ดุริยเวทย์1 - นิยาย ดุริยเวทย์1 : Dek-D.com - Writer
×

    ดุริยเวทย์1

    กล้าหาญ ถูกเลือกให้เดินสู่เส้นทางดุริยเวทย์บนดินแดนแห่งสยามที่ไม่มีใครเห็น และสงครามแห่งดุริยเวทย์กำลังจะเกิดขึ้น เหล่าเวทมารแย่งชิงตำราดุริยเวทย์ เพื่อฟื้นชีพแก่นายมัน อาคมจะปกป้องเขาหรือทำลายพวกเขา.

    ผู้เข้าชมรวม

    323

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    323

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 เม.ย. 51 / 20:58 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    <img src="http://photos1.hi5.com/0035/464/692/shrL.W464692-02.jpg" >
    ผม นายอมรฤทธิ์ หมอนทอง
    อายุ 16 ย่าง 17 ฮ๋าๆ แต่งนิยายไว้ ปริ้นเป็นเล่มให้เพื่อนๆอ่านบ้าง ตาม ร รต่างๆ
    ก็ได้กระแสตอบรับดีครับ เคยลงที่ไทยคิส ก็โอเคดีครับ คราวนี้ลองเอามาลงที่นี่บ้าง

    ยังไงช่วยกันติชมหน่อยนะครับ ผมอยากเอาเรื่องไทยๆ มาทำเปนแฟนตาซีบ้าง

    ------------------------------------------------------------

    ตำนานแห่งอาคมดุริยะ

    อำนาจของมณีนพราช
    เสาะหาผู้กอบกู้และคุ้มครอง
    จากนางมารผู้ลือเลื่องแห่งดนตรีกาฬ
    ใกล้ทุกที ปี่พาทย์ และเครื่องสาย
    จะรวมเป็นมโหรีมหานพเก้าตามตำนานคำภีร์เวทย์ ป้องจากนางมาร
                     กล้าหาญ เด็กหนุ่มผู้มีเชื้อสายวิทยาธร หนึ่งในวงตระกูลที่ประดับประดาไปด้วยเกียรติยศ ของ ตระกูลพฤกษ์ศิลป์ มีอายุวัยเพียงสิบห้าปีถูกเลือกให้เดินสู่เส้นทางดุริยเวทย์อันเลื่องลือไปทั่วแคว้นอรุโณทัย ดินแดนแห่งหิมพานต์และเทวราช ที่บังเกิดจากองค์เทวทั้งสี่ คือ องค์พระอิศวร องค์พระนารายณ์ องค์พระอินทร์ องค์พระพิฆเนศ
                    ดุริย คู่มานานแก่ผู้เรืองเวทย์ในครั้งโบราณกาล ในหมู่วิทยาธรเต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจเหนือมนุษย์ทั่วไป แต่นางมาร จ้าวแห่งดนตรีกาฬ หรือ อิสตรีผู้ลือเลื่องด้านดุริยะความมืด กำลังจะกลับมาแก้แค้นเอาคืนกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตเสียงบทสวดอาคมเวทย์จะสอดกับดนตรีแห่งมณีนพราช 

                    
    วงปี่พาทย์ และ เครื่องสาย จะรวมกันเป็นมโหรีนพเก้าที่ถูกเก็บไว้อย่างมิด แต่เกิดการแย่งชิงเพื่อความยิ่งใหญ่ หลายแง่ หลายมุม ที่ซับซ้อนนำพามาซึ่งเรื่องราวร้าย ๆมาสู่เด็กหนุ่ม พวกเขาจะเป็นอย่างไร อาคมจะช่วยพวกเขาหรือทำลายเขากันแน่ 

    ในคืนหนึ่งที่ฝนพรำๆ กล้ากลับมาจากการสอบวันสุดท้าย มายังบ้านสวนที่อบอวนไปด้วยความเป็นพื้นบ้าน โดยอาศัยอยู่กับคุณตาที่ใจดี พ่อและแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่เกิด และไม่ได้รับการติดต่อจากญาติอีกเลย ตอนนี้เขาอายุ 15 ปีแล้วเมื่อกรกฏา ที่ผ่านมานี้ 

    คุณตานั่งอยู่ในห้อง เที่ยงคืนกว่าแล้ว เขายังเปิดไฟ มองรูปภรรยาของเขา บ่นพรำกับความสับสนเรื่องกล้าที่จะส่งไปยังอรุโณทัยหรือเรียนที่เดิม ทันใดนั้น
    ภรรยาปรากฏขึ้นในลักษณะของวิญญาณ เขาได้คุยกันอยู่ครู่หนึ่ง 

