คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 01 Earth
Warning
• กล่าวถึงสงคราม
• กล่าวถึงเลือด
• กล่าวถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์จำนวนมาก
• มีการบรรยายถึงฉากสยอง เช่น ขาหัก แขนหัก ฯลฯ
• มีการบรรยายฉากการเปลี่ยนแปลงสภาพจากคนเป็นสัตว์ประหลาดเล็กน้อย
เอิร์ท (Earth) หรือ ที่คุ้นกันในชื่อของโลก
โลกเป็นดาวเคราะห์ลำดับที่สามจากดวงอาทิตย์ และเป็นวัตถุทางดาราศาสตร์เพียงหนึ่งเดียวที่ทราบว่ามีสิ่งมีชีวิต จากการวัดอายุด้วยกัมมันตรังสี และแหล่งหลักฐานอื่นได้ความว่าโลกกำเนิดเมื่อประมาณ 4,500 ล้านปีก่อน
ภายในพันล้านปีแรก สิ่งมีชีวิตปรากฏขึ้นในมหาสมุทร และเริ่มส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศ และผิวดาว เกื้อหนุนให้เกิดการแพร่ขยายของสิ่งมีชีวิตที่ใช้ออกซิเจนเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช้ออกซิเจน มีหลักฐานธรณีวิทยาบางส่วนชี้ว่าชีวิตอาจกำเนิดขึ้นเร็วสุด 4.1 พันล้านปีก่อน ทำให้ตำแหน่งของโลกในระบบสุริยะ คุณสมบัติทางกายภาพของโลก และประวัติศาสตร์ธรณีวิทยาของโลกประกอบกันทำให้สิ่งมีชีวิตวิวัฒนาการ และแพร่พันธุ์ได้
ในประวัติศาสตร์ของโลก กล่าวถึงความหลากหลายทางชีวภาพผ่านระยะการขยายยาวนาน แต่ถูกขัดจังหวะบางครั้งด้วยการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ กว่าร้อยละ 99 ของสปีชีส์ทั้งหมดที่เคยอยู่อาศัยบนโลกนั้นสูญพันธุ์ไปแล้ว และสปีชีส์ส่วนใหญ่ยังไม่มีผู้อธิบาย มีมนุษย์กว่า 7.6 พันล้านคนอาศัยอยู่บนโลก และอาศัยชีวมณฑล และทรัพยากรธรรมชาติของโลก เพื่อการอยู่รอด มนุษย์พัฒนาสังคม และวัฒนธรรมหลากหลาย
นั่นคือข้อมูลของโลกที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ แน่นอนว่าข้อมูลดังกล่าวถูกบันทึกไว้เพียงแค่น้อยนิด มีบางข้อมูลที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยให้ทั่วโลกรู้ และมีบางส่วนที่ไม่เป็นจริง
การเวลาเดินไปเรื่อย ๆ ความคิดของสิ่งมีชีวิตก็เช่นกัน เริ่มมีการสร้างสิ่งก่อสร้าง สร้างอาวุธ วิธีการล่าสัตว์ ภาษา การทำอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก วิธีปกปิดเรือนร่าง และการให้กำเนิดสิ่งมีชีวิต
ในอดีตเคยมีสงครามที่เข่นฆ่าจนต้องมีการนองเลือด เพื่อแย่งชิงบางสิ่งบางอย่างจากอีกฝ่าย มนุษย์ในอดีตไม่รู้วิธีการเจรจา สิ่งที่มีติดตัวพวกเขา คือ การล่า และหากกล่าวถึงการล่า นั่นแสดงว่าต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตาย ผ่านมาหลายยุคหลายสมัยจนมีการก่อตั้งประเทศขึ้นในโลก
