เขาว่ากันว่า เรื่องบังเอิญ ไม่มีอยู่จริง ถ้าอย่างนั้นการที่เรามาพบกัน คือโชคชะตางั้นหรือ 'ฟุรุยะ เรย์'
กลิ่นเเอลกอฮอล์กับเเวดล้อมที่มีเเต่สีขาวสะอาด ทำให้ฉันตัดปัญหาที่จะต้องสงสัยไปเลยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน ถึงฉันจะป่วยบ่อยเป็นอาชีพเเละหายป่วยเป็นงานอดิเรก เเต่ก็ไม่เคยจะมานอนเป็นผักปลาที่โรงพยาบาลเลยนับตั้งเเต่ตกบันไดตอนหกขวบ
ฉันกระพริบตาถี่ขึ้นเพื่อปรับระดับเเสงเเละลองขยับตัวดูเล็กน้อย..
อึก..เจ็บจัง
ฉันขยับได้นิดเดียวก็เหมือนเเผลจะปริเสียให้ได้ จึงต้องล้มเลิกเเละเอนตัวกลับไปนอนนิ่งๆเหมือนเดิม ในหัวก็กำลังปะติดปะต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างยากลำบาก
'พี่ทสึยุ ฮึก ขาผมติด'
ฉากที่ร้านสะดวกซื้อไฟไหม้เเละทุกอย่างพังครืนลงมา กลับมาเด่นชัดขึ้นอีกครั้ง
'ไม่ต้องกลัวนะเท็ตสึ พี่อยู่นี่เเล้ว' ฉันดันลังสินค้าหนักๆกับชั้นเหล็กออกไปให้พ้นตัวของน้องชาย
'รีบออกไปเร็วเข้า ! '
ฉันพยุงตัวน้องชายให้ยืนขึ้นเเล้วรีบพาออกไป เเต่ทุกอย่างก็โกลาหลขึ้นมาอีกครั้งเมื่อฝ้าหนักๆหล่นลงมาใส่ฉันเข้าพอดี เเรงเฮือกสุดท้ายฉันผลักน้องชายให้ออกไปพ้นร้านสะดวกซื้อนี่ได้ทัน
'ฮึก พี่ทสึยุ!! '
'ใครก็ได้ช่วยพี่ทสึยุด้วย! '
'พี่ชาย ! ช่วยพี่สาวของผมด้วย'
ฉันได้ยินเเค่เสียงร้องไห้สลับกับร้องขอให้ช่วย ด้วยตาที่เริ่มพร่ามัวทำให้มองเห็นอะไรได้ไม่ชัด
'เฮ้ เธอ! ทำใจดีๆไว้'
นึกอยากจะขอบคุณเขาที่มาช่วย เเต่ก็ขยับตัวไม่ได้ รู้สึกตัวอีกทีฉันก็มาอยู่ที่โรงพยาบาล
เเล้วเท็ตสึล่ะ…
เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ ฉันก็เริ่มกระวนกระวาย เป็นห่วงน้องชายว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง และขณะที่กัดฟันลุกขึ้นเเละกำลังจะกระชากเข็มน้ำเกลือออกจากมือก็ได้ยินเสียงเปิดประตูขึ้น
"ฟื้นเเล้วหรอครับ โอโทระจัง ผมว่าอย่าเพิ่งขยับตัวจะดีกว่านะครับ"
ฉันมองดูบุคคลที่เหมือนจะคุ้นหน้าคนนี้อยู่นาน ก่อนจะนึกได้ว่าเคยได้ยินเสียงนี้ ถ้าฉันจำไม่ผิดเขาคงเป็นคนที่ช่วยฉันเอาไว้
"น้องชายของเธอปลอดภัยดีครับ หลังจากทำเเผลก็พาไปส่งที่บ้านให้เเล้วล่ะ" เขาพูดเหมือนรู้ว่าฉันกำลังกังวลอะไร
"โล่งอกไปที ขอบคุณมากนะคะ คุณ..."
"ผมอามุโร่ โทโอรุ "
วันนี้เป็นวันที่สามหลังจากที่ฉันได้ออกจากโรงพยาบาล เท็ตสึพอเห็นฉันกลับมาก็เอาเเต่ร้องไห้เเล้วกอดฉันไว้ไม่ไปไหน จนวันนี้ก็ยังคอยเดินตามติดฉันเเจ พยามโอบขาฉันไว้ไม่ให้ล้ม
"พี่เดินไหวนะเท็ตสึ ไม่ต้องพยามขนาดนั้นก็ได้" ฉันพูดยิ้มๆ พลางลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู
" เจ็บขาเเล้วก็เเขนด้วย ถ้าล้มขึ้นมาจะเจ็บอีกนะ" เด็กชายวัยเจ็ดปียังคงช่วยพาฉันไปนั่งที่โซฟาอย่างทุลักทุเล
ฉันใส่เฝือกที่ขาทำให้การเดินเองค่อนข้างลำบาก เเอบกังวลลึกๆเหมือนกันว่าจะพลอยทำให้เท็ตสึลำบากไปด้วย ฉันจะต้องรีบหายให้เร็วที่สุด
"เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้นะฮะ" เท็ตสึวิ่งหายไปในครัว
เเกร๊ก
เสียงไขลูกบิดประตูดังขึ้น ตามจริงเเล้วบ้านหลังนี้ฉันอยู่กับน้องชายเเค่สองคน เเต่คนเเปลกหน้าที่เข้ามาวันนี้ เขาถูกเท็ตสึขอร้องให้มาช่วยเป็นกรณีพิเศษ
"ขอบคุณที่มานะคะคุณอามุโร่"
"ไม่เป็นไรๆ เธอขอบคุณผมมาสามวันติดเเล้วนะ"เขาหัวเราะร่วนที่เห็นฉันก้มหน้าก้มตาขอบคุณเขามาสามวันติดเเล้ว
