คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : something eight [What's happy?] : 2
topic : What's happy? #2
couple : chanyeol x sehun
warning : PG-13
“พี่บอกให้ปลุกไงล่ะ หาววว” มือใหญ่ยกขึ้นมาปิดปากก่อนจะตามด้วยเสียงหาวยาวๆทันที เซฮุนเดินตามอีกคนไปเงียบๆตามแรงฉุดที่ข้อมือบาง
“รบกวนคุณเปล่าๆ ผมไปเองก็ได้”
ใบหน้าหล่อคมหันกลับมาทันที ทรงผมหยิกหยอยที่ชี้ฟูไปคนละทางเพราะเพิ่งตื่นนอนกับชุดเสื้อยืดกางเกงขา4ส่วนทำให้อยากจะหัวเราะออกมาแต่ต้องกลั้นเอาไว้เพราะน้ำเสียงดุๆและสายตาคาดโทษที่ส่งมาให้
“ว่าไงนะ ไหนเรียกใหม่อีกทีสิเซฮุน?” รอยยิ้มกว้างๆนั้นช่างขัดกับแบล็คกราวน์ด้านหลังเสียเหลือเกิน..
“ผมเกรงใจน่ะครับ เอ่อ..พี่ชานยอล”
“พี่เป็นคนอยากไปส่งเอง ไม่เกี่ยวกับนาย” ความรู้สึกอบอุ่นบริเวณฝ่ามือที่ส่งผ่านมาพร้อมกับประโยคสุดแสนเอาแต่ใจทำให้หัวใจดวงเล็กเต้นผิดจังหวะ
เพื่อตัวเค้าอย่างนั้นเหรอ?
“ชานยอลคะ ทำไมเมื่อวานโทรหาไม่ติดเลย” เสียงเล็กแหลมของผู้หญิงดังขึ้นอย่างกะทันหัน เซฮุนสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองบุคคลที่สามซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนรู้จักของคนตัวสูง?
“เอ่อ...” มือบางของคนมาใหม่เกาะเข้าที่แขนยาวพร้อมกับบดเบียดหน้าอกขนาดค่อนข้างใหญ่ของตนลงไป ผิดกับชานยอลกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย ผู้หญิงตรงหน้าเป็นใครและชื่ออะไรเขายังจำไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ปกติไม่เคยปิดเครื่องนี่นา โบราคิดถึงแทบแย่แน่ะ” ใบหน้าสวยที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางค์ขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นเชิงงอน ริมฝีปากซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยลิปกรอสสีชมพูสวยยู่เข้าหากันอย่างน่ารัก
มือบางยกขึ้นมาดันกรอบแว่นแก้เก้อพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างประหม่า เค้าควรจะเดินออกไปจากตรงนี้รึเปล่านะ?
“ครับ พอดีเมื่อวานผมเหนื่อยๆน่ะ” ร่างสูงเบี่ยงหน้าหลบทันทีเมื่ออีกฝ่ายพยายามจะกดจมูกลงบนแก้ม ถ้าเป็นเมื่อวานเขาคงจะยอมให้หญิงสาวร่วมคณะทั้งกอดและจูบไปแล้ว แต่สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือการไปส่งคนตัวเล็กที่มหาวิทยาลัย
“งั้นวันนี้ไปเที่ยวกันนะคะ ไม่มีเรียนพอดีเลย” น้ำเสียงออดอ้อนและรอยยิ้มหวานๆของผู้หญิงที่ชื่อโบราดังขึ้นอย่างไม่เกรงใจ เหมือนไม่สนใจผู้อยู่ในเหตุการณ์เลยซักนิด
“คงจะไม่ล่ะครับ วันนี้ผมอยากนอนอยู่ที่ห้องมากกว่า” ริมฝีปากอิ่มฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด มือเรียวพยายามแกะมือของโบราออกอย่างยากลำบาก คำโกหกร้อยแปดถูกนำมาใช้โดยไม่ต้องคิดเพื่อให้หลุดพ้นจากหญิงสาวตรงหน้า
ปาร์คชานยอลใจเย็นไว้ ห้ามตวาดผู้หญิงเด็ดขาด อย่าแม้แต่จะคิด
“หรือเราจะไปหาอะไรทำที่ห้องของคุณกันดีคะ” นิ้วของหล่อนไล้ไปตามแผ่นอกกว้างอย่างยั่วยวนพร้อมถ้อยคำแฝงความนัยน์ที่เค้ารู้ดี..
“........”
