[SF] Good bye ...for awhile [83lines - TeukCin] - [SF] Good bye ...for awhile [83lines - TeukCin] นิยาย [SF] Good bye ...for awhile [83lines - TeukCin] : Dek-D.com - Writer

    [SF] Good bye ...for awhile [83lines - TeukCin]

    ถ้าฉันไม่กล้าที่จะปล่อยมือจากนาย เราจะไม่มีวันกอดกันได้ชั่วชีวิตนะจองซู

    ผู้เข้าชมรวม

    2,495

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.49K

    ความคิดเห็น


    22

    คนติดตาม


    17
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ส.ค. 54 / 20:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    [OPV] 83line - เวลาไม่เคยพอ
    by 30ww


    โอพีวีง่อยๆที่เอารูปแค่ที่พอจะมีอยู่ในคอมที่เพิ่งย้ายใหม่ ลากๆลงแล้วใส่เพลง... เหมือนแค่นั้นจริงๆ
    แต่ก็อยากให้เปิดดูไปพร้อมกับอ่านนะคะ : )
     

    Ann 
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
         

      Titel :: Goodbye ...for awhile

      Author : 30ww

      Pairing :  83lines (TeukCin)

      Rating : G

      Note : Realtime ….ละมั้ง : )

                     

       

       

                      “ขับรถดีๆล่ะ”

                      “ครับ” เสียงนุ่มเอ่ยรับก่อนจะสอดตัวลงที่นั่งคนขับแล้วปิดประตู ”คนขับรถ”สะบัดหัวเล็กน้อยตามนิสัยเพื่อปัดผมม้าที่ยาวจนรำคาญตาออกให้พ้นรัศมีการมองเห็น ปาร์คจองซูจัดการคาดเซฟท์ตี้เบลท์ตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะหันไปคาดให้อีกคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง


                      
      ใครบางคนที่ใส่แว่นสีดำสนิทแล้วแสร้งทำเป็นหลับทั้งที่ขึ้นมารอบนรถก่อนไม่ถึง
       10 นาที


                      
      ร่างโปร่งจัดการสตาร์ทรถเตรียมออก มือขวาเอื้อมไปเปลี่ยนเกียร์ แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อข้างๆ มีมือสวยแบมือรออยู่

                      ปาร์คจองซูเปลี่ยนเกียร์ ก่อนจะเลื่อนมือมาสอดประสานกับฮีชอลเหมือนกับทุกครั้ง

       

                      ภายใต้เลนส์แว่นสีดำสนิทนั้น … มีดวงตาสวยหนึ่งคู่ที่รื้นไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ

       

                      สิ่งที่ทำเป็นประจำจนเคยชิน …แต่ถ้าหากวันหนึ่งมันหายไป ใครบ้างจะยิ้มรับกับมันได้ “จากใจจริง”

       

       

                      “หนาวมั๊ย?” เสียงนุ่มเอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ ฮีชอลส่ายหัวเบาๆโดยที่ไม่พูดอะไรผมสั้นที่เพิ่งไปตัดมายังดูแปลกตาสำหรับจองซูเล็กน้อย แม้เค้าจะเคยชินกับการเปลี่ยนทรงผมบ่อยๆของฮีชอลแล้วก็ตาม

                      มือที่สอดประสานกันไว้บีบแน่นขึ้น นิ้วโป้งเรียวเกลี่ยไปบนหลังมือสวยเบาๆ 

                      การแสดงออกถึงความห่วงใยที่แสนอ่อนโยน ..แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้หัวใจของฮีชอลอบอุ่นเหมือนกับทุกครั้ง

       

