ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    >>>เจ็ดเทวะ<<<

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : Kitist…&…ความลับ…&…ชักดาบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 77
      1
      23 ธ.ค. 48

    “อื้ม! เชื่อแล้วว่านายน่ะ ฟ้าฟาดจริงๆ แต่ชั้นแนะนำนะ ถ้านายสงบ หรือเย็นลงบ้างคงจะดี” เธอกล่าวยิ้มๆ



    “สีประจำนายคือสีแดงชัวร์ อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้  เพราะหัวนายมันบอก” เธอหัวเราะพลาง



    “วันที่นายเกิดน่ะ นายต้องเสียคนที่นายรักไปใช่รึเปล่า ชั้นเสียใจด้วยนะ” เธอกล่าวเศร้าๆ







    “แล้วไง นี่เธอเป็นใครกันแน่ บอกมานะ ไม่งั้นเป็นเรื่อง ผู้หญิงก็ผู้หญิงเหอะ



    กวนประสาทแบบนี้ก็คงไม่เอาไว้หรอก” เขากล่าวอย่างโมโห







    ใช่แล้วถึงเขาจะเพิ่งเกิดก็เถอะแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าวันเกิดของเขาคือวันที่เขาสูญเสียแม่ไป



    หนำซ้ำพี่ชายเขายังคอยพูดกรอกกหูอยู่ทุกวัน ‘นี่ถ้าไม่มีแกแม่ก็คงไม่ต้องจากไป ครอบครัวเราคงไม่ต้องเป็นแบบนี้’



    พี่ชายเขาพร่ำแบบนี้มาตลอด นั่นทำให้เขาต้องออกจากบ้าน



    ไปอยู่กินที่สำนักดาบโตเกียวซิตี้พอเรียนดาบจบแล้วเขาก็ขออาจารย์ออกเดินทาง



    ‘ข้าอยากท่องโลกกว้าง’ เขาบอกพี่น้องที่สำนักอย่างนั้น



    ‘เจ้ามีภาระต้องแบกรับนะ เคนจิ วันหนึ่งข้างหน้า เจ้าต้องตามหาดาบเล่มหนึ่ง แล้วโชคชะตาจะนำพาเจ้าไปเอง’



    อาจารย์เขาบอกมาแบบนี้ เขาจึงต้องเดินทางมาถึงที่นี่



    แล้วสุดท้ายก็มาถูกเด็กผู้หญิงคนหนึ่งน่ารำคาญ แถมยังทำเหมือนรู้เรื่องของเขาด้วย







    “ชั้นน่ะนะ ชื่อคิติสต์ ส่วนชื่อเต็มๆ ก็คิติสต์เหมือนกัน สีม่วงคือสีของชั้น แล้วก็นี่” เธอบอกพร้อมกับยื่นของสิ่งหนึ่งออกมา



    เป็นแหวนเงิน มีหัวเป็นหินสีม่วงใส \'ฉายาก็วายุคลั่ง\' เธอบอกกับเขา



    “แล้วนายจะให้ชั้นเรียกนายว่าอะไร ไมค์หรือเคนจิ เอ! หรือว่าจะเป็นเจ้าทึ่มดี ชอบชื่อนี้หรือเปล่า” คิติสต์พูดพร้อมกับหัวเราะ







    “ถ้าเธอจะเรียกแบบนั้น ข้าก็จะเรียกเธอว่ายัยตัวแสบแล้วกัน ชอบมั้ยล่ะชื่อนี้น่ะ เข้ากับเธอดีออก” เขาบอกพร้อมกับหัวเราะบ้าง



    แต่คิติสต์ทำหน้างอเหมือนม้าหมากรุก มองเขาแบบเคืองๆ “โอเคๆ งั้นข้าจะเรียกเธอว่าคิติสต์ ส่วนเธอก็เรียกข้าว่าเคนจิแล้วกัน”



    เขาบอกพร้อมกับโบกไม้โบกมือเป็นการขอโทษ ส่วนคิติสต์เองก็ยิ้ม







    “ตกลง ชั้นก็จะเรียกนายว่าเคนจิเหมือนกัน” เธอบอกพร้อมกับกระซิบเบาๆ



    “ส่วนเจ้าทึ่มน่ะ ถือว่าเรารู้กันสองคน เป็นความลับระหว่างเรานะ จำไว้” คิติสต์บอกพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์