ความเงียบผ่านไปหลายวินาทีโดยมีเพียงสายตาเชิญชวนของหญิงสาว เซฮุนมองคนตัวสูงข้างๆที่ดูเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างแสนยากลำบาก
อาจจะเป็นเหมือนทุกครั้ง ที่บางอย่างสำคัญกว่าโอเซฮุนเสมอ..
“...พี่ครับเก้าโมงห้าสิบแล้ว” เสียงหวานดังขึ้นแผ่วเบา ก่อนจะพยายามขืนมือออกจากการจับกุมของอีกฝ่ายด้วยใบหน้าเรียบเฉย
ทั้งที่ควรจะชินชาแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ลึกๆ..
“น่าเสียดายนะครับ แต่ผมมีเจ้าของแล้วคงจะไม่ได้” มือเรียวปัดมือของหญิงสาวออกอย่างสุภาพ ดวงตาคมฉายแววเย็นชาอย่างปิดไม่มิดที่ทำเอาอีกฝ่ายรู้สึกหน้าเสียพร้อมรอยยิ้มกว้างๆตามแบบฉบับ
“หมายความว่ายังไงคะ วันนี้มีนัดแล้วเหรอ?” โบราเอียงคอเล็กน้อยแล้วดึงมืออีกคนมากุมไว้อย่างเสียดาย
“แต่เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ โบราไม่..”
“ผมมีเจ้าของแล้วครับ คงจะไม่ได้” เสียงทุ้มเน้นประโยคด้านหน้าซ้ำอีกครั้งอย่างชัดเจนก่อนจะค่อยๆดันร่างของเพื่อนร่วมคณะที่ตอนนี้ยืนแข็งเป็นหินไปแล้วออก
เสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นมาในหลายวินาทีให้หลังทำเอาเซฮุนสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะมองหน้าคนที่กำลังเดินจูงมือเค้าไปที่รถอย่างงงๆ
“ไม่ไปกับคุณผู้หญิงคนนั้นเหรอครับ?”
“ไม่เอาหรอก ไม่ใช่หน้าที่”
“แต่เค้าเป็นคนรู้จักของพี่..”
“แต่พี่จะไปส่งนายไง”
ราวกับสมองหยุดสั่งการไปชั่วขณะ ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยกับประโยคข้างบนก่อนจะเผลอกลั้นหายใจอย่างลืมตัว ความรู้สึกที่เฝ้าโหยหามาตลอดหลายปีโดยไม่เปิดปากบอกให้ใครรู้
ความรู้สึกที่เหมือนเป็นคนสำคัญ..
มือเรียวกอดเข้าที่ต้นแขนของรุ่นพี่ตัวสูงแน่นราวกับกลัวอีกคนจะหายไป ใบหน้าหวานค่อยๆกดลงบนไหล่หนาแล้วถูไปมาเหมือนลูกแมวก่อนจะหลับตาพริ้ม เมื่อความอบอุ่นจากมือใหญ่กำลังลูบเส้นผมเค้าอย่างอ่อนโยน
“น..ของผม...เป็นของผม”
จะไม่ยอมปล่อยอีกแล้ว จะไม่ยอมปล่อยไปไหนอีกแล้ว..
.
.
.
“คุณพ่อครับวันนี้ผมจะเป็นนักเรียนม.ต้นแล้ว!” เสียงเล็กดังขึ้นอย่างตื่นเต้นพร้อมกับจัดเครื่องแบบของโรงเรียนเอกชนชื่อดังให้เรียบร้อย ริมฝีปากบางระบายไปด้วยรอยยิ้มกว้างจนแทบปิด
คนที่นั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวจิบกาแฟรสเข้มในมือเล็กน้อยก่อนจะเดินตรงมาหาลูกชาย อู๋อี้ฟานยกยิ้มบางๆที่มีให้เห็นไม่บ่อยนักในฐานะเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ที่มีสาขาเกือบทั่วโลก
“หล่อที่สุดเลยครับเซฮุนนา” สันจมูกโด่งกดลงบนแก้มนิ่มแบบไม่กลัวช้ำฟอดใหญ่ ก่อนจะตามด้วยการยีหัวเบาๆอย่างเอ็นดู
“แน่นอนครับ ขนาดป้าซอลยังบอกเลย” เซฮุนหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อนึกถึงคำพูดของแม่บ้านประจำตระกูล ก่อนจะพาร่างของตัวเองมาที่โต๊ะกินข้าว
“หืม จริงเหรอ มีคนชมเราก่อนพ่อได้ไง น้อยใจนะเนี่ย” คุณพ่อยังหนุ่มพูดเสียงเรียบ มือเรียวยกหนังสือพิมพ์ต่างประเทศขึ้นมาบังใบหน้าเอาไว้ทันทีเพื่อซ่อนรอยยิ้ม
“ก็ผมไม่รู้อ่า ไม่งอนนะครับ นะ นะ นะ” ริมฝีปากบางยู่เข้าหากันเล็กน้อยพร้อมกับเขย่าแขนอีกคนอย่างออดอ้อน คริสกลั้นหัวเราะเอาไว้ก่อนจะแกล้งทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงเล็กๆนั้น
“ถ้าไม่รีบกินเช้าก่อนไปโรงเรียนจะงอนจริงๆนะครับ” ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเด็กดื้อที่บางวันไม่ยอมกินข้าวเช้าเพราะบอกว่านมจืดอร่อยกว่าทั้งที่ตัวก็ผอมเกินไปอยู่แล้ว หันมาสนใจอาหารตรงหน้าทันที
มือเรียวแก้วกาแฟขึ้นมาจิบรอลูกชายที่กำลังจัดการกับอาหารเช้าอย่างตั้งใจ เซฮุนน่ารักเสมอ เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายแม้จะดื้อไปบ้างแต่ก็ยอมเชื่อฟังเค้าอยู่ดี รอยยิ้มสดใสกับท่าทางออดอ้อนนั้นยิ่งทำให้เด็กตรงหน้ามากขึ้นเหลือเกิน..
