คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Boxing gloves is red 100%
2
Boxing gloves is red
“ฉันจะไปชมรมจะไปด้วยกันหรือปล่าว” เสียงพีเทนถามมีเทน
“ไม่ ไปเหอะ” มีเทนตอบพีเทน
“งั้นฉันไปก่อนนะ”
“อื้อ” ที่คือคำพูดของมีเทนที่เธอชอบพูดประจำและจะมีสักวันไหมที่มีเทนจะพูดให้มันเยอะกว่านี้จะมีบ้างไหม
(บันทึกพีเทน)
ณ ห้องชมรมมวยไทยหญิง
เมื่อฉันเดินเข้ามาในชมรมฉันก็ได้ยินเสียงที่ดังมาก เอ๊ะ!ทำไมผู้หญิงในชมรมวันนี้ถึงได้เยอะจังเพราะปกติในชมรมนี้มีแค่ 15 คนไม่ใช่หรอ อย่างนี้ต้องถามรุ่นพี่ลินนาที่ควบคุมชมรมซะแล้ว
“นั้นไงพี่ลินนา” เมื่อฉันพูดจบก็ตรงเข้าไปหาพี่ลินนา
“มีอะไรหรือปล่าวพีเทน” พี่ลินนาถามฉัน
“พี่ลินนาค่ะทำไมวันนี้ชมรมเรามีคนเยอะเป็นพิเศษหรอค่ะ”
“พอดีมีคนจากชมรมอื่นมาติดต่อเข้าชมรมเราเพิ่มขึ้นนะสิ สาวสวยๆทั้งนั้น” ฉันงงกับคำตอบของพี่ลินนาเพราะกี่ปีกี่ชาติก็ไม่เห็นจะมีคนมาสมัครชมรมนี้เลยอย่างมากก็มีผู้มาสมัครปีล่ะ 4 คนเท่านั้น
“แล้วทำไม่ถึงมากันเยอะขนาดนี้ค่ะ” ฉันถามข้อสงสัยกับพี่ลินนาต่อ
“ก็เพราะชมรมมวยไทยหญิงต้องไปรวมกับชมรมมวยไทยชาย” ฉันยิ่งงงไปใหญ่เลย
“ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับพวกนี้เลย” ฉันพูดพร้อมชี้ไปทางผู้หญิงพวกนั้น
“เราก็รู้อยู่ผู้ชายในชมรมมวยไทยชายแต่ละคนหน้าตาใช่ย่อยกันซะที่ไหนมันก็เป็นเรื่องปกติแหละที่พวกนี้จะอยากย้ายมาอยู่ชมรมเรา” ใช่ฉันว่าไม่ใช่ย่อยเหมือนกันแต่มันคือลักษณะนิสัยฉันพอได้ยินมาเหมือนกันว่าพวกนี้แต่ละคนไม่ใช่ย่อยเลย
“แล้วทำไมค่ะพี่ลินนา ทำไมต้องรวมกับชมรมมวยไทยชายด้วย” ก็มันสงสัยจริงๆนี่น่าก็ต้องถามสิ ไม่งั้นมันจะค้างคาใจ
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันอาจารย์สุจินสั่งพี่มาอีกที่” อาจารย์สุจินนะอาจารย์อยู่อย่างนี้ก็สบายดีอยู่แล้วทำไมต้องทำให้ยุ่งยากด้วยไม่เข้าใจเลยจริงๆ
“เออ พี่ลินนามีใบสมัครเหลือสัก 4 ใบไหมค่ะ”แต่ก็แหละฉันลองชวนเพื่อนที่เหลือมาเข้าชมรมนี้ด้วยดีกว่าเผื่อพวกนั้นจะชอบของแปลกเหมือนอย่างกับพวกผู้หญิงพวกนี้ อย่างน้อยฉันจะได้มีเพื่อนในชมรมบ้าง ฉันภาวะนาลึกๆเพราะรู้ว่าพวกนั้นคงไม่มาแน่ๆ
“เหลือสิ จะชวนเพื่อนๆมาสมัครด้วยหรอ” พี่ลินนาถามอย่างสงสัย
“ค่ะ ก็จะพยายามเหมือนกัน” ฉันจะบังคับให้ 4 คนนั้นมาเข้าชมรมมวยไทยหญิงของฉันให้ได้ เพราะฉันจะไม่ยอมอยู่ร่วมกับพวกนี้คนเดียวหรอกเห็นแล้วรำคราญตาชะมัด