ฉันได้ฟังจากเท็ตสึว่า เขากับเพื่อนๆเคยไปคาเฟ่เล็กๆ ที่ชื่อว่า ปัวร์โร อยู่บ่อยๆ เเล้วก็ได้รู้จักกับ คุณอามุโร่ โทโอรุ ที่ทำงานอยู่ที่นั่น เขาเคยบอกว่าอาหารที่นั่นอร่อยมาก โดยเฉพาะเค้กส้ม
เขาจึงเเวะไปที่ร้านนั้นเกือบทุกเย็น เลยทำให้ค่อนข้างคุ้นชินกับคุณอามุโร่
อันที่จริงฉันก็เคยเจอคนๆนี้ที่ร้านสะดวกซื้ออยู่บ้างเหมือนกัน เเต่ไม่ได้คุยอะไรกันเป็นการส่วนตัว เพราะเราต่างก็มีจุดประสงค์ที่จะมาซื้อของกลับไปเหมือนกัน เเละหลายครั้งก็จะเห็นเขาถือวัตถุดิบถุงใหญ่ออกไปจากร้าน บางครั้งก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยกันถือถุงเเป้งใบใหญ่กลับไป ฉันที่มาเลือกซื้อของสดเข้าครัวเพื่อทำหารให้ตัวเองเเละน้องชายจึงไม่ได้สนใจอะไรต่อจากนั้น เเต่ดูท่าเเล้วเท็ตสึคงจะชอบเขาเอามากๆ
ไม่น่าล่ะ...ของหวานที่ซื้อมาฝากฉัน มันมักจะเป็นเค้กส้มของร้านนั้นเสมอเลย
เท็ตสึบอกว่า คุณอามุโร่ใจดีกับเด็กๆ เเล้วก็เป็นคนดีมาก อีกทั้งเหมือนจะเป็นคู่ขาไขคดีกับเพื่อนคนเก่งของเขาคนหนึ่งด้วย นั่นทำให้ฉันนึกออก ว่าฉันเองก็เคยเห็นเด็กคนนั้นครั้งหนึ่งตอนที่มีอุบัติเหตุเเถวๆบ้าน รถตำรวจเปิดไซเรนเสียงดังวุ่นวายจนต้องขอเป็นหนึ่งในญี่ปุ่นมุงสักนาที
วันนั้นนักสืบชื่อดังที่เปิดสำนักงานเเถวนี้ก็มาด้วย เด็กคนนั้นตามมาพร้อมกับนักสืบ ทั้งสองคนลงไปตรวจที่เกิดเหตุได้ไม่นาน เด็กคนนั้นก็เจอความผิดปกติหลายอย่างจึงเอาไปบอกให้นักสืบเเละตำรวจคนอื่นได้รู้ เเม้จะโดนเอ็ดที่เข้าไปวุ่นวายเเต่เพราะเด็กประถมคนนั้นก็ทำให้พวกเจ้าหน้าที่ได้ข้อสรุปใหม่ กลายเป็นว่า นั่นไม่ใช่อุบัติเหตุเเต่เป็นการฆาตกรรม
ถ้าจำไม่ผิดเธอได้ยินตำรวจเรียกว่า ‘ โคนันคุง ’
เเละเมื่อได้ข้อสรุป เขา..อามุโร่ โทรุ คนนั้น ก็เข้าไปร่วมด้วย เขาเข้าไปพร้อมผู้ต้องสงสัยกลุ่มหนึ่งให้ได้ช่วยกันตรวจสอบเเละเวลาผ่านไปไม่นาน คุณอามุโร่กับโคนันคุงก็ได้พูดคีย์เวิร์ดที่ทำให้นักสืบสามารถชี้ตัวคนร้ายได้ก่อนจะประกอบเข้ากับหลักฐานจนดิ้นไม่หลุด สุดท้ายจบลงที่ตำรวจก็คุมตัวคนร้ายคนนั้นกลับไป วันนั้นฉันกลับบ้านช้ากว่าเดิมไปพักใหญ่เพราะเผลอติดตามการไขคดีจนจบ
เพราะเป็นที่รู้จักกับนักสืบเเละตำรวจ ทำให้ฉันคิดว่าคงไว้ใจเขาได้ กอปรกับบุคลิกที่สุภาพทำให้ฉันไม่คิดสงสัยอะไร เเต่ก็ยังคงเกร็งอยู่ที่จู่ๆ จะได้เข้ามาทำความรู้จักกันโดยที่จุดสตาร์ทไม่ได้เริ่มที่ 0 เเบบถามไถ่ชื่อหรือเรื่องตื้นเขินอื่นๆทั่วไป เเต่เริ่มจากในครัวของบ้านตัวเองเลยเเบบนี้เเทน
"เอ่อ คุณอามุโร่ จะทำอาหารหรอคะ?" ฉันเพิ่งสังเกตถุงของสดที่เขาถือมาด้วย นึกว่าจะเเค่ช่วยเอาอาหารมาส่ง เพราะเท็ตสึคงบอกไปว่าฉันทำเองไม่สะดวก
"อ้อ ใช่ครับ ผมว่าจะขอใช้ครัวของเธอหน่อยน่ะ "
นี่เขาสนิทกับเท็ตสึจนถึงขนาดไหนกัน ถึงได้ทำตัวปกติมากเวลามาทำครัวในบ้านที่เขาไม่เคยเข้าไปมาก่อน
"เอ่อ.. เดินเข้าไปข้างในก็จะเจอครัวเลยค่ะ เเต่ว่าจริงๆเเล้วคุณไม่น่าจะต้องลำบากเลยนะคะ"
"ไม่ได้ลำบากอะไรหรอก อีกอย่างน้องชายตัวน้อยของเธอเป็นคนขอร้องทั้งทีนี่นา" เขาว่าพลางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
เป็นคนดีอย่างที่เท็ตสึบอกจริงๆนั่นเเหละ
"ยังไงก็ขอบคุณจริงๆนะคะ" ฉันก้มหัวลงเป็นพัลวัน
เขาหัวเราะน้อยๆอีกครั้ง เเล้วเดินสวนกับเท็ตสึเข้าไปในครัว เท็ตสึทักทายอย่างร่าเริงพร้อมกับวิ่งเอาน้ำมาให้ฉันเเล้วก็วิ่งหายไปในครัวอีก เสียงคุณอามุโร่กับเท็ตสึลอดออกมาให้ได้ยินเป็นพักๆ
ฉันนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่พักใหญ่ ก่อนที่มือไม้เริ่มจะอยู่ไม่สุข ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีกมากพอควร มือข้างที่ไม่เจ็บเอื้อมไปหยิบเเลปท็อปมาวางไว้ที่หน้าตัก เเล้วเริ่มเปิดจอขึ้นทำงานต่อทันที
มือเอื้อมหยิบเเว่นตากรองเเสงที่ใช้ประจำบนชั้นวางมาสวม เพราะงานพวกนี้มักจะทำให้ปวดตาได้ง่ายเเละยิ่งเหลือมือเเค่ข้างเดียวที่ใช้การได้นั่นก็ยิ่งทำให้ต้องจ้องหน้าจอนานขึ้นกว่าเดิมอีกเท่าตัว ฉันเลื่อนนิ้วมาเปิดกล่องข้อความในอีเมลดูข้อความเกี่ยวกับรายละเอียดของงานก็เข้าพรึ่บเหมือนทุกทีจนต้องลอบถอนหายใจ ก่อนจะพิมพ์ไปบอกผู้จัดการว่าฉันประสบอุบัติเหตุ งานหน้าคงจะรับทำไม่ได้ ถ้ามีเข้ามาอีกให้หาคนมาเเทนได้เลย
ฉันรับงานพวกเว็บกราฟฟิกดีไซน์เเละออกเเบบโปสเตอร์สินค้าต่างๆ จึงทำให้ทำงานอยู่ที่บ้านได้ตลอด เพื่อที่จะมีเวลาให้เท็ตสึ อีกทั้งทำให้สะดวกต่อการเรียนต่อด้วย ฉันไม่ได้เข้าโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่น เรียนเเบบนอกระบบเอาเเทน อีกเเค่สามเดือนฉันก็จะจบปีเเรกของมหาลัย
จริงๆเเล้วฉันเรียนเร็วกว่าคนอื่นหนึ่งปี เพราะด้วยการที่เรียนเเบบนอกระบบ มันทำให้ฉันพาสชั้นมาได้ตามคะเเนนสอบเทียบ
ในระหว่างนี้ ภายในครัวก็กำลังง่วนกับการเตรียมอาหารกันยกใหญ่ เพราะเด็กชายตัวดีอยากจะช่วยทำด้วย เเต่ด้วยความที่ยังเป็นเด็ก มือเล็กเผลอทำมันฝรั่งร่วงลงกะละมังติดกันหลายต่อหลายครั้ง จนน้ำกระเด็นเปียกเสื้อไปหมด
เเต่เห็นสีหน้ายิ้มแย้มของเท็ตสึ เขาก็ยอมปล่อยให้อาหารเสร็จช้ากว่าที่ควรไปอีกสักหน่อย
ผ่านไปอีกนับชั่วโมง ซุปร้อนกับมันฝรั่งบดสำหรับหนึ่งที่ก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
ใบหน้าหวานดูจริงจังกับหน้าจอโน้ตบุ้กบนตักมากจนเขาไม่กล้าที่จะเข้าไปขัด ทำได้เเค่ยืนดูห่างๆเเละไม่ยกอาหารออกไปสักที ช่วงเวลานี้เป็นเวลาที่เขาได้สังเกตอย่างจริงจัง ทสึยุเป็นเด็กสาวที่มีน้ำมีนวล ไม่ได้ผอมบางติดกระดูกเเบบที่เด็กในวัยเดียวกับเธอฮิตกัน ผมหยักศกสีน้ำตาลถูกปล่อยยาวสยายเกือบถึงกลางหลัง มีหน้าม้าหนาลงมาคลออยู่ที่กรอบเเว่นเล็กน้อย ขับให้หน้าดูหวานขึ้น เเต่ผิวขาวนวลดูซีดลงเมื่อดูเทียบกับดวงตาสีฟ้าหม่นของเธอ
เท็ตสึเคยเล่าให้เขาฟังว่า 'พี่สาวเป็นนางฟ้า' เพราะทั้งพ่อกับเเม่เเล้วก็ตัวเท็ตสึเองมีดวงตาสีน้ำตาลกันหมด ยกเว้นก็เเต่เธอ มันทำให้เท็ตสึประหลาดใจเสมอ เรื่องนี้เขาพอจะเข้าใจ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้น้อย เเต่ก็เกิดขึ้นได้ เป็นเพราะความผิดปกติของยีน
'เเต่บางครั้งพี่สาวก็มีช่วงที่ตาเป็นสีน้ำตาลเหมือนกันนะ' ประโยคนี้ทำให้เขาสงสัยอยู่หน่อยๆ เเต่คิดว่าเท็ตสึคงจะเห็นสีเพี้ยนจนเข้าใจผิดไปเอง
เมื่อถูกจ้องมองนานๆเข้า ก็เหมือนเธอจะเริ่มรู้สึกตัว เขารีบยกอาหารไปให้ทันกับจังหวะที่เธอละสายตาจากหน้าจอพอดิบพอดี
"อาหารเสร็จเเล้วล่ะ พักกินก่อนเถอะ" เขาวางอาหารลงตรงหน้าเธอให้ ก่อนจะเดินไปเปิดม่านสักหน่อย เพราะรู้สึกว่าเเสงเข้ามาน้อยไป เดี๋ยวคนที่มองจอนานๆจะสายตาเสียเอาได้
"น่าทานมากเลยค่ะ คุณ.. โอ๊ะ " เเสงเเดดที่สว่างจ้าขึ้นมากระทันหันทำให้ดวงตาของเธอปรับตามไม่ทัน
"หืม เเสบตาหรอครับ ขอโทษทีนะโอโทระจัง"
"มะ ไม่เป็นไรค่ะ สักแปปนึงเดี๋ยวก็ชินตาไปเอง" มือเรียวถอดเเว่นออก เธอกระพริบตาถี่ๆไล่ระดับเเสงที่เข้ามา เมื่อหายเป็นปกติจึงทำให้คนตัวสูงเห็นชัดว่า ดวงตาสีฟ้าหม่นของเธอเริ่มเปลี่ยนสีอย่างช้าๆ...
