The Anticlockwise เทรธีอาร์ คำทำนายแห่งกาลเวลา
เมื่ออัญมณีศักดิ์สิทธิ์ถูกเขมือบ ผู้กุมความลับทั้งแปดจำต้องออกเดินทางตามหาส่วนผสมเพื่อนำมาทำยารีดพลังออกจากร่าง ติดก็ตรงที่ว่าบุคคลผู้ซึ่งออกเดินทาง ดันเป็นคนที่หันไปมองทีไรหัวสมองมันก็ปวดตุบๆ น่ะสิ !
ผู้เข้าชมรวม
8,325
ผู้เข้าชมเดือนนี้
19
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
กาลเวลาผ่านไปหลายปี
เมื่อถึงเวลาที่เวทมนตร์ต้องห้ามทำงาน
ไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดๆ เกิดขึ้น
หญิงสาวผู้นำแห่งฝ่ายเนรัลไม่ได้ปรากฎตัวขึ้น ตามที่นักพยากรณ์บอกแต่อย่างใด
บางที...ที่เวทมนตร์บทนี้ถูกตราไว้ว่าเป็นมนตร์ต้องห้าม
ก็เพราะผลของมันยากที่จะหยั่งถึงนั่นเอง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ทุกคนดำเนินชีวีตตามปกติสุข
โดยไม่แปลกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
หารู้ไม่ว่า...
เด็กสาวคนหนึ่งได้หายตัวไป
เพื่อกลับไปแก้ไขอดีตที่ผิดพลาด !
คุยกับไรท์เตอร์ ( อ่านก่อนก็ดีนะคะ )
แฟนตาซีเรื่องแรกของไรท์เตอร์เองค่ะ บอกตามตรงว่าเราเองก็คาดหวังกับเรื่องนี้เอาไว้สูงมากอยู่เหมือนกัน จึงใคร่ขอความช่วยเหลือจากนักอ่านที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ หากพบข้อผิดพลาดใดๆ ภายในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคำผิด คำตก จวบจนไปถึงติดขัดตรงไหน ไม่เข้าใจตรงไหน รบกวนแจ้ง แนะนำ หรือติชมให้ด้วยนะคะ
ปล. ทุกโหวต ทุกคอมเม้น สำหรับคุณอาจคิดว่าเล็กน้อย แต่สำหรับเรา มันคือกำลังใจเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ เพิ่มแรงฮึดได้อย่างน่าอัศจรรย์ค่ะ ^^
ปลล. อัพช้าไปบ้างพอเป็นพิธี ( ช้าขนาดนี้เรียกพิธีบ้านป้าแกเรอะ !? ) ถือเป็นเรื่องธรรมดาของไรท์เตอร์ค่ะ โปรดอย่าตกใจ
ด้วยความเคารพ
Sleepz_bear
ตอนนี้รับแลกแบนเนอร์แล้วนะคะ
( ได้ฤกษ์มีแบนเนอร์กับเขาสักที )
ถ้าใครจะแลกก็โพสต์เอาไว้นะคะ แล้วเดี๋ยวถ้าเห็นจะเอามาแปะให้ทันที
ผลงานอื่นๆ ของ sleepz_bear ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ sleepz_bear
"Secret !! บริษัทรับวิจารณ์บทความ"
(แจ้งลบ)ชื่อบทความ : The Anticlockwise เทรธีอาร์ คำทำนายแห่งกาลเวลา ชื่อนักวิจารณ์ : กุหลาบน้ำเงิน ลิ้งค์หรือแบนเนอร์บทความที่วิจารณ์ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=523384 โครงเรื่อง [8/10] : โครงเีรื่องกล่าวถึงเด็กสาวที่ย้อนเวลาเพื่อมาเเก้ไขอดีตที่ผิดพลาดของตนเอง ถือว่าน่าสนใจเเละเเปลกใหม่มากเลยนะคะ ก่อนอื่นต้องขออธิบาย ... อ่านเพิ่มเติม
ชื่อบทความ : The Anticlockwise เทรธีอาร์ คำทำนายแห่งกาลเวลา ชื่อนักวิจารณ์ : กุหลาบน้ำเงิน ลิ้งค์หรือแบนเนอร์บทความที่วิจารณ์ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=523384 โครงเรื่อง [8/10] : โครงเีรื่องกล่าวถึงเด็กสาวที่ย้อนเวลาเพื่อมาเเก้ไขอดีตที่ผิดพลาดของตนเอง ถือว่าน่าสนใจเเละเเปลกใหม่มากเลยนะคะ ก่อนอื่นต้องขออธิบายแนวทางการพิจารณาโครงเรื่องจากลักษณะโครงเรื่องที่ถูกต้อง ซึ่งควรมีส่วนประกอบเรียงลำดับดังนี้ 1. องค์ที่1 - แนะนำตัวละคร - เเนะนำความสัมพันธ์ของตัวละคร - สร้างจุดพลิกผัน (สร้างปัญหา) องค์ที่ 2 - เริ่มต้นดำเนินเรื่อง (แก้ปัญหา) - สร้างความตึงเครียด (ปัญหามีทีท่าเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ เเละยากจะเเก้ไข รุนเเรงจนถึงจุดเเตกหัก) องค์ที่ 3 ไคลเเมกซ์เเละแอนตี้ไคลเเมกซ์ นิยายเรื่องนี้ดำเนินมาถึงองค์ที่ 2 เเล้ว ต้องชมว่า ผู้เขียนวางองค์ที่ 1 ได้ดีมาก เเนะนำตัวละครเเละความสัมพันธ์ของตัวละครได้ชัดเจน เเต่ยังไม่จัดว่าดีเยี่ยม (ซึ่งเราจะพูดถึงในช่วงตัวละคร) ผุ้เขียนจบองค์ที่ 1 ด้วยการ สร้างจุดพลิกผันได้ดี โดยเฉลยกับผู้อ่านว่านางเอกจะต้องเดินทางไปแก้ไขอดีต จุดนี้นี่เองที่ทำให้คนอ่านสนใจติดตาม เพราะต้องการรู้เรื่องราวการผจญภัยของนางเอก ผู้อ่านจะเริ่มคาดหวังว่่าเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรในอดีต ที่ต้องหักคะเเนนไป นั่นเพราะในช่วงองค์ที่ 2 ผู้เขียนทำได้้ไม่ดีนัก ดูเหมือนนางเอกไม่ได้เดินหน้าเเก้ไขปัญหาอะไรเลย ซ้ำยังสร้างปัญหาให้ตัวเอง จุดหมายของนางเอกเลื่อนลอย เเละไม่พยายามบากบั่่นทำภารกิจที่ควรจะทำ ทำให้โครงเรื่องที่ควรจะเเข็งเเรงกลับอ่อนเเอ เเละเต็มไปด้วยน้ำมากกว่าเนื้อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในองค์ที่ 2 เเทบไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับจุดหมายของนางเอกเลย นอกจากการเเข่งขัน ซึ่งเหมือนจะเป็นการสร้างเรื่องให้เยิ่นเย้อมากกว่า แต่ถ้าผู้เขียนสร้างเหตุการณ์การเเข่งขันขึ้นโดยเจตนาเพื่อเเนะนำตัวละครใหม่อีกรอบก็ไม่เป็นไร หยวนๆไปได้ อย่างไรก็ตาม