ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายหลังจากถูกเนรเทศ

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.04K
      643
      28 ก.ค. 62

    ตอนที่ 1


         ภายในความฝันของเรเทีย เธอกำลังฝันถึงตัวเธอในวัยเด็ก ในตอนนั้นเธอยังเป็นที่รักของครอบครัวและคนรอบข้าง ทุกคนต่างรักและเอ็นดูเธอ

        เธอได้หมั้นหมายกับเจ้าชายรัชทายาทผู้มีสิทธิ์ได้ขึ้นครองบัลลังก์คนต่อไป แล้วในไม่นานเขาก็ทำให้เธอตกหลุมรัก

         เธอพยายามทุกอย่างเพื่อให้เป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขา ทั้งมารยาท การเรียน เวทมนต์ และวิชาการต่อสู้ จนเธอได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง

         แล้วทุกอย่างก็ต้องพังทลายลงเมื่อวันหนึ่งในวันที่เธออายุ13ปี พ่อของเธอรับเด็กสาวคนหนึ่งมาเลี้ยงโดยที่พ่อของเธอบอกแค่ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นเด็กกำพร้าที่พึ่งเสียพ่อแม่และเธอมีธาตุแสงหายากเลยรับมาเลี้ยง

         ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกคนในครอบครัวก็รักและเอาใจใส่เธอคนนั้นมากจนเกินไปจนไม่สนใจเธอ หรือแม้แต่คู่หมั้นของเรเทียยังไปใกล้ชิดกับเธอคนนั้นมากจนเกินไป

         แล้วไม่นานเรเทียก็ถูกแย่งยิงทุกอย่างไปทั้งความรักความอบอุ่นจากครอบครัว ความรักที่ได้จากชายอันเป็นที่รัก หรือแม้แต่การยอมรับจากคนรอบข้าง

         แล้วชีวิตของเธอก็เริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ช่วงแรกๆเธอนั่นถูกไลล่าทำน้ำหกใส่โดยอ้างว่ามือลื่น ต่อมาก็ตอนฝึกเวทเธอก็โดนไลล่าปล่อยเวทใส่โดยอ้างว่าควบคุมพลังเวทพลาดไม่ได้ตั้งใจ พอตอนฝึกดาบไลล่าก็จะหาจังหวะฟาดดาบไม้ใส่เรเทียตลอด แล้วก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ

         แถมทุกคนก็ไม่มีใครเป็นห่วงเรเทียเลยยกเว้นแต่ครูที่สอนและคนรับใช้บางคน

         แล้วก็เลวร้ายลงเรื่อยๆ การโดยสาดน้ำใส่ เกือบโดนกระถางต้นไม้ตกใส่ แล้วอีกสารพัด

         พอเข้าเรียนในตอนอายุ15เรเทียก็เริ่มถูกไลล่าใส่ร้ายว่าเรเทียกลั่นแกล้งและทำร้ายเธอ ทำให้รัชทายาทลีออนคู่หมั้นของเรเทียมักจะเข้ามาขึ้นเสียงใส่เรเทียประจำ

         แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆ

         จนในวันคืนงานราตรีหลังจบการศึกษารัชทายาทลีออนก็ได้ประกาศถอนหมั้นกับเรเทียพร้อมกับประณามเธอก็หน้านักเรียนทั้งสถาบัน

          แล้ว2วันหลังจากนั้นก็ถูกกล่าวหาว่าพยายาทฆ่าไลล่าในห้องนอน จากนั้นก็ถูกพาไปศาลพิพากษาแล้วถูกเนรเทศ โดยที่เธอต้องมองดูคนที่เธอรักกอดนังแพสยานั่นอย่างอ่อนโยน

         จนสุดท้ายพ่อของเธอก็ส่งนักฆ่ามาฆ่าเธอซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆจนเธอต้องเกือบตาย

         แล้วในตอนนี้จิตใจของเรเทียที่บอบบางก็แตกสลายไม่มีชิ้นดีอีกแล้ว ซึ่งมันไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกแล้ว





         "อึก!!"

         ไม่นานเรเทียเธอก็กระตุกตื่นขึ้นมาจากความฝันของเธอ

         "นี่ที่นี่ไหน?"