มันกลายเป็นสีน้ำตาล จริงๆ
เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์เเบบนี้มาก่อน ทำให้เผลอโน้มตัวไปมองตาเธออย่างสนอกสนใจอยู่พักหนึ่ง
' พี่สาวผมเป็นนางฟ้า ' ชักจะเชื่อคำพูดที่น้องชายชมเธอเอาไว้ขึ้นมาเเล้วสิ
ปกติเขาเป็นคนที่ค่อนข้างระวังคำพูดพอสมควร คิดหน้าคิดหลังก่อนจะพูดอยู่เสมอ เเต่ว่าครั้งนี้ คงจะเกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิกเล็กน้อย
"ตาของเธอ...สวยจังนะ"
กว่าจะสำนึกได้ว่าพูดอะไรออกไป เด็กสาวที่ถูกมองก็เริ่มจะหน้าเเดงเเข่งกับซุปร้อนๆของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว
เเละก่อนที่เขาจะทำให้เธอเเละตัวเองเขินไปมากกว่านี้ก็มีเสียงระฆังช่วยชีวิตดังขึ้น
"ผมมาเเล้วฮะ พี่ทสึยุ !" เด็กชายที่หายไปจากเรื่องได้สักพักเดินวิ่งลงมาจากชั้นสอง พร้อมกับเสื้อตัวใหม่ เนื่องจากตัวเก่าได้รับผลกระทบในวีรกรรมมันฝรั่งจนชุ่มฉ่ำไปเเล้ว
เด็กสาวรีบดีดหน้าหลบจากเขาไปทางน้องชายอย่างว่องไว ส่วนเขาก็ผันหน้าไปนับนกบนเสาไฟฟ้าข้างนอกหน้าต่าง ราวกับว่าสนใจจะเอาไปทำข้อมูลเชิงสถิติ
"เเล้วนั่นพี่เป็นอะไร ทำไมหน้าเเดงจัง ไม่สบายหรอฮะ?" เท็ตสึเอียงคออย่างน่ารัก
เขารู้สึกอยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดก็ตอนนี้นี่เเหละ...
-------------------------------------------------------
"ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ"
หลายวันต่อมาคุณอามุโร่ก็ยังคงมาช่วยเรื่องอาหารการกินที่บ้านให้ฉันกับเท็ตสึอยู่เรื่อยๆ
เขายิ้มอย่างใจดีก่อนจะช่วยเก็บจานไปล้างให้เท็ตสึก็คอยตามไปช่วยด้วยอีกเเรง
ฉันเกรงใจเขามากจริงๆ ถ้าหายดีเเล้วสัญญาเลยว่า ฉันจะต้องหาทางตอบเเทนเขาเเน่ ตอนนี้เเขนเริ่มขยับได้คล่องขึ้นแล้ว คงไม่ต้องให้เขาช่วยทำอาหารให้เหมือนวันเเรกๆ ส่วนขาก็ดีขึ้นตามลำดับ อีกสองอาทิตย์ก็ถอดเฝือกออกได้
พูดถึงวันเเรก ฉันก็ยังนึกถึงเหตุการณ์น่าขันตอนนั้นขึ้นอยู่เรื่อย คำพูดที่ดูจะเข้าข่าย มุกเสี่ยว แบบนั้น ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะได้ยินจากปากของเขาด้วยบุคลิก เพราะปกติเเล้วจะได้ยินจากผู้ชายขี้หลีข้างนอกบ่อยๆ อย่างเช่น
'ตาของคุณช่างสวยเหลือเกิน' บ้างล่ะ
หรือไม่ก็ 'คุณกับผมเคยเจอกันมาก่อนเเน่ๆ'
เเล้วเมื่อฉันถามต่อว่าที่ไหน ก็ตอบกลับมาว่า ' ในความฝัน..'
