คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : [SF] L o v e after ' L o v e ' part 2 -END-
Title : Love after love 2 พาร์ทจบ
Actors : Chanyeol,Baekhyun
Author : See’me
Note : อุอิ อิอิ อุอุ อะอะ ไร้สาระเนอะ ไปอ่านเหอะ
ขอบคุณที่รัก ขอบคุณที่ไม่รัก
ขอบคุณที่กำลังจะรัก และขอบคุณหากกำลังจะเลิกรัก
*---Love after Love---*
วันนี้ผมตัดสินใจสะกดรอยตามเขาออกไปผมต้องรู้ให้ได้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ..
ช่วงเช้าเขาเข้าบริษัทไปทำงานตามปกติ แต่ช่วงบ่ายเขาออกมา ทีแรกผมนึกว่าเขาจะไปหามื้อกลางวันทาน
แต่เปล่า...ที่ที่ชานยอลไปคือโรงพยาบาล
เขาไม่รู้ตัวเลยว่าผมแอบตามเขาอยู่ อาจเป็นเพราะเขาไม่สนใจจะมองมาข้างหลัง ไม่สนใจอะไรนอกจากปลายทางข้างหน้า...
ผมเหมือนใจหยุดเต้น...
เหมือนขาดออกซิเจนในการหาย...ตอนที่
ตอนที่ชานยอลหยุดลงที่หน้าแผนกสูติเวช...
บ้าน่า ชานยอลจะมาทำไม เขาไม่ได้ท้องซักหน่อย
แต่ผู้หญิงคนนั้น ที่เดินออกมาจากห้องอัลตร้าซาวน์ก็ทำให้ผมเข่าทรุด
ชานยอลประคองซองอาออกมา พวกเขาคุยกันไม่กี่ประโยค ชานยอลก็กอดเธอแน่น...มือของเขาลูบท้องของเธอไม่หยุด มันเหมือนตอนที่อินฮยองท้อง เธอบอกว่าการทำแบบนี้ เป็นการสื่อความรักที่เต็มเปี่ยมของเธอไปให้ลูกน้อยในครรภ์รับรู้
ผมไม่รู้ว่าผมคลาดสายตาจากชานยอลได้อย่างไร....รู้อีกทีผมก็ถูกเด็กน้อยคนหนึ่งสะกิดถามว่า พี่ชายร้องไห้ทำไม? แล้ว
ผมไม่รู้จะไปพึ่งใคร ไม่รู้จะขอคำปลอบโยนจากใคร ครั้นจะไปหาพี่แจยองพี่สาวของผม เธอก็คงยุให้ผมเลิกกับชานยอลเป็นแน่ เพราะเธอเจ้าคิดเจ้าแค้นมีอคติกับผู้ชายทุกคนมาโดยตลอดหลังจากที่เธอหย่า ร้างกับสามีไป
สุดท้ายผมก็ตัดสินใจไปพึ่งอินฮยอง เพื่อนรักแสบซ่าที่แสนดีของผม...
ปรากฏว่าเธอไม่อยู่ที่บ้าน ผมจึงโทรไปหาเธอแทน แต่คนรับกับเป็นแซมสามีของเธอ แซมบอกว่าอินฮยองนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล...
ผมไปอินฮยองที่โรงพยาบาลทันที เธอเป็นอะไรนะ? ทำไมต้องนอนโรงพยาบาลด้วย แต่พอไปถึง...ก้อนผ้าขาวที่ห่ออะไรซักอย่างในอ้อมอกของอินฮยองทำให้ผมก้าวขาไม่ออก
ก้อนผ้ายุกยิกนั่น...อินฮยอง...เธอคลอดเจ้าตัวเล็กแล้ว
“อ้าวแบคฮยอนเข้ามาสิ ไปยืนอะไรตรงนั้น” อินยองเรียกผม นานแล้วที่ผมไม่ได้เห็นเธอยิ้มกว้างสดใสขนาดนี้ นานแล้วที่ผมไม่เคยเห็น น้ำตาของเธอ...ที่ร้องออกมาเมื่อเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนลืมตาขึ้นมาสบตากับเธอ ปริบๆ
แซมกอดภรรยาที่อุ้มลูกเอาไว้หลวมๆ...ภาพตรงหน้าทำให้ผม
“เฮ้! แบคฮยอน ร้องไห้ทำไมน่ะ”
ผมรีบปาดน้ำตา แล้วยิ้มให้อินฮยองทันที
“ฉันยินดีด้วยนะ”
“ขอบใจๆ อ๊ะ นายอยากอุ้มตัวน้อยของเรามั้ย?”
