บริเวณริมสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวอย่างนาลันกำลังนั่งดูสองพี่น้องอย่างนาธานและแม็กนัสแข่งกันว่ายน้ำไปมาอยู่กลางสระ มือเรียวเอื้อมไปคว้าแก้วน้ำส้มคั้นที่เอ็มม่าเพิ่งให้เด็กในบ้านนำมาเสริฟให้เธอเมื่อครู่ขึ้นมาจิบช้าๆ ความหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อมและเย็นกำลังดีทำให้รู้สึกสดชื่นไม่น้อย
วันนี้อากาศค่อนข้างดีทีเดียว ไม่มีเมฆฝน และแสงแดดไม่แรงเท่าไรนัก อีกทั้งเป็นวันที่สองศรีพี่น้องสุดหล่อต่างก็อยู่บ้าน ไม่ได้มีโปรแกรมออกไปที่ไหน ถือว่านานๆครั้งจึงจะว่างตรงกันสักที
ซึ่งหากจะกล่าวไปเป็นเพราะนาธานมากกว่าแม็กนัสที่อยู่ไม่ค่อยติดบ้าน ถึงอย่างนั้นพี่น้องคู่นี้ก็นับว่าสนิทสนมและรู้ใจกันไม่น้อย
" ไม่สนใจลงมาว่ายน้ำด้วยกันหน่อยเหรอ "
แม็กนัสที่ว่ายน้ำเข้ามาเกาะอยู่ริมขอบสระใกล้กับที่นาลันนั่งอยู่เอ่ยถาม
" ไม่ล่ะ ฉันนั่งดูนายสองคนดีกว่า อีกอย่างฉันก็ไม่มีชุดว่ายน้ำด้วย "
นาลันตอบ พลางชี้มือมาที่ตัวเองประกอบคำพูด ซึ่งในตอนนี้เธอสวมเพียงเสื้อแขนกุด คอวีสีขาว กับกางเกงยีนส์ขาสั้นชายหลุดรุ่ยเล็กน้อยตามสมัย โชว์เรียวขาสวยสมส่วน ที่แม้แต่นาธานและแม็กส์นัสเองยังชมเธออยู่บ่อยๆ ว่าเธอมีรูปร่างที่เซ็กซี่และน่าทะนุถนอมในเวลาเดียวกัน ซึ่งนาลันเองก็ออกจะภูมิใจกับสรีระร่างกายนี้ของเธออยู่เหมือนกัน
" จริงสิ เอาไว้วันหลังเดี๋ยวฉันพาเธอออกไปหาซื้อชุดว่ายน้ำดีกว่า ว่างๆจะได้มาว่ายน้ำด้วยกัน ว่ายกับเนทตลอดเบื่อแล้ว "
" อะไรเบื่อเหรอแม็กส์ ถ้าเป็นเพราะแข่งว่ายน้ำกันทีไร นายก็แพ้ฉันทุกที ฉันเองก็เบื่อที่จะชนะนายเหมือนกัน เปลี่ยนไปชนะยัยลันบ้างก็คงดี "
นาธานที่เพิ่งว่ายน้ำเข้ามาตรงจุดที่นาลันและแม็กนัสกำลังพูดคุยกันอยู่ จึงเอ่ยขึ้นร่วมวงสนทนาด้วย
" แล้วมาคอยดูกัน เพราะฉันนี่ล่ะที่จะเป็นคนสอนคำว่าพ่ายแพ้ให้กับนายเองเนท "
หญิงสาวเพียงคนเดียวที่อยู่ท่ามกลางชายหนุ่มกล่าว พลางยิ้มและยักคิ้วอย่างท้าทายไปให้กับนาธาน ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มรับและสบสายตาอย่างท้าทายกลับมา
" ฉันอดใจรอแทบจะไม่ไหวเลยล่ะ เร็วๆล่ะ พร้อมแข่งเมื่อไหร่ก็บอกมาได้เลย ฉันพร้อมเสมอ "
นาธานยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจากน้ำ ยื่นมันไปยังเบื้องหน้าของนาลัน ซึ่งอีกฝ่ายก็ยื่นมือออกมาแตะมือหนานั้นเช่นกัน เป็นการรับคำท้า
หลังจากนั้นสองหนุ่มพี่น้อง จึงพากันว่ายน้ำอย่างสบายอารมณ์ต่อไปอีกพักใหญ่ ปล่อยให้นาลันนั้นรื่นรมย์ไปกับน้ำส้มคั้นและของว่าง รวมถึงบรรยากาศสวนสวยรอบข้างคฤหาสน์แห่งนี้