ประโยคเเบบนี้ก็รู้สึกจะเคยมีเหมือนกัน 'คุณช่างเหมือนกับดวงอาทิตย์'
ฉันงงไปในตอนเเรก เเละก็ต้องยิ้มเเห้งๆเมื่อประโยคต่อมามาเฉลยอีกที
'ที่เวลาอยู่ใกล้เเล้วรู้สึกเหมือนกำลัง ละลาย'
เเต่เมื่อประโยคทำนองนี้หลุดออกมาจากปากของเขา ทำเอาฉันไปไม่ถูกเหมือนกัน เพราะปกติก็คงจะอึดอัดเเละขอตัวไม่ต่อบทสนทนาด้วยอีก เเต่ก็ดันเห็นสีหน้าว่าเขาเองก็ตกใจ คล้ายไม่ได้ตั้งใจจะพูด มันเลยเปลี่ยนจากความอึดอัดนั้นเป็นขำขันในภายหลังที่นึกถึงเเทน
"หัวเราะอะไรอยู่หรอครับ?" ฉันสะดุ้งเล็กน้อยที่จู่ๆเขาก็โผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง
"นึกถึงเรื่องเมื่อหลายวันก่อนขึ้นมาน่ะค่ะ คิก" ฉันตอบ
อามุโร่เริ่มหน้าซับสีเเดงขึ้นมาอีกระรอก เเต่รอบนี้ยังสามารถเก็บอาการได้อย่างดีเยี่ยม ตามแบบฉบับโป๊กเกอร์เฟส เด็กสาวยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นเขานิ่งไป ในใจคิดว่าเขาอาจยังขัดเขินอยู่ จึงเริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย
เขาชักจะหมั่นเขี้ยวเด็กคนนี้ขึ้นมาเเล้วสิ
"จริงสิ ขอบคุณที่ช่วยดูเเลนะคะ เเต่ว่าฉันดีขึ้นมากเเล้ว น่าจะกลับมาทำอาหารได้เเล้วด้วย..."
"เพราะงั้น จะไม่ขอรบกวนคุณไปมากกว่านี้เเล้วล่ะค่ะ"
อามุโร่ฟังที่เด็กสาวพูดด้วยไม่รู้เรื่องสักนิด เพียงเพราะได้ยินเสียงหัวเราะเพียงสั้นๆของเธอเท่านั้น
สงสัยนักว่า เเม่ของเธอกินอะไรบำรุงครรภ์ ลูกสาวถึงได้ออกมาเจิดจ้าปานนั้น
"คุณอามุโร่คะ?" เด็กสาวโบกมือไปมาตรงหน้าเมื่อเห็นว่าเขานิ่งไม่ตอบสนองกับที่เธอพูดเลยสักนิด
"อะ..ครับ? เมื่อกี้..." เธอยู่ปากลงเล็กน้อย
เเต่ก่อนที่เธอจะอ้าปากพูดอะไรต่อ น้องชายตัวน้อยก็วิ่งเข้ามา "ผมเก็บจานเสร็จเเล้วฮะพี่อามุโร่"
"เก่งมากเลยเท็ตสึคุง" เขาลูบหัวเท็ตสึนิดหน่อย เเล้วจึงหันมาหาเธอเป็นเชิงว่ากลับเข้าเรื่องต่อ
"ฉันบอกว่าคุณไม่จำเป็นต้องมาช่วยทำอาหารให้เเล้วก็ได้นะคะ เเขนฉันขยับคล่องดีเเล้วค่ะ แล้วก็ ไม่อยากจะรบกวนคุณมากเกินไปด้วย.."เธอพูดเสียงเนิบนาบ คงเพราะกังวลว่าเขาจะคิดมากเป็น เธอกำลังไล่เขา อะไรแบบนั้น
"อ๋อ...ครับ" เธอเป็นคนที่ขี้เกรงใจมากพอตัวเลยทีเดียว
จู่ๆเขาก็รู้สึกถึงแรงดึงเบาๆที่ขากางเกง จนต้องก้มลงไปมอง
"เอ๋...พี่อามุโร่จะไปเเล้วหรอฮะ" เด็กชายเงยหน้าขึ้นถามเขาอย่างน่าเอ็นดู
"เท็ตสึ อย่างอเเงใส่คุณอามุโร่สิ" เธอพูดเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน
เขาที่ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ ก็กระตุกยิ้มหวานกว่าปกติ พลางลูบหัวของเท็ตสึอีกรอบแล้วจึงย่อตัวลงนั่งให้อยู่ระดับเดียวกับเด็กชายตัวน้อย
"เท็ตสึคุง ไม่อยากให้ไปหรอ?" พอเขาพูดแบบนั้นเด็กชายที่จ๋อยจากที่โดนพี่สาวปรามรีบพยักหน้าเเรงๆเด็กสาวที่ดูเหตุการณ์อยู่ก็ทำหน้าลำบากใจ พร้อมยิ้มเเห้งๆมาให้
เเผนการสำเร็จ:)
"งั้นพี่จะเอาของสดมาส่งที่บ้านให้เเทนเเล้วกันนะ จะได้เจอเท็ตสึด้วย ดีมั้ยครับ?"
