ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายหลังจากถูกเนรเทศ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.22K
      611
      5 ก.ย. 64

    บทนำ


         ณ ศาลหลวงแห่งเมืองหลวงอาณาจักรเฟเทียนัส

         มีผู้คนมากมายในเมืองหลวงต่างก็มายังศาลเพื่อรับฟังคำตัดสินในครั้งนี้

         ซึ่งคนที่ถูกตัดสินในครั้งนี้คือเด็กสาวอายุประมาณ18ปี สวมชุดเดรสสีฟ้า หน้าตาได้รูปสละสะสวย มีเส้นผมสีดำเงางาม และเนตรตาสีม่วงแสนสวยน่าหลงไหล

         เธอคนนี้มีชื่อว่า เรเทีย ฟอน แจ็คเฟอร์ เป็นบุตรีแห่งตระกูลดยุคแจ็คเฟอร์ที่ยิ่งใหญ่รองลงมาจากตระกูลเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรแห่งนี้

         โป๊ะๆ!

         แล้วในตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ผู้พิพากษาจะได้ทำการตัดสินโทษของท่านหญิงแห่งตระกูลแจ็คเฟอร์แล้ว ทุกคนในศาลจึงได้เงียบลงและรอคำตัดสินของผู้พิพากษา

         "ท่านหญิงเรเทีย ฟอน แจ็คเฟอร์ จากเรื่องที่ท่านได้พยายามฆ่าท่านหญิงไลล่า แจ็คเฟอร์และอื่นๆ นั้นบทลงโทษของท่านคือถูกปลดออกจากการเป็นชนชั้นสูงและจะถูกเนรเทศออกจากอาณาจักรเฟเทียนัสและจะไม่อนุญาตให้กลับมายังอาณาจักรเฟเทียนัสอีกเป็นครั้งที่2ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรทั้งสิ้น ขอจบการตัดสินแต่เพียงเท่านี้"

         โป๊ะๆ!

         และนั้นคือคำตัดสินของผู้พิพากษาสำหรับความผิดในสิ่งที่เรเทียนั้นไม่ได้ก่อเลยแม้แต่น้อย

         เรื่องของการพยายามฆ่าที่ผู้พิพากษาได้พูดมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดนั้นคือเรื่องที่มีคนเข้าไปในห้องนอนของไลล่า แจ็คเฟอร์ น้องสาวบุญธรรมของเรเทียเพื่อจะทำการลอบสังหารไลล่า

         ซึ่งเรื่องทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ไลล่าจัดฉากขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายและป้ายความผิดให้เรเทียนั้นเอง

         "อะไรกันอย่าทำแบบนั้นเลยนะคะ!! ท่านพี่อาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้นะคะ!!"

         เด็กสาวในชุดเดรสสีชมพู หน้าตาน่ารัก ผมสีน้ำตาล เนตรตาสีน้ำตาล ได้พูดขึ้นเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้คนทั้งศาล

         เธอมีชื่อว่า ไลล่า แจ็คเฟอร์ เป็นน้องสาวบุญธรรมของเรเทีย ไลล่าเป็นเด็กสาวที่ตระกูลแจ็คเฟอร์รับมาเลี้ยงเพราะมีธาตุแสงหายาก ถึงแม้ภายนอกเธอจะดูน่ารัก อ่อนโยน ไร้เดียงสาและน่าปกป้องเพียงใจ

         แต่ภายใต้ใบหน้านั้นของเธอกลับเต็มไปด้วยความเสแสร้ง ความริษยาและทะเยอทะยาน ที่ต้องการแย่งชิงของๆ ผู้อื่น

         และเรเทียก็รู้ดีกว่านิสัยของไลล่านั้นเป็นไง แล้วเรเทียก็รู้ดีกว่าไลล่านั้นเจ้าชู้ถึงแค่ไหน ไลล่านั้นมีชู้อยู่ไม่ต่ำ10คน และทุกคนก็ต่างมีคู่หมั้นอยู่แล้วทั้งนั้น

         ไลล่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังการใส่ร้ายเรเทียต่างๆ นาๆ จนทำให้ผู้คนรอบข้างรวมถึงครอบครัวเริ่มรังเกียจเรเทีย และเธอยังเป็นคนที่แย่งคู่หมั้นของเรเทียไปอีกด้วย

