คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3
กี่เดือนแล้วนะที่เหล่าเด็กหนุ่มที่มีฝันอยู่ร่วมกัน สำหรับใครบางคนที่อยู่มามากกว่าหนึ่งเดือน สองเดือน มันอาจจะดูเป็นระยะเวลาที่นาน แต่พวกเค้ากลับคิดว่าเวลาที่เค้าได้อยู่ที่นี่เป็นการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองมากกว่า เพราะพวกเค้าได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักนั่นเอง
“เฮ้ ทุกคน ทุกคน! มาตรงนี้หน่อย” แจวอนครูสอนเต้นของเหล่าเด็กฝึกที่อยู่ในห้องนั้นก็มีเพียง12คนเท่านั้น เพราะเค้าจงใจจะใช้เวลาที่คนอื่นๆไม่อยู่เรียกเด็กทั้ง12คนเข้ามาคุยนั่นเอง
“เน่ ......................” ทุกคนพร้อมใจวิ่งมาที่ครูแจวอนกันอย่างรวดเร็ว
“ทุกคนครูมีข่าวดีมาบอกนะ อย่า!อย่าเพิ่งร้องไห้นะ ฮะฮ่าๆ (‘ ‘) คือว่า...ทางค่ายเรากำลังมีโปรเจคใหม่เป็นวงที่ประกอบไปด้วยนักร้องและนักเต้นที่มีคุณภาพ 12 คน”
“หมายถึงพวกเราจะได้เดบิวท์กัน...12คนเหรอครับ” ชานยอลยกมือถามขึ้นมาทันที
“อืมมมมมมมมม...พวกนายถูกเลือกโดยทุกคนที่กำลังเฝ้ามองพวกนายตั้งแต่เข้ามา แต่...ถ้าหลังจากนี้ไป ใครใน12คนนี้ที่ครูทุกคนมองว่าจะเดบิวท์ร่วมกับเพื่อนๆไม่ได้ก็อาจจะไม่ใช่พวกนายทั้ง12คนที่อยู่ตรงนี้ก็ได้ ซูโฮ!”
“เน่!” ซูโฮเงยหน้ามองแจวอนทันทีที่เค้าเรียกชื่อด้วยความตกใจ
“นายต้องพยายามให้มากนะ ปีนี้อาจเป็นปีของนายก็ได้” แจวอนตบไหล่ซูโฮและลาจากทุกคนที่นั่งเงียบกันเพื่อให้ทุกคนได้ซ้อมกันต่อ โดยที่เค้ายังคงมองทุกคนจากห้องควบคุมในห้องส่วนตัวของเขาเองเสมอๆ
บางทีผมอาจจะได้เดบิวท์ก็ได้ สู้ต่อไปจุนมยอน!
การฝึกซ้อมอย่างหนักย่อมมีวันที่ทุกคนจะได้พักผ่อน วันนี้เด็กฝึกทั้ง12คนจึงนัดกันว่าจะไปที่สวนสนุก EVERLAND เพื่อผ่อนคลายและเป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากกว่านี้
แม้ว่าพวกเค้าจะฝึกซ้อมเต้น ซ้อมร้องเพลงด้วยกัน แต่พวกเค้ากลับไม่ได้อาศัยอยู่ในที่อยู่เดียวกัน ไม่มีที่พักสำหรับเด็กฝึกหัดมากพอนัก จะพูดได้ว่าใครที่เข้ามาใหม่ก็แค่รู้ชื่อ วันเกิด อายุ แต่ก็ไม่มีใครจำมันสักเท่าไร วันนี้แหละทุกคนจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างเป็นจริงเป็นจังสักที
ซูโฮ ถือว่าเป็นรุ่นพี่และมีอายุมากที่สุดในบรรดาเด็กฝึกหัดเกือบทั้งหมด ทั้งประสบการณ์และความสามารถก็นับว่ามีมากกว่าเด็กที่เพิ่งมาเข้ามาใหม่ เค้าจึงเหมือนหัวหน้ากลุ่มที่จะดูแลน้องๆ ที่เดินเข้ามายังค่ายเพลงที่เต็มไปด้วยความฝันนี้ โดยบริสุทธิ์ใจกับทุกคน แม้ว่าจะเจอความผิดหวังมามากแต่เวลามักจะสอนอะไรดีๆ ให้เค้า และเค้าจะสอนน้องๆ เสมอ ๆ นี่แหละว่าที่หัวหน้าวงของเรา ...
