ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ห่างไฟแค่หนึ่งมิน :)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : เธอดีกว่าที่คิด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.03K
      509
      28 ม.ค. 65

    Chapter 4

    เธอดีกว่าที่คิด

     

    ผมลูบข้อศอกตัวเองเบาๆผ่านพลาสเตอร์ยาที่ติดมาได้ประมาณสี่ชั่วโมงกว่า จริงๆแผลมันไม่ได้ใหญ่อะไรมากเท่าไหร่แค่ถลอก แต่ก็เจ็บเอาเรื่องอยู่เหมือนกันตอนที่มันหายชาแล้ว

    แต่จริงๆก็เจ็บไม่เท่าเพื่อนไม่เชื่อใจเราหรอก...

    ตอนแรกผมก็โกรธลมนะที่มันไม่เชื่อที่ผมพูด แต่ถ้าลองคิดดูดีๆถ้าผมเป็นลมผมก็ไม่เชื่อเหมือนกัน ผู้หญิงที่ภายนอกดูใสๆจะร้ายได้ยังไง อีกอย่างลมมันก็อยู่บริษัทเจอคุณนับบ่อยกว่าผม มันก็ต้องเชื่อสิ่งที่ตัวมันเห็นก่อนหน้านี้อยู่แล้ว

    แต่บางทีคนเรานิสัยที่ปฏิบัติกับแต่ละบุคคลก็ต่างกันไป คุณนับอาจจะร้ายลึกๆอยู่ก็ได้

    คนเราน่ะเหมือนกันซะที่ไหน...

    มีอะไรอยู่ในใจตั้งมากมายที่ต่างกัน

    พอผมจะโกรธลมผมก็โกรธมันไม่ลง เพราะความเป็นตัวมันอะเนาะ มันขอโทษผมโดยการยัดเยียดให้ผมกลับกับพี่เพลิง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาเป็นข้ออ้างจนพี่เพลิงต้องไปส่งผมที่บ้าน

    เป็นการไถ่โทษที่ดีมากๆเลย

    ส่วนเรื่องของคุณนับ ผมกับลมคงต้องสังเกตพฤติกรรมของเขาไปเรื่อยๆก่อน ไม่ใช่เพราะว่าเป็นเรื่องที่ผมชอบพี่เพลิงแล้วจะกันท่าคุณนับนะครับ แต่พฤติกรรมการพูดจาและการแสดงออกของคุณเขาที่เกี่ยวกับพี่เพลิงมันทำให้ผมและลมไม่สบายใจ

    กลัวว่าสักวันพฤติกรรมแบบนี้จะส่งผลไม่ดีต่อพี่เพลิงในอนาคต ไม่ว่าคุณเขาจะมีความสัมพันธ์กับพี่เพลิงลึกซึ้งแค่ไหน ก็ไม่ควรจะพูกออกมาให้คนอื่นรู้แบบนี้...

     “ทานข้าวไหมครับ”

     “ครับ?” ผมหลุดออกจากภวังค์ความคิดหันไปมองหน้าพี่เพลิง เมื่อกี้เหมือนพี่เขาชวนกินข้าว แต่ว่าตอนนี้พี่เขาหน้านิ่ง ตามองถนน มือบังคับพวงมาลัยรถเหมือนกับตอนแรก ไม่ได้มีท่าทีเหมือนจะชวนกินข้าว

    หรือว่าผมได้ยินผิด พี่เขาอาจจะไม่ได้พูด เฮ้อ! เบลอแล้วหรอวะ หูเพี้ยนเว่อร์ๆ

     “ว่าไงครับ ทานข้าวกันไหม”

     หืม?

     “ไม่ตอบแปลว่าทานนะ” 

    อะไรวะ...

     “ทำหน้างงทำไมมิน” พี่เพลิงเอ่ยพร้อมกับขำออกมาแล้วมองหน้าผม จะไม่ให้ผมงงได้ไง อยู่ๆก็ชวนกินข้าว อีกอย่างหูผมก็ไม่ได้เพี้ยน

    มีใจหรือเปล่า พี่เพลิงมีใจให้มินหรือเปล่าเนี่ย...