         ถึงแม้ไลล่าจะพูดเหมือนกำลังสงสารและเห็นใจเรเทีย แต่ภายในใจของเธอนั้นกำลังรู้สึกสะใจสุดๆ จนอยากจะยิ้มสุดๆ แต่ก็ต้องทำหน้าตาเศร้าและเห็นใจไว้ เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าเธอเป็นแม่พระใจงาม

         "พอเถอะไลล่าไม่ต้องไปเห็นใจยัยน่ารังเกียจนั่นหรอก อีกอย่างผู้พิพากษาก็ตัดสินไปแล้วด้วย"

         ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ผมสีทอง เนตรตาสีฟ้า ได้บอกกับไลล่าอย่างอ่อนโยน

         เขามีชื่อว่าลีออน ออฟ เฟเทียนัส เป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักรเฟเทียนัสและเป็นองค์รัชทายาทลำดับที่ 1 ว่าที่องค์ราชาแห่งอาณาจักรเฟเทียนัสในอนาคต และเป็นอดีตคู่หมั้นของเรเทีย เพราะในวันงานราตรีหลังจบการศึกษาเขาไปประกาศถอนหมั้นกับเรเทียพร้อมกับประณามเธอด้วย

         เจ้าชายลีออนตกหลุมรักไลล่าในเวลาไม่นานหลังจากที่พบเธอ และเขาก็เริ่มเกลียดเรเทียเป็นอย่างมากกับเรื่องที่เรเทียทำร้ายไลล่า ซึ่งเขากลับเชื่อไลล่าไปซะทั้งหมดที่เธอบอก

         โดยที่เขาไม่รู้ห่าเหวเลยว่าไลล่าลับหลังเขานั้นคบชู้ไว้มากมายลับหลัง

         พอรู้เรื่องว่าเรเทียทำร้ายไลล่า ลีออนเขามักจะไปมีปากเสียงกับเรเทียบ่อยครั้งมีครั้งหนึ่งที่เขาตบหน้าเรเทียด้วยเช่นกัน

         "ตะ...แต่ว่า..แบบนี้มันโหดร้ายเกินไปนะคะ"

         ถึงแม้เธอจะพูดอย่างนั้นแต่สายตากลับแสดงถึงความสะใจเต็มที จากนั้นเธอก็แสร้งทำเป็นร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสงสารจากคนรอบข้างโดยเฉพาะพวกผู้ชาย

         "ไม่เป็นไรหรอกไลล่าลูกไม่ต้องไม่สงสาร ยัยลูกไม่รักดีนั่นเหรอ"

         "ใช่จ๊ะไลล่า ยัยเด็กโง่นั่นมันสมควรโดนแล้ว"

         "ท่านพ่อ ท่านแม่..."

         แล้วจากนั้นผู้คนรอบข้างอย่างท่านพ่อและท่านแม่ของเรเทีย ดยุดแห่งตระกูลแจ็คเฟอร์ผู้มีอำนาจเป็นรองจากราชา อเล็กซ์ ฟอน แจ็คเฟอร์ และภรรยาของเขา ดัชเชสแห่งตระกูลแจ็คเฟอร์ มาเรีย ฟอน แจ็คเฟอร์ ก็เข้าไปปลอบไลล่าอย่างอ่อนโยนแล้วมองไปทางเรเทียอย่างเย็นชาซึ่งต่างจากไลล่าลิบลับ

         "ใช่แล้วล่ะไลล่าน้องไม่ต้องไปสนใจผู้หญิงอย่างยัยนั่นเหรอ"

         "ถูกตามที่ท่านพี่ว่าไลล่าเธอไม่จำเป็นต้องไปเป็นห่วงยัยผู้หญิงนั่นเหรอ ยัยนั่นสมควรโดนแล้ว"

         "ท่านพี่ซิก คริส..."

         แล้วพี่ชายน้องชายของเรเทีย ซิกฟรีด ฟอน แจ็คเฟอร์ บุตรชายคนโตแห่งตระกูลแจ็คเฟอร์และคริส ฟอน แจ็คเฟอร์ บุตรชายคนเล็กแห่งตระกูลแจ็คเฟอร์ ก็เข้าไปปลอบไลล่า

         "จริงอย่างที่ทุกท่านพูดนะครับไลล่า คุณไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจผู้หญิงคนนั้นหรอกครับ แล้วถ้าเธอยัยนั่นคิดที่จะทำร้ายคุณอีกล่ะก็ผมจะเป็นคนปกป้องคุณเอง"

         "คุณออกัส..."