เเม้การเเข่งขันจะมีไว้เพื่อเเนะนำตัวละครใหม่อีกรอบ เเต่ผู้เขียนต้องไม่ลืมว่าเรื่องดำเนินมาถึงองค์ที่ 2 เเล้ว ควรมีเหตุการณ์ที่นำไปสู่การเเก้ไขปัญหาได้เเล้ว ควรทำให้ผู้อ่านมองเห็นเส้นสายปลายทางที่จะไปสักที เเต่นี่ผู้อ่านกลับมองไม่เห็นเส้นสายปลายทางอะไรเลย ขอเเนะนำใหู้ผู้เขียนสร้างเเข่งขันประลองนี้ ด้วยจุดประสงค์เพื่อพาผู้อ่านไปสู่ความตึงเครียด หรือ การปมเหตุการณ์ที่ซับซ้อนขึ้น มิใช่เพื่อเเเนะนำตัวละครอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นผู้อ่านจะรู้สึกเลื่อนลอย ซึ่งหากผู้เขียนทำได้ดังที่แนะนำ โครงเรื่องของผู้เขียนก็จะเเข็งเเรงขึ้น ตัวละคร [8/10] : ตัวละครของผู้เขียนมีเอกลักษณ์ชัดเจน มีสีหน้าท่าทางบุคลิกเเน่นอน เเต่จุดบกพร่องอยู่ที่ "ความเป็นตัวละคร" ซึ่งควรมีองค์ประกอบดังนี้ 1. มีปมขัดเเย้ง มีปัญหากับตัวเอง หรือกับผู้อื่น หรือกับสถานการณ์ใดๆ 2. มีจุดมุ่งหมาย 3. พยายามไปถึงจุดมุ่งหมายในข้อที่ 2 ถ้าวิจารณ์ตัวละครนางเอก เธอมีปมขัดเเย้งกับสถานการณ์นั่นก็คือ ปัญหาในอดีตของเธอ ทำให้เธอมีจุดมุ่งหมายที่จะต้องไปเเก้ไขปัญหานั้น เเต่ทว่า เธอกลับไม่พยายามไปถึงจุดมุ่งหมายนั้นเลย เเละเหมือนว่าจะลืมจุดหมายของตัวเองไปเเล้ว นักเขียนที่ดีจะไม่ทิ้งจุดหมายของตัวละคร ควรย้ำเตือนความทรงจำบ่อยๆ ว่าตัวละครมีจุดหมายที่ต้องเเก้ไข รวมถึงตัวละครอื่นในเรื่อง ก็ไม่มีจุดหมายของตัวเอง ทุกตัวออกโรงมาเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น หรือออกมาเพื่อเติมเต็มเหตุการณ์ให้ดูมีตัวละครมากๆ ผู้เขียนต้องเขียนให้ได้ว่า สร้างตัวละครนี้มาเพื่ออะไร พวกเขามีจุดหมายอะไร เเละพวกเขาจะบรรลุจุดหมายนั้นอย่างไร ถ้าตราบใดที่ยังตอบคำถามหลักนี้ไม่ได้ เท่ากับตัวละครนั้นยังไม่มีชีวิตจริง ฉาก สถานที่ เวลา [8/10] : ผู้เขียนบรรยายได้ดีว่าฉากไหนคืออดีต ฉากไหนคือปัจจุบัน ด้วยการใช้ประโยคสนทนา เเละอุปกรณ์ประกอบฉากเข้าช่วย โดยไม่จำเป็นต้องบอกวันเดือนปี ถือว่าทำได้ดีเเล้วค่ะ แต่จุดบกพร่องหลักๆที่อยากให้เเก้ไขนั่นก็คือ ในหนึ่งฉาก ผู้เขียนบรรยายน้อยมาก มักใช้บทสนทนาหรือเสียงเอฟเฟคเสียมากกว่า บางทีก็มีสิ่งโน้นสิ่งนี้ปรากฎมาในฉากดื้อๆโดยไม่มีที่มาที่ไป ขอเเนะนำให้ผู้เขียนบรรยายเพิ่มว่าในแต่ละฉากมีอุปกรณ์ประกอบฉากอะไรบ้าง มีตัวละครใดอยู่ในฉากบ้าง อารมณ์ของฉากเป็นอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านได้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้น การดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] : การดำเนินเรืองของผู้เขียนยังเลื่อนลอบ ดูมีแต่น้ำ เเต่ไม่มีเนื้อ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ออกทะเล ออกนอกเรื่อง วุ่นวาย เพราะผู้อ่านอ่านมา 15 ตอน ยังไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าอะไรคือปัญหาืที่นางเอกต้องเเก้ไข ไม่มีอะไรที่เชื่อมโยงกับสงครามในอดีตเลย นอกจากการเเข่งขันที่ยิ่งทำให้เรื่องเยิ่นเย้อ นอกจากนี้ การดำเนินเรื่องในบทที่ 1 ในส่วนที่นางเอกฝันเห็นอดีต ผู้อ่านอ่านเเล้วติดขัดอย่างมาก เพราะผู้เขียนบรรยายความฝันโดยใช้มุมมองเเบบ "การตัดต่อภาพเคลื่อนไหว" โดยบรรยายว่า "ภาพนั้นเลือนหาย เเละเเทนที่ด้วยภาพหนึ่งอย่างรวดเร็ว" หรือ "วินาทีต่อมา ภาพก็ถูกตัดไป" หรือ "เเละภาพนั้นก็ถูกตัด อีกภาพหนึ่งเข้ามาเเทนที่ เป็นภาพของ ...." ขอเเนะนำผู้เขียนว่าการเขียนนิยายกับการเขียนบทภาพเคลื่อนไหวนั้นต่างกัน เเละไม่ควรนำมาใช้่ร่วมกัน เพราะการเขียนบทภาพเคลือไหว ผู้ชมสามารถมองเห็นทั้งภาพเเละเสียง จึงไม่่ต้องบรรยายมาก เเต่ในนิยาย ผู้อ่านต้องจินตนาการเองผู้เขียนควรบรรยายสถานการณ์จนเห็นภาพ มิใช่บรรยายว่าภาพไหนถุกตัดฉับเเบบไหน หรือเเต่ะละภาพกินเวลากี่วินาที เเละไม่ควรใช้บทสนทนาเล่าเรื่องเพียงอย่างเดียว การขึ้นต้นเรื่องด้วยบทสนทนาไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ ตัวอย่างการเเก้ไข เช่น (จากบทที่ 1 ช่วงภาพความฝัน) คล้ายว่าเห็นภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในความทรงจำของเทรเธียร์ เหตุการณ์เหล่านั้นเลือนราง ว้าวุ่น เเละสับสน จนเธอปวดหัวอย่า่งเเรง เหงื่อเริ่มซึมขึ้นตามไรหน้าผากของเธอ เทรเธียร์ยกมือขึ้นกุมศีรษะ พยายามขับไล่ภาพเหล่านั้นออกจากความคิดของเธอ 'อะไรคือเหตุที่ทำให้พวกท่านขัดเเย้งกับข้า!' พลันเีสียงทรงอำนาจของสตรีนางหนึ่งก็ดังเข้ามาในห้วงสำนึกของเทรเธียร์ เทรเธียร์มองเห็นเเล้ว นางช่างดูสง่างาม ท่วงท่าของนางน่าเกรงขามราวกับนางพญา นางนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ท่ามกลางชุมนุมของกลุ่มคนใบหน้าเคร่งเครียดมากมาย เทรเธียร์สัมผัสได้ว่าบรรยากาศเหล่านั้นช่างอึมครึมยิ่งนัก เเล้วชายชราผู้หนึ่งที่อยู่ตรมข้ามนางก็เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสีียงขรึม "จากข่าวคราวที่ข้าทราบมา พวกท่านไม่ซื่อตรงต่อเรา" ฉับพลัน! ทุกอย่างก็เลือนหายไป ราวกับม่านหมอกขมุกขมัวมาบดบังไว้ จนเทรเธียร์ไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้อีกนอกจากสีเทาหม่น อาการปวดหัวกำเริบขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกอึดอัดและกดดันเหลือเกิน ราวกับมีใครพยายามฉีกทึ้งความทรงจำของเธอ เทรเธียร์พยายมฝืนลืมตาขึ้น เเล้วเธอก็ต้องประหลาดใจกับภาพที่เห็น เธอเห็นสตรีผู้สง่างามนางเดิมกำลังยืนอยู่ในห้องโถงกว้างใหญ่ มีใครคนหนึ่งหมอบราบคาบอยู่ข้างหลังนาง ดวงหน้างามของนางเต็มไปด้วยความตกใจเเละตึงเครียด คล้ายว่าผู้ที่หมอบอยู่ไ้ด้นำข่าวร้ายมากล่าวกับนาง "สงครามกำลังจะเกิดงั้นหรือ!?" สรุปได้ว่า ผู้เขียนควรจะบรรยายให้ละเอียดมากกว่าบรรยายห้วนๆว่าภาพไหนเกิดขึ้น ตัวละครยืนยังไง สีหน้าเเบบไหน เเล้วภาพนั้นถูกตัดอย่างไร ผู้เขียนควรใส่อารมณ์ลงไปในการบรรยายด้วย เพื่อสร้างจินตนาการให้ผู้อ่าน ความสมเหตุสมผล [8/10] : เนื่องจากเรื่องยังไม่จบ จึงไม่สามารถบอกความสมเหตุสมผลโดยรวมได้ จุดบกพร่องที่ควรเเก้ไขได้เเก่ ในอารัมภบทกล่าวถึงสงครามใหญ่ซึ่งกินเวลา 2 เดือน ถ้าเป็นสงครามใหญ่ เวลาเเค่ 2 เดือนคงไม่พอ น่าจะกินเวลาสัก 10 ปีด้วยซ้ำ สงครามเปอร์เซียกับสปาตาร์ใช้เวลาเกือบ 10 ปี สงครามทรอย ใช้เวลา 20 ปี สงครามครูเสดยังมีมาจนถึงปัจจุปัน 2 เืดือนไม่พอเเน่นอนสำหรับสงครามใหญ่ เเละจุดบกพร่องอื่นๆ คือ เรื่องนี้มักดำเนินเรื่องด้วยความบังเอิญเเละดวงมากเกินไป ซึ่งถือว่าเป็นการมักง่ายในการเขียนนิยาย การบังเอิญเเละดวงควรเกิดขึ้นมาด้วยสองกรณีเท่านั้นคือ 1. เป็นเเก่นหลักของเรื่อง ถ้าไม่มีความบังเิอิญนั้น เรื่องจะไ่ม่เกิดขึ้น 2. เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องยิ่งเลวร้าวลงเรื่อยๆ เเต่ดูเหมือนว่านางเอกจะเต็มไปด้วยเรื่องของดวงเเละโชคชะตาความบังเอิญมากกว่า จึงอยากให้ผู้เขียนปรับปรุงส่วนนี้ เพื่อความสมจริงของเรื่อง บทสนทนา [7/10] : บทสนทนาบางส่วนบอกความเป็นตัวละคร ความคิดนิสัย ยุคสมัยได้ดี เเต่บทสนทนาส่วนมากยังบกพร่อง เพราะเป็นบทสนทนาในนิยายรักอิโมติค่อนมากกว่าบทสนทนาในนิยายเเฟนตาซี บทสนทนาในนิยายรักอิโมติค่อนจะนิยมใช้บทสนทนาวัยรุ่น ไม่ถูกไวยากรณ์ ไม่เคร่งครัดเรื่องภาษา เช่น ใช้ภาษาวิบัติเพื่อเสียง ใช้สัญลักษณ์เพื่อบอกอารมณ์โดยละที่จะบรรยาย เเต่ในนิยายเเฟนตาซี ไม่ควรปิดกั้นจินตนาการู้อ่านด้วยสัญลักษณ์ เเละไม่ควรใช้บทสนทนาเล่าเรื่อง ควรบรรยายบทสนทนาให้แจ่มแจ้งเพื่อให้ผู้อ่านมองเห็นภาพชัดเจน เพื่ออวดจินตนาการของผู้เขียน จุดที่ควรเเก้ไขคือ 1. ลดระดับภาษาปาก ภาษาเเสลง ภาษาวิบัติ ภาษาวัยรุ่น เเละใช้ภาษาที่ถูกต้องมากกว่านี้เพื่อยกระดัีบนิยายให้มีความเป็นเเฟนตาซีมากขึ้น เช่น "วุ้ย" "ฟะ" "ว้อยยยย" "อะนะ" "อะเด๊ะ" "เฟ้ยยย" "ดิ" "ใช่ซี้" หากผู้เขียนต้องการอ้างว่าวิบัติเพื่อเสียง หรือเพื่อทำให้บทสนทนามีชีวิตชีวา เเนะนำว่าไม่ควรทำ เพราะไม่ใช่นิยายรักอิโมติค่อน นิยายเเฟนตาซีเป็นนิยายที่โชว์จินตนาการของผู้เขียน โชว์ความสามารถในการถ่ายทอดจินตนาการ ผู้เขียนควรบรรยายมากกว่าใช้อิโมติค่อน เช่น หล่อนพูดพลางทำน้ำเสียงประชดประชัน เขาโวยวายเสียงลั่นอย่างหงุดหงิด เป็นต้น 2. ไม่ควรใช้ไวยากรณ์มักง่ายเเบบภาษาวัยรุ่น เช่น 'ไอ้สีเงินๆ...' ควรใช้ "สีเงินที่เห็นนั้น..." "เมื่อกี๊" ควรใช้ "เมือสักครู่" "เสียซะเอง" ควรใช้ "เสียเอง" "ซวยล่ะว๊า" ควรใช้ "เย่เเล้วสิ!" "เอาจิงดิ" ควรใช้ "จะเอาจริงหรือ?" "ยังกับถูกขัง" ควรใช้ "รู้สึกราวกับถูกขัง" "ซีเรียส" ควรใช้ "เครียด" "โอเค" ควรใช้ "ตกลง" 3. หลายครั้งผู้เขียนใช้สัญลักษณ์ !? มากไป เเล้วละไว้ในฐานที่เขาใจ โดยไม่บรรยายเพิ่มเติม ผู้เขียนไม่ควรใช้สัญลักษณ์เหล่านั้นเพียงเพื่อบอกอารมณ์ เเต่ควรบรรยายเพิ่ม เช่น "ตาเธอเข้มขึ้นได้ไง!?" ควรเเก้เป็น "สีตาเธอเข้มขึ้นได้ยังไง!?" เขาถามอย่างสงสัยระคนตกใจ ภาษาสำนวน - การบรรยาย [14/20] : 1 ผู้เขียนไ่ม่ค่อยบรรยาย เเต่ใช้เสียงเอฟเฟคเสียมากกว่าไม่สมควรทำ เช่น โป๊ะ โอ๊ย ฉึก ฉับ หลายคร้งผู้เขียนใช้เสียงเอฟเฟ็คเเต่ไม่บอกที่มาของเสีย ผู้เขียนควรบอกว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไร ดังมาเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เสียงเอฟเฟ็คด้วยซ้ำ ผู้เขียนควรจะโชว์ฝีมือในการบรรยายมากว่า 2. ผู้เขียนควรบรรยายฉากเพิ่ม 3. ความคิดในใจ ควรจะมีเครืองหมาย '.......' หรือทำตัวเอียง 4. ผู้เขียนควรบรรยายลักษณะบุคลิกท่าทางการยืน ท่าทางเล็กๆน้อยๆที่บ่งบอกความเป็นตัวละครมากขึ้น 5. ผู้เขียนไม่ควรใชประโยค Passive voice เพราะไม่ใช่ไวยากรณ์ไทย ไวยากรณ์ไทยควรเป็น ประธาน+กริยา+กรรม ตัวอย่างการเเก้ไข - มือเล็กๆถูกยกขึ้นมาลูบบริเวณหน้าท้องเบาๆ ควรเเก้เป็น เธอยกมือเล็กๆขึ้นมาลูบท้องตัวเองเบาๆ - สัมผัสเบาๆืี้ทำให้เจ้าของร่างถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก (นี่ไม่ใช่ประโยค เเต่เป็นวลี ) ควรเเก้เป็น สัมผัสเบาๆทำให้เธอเจ็บปวดถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก 6. ผู้เขียนใช้ไทยคำอังกฤษคำ ไม่เหมาะสม เช่น ตัวเธอเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ โอเค ซีเรียส 7. มีบางประโยคที่ผู้อ่านไม่เข้าใจความหมาย ซึ่งน่าจะเกิดจากการผิดไวยากรณ์ เช่น ทำเธอถอย เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยนสิน่า - คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ [7/10] : ส่วนมากไม่มีคำผิด เเต่เกิดจากการที่ผู้เขียนตั้งใจเขียนให้ผิด เป็นการวิบัตเพื่อเสียง สร้างอารมณ๊์นิยายวัยรุ่น มากกว่า ซึ่งไม่แนะนำให้ใช้ ความน่าติดตาม [7/10] : 1. ใน 10 บรรทัดเเรกในอารัมภบท ยังไม่ดึงดูด ดูวกไปวนมา เหมือนยืดยาวไป เเนะนำให้รวบเป็นประโยคสั้นๆเลยดีกว่า เช่น ธรรมะย่อมชนะอธรรม... น่าขำสิ้นดี ใครหนอช่างคิดประโยคลวงโลกนี้ขึ้นมา ในช่วงเวลาอันยาวนานของประวัติศาตร์มนุษย์ชาติ กาลเวลาได้พิสูจน์เเล้วว่า...ผู้ที่เเข็งเเกร่งกว่าเท่านั้น...ที่จะเป็นฝ่ายชนะ! และเเน่นอน..ชัยชนะนั้น หาใช่ชัยชนะตลอดไปไม่ เช่นเดียวกัน ผู้ปราชัย ย่อมไม่ยอมปราชัยตลอดไปเเน่ สงครามไม่มีวันจบสิ้น! จาำกตำนานเมื่อ 102 ปีที่ผ่านมา .............. 2. เรื่องขาดเสน่ห์ ขาดกลิ่นอายเอกลักษณ์ของตัวเอง ขาดความเป็นเเฟนตาซี เพราะผู้เขียนละที่จะบรรยายจินตนาการของผู้เขียนให้ผู้อ่านมองเห็น 3. การดำเนินเรื่องธรรมดาไป อาจเป็นเพราะมีตัวละครที่มากเกินไป ดำเนินเรื่องบนความวุ่นวายเเละการเถียงกันมากเกินไป 4. เรื่องไม่มีจุดหมายปลายทางเเน่ชัด ตัวละครไม่พยายามไปถึงจุดหมายนั้น ผู้อ่านจึงไม่รู้ว่าต้องเชียร์ใคร หรือติดตามชีวิตใคร จึงทำให้เรื่องไม่น่าติดตามเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามเรื่่องมีความน่ารักตรงอารมณ์ขันของเรื่อง เเละเอกลักษณ์ของตัวละคร โครงเรื่องยังน่าสนใจอยู่ หากผู้เขียนให้ความสำคัญกับโครงเรื่องให้มากกว่านี้ เเละสร้างจุดหมายปลายทางของเรื่องให้เด่นชัดกว่านี้ หวังว่าการวิจารณ์หนึ่งหมื่นหนึ่งพันอักขระนี้คงจะมีประโยชน์เเ่ก่ผู้เขียน สรุปคะแนน คะแนนรวมเต็มร้อย ได้ 75/100 อ่านน้อยลง
กุหลาบน้ำเงิน ^_^ | 17 ต.ค. 53
17
0
"scribes นักวิจารณ์จาก T-shirt"
(แจ้งลบ)คงจะต้องขอพูดตรงๆ เลยนะคะว่าถ้าจะส่งสถาพร คงจะต้องนั่งรีไรท์กันยาวมากแน่ๆ เพราะมีจุดพกพร่องหลายที่มากๆ และคิดว่าทาง สนพ. สถาพรคงจะปฎิเสธออกมาเป็นแน่แท้ (หวังว่าไรเตอร์คงจะไม่โกรธ) ขอสับละเอียดยิบเลยนะคะ การบรรยายขอบอกตรงๆ ว่าบทแรกมีส่วนช่วยในการให้ผู้อ่านตัดสินใจต่อว่าจะอ่านเรื่องของเราไปจนจบเรื่องด้วยหรือเปล่า แต่เมื่อเปิดมาแล้วเจอข้อความที่อ่านก ... อ่านเพิ่มเติม
คงจะต้องขอพูดตรงๆ เลยนะคะว่าถ้าจะส่งสถาพร คงจะต้องนั่งรีไรท์กันยาวมากแน่ๆ เพราะมีจุดพกพร่องหลายที่มากๆ และคิดว่าทาง สนพ. สถาพรคงจะปฎิเสธออกมาเป็นแน่แท้ (หวังว่าไรเตอร์คงจะไม่โกรธ) ขอสับละเอียดยิบเลยนะคะ การบรรยายขอบอกตรงๆ ว่าบทแรกมีส่วนช่วยในการให้ผู้อ่านตัดสินใจต่อว่าจะอ่านเรื่องของเราไปจนจบเรื่องด้วยหรือเปล่า แต่เมื่อเปิดมาแล้วเจอข้อความที่อ่านกระชับเกินไป ยืดเยื้อเกินไป อาจจะทำให้ผู้อ่าน อ่านเนื้อหาในตอนนี้แล้วรู้สึกไม่ประทับใจเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มเลยก็ได้ การเปิดเรื่องของผู้แต่งคงอยากจะเปิดเรื่องแบบเท้าความให้ผู้อ่านได้เข้าใจ แต่ในกรณีนี้ท่านเขียนได้สั้นเกินไป (บอกตรงๆ เลยว่าทุกตอนสั้นหมด..) แถมการเขียนเรื่องบทนำในกรณีนี้ หากท่านจะเขียนจริงๆ มันคงจะต้องสั้นกว่านี้อีกครึ่งหนึ่ง เพราะจุดประสงค์ของท่านเพียงจะบอกว่าผู้หญิงฝ่ายเนรัลใช้มนต์ต้องห้ามหายไปและห้ามไม่ให้ใช้เวทมนตร์นี้เท่านั้น แต่ท่านเขียนภาษาการบรรยายในตอนแรกได้ไม่สวยงามเอาเสียเลย รวมไปถึงจุดในตอนเริ่มที่ฝ่ายดีอัสออกมา ท่านก็เขียนเหมือนสั้นๆ ง่ายๆ ขอบอกตามตรงเลยนะคะว่า ถ้าดิฉันเป็น บก.ของสถาพร คงจะไม่รับเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเสียตั้งแต่ได้อ่านบทแรกเลยล่ะคะ บทที่ 1 เริ่มมาสองบรรทัดแรกของสับตรงๆ เลยนะคะว่าไม่ไหวจริงๆ นิยายแฟนตาซีน่ะ เขาไม่มีการเริ่มด้วยการเขียนประโยคสนทนาเรียบง่ายแบบนี้สองบรรทัดลองนะคะ แถมมันยังไม่มีอะไรเป็นจุดดึงดูดมากพอเสียต้องมาเป็นสองบรรทัดแรกเสียด้วย เพราะแค่ประโยคที่ตัวนางเอก (น่าจะนางเอกมั้ง) กล่าวออกมาไม่สอดคล้องกับการกระทำบางอย่างนั่นคือการตบหัวตัวละครอีกตัวหนึ่ง ซึ่งมันควรจะเป็น 'การบรรยาย' เสียมากกว่าที่จะมาเป็นประโยคคำพูดสองบรรทัดที่ดูไม่ดีเอาเสียเลยขนาดนี้ แถมในฉากผู้แต่งก็ไม่ได้บรรยายอะไรไว้เสียมากมาย อยู่ๆ ก็มี 'ประตู' โผล่ออกมาเฉย ไม่บรรยายสถานที่อยู่ ประโยคแรกๆ ที่น่าจะอยู่ก่อนไอ้คำพูดแบบนี้ พระเจ้าเถอะ! อยากอุทานแบบนี้ออกมาเสียจริงนะคะหลังจากอ่านบทที่ 1 ไปเรื่อยๆ..