(yaoi18+)My teacher อาจารย์ครับ..สอนวิชารักให้ผมหน่อยได้ไหม!
ปุณ หรือ ปุณณภพ : หนุ่มวัยเกือบ 40 ปี มิน หรือ ภามิน : หนุ่มวัยย่าง 20 ปี ความรักต่างวัยแถมยังเพศเดียวกันจะเป็นอย่างไร? โปรดติดตาม!!
ผู้เข้าชมรวม
565
ผู้เข้าชมเดือนนี้
17
ผู้เข้าชมรวม
ปุณ หรือ ปุณณภพ มิน หรือ ภามิน
***รูปที่นำมาเป็นรูปไอดอลเกาหลีหรือนักร้องเกาหลีค่ะ ไม่มีเจตนาร้ายใดๆค่ะ ขอยืมเป็นอิมเมจของตัวละครในเรื่องนะค่ะ ขอบคุณค่ะะ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
My teacher อาจารย์ครับ !! สอนวิชารักให้ผมหน่อยได้ไหม!
ตอนที่ 1
“อาจารย์ค้าบ!!”
“อึก”มือหนาครอบเข้าที่ริมฝีปากเรียว ก่อนที่แขนแกร่งจะออกแรงดึงร่างบางหลบเข้ามุมเสา
“อยากกอดผมก็ไม่บอก ขอดีๆก็ได้นี่ฮะ”ทันทีที่ริมฝีปากเป็นอิสระ ร่างบางก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส ทำเอาคนข้างหลังกุมขมับ
ปวดหัวกับเด็กนี่จริงๆ
“กลับห้องนายไปได้แล้ว ไม่มีเรียนหรือไง”พูดเสร็จก็เดินออกมาจากซอกนั่น กลัวเป็นจุดสนใจเพราะมีใครหลายๆคนกำลังมองมา
“นี่มันพักกลางวัน อาจารย์จะให้ผมไปเรียนวิชาทำอาหารหรือไงฮะ”ไม่วายคนเดินตามออกมาก็ตอบกลับอย่างชวนหงุดหงิด
“อืม...ถ้ามันมีวิชานี้อยู่ นายก็ไปซะ”คนตัวสูงเองก็ตอบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ แถมยังออกปากไล่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่คนฟังกลับยิ้มรับ
“ไล่ผมจัง ถ้าผมไม่อยู่อาจารย์จะคิดถึงผม”ไม่ว่าเปล่ายังมีแอบเข้าข้างตัวเองเสร็จสรรพ ทำเอาคนที่จ้ำเท้าเดินเร็วๆ ส่ายหน้า
เด็กนี่ รับมือยากจริงๆ
“งั้นนายลองหายไปตอนนี้เลยไหม”ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างเดิม ไม่รู้ว่าเด็กนั่นทำหน้ายังไงอยู่ แต่เสียงที่ควรจะเจื้อยแจ้วหายไปแล้ว แต่เรื่องอะไรผมจะสนหล่ะ ทันทีที่ประตูห้องพักครูอยู่ข้างหน้า ผมก็ไขเข้าไปอย่างไม่คิดอะไรทั้งสิ้น
“ปึง!”เสียงประตูปิดลง
“โห...คุณไม่คิดจะมองหาผมสักนิดเลย แต่ไม่เป็นไร...” ร่างบางที่ไม่รู้โผล่มาจากตรงไหน แต่ก็ทำเอาผู้ชายวัยกลางคนแทบจะลมจับ
“มาจากไหนของนายหะ”พูดไปก็พยายามตีสีหน้าขรึม เดินอ้อมไปหยิบเอกสารมาเปิดดู
“มาจากใจของคุณไงงง”พูดไปก็ยิ้มไป ทำเอาร่างสูงของใครอีกคนเหลือบตาไปมองแปปนึง ก่อนจะก้มทำงานต่อ
“นี่อะไรน่ากินจังฮะ”ไม่ว่าเปล่า คนที่เปลี่ยนเรื่องไปแล้วยังถือวิสาสะ เปิดกล่องข้าวคนอื่นดู
“ข้าวกล่อง”
“คุณทำเองหรอครับ”ร่างสูงบนกองเอกสารหันมองร่างบางนิดหน่อย..
ทำหน้าตาอยากจะกินขนาดนั้น ไม่ให้คงใจดำไปหน่อย
“อืม...ถ้าอยากจะกินล่ะก็...”
