ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    >>>เจ็ดเทวะ<<<

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 : Foreword…&…Mike Kenji…&…เหล็กน้ำพี้

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 219
      1
      23 ธ.ค. 48



                         กรุงเทพเมื่อปีค.ศ.2999 บริเวณย่านดิโอลด์บางกอก ซึ่งขณะนี้กลายเป็นตลาดขายของเก่าแก่โบร่ำโบราณ



    ตั้งแต่ยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 – 5 หรือศึกระหว่างเลือดสามสี แม้กระทั่งการวิวาทครั้งใหญ่ของห้าสถาบันที่สยามดิสเทิร์บิวรี่



    เหตุการณ์ที่กล่าวขึ้นทั้งหมดนี้ ล้วนก่อให้เกิดฮีโร่และจอมมารตั้งมากมาย



    เมื่อปัจจุบันสถานการณ์สงบลง บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข อาวุธต่างๆ ที่ใครเคยมีไว้ในครอบครอง



    บ้างก็ยังคงเก็บเอาไว้เป็นสมบัติตกทอดชั่วลูกสืบหลาน บ้างก็ถูกนำมาวางขายที่นี่



    ไม่ว่าจะเป็นดาบของนายจันหนวดเขี้ยวเมื่อสมัยรบที่บ้านระจัน หรือดาบเลเซอร์ของดาธมอร์ ขวานของนายทองเหม็น



    หรือขวานของคนแคระในมอเรีย แม้กระทั่งคันธนูของเอลฟ์และดาบคู่ของเหล่ามาไจในฮามุนัพทรา



    หรือสุสานนครของฟาโรห์เซติก็ยังมีให้เห็นที่นี่เหมือนกัน







    ทุกวันตั้งแต่เช้า ที่นี่จะคลาคล่ำไปด้วย ‘คนในวงการ’ หรือ คนประเภท ‘ตัวเอ้’



    ประมาณว่าคนที่ทางการต้องการตัวเรื่อยไปจนถึง ‘คนที่คุณก็รู้ว่าใคร’ มารวมตัวกันเสมอ



    บ้างมาแวะทักทาย บ้างมาแลกเปลี่ยนข่าวสาร แต่ส่วนใหญ่ก็จะมาถามหา ‘ของ’ ด้วยเหมือนกัน







    แต่วันนี้ที่ว่ามาแปลกกว่าทุกวันก็คือ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาจากต่างเมือง



    สวมเสื้อยืดแขนยาวสีขาวไว้ข้างใน และมีเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสวมทับไว้ข้างนอก สะพายย่าม



    ผมสั้นเกรียนสีแดงเพลิง มีผ้าพันที่ข้อมือซ้าย เด็กหนุ่มคนนี้ไม่มีใครรู้จัก ไม่ว่าจะทั้งในและนอกวงการ



    แต่ไม่ว่าร้านไหนที่เขาเดินเข้าไป คนขายทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘เยือกเย็นจนเย็นยะเยือก’



    และของที่เขาไปถามหานั้นก็เล่นเอาคนขายเสียวสันหลังวูบไปตามๆ กัน







    ถ้าใครที่สังเกตพฤติกรรมของเด็กหนุ่มคนนี้ ต้องบอกเลยว่าเขาไม่ได้เดินเข้าร้านอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า



    แต่เดินเข้าร้านเหมือนกับเท้าพาไป หลายครั้งที่เขาหยุดตรงหน้าร้านหนึ่งเป็นเวลานาน แต่สุดท้ายก็หันเดินไปอีกทาง



    เขาเดินเรื่อยมาจนถึงหน้าร้านหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่ทันสังเกตก็แทบจะมองไม่เห็นทางเข้าร้านนี้เลย



    เพราะมันตั้งอยู่ตรงหัวมุม มีเพียงทางเข้าแคบๆ รกยังกับรังหนู



    และร้านนั้นเอง ที่เขาเดินเข้าไปข้างในโดยไม่ต้องลังเล แม้ดูข้างนอกจะรกรุงรัง แต่ข้างในก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว



    มีชุดน้ำชาวางอยู่บนโต๊ะกลมที่มุมห้อง มีรูปเขียนเก่าๆ แขวนไว้ตามฝาผนัง และมีชายแก่คนหนึ่งนั่งสูบบุหรี่ใบจากอยู่









    “ข้ารู้แล้วว่าเจ้าต้องมา” ชายแก่นั้นพูดพลางพ่นควันสีเทาๆ ของใบจาก ซึ่งในสมัยนั้นแทบไม่มีใครสูบกันแล้ว



    ส่วนใหญ่คนจะสูบบุหรี่ด้วยหลอดแก้วขนาดเท่าซิการ์ เพียงแต่เอายาวางไว้ตรงกระเปาะข้างหน้าแล้วสูบผ่านน้ำในหลอดแก้ว



    ซึ่งน้ำนั้นก็จะมีหลายสีแล้วแต่ชอบ แต่ละสีก็จะมีรสและกลิ่นต่างกันด้วย “มาผิดเวลานี่เรา หลงทางหรือไง” ชายแก่นั้นถามอีก







    “ร้านนี้สุดท้ายแล้วนะ ถ้าไม่มีละก็ ที่นี่จะต้องแหลกเป็นจุณแน่” เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าว







    “มีสิ มรดกตกทอดของข้าเชียวนะ... แต่ข้าไม่ขายหรอก” ชายแก่คนนั้นกล่าว พลางหัวเราะชอบใจ







    “ถ้าไม่ขายก็คงต้องขอวัดกันดูแล้ว” เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าวอีก พร้อมทั้งถอดย่ามที่สะพายออกวาง







    “อย่าอารมณ์เสียง่ายนักสิ” ชายแก่คนนั้นกล่าวพลางมองลอดขนคิ้วยุ่งๆ ที่ยื่นออกมา







    “ที่ข้าว่าไม่ขาย ก็เพราะของสิ่งนี้ไม่ควรค่าไว้ขาย คุณค่าของมันมากเกินกว่าจะตีเป็นราคาค่างวดได้ จำเอาไว้ เจ้าเด็กไร้มารยาท”



    ชายแก่คนนั้นกล่าวอย่างเหลืออด







    “ถ้างั้นก็ส่งมา...ข้าจะได้ไปจากที่นี่เสียที” เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าวอีก







    “ให้ข้าได้เห็นฝีมือเจ้าก่อนสิ จะดูซิว่าคู่ควรกับของสิ่งนี้ไหม และเจ้าจะได้ของสิ่งนี้ไปหรือไม่ ของนี้แหละจะเลือกเอง”



    ชายแก่คนนั้นกล่าว พลางเดินไปหยิบเอาห่อของสิ่งหนึ่งออกมาวางลงตรงหน้าเด็กหนุ่มคนนั้น



    “ทีนี้ก็ช่วยเอาออกจากฝักให้หน่อยแล้วกันนะ...เจ้าเด็กน้อย” ชายแก่นั้นบอกกับเขา







    “ของง่ายๆ” เด็กหนุ่มคนนั้นบอก เขาจัดแจงเอาผ้าที่ห่อออก



    ปรากฏเป็นดาบเล่มหนึ่ง ความยาวทั้งใบดาบและด้ามนั้นราว 2 ฟุตครึ่งได้



    บางคนที่เคยถือดาบนี้ก็ว่าหนักเหมือนหิน บางคนที่เคยถือก็ว่าเบาราวกับปุยนุ่น







    ครั้งหนึ่งตามตำนานของดาบนี้กล่าวว่า มันเป็นดาบคู่ มีดาบพี่ ดาบน้อง ตัวดาบน้องหักกลางสนามรบ



    จากนั้นมา ดาบพี่ก็หมดคมไปเฉยๆ ดาบพี่ร่ำไห้ ไม่ยอมออกจากฝักนานเป็นร้อยปี



    สุดท้าย ดาบพี่เข้าฝันกับช่างตีดาบคนหนึ่งให้หลอมตนเองรวมกับดาบน้องและเศษที่หัก แล้วใช้ตีดาบขึ้นมาใหม่



    แล้วช่างคนนั้นก็ให้ชื่อว่า ‘เหล็กน้ำพี้’







