SEOUL HOT กะ รักใสๆของยัยเหมียวกับนายปีศาจ
เฮ้อ ทำไมชีวิต ม.ปลายมันช่างมีแต่เรื่องวุ่นวายแบบนี้ รินเซ สาวน้อยน่ารักที่เพื่อนๆต่างก็คิดว่าฉันเป็นแมวเหมียวจอมซ่า ก็ต้องพบเจอแต่เรื่องวุ่นๆ ทั้งเรื่องความรักที่ไม่สมหวัง และเรื่องข่่าวเด่นข่าวดังเมื่อหนุ่ม HOT ถูกทำร้าย โอ๊ย ... ฉันควรจะทำยังไงดี?
ผู้เข้าชมรวม
914
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
วันนี้เป็นวันที่นักเรียนมัธยมปลายทุกคนตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนวันแรก
และเป็นวันที่ฉันรู้สึกดีใจและเสียใจไปพร้อมๆ กัน ที่ดีใจน่ะคือ ได้เจอกับเพื่อนๆ
แต่ที่เสียใจคือฉันขี้เกียจตื่นน่ะสิ ขณะที่ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
~ ก๊อก ก๊อก ก๊อก
~
“รินเซ ตื่นได้แล้วนะลูก…เดี๋ยวจะไปเรียนไม่ทัน…ไม่ไว้เลยจริ๊ง จริง ยัยลูกคนนี้นี่ตื่นสายอีกแล้ว” นั่นเสียงแม่ฉันเอง แม่มักจะบ่นแบบนี้ประจำกับฉัน ก็ใช่สิ
เหลือฉันคนเดียวนี่ที่นอนอยู่ที่บ้าน ส่วนน้องสาวของฉันก็ไปอยู่โรงเรียนประจำ ใช่ค่ะ
ฉันชื่อ คิม รินเซ ฉันรีบลุกจากเตียง อาบน้ำ แต่งตัว
แล้วลงมากินอาหารเช้าที่แสนอร่อยโดยฝีมือของแม่ฉันเอง
“อยู่ม.ปลายปีสุดท้ายแล้ว
ต้องอ่านหนังสือให้เยอะขึ้นนะ” แม่บอกมา โอ้โห จะบ้าตาย
ฉันนึกแล้วพร้อมกลอกตามองบนอย่างไม่ค่อยพอใจ
“แม่ รินอยู่ปีสองนะ
ไม่ใช่ปีสาม จำผิดๆ ถูกๆ อยู่นั่นแหละ ว่าแต่อร่อยจัง……อิ่มแล้ว
รินไปล่ะนะ” ฉันบอกอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งออกมาจากบ้าน
ฉันรู้สึกดีกับบรรยากาศยามเช้าจังเลย ฉันรีบวิ่งตรงไปที่โรงเรียน
พอถึงหน้าประตูทางเข้าที่มีป้ายชื่อโรงเรียน อ๋อ … ลืมบอกไป
ฉันเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติชื่อดังของเกาหลี ไม่ธรรมดาใช่ไหมล่ะ
และตรงประตูทางเข้าโรงเรียนนั่นเอง ฉันก็ได้เจอกับเพื่อนสนิทที่ไม่เอาไหนคนหนึ่ง
เขากำลังยืนพิงกำแพงจีบหญิงเล่นๆไปทั่ว นั่นคือนิสัยของ แดนนี่ ฉันเดินไปอย่างเงียบๆ
ฉันยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจฉันสักนิดเดียว
“ไงจ๊ะน้องสาว…ขอเบอร์หน่อยดิ” แดนนี่พูดกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง หนอย
มันจะมากเกินไปแล้วนะ เชอะ ทำเป็นไม่สนใจฉัน
“ได้กี่คนแล้วล่ะ” ฉันถาม แดนนี่ก็หันมา
“ยังเลย
แต่พยายามจีบให้ได้เยอะที่สุด” แล้วเขาหันกลับไปอีก เฮ้ย! นี่ขนาดเขาแกล้งจำฉันไม่ได้เลยหรือไง ไอ้หมอนี่น่าโดนกระทืบ
“อ้าวเฮ้ย!…เธอยืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ” ดู
