ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 1(เพิ่มเติมเนื้อเรื่องที่ผมเผลอแปลตกหล่นไปนิดหน่อยครับ)
บทที่ 1
[แดดส่องฟ้าเป็นสัญญาณวันใหม่ ตื่นได้แล้ว ]  [[wake up sunshine wake up ]] << ต้นฉบับ
ฉันเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุกนั่นแล้วเด้งตัวขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว ใช่แล้วละ! วันนี้เป็นวันแห่งอิสระภาพวันแรกของฉัน! คุณเชื่อไหมละ หลังจากที่ต้องติดเหง็กอยู่ในบ้านหลังนี้ตลอดทั้ง 17 ปี วันนี้ฉันจะได้ออกไปข้างนอกแล้ว! เยี่ยมไหมละ?
[ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆ]
“เชิญคะ”
“อึนมี นี่คือชุดนักเรียนของหนู” คุณดองเดินไปวางชุดนักเรียนของฉันไว้บนโต๊ะ
“ขอบคุณมากคะคุณดอง”ฉันกอดแล้วจูบเธอที่แก้ม (มันเป็นจูบสัมพันธภาพนะ ประมาณว่าจูบเพื่อขอบคุณไง)
“ไม่มีปัญหาจ๊ะ รีบๆ ลงไปทานอาหารเช้าของหนูละไม่งั้นจะไปโรงเรียนสายนะ” คุณดองปิดประตูห้องฉันลง คุณดองคือสาวใช้ของแม่ฉัน เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้โดยการชักนำของแม่ คุณดองเป็นมนุษย์ที่เจ๋งมากๆ และเราก็สนิทกันมากด้วยสิเพราะพ่อแม่ฉันจะต้องออกไปตะลอนทัวร์เรื่องธุรกิจอยู่เป็นประจำ ส่วนพี่ของฉันก็ชอบออกไปทำธุระของเขา ดังนั้นจึงมีเราสองคนและบ้านหลังนี้ที่ต้องอยู่ด้วยกัน เธอเป็นคนสอนฉันทำอาหารและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกกว้างใบนี้ให้ฉันฟัง
โอ้พระเจ้า เห็นทีฉันคงต้องหุบปากชั่วคราวแล้วละ เพราะฉันมีหวังไปโรงเรียนสายแน่ๆ ถ้าไม่รีบแต่งตัว
ฉันยืนส่องดูตัวตนใหม่ของฉันที่หน้ากระจก ชุดนักเรียนของฉันสวยจังเลย กระโปรงสีเทา เสื้อเชิร์ทติดกระดุมสีขาว และข้างนอกสุดคือเสื้อกั๊กสีเทา ที่อกเสื้อข้างขวาของชุดมีตัวปักสีน้ำเงินเป็นคำว่า “โอ อึนมี” ฉันจำได้ว่าพี่เคยบอกไว้ว่าตัวอักษรสีน้ำเงินนี่หมายถึงเด็กนักเรียนปีสอง ตัวสีเหลืองหมายถึงเด็กนักเรียนปีหนึ่ง ส่วนสีเขียวนั้นหมายถึงนักเรียนปีสาม ทางด้านขวาของชุดนักเรียนเป็นชื่อของโรงเรียนเรา “มัธยมปลายโซล” ก็อย่างที่ฉันบอกไปนั่นแหละ มันน่ารักมากๆ เลยละ
“นี่! ยัยบ้า! ถ้ายังขืนชักช้ามีหวังฉันสายแน่!” ฉันได้บอกคุณไปแล้วยังนะว่าวันนี้ฉันกำลังจะไปขึ้นรถประจำทางกับพี่ของฉัน “อย่าให้ฉันต้องขึ้นไปแบกเธอลงมาข้างล่างนะ!”