         และสุดท้ายอดีตองครักษ์ของเรเทีย ออกัส เดย์ ทานาทอส ลูกชายคนรองของหัวหน้ากองอัศวินแห่งพระราชวัง ก็เข้าไปปลอบไลล่าพร้อมกับคุกเขาอย่างอัศวิน

         เรเทียมองพวกเขาเหล่านั้นด้วยสายตาที่ว่างเปล่าไร้ความรู้สึก แต่ภายในใจของเธอนั้นกลับรู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงหัวใจของเธอ

         ทั้งๆ ที่เธอเป็นลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขา ทั้งๆ ที่เธอเป็นครอบครัวมีสายเลือดเดียวกันกับพวกเขาแต่กลับไม่มีใครที่เชื่อเธอเลย ทุกคนกลับหลงเชื่อคำพูดของคนที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับพวกเขาด้วยซ้ำ นั้นมันทำให้เธอเจ็บปวดใจมากจนอยากจะร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด

         ทั้งๆ ที่อดีตองครักษ์ของเธอเคยสาบานว่าจะปกป้องเธอแท้ๆ แต่เขากลับไม่ทำตามที่พูดแล้วไปปกป้องคนที่ใส่ร้ายเธอ

         เธอถูกแย่งชิงไปหมดทุกอย่างทั้งคนรัก ทุกคนในครอบครัว เพื่อนๆ แม้แต่คนรอบข้างที่เคยเข้าหาเธอ บัดนี้เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

         นี่สินะชะตากรรมของฉัน

         ไม่นานเรเทียก็ถูกพาตัวออกไปจากศาลหลวงท่ามกลางสายตารังเกียจจากผู้คนรอบข้าง

         ในตอนที่เธอถูกพาตัวออกไปนั้นไม่ได้มีใครสังเกตเลยว่าน้องสาวบุญธรรมของเรเทียนั้นกำลังยิ้มแล้วส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความสะใจไปที่เรเทียอยู่ในขณะนี้

         ส่วนเรเทียในขณะที่กำลังถูกพาตัวออกไปนั้นได้ข่มความรู้สึกต่างๆ ของเธอไว้ในใจโดยไม่แสดงสีหน้า

         เธออยากจะร้องไห้ออกมา แต่ถ้าร้องเธอจะถูกหาว่าน่าสมเพช ทำตัวน่าสงสาร เรียกร้องความสนใจ

         เธออยากจะบอกว่าเธอไม่ได้ทำและบอกความจริงว่าไลล่าใส่ร้ายเธอ แต่ถ้าบอกก็จะถูกหาว่าโกหกหน้าไม่อายและไม่มีใครเชื่อ

         เรเทียมองไปทางอดีตคู่หมั่นของตนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วคิดขึ้นมาในใจว่า

         ลีออนความรักที่คุณเลยมอบให้กับฉันนั่นมันเป็นแค่สิ่งจอมปลอมสินะ คำสัญญาที่คุณเคยพูดเมื่อตอนนั้นคือคำโกหกสินะ ที่พวกเราจูบกันเมื่อตอนนั้นคุณก็แค่เห็นฉันเป็นของเล่นสินะ รอยยิ้มที่คุณเคยยิ้มให้ฉันมันเป็นแค่การเสแสร้งสินะ ในสายตาคุณเห็นฉันเป็นเครื่องมือเพื่อที่จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์งั้นสินะ

         ฉันนี้มันก็โง่ดีเนอะ ที่โดนผู้ชายที่รักที่สุดในโลกหลอกใช้แบบนี้ หลอกให้หลงรักหมดใจแบบนี้

         เรเทียยิ้มสมเพชให้กับความโง่เขลาของตัวเอง

         ต่อให้พยายามมากขนาดไหน ต่อให้พยายามแทบตายอย่างไง เพื่อที่จะให้ได้เป็นผู้หญิงคู่ควรกับคุณมากแค่ไหน แต่ถึงอย่างคุณก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด

         แล้วสุดท้ายคนที่คุณเลือกก็คือผู้หญิงที่มีแค่เสแสร้งใส่หน้ากากกับพลังเวทธาตุหายากในรอบร้อยปี ที่ไม่ได้จริงใจก็คุณเลย

