้หมายถึงวิญญาณในศาสนาอื่น ๆ นอกจากการแจ้งข่าวแล้ว ทูตสวรรค์ยังมีหน้าที่ปกป้อง และนำทางมนุษย์ รวมถึงปฏิบัติหน้าที่ตามที่พระเจ้ามอบหมายให้สำเร็จลุล่วงอีกด้วย
10:1-18 คือ เนื้อหาในคัมภีร์ไบเบิ้ล เกี่ยวกับสดุดี (Psalms) เป็นส่วนของบทสดุดีที่ 10 ข้อ 1 ถึง 18 เป็นบทที่เกี่ยวกับคำอธิฐานขอให้พ้นจากศัตรู คนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานี้ คือ คนที่คิดจะเป็นศัตรูกับพระเจ้า หรือ คิระ เซย์จิโร่ที่ไม่ได้นับถือพระเจ้า (และไม่มีพระเจ้าอยู่ในหัว) แต่เขากลับอยากสร้างสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าขึ้นมาเอง ถึงพ่อฮิโรโตะจะไม่ได้สาปแช่งพระเจ้า แต่เขาก็เป็นคนที่เลวพอที่จะเอาคนบริสุทธิ์มาฆ่าเล่นในงานวิจัย และยังนำคนที่ยากลำบากจากประเทศอาร์เทมิสที่ได้รับผลกระทบจากอุกกาบาตเข้าแล็ป (ซึ่งตรงกับข้อที่ 8 “เขานั่งซุ่มคอยดักทำร้ายอยู่ตามชนบท และฆ่าคนบริสุทธิ์เสียในที่เร้นลับ ดวงตาเขาสอดส่ายหาคนอนาถา” กับข้อ 9 “เขาซุ่มอยู่ในที่ลับเหมือนสิงห์อยู่ในพงทึบ เขาซุ่มอยู่เพื่อจับคนยากจนแล้วฉุดลากมาเข้าตาข่าย” ของบทสดุดี)
คิยามะ ฮิโรโตะ , คิยามะ ทัตสึยะ , แกรนด์ ถ้าเรียกให้ถูก สามคนนี้คือคนเดียวกัน แต่ถูกแยกออกมาจากพลังของพรแห่งแพนโดร่า เหมือนกันก็จริง แต่ต่างนิสัย โดยร่างหลัก คือ คิยามะ ฮิโรโตะ (not คิระ ฮิโรโตะ) หัวหน้าบริษัทคิระ—แค่ก ไม่ใช่ ๆ มือขวาของหัวหน้าแล็ปเอย์เซย์ (ถ้าอิงจากจักรวาล IE ก็เป็นพี่แว่นผมแดงสุดหล่อเท่ภาค GO ดีกรีผัวที่ดี และแฟนทิพย์ของพวกขี้มโนหลาย ๆ คน) ถึงฮิโรโตะจะเรยช่วยงานของคิระ เซย์จิโร่ แต่ทำเพื่อทดแทนบุญคุณเท่านั้น พอนานวันเข้าก็เริ่มรับไม่ได้กับการกระทำแบบนี้ ถึงจะห้ามก็ห้ามไม่อยู่แล้วอ่ะ เลยพอ ยอมละ เบื่อ แต่การที่ฮิโรโตะยอมออกมา ก็เพราะว่าจะไปเป็นกองหนุนช่วยพวกเอนโด (สปอยนี่!) และฮิโรโตะยังตรงบทสดุดีข้อ 18 “เพื่อประทานความยุติธรรมแก่ลูกกำพร้า และคนที่ถูกบีบบังคับ เพื่อมนุษย์บนแผ่นดินโลกจะไม่ทำให้เขาหวาดกลัวอีกต่อไป”
ร่างแยกถัดไปเป็น แกรนด์ (อิงจาก IE:2 ภาค Alien) ตัวตนที่โคตรต่อต้านคิระ เซย์จิโร่ (ย้อนแย้งกับภาคเอเลี่ยนที่ทำเพื่อพ่อ) แกรนด์จะเป็นพวกที่แบบว่า เออ ฉันเป็นอมนุษย์นะเว้ย ไม่ใช่คน ฉันเป็นเอเลี่ยน (ฟิลเต้อเด็กเบียว) และแกรนด์ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง (ก็มันเบียวเอเลี่ยน) รอพ่อฮิโรโตะตายมาสักพักละ แต่มันหนังเหนียว ตายยากจัด แต่ไม่เป็นไร ฉันรอได้ แต่ถ้าหมดความอดทนเมื่อไหร่ เค้าจะลงมือทำมันเองนะ ♡ (ซึ่งตรงกับข้อ 15 ในบทสดุดี “ขอพระองค์ทรงหักแขนคนอธรรมและคนชั่ว ขอทรงจัดการกับความอธรรมของเขาจนหมดสิ้น”) และแกรนด์ยังเป็นคนที่ถือครองพลังจากแพนโดร่าคนเดียวในบรรดาตัวตนของฮิโรโตะทั้งหมด (สปอย : มองท่า Ryusei Blade กับกล้องดูดาวไว้เยอะ ๆ) แอบกาซิบนิสนึง พรี่แกรนด์เป็นยันเดเระ ♡ แต่ยันแบบไหนไม่บอกนะจ๊ะ เดะไม่ลุ้นระทึก
