ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Teach love สอนรักหักใจ (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #4 : Lesson 2 || You Make me Crazy (110%)

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 57


    :)  Shalunla




    chapter 2



    "...แฮ่กๆ"ยินพาร่างเล็กของตัวเองมาถึงผับของพี่ฟีโรในเวลาห้าทุ่มสี่สิบห้า ผมซวยแล้วไง...

     
     
     
    พี่ฟีโรดักผมอยู่หน้าผับอ่ะดิ อึ๊ย....
     
     
     
    ยินกลืนน้ำลายดังเอื้อก พยายามก้าวขาจะวิ่งกลับหลัง รู้งี้ผมไม่มาดีกว่า หน้าพี่ฟีโรน่ากลัวชะมัด เอาไงดีๆ โกยเถอะโยมม
     
     
    ผมหนีพี่ฟีโรพ้น เรอะ! ขาสั้นๆอย่างผมเนี่ยนะ! ก้าวที่สิบก็โดนจับแขนไว้แลัวครับ ไม่เกิดขายาวบ้างให้มันรู้ไปแม่งง
     
    "ยิน! ทำไมเลทแบบนี้ รับโทรศัพท์ก็ไม่รับ พี่เป็นห่วงรู้ไหม ปกติยินตรงต่อเวลา หายไปพี่ก็เป็นห่วงสิ วันหลังจะทำธุระอะไรก็โทรมาบอกพี่ด่อน ไม่ใช่ไม่รับโทรศัพท์ เงียบไปแบบนี้"พี่ฟีโรเทศน์ยาวเยียด อื้อหือ ผมนึกว่าจะถูกด่าเรื่องมาสายซะอีก
     
     
    "ยินขอโทษ นอนเพลินอ่ะ ยินไม่กล้ารับโทรศัพท์ กลัวพี่ฟีว่าอ่ะ"ผมตอบไปเสียงหงอยๆพอรู้ว่าพี่ฟีโรเป็นห่วง ผมไม่กล้ารับโทรศัพท์เพราะกลัวพี่ฟีว่า รู้สึกผิดขึ้นมาเลย
     
     
     
    "...ไม่ว่าอะไรหรอก ถ้ายินมีเหตุผล รับโทรศัพท์พี่ พี่เอาลูกเค้ามาเดี๋ยวลูกเค้าเป็นอะไรไปจะถูกตำหนิเอา"พี่ฟีโรเขาเป็นคนพาผมมาทำงานที่ย่านธุรกิจในกรุงเทพฯครับเพราะพ่อแม่ไว้ใจพี่ฟีโรให้พามา เมื่อก่อนเล่นกันเป็นประจำครับ บ้านผมอยู่แถบชานเมืองเลยไปไหนมาไหนไม่สะดวก พ่อแม่เลยซื้อคอนโดให้ผมแล้วฝากผมไว้กับพี่ฟีโรที่มีคอนโดอยู่ห้องข้างๆผมครับ
     
     
     
    "ครับๆยินขอโทษ ยินไปทำงานก่อนนะ"พี่ฟีโรขยี้หัวผมเบาๆแล้วปล่อยผมเข้าไปทำงานในผับของเขา
     
     
     
    …………………………………………
        
     
     
     
      ผมประจำที่เป็นเวที อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม ก็เริ่มนั่งเล่นกีตาร์คลอเสียงดนตรีที่เป็นในผับ บางเพลงผมร้องได้ก็ร้องไปด้วย จริงๆงานนี้เป็นที่สนุกนะ คงเพราะผมชอบเสียงดนตรีและกีตาร์อยู่แล้วด้วยทำให้ผมทำงานนี้อย่างมีความสุข เจ้านาย(พี่ฟีโร)ก็ใจดี โบนัสขึ้นทุกปี แม้จะมาทำงานสายบ้างบางครั้งจะไม่มีความสุขได้ยังไง ฮ่าฮ่า
     
     
    จริงๆพี่ฟีโรนี่มีบุญคุณกับผมในหลายๆเรื่องนะ ให้งานพิเศษผมทำเอย ออกหน้าแทนผมในหลายๆเรื่อง ผมนับถือเหมือนพี่ชายแท้ๆเลยละ
     
     
     
     
     
