... T o g e t h e r ...
มือเรียวเคาะไปตามจังหวะบีทที่ดังขึ้น นาฬิกาหรูโชว์ตัวเลขที่เป็นสัญญาณว่าใกล้จะเริ่มต้นวันใหม่แล้ว แต่เจ้าของผมสีบลอนด์ทองก็ยังไม่มีทีท่าจะพอใจกับดนตรีที่เขามุ่งมั่นจะทำมันจนต้องอดหลับอดนอนมาหลายคืน
เรียกได้ว่าจบจากตารางงานเมื่อไหร่ เจ้าตัวก็ตรงมาเก็บตัวในห้องอัดเพลงอยู่จนรุ่งเช้าทุกวัน
"เฮ้อ.."
ถอนหายใจรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ตาเรียวหลับลงเพื่อผ่อนคลายจากการจดจ้องสัญลักษณ์คลื่นเสียงขยึกขยือบนหน้าจอ
ไม่พอใจ.. ยังไม่พอใจ.. เหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง
จีโฮเอื้อมตัวไปหยิบโทรศัพท์ที่ถูกปิดเสียงไว้เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนสมาธิของเขา หน้าจอใหญ่แสดงการแจ้งเตือนจากข้อความใหม่บนแอพพลิเคชั่นแชทสีเหลือง เปิดเข้าไปก่อนนิ้วเรียวสไลด์ผ่านข้อความจากเหล่าฮยองที่มักจะให้คำแนะนำมากมายในการแต่งเพลง.. ก็ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์.. เขาคิดแบบนั้น
'ฮยอง!'
ความสนใจทั้งหมดหยุดอยู่ตรงข้อความสั้นๆบนหน้าจอ นิ้วเรียวเปิดอ่านอย่างไม่ลังเล
'ว่าไง? นอนรึยัง?'
เพราะข้อความถูกส่งมาตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ จึงไม่แน่ใจนักว่าเจ้าของข้อความจะหลับไปแล้วหรือยัง
'ยังครับ ฮยองทำอะไรอยู่อ่ะ?'
'แต่งเพลงน่ะ เราอ่ะทำไมยังไม่นอน?'
บทสนทนาผ่านโปรแกรมแชทยังคงดำเนินต่อไปอย่างเรียบง่าย คิ้วที่ถูกขมวดเกร็งตลอดการทำเพลงบัดนี้ได้ถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มบางไปแล้ว ก็ไม่แน่ใจนักว่าที่ผ่อนคลายได้ขนาดนี้เป็นเพราะถูกใจบทสนทนา
หรือเป็นเพราะคู่สนทนากันแน่
'ฮยองหิวมั้ย ไปหาอะไรกินกัน'
ตาเรียวเหลือบไปมองชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและกระป๋องกาแฟที่ถูกวางทิ้งไว้ก่อนหน้าไม่นาน
กินแล้วก็กินอีกได้ล่ะมั้ง...
'ไปสิ กินไรดีอ่ะ?'
'อาหารญี่ปุ่น!'
มุมปากกระตุกยิ้มอีกครั้ง ดึกขนาดนี้แล้วจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไหนเขาเปิดกัน..
แต่ลองไปเดินหาดูก็ไม่เสียหายนี่?..
'เอาสิ เจอกันที่เดิมนะ'
....
ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงสถานที่ที่เขาได้นัดคู่สนทนาไว้ ดวงตาเรียวมองหาเจ้าของใบหน้าที่มักจะมีคนบอกเสมอว่าละม้ายคล้ายคลึงกับเขา ก่อนจะเจอเจ้าตัวที่กำลังโบกมือเป็นสัญญาณให้อยู่ตรงหน้า
เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะกล่าวทักทายด้วยคำถาม
"ดึกขนาดนี้จะมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ไหนยังเปิดอยู่อีกเหรอ?"
