ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] [EXO] ::THE SERIES STORY SONG :: #ฟิคเพลง

    ลำดับตอนที่ #2 : THE SERIES STORY SONG ll ทฤษฎีสีชมพู Part 0.1

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 56












    อะไรเป็นของเธอ...ก็กลายเป็นอะไรของฉัน

    เมื่อเราต่างเทสี ผสมละลายเข้าด้วยกัน

    ก็คงจะเป็นไปตามทฤษฎีที่เขาบอกไว้ว่ามัน...เมื่อสีทั้งสองผสมกันนั้น

    ก็คงไม่มีอะไรที่จะเป็นเหมือนเดิมได้อย่างวันนั้น

    เมื่อสีทั้งสองผสมกัน  เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา

     

    “โลกของนายมันเป็นโลกประเภทไหนกันแน่”

    “ก็เป็นโลกธรรมดาๆนี่  แปลกตรงไหนเหรอ ?”

    “แปลกสิ...ทำไมโลกของนายมันถึงได้สีชมพูขนาดนั้น”

    “โลกนายมันเป็นสีเทาเองต่างหาก”

     

    _______________________________________________

     

    ทฤษฎีสีชมพู

    [ Pink Theory 0.1 ]

     

    เธอ...เธอเป็นสีชมพู

    เธอมีโลกของเธออยู่  ที่ฉันไม่อาจล่วงรู้และไม่เคยเข้าไป

    ส่วนฉันเป็นสีเทา...มีแต่ความเหงารอบๆกาย

    ไม่รู้เลยมีความหมายอะไรนอกจากนี้

     

    หยาดฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า  ต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้าของอีกวัน...น่าเบื่อหน่ายเหลือเกินกับหยดน้ำใสๆที่หลั่งไหลอย่างไม่มีท่าทีจะหยุดลงง่ายๆ  ไม่ใช่ฤดูฝนแต่ก็หม่นหมอง  พายุเข้าแล้วก็พาเอาความน่าหงุดหงิดมาเต็มไปหมด  มีอะไรสดใสสวยงามและมีสีสันชัดเจนจริงๆสำหรับ โอ  เซฮุน  บ้างนะ

    คนตัวสูงผมสีควันบุหรี่ในชุดยูฟอร์มของโรงเรียนมัธยมเอกชนธรรมดา เขาเกลียดฝนตกถึงได้เข้าร้านทำผมพี่คีย์เมื่อวานนี้เพื่อเปลี่ยนสี  ความจริงก็แอบเบื่อสีน้ำตาลอ่อนแล้วเหมือนกัน  พี่คีย์บอกว่าเขาทำสีนี้แล้วจากตัวซีดๆก็ยิ่งซีดหนักเข้าไปใหญ่  มันมักมีเหตุผลเสมอก่อนการเดินเข้าร้านและออกมากับผมสีใหม่ในทุกๆอาทิตย์

    เขาขี้เบื่อ  ขี้หงุดหงิด  ขี้รำคาญ  เขาเบื่อคนในโลกที่วุ่นวายและวิ่งตามเรื่องไร้สาระ  ไม่มีเรื่องไหนมีน้ำหนักมากพอจะทำให้เซฮุนสนใจ  ไม่รับรวมชาไข่มุกและอาทิตย์ต่อไปจะทำผมสีอะไรดี  เดินไปได้ไม่กี่เก้าก็มีอันต้องก้มมองขากางเกงสแล็คสีฟ้าอ่อนที่บัดนี้เปรอะเปื้อนด้วยโคลนจากฝุ่นดินบนทางที่โดนหยาดฝนชะล้าง  ยิ่งเห็นรองเท้าผ้าใบคู่เก่งด่างดำด้วยสีน้ำตาลของคราบสกปรกก็ยิ่งขัดใจ

    แต่ก็ได้แค่ขมวดคิ้วแล้วก้าวเดินต่อไปอย่างระมัดระวัง   เขาพูดน้อยพอๆกับการสนใจสิ่งรอบตัวนั่นแหละ  บางทีถ้าวันนี้แม่ไม่ไปปลุกเขาแล้วก่อนออกจากบ้านไม่ยัดร่มสีใสนี้ใส่มือมา  เขาอาจจะนอนหลับสบายอยู่บนเตียง  ไม่ก็เดินตากฝนมาโรงเรียนมันซะเลย

    “ฝนตกๆๆ! จะไปโรงเรียนทันมั้ยอ่ะ  แต่ก็ไม่ต้องเข้าแถวร้อนๆนี่เนอะ”

    เสียงใสแว่วดังท่ามกลางสายฝน  เซฮุนย่นคิ้วก่อนจะเห็นต้นเสียงเป็นผู้ชายตัวเล็กๆที่ยืนถือกระเป๋าหนังสีดำหลบฝนอยู่ตรงป้ายรถเมล์  ฝนก็สาดหนาวก็หนาว  เนื้อตัวก็เปียกปอน...ทำไมยังยิ้มกว้างขนาดนั้น  เซฮุนส่ายหัวน้อยๆ  ใส่ยูนิฟอร์มแบบเดียวกับเขาคงเรียนโรงเรียนเดียวกัน  แต่ถ้าเขาต้องมายืนตากฝนอย่างงั้นคงหงุดหงิดจนแทบระเบิดเลยล่ะ  ไม่มีทางมายืนยิ้มพูดคุยกับฟ้าดินอย่างนั้นหรอก

    ว่าแล้วก็คิดจะไม่สนใจแล้วเลือกจะก้มหน้าก้มตาเดินผ่านไป  แต่ยังไม่ทันจะไปไหนไกลเสียงใสก็เอ่ยเรียกจนเขาต้องหยุดยืน  ทั้งๆที่เมื่อเต็มที่แล้วกับร่มที่รับแรงกระทบจากฝนในมือ

    “นี่ๆๆ  ไปด้วยคนได้มั้ยอ่ะ  ไม่อยากขาดเรียนน่ะ”

    “...”

    “อ่า...เรา...เราเรียนที่เดียวกันนี่  ฉันกลัวว่า...”

    ตัวสูงๆขยับตัวเข้าไปยืนในป้ายรถเมล์ข้างเจ้าของเสียงใส  ใบหน้าหวานที่ดูชุ่มฉ่ำจากน้ำฝน  ผมสีน้ำตาลประกายเปียกลู่  แถมตัวเล็กๆบางๆดูจะหนาวสั่นน้อยๆด้วย  คิ้วเรียวเลิกขึ้นด้วยความแปลกใจ  ฟังเสียงก็คิดว่าเป็นผู้หญิง  เอาจริงๆแล้วเป็นผู้ชาย...แต่ดูรูปร่างหน้าตาสิ  มีตรงไหนที่บอกว่าเป็นผู้หญิงบ้างเนี่ย

    หน้าหวานซะขนาดนั้น...ไม่โดนตาแก่หื่นกามที่ไหนลากไปก็ดีเท่าไหร่

    “ชื่ออะไร”

    “ห๊ะ ?!” เอ่ยถามเสียงห้วนตามประสา  จ้องตากลมใสเหมือนกวางน้อยนั้นเขม็ง  สงสัยอะไรหรือเขาพูดเบาไปหรือไง  แล้วผู้ชายน่ะเขาไม่ทำหน้าตาเหรอหราแบบใสซื่ออย่างนั้นหรอก

    มันน่ารักเกินไป...

    “ลู่ฮาน อ่า...เราชื่อลู่ฮาน  ม.ปลายปี 2 ห้อง A

    “ใครอยากรู้”

    คนตัวเล็กมุ่ยหน้าน้อยๆ  กวนประสาทหรือไงนะผู้ชายคนนี้  เขาแค่ไม่อยากจะขาดเรียนก็เลยขอติดร่มไปด้วยคน  มีอย่างที่ไหนมาซักไซ้ประวัติกัน  จะให้เขาไปด้วยมั้ยเนี่ย  ท่าทางเย็นชาน่ากลัวชะมัด  แล้วดูผมเขาสิสีเทาๆเหมือนเมฆฝนเลย

    “คิกๆ”

    “เสียมารยาท”

    หุบยิ้มก้มหน้าจนคางชิดอกแทบไม่ทัน  แค่เห็นท่าทางเหมือนเด็กเวลาโดนดุก็ทำเอาเซฮุนหน้ากระตุก  ทำเหมือนเขาเป็นคนใจร้ายเลย  ถึงแม่จะดุอยู่บ่อยๆว่าเขาน่ะพูดตรงจนทำผู้ใหญ่บางคนร้องไห้ได้ง่ายๆเลย  แต่นั่นมันเป็นเพราะพวกเขายอมรับความจริงไม่ได้ไม่ใช่เหรอ  ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำพูดของเขาซักนิด 

    เขาโกหกไม่เป็น...

    “แค่นี้ก็ต้องดุด้วย”

    “เสียเวลา”

    “...”

    “จะไปไหม”

    ลอบถอนหายใจกับท่าทีคนตัวเล็กกว่า  เมื่อกี้ทำท่าเหมือนจะร้องไห้  แต่พอบอกให้ไปด้วยได้ก็ยิ้มกว้างออกมาขนาดนั้น  เห็นแล้วก็ทนมองไม่ได้นานจนต้องเบือนหน้าหนี  คนอะไรทำตัวเหมือนเด็ก

    ...น่ารัก...

    ...........

    ....

    .

    “ขอบคุณน้า...”

    “อือ”

    “บอกชื่อหน่อยสิ”

    “รู้ไปทำไม”

    “นะๆๆ จะขอบคุณไง  พรุ่งนี้จะทำขนมอร่อยๆมาให้”

    “โอ เซฮุน”

    “อ่า...เซฮุน”

    “ขนมน่ะ  ไม่อยากได้”

    จบคำก็หมุนตัวกลับไปอีกทางก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนของตัวเองที่อยู่ถัดไป  หน้าหวานหม่นลงเมื่ออีกคนเอาแต่ปฏิเสธน้ำใจแล้วก็พูดเสียงห้วนใส่ตลอด คิดว่าจะได้เพื่อนใหม่ใจดีแล้วซะอีก  เฮ้อ~หวังมากไปหรือเปล่าลู่ฮาน

    .

    .

    .

    “มาช้าจังวะ”

    “ฝนตก”

    เพื่อนผิวเข้มส่ายหน้าระอากับไอ้การรู้จักตอบเป็นคำนามแต่ตอบให้เป็นประโยคไม่เป็นโอ  เซฮุนมันไม่เคยเรียนการแต่งประโยคตอนป.1 หรือไง  ประธาน กริยาน่ะ  ไอ้นี่ไม่มีประธาน ก็มาแค่กิริยา  บางทีมีมาแต่กรรมเฉยๆก็มี  เขาไม่เรียกว่าการสื่อสารนะเว้ย!!

    “ไอ้ปาร์คดูมันดิ  ไม่พูดไม่จากะกูอีกและ”

    “ยังไม่ชินอีกอ่อวะ”

    คนตัวสูงที่นั่งอยู่ริมสุดด้านนอกเอ่ยตอบเสียงขัน  ปาร์ค  ชานยอลใบหน้าหล่อเหลาสะอาดสะอ้านกับแว่นสายตาอันโตหันกลับไปสนใจหนังสือเรียนในมือต่อ  ปล่อยให้คิม  จงอินผิวเข้มหน้ามึนพูดมากเท้าคางลงบนโต๊ะถอนหายใจเหนื่อยหน่ายกับโอ เซฮุนที่แค่เดินเข้าไปนั่งประจำที่ติดริมหน้าต่าง  เฮดโฟนสีขาวเกลี้ยงถูกหยิบมาสวมต่อกับไอพอดเครื่องเล็ก  เพลงบัลลาดดังขึ้นช้าๆพร้อมกับอาการเหม่อออกไปนอกหน้าต่างเหมือนทุกวัน

    โลกของผมมันไม่มีสีสันมากเหมือนคนปกติหรอก  มันไม่สว่างจ้าขนาดนั้น  มันเหมือนโลกที่มีแต่ละอองน้ำแล้วก็ควันคลุมอยู่  ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันกลายเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ผมมองเห็นทุกอย่างปกติดีนะ  แต่แค่เหมือนมันขาดอะไรจนกลายเป็นได้แค่สีทึมๆเท่านั้นเอง  ผมแค่เหนื่อยหน่าย...มันอาจจะเริ่มตอนที่พ่อทำงานหนักวิ่งไล่ตามเงินทองที่ใช้วัดค่าความสุข  จนสุดท้ายพ่อก็ล้มป่วยก่อนจะจากไปล่ะมั้ง  เด็กชายเซฮุนถึงได้กลายเป็นอย่างทุกวันนี้

    .

    .

    .

    มันเป็นเหมือนเดิมทุกๆวัน  ผมรู้สึกหรือคิดอะไรก็ได้แต่เก็บเอาไว้รอจนมันจางไป  ในโลกของผมทุกๆอย่างจะเลือนๆหายๆไปตามเวลานั่นแหล่ะ  แต่วันนี้...ไม่รู้สิ  ผู้ชายตัวบางคนนั้น  เสียงใสกับรอยยิ้มยิ้มสว่างไสว  มันเหมือนกับว่าผมสามารถมองเห็นเขาได้ชัดเจน  ถ้าเอาเขามายืนในโลกของผม  เขาจะโดดเด่นออกมาจากทุกอย่าง  ความทรงจำที่กระจัดกระจาย  ถ้าผมต้องการค้นหาผมจะเจอเขาได้ง่ายๆ 

    เขามีสีสันในความคิดของผม  และรอยยิ้มนั้นก็ฉายวนซ้ำไปมา  ใสซื่อขนาดนั้น...โดนคนอื่นรังแกบ้างมั้ยนะ 

    น่าแปลกที่วันนี้...ความคิดของโอ  เซฮุน  มีแต่เสี่ยว  ลู่ฮานเต็มไปหมด 

    .

    .

    .

    “เย็นนี้ไปร้านพี่คริสกันป่ะ  ชาไข่มุกไงไอ้ฮุน”

    “ก็ดีนะ...แต่เอ่อ...เดี๋ยวตามไปทีหลังนะ”

    “แหน่ะ! ไอ้คุณชายปาร์ค  ไปห้องสมุดอีกแล้วดิ”

    “ก็...ตามนั้น”

    “เออๆๆ ไปกันไอ้ฮุน  รีบๆตามไปนะเว้ย!

    แต่จู่ๆคิม  จงอินแทบหงายหลัง  เขาเดินมาไกลแล้วพูดเจื้อยแจ้วเหมือนคนบ้าเพราะชานยอลปลีกตัวออกไปห้องสมุดก่อน  ส่วนคนที่คิดว่าจะเดินตามมามันก็ยืนนิ่งค้างอยู่หน้าตึก...ปกติมันก็ซึน  แต่ไม่เห็นจะเป็นขนาดนี้  อะไรของมันวะ ?!

    “ไอ้ฮุน!!

    “เดี๋ยวไป”

    “ห๊ะ !

    “เดี๋ยวตามไป”

    ว่าแล้วก็ขยับตัวเดินกลับเข้าไปในตึก  จงอินเบะปากแทบร้องไห้...เพื่อนบ้าพวกนี้ทิ้งเขาอีกแล้ว!

    .

    .

    .

    ขาเรียวก้าวเร็วต่างจากปกติ...ร่มสีใสในมือถูกกระชับแน่น  เขาไม่เคยเดินเร็ว  ไม่เคยรู้สึกร้อนรน สายตาเขาไม่ได้มีไว้เพื่อมองใครๆด้วยซ้ำ  แต่เมื่อกี้ตอนเดินลงบันไดมา  เขาเห็นคนตัวเล็กเมื่อเช้ากำลังถูกเพื่อนหลายคนต้อนเขาไปในยิม  ท่าทางหวาดกลัวแต่ก็ยังยิ้มออกมามันคืออะไร

    คิดไปมาก็ไม่เจอเหตุผลดีๆซักอย่าง  มีแต่เรื่องร้ายทั้งนั้น...เป็นห่วง  ก็เลยต้องรีบเดินกลับขึ้นมา  ได้ยินเสียงหัวเราะกับเสียงหวีดร้องเบาๆดังมาจากในโรงยิมที่เขาเห็นลู่ฮานถูกต้อนเข้าไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน  ไม่รอช้าที่เขาจะผลักเปิดประตูเข้าไป

    .

    .

    .

    .

    ภาพข้างหน้าบนเบาะที่ใช้รองสำหรับเล่นกีฬา  บีบหัวใจเขาให้เต้นรัวและเลือดสูบฉีดขึ้นหน้า  ร่มในมือตกลงพื้นพร้อมๆกับตัวเขาที่ก้าวขายาวเพียงครู่เดียวก็ประชิดตัวสูงใหญ่ของผู้ชายสองสามคนที่ยืนล้อมลู่ฮานอยู่   ลู่ฮานที่เสื้อขาดหลุดลุ่ย  กางเกงนักเรียนถูกถอดเข็มขัดซิปถูกรูดออกเลื่อนลงหมิ่นสะโพกกลม  ใบหน้าใสก็ประปรายด้วยรอยฟกช้ำ  น้ำตาเปรอะเปื้อนแก้มใส  สะอึกสะอื้นร้องอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร

    แค่ภาพนั้นเอง...ชั่วครู่เดียวที่สมองว่างเปล่า  หมัดหนักๆซัดเข้าที่สันกรามของผู้ชายคนแรกกว่าที่พวกนั้นจะรู้สึกตัว  เซฮุนก็ทั้งเตะทั้งถีบ  เขาไม่รู้ว่ามีเรี่ยวแรงหรือความสามารถพอที่จะล้มผู้ชายตัวโตสามคนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่  เขาจุกเพราะถูกมันคนหนึ่งเตะเข้าที่ท้อง  ส่วนปากก็แตกนิดหน่อยเพราะเคลื่อนไหวช้าไปนิดเดียว  แต่มันไม่เจ็บซักนิด  เทียบกับเสียงร้องไห้ของคนที่เขาเป็นห่วงอยู่ตอนนี้

    “เจ็บเหรอลู่ฮาน  เจ็บตรงไหน”

    “ฮึก...”

    สองมือจับพลิกคนตัวบางซ้ายขวา  สูทนักเรียนสีฟ้าถูกถอดเปลี่ยนสวมให้คนตัวเล็ก  ลู่ฮานสั่นไปหมด  ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นจนเขากังวล  มือกร้านลูบไปตามใบหน้าขาวที่ขึ้นรอยช้ำ  เกลี่ยเช็ดน้ำตาข้างสองแก้มใส  หัวใจกระตุกวูบไปหมด  กังวล...เป็นอะไรร้องไห้ทำไมน่ะ

    “ไปห้องพยาบาลนะ  พี่คยองซูอยู่ห้องพยาบาล  เขายังไม่กลับหรอก”

    “ฮึก...เซฮุน”

    “นายอย่าเอาแต่ร้องไห้สิ  ไปห้องพยาบาลกันเถอะ”

    หมับ !

    “เซฮุน  ฮือ...ขอบคุณนะ  ขอบคุณ”

    แค่สัมผัสนุ่มนิ่มจากแขนเล็กที่คล้องโอบรอบคอ  กับใบหน้าอ่อนใสที่ซุกลงลาดไหล่  หัวใจของโอ  เซฮุนเต้นแรง  มันเต้นแรงมากจนเขานึกกังวล  เขาลืมไปว่าเขาทำอะไรไปก่อนหน้านี้  เขาลืมไปว่าเขาไม่เคยมีเรื่องชกต่อย  ไม่เคย..เป็นห่วง  ใครขนาดนี้มาก่อน

    “พวกนั้นเป็นใคร  ทำไมต้องแกล้งนายขนาดนี้”

    “อึก...เพื่อนในห้อง  เค้าเกลียดฉันน่ะ  ไม่รู้สิ...อาจจะแค่เล่นๆก็ได้”

    ผละตัวออกมาจ้องมองใบหน้าขาวใสที่ยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มเหมือนก่อนหน้านี้  แค่นั้นก็นึกหงุดหงิดขึ้นมา  ก่อนจะนึกได้ว่าเผลอทำอะไรๆมากเกินไปแล้ว  บ้าหรือเปล่าทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็กลัวมาก  ถ้าเป็นเพื่อนก็เลวเหลือเกินที่ทำกันขนาดนี้  ทำไมยังยิ้มอยู่อีก !!

    “กลับบ้านซะ”

    “เซฮุน”

    ลุกยืนขึ้นเต็มความสูง  ใบหน้าหล่อเหลาติดเย็นชาเรียบนิ่งอย่างเคย  คว้ากระเป๋าสะพายสีดำของตัวเองที่ตกห่างออกไปตอนสู้กับไอ้เลวพวกนั้นก่อนจะหมุนตัวกลับไปหยิบร่มมาถือไว้เหมือนเคย  ไม่หันกลับไปมองคนตัวเล็กที่กำลังน้ำตารินไหลลงมาอีกครั้ง

    .

    .

    .

    .

    “ถ้าใครรังแก  ให้สู้...ไม่ใช่ยิ้มให้มัน”

    “...”

    “ยิ้มของนายน่ะ  น่าหงุดหงิดชะมัดเลย”

    “...”

    “...”

    “ขอบคุณนะเซฮุน”

    แต่เธอและฉันก็เดินเข้ามาชิดใกล้

    มาทำให้ฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่

    เมื่อชีวิตของเราไหลปนกัน

    โลกของฉันก็ดูจะเปลี่ยนสีไป...




    ______________________________________________________________________________



    Talk =))


    มาเปิดฟิคใหม่อีกละ
    รอฟีดแบกก่อนแล้วจะรีบมาอัพครับ
    ฮ่าๆๆ
    แอบบอกได้เลยนะว่าอยากอ่านคู่ไหนก่อน

    เจอกันค้าบบบบ !
     
     






    เย้!  มาอัพแล้วครับ  เม้นบอกติชมเค้าด้วยนะ *O*
    รักนะรีดเดอร์ ^^












    :) Shalunla
    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×