โลกถูกแบ่งแยกออกกันเป็น 13 ประเทศ และบางประเทศถูกขึ้นให้อยู่ภายใต้รัฐบาลจึงถูกเรียกว่าหลักหนึ่ง หากไม่ได้อยู่ภายใต้รัฐบาลจะถูกเรียกว่าหลักสอง
• ซีอุส (Zeus) เป็นประเทศหลักของโลก กลุ่มรัฐบาลโลกรวมกันก่อตั้งที่ประเทศนี้จนถูกกล่าวว่าเป็นประเทศของรัฐบาล
• โพไซดอน (Poseidon) ประเทศที่สองของโลก เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้อำนาจของรัฐบาล
• ดีมิเทอร์ (Demetor) ประเทศที่สามของโลก เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• อาร์เทน่า (Arthena) ประเทศที่สี่ของโลก เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• อะพอลโล่ (Apollo) ประเทศที่ห้าของโลก เป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• อาร์เทมิส (Arthemis) ประเทศที่หกของโลก เป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• แอเรียส (Ares) ประเทศที่เจ็ดของโลก เป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• อะโฟรไดร์ท (Aprodite) ประเทศที่แปดของโลก เป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• ฮีฟิทัส (Hephaestus) ประเทศที่เก้าของโลก เป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• เฮอร์เมส (Hermes) ประเทศที่สิบของโลก เป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• ดิโอไนซัส (Dionysus) ประเทศที่สิบเอ็ดของโลก เป็นประเทศที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• เฮสเทีย (Hestia) ประเทศที่สิบสองของโลก เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
• เฮร่า (Hera) ประเทศที่สิบสามของโลก เป็นประเทศที่อยู่ภายใต้ของรัฐบาล
รัฐบาลเปรียบเสมือนกองกลางของโลก เป็นต้นกำเนิดแห่งกฎหมาย เพื่อสร้างความยุติธรรมให้แก่สิ่งมีชีวิตบนโลก พวกเขาเรียกตัวเองว่าโอลิมปัส
และนั่นคือข้อมูลทั้งหมดของโลกที่มีอยู่ตอนนี้ จะมีข้อมูลที่ถูก หรือ ผิด ก็ไม่มีใครทราบ นอกจากรัฐบาลโลก..
คริสต์ศักราช 1900 ได้มีอุกาบาตขนาดใหญ่ตกลงมาที่อาร์เทมิส สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจนประเทศนี้มีผู้เสียชีวิตเกือบครึ่งประเทศ หน่วยงานจากโอลิมปัสบางส่วนที่พยายามไปช่วยประชากรในประเทศนั้น แต่ถูกผลกระทบจากอุกาบาตปริศนาจนเสียชีวิต
กระทั่งมีนักวิทยาศาสตร์สาวชื่อ คิระ อายูมิ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นความเป็นมาของเจ้าอุกกาบาตปริศนานี้ เธอจึงค้นคว้าเกี่ยวกับมัน ผ่านไปนานหลายปีจนในที่สุดเธอก็ได้รู้ความจริงบางส่วนเกี่ยวกับอุกกาบาตปริศนาที่ตกลงมาที่ประเทศอาร์เทมิส
คริสต์ศักราช 1921 เป็นปีที่นักวิทยาศาสตร์สาวนาม คิระ อายูมิเสียชีวิต แต่เธอก็ได้ฝากข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับอุกกาบาตปริศนานี้ให้แก่ลูกหลานของเธอ