ยุคที่มีเวทมนตร์นี่เขามีนาฬิกาดิจิตอลแล้วเหรอ?? ให้ตายเถอะ ผู้แต่งน่าจะลองแต่งอะไรที่มันเป็น 'เอกลักษณ์' ในนิยายของตนเองหน่อยนะคะ เพราะการมีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ อย่างหน้าปัดนาฬิกาโบราณที่มีเข็มบอกเวลาจัดแต่งด้วยรูปทรงธรรมดา หรืออะไรแบบนี้ก็ได้นะคะ ไม่จำเป็นว่าเราต้องเอาอะไรในปัจจุบันมาใส่ในนิยายของเราก็ได้ สตรีนางหนึ่ง..(ละข้อความต่อๆ มา) หญิงสาวผู้นั้นนั่งอยู่บนโต๊ะ??? บนโต๊ะ แหม แถมมีชายผู้นั่งตรงข้ามด้วยนะ แล้วจู่ๆ ก็มีภาพอะไรไม่รู้โผล่ขึ้นมาเฉยๆ โอ๊ยยย ผู้แต่งค่ะ! นี่นิยายแฟนตาซีนะคะไม่ใช่นิยายรักหวานแหววที่จะมีฉากพูดนางเอกพระเอกด่ากันนิดหนึ่ง จับมือกันนิดหนึ่ง แล้วก็อธิบายต่อไปว่ามีลูกโป่งเด็กลอยมาตรงหน้าน่ะ!! ขอทีเถอะค่ะ แก้ไขส่วน 'เล็ก' ส่วน 'น้อย' นี่ให้ได้ออกเสียก่อนดีกว่านะคะ มันมีผลต่อบทต่อๆ ไปมาก ถ้าจะบรรยายว่าสายตาของเธอทอดมองไปยังเหตุการณ์เบื้องหน้า.. ไอ้ตัวละคนเนี่ยมันอยู่ข้างเหตุการณ์นั้นเลยเหรอ? ไม่ใช่มันกำลัง 'ดู' ภาพเหตุการณ์อยู่หรือไง? ไอ้คำว่าเบิ่งตากว้างนี่มีในพจนานุกรมไทยด้วยเหรอค่ะ? เขามีแต่เบิกตากว้างไม่ใช่เหรอ?? โอ๊ยยย ให้ตาย ทีแรกอยากจะชมว่าเรื่องนี้ไม่มีคำผิดเลย แต่มาเจอตัวเป้งๆ ขนาดนี้นี่ไม่ไหวจริงๆ นะคะ ผ้าห่มเนี่ยนะ ? ให้ตายเถอะ เครื่องหมาย 'ปรัศนี' ก็พิมพ์ออกมาเสียโทนโท้ ขอโทษทีนะคะ คุณผู้แต่งยังอุตส่าห์เขียนคำว่า คำตอบซื่อๆ..ใช้อะไรคิดค่ะ??? คำพูดที่กล่าวออกมาอย่างซื่อๆ ของผู้เป็นแม่ อะไรเทือกนี้น่าจะโอเคกว่าไม่ใช่หรือค่ะ? แถมประโยคล่างๆ ลงมาก็มีแต่ ประโยคสนทนาที่ไร้คำบรรยาย..ขอโทษเถอะนะคะ เห็นเหมือนกันว่าเป็นนักเขียนที่ได้ตีพิมพ์นิยายมาแล้ว แต่..แฟนตาซี ไม่เหมือนแนวรัก ช่วยโปรดเน้นเรื่อง 'ภาษา' ในการแต่งของท่านให้ดีมากกว่านี้ด้วยนะคะ โดยเฉพาะเรื่องการบรรยาย..ที่ไม่ยอมเขียนเอาเสียเลย ผู้วิจารณ์สามารถอ่านได้ถึงแค่จบตอนที่ 1 เท่านั้นก่อนนะคะ เผื่อท่านผู้ใช้บริการจะไม่พอใจ ถ้าผู้แต่งยืนยันที่จะให้วิจารณ์ต่อก็โปรดติดต่อที่หน้าบทความอีกครั้งหนึ่งนะคะ ป.ล.แต่จะให้อ่านต่อแล้วเนื้อหาแฟนตาซีของท่านยังเขียนเหมือนรักหวานแหววแบบนี้ตลอดคงจะไม่ไหวจริง สำหรับ 'คนแฟนตาซี' อย่างผู้วิจารณ์ ป.ล.2 เนื่องจากเป็นข้อตกลงกันระหว่างนักวิจารณ์ใน T-shirt ถ้าใครมีการข้อระดับ E สับแหลกเราจะวิจารณ์ให้เพียงส่วนหนึ่งก่อน และจะมีส่วนหลังๆ ตามมาหากผู้แต่งเรื่องนั้นๆ สามารถรับคำวิจารณ์ของนักวิจารณ์เราทั้งหมดได้ เราจะทำการวิจารณ์จนครบทั้งเรื่องค่ะ ป.ล.3 ตัดสินใจเปลี่ยน สนพ. ตอนนี้ยังทันนะคะ เพราะพล็อตทั้งหมดที่อ่านผ่านๆ ดูจนครบ 'สิบห้า' ตอน เป็นพล็อตที่เกลื่อนโลกแฟนตาซีมาก สถาพรไม่เอาอะไรแบบนี้มาออกเป็นหนังสืออีกหรอกค่ะ ล้นตลาด.. เพราะแฟนตาซี ไม่เหมือนแนวรักที่คุณเคยเขียน ป.ล.4 ภาษาคุณก็ไม่ใช่จะแย่อะไร แค่อยู่ในระดับปานกลาง แต่พอดีสั่งมาว่าสับแหลก ระดับ E เลยจำเป็นต้องเขียนอย่างนี้ ขอโทษไว้ล่วงหน้าด้วยแล้วกันนะคะ..ไม่สิ ขอโทษตามหลังต่างหาก.. อ่านน้อยลง
Scribes | 14 ต.ค. 53
9
6
ดูทั้งหมด
"Secret !! บริษัทรับวิจารณ์บทความ"
(แจ้งลบ)ชื่อบทความ : The Anticlockwise เทรธีอาร์ คำทำนายแห่งกาลเวลา ชื่อนักวิจารณ์ : กุหลาบน้ำเงิน ลิ้งค์หรือแบนเนอร์บทความที่วิจารณ์ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=523384 โครงเรื่อง [8/10] : โครงเีรื่องกล่าวถึงเด็กสาวที่ย้อนเวลาเพื่อมาเเก้ไขอดีตที่ผิดพลาดของตนเอง ถือว่าน่าสนใจเเละเเปลกใหม่มากเลยนะคะ ก่อนอื่นต้องขออธิบาย ... อ่านเพิ่มเติม
ชื่อบทความ : The Anticlockwise เทรธีอาร์ คำทำนายแห่งกาลเวลา ชื่อนักวิจารณ์ : กุหลาบน้ำเงิน ลิ้งค์หรือแบนเนอร์บทความที่วิจารณ์ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=523384 โครงเรื่อง [8/10] : โครงเีรื่องกล่าวถึงเด็กสาวที่ย้อนเวลาเพื่อมาเเก้ไขอดีตที่ผิดพลาดของตนเอง ถือว่าน่าสนใจเเละเเปลกใหม่มากเลยนะคะ ก่อนอื่นต้องขออธิบายแนวทางการพิจารณาโครงเรื่องจากลักษณะโครงเรื่องที่ถูกต้อง ซึ่งควรมีส่วนประกอบเรียงลำดับดังนี้ 1. องค์ที่1 - แนะนำตัวละคร - เเนะนำความสัมพันธ์ของตัวละคร - สร้างจุดพลิกผัน (สร้างปัญหา) องค์ที่ 2 - เริ่มต้นดำเนินเรื่อง (แก้ปัญหา) - สร้างความตึงเครียด (ปัญหามีทีท่าเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ เเละยากจะเเก้ไข รุนเเรงจนถึงจุดเเตกหัก) องค์ที่ 3 ไคลเเมกซ์เเละแอนตี้ไคลเเมกซ์ นิยายเรื่องนี้ดำเนินมาถึงองค์ที่ 2 เเล้ว ต้องชมว่า ผู้เขียนวางองค์ที่ 