[SF] Blue Birthday [83line - TeukCin] - [SF] Blue Birthday [83line - TeukCin] นิยาย [SF] Blue Birthday [83line - TeukCin] : Dek-D.com - Writer

    [SF] Blue Birthday [83line - TeukCin]

    ผู้เข้าชมรวม

    1,650

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.65K

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    14
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ก.ค. 55 / 22:45 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Titel :: Blue Birthday

      Author : 30ww

      Pairing :  83lines (TeukCin)

      Rating : G

      Note : ฟิควันเกิดฮีชอล ที่พลอตเก่าถูกแหกกระจุยโดยเจ้าของวันเกิดเอง ฮ่าจะลงเมื่อวานก็ไม่ไหว เลยพับเก็บเอามารีไรท์ใหม่ ภาษาอาจจะดูป่วยๆเพราะไม่ได้แต่งนาน - - ;  แต่หวังว่าจะชอบกันนะคะ

       

       

       

       

                      .

                      .

                      .

       

                      ติ๊ก ต่อกติ๊กต่อก

       

      ถ้าหากเป็นปกติอย่างทุกปี เวลานี้ฮีชอลคงกำลังปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยงอยู่กับเพื่อนรวมแก๊งค์เอบี ชอคโชบอลของตัวเอง แต่ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้กับแตกต่างออกไป เค้าไม่ได้กำลังอารมณ์เสีย เพราะความรู้สึกตอนนี้มันเลยจุดนั้นมามากแล้ว

      คิมฮีชอลกำลังจะระเบิด

       

      ปริ๊นน!!

                      มือสวยทุบลงบนแตรรถอย่างแรงจนเสียงดังแผดไปทั่ว ทว่ารถที่เพิ่งขับปาดหน้าเค้าไปกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไร ซ้ำยังเบียดรถมาประชิดจนคนขับรถไม่แข็งเกร็งข้อมือแน่นยังไม่นับรวมรถอีกหลายคันที่ตามมา ซึ่งฮีชอลรู้ดีว่ามีจุดประสงค์เดียวกัน ตาคมเหลือบมองกระจกมองหลังที่สะท้อนเงารถลักษณะเดียวกันที่ยังคงตามอย่างไม่ลดละ พลางสูดหายใจเข้าและพยายามสงบอารมณ์ของตัวเองให้เย็นลงมากที่สุด

      ซาซังแฟน

                      บ่อยครั้งที่เจอการตามติดชนิดที่บ้าคลั่งจนแทบคาดไม่ถึงจากกลุ่มคนประเภทนี้ การแสดงความรักที่เสี่ยงอันตรายและได้รับแต่ความลำบากทั้งสองฝ่าย แน่นอน ว่าเค้ามีความอดทนแต่ความอดทนย่อมมีขีดจำกัด และน่าเสียดายที่เหตุการณ์ในตอนนี้มันซัดหลอดความอดทนของฮีชอลจนแตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี

                     

                      ปริ๊นนน!!!!

                     

                      เสียงแตรแผดขึ้นอีกครั้ง ทว่าไม่ใช้จากรถของฮีชอล แต่เป็นจากรถรวมถนนคันข้างๆที่ร่างเล็กเกือบจะหักพวงมาลัยไปเฉี่ยวชนเข้าริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนขึ้นริ้วขาว สติของคนความอดทนสูงกำลังจะแตก แต่เจ้าตัวก็ยังคงพยายามบังคับมือทั้งสองข้างไม่ให้สั่นไปมากกว่านี้

      ใจเย็นสิคิมฮีชอลเย็นไว้

                      หน้าจอไอโฟนที่วางไว้บนเบาะข้างๆสว่างวาบขึ้น บ่งบอกว่าอาจมีสายเข้า ข้อความ หรือการติดต่อจากทางใดทางหนึ่งที่ต้องการสื่อสารกับฮีชอล ซึ่งเจ้าตัวไม่แปลกใจนักที่จะมีคนที่บ้านนึกห่วงที่ฮีชอลยังไม่ถึงบ้านเสียที ทั้งที่วันนี้บอกว่าจะออกจากที่ทำงานเร็วกว่าทุกวัน

                      และใครคนนั้นก็คงหนีไม่พ้น ปาร์คจองซู

       

      개특 :   อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า? ㅋㅋㅋ

                  개특 :   วันนี้กลับบ้านเร็วๆนะ ^^

                  개특 :   ฮีชอลล่า วันนี้ฉันหล่อสุดๆไปเลย! รีบมาดูสิ! ㅋㅋㅋㅋ

                  .