คนสุดท้ายเป็น คิยามะ ทัตสึยะ (อิงจาก IE ภาค Ares/Orion) เป็น Bisexual แอบป่วยทางจิตหน่อย เพราะถูกคิระ เซย์จิโร่ปลูกฝังเรื่องนางฟ้ามามากพอสมควรเลยมีอาการทางจิตที่แบบว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องของนางฟ้า ตรูไม่ทำ และก็เป็นพวกหลงใหลคลั่งไคล้ (Limerence) นางฟ้าขนาดที่ว่ายอมถวายตัวเองให้นางฟ้า (นางฟ้าเป็นตัวตนไร้เพศ ทัตสึยะเลยเป็น bi) คนนี้พิเศษใส่ไข่ ไม่ตรงกับบทสดุดีไล่คนชั่วสักข้อ เพราะทั้งกาย และใจมันอยู่กับนางฟ้า (ใครจำตอนที่ทัตสึยะดมกลิ่นกระดาษได้ก็จะรู้ เอาไปเลย โล่คนเดาเก่ง เดาจนถูก)
และต้องบอกก่อนว่าทั้งสามตัวตนนี้ ไม่ใช่ร่างก็อปคิระ ฮิโรโตะใด ๆ ทั้งสิ้น แค่ชื่อจริงดันบังเอิญเหมือนกันเฉย ๆ (หมายถึงชื่อฮิโรโตะ) และสามคนนี้ คนที่มีความเป็นผู้เป็นคนมากที่สุด คือ ฮิโรโตะ ส่วนสองคนที่เหลือ ปล่อยมันไว้ที่โซนเด็กมีปัญหามุมนั้นเลย
ใครที่สงสัยว่าคิระ เซย์จิโร่เข้าข่ายเป็นพวก Pedophilia (โรคใครเด็ก) มั้ย? เพราะดูเหมือนจะคลั่งเทเรเซียพอสมควร ต้องบอกก่อนว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้นค่ะ อันนี้ไปศึกษามาแล้ว เหมือนว่าโรคนี้จะเป็นโรคทางกามวิปริต ซึ่งตัวของคิระ เซย์จิโร่เองก็ไม่ได้ทำตัวอยากมีเพศสัมพันธ์กับเทเรเซีย หรือ จินตนาการว่ากำลังเอากับเด็ก ให้อารมณ์ประมาณว่าเจาเทอดทูนเทเรเซียเปรียบดั่งนางฟ้าที่บินลงมาช่วยชีวิตมนุษย์
ขอเรียนเชิญนักอ่านทุกท่านมายืน RIP ให้ คิระ ฮิโรโตะ พ่อนักเลงที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก (อิงจากภาค IE) แล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง (อิงโลกคู่ขนานของ IE:Ares/Orion) อย่างปริศนา! ไว้มาบอกในเนื้อเรื่องตอนหน้า
สำหรับใครที่สงสัย ทำไมตี้ Inazuma Legend + อาฟุโระ เทรุมิ (กลุ่มเอนโดที่โตแล้วจากภาค GO) ถึงโตกันทุกคน (ยกเว้นคนตัวแตกอย่างทาจิมุไคที่เดี้ยงไปแล้ว) แต่อาฟุโระ เทรุมิกับฟุบุกิ ชิโร่ แฟนทิพย์ของใครหลายคน เอ่อ อยากจะบอกว่า ใครที่อ่านตอนที่ 16 แล้วอ่านช่วงกลุ่มของซารุ มันมีใบ้บอกนิด ๆ หน่อย ๆ ง่ะ อย่าทำเค้าเลยนะ อุตส่าห์เน้นชื่อสองคนนั้นให้แล้วด้วย มุแง ส่วนตัวละครภาค Ares/Orion น่ะ ปล่อยเด็กไว้เถอะ ได้ใช้อีกเยอะ (ตายก็เยอะด้วย—)
• บรรยายฉากการใช้มนุษย์ในการทดลอง
• ตัวละครเสียชีวิต
• การใช้มนุษย์เป็นหนูทดลอง
• การใช้สัตว์ในการทดลอง
• อ่านตอนนี้จบ กรุณาอ่านตรง ท้อค ๆ กับเราด้วยนะคะ ไม่งั้นงง
มนุษย์ ชื่อในทางวิทยาศาสตร์ คือ Homo Sapiens มีความหมายในภาษาละตินว่า คนฉลาด หรือ ผู้มีปัญญา
มนุษย์มีลักษณะพิเศษ คือ มีสมองใหญ่ เมื่อเทียบกับขนาดตัว โดยเฉพาะสมองชั้นนอก สมองส่วนหน้า และสมองกลีบขมับที่พัฒนาเป็นอย่างดี ทำให้มนุษย์สามารถให้เหตุผลเชิงนามธรรม ใช้ภาษา แก้ปัญหา และสร้างสรรค์วัฒนธรรมผ่านการเรียนรู้ทางสังคม ความสามารถทางจิตใจของมนุษย์ ประกอบกับการปรับตัวมาเคลื่อนไหวสองเท้าซึ่งทำให้มือว่างจัดการจับวัตถุได้ ทำให้มนุษย์สามารถใช้อุปกรณ์เครื่องมือได้ดีกว่าสปีชีส์อื่นใดบนโลกมาก มนุษย์ยังเป็นสปีชีส์เดียวเท่าที่ทราบที่ก่อไฟ และทำอาหารเป็น สวมใส่เสื้อผ้า และสร้างสรรค์ รวมถึงมีความสามารถที่จะใช้เทคโนโลยี และศิลปะอื่น ๆ