ยังมีหน้ามาเล่นละครอีก
“อ๋อ ก็มายืนตั้งแต่เมื่อ 10 ล้านปีก่อน จะบ้าเหรอก็มายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว”
“มาสายอีกตามเคยนะ”
“ฉันไม่ได้มาสายนะ เออ
... แล้วทำไมนายถึงไม่รอฉันล่ะ” ที่ฉันถามแบบนี้
เพราะบ้านของแดนนี่อยู่ใกล้กับบ้านฉัน
“ก็รอแล้ว” ยังจะเถียงอีก
“เนี่ยนะรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ
ฉันรอเธออยู่หน้าโรงเรียนไง” หมอนี่ชอบพูดอะไรไม่เข้าหูฉันอยู่เรื่อย
ฉันได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินหนี หมอนั่นก็เดินตามมาข้างๆ
“แหม
อย่างอนเลยนะน้องสาว”
“น้องสาว คำนี้อีกแล้วนะ”
“ก็ฉันชอบเรียกนี่…แล้วจะไปไหนอ่ะ”
“สนามบาส”
“ไปทำไม”
“ไปหาเพื่อน”
“ใครล่ะ” หมอนี่อยากเป็นนักข่าวไงนะ ยิงคำถามมาเป็นชุดเลย ก็รู้ๆ
อยู่ว่าที่ที่เรานัดเจอกันเป็นประจำคือที่ไหน แต่ฉันก็ตอบไปส่งๆ
“แม็กซ์” แม็กซ์เป็นเพื่อนสนิทของฉันอีกคน
“ทำไมต้องไปหาด้วย”
“แล้วเขาไม่ใช่เพื่อนนายไง”
“…………” ฮ่า ฮ่า ฮ่า หมอนี่เงียบไปเลยรู้สึกสะใจเล็กน้อย
พูดมากดีนัก
# สนามบาส#
ฉันเห็นแม็กซ์กำลังเล่นบาสกับเพื่อนผู้ชายที่ฉันรู้จักอีกสองสามคน
แน่ล่ะ เพราะพวกเรามันกลุ่มนักเต้นเท้าไฟด้วยกัน ถึงจะไม่ใช่กลุ่มที่เป็นทางการมากนัก
แต่เรามักจะรวมตัวกันบ่อยๆ
จนนักเรียนหลายคนคิดว่าพวกเราเป็นชมรมนักเต้นของโรงเรียน
“โย่ๆ แม็กซ์
เล่นด้วยคนสิ” แดนนี่ทักทายเสร็จ โยนกระเป๋าเป้ทิ้งไว้ข้างสนาม
ส่วนตัวเขาก็ไปเล่นบาส ฉันมองแดนนี่ที มองเป้ที สุดท้ายฉันต้องดูแลกระเป๋าเป้นายสินะ
ให้ตายสิ ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันเดินแบกเป้สองใบไปนั่งข้างเพื่อนนักเรียนหญิงลูกครึ่งญี่ปุ่น-เกาหลี
เธอชื่อ ไอซาวะ มิยาบิ และเพื่อนในกลุ่มผู้หญิงอีกสามคน คือ เยอึน ซอนมี และเอมี่
“ว่าไง ตื่นสายอีกแล้วนะ”
มิยาบิถามขึ้น
“แต่ฉันก็ยังมาทันเวลานะจ๊ะ”
“ที่มาทันก็คงเพราะมีคุณแม่ช่วยปลุกอีกตามเคยล่ะสิ”
เยอึนพูดอย่างรู้ทัน
“ไม่เอาน่า
ปิดเทอมเป็นเดือน ฉันก็ต้องคิดถึงเพื่อนเป็นธรรมดาสิ” ฉันบอก
“อยากเจอพวกเราแน่นะ”
ซอนมีถามอย่างจับผิด ฉันทำหน้าสงสัย ซอนมีชี้ไม้ชี้มือไปทางเด็กหนุ่มผมทองคนหนึ่งที่ยืนคุยอยู่กับเพื่อนๆ
ฮีโร่ ไอ้เพื่อนพวกนี้ยังจะรู้ทันอีก ก็รู้อยู่ว่าฉันเจอเขาแล้วต้องเกิดอาการเขินอายนิดหน่อย
ยังจะให้ฉันเห็นเขาอีก เฮ้อ ก็ช่วยไม่ได้ เขาน่ารักนี่
เขาคนนี้เป็นเพื่อนสมัยเด็กของฉัน
“ว่าแต่ฉัน
ก็ไม่ต่างอะไรกับยัยฮานามิหรอก…เธอก็อยากเจอแม็กซ์ใช่เปล่า”