“ขอบคุณฮะ!” พูดจบก็นั่งลง เปิดห่อ แถมยังตักเข้าปากเสร็จสรรพ แบบคนที่กำลังจะอนุญาตพูดไม่ทัน แต่ก็ปล่อยเลยตามเลย
“ว่าแต่มาที่นี่ทำไม”ปากถามแต่ส่วนอื่นก็ยังวุ่นอยู่กับเอกสาร
“ก็ผมคิดถึงคุณนี่นา”
พูดได้หน้าตาเฉยจังนะ
“ฉันจะสี่สิบแล้ว”เงยหน้ามองร่างเล็กที่กำลังตักฮอตดอก
“แล้วไง”ร่างเล็กหันมาตอบ พอพูดจบก็งับฮอตดอกเข้าปาก
“นายพึ่งจะยี่สิบ”มองร่างบางที่เคี้ยวฮอตดอกตุ่ยๆ
“สิบเก้าต่างหาก”เคี้ยวเสร็จก็เอ่ยตอบ
“เด็กไปใหญ่”เลิกสนใจร่างบางแล้วหันมาสนใจเอกสาร
“อายุไม่ใช่อุปสรรคของความรัก”วางช้อนตอบด้วยใบหน้าจริงจัง
“ฉันกับนายเป็นผู้ชาย”เงยหน้าอีกรอบ มองร่างบางด้วยใบหน้าที่ดูจริงจังไม่ต่าง
“เพศก็ไม่ใช่อุปสรรคของความรัก”ตอบกลับด้วยใบหน้าที่เชื่อมั่นในคำพูดของตัวเองสุดๆ
“ชีวิตของนายมันคิดน้อยไปรึป่าว คิดว่าสังคมจะมองยังไง แถมนายยังเป็นลูกศิษย์ของฉันอีก”ตอบกลับไปด้วยเหตุผลแบบผู้ใหญ่
“แต่ผมรักคุณนี่นา”และก็ถูกร่างบางตอบกับมาด้วยเหตุผลแบบเด็กๆ...
“นายเข้าใจคำว่ารักหรือป่าว”ตีหน้าเคร่งอีกนิด เพื่อกดดัน
“แล้วคุณเข้าใจหรือป่าว”
จะให้ตอบได้ยังไง ตัวผมเองที่คิดว่ามีความรักกับเขาได้...ก็พึ่งถูกภรรยาทิ้งไป เมื่อครึ่งปีก่อน
“เรื่องของผู้ใหญ่เขา”ร่างสูงตอบจบประโยค ก็หันหน้าไปจัดเอกสารต่อ
“ว่าแต่ว่า ข้าวนี่อร่อยจังน้า~”ร่างบางพูดไปก็จับช้อนมาตักเข้าปากอีกคำ
“หรอ ฉันก็กินอยู่ทุกวัน มันก็ไม่ได้อร่อยอะไร”
“คุณไม่กินผมกินเองก็ได้”
“ใครบอกว่าไม่กิน แค่บอกว่ามันไม่ได้อร่อย.....”หันควับไปมองร่างบางที่ตักเข้าปากแถมยังเคี้ยวยกใหญ่
“….ถ้าอร่อยก็กินไป” เห็นร่างบางดูท่าทางจะอร่อยจริงๆก็เลยปล่อยเลยตามเลย
“ขอบคุณฮะ” ร่างบางอมยิ้ม เอ่ยขอบคุณเสียงดัง แล้วก็เริ่มจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อ
“...”และทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบได้สักพัก
“หมับ”มือบางสวมกอดจากด้านหลังทำเอาคนถูกกอดชะงักค้าง เตรียมอ้าปากจะบ่น
“อย่าพึ่งด่าผมนะ แค่กอดเอง”
คำร้องขอ ที่ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆตามมาจากลำคอเล็ก และคนตัวโตก็ยอมอยู่นิ่งให้กอดไปสักพัก
“ขาดความอบอุ่นหรือไง”
“...”ร่างบางไม่ตอบ แต่กลับกระชับแน่นกว่าเดิม เหมือนจะซึมซับอ้อมกอดนี้ไว้ให้นานที่สุด
“ก๊อกๆ ”ชั่วอัดใจที่เสียงเคาะประตูดัง พร้อมกับร่างบางที่เด้งตัวออก ยืนทำหน้าเลิ่กลั่ก ร่างสูงหันไปมอง ก่อนจะยกยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ
“แกร๊ก”และประตูก็ถูกเปิดออกโดยใครอีกคน
“สวัสดีค่ะ พี่ปุณณภพ” เสียงเอ่ยทักอย่างเป็นทางการ ทำเอาบรรยายกาศดูเคร่งเครียดมากกว่าเดิมนิดหน่อย
“ดีครับ คุณธีรดา”เมื่อร่างสูงมองดูจนแน่ใจว่าใคร ก็เอ่ยทักกลับไป
“แหม่ บอกให้เรียกน้องว่าดาไงคะ”เสียงเล็กแหลม พูดกลับด้วยรอยยิ้ม และ...ร่างสูงก็ยกยิ้มเหมือนกัน ใครอีกคนที่ถูกเมินโดนสมบูรณ์แบบกำลังยืนจ้องมองภาพตรงหน้านิ่ง
กับผมนะ ไม่เคยยิ้มให้...แต่กับผู้หญิงคนนั้น..กับยิ้มง่ายๆ ไม่ยุติธรรมเลย!