เอกลักษณ์ที่สำคัญของมนุษย์ ได้แก่ ความถนัดในการใช้ระบบการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ เช่น ภาษา เพื่อการแสดงออก แลกเปลี่ยนความคิด และการจัดระเบียบ มนุษย์สร้างโครงสร้างทางสังคมอันซับซ้อน ซึ่งประกอบด้วยการรวมกลุ่มจำนวนมากที่มีทั้งร่วมมือ และแข่งขันกัน จากครอบครัว และวงศาคณาญาติ ไปจนถึงรัฐปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างมนุษย์ได้ก่อตั้งค่านิยม บรรทัดฐานทางสังคม และพิธีกรรม ซึ่งรวมกันเป็นรากฐานของสังคมมนุษย์ มนุษย์ขึ้นชื่อในความปรารถนาที่จะเข้าใจ และมีอิทธิพลเหนือสิ่งแวดล้อม แสวงหาคำอธิบาย และปรับเปลี่ยนปรากฏการณ์ต่าง ๆ ผ่านวิทยาศาสตร์ ปรัชญา เทพปกรณัม และศาสนา
เพราะแบบนั้น กลุ่มคนบางส่วนจึงอยากรู้ว่า ถ้าหากมนุษย์เราสามารถมีพลังทัดเทียม หรือ ใกล้เคียงกับสิ่งที่เรียกว่า YHWH หรือที่เรียกกันว่า พระเป็นเจ้า
กลุ่มมนุษย์ที่เรียกตนว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์นั้นจึงได้คิดค้นวิธีการดัดแปลงสิ่งมีชีวิต โดยเริ่มจากสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ และจบลงที่มนุษย์...
จากผลการวิจัยพบว่าบรรดาสัตว์เล็กที่ถูกนำไปดัดแปลงนั้นไม่สามารถดัดแปลง หรือ ต่อเติมอะไรกับมันได้ พวกมันรับได้แค่สารเคมี หรือ จำพวกยา บรรดาสัตว์ใหญ่เองก็เช่นกัน แม้ขนาดตัวจะใหญ่กว่าสัตว์เล็กมาก แต่ก็ไม่อาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี ยกเว้นสัตว์ชนิดหนึ่งที่เริ่มเห็นผล นั่นก็คือ ลิง
ลิงถูกนับว่าเป็นสัตว์ที่มีคล้ายกับมนุษย์มาก และมนุษย์ยุคแรกถูกวิวัฒนาการมาจากลิง
นักวิทยาศาสตร์จึงเริ่มคิดวิธีการใช้มนุษย์เป็นตัวทดลองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา..
คิระ เซย์จิโร่ ลูกหลานทายาทของตระกูลคิระ ตระกูลผู้เสียสละ เพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับอุกกาบาต เขามีภรรยาคนหนึ่ง และลูกอีกสองคน คนแรกเป็นลูกสาว ชื่อ คิระ ฮิโตมิกะ คนที่สองเป็นลูกชาย ชื่อ คิระ ฮิโรโตะ
ถึงคิระ เซย์จิโร่จะเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่หน้าที่การงานที่แสนสำคัญ จึงทำให้เขาไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัวมากนัก และเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น เขาสามารถใช้ทุกวิธีการ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แม้จะต้องพรากชีวิตมนุษย์ร่วมโลกกันเองก็ตาม
ภายในแล็ปเอย์เซย์มีมนุษย์ที่เป็นตัวทดลองเพียงน้อยนิด พวกเขายังไม่ได้พาตัวมนุษย์จากประเทศอาร์เทมิสที่กำลังล่มสลายจากพลังของอุกกาบาต มีมนุษย์บางส่วนที่บ้าบิ่นเดินลงไปในหลุมยักษ์จนมนุษย์เหล่านั้นได้มีบางส่วนกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดที่แสนดุร้าย พวกมันทำร้ายมนุษย์แล้วกัดกินราวกับอาหารมื้อโปรดก็ไม่ปาน
เพราะเหตุนั้นมันได้สร้างสิ่งที่คิระ เซย์จิโร่สนใจ มันคือหนทางแห่งการเป็นพระเจ้า!