“ใครอยากเล่นอะไร แนะนำมาได้เลยนะ เดี๋ยวฮยอง....” ประโยคแรกที่เอ่ยจากปากซูโฮระหว่างที่เด็กหนุ่มทั้ง12คนยืนประชุมกันที่สวนสนุก แต่ยังพูดไม่จบก็มีคนเติมให้
“ฮยองเลี้ยงเหรอ” จงอินกับคำพูดกวนๆของเขาทำเอาซูโฮเหงื่อปริ่ม
“ย๊า!11คนรวมฮยองด้วย เล่นหมดทั้งสวนสนุก สงสัยบัตรเครดิตฮยองเต็มวงเงินแน่ = =’” ซูโฮตอบโต้กลับไปด้วยรอยยิ้มทะเล้น
“ผมยังไม่ได้กินอะไรเลย หิวแล้ว” ดีโอเอ่ยขึ้นมากับใบหน้าเหมือนเด็กหิวขนม
จงอินเข้าไปกอดไหล่ดีโอ โดยไม่ทันตั้งตัวทำให้เค้าหันมาทำตาโตใส่อย่างทันที “งั้นวันนี้ไปกินอาหารเช้าที่บ้านผม” ทุกคนหันมามองจงอินอย่างไม่เข้าใจรวมทั้งคนที่ถูกกอดไหล่ด้วย ว่าน้องเข้มนึกอะไรถึงพาไปที่บ้าน -/-
ทุกคนไปที่บ้านของจงอินด้วยรถตู้ที่คุณชายจงอินเตรียมการไว้แล้ว
“จงอินนี ย๊า!เพื่อนมาเยอะเลย” แม่ของจงอินออกมาต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตรกับเพื่อนที่ค่ายที่จงอินมักจะเล่าให้แม่ฟังบ่อยๆว่าทุกคนนิสัยดี
“บ้านนายสวยจังเลย เห็นแล้วคิดถึงบ้านชะมัด” เลย์เอ่ยขึ้นมาพร้อมมองไปรอบๆบ้านกว้างๆของครอบครัวคิม
“คิดถึงก็กลับสิฮยอง กลับเมื่อไรพาเซฮุนไปด้วยนะ ไอ้นี่มันอยากเห็นกำแพงเมืองจีน ฮะฮ่า” จงอินพูดระหว่างหยิบแอปเปิ้ลเข้าปากด้วยท่าทางกวนตามประสา
“อะไร ใครบอก...ไอ้โม้ เคยเห็นแล้วหรอก” เซฮุนเถียงกลับแต่หน้าเค้าขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัดว่าเค้ากำลังโกหก
ทุกคนได้แต่เงียบเพราะความเขินอายที่ทุกคนไม่กล้าพูดกันสักเท่าไร มีแต่จงอินกับเซฮุนที่ดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษเพราะเป็นเพื่อนสนิทกันเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน และแล้วก็ได้เวลาที่ทุกคนเริ่มรับประทานอาหารเช้ากันแล้ว
“อืมมมมมมมมมม เรามาทำความรู้จักกันแบบจริงๆจังๆมั้ย?” แบคฮยอนเปิดประโยคขึ้นมาหลังจากกินอาหารเข้าไปได้ไม่กี่คำ
จงอินยืนขึ้นที่ตรงหัวโต๊ะอาหาร “ผมคิมจงอิน เรียกผมว่าจงอินละกัน ผมเกิดปี 94 ผมชอบเต้นแต่ผมไม่ชอบร้อง ผมเป็นเพื่อนกับแทมินชายนี่ แต่ผมหล่อกว่า” เค้ายักคิ้วแล้วสะบัดหัวอย่างคาริสม่า ในความคิดว่าผมหนะ โคตรหล่อเลย! = =’