นั่งนานๆก็ชักจะเริ่มเบื่อ นาลันจึงลุกขึ้นยืนก่อนเดินออกไปตรงขอบระเบียงที่ยกสูงจากพื้นดินราวสองเมตรได้ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ และกลิ่นหอมที่ลอยละล่องกรุ่นมาให้ได้กลิ่นอยู่เป็นระยะตามแรงลม
ใกล้กันนั้นมีบันไดทอดยาวลงด้านล่างและไปยังสวนกุหลาบ ซึ่งนาธานกับแม็กนัสบอกว่าเป็นฝีมือของนาตยา น้าสาวของเธอเองเป็นผู้หากุหลาบสีสวยพันธ์ุต่างๆ มาปลูกที่นี่และดูแลป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นของรักของหวงของนาตยาเลยก็ว่าได้
หญิงสาวหันไปมองนาธานและแม็กนัสที่ยังคงสนุกอยู่กับการแข่งกันว่ายน้ำ จึงถือโอกาสเดินเลี่ยงออกมา เพื่อชื่นชมสวนกุหลาบหลากสีสันและหลากสายพันธุ์ แต่นาลันนั้นชอบกุหลาบสีแดงและสีขาวบริสุทธิ์เป็นที่สุด
โดยเฉพาะกุหลาบสีแดงนั้นเธอมีความรู้สึกว่ามันน่าหลงใหล มีเสน่ห์ดึงดูดใจคนให้คนสนใจในความงามของมันตั้งแต่แรกเห็น
สองเท้าเดินชมความงดงามของกุหลาบเหล่านี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดยืนอยู่หน้าแปลงกุหลาบสีแดงสด จมูกนั้นได้กลิ่นหอมอบอวลของดอกกุหลาบเหล่านี้ไปทั่วบริเวณ
กลีบบางของมันเรียงซ้อนกันประกอบเป็นกุหลาบดอกสวย ธรรมชาติช่างสรรค์สร้างความสวยงามเหล่านี้ได้อย่างน่าทึ่งนัก มือเรียวเอื้อมออกไปแตะกลีบของมันเบาๆราวกับเกรงว่าหากจับแรงไปแล้วมันจะบอบช้ำจากน้ำมือของเธอเอง
จากความเพลิดเพลินนี้ อยู่ๆหญิงสาวก็รับรู้ถึงความรู้สึกแปลกๆ จนต้องเบือนหน้าจากเจ้ากุหลาบแสนสวยไปมองรอบกายในตอนนี้ ซึ่งมันก็ไม่มีใครเลยนอกจากตัวเธอเองในแปลงกุหลาบหลากสี ทว่าทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลากันล่ะ หญิงสาวนึกฉงนใจ
" เรานี่ท่าทางจะบ้า แถวนี้ก็ไม่เห็นจะมีใครสักหน่อย "
นาลันเอ่ยกับตัวเองเบาๆ แม้ว่าจะยังรับรู้ได้ถึงความรู้สึกประหลาดนี้ หากแต่ก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจ พลางคิดไปว่าตัวเองอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ จึงหันกลับมาให้ความสนใจกุหลาบตรงหน้าดั่งเดิม
ห่างออกไปไม่ไกลนัก ต้นไม้ใหญ่หลายต้นในสวนสวย ซึ่งกินเนื้อที่เป็นบริเวณกว้างในคฤหาสน์ลุนเบิร์กแห่งนี้ กลับเป็นสถานที่แฝงกาย เพื่อใช้หลบสายตาของหญิงสาวเบื้องหน้าได้เป็นอย่างดีทีเดียว ซีน่อนจับจ้องมองสตรีเบื้องหน้าด้วยสายตาหลากหลาย บ่งบอกถึงความรู้สึกของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี
เขาจับตามองเธออยู่พักใหญ่ ตั้งแต่ที่เธออยู่บริเวณสระน้ำกับญาติของเธอแล้ว แม้จะยืนอยู่ตรงนี้ ไกลจากตัวของนาลันพอสมควร ทว่าไม่ใช่ปัญหาในการมองเห็นของเขาสักนิด เขามองเห็นวงหน้าของเธอได้อย่างชัดเจน หรืออาจจะแจ่มชัดมากกว่าที่ทุกคนคิดหลายเท่านัก
ดวงตากลมโต จมูกโด่งปลายเชิดเล็กน้อย ริมฝีปากบางได้รูปเคลือบด้วยลิปกลอสสีชมพูใส ทุกอย่างที่เป็นเธอ ล้วนบอกได้ว่านี่คือนีน่าของเขาแน่แล้ว นอกจากรูปร่างหน้าตาว่าคล้ายกันจนแทบจะเรียกว่าเป็นคนเดียวกันแล้ว ความชอบก็ยังเหมือนกันอีกด้วย
' ข้าชอบดอกกุหลาบ โดยเฉพาะกุหลาบสีแดง ถ้าบ้านของเราสร้างเสร็จแล้ว ข้าจะปลูกมันไว้รอบๆบ้านของเรา เจ้าว่าดีมั๊ยซีน่อน มันจะทำให้บ้านของเราสวยงามและสดชื่น อบอวลไปด้วยความรัก กลิ่นหอมของมันจะรวยริน คงทำให้ข้ามีความสุขมากแน่ๆ '
นีน่าเอ่ยถามความคิดเห็น..พลางส่งยิ้มให้กับคนรัก แววตาของหญิงสาวนั้นดูมีความสุขมากอย่างไม่ปิดบัง ซึ่งนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มส่งยิ้มตอบกลับสตรีในอ้อมแขนเช่นกัน สตรีที่รักดั่งดวงใจ..
' ข้าตามใจเจ้า เจ้าชอบอะไรข้าก็ว่าดีหมดนั่นล่ะ ขอเพียงเจ้ามีความสุขเท่านั้น ข้าพร้อมทำให้ทุกอย่าง เพราะรอยยิ้มและความสุขของเจ้าก็คือความสุขของข้าเช่นกัน '
' เจ้าน่ารักและแสนดีต่อข้าเสมอ ซีน่อน '
' นั่นเป็นเพราะข้ารักเจ้า รักมาก เราจะสร้างครอบครัวด้วยกันที่นี่ บ้านของเรา '
ชายหนุ่มโอบกระชับคนรักแน่นขึ้นเล็กน้อย เป็นการยืนยันถึงคำพูดและความรักที่มีต่อนีน่า
' ข้าก็รักเจ้ามากเช่นกัน '
หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน แววตาซาบซึ้งต่อความรักที่ซีน่อนมีให้ ก่อนที่เขาจะก้มลงมาจุมพิตเธออย่างอ่อนโยน หากแต่เธอก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงผละออกจากจุมพิตแสนรัญจวนนั้น ทำให้ซีน่อนที่กำลังดื่มด่ำกับความสุขตรงหน้านั้นงุนงงอยู่ไม่น้อย
' ข้าคิดออกแล้ว ว่าถ้าลูกของเราออกมาเป็นผู้หญิงข้าจะตั้งชื่อว่า โรส โรซาลีน...เจ้าว่าดีหรือไม่ '
ซีน่อนคลี่ยิ้มออกมาหลังจากหายงุนงงแล้ว เขาชอบชื่อนี้ที่นีน่าจะตั้งให้ลูกของเรา..แม่ดอกกุหลาบน้อย แต่ก็แอบขัดใจอยู่บ้างว่าทำไมนีน่าจะต้องมานึกได้ตอนนี้กันหนอ ตอนที่เขากำลังละเลียดชิมริมฝีปากหวานราวน้ำผึ้งนั้นของเธออย่างไม่รู้เบื่อ
เรื่องราวต่างๆมากมายยังสถิตย์อยู่ในความทรงจำของซีน่อนไม่เสื่อมคลาย มันเป็นเสมือนสิ่งหล่อเลี้ยงให้เขายังมีความรู้สึกได้ว่าความสุขนั้นเป็นเช่นไร แต่ในขณะเดียวกันมันก็ย้ำเตือนให้เขาจดจำการสูญเสียเช่นกัน
คนจากไปมักไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด แต่คนที่อยู่ต่างหากที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับความทรงจำเหล่านี้ เขาต้องอยู่กับมันไปอีกยาวนาน จนไม่รู้ว่ามันจะมีวันสิ้นสุดหรือไม่ หรือสำหรับเขาอาจใช้คำว่าตลอดกาลก็เป็นได้
ซีน่อนยังไม่อาจละสายตาไปจากหญิงสาวที่กำลังยืนชื่นชมดอกกุหลาบได้ ร่างระหงเดินไปมาจากแปลงโน่นไปแปลงนี้ท่าทางของเธอดูจะมีความสุขอยู่ไม่น้อย เขาอยากจะเข้าไปหาเธอ และบอกกับเธอว่าเขาคิดถึงเธอมากแค่ไหน
มันทรมานเพียงไรที่ต้องอยู่กับความคิดถึงแบบนี้มาตลอดสามร้อยปี ความคิดถึงที่อยากเจอ อยากโอบเธอไว้ในอ้อมแขน อยากกอด อยากหอม แต่ก็ทำได้เพียงโอบกอดเธอเอาไว้จากความทรงจำเท่านั้น ทั้งที่เขาเชื่อในการถือกำเนิดใหม่ เชื่อในเรื่องวิญญาน ลึกๆในใจนั้น ซีน่อนหวังเสมอว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะได้พานพบกับนีน่าอีกครั้ง
คาดหวังและค้นหามาตลอด ทว่าเมื่อได้เจอเธออีกครั้ง เขากลับไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปบอกกับเธอถึงสิ่งต่างๆ ที่อัดอั้นอยู่ในใจของเขา เขากำลังกลัว กลัวความแตกต่างระหว่างเขากับเธอในตอนนี้ สถานะแท้จริงที่ไม่อาจเปิดเผยกับใครได้ มนุษย์ กับ แวมไพร์..
และถึงแม้เขาจะมีความทรงจำ รวมถึงความรักที่มีต่อนีน่าไม่เสื่อมคลาย ทว่านีน่าของเขาในวันนี้ คือ นาลัน แน่นอนว่าเธอไม่มีความทรงจำใดใดเกี่ยวกับเขาและเรื่องราวเมื่อครั้งที่เป็นนีน่าเลย รวมถึงความรักที่มีต่อเขาด้วยเช่นกัน
แล้วเขาจะทำอย่างไร ควรเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆแบบนี้ หรือไขว่คว้าโอกาสที่จะได้ครองรักกับเธออีกครั้ง อย่างที่ซิลเวียบอก แต่ถ้าอย่างนั้นมันจะกลายเป็นความเห็นแก่ตัวหรือไม่ ที่จะเปลี่ยนเธอให้เป็นเหมือนกันกับเขา ในเรื่องนี้ซีน่อนยังลังเลใจ เป็นแบบเขามันไม่ได้ดีนักหรอก ชีวิตอมตะที่ไม่เคยปรารถนา..
ความคิดของซีน่อนสะดุดไป เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของนาลันที่ดังขึ้น เช่นเคยว่าในระยะเพียงเท่านี้เขาย่อมได้ยินอย่างชัดเจน ไม่ต่างไปจากสายตาที่ดีเยี่ยมเกินมนุษย์ของเขา
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น พร้อมกับบางสิ่งบางอย่างในกระเป๋ากางเกงที่สั่นครืด ทำให้นาลันนิ่วหน้าอย่างเสียอารมณ์ ใครกันนะช่างโทรเข้ามาขัดจังหวะความรื่นรมย์ของเธอจริงๆ ต่อเมื่อยกมันขึ้นมาดูที่หน้าจอ จึงเห็นว่าเป็นการวิดิโอคอลมาจากเพื่อนสนิทอีกคนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับเธอที่เมืองไทย อลิส หรือ อลิสา นั่นเอง..