คิระ เซย์จิโร่มัดมนุษย์บางส่วนที่อยู่ในห้องทดลองด้วยเชือกแล้วพาพวกเขาลงหลุมแพนโดร่าอย่างไม่ใยดี ทุกขั้นตอนมีนักวิทยาศาสตร์ และหน่วยงานติดอาวุธมากมายคอยช่วยเหลือ โดยมีชายผมแดง ดวงตาสีเขียวใต้กรอบแว่นคอยประสานงาน
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง คิระ เซย์จิโร่สั่งให้ดึงเชือกขึ้น เมื่อดึงเสร็จ ผลลัพธ์ก็ไม่เป็นไปตามที่หวังไว้
เชือกขาดแหว่ง ตามเส้นเชือกที่รอยเลือดมากมาย ชายผมแดงสรุปว่าอาจจะถูกกินไปแล้ว
วันถัดมา คิระ เซย์จิโร่จึงให้มนุษย์อยู่ในกรงเหล็ก แต่มนุษย์กลับมีจำนวนไม่พอตามมาตราฐานที่เขาคิดไว้ ความอมหิตของการวิจัยเริ่มเกิดขึ้น คิระ เซย์จิโร่กระชากภรรยา และลูกชายของเขายัดใส่กรงแบบไร้ความเยื้อใย เขาสั่งให้คนโยนกรงเหล็กลงในหลุมแพนโดร่า โดยมีเสียงกรีดร้องของภรรยา และลูกชายสุดที่รัก
ชายผมแดงหันไปมองหัวหน้าแล็ป ชายคนนั้นถามว่าคิดดีแล้วหรอ แต่สิ่งที่ตอบกลับมานั้นช่างไร้ความเห็นใจ
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หน่วยติดอาวุธลากกรงเหล็กขึ้นมา คราวนี้ผลลัพธ์ดีกว่าที่เขาคิดไว้นิดหน่อย เพราะกรงเหล็กมีรอยข่วนเล็กน้อย แต่มนุษย์ที่เป็นตัวทดลองข้างในนั้นหลับยังอยู่ดีบางส่วน
ที่บอกว่าบางส่วน นั่นก็เพราะบางมีคนตายในสภาพที่ไม่เหลืออะไรเลย นอกจากเลือด และบางส่วนที่ตายในขณะที่ยังกลายพันธุ์ไม่เสร็จ
ถึงจะไม่ได้สัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ตามที่หวังไว้ แต่อย่างน้อยก็มีบางส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์แบบพอนำไปวิจัยต่อได้
โดยที่เขาลืมคิดไปว่าเขาพึ่งพรากคนที่เขารักมากที่สุดทิ้งลงข้างทาง...
คิระ เซย์จิโร่ทรมานกับการที่กลับมาแล้วไม่พบลูกชาย และภรรยา พยายามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ นอกจากลูกสาวคนโต
ฮิโตมิกะ และชายผมแดงคอยห้ามเขา และยังเตือนสติว่าเป็นเขาที่ฆ่าลูกชาย และภรรยา
หัวหน้าแล็ปเอย์เซย์ร้องไห้ เขาซึมไปหลายวัน บางครั้งเขาก็เดินไปที่ห้องของลูกชาย และภรรยาแล้วก็พูดขอโทษซ้ำ ๆ
ด้วยความโศกเศร้าที่เสียคนรัก และลูกชาย คิระ เซย์จิโร่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง โดยการไปที่แพนโดร่า สถานที่ที่เขาส่งลูก และเมียตัวเองไป
ขณะที่เดินอยู่ เขาได้ยินเสียงฮัมเพลงบางอย่าง ถึงเขาจะไม่ใช่สายฟังเพลง เมื่อได้ยินครั้งแรกก็รู้ทันทีว่าเป็นจังหวะที่ไพเราะ และอ่อนโยนมากแค่ไหน
ราวกับถูกต้องมนต์สะกด คิระ เซย์จิโร่เดินไปหาเสียงเพลงนั้น สองขาก้าวอย่างรีบร้อน ไม่นานเขาก็พบแสงปรายทางที่เขาตามหา
เด็กสาวในชุดมินิเดรสสีม่วงพาสเทล ผมสีขาวของเธอถูกรวบมัดในทรงทวิลเทล ไฮไลท์สีฟ้าถูกปล่อยออกมาให้เป็นผมข้าง ดวงตาสีฟ้าอ่อนเปล่งประกายอย่างสดใส ใบหน้ามีความสุขของเธอถูกแสดงออกมาให้คิระ เซย์จิโร่ประจักษ์
แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะสังเกตเห็นจึงกวักมือเรียกให้คิระ เซย์จิโร่เดินไปหา
ชายชราหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กสาวที่นั่งบนชิงช้า น้ำเสียงหวานถามเขาสารพัดอย่างว่าชื่ออะไร มาจากไหน มาที่นี่ทำไม ฯลฯ
คนฟังถึงกับยิ้ม พอได้มองใกล้ ๆ มันเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อย ๆ กำลังถามสารทุกข์ของมนุษย์เดินดินแบบเขา
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงที่คิระ เซย์จิโร่ใช้เวลาร่วมกับเด็กน้อย ทั้งวิ่งไล่จับ ก่อทราย เดินเล่น แกว่งชิงช้า มันช่างมีความสุขมาก ๆ จนเผลอคิดว่าถ้าใช้เวลานี้ร่วมกับลูกชายก็คงดี แค่คิดก็น่าเศร้า
เด็กน้อยที่เห็นว่าอีกคนทำหน้าอมทุกข์จึงปลอบเขาด้วยเสียงเพลง อย่างน้อยสิ่งนี้ก็ทำให้คิระ เซย์จิโร่ยิ้มอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่เขาเผลอเล่าเรื่องตัวเองให้เด็กสาวฟัง แต่ก็ได้คำตอบรับกลับมาดีอย่างเกินคาด
‘มนุษย์ไม่มีทางกลับมาได้หรอก เว้นว่าจะเป็นพระเจ้า หรือ นางฟ้า’
เขาเบิกตากว้าง
แต่นี่ก็ใกล้มืดแล้ว เด็กน้อยจึงต้องรีบกลับบ้าน นั่นจึงสร้างความสงสัยให้แก่คิระ เซย์จิโร่ เขาถามว่าบ้านของเด็กคนนั้น แต่เธอไม่ตอบ พร้อมกับบอกว่า
‘เดี๋ยวชูดุ’
ใครคือชู?