1 ได้ดีมาก เเนะนำตัวละครเเละความสัมพันธ์ของตัวละครได้ชัดเจน เเต่ยังไม่จัดว่าดีเยี่ยม (ซึ่งเราจะพูดถึงในช่วงตัวละคร) ผุ้เขียนจบองค์ที่ 1 ด้วยการ สร้างจุดพลิกผันได้ดี โดยเฉลยกับผู้อ่านว่านางเอกจะต้องเดินทางไปแก้ไขอดีต จุดนี้นี่เองที่ทำให้คนอ่านสนใจติดตาม เพราะต้องการรู้เรื่องราวการผจญภัยของนางเอก ผู้อ่านจะเริ่มคาดหวังว่่าเกิดเหตุการณ์เลวร้ายอะไรในอดีต ที่ต้องหักคะเเนนไป นั่นเพราะในช่วงองค์ที่ 2 ผู้เขียนทำได้้ไม่ดีนัก ดูเหมือนนางเอกไม่ได้เดินหน้าเเก้ไขปัญหาอะไรเลย ซ้ำยังสร้างปัญหาให้ตัวเอง จุดหมายของนางเอกเลื่อนลอย เเละไม่พยายามบากบั่่นทำภารกิจที่ควรจะทำ ทำให้โครงเรื่องที่ควรจะเเข็งเเรงกลับอ่อนเเอ เเละเต็มไปด้วยน้ำมากกว่าเนื้อ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในองค์ที่ 2 เเทบไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับจุดหมายของนางเอกเลย นอกจากการเเข่งขัน ซึ่งเหมือนจะเป็นการสร้างเรื่องให้เยิ่นเย้อมากกว่า แต่ถ้าผู้เขียนสร้างเหตุการณ์การเเข่งขันขึ้นโดยเจตนาเพื่อเเนะนำตัวละครใหม่อีกรอบก็ไม่เป็นไร หยวนๆไปได้ อย่างไรก็ตาม เเม้การเเข่งขันจะมีไว้เพื่อเเนะนำตัวละครใหม่อีกรอบ เเต่ผู้เขียนต้องไม่ลืมว่าเรื่องดำเนินมาถึงองค์ที่ 2 เเล้ว ควรมีเหตุการณ์ที่นำไปสู่การเเก้ไขปัญหาได้เเล้ว ควรทำให้ผู้อ่านมองเห็นเส้นสายปลายทางที่จะไปสักที เเต่นี่ผู้อ่านกลับมองไม่เห็นเส้นสายปลายทางอะไรเลย ขอเเนะนำใหู้ผู้เขียนสร้างเเข่งขันประลองนี้ ด้วยจุดประสงค์เพื่อพาผู้อ่านไปสู่ความตึงเครียด หรือ การปมเหตุการณ์ที่ซับซ้อนขึ้น มิใช่เพื่อเเเนะนำตัวละครอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นผู้อ่านจะรู้สึกเลื่อนลอย ซึ่งหากผู้เขียนทำได้ดังที่แนะนำ โครงเรื่องของผู้เขียนก็จะเเข็งเเรงขึ้น ตัวละคร [8/10] : ตัวละครของผู้เขียนมีเอกลักษณ์ชัดเจน มีสีหน้าท่าทางบุคลิกเเน่นอน เเต่จุดบกพร่องอยู่ที่ "ความเป็นตัวละคร" ซึ่งควรมีองค์ประกอบดังนี้ 1. มีปมขัดเเย้ง มีปัญหากับตัวเอง หรือกับผู้อื่น หรือกับสถานการณ์ใดๆ 2. มีจุดมุ่งหมาย 3. พยายามไปถึงจุดมุ่งหมายในข้อที่ 2 ถ้าวิจารณ์ตัวละครนางเอก เธอมีปมขัดเเย้งกับสถานการณ์นั่นก็คือ ปัญหาในอดีตของเธอ ทำให้เธอมีจุดมุ่งหมายที่จะต้องไปเเก้ไขปัญหานั้น เเต่ทว่า เธอกลับไม่พยายามไปถึงจุดมุ่งหมายนั้นเลย เเละเหมือนว่าจะลืมจุดหมายของตัวเองไปเเล้ว นักเขียนที่ดีจะไม่ทิ้งจุดหมายของตัวละคร ควรย้ำเตือนความทรงจำบ่อยๆ ว่าตัวละครมีจุดหมายที่ต้องเเก้ไข รวมถึงตัวละครอื่นในเรื่อง ก็ไม่มีจุดหมายของตัวเอง ทุกตัวออกโรงมาเพื่อฆ่าเวลาเท่านั้น หรือออกมาเพื่อเติมเต็มเหตุการณ์ให้ดูมีตัวละครมากๆ ผู้เขียนต้องเขียนให้ได้ว่า สร้างตัวละครนี้มาเพื่ออะไร พวกเขามีจุดหมายอะไร เเละพวกเขาจะบรรลุจุดหมายนั้นอย่างไร ถ้าตราบใดที่ยังตอบคำถามหลักนี้ไม่ได้ เท่ากับตัวละครนั้นยังไม่มีชีวิตจริง ฉาก สถานที่ เวลา [8/10] : ผู้เขียนบรรยายได้ดีว่าฉากไหนคืออดีต ฉากไหนคือปัจจุบัน ด้วยการใช้ประโยคสนทนา เเละอุปกรณ์ประกอบฉากเข้าช่วย โดยไม่จำเป็นต้องบอกวันเดือนปี ถือว่าทำได้ดีเเล้วค่ะ แต่จุดบกพร่องหลักๆที่อยากให้เเก้ไขนั่นก็คือ ในหนึ่งฉาก ผู้เขียนบรรยายน้อยมาก มักใช้บทสนทนาหรือเสียงเอฟเฟคเสียมากกว่า บางทีก็มีสิ่งโน้นสิ่งนี้ปรากฎมาในฉากดื้อๆโดยไม่มีที่มาที่ไป ขอเเนะนำให้ผู้เขียนบรรยายเพิ่มว่าในแต่ละฉากมีอุปกรณ์ประกอบฉากอะไรบ้าง มีตัวละครใดอยู่ในฉากบ้าง อารมณ์ของฉากเป็นอย่างไร เพื่อให้ผู้อ่านได้มองเห็นภาพชัดเจนขึ้น การดำเนินเนื้อเรื่องและมุมมองการเล่าเรื่อง [8/10] : การดำเนินเรืองของผู้เขียนยังเลื่อนลอบ ดูมีแต่น้ำ เเต่ไม่มีเนื้อ ไม่มีจุดหมายปลายทาง ออกทะเล ออกนอกเรื่อง วุ่นวาย เพราะผู้อ่านอ่านมา 15 ตอน ยังไม่สามารถเชื่อมโยงได้ว่าอะไรคือปัญหาืที่นางเอกต้องเเก้ไข ไม่มีอะไรที่เชื่อมโยงกับสงครามในอดีตเลย นอกจากการเเข่งขันที่ยิ่งทำให้เรื่องเยิ่นเย้อ นอกจากนี้ การดำเนินเรื่องในบทที่ 1 ในส่วนที่นางเอกฝันเห็นอดีต ผู้อ่านอ่านเเล้วติดขัดอย่างมาก เพราะผู้เขียนบรรยายความฝันโดยใช้มุมมองเเบบ "การตัดต่อภาพเคลื่อนไหว" โดยบรรยายว่า "ภาพนั้นเลือนหาย เเละเเทนที่ด้วยภาพหนึ่งอย่างรวดเร็ว" หรือ "วินาทีต่อมา ภาพก็ถูกตัดไป" หรือ "เเละภาพนั้นก็ถูกตัด อีกภาพหนึ่งเข้ามาเเทนที่ เป็นภาพของ ...." ขอเเนะนำผู้เขียนว่าการเขียนนิยายกับการเขียนบทภาพเคลื่อนไหวนั้นต่างกัน เเละไม่ควรนำมาใช้่ร่วมกัน เพราะการเขียนบทภาพเคลือไหว ผู้ชมสามารถมองเห็นทั้งภาพเเละเสียง จึงไม่่ต้องบรรยายมาก เเต่ในนิยาย ผู้อ่านต้องจินตนาการเองผู้เขียนควรบรรยายสถานการณ์จนเห็นภาพ มิใช่บรรยายว่าภาพไหนถุกตัดฉับเเบบไหน หรือเเต่ะละภาพกินเวลากี่วินาที เเละไม่ควรใช้บทสนทนาเล่าเรื่องเพียงอย่างเดียว