"ดีฮะ !" เท็ตสึรีบตอบทันควัน ทำเอาทสึยุหน้าเหวอไปเล็กน้อย
"เอ่อ..ตะ เเต่ว่า " เธอยกมือขึ้นเกาเเก้มเล็กน้อย
"ไม่รบกวนหรอกครับ สบายใจได้ เพราะผมเต็มใจ...มาก"เขาเน้นย้ำคำสุดท้ายพร้อมมองเข้าไปในดวงตากลมโตที่ตอนนี้กำลังยืนมองตาปริบๆ อย่างไม่อาจขัดขืน
ณ อพาร์ทเม้นท์เเห่งหนึ่ง ที่ภายนอกดูธรรมดา ไม่ได้น่าอยู่เท่าไหร่ เเต่ภายในกลับสบายกว่าที่คิด อาจเป็นเพราะเขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีระเบียบและรักสะอาด ทั้งยังไม่ชอบตกแต่งบ้านกระจุกกระจิกทำให้ห้องค่อนข้างโล่ง ดูมีพื้นที่กว้างกว่าปกติ เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่ถูกตั้งไว้ก็เพื่อพร้อมใช้งานทันที ไม่มีชิ้นไหนที่ตั้งไว้เเล้วเสียเปล่าเหมือนห้องพักอื่นๆ
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เเล้วเพ่งสายตาจดจ่อกับโน้ตบุ๊กเพื่อ'ทำงาน' ที่ได้รับมอบหมายมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ ทำให้เขาต้องรีบบึ่งกลับมาหลังจากที่เพิ่งติดตั้งระเบิดเวลาเอาไว้กับใครบางคนเรียบร้อย
"ได้ข้อมูลรึยัง เบอร์เบิน " สมอลทอร์คขนาดจิ๋วส่งเสียงทรงเสน่ห์ของหญิงสาวออกมาเบาๆ
"ใกล้ได้เเล้ว..." อามุโร่ตอบกลับไป
ปลายนิ้วเรียวยังคงสลับกันขึ้นลงบนแป้นพิมพ์เป็นระวิง การเจาะระบบเพื่อเเอบลักลอบเอาข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย เเต่ก็ไม่ได้ยากสำหรับเขาเหมือนกันเรื่องแบบนี้เขาทำมาบ่อยพอๆกับการขับรถเลยก็ว่าได้
ปึก ! เสียงนิ้วกระทบเเป้นพิมพ์สิ้นสุดลง เร็วพอๆกับเสียงเขาที่ตอบกลับไป
"ส่งไปให้เเล้วครับ"
"หืม เร็วดีนี่ เสียงเธอดูรีบนะ"
"นี่มันก็เวลาที่คนปกติเขาจะต้องทำงานครับ เผื่อคุณจะลืม" จริงๆแล้วเขาแค่หงุดหงิดนิดหน่อยที่ต้องผละจากบ้านหลังนั้นเพื่อกลับมาทำงานที่โดนไหว้วาน ไม่ใช่ภารกิจหลักแต่อย่างใด
ปลายสายส่งเสียงฮึดฮัดก่อนจะวางสายไป มือเรียวกำลังจะพับหน้าจอโน้ตบุ๊คของตัวเองลงเมื่อปฏิบัติภารกิจเสร็จ เเต่เเวบหนึ่งกลับคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ปลายนิ้วรีบกลับมาเเตะเเป้นพิมพ์อีกครั้ง
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีวันที่เขาต้องมาทำอะไรเเบบนี้อามุโร่ถอนหายใจเเล้วมองสิ่งที่ตัวเองกำลังจะศึกษาอยู่นานสองนาน เเม้ว่าเล่ห์เหลี่ยมที่สะสมมาของเขานั้นจะมีมากเกินพอที่จะทำอะไรเเบบนี้สำเร็จ
เเต่กับเธอคนนี้ ทำเอาเขาเสียความมั่นใจไปไม่น้อย
เพราะหลังจากวันนั้น ก็กลายเป็นเขาเสียเองที่โดนทำให้เขินจนเหงื่อซึม
‘ 10 วิธี จีบสาวอย่างไรให้ได้ผล100% ’
เเต่หลังจากกดเข้าออกเว็บเเล้ว..เว็บเล่า มาได้สักระยะหนึ่ง เขาก็เริ่มหลับตาพลางกุมขมับเเล้วออกเเรงนวดคลึงเบาๆ
ใครจะไปใช้คำพูดเลี่ยนๆเเบบนั้นกันเล่า!
การค้นหาของเขาเป็นอันไร้ประโยชน์เมื่อเจอมุกจีบสาวเลี่ยนๆของหนุ่มสาวสมัยนี้เข้าไป เเต่ก็พอมีบางบทความในอินเทอร์เน็ตที่พอจะเข้าเค้าได้อยู่
' สัมผัสนิดๆเเบบไม่ได้ตั้งใจ ก็ทำให้พอมีโอกาสได้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบเราหรืออย่างไรนะครับ เเต่มั่นใจได้เลยว่าเขาจะสนใจจำเราได้เเน่นอน อีกทั้งอาจทำให้เราดูสุภาพ นุ่มนวลขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์บังเอิญไปเเตะตัวเธอคนนั้นเข้า เเล้วขอโทษ '
อย่างน้อยทำให้สนใจได้บ้างก็คงดี
เขาสะดุ้งกับความคิดตัวเอง ตอนเเรกเขาเเค่หมั่นเขี้ยวอยากจะเเกล้งก็เท่านั้น เเต่การกระทำของเขาตอนนี้กลับอยากทำให้เธอหันมาสนใจ เเละเมื่อได้ลองเอามาใช้จริงในวันต่อมา ผลลัพธ์ก็ไม่ได้หลุดไปจากที่คาดไว้เท่าไหร่
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันขยับออกไปให้คุณอามุโร่จะได้นั่งสบายๆ” สาวเจ้าส่งยิ้มมาให้ เมื่อเเขนเราทั้งคู่จงใจบังเอิญให้เเตะกัน กลายเป็นว่านอกจากเธอจะขยับห่างออกไปเเล้ว เธอยังพยามรักษาระยะห่างเพื่อไม่เกิดเหตุการณ์เเบบนั้นขึ้นอีก
อนิจา…
เขานอนคิดถึงเรื่องของเธอเกือบทุกคืน เพราะไม่ว่ากี่วันที่จะเอาของสดไปส่งให้ที่บ้าน เขาก็ดูไม่มีเเววจะ 'ตก' เธอ ได้เลย ทั้งๆที่หลายกระทู้ก็เคยมีคนรีวิวจีบสาวเเล้วได้ผลกันเยอะเเยะ เธอกลับเป็นคนเดียวที่ไม่สะทกสะท้าน อีกทั้งปฏิกริยาตอบกลับของเธอดันส่งผลต่อใจเขาเเทนไปเสียอีก
เสียงหัวเราะเบาๆกำลังบอก เขายอมรับตัวเองเเล้วว่า กำลังรู้สึกพิเศษกับเธอจริงๆ
เริ่มวันใหม่ที่ก็ไม่ได้มีอะไรต่างไปจากเดิม ลูกค้ายังคงมากันเยอะในช่วงกลางวัน อาหารถูกยกเสิร์ฟไปหลายต่อหลายจาน จนเมื่อตกเย็นมาก็เจอตัวการเดินมารับน้องชายถึงที่ร้านปัวร์โรด้วยใบหน้ายิ้มเเย้ม เธอเดินได้ค่อนข้างปกติเเล้ว เเต่ถึงอย่างนั้นก็ดูรู้ได้ว่ามันยังไม่หายสนิทดี ทั้งๆที่เตือนเเล้วว่าอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวมากไป
นี่เธออายุเท่าเท็ตสึหรือไง
"เท็ตสึ ยังไม่มาหรอคะ?" ทสึยุผลักบานประตูเข้ามาก่อนจะหยุดสายตาลงที่ชายหนุ่มเเทนเมื่อกวาดตามองเเล้วไม่เจอน้องชาย
"เห็นว่ากำลังเดินกลับมากับเพื่อนๆน่ะครับ"
"อ้อ.."