     “วันนี้พี่ยังไม่ได้ทานข้าวเลย ขอแวะทานข้าวก่อนได้ไหม” 

     “อ๋อ” ที่แท้ก็หิวข้าวนี่เอง “ ว่าแต่วันนี้ทั้งวันพี่ยังไม่ได้ทานข้าวเลยหรอครับ”

     “ใช่ครับ วันนี้ทั้งเดินทาง ทั้งแก้งาน ยุ่งจนไม่มีเวลาเลย ได้กินแค่กาแฟกับขนมปังเองครับ”

     “โห! ถ้าพี่หิวก็แวะทานข้าวก่อนก็ได้ครับ ตอนนี้รถก็ติดมากด้วยกว่าจะถึงบ้านผมว่าพี่คงปวดท้องมากแน่ๆ”

      “ขอบคุณครับ”

     “ขอบคุณมินทำไมครับ”

     “ที่เข้าใจไงครับเพราะพี่อาจจะไปส่งมินที่บ้านช้า”

     “ไม่เป็นไรเลยครับมินเข้าใจ เวลาหิวมากๆมันทรมาน แต่ว่าพี่เพลิงจะทานอะไรครับแถวนี้มีแต่ร้านข้างทางนะ”

     “ข้างหน้ามีร้านก๋วยเตี๋ยวที่พี่ชอบอยู่ มินทานได้ไหมมันเป็นร้านข้างทางนะ”

     “มินก็พึ่งถามพี่ไปว่าพี่ทานได้ไหมเพราะมันเป็นร้านข้างทาง”

     “พี่ทานได้ครับ”

     “มินก็ทานได้เหมือนกัน” ผมฉีกยิ้มกว้างมองคนด้านข้าง พี่เพลิงยิ้มบางๆหันมามองผมเช่นกัน 

    พี่เพลิงตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง ก่อนจะขับรถเข้าซอยแคบตรงหน้า แล้วแอบจอดรถเทียบเข้ากับริมกำแพงบ้านในซอยนี้ ผมกับพี่เพลิงเราสองคนลงจากรถก่อนจะเดินออกจากซอย มาที่ริมฟุตบาท

     “ระวังเปื้อนนะมิน”

     “ขอเวลาแป๊บนะครับ” ผมว่าก่อนจะย่อลงนั้งยองๆพับขากางเกงของตัวเองขึ้น เหมือนฝนแถวนี้จะพึ่งหยุดตกไป พื้นเลยมีน้ำขัง และอาจจะเดินเหยียบน้ำจนเปื้อนชายกางเกงได้

     “พี่ช่วย”

     “ไม่เป็น-” ผมพูดยังไม่ทันจบ พี่เพลิงย่อตัวลงนั่งยองๆข้างผม แล้วยื่นมือมาช่วยพับขากางเกงอีกข้างของผมขึ้นให้ ทำแบบนี้จะไม่ให้ผมหวั่นไหวได้ยังไง พี่เพลิงอันตรายต่อใจผมมากเลย “ขอบคุณครับ”

     “ไม่เป็นไรครับ”

     ผมลุกขึ้นยืนแล้วฉีกยิ้มให้พี่เขา ที่ผมเคยคิดมาตลอดว่าพี่เขาดีอย่างนั้นอย่างนี้ วันนี้ผมพึ่งรู้ว่าพี่เขาดีกว่าที่ผมคิดไว้เยอะมาก มากกว่าที่คิด มากจนหาคำอวยไม่ได้แล้วนอกจากพี่เพลิง 

    แค่พูดว่าพี่เพลิงมันคงเป็นศูนย์รวมแห่งความดีงาม...

     “มาบ่อยหรอครับดูเซียนพื้นที่จัง” ผมเอ่ยถามขณะที่เรากำลังเดินข้างๆกัน

     “ก็บ่อยนะ โครงการที่พี่ทำที่นี่เป็นโครงการใหญ่อาทิตย์นึงพี่อยู่ที่นี่ไปแล้วห้าวันบางวันกลับบ้านไม่ทันกินข้าวเย็น ก็แวะกินแถวนี้แหละ”

     “อ๋อ แล้วมาที่นี่พี่เพลิงทานอะไรบ่อยที่สุดครับ”

     “บ่อยสุดหรอ ชายสี่ล่ะมั้งมันใกล้ดีไม่ต้องเดินไกล”

     “หรอครับ พี่เพลิงนี่ก็เป็นคนง่ายๆเหมือนกันนะ”

     “เหมือนโดนด่า ฮ่าๆ แต่เอาจริงๆพี่ก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น”

     “หมายถึงการใช้ชีวิตหรอครับ”

     “ก็...ครับ แล้วจะให้พี่หมายถึงอะไร”

    อะไรก็ได้ครับ แบบ พี่ก็ได้ไม่ยาก จีบง่าย จีบได้เลยอะไรแบบนี้อะ โธ่!