         เหมือนกับว่าทุกอย่างที่ฉันทำมันจะไม่มีความหมายอะไรเลย ช่างน่าสมเพชตัวเองจริงๆ

         พอเรเทียออกมานอกศาลแล้วเธอก็หันไปมองท้องฟ้าสีคราม พร้อมกับตัดสินใจแล้วว่า

         ต่อจากนี้ไปฉันจะไม่มีวันหลงรักใครอีกต่อไปแล้ว

         นับตั้งแต่นั้นเรเทียเธอก็ได้ปิดกลั้นหัวใจของเธอว่าจะไม่มีวันหลงรักผู้ชายคนไหนอีกต่อไปแล้ว







    กุบกับกุบกับ

         เรเทียกำลังอยู่บนรถม้าที่กำลังไปส่งที่อาณาจักรฟาเนเซีย ซึ่งเป็นอาณาจักรข้างเคียงกับอาณาจักรเฟเทียนัส

         เมื่อมาถึงเขตอาณาจักรฟาเนเซียแล้วไม่นานรถม้าก็หยุดวิ่งแล้วเรเทียก็ลงจากรถ

         "คุณหนูขอโทษด้วยนะแต่เพราะคำสั่งข้าเลยมาส่งไปแค่นี้"

         "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณที่มาส่งนะคะคุณลุง"

         "อ่า อย่างนั้นก็ระวังตัวด้วยนะคุณหนู"

         "ค่ะ"

         ก่อนที่คนขับรถม้าจะขับกลับอาณาจักรเฟเทียนัสเขาก็ได้พูดขึ้นมาว่า

         "คุณหนูนี่ดูไม่เหมือนกับในข่าวลือที่เขาเล่ากันเลยนะ"

         "งั้นเหรอค่ะ"

         "อืม ช่างเถอะอย่างไงก็ระวังตัวด้วยนะ"

         แล้วคนขับรถม้าก็ขับกลับอาณาจักรเฟเทียนัสทันที

         ส่วนเรเทียก็ถือสัมภาระของเธอแล้วไปยังหมู่บ้านหรือเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด

         เธอเดินไปได้สักพักเรเทียก็สัมผัสได้ว่าเธอโดนสะกดรอยตาม เธอจึงหยุดเดินแล้ววางกระเป๋าลง

         "ออกมาซะ ฉันรู้นะว่าพวกแกสะกดรอยตามมา"

         "แหมๆ รู้ตัวด้วยเหรอเนี้ย สมกับเป็นอดีตบุตรสาวแห่งตระกูลแจ็คเฟอร์"

         แล้วก็มีคนในชุดดำปิดหน้าตาออกมาจากทางป่าจำนวน12กว่าคน แถมพวกนั้นยังถืออาวุธครบมืออีกด้วย

         ที่เรเทียเธอรู้สึกได้เพราะเธอมักจะเจอเรื่องถูกลอบทำร้ายหรือกลั่นแกล้ง(จากไลล่า)อยู่เป็นประจำ เธอจึงมีความรู้สึกไวกับเรื่องแบบนี้เป็นพิเศษ แล้วส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตอนเด็กๆ เธอก็ถูกฝึกการต่อสู้กับป้องกันตัวมาบ้างเหมือนกัน

         "ใครส่งพวกแกมา"

         "เราไม่มีความจำเป็นต้องตอบสาวน้อย"

         ชายสวมชุดดำคนที่หน้าจะเป็นหัวหน้าพูด

         "ช่างเถอะถึงไม่ตอบก็รู้อยู่แล้วว่าใครส่งมา ท่านพ่...ไม่สิ ดยุคอเล็กซ์ส่งมาสินะ"

         "โห่ ถูกต้อง ยอดเยี่ยมมาก ใช่แล้วพวกเราถูกดยุคอเล็กซ์หรือก็คือพ่อของเธอส่งมาไงล่ะคุณหนูเรเทีย"

         ด้วยคำตอบนั้นหัวใจขอบเรเทียก็รู้สึกเจ็บปวดร้าว ราวกับถูกบีบ มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมากที่พ่อแท้ของเธอส่งคนมาฆ่าเธอแบบนี้ ไม่สิ ตอนนี้เขาไม่ใช่พ่อของเธออีกแล้ว

         รู้อยู่แล้วล่ะ ว่าคนๆ นั้นต้องทำแบบนี้แน่เพื่อป้องกันไม่ให้ฉันกลับไปล้างแค้นได้ในอนาคต

         เรเทียรู้ว่าดยุคอเล็กซ์บ้างครั้งมักจะติดต่อกับพวกองค์กรใต้ดินให้ทำงานสกปรกให้ตน อย่างกำจัดผู้ที่เป็นศัตรูของตระกูลแจ็คเฟอร์อย่างลับๆ เป็นต้น แล้วคราวนี้เขาก็ส่งมาฆ่าเธอ