“แล้วดาขอเรียกพี่ว่าพี่ปุณ จะดูสนิทกันไปไหมน้า”แล้วเธอก็พูดเองเสร็จสรรพ....ผู้หญิงคนนี้เป็นอาจารย์สอนภาษาไทย รูปร่างหน้าตาจัดว่าดีมากๆเลยทีเดียว อายุอานามก็เลยยี่สิบมาได้สักเจ็ดปี เป็นวัยกำลังพอดี และแน่นอนในความคิดร่างสูงเอง ถ้ามีโอกาสได้เดทกับเธอ ก็จะตกลงแทบจะทันที
“ไม่หรอก แล้วมีอะไรหรือป่าวครับ น้องดา”เสียงเรียกที่เป็นกันเอง แถมยังรอยยิ้มที่ไม่ลดลงจากใบหน้า ทำเอาคนมองคนนึงอายม้วน แต่อีกคนกลับลมออกหู
“คืออาจารย์วิชัย ฝากดาเอาเอกสารมาให้น่ะคะ”ธีรดาพูดยิ้มๆ พร้อมยื่นเอกสารให้ แต่เธอก็สัมผัสได้ว่ามีใครบางคน กำลังจ้องเขม็งมาที่เธอ ทนแรงกดดันไม่ไหว เลยต้องหันไปทัก ตอนแรกว่าจะไม่สนใจแล้วแท้ๆ
“สวัสดีจ้ะ...มีแขกหรอคะ ว้า...ดาว่าจะชวนพี่ปุณไปดูหนังอาทิตย์นี้สักหน่อย ”ทักทายเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะกลับไปสนใจร่างสูงต่อ เมื่อฝ่ายหญิงจู่โจมมาตรงๆ แล้วเรื่องอะไรที่ปุณณภพจะปฏิเสธ สำหรับชายวัยเกือบสี่สิบอย่างเขามีโอกาสแบบนี้.... แน่ล่ะ ใครจะไม่คว้าบ้าง
“อาจารย์บอกว่าจะติวให้ผม...”คนถูกชวนไม่ทันตอบ แต่เป็นอีกคนที่ตอบแทน แถมยังยืนหน้านิ่วคื้วขมวดเป็นปม แบบที่มองยังไงก็รู้ว่า ไม่พอใจแน่ๆถ้าเขาไป แต่หญิงสาวกับเลิกคิ้วสูง ยกยิ้มเพียงนิด
“น่าเสียดายจังนะคะ ที่ต้องใช้เวลาวันหยุดกับเด็กผู้ชาย..”
กรอด... นี่มันมากเกินไปหรือป่าวครับ ! ภามินที่แทบจะตะโกนตอบกลับไป แต่เป็นร่างสูงของปุณณภพลุกขึ้นยืนเต็มความสูง บังร่างเล็กไว้
“ขอโทษนะครับ ยังไงผมก็นัดเขาไว้แล้ว” ตอบกลับด้วยรอยยิ้มดังเดิม หญิงสาวยิ้มให้นิดหน่อยก่อนจะเดินออกไป แน่นอนล่ะ ท่าทางของเธอก็แสดงออกว่าไม่พอใจอยู่มากทีเดียว แต่แล้วใครจะสน คนที่หงุดหงิดอยู่ก่อนหน้ากลับคลี่ยิ้มกว้าง เพราะกำลังเข้าข้างตัวเองว่าคนตัวสูงเลือกที่จะอยู่กับเด็กผู้ชายอย่างเขา ..มากกว่าผู้หญิงแบบเธอคนนั้น!
“แกร๊ก”ทันทีที่ประตูถูกปิดลง ร่างสูงก็หันควับมามองร่างบางตรงหน้า ...ด้วยใบหน้าที่เหมือนจะกินหัวเขาเข้าไปได้อยู่แล้ว
“ทำไมคุณทำหน้างั้นหล่ะ..ฮะ”ตอบกลับด้วยใบหน้าที่กำลังงง
“นายทำฉันพลาดครั้งยิ่งใหญ่เชียวนะ ไม่รู้จะมีโอกาสอีกไหม”ตอบกลับด้วยใบหน้าหมดหวัง..
อายุอย่างผมคงไม่มีอีกแล้วหล่ะ..