      ผมก็ร้องไปเรื่อยๆ สักพักมีผู้ชายคนนึง ผมเห็นหน้าเขาไม่ชัดเพราะผมสีดำขลับของเขาปิดหน้าปิดตาไปเสียครึ่งเข้ามาแย่งไมโครโฟนไปจากมือของผม
     
     
    "....ดีดกีตาร์ต่อไปสิ!"เสียงแหบบอกเป็นเชิงสั่ง ทำให้ผมต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้ พี่ฟีโรมองผมเป็นเชิงถามว่าจะให้ช่วยไหม ผมส่ายหน้ากลับไปแล้วดีดกีตาร์ต่อ
     



     
    "เคยรู้สึกไหม แอบกลัวความห่างไกล
    ทั้งที่เราพูดกันบ่อยๆ ให้เชื่อใจกัน
     
    เคยรู้สึกไหม ว่ามันไม่มั่นใจ
    ทั้งที่เราก็ไม่มีใคร ให้ต้องระแวง
     
    ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไร ไม่เข้าใจต้องหวั่นทำไม
    ก็กลัวความห่างเหิน จะทำเราห่างหาย
    รู้สึกอ่อนไหว
     
    โปรดเถอะนะเธอช่วยยืนยันให้ฟังสักหน่อยได้ไหม"เขากลับตาร้องไปเรื่อย เสียงของเขาดูเศร้าอย่างประหลาด เขาเสยผมขึ้นทำให้ผมเห็นใบหน้าจัดว่าหล่อเหลาดูหม่นหมอง ผมได้แต่ดีดกีตาร์คลอไปกับเสียงร้อง


     
    "บอกกับฉันว่าไม่มีใคร และฉันรู้สึกไปเอง
    โปรดเถอะนะช่วยพูดให้ฟัง ว่าไม่ต้องกลัวไม่ต้องเกรง
    เธอยังคงมีฉันอยู่ ไม่ว่าไกลกันเท่าไหร่ก็ตาม
     
    ยังรักใช่ไหม ยังมีฉันใช่ไหม
    พบเจอใครไม่ทำให้เปลี่ยนใช่ไหม บอกที
     
    เหมือนฉันบ้างไหม ใจคอมันไม่ดี
    ย้ำหน่อยสิ ว่าใจไม่มีที่ว่างให้...ใ.."เสียงร้องของเขาขาดหายไปพร้อมกับเสียงขอโทษขอโพยผม
     


     
    "ผมคาสเทลนะครับ ขอโทษแทนมันด้วยครับ แฟนมันที่ไปเรียนต่อเพิ่งโทรมาบอกเลิก มันเลยเฮิร์ท  ส่วนมึงมากับกูเลย!"พอผมพยักหน้ารับคาสเทลก็หันไปพูดกับเพื่อนแล้วลากเพื่อนเขาลงเวทีไป
      ผมเดินลงเวทีตามพวกเขาไป รู้สึกไม่ดีเลย ผมติสต์เนอะ ตามมาทำไมก็ไม่รู้
     
    "คุณนักดนตรี มีอะไรหรือเปล่าครับ"คาสเทลหรี่ตามองผมขณะวางเพื่อนบนโซฟากำมะหยี่สีแดง จริงๆผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตามมาทำไม คงเพราะเป็นห่วงเขานั่นแหละ ดูเฮิร์ทมากจริงๆ
     
    "ผมเป็นห่วง เลยตามลงมาดูครับ ดูท่าจะเสียใจมาก"ผมเลือกที่จะตอบไปตามความจริงไม่โกหก เพราะมันไม่จำเป็นต้องโกหกอะไร
     
    "คุณนี่นิสัยน่ารักดีนะ เป็นห่วงคนที่ไม่รู้จัก ไม่สิ หน้าตาก็น่ารักด้วย "เขากลั้วหัวเราะที่ผมทำหน้าบูดบึ้งเมื่อได้ยินคำว่า'น่ารัก'
     
    "ตอนแรกผมว่าคุณหล่อนะ แต่มองอีกทีก็น่ารัก...สวยด้วย"ตาคมพินิจใบหน้าผมไปมา...ใบหน้ายินก็ยังไม่คลายความบูดบึ้งเลยแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้หนักขึ้นไปด้วยซ้ำ


     
    "คุณคาสเทล!"ผมทำเสียงดุแบบไม่ตั้งใจนัก เขากลับเปลี่ยนเรื่องคุยกับผมแทน


     
    "คุยกันมาตั้งนาน มีแต่คุณที่รู้ชื่อผม ชื่ออะไรครับ?"
     