         "เอาล่ะ ยอมให้ฆ่าแต่โดยดีซะดีกว่านะ ไม่สิ ก่อนหน้านั้นขอสนุกกับร่างกายของเธอก่อนก็แล้วกัน"

         หัวหน้าของชายสวมชุดดำพูดพร้อมมองสำรวจร่างกายของเรเทีย

         "คิดว่าฉันจะยอมง่ายๆ เหรอ"

         เพื่อพูดจบเรเทียก็ทิ้งกระเป๋าแล้วใช้พลังเวทย์ธาตุน้ำแข็งของเธอสร้างดาบขึ้นมา

         "จะต่อต้านสินะ อย่างนี้ก็ค่อยสนุกหน่อย"

         แล้วเหล่าชายสวมชุดดำทั้งหมดก็พุ่งเข้าโจมตีเรเทียทั้งปามีดอาบยาพิษ แต่เรเทียใช้ทั้งเวทมนต์สร้างโล่และใช้ดาบในมือป้องกันและปัดป้องตัวเธอจากมีดอาบยาพิษ

         เวลาผ่านไปเรเทียสามารถฆ่าชายสวมชุดดำไปได้ถึง 8 คนแต่ทางเรเทียเองก็ได้บาดแผลที่ได้จากพวกชายสวมชุดดำและมีดอาบยาพิษมาหลายจุดเหมือนกัน

         เมื่อเรเทียเธอเริ่มรู้สึกมึนขึ้นมาเธอก็รู้ได้ว่าเธอใกล้จะไม่ไหวแล้ว

         "น้ำแข็งเอ๋ย จงร่วมรวมกลายเป็นศร พุ่งเข้าโจมตีศัตรูของเรา <Ice arrow>"

         เรเทียเธอสร้างศรน้ำแข็งออกมาเป็นจำนวนมากแล้วใช้จังหวะที่พวกชายสวมชุดดำกำลังปัดป้องเวทมนต์ของเธอเริ่มวิ่งหนีเข้าไปในป่า

         "แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก"

         เรเทียวิ่งไปในป่าแล้วใช้เวทมนต์ธาตุน้ำของเธอบรรเทาพิษที่กำลังแล่นอยู่ในร่างกายของเธอ เพราะมันเป็นเพียงเวทมนต์ธาตุน้ำจึงทำได้แค่บรรเทาพิษเท่านั้น แต่ถ้าหากเป็นเวทมนต์ธาตุไม้หรือธาตุแสงมันก็สามารถรักษาได้

         แล้วอีกอย่างตอนนี้พลังเวทของเธอก็เหลือน้อยเต็มทีแล้วด้วยเช่นกัน

         "โอ้ย!"

         เรเทียร้องออกมาเมื่อมีมีดปาโดนข้อเท้าของเธอจนล้มลง

         "ฮ่าๆ เจอตัวแล้วเธอหนีไม่รอดแล้วล่ะ"

         พวกชายสวมชุดดำที่เหลืออีก4คนตามเธอทันแล้ว

         ส่วนเรเทียตอนนี้กำลังรู้สึกหน้ามืดเพราะพิษและพลังเวทของเธอใกล้หมดแล้ว

         "ทำได้แสบมาเลยนะคุณหนูที่ฆ่าพวกของเราไปตั้ง 8 คนน่ะ"

         พูดจบพวกชายสวมชุดดำคนหนึ่งก็เตะเข้าที่ท้องของเรเทียอย่างแรงจนเรเทียสำลักเป็นเลือดออกมา

         "อึก!..."

         "มันยังไม่พอหรอก แกยังตายไม่ได้ แกต้องทำให้ฉันสนุกก่อน"

         แล้วก็เตะไปที่ท้องของเรเทียอีกหลายครั้ง

         ในขณะนี้เรเทียกำลังรู้สึกชาและเป็นปวดไปทั่วทั้งตัวจนเธอมีน้ำตาไหลออกมา

         "แบบนั้นแหละ ใบหน้าสิ้นหวังแบบนั้นแหละที่ฉันอย่างเห็น ฮ่าๆๆๆ"

         แล้วก็เตะเข้าไปท้องของเธออีกครั้ง

         "พอได้แล้ว เดียวก็ตายซะก่อนจะได้สนุกหรอก"