                      รถสีดำที่ยืมผู้จักการมาขับแล่นไปตามทางเลี่ยงเมืองสู่คังวอนโด บ้านเกิดของคิมฮีชอลที่เจ้าตัวตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมคนที่บ้านซักครั้งก่อนที่จะเข้ากรม ที่จริงแล้วปาร์คจองซูก็ไม่ได้ว่าง ณ เวลาตอนนี้เค้าควรจะนั่งจัดซูคิระอยู่กับฮยอกแจตามปกติ แต่ทว่าลำดับความสำคัญสำหรับเค้า มีฮีชอลเป็นที่หนึ่งเสมอ ยิ่งรู้ตัวว่าเวลาอันน้อยนิดกำลังเดินผ่านไป …ก็ไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่า “การได้อยู่ด้วยกัน”

       

                      เสียงเพลงจากวิทยุที่คนขับเปิดขึ้นเพื่อคลายบรรยากาศหม่นๆ ดังคลอเบาๆไปตามเส้นทางยาวที่ไร้ซึ่งรถคนอื่นร่วมทาง ถนนมืดๆถูกไฟสาดส่องให้เห็นทางข้างหน้าแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้จองซูประหม่าได้เท่ากับการกุมมือเย็นๆของคนข้างๆไว้เลยแม้แต่นิด



       

      เรายังอยู่ด้วยกันอีกนานแสนนาน

      ฉันเชื่อตัวเองเช่นนั้น ถึงได้ปล่อยวันเวลาไปไกล



       

                      ท่วงทำนองเพลงแสนหวานแต่ทว่าเนื้อหาช่างแสนเศร้าทำให้ปาร์คจองซูรู้สึกอยากจะปิดวิทยุในทันที หากแต่ความหมายของเนื้อเพลงท่อนแรกมันทำให้เค้าจุกเกินกว่าจะหายใจออกมาด้วยซ้ำ 

       

                  ควรจะบอกบางคำก็ทำลืมไป 

      คิดว่าเหลือเวลาเท่าไรก็พอพูดมัน

       

                      …..

                      ….

       

       

       

      กว่าจะบอกตัวเองว่าอย่ามั่นใจ

      ก็เมื่อในวันที่สาย ที่ไม่มีเธอข้างๆกายกัน

      อยากจะบอกคำเดิมที่เธอรอนาน

      ฉันก็เหลือแค่เพียงสิทธิ์บอกเธอผ่านสายตา

       

                      ปาร์คจองซูสูดลมหายใจเข้าอย่างติดขัด เหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ที่คอ หากเพียงแค่เข้าพ่นลมหายใจออกมาเบาๆเท่านั้น ความเข้มแข็งที่ก่อขึ้นกั้นน้ำตาเอาไว้ก็พังทะลายลง

       

       

      นาทีนี้เวลาที่มีไม่พอสักอย่าง 

      อยากมีหนทางดึงสิ่งต่างๆย้อนมา 

       

       

                      วันที่กลับหอมาแล้วเจอหน้ากันทุกวัน วันเวลาที่ได้ยินเสียงบ่นโวยวายลั่นห้อง

      วันที่เพียงเดินเข้าไปหาก็สามารถบอกให้รู้ว่ารักได้ แต่เค้าก็ไม่เคยทำ

       

       

      จะกอดเธอไว้จะทำทุกวันให้มีความหมายให้มีค่า

      จะไม่ทำให้เธอปวดใจ


                     

                      คำร้องที่บีบรัดหัวใจอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก …ความแสบที่จมูกรุนแรงขึ้นจนรู้สึกถึงน้ำใสที่เอ่อล้นรอบขอบตาที่ร้อนผ่าว …

                      ร่างบางบนที่นั่งข้างคนขับปลดเซฟตี้เบลท์ออกก่อนจะเอนตัวลงนอนซบลงบนตักของจองซู

                      คิมฮีชอลเป็นผู้ชายเข้มแข็งที่สามารถตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตได้อย่างเด็ดขาด  แต่คนเราไม่สามารถเหยียบความอ่อนแอไว้ใต้ใบหน้าที่เรียบเฉยได้ตลอดไป

       