การขึ้นต้นเรื่องด้วยบทสนทนาไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ ตัวอย่างการเเก้ไข เช่น (จากบทที่ 1 ช่วงภาพความฝัน) คล้ายว่าเห็นภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในความทรงจำของเทรเธียร์ เหตุการณ์เหล่านั้นเลือนราง ว้าวุ่น เเละสับสน จนเธอปวดหัวอย่า่งเเรง เหงื่อเริ่มซึมขึ้นตามไรหน้าผากของเธอ เทรเธียร์ยกมือขึ้นกุมศีรษะ พยายามขับไล่ภาพเหล่านั้นออกจากความคิดของเธอ 'อะไรคือเหตุที่ทำให้พวกท่านขัดเเย้งกับข้า!' พลันเีสียงทรงอำนาจของสตรีนางหนึ่งก็ดังเข้ามาในห้วงสำนึกของเทรเธียร์ เทรเธียร์มองเห็นเเล้ว นางช่างดูสง่างาม ท่วงท่าของนางน่าเกรงขามราวกับนางพญา นางนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ท่ามกลางชุมนุมของกลุ่มคนใบหน้าเคร่งเครียดมากมาย เทรเธียร์สัมผัสได้ว่าบรรยากาศเหล่านั้นช่างอึมครึมยิ่งนัก เเล้วชายชราผู้หนึ่งที่อยู่ตรมข้ามนางก็เอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสีียงขรึม "จากข่าวคราวที่ข้าทราบมา พวกท่านไม่ซื่อตรงต่อเรา" ฉับพลัน! ทุกอย่างก็เลือนหายไป ราวกับม่านหมอกขมุกขมัวมาบดบังไว้ จนเทรเธียร์ไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้อีกนอกจากสีเทาหม่น อาการปวดหัวกำเริบขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกอึดอัดและกดดันเหลือเกิน ราวกับมีใครพยายามฉีกทึ้งความทรงจำของเธอ เทรเธียร์พยายมฝืนลืมตาขึ้น เเล้วเธอก็ต้องประหลาดใจกับภาพที่เห็น เธอเห็นสตรีผู้สง่างามนางเดิมกำลังยืนอยู่ในห้องโถงกว้างใหญ่ มีใครคนหนึ่งหมอบราบคาบอยู่ข้างหลังนาง ดวงหน้างามของนางเต็มไปด้วยความตกใจเเละตึงเครียด คล้ายว่าผู้ที่หมอบอยู่ไ้ด้นำข่าวร้ายมากล่าวกับนาง "สงครามกำลังจะเกิดงั้นหรือ!?" สรุปได้ว่า ผู้เขียนควรจะบรรยายให้ละเอียดมากกว่าบรรยายห้วนๆว่าภาพไหนเกิดขึ้น ตัวละครยืนยังไง สีหน้าเเบบไหน เเล้วภาพนั้นถูกตัดอย่างไร ผู้เขียนควรใส่อารมณ์ลงไปในการบรรยายด้วย เพื่อสร้างจินตนาการให้ผู้อ่าน ความสมเหตุสมผล [8/10] : เนื่องจากเรื่องยังไม่จบ จึงไม่สามารถบอกความสมเหตุสมผลโดยรวมได้ จุดบกพร่องที่ควรเเก้ไขได้เเก่ ในอารัมภบทกล่าวถึงสงครามใหญ่ซึ่งกินเวลา 2 เดือน ถ้าเป็นสงครามใหญ่ เวลาเเค่ 2 เดือนคงไม่พอ น่าจะกินเวลาสัก 10 ปีด้วยซ้ำ สงครามเปอร์เซียกับสปาตาร์ใช้เวลาเกือบ 10 ปี สงครามทรอย ใช้เวลา 20 ปี สงครามครูเสดยังมีมาจนถึงปัจจุปัน 2 เืดือนไม่พอเเน่นอนสำหรับสงครามใหญ่ เเละจุดบกพร่องอื่นๆ คือ เรื่องนี้มักดำเนินเรื่องด้วยความบังเอิญเเละดวงมากเกินไป ซึ่งถือว่าเป็นการมักง่ายในการเขียนนิยาย การบังเอิญเเละดวงควรเกิดขึ้นมาด้วยสองกรณีเท่านั้นคือ 1. เป็นเเก่นหลักของเรื่อง ถ้าไม่มีความบังเิอิญนั้น เรื่องจะไ่ม่เกิดขึ้น 2. เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องยิ่งเลวร้าวลงเรื่อยๆ เเต่ดูเหมือนว่านางเอกจะเต็มไปด้วยเรื่องของดวงเเละโชคชะตาความบังเอิญมากกว่า จึงอยากให้ผู้เขียนปรับปรุงส่วนนี้ เพื่อความสมจริงของเรื่อง บทสนทนา [7/10] : บทสนทนาบางส่วนบอกความเป็นตัวละคร ความคิดนิสัย ยุคสมัยได้ดี เเต่บทสนทนาส่วนมากยังบกพร่อง เพราะเป็นบทสนทนาในนิยายรักอิโมติค่อนมากกว่าบทสนทนาในนิยายเเฟนตาซี บทสนทนาในนิยายรักอิโมติค่อนจะนิยมใช้บทสนทนาวัยรุ่น ไม่ถูกไวยากรณ์ ไม่เคร่งครัดเรื่องภาษา เช่น ใช้ภาษาวิบัติเพื่อเสียง ใช้สัญลักษณ์เพื่อบอกอารมณ์โดยละที่จะบรรยาย เเต่ในนิยายเเฟนตาซี ไม่ควรปิดกั้นจินตนาการู้อ่านด้วยสัญลักษณ์ เเละไม่ควรใช้บทสนทนาเล่าเรื่อง ควรบรรยายบทสนทนาให้แจ่มแจ้งเพื่อให้ผู้อ่านมองเห็นภาพชัดเจน เพื่ออวดจินตนาการของผู้เขียน จุดที่ควรเเก้ไขคือ 1. ลดระดับภาษาปาก ภาษาเเสลง ภาษาวิบัติ ภาษาวัยรุ่น เเละใช้ภาษาที่ถูกต้องมากกว่านี้เพื่อยกระดัีบนิยายให้มีความเป็นเเฟนตาซีมากขึ้น เช่น "วุ้ย" "ฟะ" "ว้อยยยย" "อะนะ" "อะเด๊ะ" "เฟ้ยยย" "ดิ" "ใช่ซี้" หากผู้เขียนต้องการอ้างว่าวิบัติเพื่อเสียง หรือเพื่อทำให้บทสนทนามีชีวิตชีวา เเนะนำว่าไม่ควรทำ เพราะไม่ใช่นิยายรักอิโมติค่อน นิยายเเฟนตาซีเป็นนิยายที่โชว์จินตนาการของผู้เขียน โชว์ความสามารถในการถ่ายทอดจินตนาการ ผู้เขียนควรบรรยายมากกว่าใช้อิโมติค่อน เช่น หล่อนพูดพลางทำน้ำเสียงประชดประชัน เขาโวยวายเสียงลั่นอย่างหงุดหงิด เป็นต้น 2. ไม่ควรใช้ไวยากรณ์มักง่ายเเบบภาษาวัยรุ่น เช่น 'ไอ้สีเงินๆ...' ควรใช้ "สีเงินที่เห็นนั้น..." "เมื่อกี๊" ควรใช้ "เมือสักครู่" "เสียซะเอง" ควรใช้ "เสียเอง" "ซวยล่ะว๊า" ควรใช้ "เย่เเล้วสิ!" "เอาจิงดิ" ควรใช้ "จะเอาจริงหรือ?" "ยังกับถูกขัง" ควรใช้ "รู้สึกราวกับถูกขัง" "ซีเรียส" ควรใช้ "เครียด" "โอเค" ควรใช้ "ตกลง" 3. หลายครั้งผู้เขียนใช้สัญลักษณ์ !? มากไป เเล้วละไว้ในฐานที่เขาใจ โดยไม่บรรยายเพิ่มเติม