     
    "ชื่อเล่นหรือชื่อจริงละครับ?"ผมถามกลับกวนๆพอเริ่มคุยกันก็เริ่มถูกคอมาขึ้น
     

     
    "บอกทั้งหมดก็ได้ครับ"

     
     
    "โอเคครับ ผมชื่อเล่นชื่อยินที่หมายถึงเหล้ายินน่ะครับ ชื่อจริงชื่อวาโย นามสกุลศิรินธราเมธ เกิดวันที่..."เอ้า จะทำท่าปางห้ามญาติทำไมครับ ผมยังสาธยายวงศาคณาญาติยังไม่หมดเลยนะครับ ฮ่าฮ่า
     
     
     
     

    "...เหมือนผมรู้จักนามสกุลคุณนะ.."คนพูดทำท่าครุ่นคิดโดยไม่ได้สังเกตเพื่อนตัวเองที่ลุกขึ้นมาหลังจากเมาพับไป
     
     
     
    " ก็อาจจะนะครับ บ้านผมมีกิจการเกี่ยวกับเครื่องดนตรีน่ะครับ"เป็นสาเหตุที่ทำให้ยินชอบดนตรี 
     
     
     
    "ชื่อบริษัทอะไร?....ไม่น่านะ"เขาพึมพำท้ายประโยคกับตัวเองเสียงเบา
     
     
     
    "ศิรินกรุ๊ปครับ"คนฟังเอากำปั้นทุบมือแล้วร้องอ๋อ ผมพยักหน้ารับ
     
     
     
    "บริษัทที่ฉันรับเครื่องดนตรีมานี่เอง พอดีที่บ้านเปิดโรงเรียนสอนดนตรีน่ะ"คาสเทลขยายความให้ยินเข้าใจ ยินถึงกับยืนงงๆ คนที่เมามายจู่ๆก็กระโจนมากอดคอคนตัวเล็ก แล้วฝังจมูกเป็นสันลงบนแก้มใสทันที
     
     
     
     
     
    .
    .
    ยินก็อ้าปากพะงาบๆสิครับ
     
     
     
     
     
    คาสเทลรีบดึงเพื่อนออกมาแต่เพื่อนกับกอดยินไม่ปล่อยแถมพูดงึมงำ
     
     
     
    "เทรเชอร์จะเอาคนนี้...จาเอาาาา นุ่มนิ่มจัง...หอมด้วย"
     
     
     
     
     
    ".....!!!!"ยินยังติดสตั้นอยู่กับที่ อ้าปากหวอ จนพี่ฟีโรมากระชากตัวออกมาแล้วกอดไว้หลวมๆนั่นแหละ เพิ่งรู้ตัว
     
     
     
    "ยิน!!!ทำไมปล่อยให้ถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ มันเป็นใคร คดีเก่ายังไม่เคลียร์นะยิน"ผู้เปรียบเหมือนพี่กระซิบข้างหูยินลอดไรฟัน กอดปกป้องน้องชายไว้
     
     
     
    "..."ผมยังอึ้งๆอยู่ ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงว่าไม่รู้ ทำให้พี่ฟีขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก
     
     
     
     
      คนตัวโตถูกเพื่อนล็อกเอาไว้ ได้แต่บ่นพึมพำกับตัวเอง "ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ เพื่อนผมมันเมาแล้วทำตัวเด็ก..."คาสเทลได้แต่มองคาดโทษเพื่อนตัวเอง ฟีโรนั่งลงจับน้องชายนั่งบนตักกอดไว้หลวมๆ สำหรับพวกเขามันเป็นสิ่งที่ธรรมดามาก แต่คนที่เห็นกลับขมวดคิ้ว
     
     
    "เป็น...แฟนกันเหรอครับ?"
     