ผมค่อยๆรับเด็กทารกในอ้อมอกของอินฮยองมาอุ้มไว้เองด้วยความประหม่า ...คนที่เจอผมมักจะพูดเสมอว่า ‘นายตัวเล็กจัง’
แต่ว่านะ...แต่ว่าตอนนี้ ผมรู้สึกเหมือนว่า
‘บยอนแบคฮยอนคุณจะไปรู้อะไร การได้อุ้มเด็กน้อยเอาไว้ในอ้อมแขน มันทำให้เรารู้สึกว่าเราตัวใหญ่แค่ไหน คุณไม่รู้หรอกว่าการที่เด็กน้อยที่เราอุ้มอยู่นั้นเรียกเราว่าพ่อ เราจะรู้สึกวิเศษเพียงใด’
คำพูดของคนรักคนเก่าของผมดังอยู่ในสมอง...
ผมรู้สึกตัวใหญ่นะ...เมื่อมีเด็กแรกเกิดอยู่แนบอก
ผมรู้สึกว่ามันวิเศษเหลือแสน...ที่เจ้าตัวเล็กดิ้นดุ๊กดิ๊กจนทำให้จั๊กจี้
ผมรู้สึกว่า...ผมคงจะเห็นแก่ตัวเกินไป ถ้าจะต้องทำให้ชานยอลพลาดความรู้สึกแบบนี้ไปตลอดชีวิต
เพราะผมยื้อเขาเอาไว้...
*---Love after Love---*
“รักนะชานยอล..ผมรักคุณนะ”
“?”
“คือผมอยากพูดน่ะ...อยากพูดให้คุณรู้ว่าผมรักคุณ”
ชานยอลไม่ได้ตอบอะไร แค่ดึงผมไปกอดเท่านั้น
“คุณยังอยากจะมีลูกอยู่มั้ย?” ผมถาม ...เขาจะรู้มั้ยว่ากว่าผมจะทำใจพูดออกมาได้ มันยากลำบากแค่ไหน
“...” เขาไม่ตอบอีกแล้ว แต่ผมก็ได้คำตอบอยู่ดี...แค่ดวงตาที่สั่นไหวของเขาผมก็เข้าใจแล้ว
“คุณจำได้มั้ย?...คุณเลือกได้แค่อย่างเดียว”
“แบคฮยอน...ผมทำซองอาท้อง”
วินาทีนั้น...ผมได้ยินเสียงหยดน้ำหล่นกระทบพื้นห้อง
“ค..คุณเลิกกับเธอนานแล้ว เธอจะท้องได้ยังไง”
“...”
“คุณ...มีอะไรกับเธอทั้งๆที่เราแต่งงานกันแล้วหรอ”
“..คือผม”
“คุณทำมันลงไปได้ยังไงชานยอล!”
“ผมแค่อยากมีลูก”
“ผมบอกแล้วไงว่าคุณเลือกได้อย่างเดียว!”
“...”
“แล้วคุณก็พูดไปแล้วนี่ ว่าคุณเลือกผม!!!”
“...”
“แบคฮยอน...คนเราน่ะ”
“...”
“มันเปลี่ยนกันได้”
*---Love after Love---*
ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าความรักหลังความรักที่พี่แจยองเคยพูดกรอกหูผมบ่อยๆมันเป็นยังไง...จนกระทั่งวันนี้
มันก็เป็นความรัก หลังจาก รัก ..ถึงจะเรียกว่า ‘รัก’ เหมือนกัน แต่ความหมายมันต่างกันโดยสิ้นเชิง
ผมย้ายออกมาอยู่ที่บ้านกับพี่สาวแล้วก็ลูกของเธอ หนูน้อยโบอึมเอาแต่ถามถึงชานยอลจนผมอยากจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นหลานแท้ๆ
ชีวิตของผมของมอบให้กับงาน...เพื่อนรัก ที่แสนดี...ที่ไม่เคยทิ้งผมไป
ผมโตพอแล้ว ผมบรรลุนิติภาวะมานานโข...ผมควรจะทำใจได้กับการไม่ลงรอยของชีวิตรักหลังแต่งงาน
มันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นสัจจะธรรมของชีวิต..แล้วอีกอย่าง ในเมื่อประโยคนี้ผมเป็นคนพูดเอง ผมจะกลับลำได้อย่างไร
“ไม่เลย ชานยอล การที่คุณเลิกกับผู้หญิงคนนั้นเพราะเธออยากได้ในสิ่งที่คุณไม่อยากได้ มันไม่ใช่เรื่องผิด”
หลังจากพี่แจยองออกไปทำงาน หนูน้อยโบอึมออกไปโรงเรียน...ผมจึงแอบร้องไห้ออกมา
รู้มั้ยชานยอล...ผมน่ะไม่ได้รังเกียจการมีลูกหรอก
ไม่ได้มีอคติอย่างที่พยายามบอกตัวเองอยู่เสมอ...