    เคยมีคนตายเป็นร้อย เพื่อแย่งชิงดาบนี้ จนทายาทของช่างตีดาบต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี



    และหลบหนีไปไม่เป็นหลักแหล่ง เดินทางไปเรื่อยๆ เปลี่ยนที่อยู่ไปตลอด



    จนท้ายที่สุดก็ไม่มีใครตามหาพบ และบัดนี้ มันกำลังจะถูกดึงออกจากฝักอีกครั้ง







    เด็กหนุ่มคนนี้กำลังใช้ความพยายามถึงสามครั้งในการดึงดาบออกจากฝัก



    “ใจเย็นเข้าไว้เจ้าหนุ่ม ให้เหมือนกับตอนแรกที่เจ้าออกตามหาดาบเล่มนี้สิ สุขุมให้มากกว่านี้หน่อย



    ไม่ยังงั้น เจ้าต้องทนอยู่กับข้าที่นี่ก่อน จนกว่าจะดึงดาบได้นั่นแหละ” ชายชรากล่าว พลางพ่นควันออกมาจากปาก







    ขาดคำ เด็กหนุ่มคนนั้นยกดาบขึ้นมา เงื้อสุดแรง หวังจะฟาดให้หักหรือให้ฝักดาบแตก หรืออะไรก็ตาม



    ก็มีเด็กหญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากที่ไหนไม่มีใครทันสังเกต เธอเอื้อมมือมาดึงเอาดาบไปจากมือเด็กหนุ่มคนนั้น



    “นายคิดจะทำอะไรน่ะ” เธอกล่าวอย่างหัวเสีย นัยน์ตาสีดำฉายประกายกล้า







    ผมดำยาวถูกรวบไว้ที่ต้นคอ สวมเสื้อยืดสีขาวและมีเสื้อเชิ้ตสีม่วงสวมทับไว้ กางเกงตัวใหญ่ยาวกรอมเท้า มีผ้าพันเอาไว้ที่ข้อมือซ้าย



    “โง่มากนะ ที่คิดจะลงมือแบบนั้น” เธอว่าพลางจ้องหน้าเด็กหนุ่มคนนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย “นายใช่ไหม ที่มาตามหาสิ่งนี้น่ะ”







    “ใช่ แล้วไงล่ะ เธอเป็นใคร” เด็กหนุ่มคนนั้นถาม พลางจ้องเธออย่างไม่ละสายตาเหมือนกัน







    “นายบอกชื่อนายมาสิ ถ้าแค่เอ่ยชื่อมา แล้วใช่ชื่อที่ชั้นรู้ล่ะก็ ชั้นจะบอกวิธีเอาดาบออกจากฝักให้” เธอกล่าว พลางหัวเราะชอบใจ



    “ชั้นน่ะ รู้อะไรเยอะแยะกว่านายอีก เจ้าทึ่ม”







    “ปากดีนักนะ” พูดจบเขาเดินไปหาเธอ ชายชราจึงลุกขึ้นมาขวางไว้







    “ฟังที่ยายหนูนี่พูดบ้าง เจ้าน่ะ ยังควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เลย



    แล้วอย่างนี้ ความมุทะลุของเจ้าจะไปใช้อะไรได้กับดาบเล่มนี้ล่ะ” ชายชราคนนั้นกล่าว







    “เรื่องง่ายๆ เจ้าก็บอกชื่อเจ้ามาก่อน แล้วเดี๋ยวยายหนูนี่ก็จะบอกเจ้าเองแหละ”







    “ข้าชื่อเคนจิ” เขาตอบห้วนๆ อย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่







    “อ่ะ เป็นเด็กญี่ปุ่นเหรอ อย่ามาอำน่ะ เอาชื่อจริงสิ เต็มๆ ด้วย แล้วฉายานายอีก” เด็กหญิงคนนั้นถาม







    “ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ ข้าบอกว่าชื่อเคนจิ ก็เคนจิสิ ชื่อเต็มๆ ก็ ไมค์ เคนจิ ฉายาฟ้าฟาด” เขาบอก







    To Be Cont...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×