    “ก็ได้ งั้นยัยตัวแสบก็เป็นความลับระหว่างเราเหมือนกัน” เคนจิพูดพลางยักคิ้วให้ พร้อมยิ้มอย่างมีชัย คิติสต์เองก็หัวเราะออกมา







    “เอ้า! นี่คุยดีกันได้แล้วเหรอ ตะกี้ทำยังกับจะกินเลือดกินเนื้อกันยังงั้น” ชายชราพูดพลางหัวเราะ



    “เรามันก็ชอบไปกวนโมโหคนอื่นซะยังงั้นน่ะ” ชายชรากล่าว พร้อมกับลูบหัวคิติสต์







    “แหม คุณตาก็ นานๆ จะเจอเด็กรุ่นน้องสักที หนูก็อยากคุย อยากแกล้งนี่คะ



    อีกอย่างหนูก็ไม่ได้คุยกับคนอื่นมาตั้งนานแล้ว” คิติสต์บอกชายชราอย่างร่าเริง



    “แล้วนาย เคนจิ ชั้นจะบอกวิธีเอาดาบออกจากฝักให้ อยากรู้รึเปล่า” คิติสต์หันมาถามเคนจิ







    “อื้อ! บอกมาเลย เตรียมแคะหูฟังอยู่” เคนจิบอก



    “แล้วเวลาเธอพูดน่ะ อย่าเรียกตัวเองว่าหนูได้ไหม ฟังแล้วมันขัดๆ หูยังไงไม่รู้อ่ะ



    แล้วที่บอกว่าข้าเป็นเด็กรุ่นน้องน่ะ เกินไปแล้ว ดูเธอตัวเล็กกว่าอีก” เขากระซิบบอก พร้อมทั้งยืนเทียบให้ดู



    คิติสต์ตัวแค่หูของเขาเท่านั้นเอง







    “พูดดีไปเจ้าหนุ่ม คิติสต์น่ะ อายุมากกว่าเจ้าซะอีก อย่ามองแค่ผิวเผินสิ



    บางทีสิ่งที่เห็นอาจเป็นภาพลวงตาก็ได้” ชายชรากล่าว พร้อมทั้งหันมายิ้มกับหลานสาว







    “แล้วนายก็ไม่ต้องเรียกชั้นว่าพี่หรอกนะ มันเขินน่ะ นายเองก็เหอะ เลิกเรียกตัวเองว่า ‘ข้า’ สักที ฟังแล้วมันเถื่อนไป



    เรียกตัวเองว่าชั้นก็ได้ ไม่ว่ากันหรอก” คิติสต์บอกพร้อมทั้งหัวเราะ



    เคนจิทำหน้าเบ้เมื่อนึกถึงว่าเวลาพูด ต้องแทนตัวเองว่า ‘ชั้น’ ชายชราเองก็อดขำไม่ได้ที่เห็นหน้าเขาแบบนั้น



    “อ้อ! ถ้าไม่ชอบก็ เรียกตัวเองว่า \'ผม’ แล้วกัน สิ้นเรื่อง แล้วเรียกชั้นสั้นๆ ว่า คิตส์ก็พอ” คิติสต์บอก







    “ตกลง ค่อยง่ายหน่อย เอาล่ะบอกสักทีสิ ว่าจะเอาดาบออกจากฝักยังไง” เขาถาม แล้วจ้องหน้าคิติสต์







    “ก่อนอื่น นายต้องมีสมาธิ ทำใจให้นิ่ง แล้วนายก็ดึงดาบออกมาเท่านั้นเอง” คิติสต์บอก



    “ดูนะ” เธอหยิบดาบขึ้นมา พลางมองหน้าเขา แล้วชักดาบออกมาจากฝักอย่างง่ายดาย



    ทันทีที่เขาเห็น ใบดาบใหญ่ ตัวดาบเป็นสีเงินส่องประกาย เขาก็จ้องมองมันตาไม่กระพริบ







    “แค่เนี่ย! ง่ายจะตาย” เขาบอกพลางเอื้อมมือมาหยิบดาบ คิติสต์รีบเอาดาบใส่ฝักทันที



    แล้วส่งให้เขา เขารับดาบไว้ในมือพลางเพ่งมองมันอย่างเอาเป็นเอาตาย จากนั้นจึงออกแรงดึงดาบออกมาปรากฏว่า