คนต่อไปคือเซฮุนนั่นเอง “ผม...เอ่อ โอเซฮุน ผมก็เกิดปี 94 ตอนนี้ผมเรียนที่Seoul Artsที่เดียวกับจงอิน ตอนนี้ผมสนิทกับจงอิน ต่อไปผมอยากสนิทกับทุกคน ผมพูดไม่เก่งแต่ผมก็อยากจะพูดกับทุกคน ผมอยากรู้จักมิตรภาพที่แท้จริงครับ” เค้าก้มหัวอย่างเป็นทางการให้กับทุกคน
“ ผมชื่อ...อี้ชิง หรือเรียกผมว่าเลย์ก็ได้ ผมมาฉางชาที่ประเทศจีน ผมเกิดปี91 แม้ตอนนี้ภาษาเกาหลีจะเป็นปัญหากับผม แต่ต่อไปมันจะหมดไป ผมมาที่นี่เพื่อหาความฝันและค้นหามิตรภาพเช่นกัน” เลย์ยิ้มจริงใจเผยให้เห็นลักยิ้มที่เป็นจุดเด่นตรงแก้มขาวๆของเขาออกมา
“ผมฮวางจื่อเทา ... เทา ทุกคนเรียกผมได้ อ่า..ผมดีใจที่ได้มาอยู่ตรงนี้ และเรียนรู้อะไรมากมาย ผมมีความสุขนะ อ้อผมเกิดปี93นะ” เทายิ้มตาหยีก่อนจะนั่งลงอย่างเท่ๆ
“โอ้วตื่นเต้นเหมือนตอนออดิชั่นเลยนะเนี่ย” ซูโฮเอามือทาบหน้าอกตัวเองแล้วยิ้มออกมาอย่างเขินอายก่อนที่เค้าจะพูดความในใจออกไป “ในที่นี้คงไม่มีใครมากประสบการณ์การฝึกหัดเหมือนฮยองใช่มั้ย” ซูโฮกวาดสายตาไปรอบๆด้วยรอยยิ้มจริงใจ “ฉะนั้น ผมคิมจุนมยอน หรือซูโฮ ที่เกิดปี91คนนี้อยากจะให้ทุกคนรักกัน แม้ว่าวันหนึ่งใครจะได้เดบิวท์ไปก่อนเราก็จะไม่ลืมกัน” เค้ายิ้มให้กับทุกสายตาที่มองมาที่เค้าก่อนจะนั่งลง
“ผมก็คิดแบบพี่ซูโฮนะ อ้อ!ผมปาร์คชานยอล ชื่อของผมมาจากคำว่าอัลชาน นยอลแม แปลว่าอะไรก็รู้กันแล้วใช่มั้ย อืมมม... ผมเกิดปี 92 ปีที่ความพิเศษมาหยุดที่ตัวผม ผมจึงอยากให้ทุกคนรู้จักกับผมให้มาก แล้วจะรู้ว่าผมหนะพิเศษยังไง” ชานยอลขยิบตาอย่างมีเสน่ห์กับตัวเอง(?)แสดงความน่ารักอย่างเปิดเผยออกไป
“อันยองอาเซโย หนีฮ่าว ผมชื่อพยอนแบคฮยอน ยินดีที่ได้รู้จักกับเทาเทา แล้วก็อีกหลายๆคนที่เป็นคนจีนด้วย ผมจะพยายามสื่อสารให้เข้าใจ ยังไงช่วยสอนภาษาจีนให้พวกเราด้วย ผมยินดีที่ได้รู้จักกับทุกคน” แบคฮยอนจบประโยคด้วยท่าเอกโยทำให้ทุกคนยิ้มหัวเราะออกมา
“ไม่รู้จะพูดยังไงเลยนะ...คนแรกที่ผมรู้จักคงเป็นลู่หาน หวังว่าคนต่อไปที่มากกว่าการรู้จัก จะเป็นทุกคนที่อยู่ตรงหน้าผม ผมเป็นผู้ชายที่ชอบเล่นบาสเกตบอลเกิดปี 90 ซูโฮนายเด็กกว่านะ” คริสชี้ไปที่ซูโฮที่เค้ากำลังตกใจเมื่อรู้ว่าคริสเกิดปี90เพราะเค้าคิดว่าเค้าแก่ที่สุดแล้ว “อ้อ!ผมชื่อคริสนะ” เค้ายิ้มโชว์เหงือกเสน่ห์ก่อนจะนั่งลงดื่มน้ำผลไม้อย่างหล่อๆ