         เมื่อเรเทียรู้สึกตัวเธอก็รู้สึกได้ว่าเธอกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆถึงมันจะเทียบไม่ได้กับเตียงนอนที่คฤหาสน์ที่เธอเคยอยู่ก็ตามแต่มันก็นุ่มมากเลยทีเดียว

         เรเทียสังเกตไปรอบๆก็พบว่าเธออยู่ในห้องๆหนึ่งที่ตัวห้องเป็นสีม่วงซึ่งเธอชอบมันมากเพราะมันเป็นสีเดียวกับดวงตาของเธอ ภายในห้องประดับตกแต่งอะไรมากมาย มีเพียงแค่เตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าเพียงเท่านั้น

         เรเทียรู้สึกสงสัยว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี้ เธอจึงนึกย้อนกลับไปยังช่วงเวลาก่อนที่เธอจะหมดสติ

         "จริงสินะ ฉันถูกดยุคอเล็กซ์ส่งคนมาฆ่านินะ"

         เรเทียกำพ้าห่มแน่นแล้วหัวเราะสมเพชตัวเอง มันช่างเจ็บปวดกับการที่พ่อแท้ๆส่งคนมาฆ่าเธอซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ ทั้งๆที่เหมือนก่อนเขาเคยอ่อนโยนและรักเธอมากเลยแท้ๆ แต่ตอนนี้มันช่างตรงกันข้ามสิ้นดี

         "ท่านแม่ ไม่สิ ดัชเชสมาเรียเองก็คงมีส่วนด้วยสินะ"

         ในหัวของเรเทียเธอมองเห็นภาพครอบครัวสุขสันต์ที่กำลังยิ้มแย้มและหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ตรงนั้นไม่ได้มีเธอรวมอยู่ด้วย

         แล้วเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าถ้าหากเธอตายไปซะ พวกเขาหากจะมีความสุขมากกว่านี้ มากกว่าการที่ขับไล่เธอออกมาก็ได้

         "นี่ฉันคงถูกทิ้งโดยสมบูรณ์แล้วสินะ ไม่สิ ถูกทิ้งมานานแล้วมากกว่า"

         เรเทียนั่นกอดเข่าตัวเองแล้วซ่อนใบหน้าที่กำลังจะร้องไห้ออกมาเต็มทน

         แล้วในตอนนั้นเองประตูห้องก็ได้เปิดออก แล้วเรเทียก็หันไปมอง

         "อ้าว ฟื้นแล้วเหรอเรเทียจัง"

         "ท่านแม่มดขาว!?"

         แล้วหญิงสาวที่ถูกเรียกว่าแม่มดขาวก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ข้างๆเตียงของเรเทีย

         "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ประมาณ8ปีได้แล้วสินะ"

         "ค่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะท่านแม่มดขาว"

         เวโรนิก้า สตาร์จูน หรืออีกชื่อ แม่มดขาว แม่มดผู้มีชีวิตมากว่า500กว่าปี ซึ่งที่เธอถูกขนานนามว่าแม่มดขาวนั่นก็เพราะเส้นผมและชุดแม่มดที่เธอสวมเป็นสีขาวนั่นเอง 

         แถมในอดีตเธอยังสร้างวีรกรรมไว้มากมายอย่างเช่น ล้างบางกองทัพมอนสเตอร์นับหมื่นด้วยตัวคนเดียว สร้างยาที่สามารถรักษาโรคที่ว่ากันว่ารักษาไม่ได้ ลบภูเขาให้หายไปทั้งลูก และอีกมากมาย

         เวโรนิก้าเป็นหนึ่งในบุลคลที่ราชาปีศาจไม่คิดจะหาเรื่องด้วยหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ

         ส่วนเรื่องที่เรเทียรู้จักกับแม่มดขาวเวโรนิก้าเพราะเมื่อ8ปีก่อนในตอนที่เรเทียอายุได้10ขวบ ในวันงานหมั้นของเรเทียและรัชทายาทลีออนนั่น เวโรนิก้านั่นได้ถูกเชิญไปร่วมอวยพรในงานหมั้นด้วยเช่นกัน และนั้นคือที่เรเทียและเวโรนิก้าได้พบกันครั้งแรก

         แถมในตอนที่พบกันครั้งแรกนั่นเองเวโรนิก้าดูเหมือนจะมองเรเทียด้วยความสนใจในมากอีกด้วย

         "หรือว่าท่านแม่มดขาวจะเป็นคนช่วยฉันไว้เหรอค่ะ"

         "จ๊ะ ว่าแต่ร่างกายเป็นอย่างไงบ้าง ยังรู้สึกเจ็บตรงไหนอยู่อีกรึเปล่า"

         "ไม่เลยค่ะ ต้องขอบคุณท่านมากตอนที่ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ"

         "เหรอจ๊ะ"

         เวโรนิก้ามองไปยังเรเทียอย่างลำบากใจแล้วได้พูดขึ้น

         "เรเทียจัง ฉันเสียใจด้วยนะคะกับเรื่องการหมั้นของหนู"

         "!!"