         "รู้แล้วน่าๆ"

         แล้วชายสวมชุดดำคนที่เตะเรเทียก็พลิกตัวเธอและขึ้นคร่อม มันพยายามจะข่มขืนเธอ

         "เอาล่ะเดียวจะพาไปสวรรค์ก่อนตาย ไม่แน่ในระหว่างที่ฉันกำลังทำอยู่เธออาจจะ(ตาย)ได้ขึ้นสวรรค์ไปก่อนแล้วก็ได้"

         พูดจบก็ยื่ยมือไปพยายามจะจับหน้าอกของเรเทีย

         แต่มันก็เป็นความผิดพลาดของชายสวมชุดดำคนนั้นที่ไม่ล็อกแขนขาของเรเทียไว้ เรเทียจึงยื่นมือไปแตะที่อกซ้ายของชายสวมชุดดำคนนั้น

         "คิดว่าฉัน...จะยอม...ง่ายๆเหรอ <Ice spear>"

         เรเทียใช้พลังเวทที่เหลือทั้งหมดใช้หอกน้ำแข็งแทงทะลุหัวใจของชายสวมชุดดำคนนั้นเต็มจนกระเด็ดออกไป

         เรเทียในตอนนี้ไม่เหลือพลังเวทแล้วไม่เหลือแรงที่จะขยับแล้วด้วย

         "นะหน่อยแน่..กะแก..."

         แล้วชายสวมชุดดำที่ถูกหอกน้ำแข็งแทงทะลุหัวใจก็ตาย

         "ชิ ยังเหลือแรงอยู่อีกเหรอ"

         ชายสวมชุดดำเมื่อเห็นเพื่อนตายก็กำมีดแน่นแล้วพุ่งเข้าไปหวังจะใช้มีดแทงหญิงสาวที่นอนอยู่บนพื้นให้ตาย

         "พอแค่นั้นแหล่ะ"

         มีเสียงของใครดังขึ้นมาแล้วพอเสียงนั้นพูดจบชายสวมชุดดำที่กำลังจะใช้มีดแทงเรเทียอยู่นั้นก็ถูกแช่แข็งไปในพริบตา

         "คะใครน่ะ! ออกมาซะ!"

         1ในชายสวมชุดดำที่เหลืออยู่2คนพูดขึ้นแล้วพยายามมองไปรอบๆเพื่อหาเจ้าของเสียงนั้น

         "แหมๆ ถึงจะตั้งใจหาซะขนาดนั้นแต่ฉันไม่ได้อยู่ตรงนั้นซะหน่อย ฉันอยู่ข้างบนนี้ต่างหาก"

         "มะแม่มด!"

         ชายสวมชุดดำที่เหลืออยู่2คนหันขึ้นไปมองบนท้องฟ้าก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งเธอสวมชุดสีขาวและสวมหมวกทรงกลมยาวขี่ไม้กวาดอยู่บนท้องฟ้า

         "ชุดแบบนั้นหรือว่าจะเป็นแม่มดขาว"

         "มะไม่จริงน่า"

         ชายสวมชุดดำที่เหลืออยู่2คนพูดออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา

         "ฉันจะขอพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ปล่อยเด็กสาวคนนั้นซะแล้วฉันจะปล่อยพวกนายไป"

         "โทษทีน่ะ แต่คงไม่ได้หรอก ถ้าเราทำงานนี้ไม่สำเร็จเราก็ต้องตายเหมือนกัน"

         "เหรอ งั้นคงไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้วสินะ"

         พูดจบหญิงสาวที่ถูกเสียงว่าแม่มดขาวก็ชี้คทาเวทของเธอไปตามที่ชายสวมชุดดำทั้ง2คนกำลังยืนอยู่ แล้วก็เกิดวงแหวนเวทสีฟ้าขึ้นที่ใต้เท้าแล้วชายสวมชุดดำทั้ง2คนก็เริ่มถูกแช่แข็งไปตัวทั้งตัวอย่างรวดเร็ว

         "ที่นี่ก็"

         แม่มดขาวค่อยบินลงไปยังเรเทียที่สติเริ่มเลือนรางขึ้นเรื่อยๆ เรเทียรวบรวมแรงทั้งหมดเพื่อพูดออกไป

         "ช่วย...ด้วย..."

         แล้วเรเทียก็หมดสติไป

         "แน่นอนสิ ฉันไม่ปล่อยให้เธอตายหรอกเรเทีย"

    --------------------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×