ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★rhyme lies ทำนองที่ไม่ได้ยิน★

    ลำดับตอนที่ #1 : +บทส่งเรื่อง+

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 77
      0
      5 เม.ย. 61


     

    บทนำ

    เย้!!!~

    เสียงสรวลเฮฮาตามประสาเพื่อนๆร่วมเรียนด้วยกันมา ที่มาร่วมเฉลิมฉลองในวันส่งท้ายของการเรียนในรั้วสถาบัน และ
    กำลังจะก้าวพ้นช่วงวัยหนึ่งไปอีกวัยหนึ่ง แต่เสียงเหล่านั้นกลับไม่ได้รอดเข้ามากระทบในโสตประสาทของเด็กสาวคนหนึ่งที่
    นั่งมัวแต่ใจลอยคิดถึงแต่ภาพของหนึ่งคนที่อยู่ไม่ใกล้ แต่ก็ห่างไกลจากความรู้สึกเดิมๆที่ครั้งหนึ่งพวกเราเคยเป็นเพื่อนสนิท
    กัน


    ขอแสดงความยินดีให้กับเพื่อนๆทุกคนด้วยน่ะ และขอบคุณตลอดมาที่เป็นเพื่อนที่ดีกับรัสตี้นะครับ
    เสียงเพื่อนผู้ชายคนที่คิดถึงได้ตะโกนขึ้น เพียงแค่เอ่ยสั้นๆ ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากผู้หญิงที่มีมากกว่าครึ่งได้แล้ว เธอก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะกรี๊ดดังๆ ให้กับไอดอลคนนี้ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับฉันตลอดหกปีที่ผ่านมา ก็ทำได้แต่กดไลท์ในใจเบาๆ หวังที่จะไม่ให้กระทบกระเทือนถึงเขาอีก


    ...ในเมื่อสิ่งที่เธอได้ทำไป มันเลวร้ายจนกลับไปเป็นเพื่อนกันก็ไม่ได้ จะเป็นคนที่เขารักก็ไม่ใช่ แล้วจะให้เป็นอะไรได้ล่ะ...

    เด็กสาวแอบยินดีในใจร่ำๆ เพราะหลังจากนี้คงไม่ได้เจอกับเขาอีก จะได้เลิกพร่ำเพ้อวุ่นวายสับสนระคนกันจนเหตุให้เธอทำแต่เรื่องน่ารำคาญใจ ทุกคืนวันละเมอเพ้อพกเอาแต่ฝันถึงรัสตี้ อยากจะได้ช่วงเวลานั้นกลับคืนมาเสียเหลือเกิน วันเวลาที่พวกเราได้เป็นเพื่อนที่เข้าใจกันมากที่สุด คิดแล้วก็เศร้าใจจริงๆ เธอทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย เรื่องราวมันถึงได้มาลงเอยแบบนี้ เสียงถอดถอนใจขณะที่เธอเตรียมที่จะหยิบกระเป๋ามาสะพายเมื่อเพื่อนข้างๆได้สะกิดให้เตรียมลุกออกไปจากวงโต๊ะจีนที่ทางสถาบันได้จัดเลี้ยงส่งพวกเรา  

    ไปกันยัง แพตตี้เสียงเพื่อนที่พอจะสนิทด้วย หันมาพูดกระซิบ ส่งสัญญาณเป็นเชิงให้พร้อมที่จะลุกออกไปจากโต๊ะทั้งที่เพื่อนร่วมเรียนยังคงครื้นเครงกันอย่างงานเลี้ยงนี้ไม่มีวันเลิกลาอย่างไรอย่างนั้น

    อือ ..” แพตตี้พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับในสัญญาณนั้น ทันทีที่พวกเราสองคนเตรียมตัวจะเขยิบก้นออกจากเก้าอี้ และหันหน้าไปยังเพื่อนๆร่วมโต๊ะ เพื่อที่จะขอถอนตัวออกไปก่อน รัสตี้ได้เดินเข้ามาสมทบ

    จะกลับแล้วเหรอ แล้วนัดเจอกันอีกน่ะ" รัสตี้โบกมือน้อยๆ ท่าทางน่ารัก ส่งรอยยิ้มพิฆาตบาดใจสาวมาให้ มันกุมหัวใจด้วยความสั่นไหว นี่แพตตี้กำลังคิดที่จะกลับไปชอบเขาอีกอย่างนั้นเหรอ - ไม่มีทาง

    จ้า รัสตี้ก็เช่นกันนะ งั้นเราไปก่อนนะแบบว่ามีธุระนิดหน่อย
    ก่อนที่พวกเราจะยิ้มส่งให้เพื่อนๆเป็นครั้งสุดท้าย  แพตตี้ก็แอบเหลือบชายตามองเมื่อเห็นรัสตี้เฮฮากับเพื่อนๆคนอื่นอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ว่ายังมีคนหนึ่งช้ำใจช้ำในมากแค่ไหน เธอจึงทำได้แต่ส่งสายตาบอกกับรัสตี้เป็นครั้งสุดท้ายเป็นนัยๆว่า

    ...ลาก่อนนะ นายเป็นเพื่อนที่ดีมากแค่ไหนรู้ไหม ก็มากพอที่ทำให้เรารู้สึกดีต่อนายไง...