แต่ที่ผมไม่อยากมีลูก...ก็เพราะว่าผมมีไม่ได้
มันเป็นความผิดของผมหรอ? ที่คลอดเด็กไม่ได้น่ะ..
ผมผิดมากใช่ไหม ที่รักคุณเหลือเกิน
แต่กลับให้ในสิ่งที่คุณอยากได้ ไม่ได้
*---Love after Love---*
เวลาล่วงเลยผ่านไป 3 ปี อย่างรวดเร็ว แต่ทว่า ผมกลับไม่อาจลืมรักครั้งที่สี่ได้เลย
ยังคงรักแต่ชานยอล...รักเพียงแค่เขาคนเดียว
เด็กหญิงโบอึมวัย 10 ขวบ วิ่งมาหาผมก่อนจะยื่นอะไรบางอย่างมาให้
“มันอยู่ในกล่องไปรษณีย์น่ะค่ะ จ่าหน้าซองถึงน้าแบคฮยอน”
ผมหอมแก้มเธอไปหนึ่งที ก่อนรับซองจดหมายขึ้นมาอ่าน...ถึงผมจริงๆด้วยแหะ
ผมค่อยๆหยิบกระดาษแข็งสีชมพูในซองขึ้นมาอ่าน กลิ่นหอมของมันทำให้ผมรู้ทันทีว่าคงเป็นการ์ดแต่งงาน
ยิ่งเห็นรูปลักษณ์การดีไซด์ด้วยแล้ว ผมยิ่งแน่ใจ คำเชิญชวน เวลา สถานที่จัดงาน...ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกรวดร้าวไปทั้งใจเท่ากับชื่อคู่บ่าวสาว
ถึงเวลาแล้วสินะ...ที่เขาจะเป็นของคนอื่นไปตลอดกาล
ซองอาคงจะท้องแฟ่บแล้วล่ะสิถึงแต่งงานกันได้ ผมอยากเห็นหน้าลูกของพวกเขาจัง ตระกูลปาร์คมีหน้ามีตาในสังคมการที่จะให้ลูกชายคนเดียวของตระกูลแต่งงานกับ ผู้หญิงที่ท้องยังป่องอยู่คงไม่ดีแน่
ไม่รู้ว่าป่านนี้...ชานยอลจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหลังจากที่ผมก้าวออกมาจากบ้านของ ‘เรา’ ผมก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย
*---Love after Love---*
ผมมาถึงก่อนเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง ห้องบอลรูมโรงแรมชั้นหนึ่งของกรุงโซลถูกตกแต่งอย่างดีด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ที่ชูช่อแข่งกัน
ผมเดินเข้าไปในงาน ก่อนที่จะล่วงล้ำเข้าห้องที่อยู่หลังเวที...รู้ดีว่ามันเป็นการเสียมารยาท แต่ผมก็ทำไม่ได้หรอกนะที่จะทนดูความรักของคู่บ่าวสาวเบ่งบานในช่วงเวลางานน่ะ
อย่างน้อยๆขอแค่เห็นหน้าเขา ก่อนเจ้าสาวจะมา ได้คุยกับเขาก่อน แล้วผมจะจากไป...ไม่อยู่ทนรอดูภาพบาดตาบาดใจ
เดาถูกดั่งคาด เมื่อในห้องนั้น...ที่คนที่ผมปรารถนาจะพบเจอสุดหัวใจนั่งหลับตาอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
ชานยอลยังคงดูดีราวเจ้าชายในเทพนิยายเหมือนเดิม เขาอยู่ในทักซิโดสีขาวบริสุทธิ์ ...