    ผมกับพี่เพลิงเราเดินคุยกันมาเรื่อยๆ สรุปได้ว่าเราจะเข้าร้านชายสี่เพราะมันใกล้สุดแบบที่พี่เขาว่า จัดการหาโต๊ะนั่งแล้วสั่งอาหาร 

    พี่เพลิงสั่งบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงพิเศษกับเกี๊ยวน้ำ ส่วนผมบะหมี่ต้มยำธรรมดาๆ

     “รู้ตัวไหมครับว่ามินชอบมองหน้าพี่” ผมเลิกคิ้วแล้วฉีกยิ้มพร้อมพยักหน้าตอบกลับพี่เขา จะปฏิเสธได้ยังก็เมื่อกี้ผมเผลอจ้องหน้าพี่เขาอีกแล้ว “ทำไมหรอครับ”

     “เอาเรื่องจริงหรือไม่จริงดีครับ” ผมพูดทีเล่นทีจริงแกล้งพี่เขา 

     “เอาเรื่องจริงครับ อยากฟัง”

     “ถ้าเอาเรื่องจริงก็พี่เพลิงหล่อไงครับ”

     “มินก็หล่อนะ”

     “โธ่ อันนั้นผมรู้ครับแต่จะให้ผมมองหน้าตัวเองได้ยังไงล่ะครับลำบากแย่ มองหน้าพี่เพลิงดีกว่าเยอะ”

     “หวงครับไม่ให้มอง” ผมมุ่ยหน้าลงก่อนฉีกยิ้มขำออกมา ตอนพี่เขาเอามือปิดหน้าตัวเอง ทำไมมันน่าเอ็นดูขนาดนี้ 

     “ไม่มองแล้วครับเอามือลงได้แล้ว” พี่เพลิงเอามือลงแล้วอมยิ้ม มุมแบบนี้ของพี่เพลิงผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ทำไมนะทำไมถึงน่ารักได้ขนาดนี้ 

     “มองอีกแล้วนะครับ”

     “ก็มันน่ามองนิครับ แบบไม่อยากละสายตาเลย”

     “ถ้ามินเป็นผู้หญิงแล้วพูดแบบนี้พี่จะคิดแล้วนะครับ ว่ามินชอบพี่” ผมหุบยิ้มลงทันที ในใจตอนนี้คือสั่นไปหมด เพราะผมชอบพี่ไงครับผมเลยพูด ต้องรอให้ผมเป็นผู้หญิงด้วยใช่ไหม พี่ถึงจะรู้ว่าผมชอบ

    เหมือนโดนปฏิเสธไปแล้วเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์

    ว่าเขาไม่ชอบมึง มิน!

     “บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงพิเศษ เกี๊ยวน้ำ บะหมี่ต้มยำค่ะ” พนักงานว่าพร้อมวางอาหารลงบนโต๊ะ “น้ำแข็งสองแก้วนะคะ”

     “ขอบคุณครับ” พี่เพลิงว่าพร้อมฉีกยิ้มก่อนพนักงานจะเดินออกจากโต๊ะเราไป พี่เพลิงเปลี่ยนท่านั่งจากธรรมดาเป็นไขว่ห้าง เปิดกล่องหยิบช้อนกับตะเกียบขึ้นมา

    ทุกการกระทำของพี่เขาดูเป็นธรรมชาติมากแม้ว่าชุดสูทที่ใส่อยู่จะไม่เข้ากับสถานที่เท่าไหร่ แต่ทุกอย่างมันเหมือนถูกสร้างมาเพื่อนพี่เขา ถึงจะดูธรรมดาแต่มันเป็นความธรรมดาที่พิเศษมากสำหรับผม

     “ถ้าบอกว่ามินชอบพี่ พี่เชื่อนะ เล่นจ้องหน้ากันขนาดนี้” ผมเอียงคอมองพี่เขาแล้วพยักหน้าหลายๆที พร้อมขยิบตาหลายๆครั้งเป็นการแกล้งคนตรงหน้า เผื่อจะซ้อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ “ตลกหรอเรา”

     “ไม่ตลกครับ”

     “อะไรที่ไม่ตลกครับ”

     ผมเม้มปากแน่นก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา “ก็ผมชอบพี่ไง”

     “...”