“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ฮะ”คำพูดที่ทำเอาคนฟังชะงัก
“ไม่เป็นอะไรที่ไหนเล่า ฉันจะสี่สิบแล้วนะ”ร่างสูงตอบกลับไปตามความจริง
“ถ้าคุณสี่สิบแล้วเขาจะเลิกชอบคุณ คุณก็อย่าไปสนเขาเลยฮะ!”เผลอตอบกลับไปตามใจตัวเอง จนต้องยกมือขึ้นมาปิดปาก
“นายน่ะ...”ร่างสูงที่ขยับใบหน้าลงไปใกล้ร่างบาง
“…”ร่างบางหันหน้าหนีไปอีกทาง
แต่แล้วไง ร่างสูงก็เปลี่ยนเป้าหมายเลื่อนริมฝีปากตัวเอง ไปใกล้ใบหูของร่างเล็ก
.
.
กระซิบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับกำลังจะเอ่ยคำสารภาพรัก...
.
.
.
“........ไปท่อง 58 สูตรมาให้ได้ วันอาทิตย์เจอกัน”
“!!!!”
ตอนที่ 2
วันนี้วันอาทิตย์ร่างบางที่ออกมาจากบ้านแต่เช้า มือข้างหนึ่งถือกระเป๋าใส่เอกสาร อีกมือถือใบสรุปสูตร 58 สูตร..ปากก็ขยับขมุบขมิบท่องตำราเป็นอย่างดี คิดว่าจำได้แน่ๆ! สองเท้าหยุดชะงักอยู่หน้าห้องที่มีป้ายเขียนไว้ตัวโตว่าห้องพักอาจารย์ ปุณณภพ สองมือกระชับเรียกความมั่นใจ..วันนี้เขาพยายามแต่งตัวที่ไม่ให้ตัวเองดูไม่ดี เรียกว่าอยากจะดูดีในสายตาเขาคนนั่นบ้าง
เคาะประตูดีไหมนะ?
เข้าไปเลยดีกว่า!
“พรวด!”
“อะ คุณล่ะก็”
“!!!!!!!”
ภาพหญิงสาวรูปร่างดี กำลังนัวเนียอยู่กับชายหน้าตาดีบนโต๊ะเอกสาร...
แถมทั้งคู่ยังคงดำเนินต่อไป อย่างไม่สนใจผู้มาเยือนอย่างภามิน
“อะ จูบเก่งขึ้นรึป่าวนะ”
ภาพตรงหน้ายังคงดำเนินต่อไป..ภามินได้แต่เงียบ ดวงตาก็ยังจดจ้องภาพตรงหน้านิ่ง ..
ถ้า..ถ้าที่ตรงนั้น...
ถ้าเป็นผม ถ้าผมอยู่ในอ้อมกอดนั่นละก็..
.
.
หึ...จะเป็นไปได้ไง..แม้แต่แตะตัวผู้ชายคนนั้นยังไม่เคยทำเลย
ร่างบางกำหมัดแน่น กระเป๋าเอกสารร่วงไปก่อน ก่อนที่ร่างบางจะทรุดลง สองมือปิดหน้าตัวเองมิด ไม่อยากจะรับรู้ความจริงตรงหน้า
“อะ เอ่อ.. มาตั้งแต่เมื่อไหร่”เสียงทุ้มที่ปกติแค่ได้ยินร่างบางก็เอาเก็บไปคิดได้หลายวัน แต่สำหรับตอนนี้มันกลับทำให้ปวดที่อกซ้ายหนักกว่าเดิม..
เจ็บ..
มือข้างหนึ่งเลื่อนมากำเสื้อตัวเองแน่น ไม่มีแม้น้ำตาสักหยดเดียว..อาจจะอึ้งจนร้องไม่ออกก็เป็นได้
“โทษที ฉันไม่รู้ว่าคุณนัดนักศึกษาไว้ ไว้วันหลังจะมาใหม่นะ คิดถึงฉันก็โทรมาบ้างสิ ฉันหย่ากับสามีใหม่แล้ว เขาดีได้ไม่เท่าคุณ” หญิงสาวว่าเรียบๆ ก่อนจะดันตัวเองออกจากร่างสูงที่พึ่งแลกจูบร้อนแรงนั่นต่อหน้าเด็กหนุ่มอีกคน
“ไว้ผมจะโทรหา ”
“งั้นฉันไปนะ บาย..สามีที่รัก”ส่งจูบบอกลาเสร็จหญิงสาวก็เดินเลี่ยงไปตรงหน้าประตู จุดที่ร่างบางทรุดลงไป
“ว้า...แย่หน่อยน้า ถ้าเคาะประตูคงไม่ได้เห็นฉากเด็ดล่ะ โทษทีนะจ้ะ หนุ่มน้อย”พูดจบเธอก็เดินอ้อมออกไป แต่ร่างบางก็ยังคงนิ่ง
“...”ไม่มีใครพูดอะไร ร่างสูงที่กำลังสงบอารมณ์ตัวเองลง สำหรับคนที่ห่างหายเรื่องแบบนี้กับภรรยามาเป็นครึ่งปี ...มันต้องรู้สึกเป็นธรรมดา
“นายท่อง 58 สูตรมาแล้วหรอ”พอสงบลง ร่างสูงก็เดินอ้อมมาหยิบใบสรุปที่ปลิวมาใกล้ๆขึ้นมาดู พูดลอยๆอย่างไม่คิดถึงเรื่องเมื่อครู่
“...”เสียงเงียบตอบกลับ ร่างบางยังคงนั่งก้มหน้า ร่างสูงเองก็เหลือบมองเพียงนิด ก่อนจะพยายามชวนคุยต่อ..