ปีศาจร้ายผู้ไร้ซึ่งความอดทน พี่ชายฉันชอบปกป้องฉันมากจนเกินไปอยู่เป็นประจำแถมบางครั้งยังทำตัวเหมือนเป็นเจ้านายฉันอีก แต่ฉันเองก็รู้นะน่ะว่าที่พี่เขาทำไปนั่นก็เพราะรักฉัน
[ป๊างงงงงงงง!!!] (เสียงพี่อึนซังพังประตูห้องอึนมีเข้ามา)
“เฮ้! ฉันบอกให้เธอรีบๆ!” พี่ดูประสาทจับไปเลย
“ขอโทษคะพี่ชาย!” ฉันส่งสายตาโนเน๊ะให้เขา
พี่ดูจะเย็นขึ้นกว่าเดิม “เออ เร็วๆ เข้าละถ้าเธอไม่อยากสาย แล้วไหนฉันยังต้องสอนเธอจับรถบัสอีก”
“ตกลงจ๊ะพี่ชาย!” ฉันวิ่งตรงเข้าไปหาพี่พร้อมกับคล้องแขนฉันเข้าไปในแขนพี่เหมือนเด็กตัวเล็กๆที่กำลังคล้องแขนแม่ของเธอ
พี่มองมาที่ฉันแล้วพยักหน้าน้อยๆ “หนูน้อย ”
“อ้า!! ฉันไม่ใช่หนูน้อยสักหน่อย!” ฉันคัดค้านเขาไป
“แต่เธอทำอย่างกับเธอเป็นแบบนั้น” พี่แลบลิ้นใส่ฉันแล้ววิ่งลงข้างล่างไปเลย
“ลาก่อนคะพ่อ ลาก่อนนะค่ะแม่ บ๊ายบายคะคุณดอง” แล้วพี่กับฉันก็วิ่งออกจากบ้านไป
เรามารอรถกันที่ป้ายรถเมย์พร้อมกับเด็กนักเรียนอีกมากมาย เด็กพวกนั้นต่างก็จ้องมองมาที่เรา พวกสาวๆ ทำท่าทำทางราวกับอยากจะกัดหัวฉันแหนะ ส่วนพวกหนุ่มๆ ก็ไม่น้อยหน้าจ้องมองฉันยังก็พวกหมาป่าหิวเหยื่อ
“ว่ะ! ใครมองน้องสาวฉันมันผู้นั้นต้องตาย!” พี่ชายฉันหล่อจังเลยเวลาที่พูดแบบนี้
เด็กนักเรียนพวกนั้นต่างพากันหันหัวไปทางอื่น แต่ฉันก็ได้ยินคนพวกนั้นกระซิบกระซาบกัน
อ๊ายยยย! นั่นพี่อึนซังนี่ หล่อสุดฤทธิ์เลยอ่ะ!
ขอบคุณพระเจ้า นั่นมันน้องสาวของพี่อึนซังนี่
น้องสาวของพี่อึนซังนั่นน่ารักจังเลย แต่ยังไงฉันก็ยังน่ารักกว่า
ฮั๊กกก น้องของเขาน่ารักนรกเลยว่ะ!
ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไม แต่ฉันไม่ชอบคนพวกนั้นเอาเสียเลย ทำตัวอย่างกับพวกสาวๆ ที่ฉันเคยอ่านในนิยายวัยรุ่นเหล่านั้นแหนะ ก็อย่างที่คุณน่าจะเข้าใจนั่นแหละ การที่ต้องอยู่แต่บ้านตลอดเวลามันทำให้ฉันต้องต่ออินเตอร์เน็ทเพื่อหานิยายอ่านอยู่เป็นประจำเพราะเรื่องพวกนั้นล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งนั้นแถมนี่ยังเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะติดต่อกับโลกภายนอกได้
“เฮ่! หุบปากซะแล้วทีหน้าทีหลังก็อย่าพูดหรือนินทาคนอื่นอีกโดยเฉพาะเวลาที่คนที่พวกแกเอ่ยถึงยังได้ยินเสียงพวกแกอยู่!” พี่สั่งให้พวกนั้นหุบปากลงอีกครั้ง
“เจ้าเพื่อนอึนซัง!” เสียงต่ำๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกชื่อพี่ชายฉัน
พี่กับฉันหันหน้าไปปะทะกับผู้ชายที่สุดจะฮ็อตคนนั้น! เขามีดวงตาสุขใสและหวานหยดย้อยราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ผมชี้ตั้งตรงเป็นกระจุกแต่เฟอร์เฟ็ค รูปร่างก็ดีซะเหลือหลายเลย
“เช็ดน้ำลายของเธอซ่ะ” พี่หันมาบอกฉัน
“ฉันไม่ได้น้ำลายย้อยสักหน่อย!” ฉันรีบปฏิเสธออกไป ฉันไม่ได้น้ำลายไหลใช่ไหม? ได้โปรดอย่าพูดว่าไหลเพราะว่าฉันคงจะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนดี
“นี่เพื่อน หญิงสาวแสนสวยที่ยืนอยู่ข้างๆ แกนั่นใครกันเหรอ?” บุรุษนิรนามผู้นั้นเอ่ยขึ้น โอย ลมจะจับ ฉันสวยเหรอ ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้ขึ้นสวรรค์เลยละ
“อย่า~แม้~แต่~จะ~คิด” พี่ชายพูดแต่ละคำออกมาช้าๆ “อันนี้ห้าม”
บุรุษนิรนามผู้นั้นท่าทางสับสน “แฟนแกเหรอว่ะเพื่อน?” ฉันเหรอ? แฟนพี่เนี๊ยนะ! ฉันรู้สึกเหมือนอาหารเช้าที่กินเข้าไปกำลังจะทะลักออกมา แต่เดี๋ยวก่อน วันนี้ฉันไม่ได้กินอาหารเช้านี่นา T-T
“ไม่ใช่!” พี่รีบปฏิเสธเชียว พี่จ๋าฉันว่าพี่เสียงดังมากไปแล้วนะ แล้วทุกคนก็หันมามองที่เราอีกครั้ง “พวกแกมองอะไรกันมิทราบ? อย่ามาใส่เกือก!” พี่ชาย พี่กำลังทำให้ทุกคนกลัวนะ แต่ ทำไมคนพวกนั้นถึงได้เชื่อฟังพี่นักละ?