     
      คำถามของคาสเทลทำเอายินสำลักโค้กที่เพิ่งสั่งมาดื่ม ฟีโรได้แต่ลูบหลังยินเบาๆ
     
     
    "เป็นพี่น้องกันครับ...แต่ก็รักกันมากกว่านั้นก็ได้...เนอะ?"ผมพยักหน้าหงึกๆ ให้มีแฟน(แต่จริงๆก็ไม่อยากมี..)ขอเป็นพี่ฟีโรเนี่ยแหละครับ ความรักเราขยับขยายได้ ฮ่าฮ่า
     
     
    ผมเงยหน้าขึ้นไปหมายที่จะด่าเขาสักดอก ทำให้เห็นหน้าเขาได้ชัดเจน เขาเป็นคนที่จัดว่าดูดีคนหนึ่ง ด้วยนัยน์ตาคม ผมสีดำขลับ จมูกโด่งเป็นสัน ผมสั้นระคอ ใบหน้าเรียว
     

     
    โห หล่อใช่ได้ ทำไมผมไม่หล่อเท่ามัน(?)ว้าา
     

     
    "ปล่อย..."เทรเชอร์ยังไม่ปล่อย ฟัดแก้มยินไปมา เฮ้ย ผมไม่ใช่ตุ๊กตานะ ขนาดพี่ฟีโรก็สู้แรงเขาไม่ได้ครับ ผมจะทำไงดี
     
     
     
    ไม้ตายครับ...
    อ้อนสถานเดียว
     
    "ปล่อยผมนะครับ นะๆ"ผมยิ้มหวานใส่ หวังว่าจะได้ผล ขนาดพี่ฟีโรยังได้ผลเลยนา... ไม้ตายผมเลยล่ะ
     
     
    "บอกว่าอย่าอ้อนอย่างนี้กับใคร... ยกเว้นพี่เข้าใจไหม..?"ผมพยักหน้ารับ พี่ฟีโรเหิดแรงฮึดดึงยินกลับมาได้ อย่างน้อย ผมก็รอดละนะ
     
     
    "ครับ..."ผมก็ลืมสนิท ไม้ตายนี้มีไว้พิฆาตพี่ฟีคนเดียว คนอื่นพี่ฟีห้ามเด็ดขาด!
     
     
       พี่ฟียกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนที่จะถามเทรเชอร์ที่หันไปซุกโซฟา
     
     
    "นายคิดอะไรกับน้องฉันรึเปล่า?....ถ้าคิด ตาย!"
     
     
    "..."ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ตู้ด! ไม่ใช่ละ เทรเชอร์หลับไปแล้วครับ
     
     
     
     "ยิน พรุ่งนี้ว่างไหม ตอนเช้าไปเดินเที่ยวตลาดน้ำกัน" ร่างสูงที่กอดผมไว้ถามผม ผมได้แต่ส่ายหน้า
     
     
    "ยินมีนัดกับ...เพื่อนแล้วครับแต่ก็อาจะไม่ไป"พี่ฟีทำให้ผมนึกได้ พรุ่งนี้มีนัดกับพรีโอนี่หว่า ช่างเถอะ พรีโอเขาไม่เอาจริงหรอกครับ
     
     
    "ไว้วันหลังไปเที่ยวตลาดน้ำละกัน เลื่อนไปก่อน พี่ไม่อยากให้ยินผิดสัญญากับเพื่อน"พี่ฟีโรใจดีตลอด ไม่เตยเรียกร้องอะไรเลยครับ น่ารักที่สุด ฮ่าฮ่า
     
     
    "ครับ งั้นยินกลับบ้านก่อนนะครับ"ผมหันไปสวัสดีคุณคาสเทล พอกำลังจะเดินกลับไปที่รถ เขาก็รั้งมือปมไว้ แล้วยัดนามบัตรเขาใส่มือผม
     
     
    "...หวังว่าจะได้รู้จักกันมากกว่านี้นะ ยินคนสวย"ตูม! เสียงระเบิดลงในสมองผมครับ ผมได้แต่ยอมเพราะทั้งง่วง ทั้งเหนียวตัวไปหมด 
     
       พอผมเดินถึงมินิคูเปอร์สีฟ้าน่ารักของผมก็รีบซิ่งกลับบ้านครับ ไม่ไหวแล้ว ง่วง 
    .
    .
     
    .
     
    .
     
    .
     
     
      ไอโฟนเเผดเสียงตั้งเเต่เช้า ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรผม =_= ผมเอื้อมมือไปเเล้วทัชหน้าจอปิดอย่างเคยชินเพราะวันนี้วันเสาร์เเล้วก็ทิ้งร่างหลับต่อ ยังไม่ทันหลับสนิทเสียงไอโฟนก็เเผดเสียงร้องอีก
     
     
    น่ารำคาญจริง เขวี้ยงทิ้งดีมะ?
     