"โอโทระจัง นั่งรอที่นี่สักพักก่อน เดี๋ยวผมไปเอาเครื่องดื่มเย็นๆมาให้ ผมเลี้ยงเองครับ" อามุโร่บอกยิ้มๆ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปเตรียมแก้วหลังเคาท์เตอร์
"เอ๊ะ ไม่ต้องก็ได้นะคะ เเบบนั้นมันดูจะ.." เด็กสาวร้อนรนเมื่อเขาบอกว่าจะเลี้ยงน้ำให้
"ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ก็ได้เวลาที่ร้านจะปิดพอดี ของที่เก็บข้ามวันไม่ได้ก็ต้องทิ้ง สู้เอามาให้เธอกินดีกว่า" เเม้จะได้ฟังเเบบนั้น เเต่เธอก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี
ทสึยุมองเเผ่นหลังของอยู่ครู่หนึ่ง เธอตัดสินใจวางกระเป๋าสะพายลงบนเก้าอี้ เเล้วเดินอ้อมไปที่หลังเคาท์เตอร์ตรงที่ล้างจาน หมุนเปิดก๊อกน้ำเเล้วเริ่มลงมือจัดการกับกองจานในนั้น
"เอ่อ โอโท--" อามุโร่ชะงักมือที่กำลังปรุงเครื่องดื่มเมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ข้างๆ
"ถือสะว่าฉันทำงานเเลกกับเครื่องดื่มเเก้วนั้นนะคะ อย่างน้อยให้ฉันได้ทำอะไรให้คุณอามุโร่บ้างเถอะค่ะ" เธอพูดโดยไม่หันไปมอง เขาก็ไม่ได้ตอบอะไร
เสียงน้ำไหลยังคงดำเนินต่อไปจนเครื่องดื่มเสร็จ
อามุโร่ยืนมองดูเด็กสาวที่ล้างจานชามอย่างขะมักเขม้น ก่อนจะถอนหายใจออกมาค่อนข้างดังเเล้วเดินไปข้างหลัง พร้อมกับเท้ามือทั้งสองข้างลงไปตรงเคาท์เตอร์ระหว่างตัวเธอ มันดูเหมือนเขากำลังกอดเธออยู่กลายๆ
ทสึยุหยุดล้างจานต่อ มือเธอสั่นเมื่อลมหายใจเขารดต้นคอเธอเบาๆ
"โอโทระจัง คุณมันดื้อ..."
สมองของเธอยิ่งโล่งกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เมื่อเขาจับตัวเธอพลิกกลับไปประจันหน้ากันอย่างเบามือ ภาพในวันก่อนๆก็ไหลเข้ามาในหัวไม่หยุด
ตั้งเเต่วันเเรกที่เจอกันที่โรงพยาบาล จนหลายอาทิตย์ต่อมาที่คอยดูเเลจนอาการดีขึ้น
วันที่เขาเผลอชมว่า ‘ตาของเธอ…สวยจัง’
เเละพยามจะทำให้เขิน คงเพราะเธอไปชมเขาว่าน่ารักก่อน เลยจะโดนเอาคืนเข้าให้
เเละสีหน้าหงุดหงิดใจเมื่อเธอดูจะไม่เเสดงอาการที่เขาหวังไว้ ใจจริงเธออยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าการกระทำของเขามันส่งผลรุนเเรงกับเธอขนาดไหน เเต่การที่เห็นเขาดูพยามมันก็ทำให้เธอนึกอยากจะเเกล้งบ้างก็เท่านั้นเอง
ไม่เคยได้ยินหรอ ' รักหรอก จึงหยอกเล่น '
ทั้งคู่มองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรอยู่นานสองนาน จนอามุโร่เป็นฝ่ายที่ทำลายความเงียบนั้นลงด้วยเพราะความอดทนของมันมีจำกัด
"ทั้งดื้อ เเล้วก็ซื่อบื้อ มากพอที่จะไม่เข้าใจความรู้สึกผมที่เป็นอยู่นี้เลย ทสึยุ.." หลังจากที่ได้สารภาพออกไป ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อมือนุ่มเอื้อมมาสัมผัสที่ใบหน้าของเขาอย่างเเผ่วเบา
เธอระบายยิ้มอย่างอ่อนโยน
เด็กสาวหัวเราะนิดๆ กับสีหน้าที่เหมือนช็อคค้างไปเเล้วของเขา ที่จริงเธอเขินมากเลยเหมือนกันนะ เเต่ก็ไม่ได้มากเหมือนผู้หญิงในการ์ตูนสาวน้อยเท่านั้นเอง ความรู้สึกเขินปนกับรู้สึกดีที่เธอไม่เคยรู้สึกกับคนไหนมาก่อน จนกระทั่งมาเจอเขา อยู่ๆก็นึกถึงวลีในนิยายน้ำเน่าขึ้นมาให้ตลกตัวเอง
' พรหมลิขิต ' อย่างนั้นหรือ
" ทำหน้าเเบบนี้คงได้คำตอบเเล้วสินะคะ ว่าฉันรู้หรือไม่รู้ " มือของเธอรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านจากอีกคน
"ใครกันเเน่คะ ที่ซื่อบื้อ..." สาวเจ้าหัวเราะคิกคัก เล่นเอาชายหนุ่มหน้าร้อนยิ่งกว่าเดิม เเต่ก็ยังไม่หมดความกังวลในจิตใจ
เธอรู้เเล้วอย่างไร
เธอรู้สึกเเบบเดียวกันหรือเปล่า ?