      .          

                  개특 :   รอนายอยู่นะ ^^ ㅋㅋㅋ

       

                      ข้อความสั้นๆที่ได้รับ แต่ไม่ได้ตอบกลับเมื่อหลายชั่วโมงก่อนผุดขึ้นมาในห้วงความคิดของฮีชอลเรียกน้ำใสให้เอ่อคลอที่ขอบตาร้อนจนม่านตาเริ่มพร่ามัว ก่อนที่มือเล็กจะยกขึ้นปาดทิ้งอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เสียสมาธิในการขับรถไปมากกว่านี้ เค้าอยากได้ยินเสียงของจองซูอยากกลับบ้าน

                      อยากได้ยินเสียงร้องแฮปปี้เบิร์ดเดย์ และเป่าเค้กวันเกิดจากทุกคน

                     

       

                  ได้โปรดมีคนที่รอผมอยู่

                 

                  เพราะผมมีแค่ชีวิตเดียว และผมเสียมันไปไม่ได้           

                     


       

       

       

       
       

       

                      เค้กวันเกิดรสโปรดของฮีชอลถูกแช่กลับเข้าตู้เย็นในที่สุด เหล่าเมมเบอร์ที่แต่งตัวพร้อมปาร์ตี้เต็มยศเริ่มถอดหมวกหลากสีและเขี่ยลูกโป่งเล่น ผิดกับบรรยากาศคึกคักเมื่อหลายชั่วโมงก่อน ความตื่นเต้นที่พี่คนรองของวงโทรมาบอกว่าวันเกิดปีนี้จะฉลองกันที่หอแทนที่จะไปดื่มกับเพื่อนๆในแก๊งค์ทำให้เหล่าเด็กหนุ่มที่เหนื่อยล้าจากการโปรโมทอัลบั้มใหม่ทั้งสัปดาห์เริ่มครึกครื้นขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อเลยเวลากลับบ้านของคิมฮีชอลมาหลายชั่วโมงแล้วก็ยังไม่เห็นเงาของเจ้าของวันเกิดเสียที ซ้ำยังติดต่อไม่ได้ จึงไม่แปลกที่บรรยากาศจะเริ่มเงียบเชียบลง และเข้าสู่ภาวะเคร่งเครียดในที่สุด

      กระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น

       

                      ปึง!!!

       

                      เสียงเปิดและปิดประตูอย่างแรงทำให้ชายหนุ่มเกือบสิบชีวิตที่นั่งยู่ในห้องถึงกับสะดุ้ง แต่ก่อนที่จะมีใครตั้งสติปริปากพูดอะไรออกมา เสียงเปิดและปิดประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง แล้วร่างบางที่ทุกคนเฝ้ารออยู่นาน ก็หายตัวเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทุกคนได้แต่มองหน้ากันเลิ่กลั่กโดยไม่กล้าเปล่งเสียงใดๆออกมาทั้งสิ้น

                     

                      เกือบสิบนาทีที่ร่างบางเก็บตัวอยู่ในห้องน้ำ ก่อนประตูจะถูกผลักออกมาช้าๆ ปรากฏร่างของพี่คนรองที่มีทาท่าสงบลง มือทั้งสองข้างยกผ้าเช็ดตัวผืนเล็กขึ้นมาซับหน้าและเดินหายเข้าห้องนอนไปอย่างเงียบๆ ทิ้งไว้แต่เพียงบรรยากาศเย็นยะเยือกที่ทำให้ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะกลืนน้ำลายลงคอ

                  ฟ้าสงบก่อนที่พายุจะเข้าเสมอ

                      ประตูห้องนอนของฮีชอลปิดลงพร้อมกับเสียงล็อคดังกริ๊กบ่งบอกว่าห้องนอนของเค้าได้กลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามเป็นที่เรียบร้อย เพียงแค่นั้นน้องๆทุกคนก็พร้อมกันพ่นหายใจออกมาเสียงเบา ทว่าความกดดันที่มองไม่เห็นยังคงแช่แข็งให้ทุกคนมากล้าลุกไปไหน เว้นเสียแต่พี่ใหญ่ของวง ที่ลุกพรวดขึ้นแล้วเดินไปหยิบกุญแจสำรอง ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องของคิมฮีชอลทันที