    ทันใดนั้น นางศรีสายลวดปรากฏขึ้น และพูดเสียดสี ตอนหลังกล้าแอบฟัง นางรู้จึงคิดจะสังหารกล้า ด้วยความไม่กลัวบาปกำและกฏที่มี แต่โชคดีที่ หม่อมเอมอรมาช่วยไว้ได้ทัน 

    เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกอย่างกลับคืนสภาพปกติ กล้าคิดว่ามันเป็นฝันเรื่องหนึ่ง แต่กลับไม่ใช่ เขาพบหม่อมเอมอรบนชานระเบียง และได้เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง
     
    หลังจากที่กล้า เด็กหนุ่มจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ ได้รู้ว่าตนมีเชื้อสายวิทยาธร และคุณตาของตนเป็นถึงอดีตพระดุริยฤทธิ์ ผู้คุมวงปี่พาทย์แห่งราชสำนักเวทางค์ โดยตนมีเชื้อของบิดาตนที่เป็นหม่อมในวังพฤกษศิลป์ ในครั้งนั้น หม่อมเอมอร ได้มารับกล้ากลับเข้าวัง ตามประสงค์ของเจ้าคุณย่าใหญ่(หม่อมวรรณลักษณ์)เพื่อให้กล้าได้เข้าศึกษาต่อ ณ เวทางค์วิทยาลัย หากแต่ติดที่ยังไม่ได้โยกย้ายเข้ามาอยู่ในอรุโณทัย จำต้องทำตามประเพณี 

    เมื่อนั้นเขาได้พบกับเจ้าคุณย่าเล็กที่ดูท่าทีไม่ถูกชะตากับกล้านัก ทั้งที่เป็นเจ้าคุณย่าแท้ๆของกล้าเอง(เพราะว่าไม่ชอบหม่อมมณีรัตนา แม่ของกล้า) ซึ่งท้าเทียบกับย่าใหญ่ที่หาใช่ย่าแท้ๆ ยังเอ็นดูเสียมากกว่า

    เขาได้พบกับพลอยและพี่นพ ซึ่งเป็นลูกของหม่อมโชติและหม่อมพริ้ง ในฐานะของลุงและป้า ซึ่งพลอยมิถูกชะตากับกล้า ด้วยความยะโสและถือตัวในยศ จึงได้ขู่กล้าพนันกันเรื่อง นก ว่าใครสามารถครองมันได้ด้วยพระอาคม ก็จะชนะ
    พลอยทำไม่สำเร็จ แต่กล้าสามารถทำได้ด้วยความรู้สึกเมตตาโดยหาใช่พระอาคมไม่ 

    พลอยใส่ร้ายว่ากล้าใช้อาคมดำ ซึ่งผิดธรรมเนียมประเพณีของพฤกษศิลป์ จึงนำความไปกราบเรียนเจ้าคุณย่าใหญ่ ทั้งๆที่พี่นพใช้วิชาล่องหนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง แต่ก็จนใจช่วย เพราะกล้าอ้ำอึ้ง

    เย็นวันนั้น เจ้าคุณย่าใหญ่พูดขึ้นในห้องรับประทานอาหาร ได้ถกเถียงไปมาจนสุดท้ายย่าใหญ่สั่งให้ยุติทั้งสองฝ่าย เย็นวันนี้ย่าใหญ่ได้เชิญพระสหายในวังพาทย์กลางสวน มาบรรเลงมื้อเย็น ในช่วงนั้นฝนกำลังตกหนักพอดี เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น กล้ารับสาย เขาโทรมาแจ้งว่าคนที่จะมาที่วังพฤกษศิลป์จากวังพาทย์กลางสวน เรือคว่ำ เสียชีวิตหมดแล้ว แต่ในขณะนั้นเอง ประตูวังเปิดออก มีกลุ่มคนขึ้นมาจากท่าน้ำ กล้าตะโกน ด้วยความแปลกใจ ย่าใหญ่สะดุ้งและตกใจสุดขีด สั่งให้บ่าวไพร่พากันมารวมที่ตำหนักนี้ แล้วปิดหน้าต่างทุกบานด้วยพระอาคม ทุกคนอยู่หลังย่าใหญ่ด้วยความวิตก ย่าใหญ่ค่อยๆเปิดประตูออก มองลงไปด้านล่างเห็นพวกนั้นในชุดคลุม กำลังเดินมาด้วยอาการที่ไม่ประสงค์ดี มันร่ายพระอาคมออกมาเป็นรูปครุฑ ย่าใหญ่จึงร่ายมนต์นารายณ์อวตาลออกไป ทรงสุบรรณแล้วใช้จักร ปราครุฑจนสลายไป ไม่ช้ามันกำลังจะสู้ ย่าใหญ่จึงปริชีวิตพวกมันสิ้น   