ท่าทางความกังวลคงฉายชัดในเเววตา ทสึยุอมยิ้มน้อยๆ เรื่องความรู้สึกของเธอเขาก็ไม่รู้หรือนี่ หน้าตาที่ทั้งกังวล ทั้งสุขใจ ผสมปนเปกันไปหมด ทั้งที่ตลอดเวลามักจะเก็บอาการได้เเนบเนียนจนเธอเเทบดูไม่ออกเลยด้วยซ้ำ เเต่ตอนนี้กลับเผยสีหน้าเเละอารมณ์ออกมาให้เห็นมากขึ้นอีก
มืออีกข้างของเธอยกไปเเนบเเก้มของเขาเเล้วดึงให้โน้มลงมาเล็กน้อย ตัวเธอเขย่งปลายเท้าขึ้นเเตะริมฝีปากลงบนหน้าผากของเขาเร็วๆเเล้วผละออก
เหมือนได้ยินเสียงปลดล็อคของอะไรบางอย่างในตัวอามุโร่ เหมือนกับว่าทันทีที่ริมฝีปากบางนุ่มเเตะลงบนผิว ความอดทนอดกลั้นก็ค่อยๆ ลดลงทีละนิดตามไปด้วย...
"เท่านี้..ก็รู้ได้เเล้วนะคะ ว่าฉันรู้สึกยังไงกับคุณอามุโร่น่ะ" เขามองคนขี้โกงที่พยามพูดนิ่งๆกับใบหูเล็กที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเเดง เเก้มเริ่มมีสีฝาดขึ้นนิดหน่อยเเต่ยังคงเงยหน้าจ้องตาเขาอย่างไม่ลดละ ดวงตาสีฟ้าที่เหลือบน้ำตาลเพราะเเสงยามเย็นดูเเวววาวราวกับลูกแก้ว กำลังทำให้คำพูดที่ตั้งใจจะพูดปลิวหายเหมือนโดนกระสุนทะลวง
อะไรกัน ทีเขาหยอดไปตั้งเยอะไม่เห็นเขิน เเต่กลับทำตัวเองเขินเองเสียอย่างนั้น
"ยอมเเล้วครับ...ยอมเเล้ว" ชายหนุ่มก้มลงเอาหัวไปดันไหล่เล็กเอาไว้
ยอมต่อความน่ารักโดยไม่ได้ตั้งใจของเธอเเล้ว
ดูท่าทาง เขาจะโดนเธอ 'ตก' ได้ก่อนเสียเเล้วล่ะ
เสียงหัวเราะของทั้งคู่เปลี่ยนบรรยากาศเงียบเหงาในร้านให้ค่อยๆอบอุ่นขึ้น บรรยากาศของความสุขกำลังไหลออกมาจากทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว
"เเต่ที่ทำไปเมื่อกี้น่ะ ระวังนะครับ เพราะผมตอนนี้อยากทำอะไรที่มากกว่านั้นเยอะเลย" เขาเอียงหน้าเข้าไปใกล้เธอเเล้วช้อนตาขึ้นมองด้วยความปรารถนา เเละนั่นเป็นครั้งเเรกที่เขาคิดว่าเขาทำสำเร็จอย่างเเท้จริง
เพราะเด็กสาวตรงหน้ากำลังเม้มปากกลั้นเขินสุดชีวิต ทั้งใบหน้าเเละหูต่างก็เเดงเหมือนตำลึงสุก คงเพราะไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนวิธีรุกปุบปับเเบบนี้
ทสึยุยกมือขึ้นปิดหน้าเเล้วก้มพิงหัวของเธอลงบนบ่าเขาอย่างเเรง พลางบ่นอุบว่า ปกติเขาร้ายเเบบนี้เลยหรือ ถ้าด้วยบุคลิกที่เห็นโดยทั่วไปก็บอกได้เเล้วว่าไม่ใช่ เเต่นี่ ไม่ปกติ เพราะมีเธอ แปลกที่คำพูดตรงๆธรรมดาทำให้เธอรีบเอาหัวตัวเองออกมา เเล้วอ้าปากมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
ร่างสูงเเกล้งจนพอใจเเล้วจึงบีบจมูกเธอเบาๆ พร้อมกับหัวเราะออกมา
ทำอย่างไรได้….ก็เธอเล่นภูมิต้านทานสูง เขาจึงต้องเพิ่มระดับให้มากขึ้นกว่าเดิม
เสียงหัวเราะของทั้งคู่ยังคงก้องอยู่ในร้าน วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีสำหรับเขาจริงๆ :)
____________________________________________________________________________________

โอ้ยยย ละมุนมากค่าา
น่ารักอ่าา