    จากความรู้สึกเดิมๆที่ไม่เคยมีใครใส่ใจ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มันจึงรู้สึกดีกับรัสตี้มากถึงขนาดทำให้พวกเพื่อนๆคิดไปถึงความรู้สึกดีๆที่หลายคนเข้าใจว่ามันคือความรัก แพตตี้กับรัสตี้เคยเป็นเพื่อนที่มีอุดมการณ์ความสนใจร่วมกัน พวกเราจึงเข้าใจกันมากกว่าที่คิด ไม่สิหรือมีแต่เธอที่เชื่อไปอย่างนั้นข้างเดียว ภาพที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง ทำให้หลายคนคิดไม่ไว้ใจไว้หน้า ส่งผลให้เธอไม่เป็นที่ยอมรับและต้องอยู่คนเดียวมาตลอด รัสตี้มองเห็นภาพนั้น และคงรู้สึกเหมือนกับที่เพื่อนๆคิดกัน เพราะนับแต่นั้นรัสตี้ไม่เคยเชื่อใจเธออีกเลย พอเธอยิ่งเรียกร้องให้รัสตี้กลับคืนมา ยิ่งทำให้รัสตี้ห่างไกลออกไปมากเท่านั้น

    เฮ้ยแกไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวห่างๆไปก็ดีขึ้นเองปันหยีเพื่อนเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ เอ่ยปลอบใจเมื่อเห็นเพื่อนสาวนิ่งเงียบไม่พูดจาระหว่างการเดินทางออกนอกรั้วสถาบันไป

    อืม ..” แพตตี้ยิ้มให้แทนคำพูดที่ติดคาอยู่ในลำคอ ไม่ยอมไหลออกมา ทำไมความคิดถึงได้ไหลพรั่งพรูขนาดนี้ แต่พอคิดที่จะพูดกลับไม่มีอะไรออกมาเลยล่ะ รู้สึกไม่ชอบตัวเองก็ตรงนี้ พูดไม่ได้อย่างที่ใจคิด พอคิดจะพูดก็ทำให้เกิดแต่เรื่องไม่ดี

    ....ความรู้สึกหนักอึ้งเกินกว่าจะทำอะไรได้อีกแล้ว เธอฝืนกล้ำกลืนน้ำตาให้ไหลกลับลงไปอย่างยากลำบาก .....


    นับแต่ร่ำเรียนมา เพื่อนในมโนความคิด คงเป็นแค่คนที่บังเอิญมารู้จักกัน มีปฎิสัมพันธ์ร่วมกัน แล้วจากไปอย่างคนที่เคยเห็นหน้าค่าตากัน ความรู้สึกนี้ฝังใจมาตลอด ขอโทษนะที่ไม่อาจจะเชื่อใจใครได้เช่นเดียวกับที่พวกเขาไม่ไว้ใจเธอก่อน

    อ๊ะ !!!~ รถมาแล้ว งั้นเราไปก่อนนะ แล้วเจอกันในเฟสนะจ๊ะ บับบายเสียงปันยีร้องสะดุ้ง ยังไม่ทันที่แพตตี้จะได้พูดอะไร ยัยนั่นก็กระโดดหายเข้าไปในตัวรถโดยสารแล้ว


    นานขนาดไหนแล้วก็ไม่รู้
      แต่ที่รู้ก็เป็นเวลานี้  และอาจหลายเวลา กับความรู้สึกเช่นนี้ ...อ้างว้างและเดียวดาย



    ทั้งที่รอบตัวเรามีผู้คนอยู่มากมาย แต่ไฉนตัวเรากลับรู้สึกโดดเดี่ยวและอ้างว้าง เหมือนไม่มีใครเข้าใจ” แพตตี้เอ่ยพึมพำกับตัวเองเบาๆ เบือนหน้ามองตรงไปอย่างไร้จิตวิญญาณ์


    ...หนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไรต่อไป เธอจะเติบโตได้อีกมากน้อยแค่ไหนยังไม่รู้เลย... ดอกแดนดิไลออนลอยละลิ่วลู่ลมที่พัดมา สายลมที่โชยอ่อนๆ ทำให้รู้สึกว่าน่าจะมีความหวังอีกครั้ง เมื่อมือน้อยๆเอื้อมไปหยิบดอกมันมาไว้กับในกำมือ ในเมื่อดอกแดนดิไลออนดอกน้อยนี้ยังพอมีความหวังจะโบยบินอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทางแล้วทำไมตัวเธอจะบินไปอย่างนั้นไม่ได้ล่ะ คอยก่อนนะเจ้าตัวน้อย แล้วเด็กสาวคนหนึ่งจะตามเจ้าไปในเร็วๆนี้แหละ แพตตี้แอบยิ้มให้กับความหวังในมือ...

     

     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×