         พอได้ยินอย่างนั้นเรเทียก็เบิกตากว้างพร้อมกับความเจ็บปวดใจอก เห็นดังนั้นเวโรนิก้าจึงได้กล่าวขอโทษต่อเรเทีย

         "ขอโทษนะจ๊ะ ถ้าฉันทำให้หนูรู้สึกไม่สบายใจ"

         "ไม่หรอกค่ะ ตอนนี้ฉัน...เริ่มจะทำใจได้แล้ว"

         เรเทียพูดจบก็ยิ้มให้เวโรนิก้า

         "เหรอจ๊ะ"

         แล้วเวโรนิก้าก็เข้าไปโอบกอดเรเทีย

         "เอ๋?"

         "เรเทียจัง ถ้าหากหนูอยากจะระบายมันออกมาล่ะก็ จะระบายมันออกมาก็ได้นะจ๊ะฉันจะเป็นคนรับฟังมันเอง หนูไม่ต้องฝืนยิ้มออกมาหรอกนะ"

         "ท่าน...แม่มดขาว"

         "ถึงแม้ภายนอกหนูจะทำตัวเข้มแข็งก็เถอะ แต่ภายในจิตใจของหนูคงเจ็บปวดมากเลยสินะ ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครอยู่เคียงข้างหนูแล้วก็ตามแต่ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างหนูตลอดไปเอง เพราะฉะนั้นระบายออกมาเถอะ ฉันจะรับฟังมันเอง"

         มันช่างอบอุ่น นั่นคือสิ่งที่เรเทียคิดเมื่ออยู่ในอ้อมกอดเวโรนิก้า มันนานเท่าไรแล้วนะที่เธอไม่ได้ถูกโอบกอดแบบนี้ มันนานเท่าไรแล้วนะที่เธอไม่ได้สัมผัสกับความอบอุ่นแบบนี้

         มันช่างนานมากจริงๆเพราะตลอด5ปีที่ผ่านมาเรเทียมันต้องทนอยู่กับความเย็นชาจากครอบครัว ผู้คนรอบข้าง และชายผู้เป็นที่รัก มันนานมากแล้วจริงๆ

         เรเทียกอดเวโรนิก้าแล้วเริ่มไหล่สั่น

         "ฉันร้องออกมาได้จริงๆเหรอคะ"

         "จ๊ะ"

         "ฉันจะทำตัวอ่อนแอ่ก็ได้เหรอค่ะ"

         "ใช่จ๊ะ"

         "ฉันจะทำตัวน่าสมเพชก็็ไม่เป็นไรเหรอค่ะ"

         "ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ"

         "ฮือ"

         เพราะเธอเป็นอดีตบุตรสาวของตระกูลดยุคแจ็คเฟอร์ที่มีอำนาจและสูงศักดิ์ เรเทียจึงได้ทำตัวเข้มแข็งอยู่ตลอดเวลา ไม่คิดที่จะทำตัวอ่อนแอ่เพื่อให้ใครมารู้สึกสงสาร ไม่คิดที่จะร้องไห้ออกมาเพื่อให้ใครมารู้สึกเห็นใจ

         หากเธอทำก็มีแต่จะทำให้เธอดูน่าสมเพชมากขึ้นเท่านั้น เพราะงั้นเธอจึงได้อดทนมาโดยตลอดทั้งน้ำตาและความเจ็บปวดภายในใจของเธอ

         เพราะงั้นสิ่งที่เธอทำได้ก็มีเพียงแค่การสวมหน้ากากปกปิดความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดของเธอเพียงเท่านั้น

         แต่ในตอนนี้เธอไม่ใช่บุตรสาวของตระกูลดยุคแจ็คเฟอร์ที่มีอำนาจและสูงศักดิ์อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเพียงแค่เรเทียหญิงสาวถูกทิ้งเท่านั้น

         ด้วยความอบอุ่นและการโอบกอดที่แสนอ่อนโยนของเวโรนิก้า มันทำให้หน้ากากที่เรเทียได้สวมไว้จนถึงตอนนี้ได้หลุดออก

         "ฮือ! ทำไม ทำไมกันล่ะทั้งๆที่ฉันพยายาม ฮือ! พยายามทำทุกอย่างใครทุกคนยอมรับ ฮือ! ทำไมถึงไม่มีใครเห็นค่าเลยล่ะ ฮือ! ทำไมทุกคนถึงได้เย็นชา ฮือ! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ ฮือ! ทำไมทุกคนถึงไม่เชื่อฉันเลยล่ะ...."