    “ไหนนายบอกว่าง่ายไง เคนจิ ทำไมดึงไม่ออกเล่า” คิติสต์ถาม พลางทำท่าล้อเลียน



    “โทษที ทีนี้นายต้องมีสมาธิหน่อย สมาธิน่ะ ไม่ได้หมายถึงให้นายจ้องดาบแบบนั้น แต่อยู่ที่ใจนายตะหาก



    ใจสงบเมื่อไหร่ เรื่องดาบก็เล็กเท่าขเศษผง” เธอบอกเขาอย่างจริงจัง คราวนี้เขาจึงลองใหม่อีกครั้ง



    เขากำหนดใจของเขาให้นิ่งสงบ ไม่พะวงวุ่นวายกับเรื่องอื่น แล้วเขาก็ดึงเอาดาบออกจากฝักอีกครั้ง และคราวนี้







    “ดูท่านายจะยังไม่สงบจริงๆ นะเนี่ย” คิติสต์บอก พลางจ้องเขาอย่างจริงจัง







    “ถ้าเธอดึงออกแล้ว ทำไมไม่เอาไปซะเลยล่ะ” เขาถามฉุนๆ พลางมองเธออย่างจริงจังเหมือนกัน







    “มันติดอยู่นิดเดียวน่ะ จริงอยู่ที่ชั้นดึงออกได้ แต่ดาบเล่มนี้ไม่ได้เลือกชั้น และชั้นก็ไม่ได้ถูกกำหนดมาให้คู่กับดาบนี้ด้วย



    ชั้นยอมรับนะว่าชอบดาบนี้ตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะ แต่อันนี้ต่างหากที่ถูกกำหนดมาให้คู่กับชั้น” เธอบอกพร้อมกับหยิบพัดออกมา



    ซึ่งเคนจิเองก็ไม่ทันสังเกตว่าเธอเก็บไว้ตรงไหน







    “พัดเนี่ยนะ” เขาถามพลางมองพัดอย่างพินิจพิเคราะห์







    “ใช่แล้วล่ะ ดูเผินๆ ก็เป็นแค่พัดธรรมดา แต่นายคิดว่ามันจะไม่เชยไปเหรอ เป็นถึงอาวุธคู่กายชั้นเลยนะเนี่ย” คิติสต์บอก



    พลางสะบัดพัดออกมา แต่ละซี่ของมันทำจากแร่เงินบริสุทธิ์ ส่องประกาย เมื่อเขาเพ่งมองใกล้ๆ จึงรู้ว่าเป็นใบมีด



    “นอกจากจะเป็นพัดแล้วก็อย่างที่เห็นเป็นมีดได้ด้วย และที่สำคัญก็นี่ล่ะ...” เธอหลับตาลงพลางกำพัดไว้แน่น



    แล้วจึงท่องคาถา จากนั้น พอเธอลืมตา เธอก็โบกพัดใส่หน้าเขา เขาถึงกับหงายหลังล้มตึงไปเลย



    เหมือนกับว่าลมที่มาปะทะร่างเขานั้น ราวกับลมพายุทีเดียว “เป็นไง เย็นสบายไหม ขอโทษทีแล้วกันนะ”



    เธอบอกพร้อมกับดึงมือเคนจิที่นอนอยู่กับพื้นขึ้นมา “นี่แหละ เป็นที่มาของฉายาชั้น



    อักษรโบราณที่สลักไว้ที่ตัวพัดคือคาถาที่ใช้ควบคุม ก็คงประมาณว่า คนตัวเล็กอย่างชั้นน่ะ สามารถเรียกพายุได้แล้วกัน



    จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับความคิดและจิตใจ ยิ่งโกรธมากเท่าไร พายุก็จะยิ่งรุนแรงตามไปด้วย” เธอบอกอย่างภาคภูมิ



    “แต่ที่ชั้นรู้มาแบบนี้ ก็เพราะคุณตาท่านเป็นคนบอกหรอกนะ อันนี้เป็นความดีความชอบของท่าน และเป็นโชคของชั้นด้วยล่ะ”



    เธอพูดยิ้มๆ







    To Be Cont...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×