     
    ไม่เอาดีกว่าเปลือง ผมจึงเอื้อมมือไปหมายจะกดปิดอีกครั้งเเต่ช่วยไม่ได้มันเป็นการโทรเข้า แต่ผมไม่รู้นี่หว่า นึกว่าปิดแล้ว ผมเลยน็อคหลับทั้งอย่างนั้น มือแปะลงบนหน้าจอ สัมผัสกับปุ่มรับสายนิ้วอีกนิ้วสัมผัสกับปุ่มสปีคเกอร์ ช่างบังเอิญจริ๊งง มาบังเอิญอะไรตอนนี้!!
     
     
    พอลืมตาขึ้นมาดู ผมก็ต้องคุยนะเซ่ จะนอนนนนน
     
     
    "ฮัลโหล! ตื่นได้เเล้วครับ"เสียงทุ้มนุ่มที่เริ่มคุ้นเคยดังออกมาจากหนูไอคู่ใจผมที่กำลังงัวเงียทำให้ตื่นเต็มตา พรีโอนี่หว่า โทรมาไมวะ =_=
     
     
    "งึม"ผมตอบกลับอย่างง่วงๆ ถึงเเม้จะตาสว่างเเล้วก็เถอะ ปลุกตื่นเเต่เช้าก็ง่วงนี่หว่าแม่ง!
     
     
     
    "เปิด facetime หน่อยดิ" 
     
     
     
    รู้ไหมผมทำไง...?
     
     
     
    ผมก็บ้าจี้กดตามอย่างว่าง่ายเพราะความง่วงนะสิ เหอๆ
     
     
     
    "หึหึหึ"พรีโอหัวเราะเบาๆกับสภาพหัวเป็ดของผม (นี่คือความภาคภูมิใจ(?)ของผมนะ!!)เเละมือผมที่ขยี้ตากอดหมอนข้างอย่างง่วงๆ ช่างมันเหอะ ผมไม่แคร์ ทรงผมออกจะหล่อ มายิ้มแบบนั้นคืออะไร ดูเจ้าเล่ห์ชะมัดเลยเหอะ
     
     

     
    "งืมม มีไร? โทรมาเเต่เช้า?"ยินถามกลับไปด้วยความง่วงนอนโดยไม่สนใจคนตัวสูงที่หัวเราะด้วยใบหน้าอันน่าหมั่นไส้
     
     
     
    "ลืมนัดเหรอครับ"พรีโอเลิกคิ้วขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
     
     
    "ชิบ"ยินสบถออกมากับตัวเองเล็กน้อยเเล้วถามต่อ
     
     
    "เอาจริงเหรอเนี่ย ผมนึกว่าคุณล้อเล่นอ่ะ"ยินสารภาพเเล้วกอดหมอนข้างเเน่นขึ้นอีกโดยไม่รู้ว่าคนตัวสูงมองผ่านfacetime
     

     
     
    "ไม่ไปได้ป่ะ?"ผมลากเสียวยาวด้วยความง่วง ก็เมื่อคืนนอนดึกนิครับ เตียงจ๋า~ งืมๆ
     
     
     
    "ไม่อยากรู้เหรอ?"เป็นคำพูดที่ล่อลวงผมมากครับ เดือบพูดตกลงไปแล้วแต่ง่วง เลยกวนตีนกลับไป
     
     
     
    "ทำไมไม่บอกตอนนี้ละครับบบคุณชายยย"ผมลากเสียงยาวแล้วเอาหน้าซุกกับหมอน
     
     
    *・゜゚・*:・*・゜゚・*:・*・゜゚・*:・*・゜゚・*:・
    มาลงให้หายคิดถึงค่ะ <3  ไปทำการบ้านก่อนนะคะ


     
    talk#2 สวัสดีค่ะ หนูยินเราก็เกรียน กวนไม่ใช่เล่นนะเนี่ย อ๊ะๆ คนที่ร้องเพลงใครอ่ะ ไม่ใช่พรีโอนะคะ แต่อาจจะเกี่ยวข้องกันน^^
     
     
    เอมพยายามจะไม่ท้อนะคะที่มีคนอันแฟนคลับเกลี้ยง คือลึกๆก็รู้สึกแย่ค่ะ แต่เอมก็มองจุดประสงค์หลักคือเอมต้องการถ่ายทอดจินตนาการเนอะ^^
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×