คงจะช็อคที่เห็นคนจูบกันสินะ..
“อึก...”เสียงสะอึกแปลกๆดังมาให้ได้ยิน ร่างสูงหันไปให้ความสนใจกับร่างบางที่ยกมือขึ้นมาปิดหน้าแน่น
“เป็นอะไรของนาย..”ร่างสูงวางกระดาษลง เดินเข้าไปย่อตัวลงนั่ง มือข้างหนึ่งเลื่อนไปสัมผัสที่เส้นผมนิ่ม
“เพลี๊ยะ” เสียงมือกระทบมือดังลั่น เมื่อร่างบางปัดมือของร่างสูงออก
“ถ้า ...อึก...อยากสัมผัส อึก..ผม ขอให้คุณอยากจริง..จริง ...อึก...”เสียงที่เคยสดใสกำลังสั่นเครือ..ทำเอาร่างสูงรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ
ทำไมต้องรู้สึกไม่ดีแบบนี้ด้วยนะ ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด
“อย่าทำ อึก...ถ้าแค่สงสาร ...อึก ผม..”ทั้งห้องเงียบลงทันทีที่เสียงสั่นเครือหยุดลง ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับจากร่างสูง ร่างบางปาดน้ำตาที่ไหลทะลักอย่างห้ามไม่อยู่
ทำไมต้องมาอ่อนแอด้วยนะ ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าเรื่องของผมกับเขาเป็นไปไม่ได้มาตั้งแต่แรก..
พยายามไปเองคนเดียวมาตลอด..
แล้วเราหวังอะไร..
“หมับ”มือหนาจับเข้าที่เส้นผมนิ่มอีกครั้ง ไร้การตอบโต้กลับอย่างคราวแรก
“ผมขอโทษ อึก..”เป็นร่างบางที่ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ คว้าคนใกล้ตัวเข้ามากอดแน่น
“กอด..กอดนะ อึก กอดครับ”เสียงร้องขอที่ร่างสูงเองก็ไม่อยากจะปฏิเสธ เขาก็พอจะรับรู้ได้บ้างล่ะนะ ว่าคนๆนี้รู้สึกยังไงกับเขา
“...”แต่จะให้เขาตอบรับความรู้สึกของเด็กคนนี้..อายุห่างกันยี่สิบปี..แถมยังเป็นผู้ชาย..?
“หยุดร้องนะ นายน่ะอายุก็ยังน้อย...”
“ผม อึก ....ชอบ.....คุณ”เสียงที่พูดแทรกขึ้นมาทำเอาร่างสูงเงียบลง ถอนหายใจยาวๆ ร่างบางยังกระชับอ้อมกอดแน่นกว่าเดิม
“อึก ผมจะปล่อย...ขอ อึก...สักพัก”ซึมซับความอบอุ่นที่เขาคงไม่มีวันได้รับจากคนๆนี้
“นายน่ะ..”
“หยุดเถอะ...ครับ อึก อย่าพึ่ง...อึก..ไล่ผม”ร่างบางพูดไปก็ซุกหน้าลงกับอกกว้าง ความชื้นที่ร่างสูงเองก็สัมผัสได้
“นายทำเสื้อฉันเปียกนะ”
“อะ ขอโทษ อึก ครับ ”พอได้ยินแบบนั้น ร่างบางก็ดันตัวเองออกอย่างเร็ว ใบหน้าแดงก่ำที่ทำเอาร่างสูงเองชะงักค้าง..