ผู้เขียนไม่ควรใช้สัญลักษณ์เหล่านั้นเพียงเพื่อบอกอารมณ์ เเต่ควรบรรยายเพิ่ม เช่น "ตาเธอเข้มขึ้นได้ไง!?" ควรเเก้เป็น "สีตาเธอเข้มขึ้นได้ยังไง!?" เขาถามอย่างสงสัยระคนตกใจ ภาษาสำนวน - การบรรยาย [14/20] : 1 ผู้เขียนไ่ม่ค่อยบรรยาย เเต่ใช้เสียงเอฟเฟคเสียมากกว่าไม่สมควรทำ เช่น โป๊ะ โอ๊ย ฉึก ฉับ หลายคร้งผู้เขียนใช้เสียงเอฟเฟ็คเเต่ไม่บอกที่มาของเสีย ผู้เขียนควรบอกว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไร ดังมาเพราะอะไร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เสียงเอฟเฟ็คด้วยซ้ำ ผู้เขียนควรจะโชว์ฝีมือในการบรรยายมากว่า 2. ผู้เขียนควรบรรยายฉากเพิ่ม 3. ความคิดในใจ ควรจะมีเครืองหมาย '.......' หรือทำตัวเอียง 4. ผู้เขียนควรบรรยายลักษณะบุคลิกท่าทางการยืน ท่าทางเล็กๆน้อยๆที่บ่งบอกความเป็นตัวละครมากขึ้น 5. ผู้เขียนไม่ควรใชประโยค Passive voice เพราะไม่ใช่ไวยากรณ์ไทย ไวยากรณ์ไทยควรเป็น ประธาน+กริยา+กรรม ตัวอย่างการเเก้ไข - มือเล็กๆถูกยกขึ้นมาลูบบริเวณหน้าท้องเบาๆ ควรเเก้เป็น เธอยกมือเล็กๆขึ้นมาลูบท้องตัวเองเบาๆ - สัมผัสเบาๆืี้ทำให้เจ้าของร่างถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก (นี่ไม่ใช่ประโยค เเต่เป็นวลี ) ควรเเก้เป็น สัมผัสเบาๆทำให้เธอเจ็บปวดถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก 6. ผู้เขียนใช้ไทยคำอังกฤษคำ ไม่เหมาะสม เช่น ตัวเธอเวอร์ชั่นผู้ใหญ่ โอเค ซีเรียส 7. มีบางประโยคที่ผู้อ่านไม่เข้าใจความหมาย ซึ่งน่าจะเกิดจากการผิดไวยากรณ์ เช่น ทำเธอถอย เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยนสิน่า - คำผิด คำซ้ำ การหลากคำ [7/10] : ส่วนมากไม่มีคำผิด เเต่เกิดจากการที่ผู้เขียนตั้งใจเขียนให้ผิด เป็นการวิบัตเพื่อเสียง สร้างอารมณ๊์นิยายวัยรุ่น มากกว่า ซึ่งไม่แนะนำให้ใช้ ความน่าติดตาม [7/10] : 1. ใน 10 บรรทัดเเรกในอารัมภบท ยังไม่ดึงดูด ดูวกไปวนมา เหมือนยืดยาวไป เเนะนำให้รวบเป็นประโยคสั้นๆเลยดีกว่า เช่น ธรรมะย่อมชนะอธรรม... น่าขำสิ้นดี ใครหนอช่างคิดประโยคลวงโลกนี้ขึ้นมา ในช่วงเวลาอันยาวนานของประวัติศาตร์มนุษย์ชาติ กาลเวลาได้พิสูจน์เเล้วว่า...ผู้ที่เเข็งเเกร่งกว่าเท่านั้น...ที่จะเป็นฝ่ายชนะ! และเเน่นอน..ชัยชนะนั้น หาใช่ชัยชนะตลอดไปไม่ เช่นเดียวกัน ผู้ปราชัย ย่อมไม่ยอมปราชัยตลอดไปเเน่ สงครามไม่มีวันจบสิ้น! จาำกตำนานเมื่อ 102 ปีที่ผ่านมา .............. 2. เรื่องขาดเสน่ห์ ขาดกลิ่นอายเอกลักษณ์ของตัวเอง ขาดความเป็นเเฟนตาซี เพราะผู้เขียนละที่จะบรรยายจินตนาการของผู้เขียนให้ผู้อ่านมองเห็น 3. การดำเนินเรื่องธรรมดาไป อาจเป็นเพราะมีตัวละครที่มากเกินไป ดำเนินเรื่องบนความวุ่นวายเเละการเถียงกันมากเกินไป 4. เรื่องไม่มีจุดหมายปลายทางเเน่ชัด ตัวละครไม่พยายามไปถึงจุดหมายนั้น ผู้อ่านจึงไม่รู้ว่าต้องเชียร์ใคร หรือติดตามชีวิตใคร จึงทำให้เรื่องไม่น่าติดตามเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามเรื่่องมีความน่ารักตรงอารมณ์ขันของเรื่อง เเละเอกลักษณ์ของตัวละคร โครงเรื่องยังน่าสนใจอยู่ หากผู้เขียนให้ความสำคัญกับโครงเรื่องให้มากกว่านี้ เเละสร้างจุดหมายปลายทางของเรื่องให้เด่นชัดกว่านี้ หวังว่าการวิจารณ์หนึ่งหมื่นหนึ่งพันอักขระนี้คงจะมีประโยชน์เเ่ก่ผู้เขียน สรุปคะแนน คะแนนรวมเต็มร้อย ได้ 75/100 อ่านน้อยลง
กุหลาบน้ำเงิน ^_^ | 17 ต.ค. 53
17
0
"T-shirt : Peter"
(แจ้งลบ)พูดกันตรงๆเลยนะครับ เริ่มอ่านบทแรกแบบงงมากๆ บรรยากาศทุกอย่างมึนหมด แต่พอขึ้นบทต่อๆไปแล้วสังเกตว่าการใช้ภาษาค่อยๆพัฒนาขึ้น ติดอยู่ตรงที่ไม่ค่อยอธิบายสภาพแวดล้อมมากนักอาจทำให้คนอ่านจินตนาการตามไม่ได้ดีเท่าที่ควร เนื้อเรื่องของแต่ละบทยอมรับว่ายาวมากๆ มากจนเกินพอดีทำให้ผู้อ่านอาจเกิดอาการเบลอได้ง่าย คำแนะนำจึงเป็นควรจะแบ่งแต่ละตอนให้สั้น ... อ่านเพิ่มเติม
พูดกันตรงๆเลยนะครับ เริ่มอ่านบทแรกแบบงงมากๆ บรรยากาศทุกอย่างมึนหมด แต่พอขึ้นบทต่อๆไปแล้วสังเกตว่าการใช้ภาษาค่อยๆพัฒนาขึ้น ติดอยู่ตรงที่ไม่ค่อยอธิบายสภาพแวดล้อมมากนักอาจทำให้คนอ่านจินตนาการตามไม่ได้ดีเท่าที่ควร เนื้อเรื่องของแต่ละบทยอมรับว่ายาวมากๆ มากจนเกินพอดีทำให้ผู้อ่านอาจเกิดอาการเบลอได้ง่าย คำแนะนำจึงเป็นควรจะแบ่งแต่ละตอนให้สั้นลงกว่านี้เป็นหนึ่งต่อสองหรทอหนึ่งต่อสาม อีกเรื่องหนึ่งคือพล๊อตเรื่องครับ พล๊อตเรื่องค่อนข้างจะจำเจและเดาทางง่ายไปนิดนึง ขอแนะนำให้เปลี่ยนพล๊อตให้เพิ่มความซ้ำซ้อนเค้าไปในพล๊อตเรื่องเพื่อที่ผู้อ่านจะได้มีความกระตือรือร้นที่จะติดตามต่อไป เรื่องจะสับก็มีแค่นี้แหละครับ ยังไงก็ขอให้หมั่นแก้ไขปรับปรุงเพื่อที่ฝีมือในการแต่งจะได้พัฒนายิ่งๆขึ้นไปนะครับ Peter อ่านน้อยลง
ปีเตอร์ จักรพรรดิแสงศักสิทธิ์ | 17 ต.ค. 53
8
1
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น