"ไม่รู้ดิครับฮยอง ลองหาดูก่อนก็ได้มั้ง... แต่ผมอยากกินจริงๆนะ"
เจ้าของคำตอบยิ้มกว้างจนตาของเขากลายเป็นขีดสองขีด ย้ำประโยคสุดท้ายราวกับเป็นการอ้อนให้คนเป็นพี่รู้ว่าเขาอยากกินแค่ไหน ผมสีบลอนด์ส่ายไหวน้อยๆตามแรงสั่นไปมาของเจ้าของ ถึงจะส่ายหัวให้กับความดื้อเล็กๆของคนเป็นน้อง แต่ยิ้มกว้างที่ประดับอยู่บนใบหน้าของจีโฮก็บอกได้ว่าเขาก็ไม่ได้ขัดอะไร
ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องตามใจ แต่เห็นยิ้มกว้างๆจากซึงยูนทีไรเขาก็เป็นแบบนี้ทุกที
สองขายาวออกก้าวไปพร้อมคนข้างๆอย่างไม่ได้เร่งรีบ เพราะเวลาแบบนี้สถานที่นี้จึงไม่ได้มีผู้คนพลุกพล่านอย่างที่ควรเป็น ถือเป็นข้อดีที่ทั้งคู่ไม่ต้องอำพรางตัวจากกลุ่มแฟนคลับมากนัก เพราะนั่นอาจจะทำให้นัดของพวกเขาไม่เรียบง่ายเหมือนที่เป็นอย่างตอนนี้
เดินด้วยกันสองคนแบบนี้ก็ดีกว่ามีคนอื่นคอยเดินตามเพียงเพราะอยากได้ลายเซ็นไม่ใช่เหรอ..
จีโฮกับซึงยูนไม่ใช่คนที่ไม่ชอบแฟนคลับ
อาจจะเป็นเพราะตอนนี้พวกเขาอยากอยู่ด้วยกันแค่สองคน...
เสียงพูดคุยยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งคู่เลือกที่จะพูดคุยถึงเรื่องทั่วไปที่ได้เจอมามากกว่าที่จะพูดถึงเรื่องตารางงานที่น่าปวดหัว รอยยิ้มน้อยๆจากซึงยูนที่กำลังเล่าเรื่องตลกจากเพื่อนร่วมวงที่เขาเพิ่งเจอมา เรียกรอยยิ้มจากจีโฮได้ไม่ยาก
ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องนั้นมันตลกมากมาย.. หรือเพราะรอยยิ้มของคนที่กำลังเล่าเรื่องกันแน่
อากาศที่เริ่มเย็นลงเป็นอีกสัญญาณที่บอกได้เวลาได้ผ่านไปอีกแล้ว แม้ร้านค้าสองข้างทางจะเริ่มปิดตัวลง แต่ทั้งสองคนก็ยังคงเดินอย่างไม่มีเรื่องที่ต้องรีบร้อนนัก บทสนทนาระหว่างการเดินอย่างไม่มีจุดหมายเป็นไปอย่างเรียบง่าย ราวกับทั้งคู่ลืมไปแล้วว่าจุดประสงค์จริงๆที่ออกมาในเวลานี้คืออะไร
ก็แค่อยากอยู่ด้วยกัน.. อาจจะเป็นแบบนั้นจริงๆก็ได้
เวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆทำให้จำนวนของผู้คนรอบๆลดลง ความเงียบรอบกายทำให้เสียงบทสนทนาเบาๆของทั้งคู่ชัดเจนยิ่งขึ้น จีโฮที่มักจะเหลือบมองซึงยูนเป็นระยะสังเกตเห็นอีกคนเริ่มเอามือซุกแจ๊กเก็ตยีนส์ของตัวเอง
แม้อากาศจะไม่ได้หนาวขนาดที่จะต้องใส่เสื้อโค้ทหนาๆออกมาแต่ก็คงเย็นอยู่ใช่ไหมล่ะ?