“...”ร่างบางยกมือขึ้นปาดน้ำตา แต่แขนสองข้างก็ถูกร่างสูงจับค้างไว้ ร่างบางเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ ...แต่พอเงยหน้ามองกันชัดๆ..กับทำเอาอยากจะหลบหน้าหนีไป ร่างสูงเล่นจ้องขนาดนั้น
“อะ เอ่..ปล่อยเถอะ..ครับ”ถึงเสียงสะอื้นจะหมดลง แต่เสียงใสก็ยังคงสั่นเครือ ร่างสูงมองภาพตรงหน้านิ่งค้าง..
ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ..กับใบหน้าแบบนี้
“อะ”มือข้างหนึ่งของร่างบางถูกปล่อยเป็นอิสระ แต่เป็นใบหน้าเรียวก็ถูกมือหนาข้างเดียวกันคว้าไว้
“พอ..... เถอะครับ..”เสียงที่แทบจะถูกกลืนหายไป ใบหน้าคมคายเคลื่อนเข้ามาใกล้ ...ใกล้มากเสียจนริมฝีปากแตะกัน..
“!!!!”ร่างบางเบิกตากว้าง ร่างสูงเองก็มองดูปฏิกิริยานั่นด้วยเช่นกัน ก่อนจะผละออกเพียงนิด พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา..
“หลับตาซะ..”ร่างบางชะงักค้าง เปิดปากค้างไว้ ก่อนที่ร่างสูงจะประกบริมฝีปากลงมาอีกครั้ง
“อื้อ!”รสจูบที่ร่างบางไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ไม่ใช่แค่ใบหน้าที่กำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ..แต่ทั่วทั้งตัวกำลังตื่นเพราะแค่จูบร้อนแรงนี้..และแน่นอนร่างสูงเองก็เริ่มรู้สึก อารมณ์ที่คิดว่าสงบไปแล้ว ทำท่าทีว่าจะปะทุขึ้นอีก เพียงเพราะเขาจูบกับร่างบาง ?
คนที่ห่างหายเรื่องอย่างว่าไปเกือบครึ่งปี เริ่มรุกรุนแรง ร่างบางเองก็พยายามร้องห้ามแต่สติของใครอีกคนกับไม่หลงเหลืออยู่..
ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว ที่เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้น เขาก็ไม่มาที่ห้องพักของผมอีกเลย
หลบหน้ากันหรือไงนะ
“ตืด-”เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำเอาผมออกจากความคิดของตัวเอง แล้วหันไปให้ความสนใจกับโทรศัพท์แทน
“ครับ”เบอร์ที่คุ้นเคยโชว์หลาหน้าจอ แทนที่ผมจะยิ้มออก แต่ผมกลับไม่มีอารมณ์จะคุยซะอย่างงั้น
“เย็นชาจังคะ นี่ภรรยาอุส่าโทรหาคุณก่อนเลยนะ.....ตั้งแต่วันนั้น คุณไม่โทรมาเลยนี่นา”เสียงหวานที่ผมรู้จักดีดังมาตามสาย
“พอดีผมไม่ค่อยว่างน่ะ”ที่จริงวันๆนึงผมก็ไม่ได้คิดอะไรนอกจากเรื่องงานกับเด็กคนนั้นแหละนะ
“ใจร้ายจัง คุณนี่ยังบ้างานเหมือนเดิมเลย”ผมโดนเธอคนนี้ทิ้งไปเพราะไม่มีเวลาให้เธอ
“ว้า ที่เงียบนี่คุณกำลังจะปฏิเสธฉันใช่หรือป่าวเนี่ย มีคนอื่นแล้วงั้นสิ”เสียงที่แสดงความรู้สึกผิดหวังดังมาตามสาย
“กับเด็กที่มาหาคุณรึเปล่าเอ่ย”
“หะ !”เผลอตกใจออกไปอย่างลืมตัว จนได้ยินเสียงหัวเราะขำๆดังมาตามสาย
“ถ้าฉันเดาแม่นแบบนี้ตลอด คงถูกรางวัลชิงโชครวยไปแล้วล่ะ”
“ปะ..ป่าว”พูดได้ไม่เต็มปากครับ ว่าไม่ใช่คนนั้น
“ก็ไม่เลวนี่คุณ ชอบแบนๆก็ไม่บอก”
“เหวอออ พูดอะไรของคุณ ”เถียงอย่างไม่เป็นภาษา แต่อยู่ๆก็ยกยิ้มขึ้นมาเมื่อนึกไปถึงใครอีกคน
“ฉันพูดเรื่องเราตั้งนาน ไม่ยอมตอบ พอพูดถึงเด็กนั่น รีบตอบเชียวนะ”ไม่วายคนปลายสายยังแขวะมาอีก แต่คนที่กำลังถือโทรศัพท์ค้างอยู่ตอนนี้ กับยกยิ้มกว้างกว่าเดิม
“ฉันสู้เด็กนั่นไม่ได้หรอเนี่ย”น้ำเสียงงอนๆดังมาอีก
“ฮะๆ ผมไม่ได้พูดแบบนั้นนะ”ตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะ
“ขอให้มีความสุขก็แล้วกันนะ ไม่คิดว่าคุณจะชอบเด็กแถมยังเป็นผู้ชาย”
“งั้นคุณก็เริ่มคิดได้แล้วนะ เพราะผมอาจจะชอบจริงๆ”
“แหวะ ไปบอกเด็กนั่นเถอะ ฉันไม่อยากรู้ด้วยหรอกนะ ”เสียงหวานพูดพร้อมส่งเสียงหัวเราะอย่างเป็นกันเองกลับมา
“งั้นผมขอตัวนะ”บอกลาปลายสายนิดหน่อยก็วางลงโทรศัพท์ลง จับปากกามาควงเล่นเพลินๆ ยกยิ้มกับตัวเอง
อืม...ไปหาที่ห้องดีกว่า
คิดได้แบบนั้นปุณณภพก็ลุกขึ้นพาตัวเองเดินออกมาจากห้อง สมองก็คิดไปเรื่อย
ถ้าเจอหน้าเด็กคนนั้นแล้วจะทำยังไงต่อดี ?
