ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องแปลเกาหลี Restricted เขียนโดย adOrkabLex87 แปลโดยAekio

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1(เพิ่มเติมเนื้อเรื่องที่ผมเผลอแปลตกหล่นไปนิดหน่อยครับ)

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 48






    บทที่ 1



    [แดดส่องฟ้าเป็นสัญญาณวันใหม่ ตื่นได้แล้ว…]  [[wake up sunshine wake up…]] << ต้นฉบับ



    ฉันเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกนั่นแล้วเด้งตัวขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว ใช่แล้วละ! วันนี้เป็นวันแห่งอิสระภาพวันแรกของฉัน! คุณเชื่อไหมละ หลังจากที่ต้องติดเหง็กอยู่ในบ้านหลังนี้ตลอดทั้ง 17 ปี วันนี้ฉันจะได้ออกไปข้างนอกแล้ว! เยี่ยมไหมละ?



    [ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ]



    “เชิญคะ”



    “อึนมี นี่คือชุดนักเรียนของหนู” คุณดองเดินไปวางชุดนักเรียนของฉันไว้บนโต๊ะ



    “ขอบคุณมากคะคุณดอง”ฉันกอดแล้วจูบเธอที่แก้ม (มันเป็นจูบสัมพันธภาพนะ ประมาณว่าจูบเพื่อขอบคุณไง)



    “ไม่มีปัญหาจ๊ะ รีบๆ ลงไปทานอาหารเช้าของหนูละไม่งั้นจะไปโรงเรียนสายนะ” คุณดองปิดประตูห้องฉันลง คุณดองคือสาวใช้ของแม่ฉัน เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้โดยการชักนำของแม่ คุณดองเป็นมนุษย์ที่เจ๋งมากๆ และเราก็สนิทกันมากด้วยสิเพราะพ่อแม่ฉันจะต้องออกไปตะลอนทัวร์เรื่องธุรกิจอยู่เป็นประจำ ส่วนพี่ของฉันก็ชอบออกไปทำธุระของเขา ดังนั้นจึงมีเราสองคนและบ้านหลังนี้ที่ต้องอยู่ด้วยกัน เธอเป็นคนสอนฉันทำอาหารและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกกว้างใบนี้ให้ฉันฟัง



    โอ้พระเจ้า เห็นทีฉันคงต้องหุบปากชั่วคราวแล้วละ เพราะฉันมีหวังไปโรงเรียนสายแน่ๆ ถ้าไม่รีบแต่งตัว



    ฉันยืนส่องดูตัวตนใหม่ของฉันที่หน้ากระจก ชุดนักเรียนของฉันสวยจังเลย กระโปรงสีเทา เสื้อเชิร์ทติดกระดุมสีขาว และข้างนอกสุดคือเสื้อกั๊กสีเทา ที่อกเสื้อข้างขวาของชุดมีตัวปักสีน้ำเงินเป็นคำว่า “โอ อึนมี” ฉันจำได้ว่าพี่เคยบอกไว้ว่าตัวอักษรสีน้ำเงินนี่หมายถึงเด็กนักเรียนปีสอง ตัวสีเหลืองหมายถึงเด็กนักเรียนปีหนึ่ง ส่วนสีเขียวนั้นหมายถึงนักเรียนปีสาม ทางด้านขวาของชุดนักเรียนเป็นชื่อของโรงเรียนเรา “มัธยมปลายโซล” ก็อย่างที่ฉันบอกไปนั่นแหละ มันน่ารักมากๆ เลยละ



    “นี่! ยัยบ้า! ถ้ายังขืนชักช้ามีหวังฉันสายแน่!” ฉันได้บอกคุณไปแล้วยังนะว่าวันนี้ฉันกำลังจะไปขึ้นรถประจำทางกับพี่ของฉัน “อย่าให้ฉันต้องขึ้นไปแบกเธอลงมาข้างล่างนะ!”



    ปีศาจร้ายผู้ไร้ซึ่งความอดทน…พี่ชายฉันชอบปกป้องฉันมากจนเกินไปอยู่เป็นประจำแถมบางครั้งยังทำตัวเหมือนเป็นเจ้านายฉันอีก แต่ฉันเองก็รู้นะน่ะว่าที่พี่เขาทำไปนั่นก็เพราะรักฉัน



    [ป๊างงงงงงงง!!!] (เสียงพี่อึนซังพังประตูห้องอึนมีเข้ามา)



    “เฮ้! ฉันบอกให้เธอรีบๆ!” พี่ดูประสาทจับไปเลย



    “ขอโทษคะพี่ชาย!” ฉันส่งสายตาโนเน๊ะให้เขา



    พี่ดูจะเย็นขึ้นกว่าเดิม “เออ เร็วๆ เข้าละถ้าเธอไม่อยากสาย แล้วไหนฉันยังต้องสอนเธอจับรถบัสอีก”