         "..."

         "ฮือลีออนทำไมท่านถึงหลอกฉัน ฮือ! หลอกให้ฉันหลงรักท่านจนหมดใจ แล้วสุดท้ายท่านก็ทำลายมันเหมือนกับมันเป็นสิ่งไร้ค่า ฮือ! ถ้าเทียบกันแล้วฉันนะ ฮือ! ฉันนะ รักท่าน รักท่าน รักท่านมากว่าใครในโลกนี้ ไม่เหมือนกับเธอคนนั้นที่หลอกใช้ท่าน ฮือ! แล้วทำไม ฮือ! คำพูดของฉันสักคำ ฮือ! ทำไมท่านถึงไม่ฟังกันบ้าง ฮือ!"

         "..."

         "ท่านพ่อ ฮือ! ท่านคงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นลูกแล้วสินะ ฮือ! ท่านอยากให้ฉันตายมากเลยสินะ ฮือ! อยากให้ฉันหายไปจากโลกมากเลยสินะ ฮือ! สำหรับท่านแล้วฉันมันไม่มีค่าอะไรเลยสินะ ฮือ!"

         "..."

         "ทำไมกันล่ะ ฮือ! ทำไม ทำไมทุกคนถึงขับไล่ฉันออกมาล่ะ ฮือ! ฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแท้ๆ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ๆ ฮือ!"

         "..."

         "ทำไมถึงไม่มีใครเชื่อฉันเลยล่ะ ฮือ ฮือออๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!"

         เรเทียได้ร้องไห้ออกมาโดยที่เวโรนิก้ายังกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน

         น้ำตาแห่งความเจ็บปวด ความเศร้า ความเสียใจที่เธอได้รับมันมากว่า5ปีบัดนี้นั้นเธอได้ปลดปล่อยมันออกมาแล้ว

         เรเทียร้องไห้ต่อไปเรื่อยๆโดยที่มีเวโรนิก้าคอยกอดเธออยู่อย่างอบอุ่น

         "ขอบคุณมากเลยนะคะท่านแม่มดขาว ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะค่ะ"

         ผ่านไปสักพักเรเทียก็หยุดร้องไห้แล้วเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้า

         "ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ ว่าแต่ต่อจากนี้หนูจะทำอย่างไงต่อหรอเรเทียจัง"

         เวโรนิก้าถามหลังจากที่คลายกอดออกจากเรเทียแล้ว

         "นั่นสินะคะ ก็คงลองหางานทำละมั่งค่ะ"

         "แล้วเรเทียจังคิดว่าหนูสามารถทำงานอะไรได้บ้างเหรอ"

         "อึก!"

         มันช่างเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าเป็นถึงลูกคุณหนูพวกงานต่างๆเหล่าเมดจึงจัดการให้แม้แต่การแต่งตัวเมดยังมาคอยทำให้เลย

         "แล้วเรื่องที่พักล่ะ หนูจะทำอย่างไง"

         "ฉันพอมีเงินติดตัวอยู่นิดหน่อยนะคะอยู่ในกระเป๋าของฉัน แล้วกระเป๋าของฉันอยู่ไหนเหรอค่ะ"

         "ขอโทษนะจ๊ะฉันไม่ได้เอามันมาด้วย"

         "..."

         เงินที่มีติดตัวทั้งหมดของเรเทียที่เธอเอามาด้วยตอนถูกพามาที่นี้เธอเก็บไว้ในกระเป๋า สรุปคือตอนนี้เรเทียนั้นไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่แดงเดียว

         นี่ฉันจะทำอย่างไงต่อไปดีล่ะเนี้ย!

         เรเทียกำลังคิดว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไงดี แล้วในตอนนั้นเวโรนิก้าก็ได้พูดขึ้นมาว่า

         "งั้นเอาอย่างนี้ไหมเรเทียจัง"

         "อะไรเหรอค่ะ ท่านแม่มดสาว"

         เรเทียหันไปมองเวโรนิก้า

         "หนูสนใจจะอยู่ที่นี่แล้วมาเป็นลูกศิษย์ของฉันไหม"

    -----------------------------------------------------

    เป็นไงบ้างถ้าหากไมสนุกไรท์ก็ขอโทษด้วยน่า แต่นี้ไรท์พยายาทแล้วน่า~ หวังว่าทุกคนจะชอบ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×