“รอก่อนแป๊บนึงนะเดี๋ยวพี่ไปเอามาให้” พอพูดจบพี่ลินนาก็เดินไปที่โต๊ะรับสมัครเพื่อไปหยิบใบสมัครมาให้ฉัน
ขณะที่ฉันรอรับใบสมัครจากพี่ลินนา อยู่ๆแล้วประตูห้องในชมรมก็เปิดขึ้นพร้อมกับโฉมหน้าของแต่ละคนในชมรมมวยไทยชายมาพร้อมกับเสียงกรี๊ดกราดขึ้นพวกคุณเธอเนี่ยกินนกหวีดเป็นอาหารหรือไงกรี๊ดอยู่ได้นึกแล้วก็สงสารหลอดลมพวกคุณเธอจริง ฉันว่าหน้าตาแต่ละคนก็งั้นๆไม่เห็นจะมีอะไรดีนักหนา(โกหก) เอ้?ทำไมมีกันแค่ 13 คนเองล่ะน้อยจังแฮะ เอ๊ะ! นั้นอีเทนนิไม่สิมากันครบทั้ง 5 คนเลยหรอเนี่ย ไม่เห็นจะรู้เลยว่าพวกนี้จะอยู่ชมรมเดียวกัน นี่มันเป็นวันซวยแห่งชาติของฉันหรือไงฮะ โอ๊ย...ฉันอยากจะบ้าตายซวยชะมัดที่เจอนายอีเทนแถมยังอยู่ชมรมเดียวกันซะด้วยซวยล่ะ
“แหมเห็นตัวเล็กๆแบบนี้มาสมัครเข้าชมรมมวยไทยด้วยหรอครับ” เสียงชายคนหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าที่กวนๆ
“ฉันอยู่ในชมรมมวยไทยนี้ตั้งนานแล้วโปรดรู้ไว้ซะด้วย” ฉันอยากชกหน้านายอีเทนนี่ซักมัดให้หายแค้นกับคำพูดยียวนที่พูดออกมา ก็ใช่สิถ้าจะให้ฉันเข้ามาเพราะนายนะหรอไม่มีทางแค่เห็นหน้าก็เจ็บจี๊ดแล้ว
“ใบสมัครที่พีเทนต้องการได้แล้วจ๊ะ” เสียงพี่ลินนาบอก
“ขอบคุณค่ะ” ฉันรีบรับใบสมัครจากพี่ลินนามาแล้วเดินผ่านหน้าหมอนี่ไปที่หน้าประตูเพื่อเดินออกไปหาโพลเพนที่อยู่ชมรมว่ายน้ำ
ตอนนี้ฉันก็เดินมาถึงชมรมว่ายน้ำที่อยู่ไม่ห่างไกลจากชมรมมวยไทยสักเท่าไรฉันว่าชมรมนี้ดีนะที่เป็นชมรมแยกหญิงแยกชายไม่เหมือนชมรมฉันคิดแล้วเครียด ฉันมองไปรอบๆชมรมเพื่อหาโพลเพน ซึ่งตอนนี้ยัยนี่น่าจะซ้อมว่ายน้ำอยู่
“เฮ้ย” ฉันถอนหายใจยาวๆอย่างหนักใจว่าใบสมัครจะเอาให้พวกนี้ดีไหม ลองถามโพลเพนก่อนดีกว่าถ้าโพลเพนปฏิเสธฉันคงต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะให้พวกนี้ไปอยู่ชมรมมวยไทยแล้วล่ะ
“โพลเพน” ฉันเรียกโพลเพนที่อยู่อีกฟากของสระว่ายน้ำดูซิยัยนี่ทำอะไรต้องแบ๊วตลอด
“มีอะไรหรอพีเทน” โพลเพนถามฉันหลังจากที่รู้ว่าฉันเรียก
“ต้องมีอะไรด้วยหรอถึงจะมาที่นี่ได้ ฉันแค่ไม่อยากอยู่ชมรมก็เท่านั้นเอง” ฉันตอบแบบค้อนนิดๆ
“ปกติก็เห็นชอบไปชมรมบ่อยออก” ฮึแสดงว่าวันนี้ฉันผิดปกติใช่ไหม
“ก็วันนี้ไม่อยากอยู่ชมรมแต่อยากดูโพลเพนว่ายน้ำมากกว่า” แหงล่ะใครจะไปอยากอยู่ในชมรมนั้นล่ะสู่มาดูไม้กระดานโต้คลื่นยังจะดีกว่าอีก