“สวัสดีครับ จารย์”นักศึกษาคนหนึ่งเดินสวนออกมากล่าวทักทายผม ผมพยักหน้าเป็นเชิงทักทายกลับ ทำไมเดินมาถึงเร็วจังยังไม่ทันได้คิดอะไรเลย คงเลิกเรียนแล้วมั้ง ผมหยุดยืนรออยู่หน้าประตูอยู่หลายนาที ก็ยังคงไร้วี่แววร่างบางที่ควรจะเดินสวนออกมา หรือจะออกไปแล้ว?
เข้าไปดูดีกว่า
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา ในห้องที่ว่างเปล่ามีเพียงร่างบางที่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาที่ว่างเปล่าราวกับไม่ได้มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่กำลังตกอยู่ในความคิดของตัวเอง เวลาผ่านไป ไม่ได้มีเพียงร่างบางที่ตกอยู่ในห้วงความคิดอีกต่อไป เมื่อเป็นร่างสูงของผู้มาเยือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ไม่ต่าง..อะไรบางอย่างที่ทำให้ปุณณภพยืนจ้องภามินนิ่งราวกับต้องมนต์สะกดของเสน่ห์ที่ร่างบางมี แต่ก็เป็นร่างสูงที่หลุดออกจากจินตนาการของตัวเองได้ก่อน
“เลิกเรียนแล้ว”
“อ่ะ”ภามินสะดุ้งสุดตัว หันมองผู้มาเยือนด้วยใบหน้าที่ทำให้ร่างสูงอมยิ้มขำ
ไม่เจอกันเป็นอาทิตย์น่ารักขึ้นรึป่าวนะ..
เอะ....นี่เราคิดว่าเด็กคนนี้น่ารักมาตลอดเลยหรอ ? คิดได้แบบนั้นยิ่งทำให้ปุณณภพยิ้มกว้างแล้วหัวเราะกับตัวเองเบาๆ
ภามินมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แต่ในเมื่อผู้ชายคนนี้มีความสุขดี เขาก็มีความสุขด้วย..
“งะ....งั้น ผะผมไปก่อนนะ”ประโยคที่แทบจะไม่มีน้ำเสียงใดลอดออกมา ทุกอย่างมันเจ็บปวดไปหมดแม้แต่จะพูดคุยกับคนๆนี้
ท่าทางที่เด็กหนุ่มเก็บของใส่กระเป๋าลวกๆ ราวกับจะรีบออกไปจากตรงนี้ ทำให้ปุณณภพเริ่มเข้าใจ ว่าหมอนี่ไม่อยากจะเจอหน้าเขาแล้วจริงๆ
“หมับ”และมือก็ไวกว่าสมองสั่ง ร่างสูงคว้าเข้าที่ข้อแขนบาง ร่างเล็กหันมาตามแรงดึง
“ปล่อย!...ครับ”ถึงจะเผลอตะโกนออกไปว่าปล่อยแต่ก็ยังอยากสุภาพอยู่ดีเลยต้องต่อด้วยคำว่าครับ ยังไงเขาก็ไม่อยากดูไม่ดีในสายตาของคนๆนี้
“เป็นอะไร”ปุณณภพขมวดคิ้ว มองร่างบางที่หลบสายตาไปอีกทาง
“...”มีแต่ความเงียบตอบกลับมา ทุกอย่างมันชัดเจน คงไม่อยากคุยสินะ
“ผมมีเรียน ...ต่อ”น้ำเสียงที่แทบจะไม่มีแล้วของใครอีกคนทำให้ปุณณภพเองก็หลบตาลง ยังไงผมก็อยากคุยกับเด็กคนนี้ให้รู้เรื่อง
“เลิกเรียนแล้ว ขอคุยด้วยได้ไหม”
“........ปล่อยครับ”น้ำเสียงเย็นชาจนคนฟังรู้สึกแย่ ยังคงเป็นคำเดิมที่ออกมาจากปากของใครอีกคน
“เลิกแล้วไปที่ห้องพักอาจารย์นะ....”ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ
“จะรอ..”ประโยคที่ทิ้งไว้พร้อมมือหนาที่ปล่อยออก ทำให้ความรู้สึกปวดที่หัวใจกลับมาอีกครั้ง ดวงตาที่หนักขึ้นเรื่อยๆราวกับมีความอัดอั้นมากมายกำลังจะทะลักออกมา ร่างสูงเดินออกไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงแต่ร่างบางที่ยืนกำมือไว้แน่น
ร้องไม่ได้นะ ต้องเข้มแข็งไว้ บอกตัวเองไม่ทันไร น้ำตาที่คลอไว้ก่อนหน้าก็หนักเสียจนต้องหยดลงมา .. ร้องไม่ได้นะ อึก ฮือ..