คิระ โซตะ ลูกชายของคิระ อายูมิ เด็กชายผู้สืบทอดต่อเจตนารมณ์ของผู้เป็นแม่ที่เสียชีวิต เพราะโรคปริศนา เขาทำการค้นคว้าเกี่ยวกับอุกกาบาตต่อจากแม่ของเขา
คิระ อายูมิได้สรุปวิจัยไว้ว่า
‘อุกกาบาตปริศนาที่ตกลงมาชนกับประเทศอาร์เทมิส สร้างความเสียหายรุนแรงไปเกือบครึ่งประเทศ น่าแปลกที่มันดันตกลงมากลางประเทศได้ตรงละติจูด และลองติจูด และฉันพบว่าอุกาบาตนั่นตกลงทะลุผิวโลกไปหลายชั้น น่าจะมีความลึกประมาณ 13,000~15,000 เมตร แต่ที่น่าสนใจกว่านั่น คือ รอบ ๆ อุกกาบาตนั้นมีพิษร้ายที่ส่งผลต่อมนุษย์ เพราะเหตุนั้น พวกตำรวจหน้าโง่ของโอลิมปัสถึงได้พากันตายไปหลายคนไง ระวังไว้ด้วยล่ะ’
และนี่คือทั้งหมดที่เธอบอกก่อนที่จะจากไป คนที่ต้องตามหาความจริงคนต่อไปก็คือเขา— คิระ โซตะ
คริสต์ศักราช 1957 คิระ โซตะตัดสินใจลงไปที่หลุมกลางประเทศอาร์เทมิส เพราะความอยากรู้อยากเห็นของนิสัยของนักวิทยาศาสตร์ เขาลงไปที่หลุมที่เกิดจากอุกกาบาตนั่น มันมีหลุมอย่างที่แม่เขาบอกจริง ๆ และมันก็ใหญ่มาก สภาพแวดล้อมดูเงียบสงบ ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต และไร้ซึ่งผู้คน
เขาเสี่ยงลงมาก็จริง แต่ก็ไม่ยอมที่จะกลับออกไปมือเปล่า ทุกวินาทีที่เขาเดินลงไปสำรวจหลุมยักษ์ มือของนักวิทยาศาสตร์หนุ่มก็จดเล็คเชอร์ลงบนสมุดทุกครั้ง
ผ่านไป 1 ชั่วโมง
ผ่านไป 12 ชั่วโมง
ผ่านไป 4 วัน
ผ่านไป 6 สัปดาห์
ผ่านไป 2 เดือน
ผ่านไป... เท่าไหร่แล้วนะ? ที่เขาต้องเดินสำรวจอยู่ในหลุมยักษ์
คิระ โซตะเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จักเหนื่อย น่าแปลกที่เขาสามารถทนอยู่ในนี้ได้หลายชั่วโมง เพราะไม่มีความรู้สึกกระหาย หรือ ความรู้สึกง่วง และเหนื่อยล้าเหมือนกับว่ามันถูกกำจัดทิ้งออกจากระบบร่างกาย
เขาเดินได้ประมาณ 6,000~7,000 เมตร ร่างกายเริ่มรู้สึกคันบริเวณแขนขวา ตามประสาคนเคยชิน เขารีบถูมันแทนการเกา เพื่อไม่ให้สร้างบาดแผลทางอ้อม แต่ว่า—
“เอ๊ะ...?” มือของนักวิทยาศาสตร์หนุ่มสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันลื่น ๆ บาง ๆ และนิ่มมาก เขาเลยจับมือแล้วยกขึ้นมาดู
มันคือหนัง, หนังหุ้มเนื้อของมนุษย์
คิระ โซตะทำหน้าสยอง เขารีบก้มหน้าไปดูแขนของเขาทันที
เนื้อหนังที่หุ้มร่างกายค่อย ๆ ลอกออกมาอย่างน่ากลัวจนเริ่มปรากฏเนื้อสีแสงหลังเนื้อหนัง
“ระ ร่างกายมัน...”
ร่างของคิระ โซตะหลังจากที่เนื้อหนังลอกหลุดออกมาตามร่างกาย ร่างกายของเขาก็เริ่มมีสิ่งที่คล้ายครีปออกมาตามแขน และเริ่มทยอยแปรสภาพกลายเป็นสิ่งแปลกประหลาด
หากเขาคิดไม่ผิด มันกำลังเปลี่ยนให้เขากลายเป็นสัตว์ประหลาด...
