คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : THE SERIES STORY SONG ll ทฤษฎีสีชมพู Part 0.2
ทฤษฎีสีชมพู
[ Pink Theory 0.2 ]
อะไรเป็นของเธอ...ก็กลายเป็นอะไรของฉัน
เมื่อเราต่างเทสี ผสมละลายเข้าด้วยกัน
โลกของฉันและเธอ...ก็สดใส กว้างใหญ่ขึ้นกว่าวันนั้น
เมื่อสีทั้งสองผสมกัน วันนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา
โอ เซฮุน...โลกสีเทา หน้ามึน เย็นชา ร้ายกาจ
เสี่ยว ลู่ฮาน...โลกสีชมพู หน้าหวาน สดใส ร่าเริง
.
.
.
ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์แล้วตั้งแต่วันที่เขาหลุดประโยคยืดยาวที่สุดในชีวิต มันไม่ใช่การพูดนับคำแบบปกติของเขา ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะพูดให้มันได้ใจความ แต่เขาไม่ถนัดเรื่องพูดให้คนอื่นเข้าใจความรู้สึกตัวเอง ไม่อย่างนั้นคงไม่มานั่งเหม่ออยู่ข้างสนามบอลอย่างนี้หรอก
แย่ชะมัดเลยใช่มั้ย...คนไม่ได้เรื่อง
พูดไปได้ยังไงว่ายิ้มของคนอื่นมันน่าหงุดหงิด...ยิ้มให้ได้อย่างเขายังทำไม่ได้เลย
“ไอ้ฮุน! ส่งบอลให้หน่อย”
เขาไม่ได้มาเล่นบอล แค่เดินตามจงอินมาเฉยๆ เลิกเรียนแล้ว...ชานยอลหนีไปห้องสมุดเหมือนเดิม พักหลังๆนี้เขาเข้าห้องสมุดแทบจะเช้ากลางวันเย็น เพราะอย่างนั้นจงอินถึงเกาะหนึบเซฮุนจนน่ารำคาญ แต่ก็ไม่แย่นักหรอก ลู่ฮานเตะบอลอยู่ที่นี่ด้วย
ความจริงแล้วเขาแค่ไม่ชอบใจ...ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร...ลู่ฮานก็ยังคงยิ้ม
เขาแค่หงุดหงิดที่ลู่ฮานมองโลกในแง่ดีจนเกินไป
เห็นลู่ฮานในชุดบอลแบบเดียวกับจงอินแล้ววิ่งร่าเริงไปทั่วสนาม รับส่งบอลอย่างชำนาญ...แมนกว่าเขาอีก โอ เซฮุนเล่นบอลเป็นที่ไหน อย่างเก่งก็แค่เตะส่งลูกจากข้างสนามให้จงอินเท่านั้น
“เว้ย! อะไรของมึง เตะอย่างงี้โยนมา...”
ปึ้งงง~งง!!
“ไอ้ฮุน !!”
ทีแรกก็ลุกขึ้นเตะ แต่มันไปไกลแค่ไม่ถึงเมตร พอได้ยินอีกคนพูดอย่างงั้นก็เลยยอมขยับเดินไปหยิบลูกบอลมาขว้างสุดแรง ด้วยความแม่นมันก็กระแทกหัวจงอินเข้าพอดิบพอดี เซฮุนยิ้มขันก่อนจะทรุดนั่งลงที่พื้นลู่วิ่งข้างสนามตามเดิม เขาเห็นลู่ฮานหัวเราะร่ากับท่าทางเอามือลูบหัวป้อยๆของจงอิน แต่พอเลื่อนตัวตากลมมาสบกับเขาใบหน้าหวานก็เรียบตึงทันที
ดีใจดีไหม...เขาเป็นอย่างเดียวในโลกที่ลู่ฮานจะไม่ยิ้มให้สินะ
ช่างเถอะ...ใครสนกัน !
เหม่อมองท้องฟ้าตามประสาแต่ไม่เท่าไหร่ลูกบอลกลมๆสีดำสลับขาวก็กลิ้งหลุนฝ่าอากาศมากระแทกเข้าเต็มใบหน้าคม โอเซฮุนหงายตึงลงไปดีที่กระเป๋าเป้มันพองดันไม่ให้หัวกระแทกกับพื้นซีเมนต์แข็งๆ ดาวเป็นล้านๆดวงระยิบระยับอยู่ตรงหน้า เจ็บจนชาไปหมด รู้ว่าเลือดอุ่นๆกำลังไหลลงมาจากจมูกโด่งของตัวเอง สงสัยว่าดั้งเขาหักไปแล้วหรือยังนะ มึนหัวจนหมดแรง
“เซฮุนๆๆ!!”
“เฮ้ย! ไอ้ฮุน กูขอโทษ!!”
หึ! คิม จงอินเอาคืนเขาสินะ ได้ยินเสียงเพื่อนตัวแสบขอโทษขอโพยตามมาด้วยสัมผัสจากตัวนุ่มนิ่มของลู่ฮานที่ขยับเข้ามาช้อนหัวเขาไปนั่งบนตัก สองมือลูบเลือดกำเดาที่ไหนทะลักอย่างกับเขื่อนแตกของเขาออก ถึงจะไม่มีสติเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกว่าสองมือน้อยสั่นเทาแค่ไหน แค่เลือดกำเดาไหลทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วย ปวดตาด้วยแฮะ...แต่ก็หลับตาทันนี่ เล่นแรงไปป่ะวะไอ้เวร!
“จงอินมีทิชชู่มั้ย มีใครมีผ้าเช็ดหน้าเปล่า ฮือ...เซฮุน”
ผมมึนๆวิ้งๆไปหมด ได้ยินแต่เสียงลู่ฮานดังอยู่เหนือหัว...ผมอยากจะหัวเราะ เสียงหวานๆนั้นสั่นเครือจนผมนึกขำ ทำไมทำเหมือนผมกำลังจะตาย ผมไม่ได้โดนยิงนะ แค่โดนบอลอัดหน้าเฉยๆ
“พวกมึงอย่างมุงสิวะ!!”
“พาเซฮุนไปห้องพยาบาลนะจงอิน นะ”
ถ้าทางจะได้เลือดไหลหมดตัวตาย...พี่คยองซูอยู่ที่ห้องพยาบาล จงอินไม่เหยียบไปหรอก เห็นผมอย่างนี้ผมรู้ผมเห็นหมดนะ เพราะผมไม่พูดเลยใช้สายตาสอดส่องเก่งเป็นพิเศษ ผมจะมองเห็นจงอินชอบเหม่อมองไปทางห้องพยาบาล ทุกเย็นเขาจะไปที่นั่น เขามักจะเจ็บตัวบ่อยๆเพื่อจะได้เข้าไป แต่พักหลังๆมาหมอนั่นมีแผลตามประสา แต่ไม่เคยเข้าไปเลย
แต่นั่นมันไม่ใช่เรื่องน่าสนใจหรอก ผมเห็นรางๆนะ ลู่ฮานน่ะขยับตัวมือเล็กเลิกจับเช็ดใบหน้าผมแล้วเปลี่ยนเป็นชายเสื้อตัวบางนั่งต่างหาก เฮ้ๆจะทำอะไรน่ะ ผมไม่มีแรงแล้วนะ...ไอ้พวกนักบอลนั่น!!
คนตัวเล็กน้ำตาคลอ เห็นเลือดไหลออกมาจากจมูกโด่งของเซฮุนมากเหลือเกิน ใบหน้าขาวนั้นยิ่งดูซีดเซียว น่ากลัวจริงๆเขานี่แย่ชะมัดมือก็แค่นี้เช็ดเท่าไหร่เลือดเซฮุนก็ไม่หมดไปซักที จงอินก็ทำท่าทีอึกอักตอนบอกให้พาเซฮุนไปห้องพยาบาล แทบจะร้องไห้อยู่แล้วถ้าเขาแบกเซฮุนไหวเขาคงไม่มานั่งตัวสั่นอยู่ตรงนี้หรอก ต้องเช็ดเลือดนี่ก่อน...เพราะลงมาเตะบอลเลยไม่ได้หยิบผ้าเช็ดหน้าติดมือมา ยิ่งบวกกับอารามตกใจ ก็เลยคิดจะถอดเสื้อของตัวเองมาเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนให้อีกคน แต่ก็โดนมือใหญ่นั้นสัมผัสแผ่วเบา เซฮุนส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะหมดสติไป
“อย่า...”
...อย่าถอดเสื้อนะ...อย่าให้ใครเห็นผิวขาวๆของนาย...
.
.
.
.
...นอกจากฉัน...
.
.
.
.
.
กลิ่นของยาลอยวนอยู่ในอากาศ ความเจ็บกับการปวดหนึบที่บริเวณจมูก มือใหญ่ยกขึ้นมากุมจมูกของตัวเองไว้ สัมผัสได้ถึงผ้าพันแผลที่ถูกแปะอย่างเรียบร้อย...พี่คยองซูสินะ
“อื้อ...”
ตาคมเปิดขึ้นพร้อมกับสอดสายตาไปยังบริเวณโดยรอบ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ลุ่มผมสีน้ำตาลประกายกับความอบอุ่นที่มืออีกข้างของตัวเอง เสียงหวานครางฮือ ขยับตัวให้มองถนัดขึ้นก็เห็นใบหน้าอ่อนใส ข้างแก้มเปื้อนเลือดของเขาอีกต่างหาก แถมตอนนั้น...หวังว่าคงไม่ได้ถอดเสื้อออกมาจริงๆนะ
“เซฮุน! เซฮุนตื่นแล้ว เจ็บตรงไหนมั้ย เจ็บหรือเปล่า ฮึก...”
“นาย...”
“ฮือ...เจ็บมั้ยเซฮุน”
คนตัวเล็กร้องห่มร้องไห้พร้อมกับโผกอดเขาใบหน้าเล็กๆซุกลงบนอกแกร่ง คิดว่าเขาโดนยิงจริงๆสินะ ตลกชะมัดเลย...เขาแค่มึนๆ ปวดจมูกนิดหน่อย มันควจะฉีกละมั้งก็จงอินเตะมาไม่ใช่เบาๆ
...ขอยืนยันเลยนะว่าโอ เซฮุนโกหกไม่เป็น...
“เจ็บ...”
เฮ้...อย่ามองอย่างงั้นสิ เห็นคนนี้ลุกลี้ลุกลนแล้วมันตลกดีไม่ใช่เหรอ แค่อยากแกล้ง...เท่านั้นล่ะ
“เจ็บเหรอ เจ็บตรงไหน เจ็บมากมั้ย ไปโรงพยาบาลนะ”
“เจ็บตรงนี้”
คนตัวเล็กโน้มหน้าหวานใสลงไปไกลตามที่นิ้วเรียวชี้ เจ็บมุมปากด้วยเหรอ ?? ไม่เห็นมีแผลเลยนะ หรือว่า ...??
จุ๊บ~
ถูกริมฝีปากอุ่นยกขึ้นมาแตะบางเบาที่มุมปากบางเสียเอง แต่ดูเหมือนคนขี้โกหกจะไม่ยอม...สองมือถูกเลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าหวาน ก่อนการสัมผัสบางเบาจะกลายเป็นการรุกหนักขึ้นทุกที รู้แบ้วว่าทำไมถึงได้ยิ้มหวานนัก...เพราะปากหวานขนาดนี้นี่เอง
“อือ..”
“หายเจ็บแล้ว”
“...”
“ยาดีแฮะ”
“...”
“ขอบคุณนะ”
.
.
.
.
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าเหม่อสิ”
“ !!?”
“แล้วก็นะ...หน้ามึนๆของเซฮุนน่ะ น่าหงุดหงิดชะมัดเลย”
“...”
“...”
“คิก”
.
.
.
.
.
จงอินเล่าให้ฟังว่าตัวเองอึกอักจะพาเซฮุนไปห้องพยาบาลจนเขาสลบไป ลู่ฮานไม่รู้เอาแรงมาจากไหนแบกเขาขึ้นหลังวิ่งตรงไปห้องพยาบาลทันที ถ้าเป็นคนอื่นคงโกรธลู่ฮานเองก็โกรธที่เขาเอาเรื่องส่วนตัวไปรวม ถ้าเซฮุนตายขึ้นมาจะทำยังไง
‘ไม่ได้โดนยิงซะหน่อย’
‘นั่นแหล่ะ! ถ้าตายล่ะ ฮึก!’
คนตัวเล็กพูดไปสะอื้นไป คยองซูไม่รีรอที่จะรีบเช็ดทำความสะอาดให้ ถุงน้ำแข็งถูกวางประคบบนสันจมูก ตอนนั้นหน้าเซฮุนแดงไปหมด เลือดก็ยังไหลนิดๆ แถมมีแผลปริอีก ลู่ฮานนั่งคบน้ำแข็งไปร้องไห้ไป ส่วนจงอินมีปัญหานิดหน่อยก็เลยไม่ได้อยู่เฝ้า
เซฮุนพยักหน้ารับฟัง...เขายังมีแผลปริบนสันจมูก แต่ไม่ต้องปิดแผลแล้ว...แม่เขาก็อาการไม่ต่างจากลู่ฮานเลย แทบจะให้เขาหยุดเรียนทั้งๆที่เขาไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย
เพื่อนสองคนของเขาเงียบลงถนัดตา ช่วงนี้ 3 เกลอดูจะแปลกไปซักหน่อย เซฮุนรู้แค่ว่าชานยอลติดเด็กอยู่ ส่วนจงอินก็ปัญหารักซับซ้อน ตอนนี้สภาพสามคนไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ คนที่เคยอ่านหนังสือตั้งใจเรียนตลอดเวลานั่งเหม่อ จงอินฟุบหน้าลงกับโต๊ะถอนหายใจทุกๆห้านาที ส่วนเขาน่ะเหรอนั่งเหม่อตามประสา แต่ก็แค่มีเสียงลู่ฮานกับหน้าหวานๆที่ทำงุ้งๆงิ้งๆใส่เขาเมื่อสองสามวันก่อนนั่นแหละ
โลกของผม...เหมือนจะเกิดรอยรั่วเล็กๆ แสงอาทิตย์ส่งผ่านลงมาเล็กน้อยขยับเคลื่อนย้ายก้อนเมฆสีทึมๆออกไปไม่ทันที่ผมจะรู้ตัว สีสันชัดเจนขึ้นมานิดหน่อยเมื่อมันถูกเจือจางด้วยสีชมพูสว่าง แต่ยังไงคนที่เด่นชัดที่สุดก็เห็นจะมีอยู่แค่คนเดียว ไม่รู้สิ...ผมรู้สึกว่าผมเจอลู่ฮานบ่อยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่โรงอาหาร เข้าแถวหน้าเสาธง หรือแม้แต่ตอนเดินเปลี่ยนคาบเรียน ทั้งๆที่ก็อยู่โรงเรียนเดียวกันมาตั้งนาน..เขามักจะเดินอยู่คนเดียว แต่ก็ยังคงส่งยิ้มสว่างไสว เขาไม่มีเพื่อนมากนักหรอกผมเดาได้ไม่ยากเลย
แต่รอยยิ้มของเขา...มันเป็นสิ่งเดียวที่รบกวนความคิดของผมเหมือนกัน
ผมเองก็อยากยิ้มบ้าง...แต่ก็ได้แค่ยิ้มแบบที่จงอินเรียกว่า...’กวนตีน’เท่านั้นเอง
“เฮ้อ~~”
“ฮื้อ~~”
“อือ~~”
พวก 3 เกลอเป็นอะไรกันนะ มีความรักหรือไง...ถอนหายใจซะน่าสงสารเชียว
_________________________________________________________________________________________________
Talk :
ดีจ้ารีดเดอร์ ตอนที่สองมาส่งแล้วเน้อ อุคริๆ
มีคนอ่านด้วยดีใจจุง ขอบคุณมากๆงับ
รักนะคนอ่าน จ๊วฟๆ
ความคิดเห็น