     “เชื่อไหมครับ” ผมรีบเอ่ยออกมาทันควัน เพราะพี่เขาเริ่มเงียบลงเหมือนกำลังอึ้งอยู่ ผมว่ามันคงเร็วไปที่จะพูดคำๆนี้ หรือไม่ก็ ผมไม่ควรพูดมันออกไปเลย จะพูดแล้วนะว่าล้อเล่น

     “เชื่อครับ” 

     “ครับ?”

     “ก็เชื่อที่มินพูดเมื่อกี้ไง ก็พี่บอกไปแล้วถ้ามินบอกชอบพี่ พี่ก็เชื่อ”

     “ผมพูดจริงๆนะ”

     “ครับ” พี่เพลิงพยักหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไร

     “ผมพูดจริงๆนะเนี่ย ผมชอบพี่จริงๆ” หรือพี่เขาคิดว่าผมพูดเล่นจริงๆ พี่เพลิงพยักหน้าตอบผมแล้วหันกลับไปตั้งใจปรุงบะหมี่ของตัวเองต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ผมชอบพี่เพลิง”

     “ครับ ไม่ต้องย้ำก็ได้ พี่รู้แล้ว”

     “เอ่อ... ผมพูดเล่นนะครับ” ผมเอ่ยออกไปอย่างงงๆ ขอดักไว้ก่อนกลัวพี่เขาจะคิดจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ แต่ในตอนนี้ ทุกอย่างมันชวนสับสนไปหมด

     “ครับพี่เชื่อ เพราะถ้าเราชอบพี่จริง เราคงจีบพี่ไปนานแล้ว”

     “ผมชอบพี่จริงๆ”

     “ครับ แล้วทำไมไม่จีบพี่ล่ะ”

    เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!

    อะไรวะ?

     “ถ้าผมชอบพี่ผมต้องจีบพี่หรอ” ผมเอ่ยถามออกไป เน้นย้ำว่าทีเล่นทีจริง ยิ้มๆว่า ทำเหมือนไม่จริงจัง

     “ถ้าชอบก็ต้องจีบสิครับ ไม่จีบแล้วจะได้หรอ พี่หล่อขนาดนี้ หุ่นก็ดีมาก เปิดผ้ามาเราต้องตกใจมากแน่ๆ ถ้าไม่รีบจีบระวังจะเสียใจนะครับ”

     “กำลังขายตัวเองให้ผมอยู่หรือเปล่าเนี่ย”

     “พี่แค่พูดให้ฟังครับ”

     “ผมเริ่มอยากได้พี่จริงๆแล้วนะ”

     “ก็สู้ๆนะครับ พี่จีบไม่ยากหรอก”

     “แบบนี้ก็ได้หรอครับ”

     “ครับ พี่เป็นคนแบบนี้แหละ”

     “ผมจะสู้นะครับ”

     “สรุปเราชอบพี่จริงๆใช่ไหม”

    อ่าว!?

     “หึ! ไม่บอกหรอก อย่ามาหลอกถามกันเลย” ผมว่าพร้อมฉีกยิ้มกว้าง “ทานกันเถอะครับ เส้นอืดหมดแล้วนะ”

     “ครับ”

    ผมฉีกยิ้มกว้างพยักหน้าตอบกลับ มองคนน่ารักเท่าโลกคีบบะหมี่เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย 

    ผมชอบความรู้สึกในตอนนี้มากเลย ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของคนที่เราชอบ ได้นั่งมองหน้า พูดคุยแบบไม่รู้สึกอึดอัด เป็นกันเองเหมือนพี่น้อง แววตา รอยยิ้ม ที่แสดงออกมามันจริงทั้งหมด...