เด็กน้อยวิ่งจากไปโดยไม่ลืมโบกมือลา
หลังจากที่คิระ เซย์จิโร่กลับมาที่แล็ป เขาวางแผนมากมาย เพื่อที่จะสร้างสิ่งที่เรียกว่านางฟ้าขึ้น โดยจะสร้างให้เหมือนนางฟ้าจริง ๆ ในเทพนิยาย ชายผมแดงผู้เป็นมือขวาเถียงแทบขาดใจว่าการจะสร้างได้ ต่อให้ใช้เวลาอีกสิบปีก็คงไม่สำเร็จ กล่าวคือมันไม่มีทางเป็นไปได้
‘มันต้องได้สิ ฮิโรโตะ เพราะฉันคิดออกแล้วว่าใครเหมาะสมที่จะเป็นนางฟ้าของโครงการนี้’
ฮิโรโตะ หรือ คิยามะ ฮิโรโตะ ชายผมแดง ผู้เป็นมือขวาของคิระ เซย์จิโร่มองหัวหน้าของเขาที่กำลังจมดิ่มสู่ความคิดที่ชั่วช้าอีกครั้ง
เหมือนกับวันนั้น
วันที่เขาใช้ลูกเมียของตัวเองเป็นหนูทดลอง..
‘แล้วคุณจะใช้ใครเป็นหนูทดล—’
ยังไม่ทันที่ฮิโรโตะจะพูดจบ ชายชราใช้กำปั้นทุบโต๊ะ สีหน้าของเขากำลังแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
‘อย่าเรียกเธอว่าหนูทดลองนะ! เด็กคนนั้นเหมาะสมที่จะเป็นนางฟ้าที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบเจอ!’
คิระ เซย์จิโร่ลุกขึ้น เขาเดินไปที่บานหน้าต่างที่อยู่ด้านหลัง เจ้าของดวงตาสีมรกตใต้กรอบแว่นทำหน้าไม่เข้าใจ เขากำลังหมายถึงใคร?
‘เพื่อที่มนุษย์จะทัดเทียมกับพระเจ้า..’
‘ฉันจะให้เด็กคนนั้นเป็นนางฟ้าที่สวยงามที่สุด เพื่อส่งสารมาปกป้องมวลมนุษยชาติ’
ชายคนนี้บ้าไปแล้ว
ฮิโรโตะทำหน้าผิดหวัง หัวหน้าของเขาเริ่มกู่ไม่กลับแล้ว
วันถัดมา คิระ เซย์จิโร่ได้จัดทีมตามหาเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง อายุน่าจะประมาณ 14-15 เธอมีผมสีขาว ไฮไลท์ผมสีฟ้าที่ด้านข้าง ดวงตาสีฟ้าอ่อน และพบเจอได้ที่ประเทศอาร์เทมิส
นักวิจัยบางส่วนในแล็ปเอย์เซย์ และโอลิมปัสช่วยกันตามหาเด็กสาวในข้อมูลที่ลงรายละเอียดที่คิระ เซย์จิโร่ระบุไว้
หน่วยงานดังกล่าวได้ไปเยือนพื้นที่ประเทศอาร์เทมิส ยอมรับเลยว่าทุกครั้งที่ไปที่ประเทศนี้ก็มักจะต้องพบเจอกับอะไรที่น่ากลัว และน่าสยดสยอง
การมีอยู่ของอุกกาบาตที่มีชื่อว่าแพนโดร่าได้สร้างความน่าเกรงกลัวให้แก่มวลมนุษยชาติ มนุษย์ที่โหยหาความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจมดิ่งสู่ความสิ้นหวัง
การมีตัวตนของสัตว์ประหลาด หรือที่รู้จักกันดี คือ อาบีสไร้สติปัญญา พวกมันคอยกัดกิน สูบเลือดสูบเนื้อ และสร้างโรคภัยให้แก่มนุษย์จนเป็นที่หวาดหวั่น
ราวกับว่าพวกมันคือสัตว์เลี้ยงของพระเจ้า ใครที่คิดจะต่อกรกับพระเจ้าจะมีชีวิตอันเป็นไป
ผู้คนเหล่านั้นต้องฝ่าฟันพวกอาบีสไร้สติปัญญาอย่างไม่จบสิ้น และเป้าหมายที่เป็นเพียงแค่สาวน้อยคนหนึ่งก็ยังไม่มีใครพบ
‘พวกเราไม่เจอเธอครับ หัวหน้าคิระ’
‘ไม่ใช่ว่าเด็กคนนั้นตายไปแล้วหรอ? ขนาดพวกเราเองก็เกือบไม่รอ—’
คราวนี้ชายชราใช้กำปั้นทุบโต๊ะ
‘ถ้าหาไม่เจอก็ไม่ต้องกลับมา!!’