“ออกไปก่อนนะครับ ผมต้องการเวลาส่วนตัว” เขาพูดทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา เขาคงไม่รู้ว่าเป็นผม...แหงสิ รู้ก็แปลกแล้ว
ผมเดินไปใกล้เขาเรื่อยๆก่อนจะปิดตาเขาเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างจากด้าน หลังของเขา เพียงแค่สัมผัสเท่านี้ หัวใจผมก็เต้นตูมตาม...ไม่เคยมีซักครั้งที่หัวใจของผมจะเต้นปกติเวลาที่เรา สองคนอยู่ใกล้กัน
แม้จะเป็นเวลานี้ก็ตาม..เวลาที่เขาไม่ใช่ของผมแล้ว
ชานยอลถอนหายใจออกมา....เขาจะรู้มั้ยนะ? ว่าเป็นผม...
“แบคฮยอน...”
เขารู้...
“สวัสดีชานยอล”
ผมคลายมือออกมา เรายิ้มให้กันผ่านกระจกของโต๊ะเครื่องแป้ง
“ผมนึกว่าคุณจะไม่มาแล้วซะอีก”
“ทำไมจะไม่มาล่ะ...ผมคิดถึงคุณ..ผมต้องมาอยู่แล้ว”
“...”
“ผมต่างหากที่คิดว่าคุณจะไม่ส่งการ์ดไปเชิญ”
“ทำไมจะไม่ส่งไปล่ะ...ผมคิดถึงคุณ..ผมต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว”
ผม...ยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ
ในหัวใจของผมมันไม่สามารถบรรจุใครได้อีกนอกจากเขา
“ผม...”
“...”
“รักคุณเหลือเกิน...รักคุณจนไม่รู้จะหายใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีคุณ”
“แบคฮยอน”
“ไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน...ที่ต้องตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วไม่เจอคุณ”
“...”
“ผมไม่รู้ว่าอะไรคือความหมายของการมีชีวิต...ตั้งแต่ที่เราจากกันไป”
“...”
“ไม่รู้...ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ”
ไม่รู้ว่าจะยิ้มไปทำไม..
ไม่รู้ว่าจะร้องไห้ไปทำไม..
“ผมรู้แค่ว่าผมรักคุณชานยอล...สิ่งที่ผมรู้ มีแค่นี้จริงๆ”
น้ำตาของผมไหลลงมาตั้งแต่ประโยคแรก...แต่ไร้ซึ่งการสะอื้น เรามองตากันผ่านกระจกเงา แม้แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้หันหน้ามาคุยกัน
“แบคฮยอน..”
ชานยอลเอื้อมมาดึงมือขวาของไปกุมเอาไว้ มือของเขาช่างอบอุ่นนัก อบอุ่นเหมือนแสงตะวันที่หายไปจากชีวิตของผมเมื่อนานมาแล้ว...
เขาจุมพิตลงบนมือของผมแผ่วเบา...แต่กระแสไฟกับแล่นแปลบปลาบไปทั่วทั้งร่าง
เรายังคงต้องการกันและกัน...
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณเสียใจ”
ชานยอลลุกขึ้นมาประจันหน้ากับผมในที่สุด...ผมบรรยายความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้เป็นคำพูดไม่ได้
เขาที่ยืนต่อหน้าผม...
เขาที่จับมือของผมเอาไว้ด้วยมือที่ใหญ่กว่าของเขา...
เขาที่ผมดึงเข้าไปกอด ในอ้อมกอดที่อ่อนโยนของเขา...
เขา...ที่สัมผัสริมฝีปากของเขาบนริมฝีปากของ ราวกับแตะต้องกับปีกผีเสื้อ..เบาบางในความรู้สึก
“ผมรักคุณ...แบคฮยอน”
ริมฝีปากของเราจูนเข้าหากันอีกครั้ง เน้นย้ำให้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน หนักแน่นให้รู้ว่าสิ่งที่เราเผชิญหน้าอยู่มันเป็นความจริง..