" เฮ้ เป็นยังไงบ้างยัยลัน เงียบหายไปเลยนะ ไม่ส่งข่าวคราวมาบ้างเลย ฉันกับเพื่อนๆคนอื่นก็อุตส่าห์เป็นห่วง "
หน้าจอโทรศัพท์ของนาลันปรากฏใบหน้าหญิงสาวสวยคมคนหนึ่ง ส่งยิ้มมาให้เธอ
" แหม ฉันก็เพิ่งมาได้สองสามวันเองม่ะ ก็ว่าจะรอปรับตัวนิดหน่อย ยุ่งๆเรื่องเตรียมตัวเรียนเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าจะโทรหาพวกแกอยู่เหมือนกัน "
นาลันเอ่ยตอบกลับเพื่อนสาวไปด้วยรอยยิ้มสดใสไม่ต่างกัน
" เฮอะ ยังไงก็อัพเฟสบุ๊ค อัพอินสตาแกรม หรืออะไรบ้างก็ได้ ให้รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ฉันนี่นึกว่าแกช้ำใจจนไม่อยากสุงสิงกับใครแล้ว แต่ก็นะ เห็นแกยิ้มได้แบบนี้ฉันก็ดีใจแล้วล่ะ ทั้งยังสะใจยัยแพรเสียยิ่งกว่าเดิมอีก "
" สะใจเรื่องอะไร? "
ก็ว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวหรือรับรู้อะไรกับเรื่องของพี่โรมและแพรชมพูอีกต่อไป หากแต่สีหน้าสะใจของอลิสาก็ทำนาลันสงสัยไม่น้อย
" ก็เรื่องนี้ล่ะ ทำฉันคันปากอยากจะเล่าให้แกฟัง ยัยแพรชมพูไงล่ะ เที่ยวตามติด ตามจิกพี่โรมยิ่งกว่าไก่อีก ทั้งที่บ้านที่ทำงาน เรียกร้องให้เขารับผิดชอบตัวเอง อย่างที่รู้ๆว่านางไปอ้างกับครอบครัวพี่โรมว่าท้อง พี่โรมก็เลยตกลงจะรับผิดชอบ แต่แค่ลูกนะ ไม่รวมแม่ นางอาละวาดจ้า สุดท้ายโป๊ะแตก ไปทำอิท่าไหนไม่รู้ พี่สาวของพี่โรมเขาสงสัยเลยแอบขโมยเอาผลตรวจกับยาบำรุงครรภ์ที่นางเอามาอ้าง ไปให้ที่โรงพยาบาลเช็คอีกรอบ ปรากฏว่านางสตรอว์เบอรี่ โกหกหลอกคนไปทั่ว นางไม่ได้ท้อง เลยโดนพี่โรมตะเพิดซะ ไม่เผาผีกันเลย "
อลิสาเล่าอย่างเมามัน ด้วยว่าอีกส่วนหนึ่งเธอก็ไม่ชอบการกระทำของแพรชมพูอย่างมาก เธอดูออกว่าแพรชมพูนั้นไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่คิด ผู้หญิงคนนี้มีความทะเยอทะยานสูง เตือนนาลันแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่เชื่อเห็นแก่เวลาหลายปีที่เป็นเพื่อนกันมา จนกระทั่งเกิดเรื่องถึงได้รู้ซึ้งเลยทีเดียว
" อืม อย่างนั้นเหรอ "
" แก..ถามไรหน่อยสิ แกพอจะให้อภัยพี่โรมได้มั้ยอ่ะ เสียดายเวลาคบกันมาตั้งหลายปี ฉันว่าพี่โรมน่ะไม่ได้ตั้งใจที่จะนอกใจแกหรอก แต่เป็นเพราะถูกยัยแพรวางยาปลุกเซ็กซ์แน่ๆ พี่โรมเขารักและซื่อสัตย์กับแกจะตายไป คิดดูสิ "
นาลันพอจะเดาอะไรบางอย่างได้ในทันทีจากคำพูดของเพื่อนสาว ไม่แคล้วถูกพี่โรมขอร้องให้ช่วยมาพูดกับเธออย่างแน่นอน
" พี่โรมขอร้องให้มาพูดกับฉันเหรอ "