หลังจากที่นักวิจัยเหล่านั้นออกไป คิระ เซย์จิโร่ก็หันไปมองผนังห้อง เขามองรูปวาดในกรอบหรูหรา รูปนั้นประกอบไปด้วยชายคนหนึ่งในชุดฮากามะ พื้นหญ้าสีเขียว และก้อนเมฆ ในกระดาษแผ่นนั้นมีชื่อที่ถูกเขียนว่า คิระ ฮิโรโตะ อยู่ที่มุมล่างซ้ายของรูป
‘ถ้าเป็นเด็กคนนั้น..’
‘จะต้องช่วยพวกเราได้แน่ ๆ’
หนุ่มผมแดงในเสื้อสูทสีขาวมองหัวหน้าแล็ปเอย์เซย์ด้วยความคิดมากมาย
เจ้าของดวงตาสีมรกตกล่าวลากับหัวหน้าคิระ แม้อีกฝ่ายจะไม่ตอบสนอง แต่เขาเองก็ไม่ได้สนใจมากนัก
หลังจากที่เดินออกมาจากห้องทำงานของหัวหน้าแล็ปเอย์เซย์ ชายในเสื้อสูทสีขาวจึงถอดแว่นกรอบดำออก ขายาวก้าวไปตามทางเดินโยมีเป้าหมายเพียงที่เดียวภายในแล็ปเอย์เซย์
ห้องของคิยามะ ฮิโรโตะ
เมื่อเขามาในห้องของตัวเอง ดวงตาสีมรกตจับจ้องไปที่เด็กชายที่นั่งจิบชาอยู่ที่โซยรับแขก ชายคนนั้นมีทุกอย่างที่เหมือนกับฮิโรโตะ ยกเว้นทรงผม ชุดแต่งกาย และชื่อเท่านั้นที่ต่างกัน
‘หน้าที่ของผมมันจบลงแล้วล่ะครับ’ ฮิโรโตะพูด
‘หรอ? ทนไม่ได้แล้วสินะครับ’ ชายที่มีความคล้ายคลึงกับเขาทุกประการตอบ
‘ผมจะออกจากที่นี่ นายล่ะ จะเอายังไง?’ ฮิโรโตะถาม
ชายคนนั้นวางแก้วชาลง เขาลุกขึ้นแล้วเดินมาทางฮิโรโตะ
ถึงแม้อีกฝ่ายจะมีส่วนสูงที่ต่างกับฮิโรโตะหลายเซน แต่ทุกสัดส่วนก็เหมือนกับฮิโรโตะทุกอย่าง
‘ผมจะอยู่ดูเขาจนกว่าวาระสุดท้ายของคิระ เซย์จิโร่จะจบลง’
‘และจนถึงตอนนั้น—’
‘ช่วยมาเป็นพยานในการตายของเขาด้วยนะครับ ฮิโรโตะคุง—☆’
ฮิโรโตะมองใบหน้าของชายผมแดงอีกคนด้วยสีหน้าที่อ่านความคิดไม่ออก ก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าอีกฝ่ายเป็นร่างแยกของเขา แต่ก็ไม่คิดว่าจะหัวรุนแรงขนาดนั้น
‘ก็ได้ จนกว่าจะถึงตอนนั้น’
‘ผมจะเป็นสักขีพยานในวันที่นายจัดการผู้ชายคนนั้น แกรนด์’
Talk with Roselle
ตอนย้อนอดีตค่ะ ถามว่าใครย้อน? เอ่อ.. ตอบยากอยู่น้า เพราะว่า—
จริง ๆ แล้วมัน คือ พาร์ทที่เล่าเรื่องวิธีการที่มนุษย์ได้รับพลังจากอุกกาบาตกับวิธีการสร้างนางฟ้าประดิษฐ์รวมอยู่ในนี้ และมีเฉลยเรื่องของทัตสึยะ , ทำไมในแล็ปถึงมีแต่หนูทดลองที่เป็นมนุษย์กับนางฟ้า simp ของคิระ เซย์จิโร่ (พ่อของคิระ ฮิโรโตะ) ไปด้วย (แต่มีต่ออีกตอนหน้า)
ปะ เข้าสู่เกร็ดสาระของตอนที่ 17 ที่ใช้ชื่อตอนว่า Cage (กรง) | 10:1-18 เริ่มกันเลย!