    “ตกลงจ๊ะพี่ชาย!” ฉันวิ่งตรงเข้าไปหาพี่พร้อมกับคล้องแขนฉันเข้าไปในแขนพี่เหมือนเด็กตัวเล็กๆที่กำลังคล้องแขนแม่ของเธอ



    พี่มองมาที่ฉันแล้วพยักหน้าน้อยๆ “หนูน้อย…”



    “อ้า!! ฉันไม่ใช่หนูน้อยสักหน่อย!” ฉันคัดค้านเขาไป



    “แต่เธอทำอย่างกับเธอเป็นแบบนั้น” พี่แลบลิ้นใส่ฉันแล้ววิ่งลงข้างล่างไปเลย



    “ลาก่อนคะพ่อ ลาก่อนนะค่ะแม่ บ๊ายบายคะคุณดอง” แล้วพี่กับฉันก็วิ่งออกจากบ้านไป



    เรามารอรถกันที่ป้ายรถเมย์พร้อมกับเด็กนักเรียนอีกมากมาย เด็กพวกนั้นต่างก็จ้องมองมาที่เรา พวกสาวๆ ทำท่าทำทางราวกับอยากจะกัดหัวฉันแหนะ ส่วนพวกหนุ่มๆ ก็ไม่น้อยหน้าจ้องมองฉันยังก็พวกหมาป่าหิวเหยื่อ



    “ว่ะ! ใครมองน้องสาวฉันมันผู้นั้นต้องตาย!” พี่ชายฉันหล่อจังเลยเวลาที่พูดแบบนี้



    เด็กนักเรียนพวกนั้นต่างพากันหันหัวไปทางอื่น แต่ฉันก็ได้ยินคนพวกนั้นกระซิบกระซาบกัน…



    อ๊ายยยย! นั่นพี่อึนซังนี่ หล่อสุดฤทธิ์เลยอ่ะ!



    ขอบคุณพระเจ้า นั่นมันน้องสาวของพี่อึนซังนี่



    น้องสาวของพี่อึนซังนั่นน่ารักจังเลย แต่ยังไงฉันก็ยังน่ารักกว่า



    ฮั๊กกก น้องของเขาน่ารักนรกเลยว่ะ!




    ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไม แต่ฉันไม่ชอบคนพวกนั้นเอาเสียเลย ทำตัวอย่างกับพวกสาวๆ ที่ฉันเคยอ่านในนิยายวัยรุ่นเหล่านั้นแหนะ ก็อย่างที่คุณน่าจะเข้าใจนั่นแหละ การที่ต้องอยู่แต่บ้านตลอดเวลามันทำให้ฉันต้องต่ออินเตอร์เน็ทเพื่อหานิยายอ่านอยู่เป็นประจำเพราะเรื่องพวกนั้นล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งนั้นแถมนี่ยังเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะติดต่อกับโลกภายนอกได้



    “เฮ่! หุบปากซะแล้วทีหน้าทีหลังก็อย่าพูดหรือนินทาคนอื่นอีกโดยเฉพาะเวลาที่คนที่พวกแกเอ่ยถึงยังได้ยินเสียงพวกแกอยู่!” พี่สั่งให้พวกนั้นหุบปากลงอีกครั้ง



    “เจ้าเพื่อนอึนซัง!” เสียงต่ำๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกชื่อพี่ชายฉัน



    พี่กับฉันหันหน้าไปปะทะกับผู้ชายที่สุดจะฮ็อตคนนั้น! เขามีดวงตาสุขใสและหวานหยดย้อยราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ผมชี้ตั้งตรงเป็นกระจุกแต่เฟอร์เฟ็ค รูปร่างก็ดีซะเหลือหลายเลย



    “เช็ดน้ำลายของเธอซ่ะ” พี่หันมาบอกฉัน



    “ฉันไม่ได้น้ำลายย้อยสักหน่อย!” ฉันรีบปฏิเสธออกไป ฉันไม่ได้น้ำลายไหลใช่ไหม? ได้โปรดอย่าพูดว่าไหลเพราะว่าฉันคงจะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนดี



    “นี่เพื่อน หญิงสาวแสนสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ แกนั่นใครกันเหรอ?” บุรุษนิรนามผู้นั้นเอ่ยขึ้น โอย…ลมจะจับ ฉันสวยเหรอ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้ขึ้นสวรรค์เลยละ



    “อย่า~แม้~แต่~จะ~คิด” พี่ชายพูดแต่ละคำออกมาช้าๆ “อันนี้ห้าม”



