ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Story of The Magical Power

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1 จุดเริ่มต้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 31
      0
      1 ธ.ค. 48

        เดิมที ดินแดนนี้นั้น เต็มไปด้วยสันติสุข ชนทุกเผ่า ต่างก็อยู่กันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย



    บิงค์เป็นเมืองใหญ่ ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางสุดสายตา มีทุ่งหญ้า ป่าเขา และสายน้ำ



    กษัตริย์ราชวงศ์บิงค์ ปกครองมาหลายชั่วอายุ ด้วยความที่กษัตริย์เป็นผู้ที่ยึดถือในหลักราชธรรม



    บ้านเมืองจึงสงบสุขเรื่อยมา อาณาประชาราษฎร์ต่างแซ่ซร้องสรรเสริญ



    ทุกปีจะมีงานรื่นเริงเป็นประจำ และทุกเผ่าจะส่งคนมาร่วมงานตลอดจนกลายเป็นธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติต่อกันมา  



    เช่นกันที่เมื่อเผ่าใดจัดงานเลี้ยงขึ้น หากแม้กษัตริย์มิอาจจะไปได้ ท่านก็จะส่ง เบเดน โอรสแห่งบิงค์ไปแทน



    เบเดน เป็นหนุ่มที่หล่อเหลาเอาการทีเดียว โครงหน้าได้รูป จมูกตั้งเป็นสัน ไหล่กว้างสมเป็นชายชาตรี



    ปัญญาหลักแหลม และกล้าหาญเยี่ยง เบซัค ผู้เป็นพ่อ บัดนี้ เบเดนมีอายุได้ 20 ปีแล้ว แต่กระนั้น



    เบซัคก็ยังไม่วางใจที่จะมอบหมายภาระกิจนี้ให้เขาดำเนินการเพียงลำพัง







    “เจ้ายังต้องเรียนรู้อีกมากเบเดนช่วงแรกพ่อจะไปกับเจ้า แต่หลังจากนั้นเจ้าต้องทำด้วยตัวของเจ้าเอง”







    “อะไรคือสิ่งที่ข้าต้องเรียนรู้หรือ ท่านพ่อ ข้าไม่เข้าใจเลย อีกอย่าง ข้าได้ยินมาว่า



    เคย์ร่า กับท่านพ่อเป็นเพื่อนเก่ากันมานานแล้วไม่ใช่หรือ”







    “ที่เจ้าได้ยินมาก็ใช่ แต่เจ้ารู้อะไรไหม เคย์ร่า สำคัญมากกว่าใครทั้งนั้น เจ้าจงจำไว้



    บิงค์จะล่มสลาย หากเรา... ช่างเถอะ แต่เจ้าก็น่าจะรู้ บิงค์ อยู่ได้อย่างเป็นสุขมาจวบจนทุกวันนี้นั้น



    ก็เพราะมีออสคอยเกื้อหนุนอยู่ และก็เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”







    “ข้ายังรู้ด้วยว่า พวกออสเป็นอมตะใช่ไหม แล้วทำไมเราไม่เป็นอย่างนั้นบ้าง”







    “ทำไมเหรอ อืม!เจ้าไม่เคยถามพ่อว่าทำไม อย่างนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ พอเราไป ซีซิลลอส



    แล้วเจ้าคงจะรู้อะไรขึ้นบ้าง หลับให้สบาย พรุ่งนี้เราต้องเดินทางไกล”







        รุ่งเช้า ม้าขาว 2 ตัว รออยู่หน้าปราสาทแล้ว เบซัคอยู่ในชุดสีขาวสง่า



    มีดาบสีเงินแนบข้างตัว ฝักดาบตกแต่งด้วยลวดลายวิจิตร ส่วนเบเดนอยู่ในชุดสีเขียวมรกตชวนมอง  



    สวมหมวกที่ทำจากหนังมังกร ซึ่งเป็นฝีมือของเขา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยหนีออกไปล่าสัตว์โดยลำพังเมื่อ 3 ปีที่แล้ว







    “รักษาตัวด้วยเบซัค แล้วเจ้าอย่าทำอะไรตามอำเภอใจนะ เบเดน ข้างนอกแสนอันตรายยิ่ง”







    “ท่านแม่ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้าโตแล้วนะ อีกอย่างท่านพ่อก็ไปด้วย



    (ก้มลงกระซิบข้างหูแม่- แล้วข้าจะเอาหนังมังกรมาฝากท่าน-) รักษาสุขภาพนะท่านแม่”







    “เจ้าก็ดูแลตัวเองด้วย ไอรีลล์ แล้วข้าจะรีบกลับมา”







    “ถ้าท่านได้พบไอร์ร่า ฝากบอกนางด้วยว่าข้าปรารถนาที่จะได้เจอนางอีก”