YHWH aka พระยาห์เวห์ (อังกฤษ : Yahweh) เป็นชื่อของพระเป็นเจ้าที่ปรากฏในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม (ทานัค) ในคัมภีร์ดั้งเดิมเขียนด้วยอักษร 4 ตัว แต่เนื่องจากอักษร 4 ตัว (ยฮวฮ | YHWH) นั้นผู้เขียนไม่ได้ใส่สระไว้ ทำให้การออกเสียงที่ถูกต้องถูกถ่ายทอดต่อกันมาโดยการพูด
พระเป็นเจ้า สามารถเรียกอีกชื่อ คือ พระเจ้า ได้ พระเป็นเจ้าถือว่าเป็นผู้อยู่เหนือธรรมชาติ พระผู้สร้าง และปกครองเอกภพ
พระผู้สร้าง (Creator) หมายถึง พระเป็นเจ้า (ตามความเชื่อแบบเอกเทวนิยม) หรือ เทวดาผู้เป็นใหญ่ (ตามความเชื่อแบบพหุเทวนิยม) ที่มีอำนาจบันดาลให้โลก (ทั้งเอกภพ และจักรวาล) เกิดขึ้น
เอวนิยมจะเป็น YHWH ของศาสนายูดาห์กับศาสนาคริสต์ พวกความเชื่อตำนานการสร้างโลก
พหุเทวนิยมจะเป็นพวกความเชื่อเทพเจ้าหลายองค์ เช่น ลัทธิเต๋า ศาสนาชินโต เทพอียิปต์ ฯลฯ
นางฟ้า aka ทูตสวรรค์ หรือ เทวทูต (Angel) เป็นชาวสวรรค์ตามความเชื่อทางศาสนา และเทพปกรณัมต่าง ๆ มีหน้าที่เป็นผู้ส่งสาร (ฟิลเต้อประชาสัมพันธ์ของโรงเรียน หรือ ตามห้าง) คอยส่งสารจากสวรรค์มาให้โลกทราบ ซึ่งในภาษากรีกแปลว่าผู้แจ้งข่าว อาจเป็นได้ทั้งมนุษย์ และอมนุษย์ แล้วแต่บริบทในคัมภีร์ และนางฟ้ายังถูกมองว่าเป็นตัวตนที่อยู่เหนือเพศ
การที่พ่อฮิโรโตะบอกว่าเทเรเซียสามารถช่วยมนุษยชาติได้ เพราะคำว่า ทูตสวรรค์ ยังถูกใช้หมายถึงวิญญาณในศาสนาอื่น ๆ นอกจากการแจ้งข่าวแล้ว ทูตสวรรค์ยังมีหน้าที่ปกป้อง และนำทางมนุษย์ รวมถึงปฏิบัติหน้าที่ตามที่พระเจ้ามอบหมายให้สำเร็จลุล่วงอีกด้วย
10:1-18 คือ เนื้อหาในคัมภีร์ไบเบิ้ล เกี่ยวกับสดุดี (Psalms) เป็นส่วนของบทสดุดีที่ 10 ข้อ 1 ถึง 18 เป็นบทที่เกี่ยวกับคำอธิฐานขอให้พ้นจากศัตรู คนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหานี้ คือ คนที่คิดจะเป็นศัตรูกับพระเจ้า หรือ คิระ เซย์จิโร่ที่ไม่ได้นับถือพระเจ้า (และไม่มีพระเจ้าอยู่ในหัว) แต่เขากลับอยากสร้างสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าขึ้นมาเอง ถึงพ่อฮิโรโตะจะไม่ได้สาปแช่งพระเจ้า แต่เขาก็เป็นคนที่เลวพอที่จะเอาคนบริสุทธิ์มาฆ่าเล่นในงานวิจัย และยังนำคนที่ยากลำบากจากประเทศอาร์เทมิสที่ได้รับผลกระทบจากอุกกาบาตเข้าแล็ป (ซึ่งตรงกับข้อที่ 8 “เขานั่งซุ่มคอยดักทำร้ายอยู่ตามชนบท และฆ่าคนบริสุทธิ์เสียในที่เร้นลับ ดวงตาเขาสอดส่ายหาคนอนาถา” กับข้อ 9 “เขาซุ่มอยู่ในที่ลับเหมือนสิงห์อยู่ในพงทึบ เขาซุ่มอยู่เพื่อจับคนยากจนแล้วฉุดลากมาเข้าตาข่าย” ของบทสดุดี)
คิยามะ ฮิโรโตะ , คิยามะ ทัตสึยะ , แกรนด์ ถ้าเรียกให้ถูก สามคนนี้คือคนเดียวกัน แต่ถูกแยกออกมาจากพลังของพรแห่งแพนโดร่า เหมือนกันก็จริง แต่ต่างนิสัย โดยร่างหลัก คือ คิยามะ ฮิโรโตะ (not คิระ ฮิโรโตะ) หัวหน้าบริษัทคิระ—แค่ก ไม่ใช่ ๆ มือขวาของหัวหน้าแล็ปเอย์เซย์ (ถ้าอิงจากจักรวาล IE ก็เป็นพี่แว่นผมแดงสุดหล่อเท่ภาค GO ดีกรีผัวที่ดี และแฟนทิพย์ของพวกขี้มโนหลาย ๆ คน) ถึงฮิโรโตะจะเรยช่วยงานของคิระ เซย์จิโร่ แต่ทำเพื่อทดแทนบุญคุณเท่านั้น พอนานวันเข้าก็เริ่มรับไม่ได้กับการกระทำแบบนี้ ถึงจะห้ามก็ห้ามไม่อยู่แล้วอ่ะ เลยพอ ยอมละ เบื่อ แต่การที่ฮิโรโตะยอมออกมา ก็เพราะว่าจะไปเป็นกองหนุนช่วยพวกเอนโด (สปอยนี่!) และฮิโรโตะยังตรงบทสดุดีข้อ 18 “เพื่อประทานความยุติธรรมแก่ลูกกำพร้า และคนที่ถูกบีบบังคับ เพื่อมนุษย์บนแผ่นดินโลกจะไม่ทำให้เขาหวาดกลัวอีกต่อไป”