เมื่อรู้ว่ายังไงก็ต้องตาย เขารีบหาวิธีทุกอย่าง เพื่อนำเอกสารที่เขาเคยมาทั้งหมดขึ้นไปข้างบนหลุมนี้ ด้วยการใช้วิธีที่คล้ายกับบอลลูน
เขารีบจัดเอกสารใส่ซองให้เรียบร้อย และมัดมันด้วยเชือกอย่างแน่นหนาแล้วผูกลูกโป่งให้เข้ากันกับเชือก เพื่อส่งแรงทั้งหมดให้มันลอยขึ้นไป
ก่อนที่เขาจะหายไป ในกระดาษแผ่นหนึ่งได้เคยด้วยลายมือที่มีลอยเปื้อนเลือดตามกระดาษขาว ข้อความในกระดาษนั้นถูกเขียนไว้ว่า
‘ถ้ายังรักตัวกลัวตายก็อย่าได้คิดที่จะลงมาที่หลุมยักษ์ใจกลางประเทศอาร์เทมิส ก่อนตายฉันได้เขียนงานวิจัยของฉันที่ติดอยู่ในหลุมนี้ไว้หมดแล้ว และมีบางส่วนอยู่ที่แล็ปวิจัยกับบ้านของฉัน ฉันขอสืบทอดงานวิจัยนี้ให้ลูกหลานคนต่อไปของฉัน และฝากบอกนามิด้วยว่าพ่อขอโทษนะ ที่ไม่สามารถอยู่เล่นกับหนูต่อได้
ด้วยรัก
คิระ โซตะ’
คริสต์ศักราช 1962 เดือน 3 วันที่ 21
ตระกูลคิระได้รับรู้ว่าผู้นำตระกูลคิระ, คิระ โซตะได้เสียชีวิตจากการลงไปในหลุมยักษ์ที่เกิดขึ้นจากอุกาบาตปริศนา เนื่องจากลูกสาวของคิระ โซตะ เธอชื่อ คิระ นามิ ยังอายุแค่ 7 ขวบจึงไม่สามารถดำเนินการวิจัยต่อได้ คนในตระกูลจึงตัดสินใจให้ คิระ เซย์จิโร่ หลานชายของคิระ โซตะเป็นผู้ทำวิจัยผลงานนี้เป็นคนต่อไป
ข่าวการเสียชีวิตของคิระ โซตะถูกแพร่หลายพร้อมกับข้อมูลบางส่วน จึงทำให้ปี 1957 มีเสียชีวิตอย่างปริศนา 54.7 ล้านคนที่ตายบริเวณปากหลุมยักษ์ และมีบุคคลหายสาบสูญอีก 22.9 ล้านคนที่หายไปพร้อมล่องรอยสุดท้าย คือ พวกเขาลงไปที่หลุมยักษ์
คริสต์ศักราช 1999 โอลิมปัสประกาศตั้งชื่อให้แก่หลุมยักษ์ที่อยู่กลางประเทศอาร์เทมิสว่า แพนโดร่า และมีประกาศร่างกฎหมายห้ามเข้าใกล้แพนโดร่า หากใครฝ่าฝืนมีโทษจำคุก หากโชคร้ายหน่อยก็ตามเสียคาปากหลุม
คริสต์ศักราช 2000 มีการก่อตั้งกลุ่มเอลโดราโด้ โดยมีสามผู้นำ โทโด เฮย์คิจิ, ซาคามากิ โทกุโร่ และอาซูลเรย์ รูน เป็นผู้ก่อตั้ง
ในปีเดียวกัน ได้มีการก่อตั้งกลุ่มเอย์เซย์ที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์นาม คิระ เซย์จิโร่
Talk with Roselle
อุกกาบาต และหลุมถูกอ้างอิงมาจากอนิเมะ Made in Abyss หากใครเคยดูก็มโนภาพตามนั้นก็ได้ค่ะ
สุดท้ายนี้ ใครที่รีบอ่านตอนถัดไป แนะนำให้ไปอ่านผ่าน RAR ได้นะคะ เสิร์ชหาว่า Rosellezn ก็เจอแล้วค่ะ ( ◜‿◝ )♡
ความคิดเห็น