    นึกไปถึงเมื่อก่อนตอนที่ผมพึ่งรู้สึกตัวว่าแอบชอบพี่เพื่อน มันอาจดูเหมือนตลกที่ผู้ชายแมนๆคนหนึ่งผ่านการมีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด แอบหลงรักผู้ชายแมนๆเหมือนกัน

    ครั้งแรกที่ผมได้มอง รับรู้ถึงความใส่ใจและความอบอุ่นของพี่เพลิงมันเป็นอะไรที่ทำให้ผมใจเต้นตลอดทุกครั้งที่เจอ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีพี่เขาก็ยังเป็นแบบนั้นเสมอ

    ตลอดเวลาที่ผมรู้ว่าตัวเองกำลังหลงรักผู้ชายคนนี้ ผมผ่านการสับสนมาหลายรูปแบบมาก ไม่รู้ว่าตัวเองต้องอยู่จุดไหน ชอบพี่เขาในสถานะอะไร ผ่านการนั่งงงกับชีวิตว่าตัวเองเป็นรุกหรือรับ ทำไมอยู่ดีๆถึงเป็นแบบนี้ นั่งร้องไห้ขอโทษไอ้ลมที่คิดไม่ซื่อกับพี่มันจนโดนมันโบกหัว

    สุดท้ายคำตอบทุกอย่างมันก็มาจากความรู้สึก...

    ผมไม่เคยกล้าที่จะยอมรับตัวเองเลย ไม่กล้าจีบพี่เขา ไม่กล้าเข้าหาเกินกว่าน้องคนหนึ่ง ไม่ใช่เพราะยังไม่ถึงเวลาแต่เพราะผมไม่กล้า มันยากมากเลยนะครับที่จะพูดคำว่ารักออกไป

     แต่ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมจะทนเก็บความรู้สึกตัวเองแบบนี้ต่อไปไหวไหม ถ้าวันหนึ่งเสียพี่เขาไปโดยที่เรายังไม่ได้ทำอะไรเลยมันจะคุ้มจริงๆหรอ 

    สู้เสียพี่เขาไปแต่เรายังได้บอกความรู้สึกจริงๆมันจะดีกว่าไหม ให้พี่เขารู้ว่าบนโลกนี้มีไอ้มินหนึ่งคนที่รู้สึกรักและชอบพี่เขามากๆ ชอบที่พี่เพลิง เป็นห่วง และอยากใส่ใจ

    เอาวะ!!!

     “พี่เพลิง” ผมเอ่ยเรียกชื่อพี่เขาเสียงเบา สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพร้อมรวบรวมความกล้าทั้งหมดตลอดสองปีที่ผ่านมา

     “ครับ?”

     “ผมจีบพี่นะ” พูดออกไปแล้ว ผมพูดไปแล้ว...

     “พี่รุกนะครับ ไม่รับให้”

     “ผมเตรียมใจมาแล้วครับเรื่องนั้น” 

    พี่เพลิงดูอึ้งๆก่อนจะขำในลำคอออกมา “อันนี้จริงหรือเล่นครับ พี่เริ่มแยกไม่ออกแล้ว”

     “จริงครับอันนี้เรื่องจริง”

     “ถ้าไอ้ลมรู้ว่าเรามาขอจีบพี่แบบนี้ ไม่โดนมันล้อแย่เลยหรอครับ หืม?”

     “เกี่ยวอะไรล่ะครับ”

     “ไม่เกี่ยวหรอกครับ พี่แค่หาอะไรพูด มินอยากทำอะไรก็แล้วแต่มินนั้นแหละครับ”

     “...”

     “พี่ห้ามมินไม่ให้จีบพี่ไม่ได้อยู่แล้ว สู้ๆนะครับ” พี่เขาว่าพร้อมฉีกยิ้มกว้างพร้อมขำออกมาเล็กน้อย ผมเดาอารมณ์และสถานการณ์ไม่ถูกแล้วนะเนี่ยตอนนี้ “เส้นอืดหมดแล้วครับ”

     “อ๋อครับ”

    อิหยังวะ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทุกคนรู้ คนอ่านรู้ พี่เพลิงน่ะตัวดี ตัวดีแปลว่าอิสระ ฉันไม่ตกเป็นเหยื่อคุณหรอกค่ะ!!!

    แต่น้องตกไปแล้วนะ 55555

     

    #ห่างไฟแค่หนึ่งมิน



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×