คนที่นั่งข้างๆคริสลุกขึ้นมาแล้วตบไปที่บ่าคริส “นายแก่กว่าซูโฮแต่คนที่เกิดเดือนมีนาคมปี90 คือผมนะ” มินซอกยิ้มตาหยีก่อนจะหันไปสบสายตากับทุกคนที่กำลังรอเค้าอยู่ “อันยอง! ทุกคนเราอยู่ด้วยกันมาก็หลายเดือนแล้วนะ แต่ทุกๆวันที่เราเจอกันก็คงจะแค่ฝึกร้องเพลงและฝึกเต้น วันนี้คงเป็นวันแรกที่เรารู้จักกันมาก รู้มั้ยว่าพอรู้ว่าตัวเองเกิดก่อนทุกคนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนใบไม้ผลิที่กำลังจะหล่นยังไงก็ไม่รู้นะ แต่ก่อนที่มันจะหล่นลงมามันก็ดูดีไม่ใช่เหรอ เหมือนหน้าตาผมไง” มินซอกเก๊กหล่อต่อหน้าทุกคนทำให้ทุกคนหัวเราะกันดังลั่น
คนต่อไปเป็นหนุ่มน้อยขี้อายแต่ตาโตที่สุดในวง “อันยองผมโดคยองซู เรียกว่าดีโอละกันนะ เพราะมันเท่และเข้ากับผมมาก อืมมมม..ผมดีใจที่ได้เข้ามาในค่ายนี้ ได้ทำความฝันของผม ยังไงก็ผมว่าหวังเราจะได้ร่วมงานกันนะ” ดีโอยิ้มอย่างเขินอายก่อนจะก้มหน้าแดงก่ำนั่งลงไป
“อ่า..หนีฮ่าว หว่อซื่อลู่หาน! ฮะฮ่าๆ อันยองผมลู่หาน เมื่อกี้เป็นภาษาของบ้านผมเอง ยังไงขอให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดแล้วผมจะสอนภาษาจีนให้ทุกคนเอง ผมเกิดปี90แต่ผมยังไม่อยากให้ถึงฤดูใบไม้ผลินะ” ลูฮันหันไปมองมินซอกแล้วยิ้มกวนใส่
“ย๊า ผมคนสุดท้ายเลยเหรอเนี่ย อืมมม..ผมชื่อคิมจงแด ผมเป็นเด็กผู้ชายที่เกิดปีที่แสนพิเศษคือปี92” จงแดหันไปมองชานยอลและชานยอลก็ปรบมือเสียงดังกว่าชาวบ้าน -/- “ผมชอบร้องแต่ไม่ชอบเต้น” จงแดก็หันไปมองจงอินที่อมยิ้มแบบรู้ตัว “ผมอยากเรียนภาษาจีนและผมก็อยากไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนด้วยนะ” เค้าหันไปมองลู่หาน เลย์และเทา “หวังว่าผมจะได้ไปกับเด็กผู้ชายอีก11คนตรงนี้ที่หล่อน้อยกว่าผมนะ” เค้ายิ้มอย่างเขินอายกับความหลงตัวเองเป็นอย่างมาก พาให้อีก11คนไม่ยอมแพ้ในความหล่อของตัวเอง แย่งกันหล่อจนแทบจะไม่ได้กินข้าวกินปลา
บทสนทนายังมีต่อไปเรื่อยๆ จนแผนที่จะไปสวนสนุกวันนี้...ต้องพับเก็บไป
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือมิตรภาพระหว่างคนที่ไม่รู้จักกันสักเท่าไร เวลา...ยังดำเนินต่อไป ความสัมพันธ์ของคนทั้ง12คนก็ดำเนินต่อไปจนถึง
6 เดือนก่อนสิ้นปี 2011
ความคิดเห็น