                      “พะพี่จองซู” ทงเฮที่อยู่ใกล้ที่สุดกระตุกแขนเสื้อของพี่คนโตเบาๆ ทว่าเมื่อเห็นเสี้ยวหน้าที่จริงจังไม่แพ้คนที่อยู่ข้างในห้องของพี่คนโต คนเป็นน้องก็ยอมถอยออกมาแล้วนั่งเม้มปากอยู่นิ่งๆแต่โดยดี เค้าลืมไปว่าสถานการณ์คล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง เมื่อเวลาที่ฮีชอลเจอเรื่องแย่ๆมา คนที่เย็นพอจะเข้าใกล้ไฟโดยไม่ถูกเผาไหม้กลายเป็นจุล ได้คงไม่มีใครนอกเสียจากปาร์คจองซู

                     

                      กริ๊ก

       

                      ร่างโปร่งสอดตัวเข้ามาในห้องช้าๆ ด้วยท่าทางสบายๆราวกับว่าเค้าแค่เข้ามาหยิบของเพียงเท่านั้น แต่คนที่นั่งกอดเข่ากดโทรศัพท์อยู่บนเตียงก็ประสาทสัมผัสไวพอที่จะตวัดสายตาขึ้นมองผู้มาใหม่อย่างไม่ต้อนรับ

                      “ฉันอยากอยู่คนเดียว”

                      “ตอนนี้นายอยู่คนเดียว” เสียงทุ้มตอบกลับไปพร้อมกับร้อยยิ้มบางที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้า สายตาขุ่นมัวของฮีชอลสบตากับจองซูเพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนใบหน้าสวยที่บูดบึ้งจะก้มลงสนใจสมาร์ทโฟนเครื่องบางในมือต่อ คนถูกเมินเก็บยิ้มเก้อๆของตัวเองเก็บแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่อยู่ห่างกันไม่ไกล เค้าหยิบแมกกาซีนใกล้มือขึ้นมาอ่านราวกับไม่ใส่ใจฮีชอลมากนัก แต่ก็แอบเหลือบมองคนบนเตียงเป็นพักๆเพื่อประเมินระดับอารมณ์ของคนรักที่คุ้นเคยนิสัยกันดี เมื่อเห็นว่าร่างบางวางโทรศัพท์ในมือลงแล้ว ปาร์คจองซูก็หยิบไอโฟนของตัวเองขึ้นมาดูบ้าง ทวิตเตอร์ถูกเปิดขึ้นมาเป็นอันดับแรกด้วยลางสังหรณ์ลึกๆในใจ

                      ราวกับว่าระเบิดลูกใหญ่เพิ่งถูกปล่อยลงโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ถล่มทุกอย่างจนพังราบเป็นหน้ากลอง และเหลือไว้แต่ความว่างเปล่าที่ไม่มีใครคาดคิด แอคเค้าท์ของฮีชอลถูกลบทิ้งโดยเจ้าตัว และข้อความสุดท้ายที่เค้าทิ้งไว้ก็ถูกรีทวีตไปทั่วราวกับสะเก็ดระเบิดที่ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้ผู้คนแม้ว่าแรงระเบิดจะผ่านไปแล้ว

                      ทว่าสำหรับปาร์คจองซู ข้อความเหล่านั้นกลับไม่เกินกว่าที่เค้าคาดไว้มากนัก เพราะฮีชอลเองก็บ่นเรื่องซาซังแฟนที่รุนแรงขึ้นให้จองซูฟังมาซักพักแล้ว แต่มันเลวร้ายที่สุดตรงที่ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญ ที่เหตุการณ์แย่ๆแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับคิมฮีชอล

                  ริมฝีปากบางเม้มแน่นเมื่อรู้สึกหน่วงลึกในใจอย่างประหลาด ผิดที่เค้า ที่ควรดูแลคนรักให้ดีกว่านี้

                      ร่างโปร่งเก็บโทรศัพท์กลับลงกระเป๋า แล้วหยัดตัวลุกขึ้นช้าๆ ริมฝีปากบางพ่นลมหายใจออกมาเบาๆเมื่อเห็นร่างบางนั่งหดตัวกอดเข่าแน่น ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียง ตรงข้ามกับคิมฮีชอล