“เสียใจด้วยน่ะฉันว่ายเสร็จแล้ว” ก็ดีเหมือนกัน ก็ไม่ได้อยากจะดูมากนักหรอกนะไม่เห็นจะมีอะไรให้ดูเลยแม้สักนิดก็ยังจะไม่มี
“ว้า เสียดายจัง” ฉันทำหน้าเสียดายแต่ความจริงน่ะหรอ ไม่เลย
“รอตรงนี้ก่อนน่ะเดี๋ยวฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” หลังจากพูดจบโพลเพนก็วิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำ
ตอนนี้ฉันนั่งรอโพลเพนได้ประมาณ 5 นาทีแล้วละ ฉันพยามยามคิดหาคำพูดที่จะชวนโพลเพนไปสมัครเข้าชมรม แต่เห็นจากการรักว่ายน้ำของโพลเพนแล้วฉันว่ายัยนั้นน่าจะปฏิเสธชัวร์ แต่ก็ลองถามความคิดเห็นสักหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอก
“โพลเพนฉันขอถามอะไรหน่อยสิ” ฉันเริ่มเปิดประเด็นถามหลังจากโพลเพนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว
“ก็ถามมาสิ” ฉันกล้าๆกลัวๆที่จะพูด
“ถ้าฉันจะให้พวกเธอย้ายมาอยู่ชมรมเดียวกับฉันเธอจะมาไหม” ฉันถามความคิดเห็นโพลเพน
“ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะ มีอะไรหรือปล่าว” สีหน้าโพลเพนงงนิดๆ
“คือว่าชมรมมวยไทยหญิงต้องอยู่รวมกับชมรมมวยไทยชาย ต้อนนี้ในชมรมฉันมีแต่ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาสมัครให้เยอะไปหมด ฉันแค่อย่างให้พวกเธอย้ายเข้าไปอยู่กับฉันน่ะ” ฉันทำหน้าตาเศร้าแบบอ้อนวอนสุดๆ
“ฉันถามจริงๆเหอะถ้ามีคนบังคับให้พีเทนเลิกทำในสิ่งที่พีเทนชอบถ้าเป็นพีเทนจะทำตามไหม” โห คำพูดนี้เจ็บจังแฮะ
“ฉัน ฉัน ขอโทษที่ถามเธอแบบนั้น” มันก็เรื่องจริงนั้นแหละถ้าใครมาขอให้ฉันย้ายจากชมรมมวยไทยที่ฉันชอบฉันก็ไม่ไปเด็ดขาด งานนี้ฉันคงต้องอยู่อย่างนี้คนเดียวสินะแต่ก็ไม่เป็นไรเพื่อเพื่อนยังไงฉันก็จะพยายามให้ถึงที่สุดก็แล้วกัน
“ไม่เป็นไรหรอก ถ้าเป็นฉันเป็นพีเทนฉันก็ทำแบบนี้แหละ ส่วนคนที่เหลือพีเทนก็ลองไปชวนดูก็แล้วกันเพื่อจะมีใครไป” ฉันคงไม่ชวนแล้วล่ะก็อย่างที่โพลเพนบอกนั้นแหละว่าคนเรามันบังคับกันไม่ได้
“คงไม่ดีกว่า ไปกันเหอะโพลเพน” ฉันบอกพร้อมกับเดินออกจากตรงนั้น
“จะไปไหนที่ไหนหรอ” ฉันเดินออกจากตรงนั้นได้ไม่กี่ก้าวโพลเพนก็ถามฉัน
“ไปชมรมมวย พอดีฉันลืมของไว้ในนั้นไปเอาของก่อนแล้วค่อยไปหาพวกที่เหลือ” โพลเพนเหมือนจะเข้าใจและก็ไปเป็นเพื่อนฉัน ตอนนี้ฉันกับโพลเพนก็ยืนอยู่หน้าชมรมแล้ว เฮ้ยไม่อยากเข้าไปข้างในชมรมเลยไม่รู้ว่าตอนนี้ข้างในชมรมมวยไทยของฉันจะมีสภาพเป็นแบบไหนแล้วก็ไม่รู้สิ แต่อย่างน้อยก็น่าจะหลงเหลือความเป็นมวยไทยบ้างล่ะมัง เฮ้ย...พีเทนน่ะพีเทนไม่น่าติดเชื้อขี้ลืมจากโพลเพนเลยไม่น่าเลย “ฉันไม่เข้าไปด้วยนะ เดี๋ยวโทรหาคนที่เหลือว่าให้รอที่ร้านน้ำปั่นก่อนจะได้กลับหอพร้อมกัน” จริงด้วยสิฉันลืมไปว่านัดกับยัยพวกนั้นเอาไว้ว่าจะกลับหอพร้อมกันโธ่ลืมไปได้