ไม่อยากทำให้เขาลำบากใจอีกแล้ว ...
หลังเลิกเรียน
ร่างสูงขมวดคิ้ว มองดูนาฬิกานี้ก็เกือบหกโมงเลยเวลาเลิกเรียนของเด็กหนุ่มมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว แค่ต้องรอตั้งแต่สิบโมงถึงเวลาเลิกเรียนก็จะบ้าตายอยู่แล้ว นี่จะให้รอไปถึงเมื่อไหร่
ขอร้องล่ะ...มาสักทีเถอะ
ผ่านไปร่วมสองชั่วโมง คนรอก็ยังคงรออย่างใจเย็น รอย่างไร้ความหวัง เด็ฏนั่นคงไม่มาแล้วจริงๆ คิดได้แบบนั้นร่างสูงก็เก็บเอกสารที่นั่งจ้องมันมาเกือบสามชั่วโมง ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานจริงๆ พอจัดการกับของที่มีเสร็จ ร่างสูงก็เตรียมตัวกลับคอนโด
“แอ้ดดดดด”ทันทีที่เปิดประตูออก ร่างสูงของปุณณภพก็ได้แต่ยืนนิ่ง...
“...”ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมา ภาพตรงหน้าคือร่างของเด็กหนุ่มที่เขารอมาทั้งวันกำลังนั่งชันเข่าอยู่หน้าห้องพักของเขา ปุณณภพย่อตัวลงนั่ง ช้อนร่างบางขึ้นมาในอ้อมแขน กระชับไว้อย่างที่ไม่มีทางปล่อยให้ตกลงไปได้แน่ๆ
“ไอ้ดื้อ”เสียงพึมพำเบาๆที่หลุดออกจากปากร่างสูง ตำที่คนฟังไม่อาจรับรู้เพราะเข้าสู่โลกแห่งความฝันไปเสียแล้ว
88%
-----------------------------------------------------------
แนะนำตัวก่อนนะคะ เรียกเราว่ากล้วยน้าา นิยายเรื่องแรกที่เอามาลงเลยค่ะ ตามอ่านของนักเขียนคนอื่นมาเยอะเหมือนกัน เขาแต่งกันดีมากๆเลยอยากจะลองแต่งดูบ้าง เรื่องนี้เลยดำเนินเรื่องเร็วเพราะอยากลองแต่งเนื้อหาหลายๆอารมณ์ค่ะ เลยออกมาเป็นเรื่องสั้นๆไม่ยืดเยื้อ สองสามตอนจบ ยังไงถ้าผิดพลาดเรื่องอะไรก็บอกกันได้เลยน้าาา ฝากเเรื่องนี้ไว้ด้วยค่ะ คอมเม้นต์ติชมได้เลยยย ขอบคุณค่ะะะะ
---------------------------------------------------------
มาต่อตอน2ค่ะ เหลืออีกนิดนึงจะจบแล้ววว ~ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ยังไงเม้นต์ติชมด้วยก็ได้นะคะ -//-
---------------------------------------------------------
มาต่อแล้วน้าาาาาา ตอนแรกคิดว่าสั้นๆ ตอนนี้รู้สึกยาวมากๆเลยค่ะ ; __ ; ยังไงก็ฝากด้วยน้าา -/-
ผลงานอื่นๆ ของ 6655kluay ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ 6655kluay
ความคิดเห็น