                     

                      “เหนื่อยมั๊ย เสียงทุ้มเอ่ยถามเบาๆท่ามกลางความเงียบ ประโยคง่ายๆทำให้หัวใจของฮีชอลกระตุกวูบ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมองคนถามด้วยนัยน์ตาสีเข้มที่เคลือบด้วยม่านน้ำใส

                      “” ไม่มีเสียงได้เปล่งออกมา คนตัวเล็กเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหลุบตาลงต่ำอีกครั้ง

                      “เมื่อเย็นไม่เปียกฝนใช่มั๊ย”

                      “อือ

                      “ดีแล้วล่ะ” ปาร์คจองซูยิ้มก่อนที่จะปล่อยให้ความเงียบครอบคลุมอีกครั้ง

       

       

                      “

                      “

       

       

                      “กอดกันมั๊ยครับ

                      ” คนถูกถามเงยหน้าขึ้นมองปาร์คจองซูด้วยแววตาที่ยากจะอธิบาย สีหน้าเรียบเฉยของฮีชอลไม่สามารถบอกอะไรได้แม้แต่เศษเสี้ยวความรู้สึกของเค้าในตอนนี้ เนิ่นนานที่ตาทั้งสองคู่ประสานกัน กระทั่งริมฝีปากบางของคนตัวเล็กเม้มเข้าหากันช้าๆ และพยักหน้าเบาๆเพียงแค่นั้นก็ถือเป็นคำอนุญาตให้ปาร์คจองซูขยับตัวใกล้เข้ามาแล้วดึงร่างบางเข้าไปกอดแนบอก

                      ศีรษะเล็กซบลงกับลาดไหล่กว้าง พร้อมกับมืออุ่นที่ลูบปลอบบนกลุ่มผมนิ่มเบาๆอย่างอ่อนโยน

                      “” ไม่นานไหล่บางก็สั่นน้อยๆด้วยแรงสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดอุ่น โดยที่จองซูเพียงแค่ปล่อยให้ไหล่ของตัวเองซึมซับหยาดน้ำตาของคนรักเอาไว้ แล้วปล่อยให้อีกคนระบายทุกอย่างออกมาจนพอใจ

                     

                      “ฮือ

                      “ไม่เป็นอะไรแล้วนะ

                      “ฮึก

                      “ขอโทษ ที่ดูแลนายไม่ดี ขอโทษที่เป็นแฟนแย่ๆ ขอโทษนะ ”

                      “มะ ไม่ต้องขอโทษผิดที่คนพวกนั้น ฮึกนายไม่ต้องไม่ต้องขอโทษ

                      “งั้นก็หยุดร้องไห้นะวันนี้เป็นวันของนาย”

                     

                      ร่างบางในอ้อมกอดค่อยๆสงบลง ก่อนที่ฮีชอลจะผละตัวออกมาแล้วปาดน้ำตาตัวเองออกอย่างลวกๆ จนจองซูต้องจับมือเล็กนั่นไว้ แล้วค่อยๆบรรจงปาดคราบน้ำตาออกด้วยมือของเค้าเอง

                      “ของขวัญฉันล่ะ?” เสียงอู้อี้เอ่ยขึ้น ทำเอาปาร์คจองซูเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ต่อให้เก่งยังไงก็ยังตามอารมณ์ขึ้นๆลงๆของคนตรงหน้าไม่เคยทัน

                      “อย่าบอกนะว่านายลืม หะ?” พอหายสะอื้นก็ขู่เป็นแมวหวงเจ้าของทันที น้ำเสียงปกติของฮีชอลกลับมาเรียกรอยยิ้มระบายขึ้นบนใบหน้าของปาร์คจองซูอีกครั้ง

                      “ก็ช่วงนี้มันยุ่งๆนี่นาดอกไม้ที่เตรียมไว้ก็เหี่ยวหมดแล้ว” ปาร์คจองซูแกล้งทำน้ำเสียงแผ่วเบาพร้อมกับแสดงสีหน้าสำนึกผิด

                      “ว่ายังไงนะ?” ฮีชอลยู่ปากพร้อมกับปั้นหน้าบูดทันที ทำให้คนขี้แกล้งหลุดหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะเคลื่อนเข้ามาใกล้จนหน้าผากของทั้งคู่ชนกัน