“อือ โพลเพนรอตรงนี้แหละ” ฉันตอบสั้นๆแล้วก็เดินเข้าในชมรม
พอประตูเปิดเท่านั้นแหละโอ้แม่เจ้านี่ใช่ชมรมที่ฉันเคยอยู่ไหมเนี่ย พวกคุณเธอคิดว่าเดินแฟชั่นโชว์ชุดมวยไทยกันหรืออย่างไงฮะแล้วนั้นนมหรอย่ะศัลยกรรมชัดๆ แต่ก็เหอะถ้าเอามาเทียบกับของฉันแล้วล่ะก็ยังไงของฉันก็เล็กกว่าอยู่อย่างดีอ่ะ ไม่ต้องสนใจเธอเข้ามาเพื่อเอาของท่องไว้มาเอาของ ฉันบอกกับตัวเองในใจแล้วก็รีบหาของที่จะมาเอา
“ฉันเอาไว้ตรงนี้แล้วมันหายไปไหนเนี่ย” ฉันแปลกใจว่าหายไปไหนจากนั้นก็กวาดตาไปมองรอบชมรม
“นั้นไง” สายตาของฉันไปสะดุดเห็นนวมสำหรับชกมวยที่ฉันหาพอดี ทำไมฉันจะไม่เห็นละก็นวมของฉันเป็นสีแดงที่พวกเพื่อนของฉันช่วยเลือกให้ฉันไงล่ะมันเลยสำคัญสำหรับฉันมากๆเลย แต่เอ๊ะ! ทำไมถึงไปอยู่ที่ไอ้จอมกะล่อนอีเทนได้ล่ะนายกล้าดียังไงเอามือสกปรกของนายมาจับนวมฉัน ให้ตายเถอะวันนี้ไม่อยากจะวีนใครนักหนาหรอกน่ะแค่เจอเรื่องก่อนหน้านี้ก็จะบ้าอยู่แล้ว แต่นายรนหาเรื่องเองนะที่มายุ่งกับนวมของฉัน
“นี่เอานวมของฉันคืนมานะและก็เอามือสกปรกของนายออกไปจากนวมของฉันด้วย”หน่อยแน่พูดแล้วยังไม่ฟังอีก จากนั้นฉันจึงกระชากนวมของฉันกลับมาแต่มันก็ไม่ได้ผลเพราะนายนี้จับไว้แน่นมาก
“อ้าวเฮ้ยนวมนั่นของเธอหรอ” ยังจะมีหน้ามาอึนอีกไม่มีมารยาทสิ้นดี
“ก็ใช่นะสิจะของใครซะอีกล่ะ ถามโง่ๆ” ดูทำหน้าตาเข้าสิจัดให้สักมัดดีไหมเนี่ย
“อ้าวพูดดีๆหน่อยสิครับผมเป็นรุ่นพี่เธอนะ” คิดว่าฉันสนไง
“แล้วไง เป็นรุ่นพี่แล้วไง ก็นายเอานวมของฉันไปทำไมล่ะ” ฉันตอบกลับอย่ากวนอารมณ์
“ทำเป็นหวงไปได้แค่จับนิดจับหน่อยเอง” หรอถ้าฉันมาไม่ทันมันคงพังคามือไปแล้วแหละ
“นวมใครใครก็หวงแล้วดูนายจับนวมฉันสิ” ยังมีหน้าเอานวมของฉันไปแกว่งเล่นอีก
“ผมปล่าวจับสักหน่อยนมเล็กขนาดนั้นผมไม่จับให้เสียมือผมหรอก” พูดกวนตีนแบบนี้แถมมองหน้าอกอันน้อยนิดของฉันอีกนายไม่ตายดีแน่
“นวมโว๊ยไม่ใช่นมนายอยากตายมากใช่ไหม” เริ่มโมโหแล้วน่ะ
“ก็มันคล้ายๆกันนี่หว่าถ้าไม่เหมือนก็อีตรงที่ขนาดไซด์นี่แหล” ยังมีหน้าเอานวมกับนมฉันไปเปรียบเทียบกันอีกจะหาว่านมฉันเล็กว่านวมงั้นสิ
“อยากปากแตกใช่ไหมฮ่ะไอ้.....”
“พอเหอะไอ้อีเทนเอานวมคืนให้พีเทนไปได้แล้ว” เสียงพี่เฮ็กเซนพูดขึ้นเพื่อห้ามศึกมวยคู่เอกที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกไม่กี่นาทีไม่น่ามาตอนนี้เลยแฮะฉันกำลังจะเอาเลือดที่ปากนายนี่ออกอยู่แล้ว เออ! ลืมบอกไปว่าพวกเพื่อนฉันแล้วพวกเพื่อนนายอีเทนนี้รู้จักกันแต่ก็ไม่ได้มากมายหรอกก็แค่ผ่านๆตาก็เลยไม่สงสัยว่ารู้จักชื่อกันได้อย่างไร
“ให้ก็ได้ เอาไปเลยป่ะ” นายนี่พูดจบก็โยนนวมคืนให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะพี่เฮ็กเซนที่ช่วยห้ามปากหมาของเพื่อนพี่ไว้” ฉันกล่าวขอบคุณแล้วก็หาเรื่องอีเทนต่อ
“อ้าวยัย....” ฉันยกหมัดขึ้นมาพร้อมที่จะต่อยปากนายนี่ถ้าหาเรื่องฉันละก็ตายแน่
“ถือว่าพี่ขอเหอะเลิกทะเลาะกันได้แล้ว” เสียงพี่เฮ็กเซนเตือน
ตอนนี้ฉันกับนายนี่ก็เงียบไปสักพักนึงก่อนที่ฉันรู้สึกว่ามีอะไรสั่นๆที่กระเป๋าสะพายจากนั้นก็ดูว่าต้นเหตุมาจากไหน เออ...ที่ไหนได้โทรศัพท์นั้นเองสงสัยว่าโพลเพนจะโทรมาตามแล้ว ก็แน่ล่ะสิฉันเข้ามาในชมรมนี้ก็เกือบ 10 นาทีแล้ว ยัยเพื่อนคนนี้ต้องเป็นห่วงเป็นใยตลอดนี้แหละข้อดีของเพื่อนๆฉัน รักที่สุดดดดด
[มีอะไรหรอโพลเพน] ฉันกดรับสายหลังจากรู้สึกว่ามีอะไรสั่นๆที่กระเป๋าแล้วก็เอาขึ้นมาดูว่าใครโทรมา
[จะออกมาหรือยังทุกคนมาครอบกันหมดแล้วนะ] นี่คือประโยคแรกที่โพลเพนพูด โห...พึ่งชมไปว่าเป็นห่วงเป็นใยกันที่ไหนได้โทรตามกันชัดๆ
[จะไปเดี๋ยวนี้แหละรอฉันหน้าชมรมก่อนนะ] เมื่อวางสายจากโพลเพน ฉันก็รีบเดินออกจากตรงนั้นเพื่อไปหาโพลเพนโดยที่ไม่สนว่ามีสายตาของใครคนหนึ่งที่จ้องจะฆ่าฉันอยู่จะเป็นใครไปได้ล่ะนอกจากนายอีเทน
(จบบันทึกพีเทน)
ความคิดเห็น