                      เรย์แบนสีดำหล่นลงบนเบาะนั่งเผยให้เห็นตาคู่สวยที่บวมช้ำและรื้นไปด้วยน้ำตา  ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นด้วยความรู้สึกอึดอัดจนไม่รู้จะระบายออกมายังไง น้ำตาอุ่นไหลหยุดลงซึมไปบนตักของปาร์คจองซูจนชื้นเป็นวงกว้าง

       

                      ปาร์คจองซูกลืนเสียงสะอื้นลงคอก่อนจะลูบหัวคนบนตักเบาๆด้วยความรู้สึกที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย  ปลายนิ้วเกลี่ยปอยผมนิ่มแล้วเลื่อนไปไล้ซับน้ำตาบนแก้มเนียน....

                     

                      “ฮึก….

       

      ฉัน ไม่มีวันได้เธอคืนมา ฉันขอเวลาแค่บอกคำนั้น

      ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม 

       

                  มือสวยกุมมือที่ซับน้ำตาให้มาแนบแก้ม อมยิ้มพร้อมกับซุกหน้ากับมืออุ่นอย่างหวงแหน ซึมซับความอบอุ่นที่คุ้นเคย จดจำเอาไว้ วันใดที่คิดถึง เค้าจะได้รู้สึกถึงมัน

       

       

      ฉันเสียใจตลอดเวลาที่รักษาเธอไม่ได้

      สุดท้าย 

      อยากให้รู้ว่ารัก

       

       

       

       

                      รถคันสวยขับเข้ามาจอดในที่จอดรถข้างๆบ้านสองชั้นขนาดกลางที่อบอวลไปด้วยความทรงจำสมัยเด็ก ฮีชอลโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ในแบบฉบับของเด็กชายคิมฮีชอล ริมฝีกปากบางขยับพูดเจื้อยแจ้วเล่าถึงเรื่องตลกต่างๆที่ไม่ค่อยได้โทรมาเล่าให้แม่ฟัง รวมถึงบ่นถึงความเหนื่อยจากการทำงานเพราะมีลีดเดอร์วงที่เข้มงวดเกินไป

                      ปาร์คจองซูได้แต่นั่งอมยิ้มมองคิมฮีชอลเวอร์ชั่นเด็กน้อยที่จะแสดงออกต่อเมื่ออยู่กับผู้เป็นแม่เท่านั้น ริมฝีปากบางที่เชิดขึ้นเมื่อเล่าเรื่องนินทาไอดอลวงอื่นที่เคยทำงานร่วมกัน หรือดัดเสียงเลียนแบบเสียงดุๆของเทรนเนอร์ฟิตเนสที่บังคับให้เค้ากินแต่เต้าหู้

                      เมื่อนาฬิกาบอกเวลาขึ้นวันใหม่ คิมฮีชอลก็ถูกไล่ให้ไปอาบน้ำนอน ร่างบางทำเสียงงอแงกอดแม่แน่นๆอีกทีก่อนจะผละออกมาหาจองซูที่เอาแต่นั่งเปิดอัลบั้มรูปสมัยเด็กของเค้าดูแล้วหัวเราะคิกคัก

       

                      “เสียมารยาทจริงๆเลยนายนี่ เก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ ไปนอนกันได้แล้ว” มือบางกระชากอัลบั้มรูปสมัยสามขวบออกจากมือจองซูด้วยใบหน้าแดงๆเพราะตอนเด็กๆพ่อแม่ทุกคนมักชอบถ่ายรูปลูกตัวเองตอนแก้ผ้าด้วยกันทั้งนั้น

                      “น่ารัก” ปาร์คจองซูฉีกยิ้มจนลักยิ้มขึ้นที่แก้มก่อนจะกอดเอวฮีชอลเดินเข้าห้องไปโดยที่อีกคนพยายามใช้อัลบั้มเล่มหนาฟาดหัวคนข้างๆ

       