" ก็ทำนองนั้น...แต่แกอย่าเพิ่งโกรธฉันนะเว้ย ฉันแค่สงสารพี่โรมหน่อยๆ แต่ยังไงฉันก็อยู่ข้างแกนะลัน แกตัดสินใจยังไงฉันก็จะเคารพการตัดสินใจของแก แค่อยากรู้เท่านั้นเองว่าตอนนี้พี่โรมไม่มีพันธะอะไรแล้ว แกจะอภัยให้พี่เขาได้มั้ย แกยังรักพี่เขาอยู่หรือเปล่าเท่านั้นเอง "
อลิสารีบเอ่ยแก้ตัวออกมา กลัวว่าเพื่อนจะโกรธและเข้าใจผิดว่าไปเข้าข้างคนอื่นมากกว่า
" เฮ้อ...ฉันไม่โกรธแกหรอกอลิส รู้ว่าแกหวังดี "
นาลันถอนหายใจออกมา ในตอนนี้เธอนิ่งขึ้นมากกับเรื่องนี้ ถามว่ายังเสียใจไหม แน่นอนว่ายังเสียใจ แต่เธอก็เหนื่อยเหลือเกินที่จะต้องมานั่งดราม่าปล่อยความรู้สึกของตัวเองดิ่งลงแบบนี้ เธอคิดได้และก็รักตัวเองมากพอ เสียใจได้ก็ต้องรู้จักขอบเขต เธอไม่อยากให้คนรอบข้างที่รักเธอต้องเป็นกังวลไปด้วย
" แล้ว..สรุปว่ายังไง ยังรักและให้อภัยหรือเปล่า "
อลิสาหยั่งเชิงถาม ด้วยความอยากรู้ล้วนๆ
" รักสิ ฉันยังรักพี่โรม..."
นาลันยังพูดไม่ทันจบ หากแต่ก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาสุดตัวเสียก่อน เพราะเสียงที่ดังสนั่นมาจากทางด้านหลังของเธอ หญิงสาวถึงกับหันขวับไปดูในทันที
ปรากฏว่าห่างออกไปไม่ไกลนัก ต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่ดีดีก็ได้หักโค่นลงมาเสียอย่างนั้น หญิงสาวรีบบอกกับอลิสาว่าจะโทรกลับไปในภายหลัง แล้วจึงวางสายไป ก่อนที่จะขยับกายเดินเข้าไปดู ในขณะที่รอยส์ก็วิ่งมาจากอีกทางเช่นกัน
" ลุงรอยส์คะ ต้นไม้ทางด้านโน้นอยู่ดีดีก็โค่นลงมาเฉยเลยค่ะ "
หญิงสาวรีบเอ่ยบอก อีกฝ่ายรับคำก่อนพากันเดินเข้าไปสำรวจตนไม้นั้นใกล้ๆ
" แปลกจริง ต้นไม้ยังดูแข็งแรงดีอยู่เลย ทำไมเป็นแบบนี้ได้ จะว่าเป็นเพราะลมแรงก็ไม่น่าจะใช่ "
รอยส์มองดูสภาพของต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่อยู่ไม่น้อย โค่นมาทั้งรากขนาดนี้ลมต้องแรงมากทีเดียว แต่อากาศในวันนี้มันไม่มีเมฆฝนหรือลมพายุอะไรเลยด้วยซ้ำ จึงทำให้เขางุนงงอยู่ในตอนนี้
นาลันเห็นด้วยกับที่รอยส์วิเคราะห์ และก็ยังคิดหาเหตุผลไม่ได้อยู่ดีว่าเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้ต้นไม้ต้นนี้โค่นลงมาได้
จวบจนกระทั่งรอยส์สั่งให้คนมาจัดการเก็บกวาดต้นไม้เรียบร้อย หญิงสาวจึงเดินกลับเข้าไปยังด้านในคฤหาสน์ลุนเบิร์กดั่งเดิม
อีกด้านคนที่เป็นต้นเหตุของความเสียหายนั้น ก็กลับเข้ามายังคฤหาสน์แพททินสันด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว เขาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว พอๆกับพละกำลังที่มีนั้นก็สามารถโค่นต้นไม้ต้นใหญ่นั้นได้อย่างสบาย