เป็นอย่างที่ฉันคาดไว้มิยาบิหน้าแดงไปเลย
ก็แม็กซ์กับมิยาบิเป็นแฟนกันนี่
“เฮ้ย
เมื่อกี้ฉันยังอารมณ์ดีๆอยู่ พอแกเรียกฉันแบบนี้อารมณ์บ่จอยเลย” ชิ แต่ใครๆก็เรียกเธอแบบนี้แหละ ยกเว้นหวานใจเธอนี่ แม็กซ์
พวกผู้ชายที่เล่นบาสกันอยู่เมื่อกี้ ก็เลิกเล่นแล้วเดินมารวมกลุ่มกับพวกฉัน
“นี่คุยอะไรกันอยู่อ่ะ” แม็กซ์ถาม เอาแล้วไง หาเรื่องคุยเชียว
ไม่ยุ่งสักเรื่องได้ป่ะ
“อ๋อ…พวกฉันกำลังคุยกันเรื่อง…” ฉันแกล้งพูดอย่างช้าๆ
และแกล้งทำท่าคิดไปด้วย
“เรื่องอะไรล่ะ…ทำไมต้องคิดนานด้วย” เรย์ทำหน้าสงสัย
“อยากรู้จริงอ่ะ” มิยาบิถาม เรย์ยิ้มแล้วพยักหน้า มันอยากรู้ไปทำไม คิดดีแล้วเหรอ
“ผู้ชายส่วนใหญ่จะสมองเสื่อมเพราะการเล่นบาส” นั่นคือคำพูดของมิยาบิที่เพิ่งหลุดออกไป โอ้โห O[ ]O สะใจรินเซคนนี้จริงๆ ดีมากเพื่อนรัก
ตอกกลับไปแบบนี้เล่นซะพวกผู้ชายทำหน้าเซ็งเลย
“เฮ้ย อะไรวะ ยัยฮานามิ นี่ว่าพวกเราสมองเสื่อมไง” เฮนรี่ ถาม อ้าว หูหนวกเหรอ
“แหม ฮัลลี่
ก็มันจริงนี่”
มิยาบิพูดแล้วหยิกแก้มทั้งสองข้างไปมาแล้วปล่อย สองคนนี้มักจะหลอกเล่นแบบแปลกๆ นะ
“นี่ฉันชื่อ เฮนรี่
ไม่ใช่ ฮัลลี่ เรียกซะเสียหมดเลย…เลิกหยิกแก้มฉันเล่นได้แล้ว”
“เฮอะ
แต่นายก็เป็นหนุ่มฮ็อตที่มีหญิงติดตรึมก็แล้วกัน”
แล้วฉันก็เห็นสีหน้าของ เฮนรี่ ที่เพิ่งคิดอะไรออก เขาเอามือจับแก้มทั้งสองข้างที่ถูกมิยาบิหยิกแก้มไปเมื่อกี้
“จริงด้วย
ที่ฉันมีหน้าตาน่ารักก็เพราะเธอแท้ๆ…เพราะฉะนั้นฉันต้องขอบใจเธอสิ
ขอบใจนะ” O_O นี่คือ หน้าตาของมิยาบิ ให้มันได้ยังงี้สิ
“ฉันว่านายกำลังหลงตัวเองแน่ๆ” ฉันพูดขึ้น
“เหรอ” มีเสียงกวนประสาทที่ฉันเคยได้ยินตั้งแต่เด็กจนคุ้นเคยมาจากด้านหลังฉัน
ฉันภาวนาขออย่าให้เป็น ฮีโร่เลย แต่คำภาวนาไม่เป็นผล พอฉันหันไปก็เจอ ฮีโร่
ยืนยิ้ม (แบบปีศาจ) มาให้ ไอ้บ้าเอ๊ย ถ้าไม่ได้เถียงกับฉันสักวันเนี่ยคงไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนใช่ไหม
“อ้าว ก็เรื่องจริงนี่”
ฉันรีบเถียง
“วันแรกก็ฝอยเลยนะ” ฮีโร่พูด
“ก็ปิดเทอมตั้งหลายวัน
มันก็ต้อง”
“รู้สึกคันปาก
จนหยุดปากไม่ได้ มันก็เลยต้องโม้” อ๊าย………ใครสั่งให้นายมาตัดคำพูดของฉันเนี่ย
อย่ามายุ่งกับฉัน เอ๊ะ…หรือจะให้เขายุ่งดี
“ฉันหมายถึง
มันก็ต้องมีการคุยกันบ้าง” ฮีโร่แกล้งพยักหน้าอย่างรับรู้
ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนน่าตาดี คงจับฆ่าหั่นศพไปแล้ว
***********************************
ผลงานอื่นๆ ของ Christmasice ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Christmasice
ความคิดเห็น