                      ภายในห้องนอนขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยของขวัญจากแฟนคลับ อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความทรงจำที่ทำให้มู๊ดอารมณ์ของทั้งคู่เปลี่ยนไปในทันที

                      รูปในเด็กชายตัวน้อยในชุดรับปริญญา ภาพโปสเตอร์ตั้งแต่อัลบั้มแรกแปะเรียงรายไปทั่วผนังห้องตุ๊กตา และกล่องของขวัญมากมาย กรอบรูปที่ถ่ายกับเมมเบอร์ทุกคนก่อนเดบิ๊วท์ จนถึงรูปที่ขึ้นรับรางวัลด้วยกัน 

      ช่อดอกไม้ที่แห้งเหี่ยว บ่งบอกถึงช่วงเวลาต่างๆที่ค่อยๆไหลผ่านพ้นไป

       

      “เวลาผ่านไปเร็วจังเนอะ” ฮีชอลเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมกับลูบมือไปบนโปสเตอร์โปรโมทอัลบั้มแรกอย่างถะนุถนอม

      “เผลอแปบเดียว เราก็มากันได้ไกลขนาดนี้แล้วสินะ” คำพูดที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินออกจากปากของผู้ชายอย่างฮีชอลถูกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ปาร์คจองซูกดยิ้มบาง พร้อมกับเดินเข้าไปกอดร่างบางจากด้านหลัง ก่อนจะเอาคางเกยไว้กับไหล่เล็ก

       

      อ้อมกอดที่อบอุ่นอยู่เสมอเรียกน่ำตาจากคนขี้แยได้ไม่ยาก

       

      ไม่มีเลยซักครั้งที่จองซูจะห้ามน้ำตาของตัวเองได้

       

      ฮีชอลผละมือออกจากโปสเตอร์มาลูบกลุ่มผมนิ่มของคนข้างๆเบาๆ ใบหน้าสวยเลื่อนหน้าผากไปชนกันกับหน้าผากของจองซู แววตาที่รื้นไปด้วยน้ำตาจ้องมองกันครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาหยดเล็กร่วงหล่นออกมา

      แค่ครู่หนึ่ง ...ที่เหมือนตลอดไป

       

       

      จนถึงตอนนี้ ปาร์คจองซูเองก็ยังคงไม่เข้าใจคิมฮีชอล

      “ทำไม ถึงไม่รอไปพร้อมกัน

       

      คำถามที่เหมือนหยุดโลกทั้งใบไว้กับที่ ร่างบางพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

       

      “ดูนี่สิจองซู” ฮีชอลไม่ตอบคำถาม เค้าเพียงแต่ชี้ไปที่กรอบรูปบนชั้นวางของ ทุกรูปที่ซูเปอร์จูเนียร์ได้รับร่างวัลต่างๆมาด้วยกัน มีลีดเดอร์ขี้แยยืนดูตรงกลาง พูดขอบคุณทุกคนที่ทำให้ซูเปอร์จูเนียร์ประสบความสำเร็จจนถึงจุดนี้ ปาร์คจองซูที่เป็นเสาหลักของน้องๆทุกคน

       

      “ซูเปอร์จูเนียร์ที่ไม่มีลีดเดอร์อีทึกน่ะ จะเดินหน้าต่อไปได้ยังไงกัน

      ฮีชอลเอ่ยพร้อมกับฝืนยิ้มออกมา … พยายามกระพริบตาถี่ๆเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลไปมากกว่านี้ แต่ก็ล้มเหลวเมื่อได้ยินสิ่งที่ปาร์คจองซูตอบกลับมา



       

      “แต่ปาร์คจองซูที่ไม่มีคิมฮีชอล ก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้เหมือนกัน….

       

      ….