เรียวลิ้นของเขาสอดแทรกเขามาพร้อมไอร้อนละมุนและความหอมหวานลึกล้ำ...ผมจูบตอบเขาด้วยความโหยหา ด้วยความรักที่มันล้นทะลักอยู่เต็มหัวใจ
รสเค็มปร่าของน้ำตาไม่อาจกลบรสหวานจากจุมพิตได้เลย...
ตอนนี้เราต่างคนก็ต่างรู้...ว่ายังคงต้องการกันและกัน ยังคงรักกันและกัน ยังคงอยากมีกันและกัน
“ผมรักคุณชานยอล”
“ผมก็รักคุณ..”
“..”
“แบคฮยอน...ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผม เลือก ค..”
“พ่อฮะ”
ความรัก...บางทีมันก็สวนทางกับบรรทัดฐานชีวิต
ความรัก...บางทีมันก็สวนทางกับความถูกต้อง
ความรัก...บางทีมันก็สวนทางกับเส้นทางที่ต้องก้าวเดิน
“มีความสุขมากๆนะครับ...ผมยินดีด้วย”
ผมต้องรีบแล้วล่ะ...รีบเดินออกไปจากห้องนี้ ก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาอีกครั้ง
เด็กคนนั้นอายุประมาณสามขวบ...เด็กผู้ชายนัยน์ตาสีรัตติกาล เด็กผู้ชายที่มีดวงตางดงามเปล่งประกายที่สุดในโลก เด็กผู้ชายที่เหมือนราวกับถอดแบบมาจากพ่อของเขา...
ถึงเวลาแล้วสินะที่ผมต้องเรียนรู้ Love after love
ถึงเวลาแล้ว...ที่ผมต้องรู้จักรัก หลังจาก รัก จริงๆเสียที
*---Love after Love---*
“พ่อครับ..คุณครูให้การบ้านอะไรมาก็ไม่รู้ย๊ากยาก”
“อืม...ไหนดูสิ อืม มันต้องทำอย่างนี้ครับแบคฮยอน”
“หยุดภารกิจกันก่อนนะจ๊ะพ่อลูก ถึงเวลาอาหารเย็นแล้ว..”
หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยรอยยิ้ม ก่อนสองพ่อลูกจะเดินตามคุณแม่คนสวยไปยังห้องครัว
“ทำไมคุณพ่อกับคุณแม่ถึงมีผมล่ะครับ” เด็กน้อยปาร์ค แบคฮยอนที่จู่ๆก็ถามขึ้นมาเล่นเอาคนเป็นคิม ซองอาคนเป็นแม่หน้าแดงระเรื่อ
“อ..เอ่อ ลูกก็เกิดขึ้นมาจากความรักของพ่อกับแม่ยังไงล่ะจ๊ะ”
“อ๋อ งั้นก็แสดงว่าคุณแม่รักคุณพ่อใช่มั้ยครับ?”
“...ใช่จ๊ะ” เธอตอบหน้าแดง ทำให้ลูกชายยิ้มอย่างน่ารักก่อนจะหันไปถามผู้เป็นพ่อบ้าง
“คุณพ่อก็รักคุณแม่ใช่มั้ยครับ?”
“...”
ปาร์ค ชานยอลไม่ได้ตอบอะไรออกมา เพียงแค่ยิ้มบางๆและลูบหัวลูกชายของเขาเบาๆเท่านั้น
ในใจนึกถึงใครบางคน...
‘ถ้ารู้คุณจะโกรธมั้ยนะ? ที่ผมคิดถึงคุณจนเอาชื่อของคุณมาตั้งชื่อลูกแบบนี้’
บางที...ความรักก็ส่วนทางกับความต้องการ
บางที...ความรักก็สวนทางกับความเป็นจริง
บางที...ความรักก็สวนทางกับอนาคต
และบางที...ความรักก็สวนทางกับ ‘ความรัก’
มอบแด่ความรัก ไม่รัก กำลังจะรัก และกำลังจะไม่รัก…
END
อย่าตบหนู T^T กระซิกๆ เค้าแค่อยากแต่ความรักหลายๆรูปแบบ
คอมเม้นติชมได้ ระบายได้ 55555555555
แท็กทวิตหรอ ไม่มีอ่ะ ขี้เกียจคิด ถ้าจะสกรีมเอาแท็ก #คพขร ไปล่ะกัน
แหม สุกเอาเผากินเจรงๆนังคนนี้
ความคิดเห็น