        หลังจากที่ออกเดินทางได้สักพัก เมื่อพ้นเขตบิงค์แล้ว เบเดนสังเกตว่ามีสิ่งผิดปกติ



    เหมือนกับกำลังถูกสะกดรอยตาม







    “ท่านพ่อ ท่านรู้สึกอะไรไหม ข้าว่าที่นี่มันแปลกๆ อยู่”







    “เจ้ากำลังสงสัยว่า พวกที่ตามมาคือใครหรือ”







    “ท่านรู้ได้อย่างไร”







    “เจ้าคงลืมไปสินะว่า พ่อเดินทางสายนี้มาก่อนเจ้าหลายสิบปีแล้ว พ่อย่อมรู้ดี



    พวกที่ตามเรามาคือ วัยย์ หรือพวกคนไพร แท้จริงพวกเขาเป็นใครไม่มีใครรู้



    แต่พวกนี้ไม่มีอะไรน่าวิตกหรอก ไม่คิดร้าย ป่านี้คือบ้านของเขา ก็ไม่น่าแปลก ถ้าเขาจะออกมาต้อนรับ ฮึ”







    “อ้อ อีกอย่างนึงท่านพ่อ ไอร์ร่าที่แม่พูดถึง นางคือใครกัน”







    “นางเป็นน้องสาวของแม่เจ้า เป็นลูกสาวของเคย์ร่า...”







    “จริงๆ เหรอท่านพ่อ งั้นแม่ก็เป็นอมตะสิ แล้วข้าล่ะ เป็นอมตะด้วยหรือเปล่า”







    “ไม่ เจ้าไม่มีทางเป็นอมตะได้หรอก ไม่ว่ามนุษย์คนไหนก็ตาม” เบซัคตอบเสียงดุ



    “ถ้าเจ้าอยากรู้ ข้าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ตอนที่พ่อไปซีซิลลอสครั้งแรก



    พ่อยังอายุเท่าเจ้าเองมั้ง หรืออาจจะน้อยกว่า สูงกว่าเจ้าตอนนี้หน่อย แน่นอนล่ะ



    ที่ตอนนี้เจ้าเหมือนพ่อเมื่อก่อนไม่ผิดเพี้ยน เว้นแค่ดวงตาสีเขียวอ่อนโยนคู่นี้ซึ่งเจ้าได้มาจากแม่



    ตอนนั้น แม่เจ้าสวยไม่ต่างจากตอนนี้ พ่อเองไม่เคยเห็นเหล่าออส จึงตกตะลึงในภาพที่ได้เห็น



    ออสทุกตนมีแสงสว่างสีขาวนวลเปล่งอยู่รอบตัว บ้านเมืองต่างกับเราอย่างสิ้นเชิง



    ทุกสิ่งดูขาวดุจปุยนุ่น ออสทุกตนเคลื่อนไหวดุจสายลม แผ่วเบาแต่แข็งแกร่ง



    พ่อไม่มีวันลืมเลย พ่อนับวันรอที่จะมาทำภารกิจนี้เองโดยตลอด ในที่สุด



    พ่อกับแม่ก็รักกัน และนั่นทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป การที่เราแต่งงานกัน แม่เจ้าเลือกที่จะเป็นเราแทน



    ตั้งแต่นั้นมา นางก็สูญเสียอำนาจทุกอย่างที่เคยมี เว้นเสียแต่ แม่เจ้าอ่านใจพ่อได้เสมอ”







        หลังจากนั้นก็เงียบตลอดการเดินทาง จวบจน 2 ข้างทางมีแต่ที่โล่ง



    ไม่มีแม้แต่ต้นไม้ใบหญ้า สายลมพลิ้วไหวแผ่วเบา ราวกำลังกระซิบ ขณะที่เบเดนกำลังจะเคลิ้มหลับ



    ฉับพลันก็รู้สึกว่าถูกลมพายุซึ่งพัดกระหน่ำอย่างรุนแรงดูดเข้าไป ทั้งม้า ทั้งคน



    นานเท่าไรไม่รู้ จากนั้นทุกอย่างก็กลายเป็นสีขาวราวกับปุยนุ่น อย่างที่เบซัคบอก



    –นี่เรากำลังจะตายหรือ ไม่สิ ไม่มีทาง เรากำลังจะไปไหน เราไม่ได้อยู่ที่บิงค์ ใคร ใครเรียก-



    ขณะที่เบเดนลืมตา ภายในห้องนอนสีขาว เขารู้สึกเหมือนนอนบนสำลี



    จากนั้น เขาเห็นหญิงคนหนึ่ง หรือผู้ชาย กำลังเดินเข้ามา







    “ฟื้นแล้วหรือเบเดน ท่านเบซัคอยู่ในห้องโถงถ้าจะไปก็ตามข้ามา”







    To Be Cont...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×