       

       

      ฮีชอลเม้มปากแน่นจนเกือบห้อเลือด น้ำตาอุ่นไหลออกมาเป็นทางไม่หยุด ไม่ใช่เพราะเค้ารู้สึกเสียใจ แต่มันกลับตรงกันข้ามริมฝีปากบางคลี่ยิ้มกว้างที่สุดในชีวิตออกมาทั้งน้ำตา

      “อะไอ้บ้า อย่ามาพูดเวอร์ได้มั๊ย แค่เดือนเดียวเดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว” ใบหน้าสวยเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม พยายามพูดออกมาแข่งกับเสียงสะอื้น

       

      “ฉันแค่เป็นห่วงนาย

      “ฉันอยู่ได้น่า นายกำลังพูดอยู่กับคิมฮีชอลนะ อย่าลืมสิ”

       

      ใช่คิมฮีชอล ดอกไม้ที่เข้มแข็ง เข้มแข็งมากกว่าเค้าไม่รู้ซักกี่เท่า

       

      “ฟังนะจองซู ถึงแม้มันอาจจะเลี่ยน แต่ฉันก็ชอบประโยคนี้ ” ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดประโยคที่แม่เคยสอนไว้สมัยเด็กๆตอนสอนเค้าหัดปั่นจักรยาน

      ถ้าไม่ยอมปล่อยมือจากแม่ หนูจะไม่มีวันปั่นจักรยานได้ตลอดชีวิตนะ

       

       

      “ถ้าฉันไม่กล้าที่จะปล่อยมือจากนาย เราจะไม่มีวันกอดกันได้ชั่วชีวิตนะจองซู”

       

      “ถ้าฉันไม่กล้าที่จะปล่อยมือจากนาย …เราจะไม่มีวันกอดกันได้ชั่วชีวิตนะจองซู”

      “ถ้าฉันไม่กล้าที่จะปล่อยมือจากนาย …เราจะไม่มีวันกอดกันได้ชั่วชีวิตนะจองซู”

       

      ประโยคสั้นๆที่ดังก้องไปทั่วทั้งหัวใจ

      บางทีคนเราก็ต้องยอมเจ็บปวด เพื่อความสุขที่มากกว่า

       

      “เวลารับรางวัลก็อย่าลืมพูดถึงฉันเยอะๆนะ แฟนๆจะได้คิดถึง แล้วก็ส่งของอร่อยๆมาให้ฉันกินในกรมบ่อยๆ” เสียงอู้อี้พูดติดตลกทั้งๆที่ยังกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่อยู่

       

      “อย่าลืมคิดถึงฉันทุกครั้งก่อนนอนนะ ตื่นนอนมาก็ต้องคิดถึงด้วย เวลาอาบน้ำหรือกินข้าวก็ต้องคิดถึงนะรู้มั๊ยฮึก

       

      อือ แน่นอน”

       

       

       

      “ฮีชอล

      “อะไร”

       

       

      “ฉันรักนายนะ รักโดยไม่มีเงื่อนไข”

      “ไอ้บ้า อย่ามาล้อเลียนประโยคที่ฉันขอบคุณแฟนคลับนะ จะบอกทั้งทีก็คิดเองซะบ้างซี่” แสร้งว่าเสียงดุทั้งที่อมยิ้มจนแก้มแบปริอยู่แล้ว

       

      ฉันรักนาย

      ….

       

      รักนายนะฮีชอล

      ….

       “รัก...มากกว่าอะไรทั้งหมด

      ….

      ปาร์คจองซูรักคิมฮีชอล

       

       

       

      …..

      …..

       

       

       

      คิมฮีชอลก็รักปาร์คจองซู

       

       

       

       

      The end ...(?)

      No ,… not END … but AND (said Leeteuk)

       

      TBC in next 2 yrs ^^

       

       

       

      แต่งตามอารมณ์ล้วนๆ  ตั้งว่า realtime ไปงั้นแหล่ะ ฮ่ะๆ ….(- ᴥ -)….

                     

                      เฮ้อ… ;^;

      รีบไปรีบกลับนะ ;A;

      사랑해요김희철 기다릴게김희철 !!

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×