“ฮิ ฮิ ฉันก็แค่ถามนาเพื่อน” บุรุษนิรนามคนนั้นดูจะหวาดๆ ที่พี่ตะโกนอยู่เหมือนกัน
ฉันเดิมออกไปหาเขาแล้วยื่นมือออกไป “หวัดดี ฉันชื่ออึนมี เป็นน้องสาวของพี่เค้า” ฉันยิ้มออกมา
บุรุษนิรนามยิ้มกลับแล้วยื่นมือมาจับแล้วเขย่า บุรุษนิรนามผู้นี้ช่างมีรอยยิ้มที่เจิดจรัสเสียเหลือเกิน “ยินดีที่ได้รู้จักนะอึนมี ฉันได้ยินเรื่องของเธอมากมายเลยจากเพื่อนคนนี้แต่ยังไม่เคยเห็นเธอมาก่อน ฉันชื่อลี เทวู เพื่อนรักของเขา” เทวูเหวี่ยงแขนไปพาดไว้บนไหล่พี่ฉัน
“เห้ย! เทวู เอามือของแกออกไปนะโว้ย ฉันไม่อยากให้ใครๆ เข้าใจผิดว่าฉันเป็นเกย์!” พี่ปัดมือของเขาออกราวกับว่าเขาเป็นพวกแบคทีเรีย
“ แต่ แต่ฉันคิดว่าแกรักฉันนะอึนซัง!” พี่เทวูทำปากยื่นไปข้างหน้าซึ่งนั้นทำให้เขาดูน่ารักมากมาย “แต่ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ต้องการแกสักหน่อย คนที่ฉันต้องการหนะคืออึนมีต่างหาก” พี่เทวูเอามือมาโอบฉันไว้
“นี่! ใครกล้าแตะต้องน้องสาวฉันมันคนนั้นต้องตาย!” พี่ปัดแขนพี่เทวูออก
แล้วในที่สุดรถประจำทางก็มาสักที ภายในรถคันนั้นเราพูดคุยกันอย่างกับนกกระจอกแตกรัง แล้วฉันก็ได้พบกับความจริงใหม่ๆ เกี่ยวกับพี่ชายของฉันและพี่เทวูคนนั้นว่าสองคนนี้ทั้งสนุกทั้งน่ารักเลยละ
จดเอาไว้ดีกว่าว่าฉันได้เรียนรู้อะไรจากวันนี้บ้าง
1.    พี่ชายฉันเป็นหนุ่มฮ็อตของโรงเรียนเช่นเดียวกับพี่เทวู
2.    ทุกๆ คนต่างก็กลัวพี่เพราะว่าพี่เป็นนักสู้แถวหน้า
3.    พี่เทวูชอบที่จะทำตัวเปิ่นๆ และหยอกล้อสร้างความสนุกอยู่รอบๆ ตัวพี่อึนซัง
4.    พี่ชอบตีหัวพี่เทวูเป็นประจำโดยที่พี่ให้เหตุผลว่ามันเป็นสันดานไปแล้ว เฮ้อ พี่เทวูที่น่าสงสาร
5.    ผู้หญิงสมัยนี้นิยมพฤติกรรมน้ำลายย้อยกันอย่างแพร่หลาย
“นี่! ยัยบ้า หยุดก่อน วันนี้เลิกเรียนแล้วออกมารอฉันที่หน้าโรงเรียนนะ ฉันจะได้พาแกกลับบ้าน” พี่พูดขึ้นมา “แล้วอย่ามัวแต่ชักช้าละ ไม่งั้นฉันจะทิ้งแกไว้ที่นี่”
“ได้คะคุณพี่ชาย ลาก่อนนะคะพี่เทวู” ฉันยิ้มแล้วโบกมือลา
ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าฉันในตอนนี้คือ “โรงเรียนมัธยมโซล” ฉันยืดตัวตรงแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนเพื่อตรงไปยังห้องพักอาจารย์
____________________________________________________________
จบแล้ว
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น