                      “ซะที่ไหนกันล่ะ

       

                      “หลับตาสิ”

                      “?” แม้จะแสดงสีหน้างุนงง แต่ฮีชอลก็ค่อยๆยอมหลับตาลงแต่โดยดี ปาร์คจองซูอมยิ้มกับใบหน้าสวยที่แสดงอาการไม่ไว้วางใจของคนตรงหน้า ก่อนจะลุกขึ้นไปปิดสวิตซ์ไฟทำให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดมิด

                      พอลืมตาก็จะมีเค้กมาให้เปล่าตรงหน้าใช่มั๊ยล่ะ มุกเก่าไปแล้วล่ะปาร์คจองซู!

                  ร่างบางคิดเองเออเองเสร็จสรรพแต่ก็ยังแอบเม้มริมฝีปากด้วยความตื่นเต้น แต่ทว่าสิ่งที่จองซูทำกับไม่เป็นไปตามที่ฮีชอลคาดไว้ มืออุ่นพยุงให้ร่างบางยืนขึ้นช้าๆ ก่อนจะประคองให้เจ้าของวันเกิดที่มองไม่เห็น แม้จะลอบหรี่ตาขึ้นมองแล้วก็เจอเพียงแต่ความมืด ภายในอกจึงเริ่มสั่นด้วยความตื่นเต้นขึ้นมาจริงๆ

                      คิดจะทำอะไรของนาย

                      “” ร่างโปร่งของปาร์คจองซูทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะรวบคนตัวเล็กให้นั่งทับลงมาบนตักเบาๆ มือทั้งสองข้างเลื่อนมาวางไว้บนคีย์เปียโน โดยขังฮีชอลเอาไว้ในอ้อมกอด

                      เรียวนิ้วสัมผัสคีย์เปียโนอย่างแม่นยำแม้จะมองไม่เห็นในความมืด

                      ร่างบางที่สั่นน้อยๆเรียกรอยยิ้มของปาร์คจองซูอีกครั้ง ก่อนที่เค้าเกยคางไว้กับไหล่เล็ก แล้วเอ่ยเสียงกระซิบที่ข้างหูของฮีชอลเบาๆ พร้อมกับเสียงเพลงที่เริ่มบรรเลงของเปียโน

                      ของขวัญที่ไม่ได้เลิศหรูถูกขับกล่อมออกมาแสนหวานราวกับร่ายมนต์

       

                      เซงิล ชุคาฮัมนีดา

       

                      “เซงิล ชุคาฮัมนีดา

                      “

       

                      “ซารางานึน ...แคชอลล่า

       

                     

                      “เซงิล ชุคาฮัมนีดา”

       

                      เสียงนุ่มทุ้มที่กระซิบร้องอยู่ข้างหู พร้อมทำนองเพลงไพเราะที่ดังก้องไปทั่วทั้งหัวใจทำให้คนที่เม้มปากกลั้นน้ำตาสุดชีวิต หลุดเสียงสะอื้นออกมาจนได้ หัวใจที่ห่อเหี่ยวด้วยเรื่องราวร้ายๆถูกเป่าลมขึ้นมาจนพองคับอก เสียงเต้นระรัวของหัวใจถูกเสียงสะอื้นกลบจนหูอื้อไปหมดร่างเล็กไม่รับรู้ถึงความรู้สึกใดๆอีกนอกเสียจากอ้อมกอดอุ่นของลำแขนแกร่งที่โอบกอดจากด้านหลัง และริมฝีปากบางที่จูบเข้าที่ขมับข้างซ้ายของตนอย่างรักใคร่

                  นับเป็นของขวัญเวลา 10 วินาที ที่ดีที่สุดในชีวิตของคิมฮีชอล

                     

                  “สุขสันต์วันเกิดนะครับ

                      “ขอบคุณที่เกิดมาบนโลกใบนี้”

                      “ฮึก

       

                      “เป็นคิมฮีชอลที่รักกับปาร์คจองซู และอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไปนะครับ”

       

                     

                  อย่างที่ผมบอกมีคนที่รอผมอยู่

                 

                      เพราะผมมีแค่ชีวิตเดียว และผมเสียมันไปไม่ได้         

                      ชีวิตที่ผมผูกติดมันเอาไว้ กับผู้ชายที่ชื่อปาร์คจองซู

                     

       

       

       

      Happy birthday

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×