    บุรุษนิรนามผู้นั้นท่าทางสับสน “แฟนแกเหรอว่ะเพื่อน?” ฉันเหรอ? แฟนพี่เนี๊ยนะ! ฉันรู้สึกเหมือนอาหารเช้าที่กินเข้าไปกำลังจะทะลักออกมา แต่เดี๋ยวก่อน…วันนี้ฉันไม่ได้กินอาหารเช้านี่นา T-T



    “ไม่ใช่!” พี่รีบปฏิเสธเชียว พี่จ๋าฉันว่าพี่เสียงดังมากไปแล้วนะ แล้วทุกคนก็หันมามองที่เราอีกครั้ง “พวกแกมองอะไรกันมิทราบ? อย่ามาใส่เกือก!” พี่ชาย พี่กำลังทำให้ทุกคนกลัวนะ แต่…ทำไมคนพวกนั้นถึงได้เชื่อฟังพี่นักละ?



    “ฮิ ฮิ ฉันก็แค่ถามนาเพื่อน” บุรุษนิรนามคนนั้นดูจะหวาดๆ ที่พี่ตะโกนอยู่เหมือนกัน



    ฉันเดิมออกไปหาเขาแล้วยื่นมือออกไป “หวัดดี ฉันชื่ออึนมี เป็นน้องสาวของพี่เค้า” ฉันยิ้มออกมา



    บุรุษนิรนามยิ้มกลับแล้วยื่นมือมาจับแล้วเขย่า บุรุษนิรนามผู้นี้ช่างมีรอยยิ้มที่เจิดจรัสเสียเหลือเกิน “ยินดีที่ได้รู้จักนะอึนมี ฉันได้ยินเรื่องของเธอมากมายเลยจากเพื่อนคนนี้แต่ยังไม่เคยเห็นเธอมาก่อน ฉันชื่อลี เทวู เพื่อนรักของเขา” เทวูเหวี่ยงแขนไปพาดไว้บนไหล่พี่ฉัน



    “เห้ย! เทวู เอามือของแกออกไปนะโว้ย ฉันไม่อยากให้ใครๆ เข้าใจผิดว่าฉันเป็นเกย์!” พี่ปัดมือของเขาออกราวกับว่าเขาเป็นพวกแบคทีเรีย



    “…แต่…แต่ฉันคิดว่าแกรักฉันนะอึนซัง!” พี่เทวูทำปากยื่นไปข้างหน้าซึ่งนั้นทำให้เขาดูน่ารักมากมาย “แต่ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ต้องการแกสักหน่อย คนที่ฉันต้องการหนะคืออึนมีต่างหาก” พี่เทวูเอามือมาโอบฉันไว้



    “นี่! ใครกล้าแตะต้องน้องสาวฉันมันคนนั้นต้องตาย!” พี่ปัดแขนพี่เทวูออก



    แล้วในที่สุดรถประจำทางก็มาสักที ภายในรถคันนั้นเราพูดคุยกันอย่างกับนกกระจอกแตกรัง แล้วฉันก็ได้พบกับความจริงใหม่ๆ เกี่ยวกับพี่ชายของฉันและพี่เทวูคนนั้นว่าสองคนนี้ทั้งสนุกทั้งน่ารักเลยละ



    จดเอาไว้ดีกว่าว่าฉันได้เรียนรู้อะไรจากวันนี้บ้าง…

    1.    พี่ชายฉันเป็นหนุ่มฮ็อตของโรงเรียนเช่นเดียวกับพี่เทวู

    2.    ทุกๆ คนต่างก็กลัวพี่เพราะว่าพี่เป็นนักสู้แถวหน้า

    3.    พี่เทวูชอบที่จะทำตัวเปิ่นๆ และหยอกล้อสร้างความสนุกอยู่รอบๆ ตัวพี่อึนซัง

    4.    พี่ชอบตีหัวพี่เทวูเป็นประจำโดยที่พี่ให้เหตุผลว่ามันเป็นสันดานไปแล้ว เฮ้อ…พี่เทวูที่น่าสงสาร

    5.    ผู้หญิงสมัยนี้นิยมพฤติกรรมน้ำลายย้อยกันอย่างแพร่หลาย



    “นี่! ยัยบ้า หยุดก่อน วันนี้เลิกเรียนแล้วออกมารอฉันที่หน้าโรงเรียนนะ ฉันจะได้พาแกกลับบ้าน” พี่พูดขึ้นมา “แล้วอย่ามัวแต่ชักช้าละ ไม่งั้นฉันจะทิ้งแกไว้ที่นี่”



    “ได้คะคุณพี่ชาย ลาก่อนนะคะพี่เทวู” ฉันยิ้มแล้วโบกมือลา



    ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้คือ “โรงเรียนมัธยมโซล” ฉันยืดตัวตรงแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนเพื่อตรงไปยังห้องพักอาจารย์





    ____________________________________________________________

    จบแล้ว







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×