    เสียงระเบิดโครมคราม ดังขึ้นทั่วสารทิศ ตัวอักษรเวทางค์วิทยาลัยปรากฏขึ้น กลางเวหา เป็นสัญญาณที่จะต้องส่งบุตรหลานไปยังเวทางค์ก่อนกำหนด โดยต้องรวมตัวที่กระทรวงศึกษาธิการ

    ย่าใหญ่พบท่านสนิทวงศ์ นายกรัฐมนตรี และได้โต้วาทีอยู่พักใหญ่เกี่ยวกับความไม่ปลอดถัยที่เกิด หลังจากนั้น พวกกล้าถูกส่งไปยังกระจกย่อระยะทางที่ชาวอรุโณทัยรู้จักดีในนาม กระจกรุ้งเริ้ง 

    เขาได้พบกับนางศรีสายลวด ที่ยืนต้อนรับด้วยสีหน้าไม่ยินดีนัก และเขาพบกับ ไอซ์ ชื่อจริงว่า สำรวย 555  นางศรีสายลวดเข้าใจผิดว่านี่คือนักเรียนในปกครองของตนจึงคิดจะเล่นงานการมาสายของทั้งคู่

    แต่โชคดีที่หม่อมปัทมา มาทันเวลา และพาทั้งสองซึ่งเป็นเด็กในปกครองของตนที่แท้จริงไปยังพิธีรับมอบศิษย์  และเขาได้พบกับ เอก เพื่อนใหม่ที่จะต้องร่วมชะตาด้วยกาน และพบหม่อมพวงรัตน์ หรือที่เรียกกันว่า อาจารย์พวงรัตน์ เขาดูดุมากมาย ในสายตาของนักเรียนทุกคนแต่ เขาเป็นคนที่คอยช่วยเหลือนักเรียนทุกคนที่ถูกรังแกจากนางศรีสายลวด


    คืนนั้นพวกเขาแยกย้ายเข้าหอพัก(ลืมบอกไป  ร รเวทางค์ มีสถาปัตยกรรมแบบรัตนาโกสินศก โอ่อ่าและสวยงามมากครับ) ที่สวยหรู และผลอยหลับไป หลังจากพิธีจบ อธิปวราชได้พูดคุยกับนางดุริยรัศมี อธิปปกครอง อธิปวิชาการและอาจารย์สมชาย เรื่องความไม่ปลอดภัยและสรุปว่าจะเพิ่มคาบวิชาชาญณรงค์ มากกว่าเดิม

    กล้าฝันร้ายสุดๆ ว่าเกิดการฆาตกรรมที่ ร ร และเขาเก็บความฝันนี้ไว้ และแต่งตัว ชุดราชประแตนไปเรียนวิชาในวันนี้ เขาและเอกได้นอนห้องเดียวกัน ลืมบอกไปครับ และได้เรียนหนังสือตามปกติ

    เขาได้พบกับไอซ์อีกครั้งและทั้งคู่เห็นหญิงคนหนึ่ง กำลังร้องให้ในห้องสมุด
    หลังจากนั้นเขาได้พบกับเรวดี เร วะ ดี ไม่ใช่เลวดีนะครับ เหอๆ เขาได้เป็นหัวหน้าห้องเธอเป็นหญิงที่เก่งมาก สามารถใช้วิชาชาญณรงค์สู้กับเอกในคาบนั้นจนเอกบาทเจ็บ 

    ต่อมา ตอนหลังเขารุ้ว่าเธอคนที่ยืนร้องไห้ ชื่อปาน ปาริชาต ชื่อเพราะมากๆ เธอเป็นครึ่งคนครึ่งเงือก ตัวเธอจะเป็นเงือกเมื่อสัมผัสน้ำ และพลอยรู้เรื่องนี้ แต่ถ้าเรื่องบานปลาย ปานจะถูกไล่ออกทนที พี่นพจึงตัดสินใจใช้อาคมหายตัว เอาน้ำมนต์สูญความจากห้องแม่หมอ มากรอกปากพลอยเพื่อล้างความจำช่วงวันนี้ไป (หากใช้คาถา พลอยจะเสียความทรงจำทั้งหมด) 
    แล้วร่างกายเธอเป็นเงือก พี่นพจึงอุ้มเธอไปยังตีนเขาเพื่อแช่ในน้ำทะเลาที่ล้อมรอบภูเขาลูกนี้ไว้ 


    ภายหลังเริ่มเข้มข้นแล้วครับ นี่เรื่องย่อ ยังไงช่วยเข้าไปอ่านตัวเต็มด้วยนะครับ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น