รู้สึกตัวอีกทีแขนที่เต็มไปด้วยรอยสักของเขาก็พาดไว้ที่ไหล่ของซึงยูนแล้ว
เผื่อมันจะช่วยให้อีกคนรู้สึกอุ่นขึ้น
หัวกลมๆของคนเป็นน้องหันมายิ้มกว้างให้กับจีโฮอีกครั้ง ซึงยูนเลื่อนมือที่ถูกซุกไว้ในแจ๊กเก็ตตัวเก่งออกมาก่อนจะพาดแขนเรียวของตัวเองไว้ที่เอวของจีโฮ ทั้งสองคนกระชับอ้อมแขมเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
ราวกับเป็นความเคยชิน
"หนาวเนอะฮยอง"
"อืม หาร้านนั่งก่อนมั้ย ร้านอาหารญี่ปุ่นคงจะปิดหมดแล้วล่ะ ตี 3 กว่าแล้วนี่"
แม้การเดินด้วยกันเรื่อยๆแบบนี้จะเป็นสิ่งที่จีโฮชอบ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีถ้าปล่อยให้อีกคนเดินหนาวแบบนี้ใช่มั้ยล่ะ?
เพราะถ้าซึงยูนเป็นหวัด เสียงของเขาก็คงได้รับผลกระทบไปด้วย
แม้จะอยากอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆอีกนานแค่ไหน
แต่ จีโฮเป็นห่วงซึงยูน เหตุผลแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
"ตรงนู้นมีร้านกอบชังเปิดอยู่ ดูน่าอร่อยนะฮยอง ไปลองกันครับ"
ซึงยูนตอบพร้อมกับยิ้มกว้างให้กับฮยองของเขาอย่างที่ชอบทำ เป็นอย่างทุกครั้ง เพราะรอยยิ้มนั้นทำให้จีโฮตามใจซึงยูนอยู่เสมอ จีโฮอดไม่ได้ที่จะยิ้มตามก่อนจะพยักหน้าให้เป็นเชิงอนุญาต
กระชับอ้อมแขนเข้าหากันอีกครั้งเพื่อที่จะแชร์ความอบอุ่นให้กันและกัน ก่อนขายาวของทั้งคู่ก้าวไปพร้อมกันเหมือนอย่างที่ทำมาก่อนหน้านี้ แตกต่างกันตรงที่ตอนนี้พวกเขามีจุดหมายที่แน่นอนเเล้ว
จุดหมายของทั้งสองคนคือร้านอาหารปิ้งย่างเล็กๆตรงหน้า
ภายในร้านเล็กๆที่มีผู้คนไม่มากนัก กลุ่มลูกค้าที่มีมักจะเป็นนักท่องราตรี นักศึกษาที่ทำงานจนดึกดื่น ไม่ก็กลุ่มคนทำงานที่มักจะมาสังสรรค์กัน
หรือบางที.. อาจจะเป็นเพียงแค่คนสองคนที่แค่อยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆแบบพวกเขาก็ได้
:)
------------------------
สวัสดีค่ะ555 ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้นะคะ
นี่เป็นฟิคโค่ยูนเรื่องแรกหลังจากที่ไม่ได้แต่งฟิคมานานมากๆ
หลายๆอย่างเลยยังไม่ลงตัวเท่าไหร่ค่ะㅠㅠ ฮือ
ฟิคเรื่องนี้แต่วมาจากบทสัมภาษณ์ทีาเจ้าโค่พูดถึงซึงยูนเกี่ยวกับเดท(?)๕๕๕๕
ทำเอาฟินไปเลยค่ะ เลยต้องแต่งฟิคเก็บไว้ให้ตัวเองสักหน่อย
ฝากโค่ยูนไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ๕๕๕๕๕๕
ขอบคุณพี่ @candlejun_ นะคะสำหรับคำปรึกษาเกี่ยวกับฟิคเรื่องนี้เยอะเลย ฮืออ
ขอบคุณค่ะ❤️
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น