ร่างแยกถัดไปเป็น แกรนด์ (อิงจาก IE:2 ภาค Alien) ตัวตนที่โคตรต่อต้านคิระ เซย์จิโร่ (ย้อนแย้งกับภาคเอเลี่ยนที่ทำเพื่อพ่อ) แกรนด์จะเป็นพวกที่แบบว่า เออ ฉันเป็นอมนุษย์นะเว้ย ไม่ใช่คน ฉันเป็นเอเลี่ยน (ฟิลเต้อเด็กเบียว) และแกรนด์ไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง (ก็มันเบียวเอเลี่ยน) รอพ่อฮิโรโตะตายมาสักพักละ แต่มันหนังเหนียว ตายยากจัด แต่ไม่เป็นไร ฉันรอได้ แต่ถ้าหมดความอดทนเมื่อไหร่ เค้าจะลงมือทำมันเองนะ ♡ (ซึ่งตรงกับข้อ 15 ในบทสดุดี “ขอพระองค์ทรงหักแขนคนอธรรมและคนชั่ว ขอทรงจัดการกับความอธรรมของเขาจนหมดสิ้น”) และแกรนด์ยังเป็นคนที่ถือครองพลังจากแพนโดร่าคนเดียวในบรรดาตัวตนของฮิโรโตะทั้งหมด (สปอย : มองท่า Ryusei Blade กับกล้องดูดาวไว้เยอะ ๆ) แอบกาซิบนิสนึง พรี่แกรนด์เป็นยันเดเระ ♡ แต่ยันแบบไหนไม่บอกนะจ๊ะ เดะไม่ลุ้นระทึก
คนสุดท้ายเป็น คิยามะ ทัตสึยะ (อิงจาก IE ภาค Ares/Orion) เป็น Bisexual แอบป่วยทางจิตหน่อย เพราะถูกคิระ เซย์จิโร่ปลูกฝังเรื่องนางฟ้ามามากพอสมควรเลยมีอาการทางจิตที่แบบว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องของนางฟ้า ตรูไม่ทำ และก็เป็นพวกหลงใหลคลั่งไคล้ (Limerence) นางฟ้าขนาดที่ว่ายอมถวายตัวเองให้นางฟ้า (นางฟ้าเป็นตัวตนไร้เพศ ทัตสึยะเลยเป็น bi) คนนี้พิเศษใส่ไข่ ไม่ตรงกับบทสดุดีไล่คนชั่วสักข้อ เพราะทั้งกาย และใจมันอยู่กับนางฟ้า (ใครจำตอนที่ทัตสึยะดมกลิ่นกระดาษได้ก็จะรู้ เอาไปเลย โล่คนเดาเก่ง เดาจนถูก)
และต้องบอกก่อนว่าทั้งสามตัวตนนี้ ไม่ใช่ร่างก็อปคิระ ฮิโรโตะใด ๆ ทั้งสิ้น แค่ชื่อจริงดันบังเอิญเหมือนกันเฉย ๆ (หมายถึงชื่อฮิโรโตะ) และสามคนนี้ คนที่มีความเป็นผู้เป็นคนมากที่สุด คือ ฮิโรโตะ ส่วนสองคนที่เหลือ ปล่อยมันไว้ที่โซนเด็กมีปัญหามุมนั้นเลย
ใครที่สงสัยว่าคิระ เซย์จิโร่เข้าข่ายเป็นพวก Pedophilia (โรคใครเด็ก) มั้ย? เพราะดูเหมือนจะคลั่งเทเรเซียพอสมควร ต้องบอกก่อนว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้นค่ะ อันนี้ไปศึกษามาแล้ว เหมือนว่าโรคนี้จะเป็นโรคทางกามวิปริต ซึ่งตัวของคิระ เซย์จิโร่เองก็ไม่ได้ทำตัวอยากมีเพศสัมพันธ์กับเทเรเซีย หรือ จินตนาการว่ากำลังเอากับเด็ก ให้อารมณ์ประมาณว่าเจาเทอดทูนเทเรเซียเปรียบดั่งนางฟ้าที่บินลงมาช่วยชีวิตมนุษย์
ขอเรียนเชิญนักอ่านทุกท่านมายืน RIP ให้ คิระ ฮิโรโตะ พ่อนักเลงที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก (อิงจากภาค IE) แล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง (อิงโลกคู่ขนานของ IE:Ares/Orion) อย่างปริศนา! ไว้มาบอกในเนื้อเรื่องตอนหน้า
สำหรับใครที่สงสัย ทำไมตี้ Inazuma Legend + อาฟุโระ เทรุมิ (กลุ่มเอนโดที่โตแล้วจากภาค GO) ถึงโตกันทุกคน (ยกเว้นคนตัวแตกอย่างทาจิมุไคที่เดี้ยงไปแล้ว) แต่อาฟุโระ เทรุมิกับฟุบุกิ ชิโร่ แฟนทิพย์ของใครหลายคน เอ่อ อยากจะบอกว่า ใครที่อ่านตอนที่ 16 แล้วอ่านช่วงกลุ่มของซารุ มันมีใบ้บอกนิด ๆ หน่อย ๆ ง่ะ อย่าทำเค้าเลยนะ อุตส่าห์เน้นชื่อสองคนนั้นให้แล้วด้วย มุแง ส่วนตัวละครภาค Ares/Orion น่ะ ปล่อยเด็กไว้เถอะ ได้ใช้อีกเยอะ (ตายก็เยอะด้วย—)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น