แน่นอนว่าตนไม้ใหญ่นั่นเกิดจากฝีมือของเขาที่เผลอไปผลักมันเข้า เพื่อระบายอารมณ์กรุ่นโกรธและหึงหวงภายในใจ
" รัก ยังรักอย่างนั้นเหรอ เจ้าจะมอบหัวใจรักให้ใครไม่ได้ทั้งนั้นนีน่า นอกจากข้าเท่านั้น "
บัดนี้ซีนอนยืนอยู่ทางด้านหลังคฤหาสน์ มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา สถานที่ที่เขาหวงแหนที่สุด เบื้องหน้าเขาในตอนนี้คือ หลุมฝังศพของภรรยาอันเป็นที่รักยิ่ง เขาทอดสายตามองป้ายหินที่สลักด้วยอักษรโอลิเวียร์โบราณเป็นชื่อเจ้าของร่างที่ทอดกายนอนอยู่ใต้ผืนดินแห่งนี้มาสามร้อยปีแล้ว และใกล้ๆหลุมฝังศพของนีน่าปรากฏว่ามีอีกหนึ่งหลุมศพ มันถูกสลักเป็นชื่อของเขาเอง และแน่นอนว่ามันคือหลุมที่ว่างเปล่า ไร้ร่างที่ไร้ลมหายใจของบุตรชายคนเล็กของตระกูลแพททินสัน
รอบๆบริเวณนี้ซีน่อนปลูกดอกกุหลาบสีแดงเอาไว้มากมาย มันต่างชูช่องดงามอยู่ในตอนนี้ด้วยคิดเสมอว่ามันคือสิ่งที่นีน่าชื่นชอบ หากแต่จะมีดอกหนึ่งที่โดนเด่นเป็นพิเศษ เพราะมันคือดอกกุหลาบสีดำสนิท ดั่งท้องฟ้ายามรัตติกาล กุหลาบดอกนี้เขาปลูกและใช้เลือดของเขาผสมกับน้ำที่ใช้รดมันอยู่ทุกวัน
กุหลาบสีดำ ที่แทนความหมายถึง ความรักอันเป็นนิรันดร์
" ในเมื่อเจ้าลืมเลือนอดีตไปแล้ว ข้าก็เข้าใจได้ แต่เจ้าจะรักใครอื่นนอกจากข้าไม่ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะทำให้เจ้าหลงรักข้าอีกครั้งหนึ่ง เราจะเริ่มต้นความรักของเราใหม่อีกครั้งนะนีน่า "
ซีน่อนพูดถึงความตั้งใจจริงของเขาต่อหน้าหลุมศพของภรรยา ลืมไปแล้วก็ไม่เป็นไร เขาจะสร้างความรักครั้งนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งเอง
มัวแต่ลังเลใจ แต่เพียงแค่หญิงสาวพูดว่ารักชายอื่นเท่านั้น เขาก็ทนไม่ได้เสียแล้ว และจะไม่ยอมทนเสียคนรักไปอีกอย่างเด็ดขาด
อลิสา (อลิส)
เครดิต: ลลิษา มโนบาล (ลิซ่า Black Pink)
...........................................
เมนท์คุยกันได้นะคะ.....และแน่นอนค่ะ อิมเมจหนูอลิสนั้นคงบ่งบอกได้ว่า เมนไรท์คือลิซ่านั่นเอง สำหรับคนที่เป็นแฟนคลับวง Black Pink น่าจะเข้าใจกันเนอะ 5555
เอาล่ะ..เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ตอนนี้มีคนขี้หึงหนึ่งอัตราค่ะ หึงโหดสะด้วย เล่นเอาต้นไม้บ้านคนอื่นโค่นเลยล่ะ เหอะๆ แต่พี่ซีแกละมุนนะเออ รอดูก่อนว่าพี่เขาจะมีลีลาเข้าหาสาวยังไง แน่นอนว่าถ้าเปรียบเรื่องอายุล่ะก็ รุ่นทวดของทวดของทวดน้องลันเลยล่ะมั้งนั่น อิอิ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย