โคตรแค้นสู่โคตรรัก

“จากความแค้นที่ฝั่งลึกอยู่ภายในใจ

สุดท้ายกลายเป็นความรักที่ (เกือบจะ) รักษาเขาไม่ได้”

……………………………………………//………………..………………………

            “แชมเปญ” สาวสวยทรงหลัวในวัย 26 ปีที่มีความนิ่ง ความสุขุมที่เป็นเสน่ห์จนน่าค้นหา

            แชมเปญนั้นถูกส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพื่อจะได้กลับมาต่อยอดทำหน้าที่บริหารธุรกิจของครอบครัวต่อไป แต่ในขณะที่เรียนจบและรอการกลับมาฉลองกับครอบครัวที่ไทย แชมเปญก็ต้องได้รับข่าวร้าย (ที่สุดในชีวิต) ว่าต้องสูญเสีย “พ่อ แม่ และย่า” จากอุบัติเหตุทางถนนจนทำให้แพลนการกลับมาฉลองมันกลายเป็นจัดงานศพแทน

            และถึงแม้ว่าการตายของทั้งสาม จะเป็นอุบัติเหตุที่ถ้ามองความถูกผิดบนถนนครอบครัวของของแชมเปญก็ผิดเต็มๆ แต่สำหรับแชมเปญก็ไม่แยกแยะความถูกผิดแต่อย่างใด มันจึงทำให้แชมเปญเก็บความแค้นไว้ในใจเพียงลำพัง

            จนวันที่กลับมาถึงไทย แชมเปญได้เผชิญหน้ากับ “ชาร์ม” บุคคลที่มีส่วนทำให้พ่อแม่และย่าของแชมเปญต้องตาย แน่นอนว่าแชมเปญทั้งแค้นและโกรธมาก  แต่ก็ได้แค่เก็บและจดจำหน้าชาร์มเอาไว้ในใจเท่านั้น

            “ชาร์ม” สาวสวยสุดเซ็กซี่ในวัย 39 ปี ดีกรีเจ้าของบริษัทจัดทำสื่อโฆษณายักษ์ใหญ่ของประเทศ และเธอคือคนที่มีส่วนกับการตายของครอบครัวของแชมเปญ แต่ทว่าอุบัติเหตุครั้งนั้น ถึงแม้ชาร์มจะไม่ผิด แต่ชาร์มก็เสียใจมาก จนชาร์มต้องขอเข้ามาเป็นเจ้าภาพงานศพและเต็มใจช่วยทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องที่นอกเหนือจากงานศพ แต่แชมเปญก็ฝากแจ้งทางญาติให้ชาร์มเป็นแค่เจ้าภาพเท่านั้น และไม่ขอรับความช่วยเหลืออื่นใดจากชาร์มเลย 

            และหลังจากงานศพจบไปต่างฝ่ายต่างคิดว่าทุกอย่างน่าจะจบลงด้วยดี ที่เหลือก็รอแค่เวลาที่ทำให้แชมเปญดีขึ้น แต่สำหรับแชมเปญผู้ที่มีความแค้นฝั่งในใจก็ทำทุกอย่าง ทุกทางเพื่อจะเข้าไปในชีวิตของชาร์ม จนกระทั่งแชมเปญเข้าไปหาชาร์มในฐานะลูกค้าของชาร์ม

            และด้วยความที่ชาร์มยังคงรู้สึกผิดกับเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเสมอมา ชาร์มก็เลยอยากช่วยแชมเปญอย่างเต็มที่ จนการทำงานระหว่างทั้งคู่มันเริ่มไปได้ด้วยดีและทั้งสองเริ่มสนิทกันมากขึ้น แชมเปญก็เริ่มรุกเข้าหาชาร์มและจีบชาร์มแบบตรงไปตรงมา 

            และด้วยความที่ชาร์มไม่รู้ว่าแชมเปญเอาความแค้นมาเป็นทางในการเข้าหาตน ชาร์มก็ให้ใจแชมเปญไปอย่างจริงใจและคาดหวังว่าการเปิดใจรักกับแชมเปญมันคงเป็นรักที่ดีและเป็นรักที่ปลอดภัยที่สุดเพราะตลอดเวลาที่คุยและคบกัน ชาร์มก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจนชาร์มให้ใจแชมเปญไปแบบไม่เผื่อใจใดๆเลย 

            แต่แล้วการไม่เผื่อใจก็ทำให้ชาร์มต้องพบกับความเจ็บปวดแบบสุดๆ เพราะเมื่อความลับเรื่องการแก้แค้นมันแตก จากคนที่ชาร์มเคยมองว่าเขาคือคนแสนดีและอบอุ่นมากๆอย่างแชมเปญ ก็ได้กลายเป็นคนที่เลือดเย็นและเย็นชาใส่ชาร์มแบบสุดๆ แถมแชมเปญยังกล้าที่จะทำในสิ่งที่ทำให้ชาร์มเกลียดและกลัวแชมเปญจนไม่อยากจะเข้าใกล้หรือพบเจอแชมเปญเลย       

            แต่ในวันที่ชาร์มเกลียดจนไม่ขอพบเจอกับแชมเปญ มันกลับเป็นวันที่แชมเปญเริ่มรู้สึกได้ว่า…. “จริงๆแล้วตน (เหมือนจะ) ไม่เคยอยากแก้แค้นชาร์มเลยด้วยซ้ำ และที่ผ่านมานั้นตนรักชาร์มจากใจจริงทั้งนั้น แต่ที่ก่อนหน้านั้น แชมเปญเย็นชาใส่ชาร์มมันก็น่าจะมาจากความสับสนเพียงชั่วขณะเท่านั้น”  และพอคิดแบบนั้น มันก็เลยทำให้แชมเปญอยากวนเข้าไปในชีวิตชาร์มใหม่เพื่ออยากขอโทษและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

            และในวันที่แชมเปญอยากขอโทษชาร์ม มันก็ทำให้แชมเปญรู้ในสิ่งที่ชาร์มเคยอยากจะบอก แต่ยังไม่มีโอกาสบอกแชมเปญ นั่นคือ “ชาร์มมีลูกติดและเป็นลูกสาวที่อยู่ในวัยที่น่ารักน่าชังมาก” และพอแชมเปญรู้ว่าชาร์มมีลูก แชมเปญก็ยิ่งรู้สึกผิดไปใหญ่ แถมแชมเปญก็ดูเหมือนจะโดนลูกของชาร์มตกอย่างหนัก แต่ด้วยความที่แชมเปญทำให้ชาร์มเกลียดสุดๆไปแล้ว ชาร์มก็เลยไม่ให้แชมเปญมายุ่งกับตนและลูกเด็ดขาด

            ซึ่งก็นั่นแหละ…..ในวันที่แชมเปญคิดได้ ก็เหมือนจะสายไปมากละ 

            แต่ถึงแม้จะรู้ว่าสาย แชมเปญก็ยังคงพยายามเข้าไปง้อ โดยเข้าทางลูกและทางครอบครัวของชาร์ม แต่ทว่าชาร์มก็ใจแข็งสุด เพราะชาร์มไม่มีวี่แววจะใจอ่อนให้แชมเปญเลย อีกทั้งในวันที่แชมเปญพยายามง้อ ชาร์มก็ได้มีพี่หมอคนสนิทคอยอยู่ข้างๆไปแล้ว มันก็เลยทำให้เรื่องราวความรักของแชมเปญและชาร์มดูวุ่นวายและอลเวงไปเรื่อยๆเลยทีเดียว