ไม่ว่ายังไงเค้าก็จะไม่ยอมเสียคนสำคัญในชีวิตไปอีกเด็ดขาด ลูกชายที่เปรียบเสมือนสมบัติล้ำค่าจากพระเจ้าคือสิ่งเดียวที่ทำให้อู๋อี้ฟานสามารถใช้ชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ได้นับจากภรรยาเสียไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์
เค้าจะดูแลเซฮุนให้ดีที่สุด
“วันนี้เปิดเทอมวันแรก ไปส่งผมที่โรงเรียนหน่อยสิครับ” เด็กตัวขาววางแก้วน้ำในมือลงเป็นการบ่งบอกว่าอิ่มแล้ว รอยยิ้มหวานประดับบนใบหน้าน่ารักอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับดึงให้คนเป็นพ่อลุกตาม
“วันนี้พ่อต้องไปฮ่องกงน่ะครับ คงไปส่งไม่ได้” รอยยิ้มกว้างหุบลงเล็กน้อยเพราะประโยคเมื่อกี้ก่อนจะวาดขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็วเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกปวดหนึบบริเวณหน้าอก
“แปปเดียวเองครับ เปิดเทอมวันแรกมันน่ากลัว..”
“เซฮุนของพ่อเก่งอยู่แล้ว เดี๋ยวก็หาเพื่อนได้เอง ไม่ต้องกลัวนะ” คริสยกยิ้มบางๆ มือใหญ่ยีเส้นผมสีน้ำตาลนุ่มอย่างอ่อนโยนก่อนจะรวบเด็กชายมากอด
“แต่ผมอยากให้พ่อไปส่ง..” เซฮุนกดหน้าลงกับไหล่กว้างแน่นเมื่อน้ำตาอุ่นๆเตรียมจะไหลลงมาจากดวงตากลมสวย เค้าแค่อยากจะหันกลับมาแล้วพบกับรอยยิ้มอบอุ่นของคนที่รัก มันเหมือนเครื่องรางวิเศษที่ทำให้เชื่อว่าเค้าจะสามารถผ่านมันไปได้ด้วยดี
แค่อยากได้กำลังใจจากครอบครัว..
“ถ้าไม่รีบเดี๋ยวจะตกเครื่องบินนะครับคุณอี้ฟาน” เสียงของอี้ซิงดังมาแต่ไกลทั้งที่สองมือเต็มไปด้วยแฟ้มเอกสารและหนังสือของบริษัทมากมายกำลังมุ่งหน้าไปที่รถ
“พ่อต้องไปแล้ว ให้พี่ลู่ไปส่งนะครับ” มือเล็กกำชายเสื้อของคนพูดแน่นเหมือนจะต่อต้าน แต่ก็ต้องยอมปล่อยออกอย่างเสียดายเพราะกลัวจะโดนดุว่าเป็นเด็กเอาแต่ใจ
ถ้าเอาแต่ใจคุณพ่อก็จะไม่รัก..
“ไปโรงเรียนกับพี่ลู่นะครับเซฮุนนา” รอยยิ้มและน้ำเสียงสดใสของพี่เลี้ยงทำให้เซฮุนค่อยๆกลืนก้อนสะอื้นลงคอ ก่อนจะพูดบอกลาคุณพ่อ
“รีบไปรีบกลับนะครับ เดินทางปลอดภัย”
“รับทราบครับ” คริสระบายยิ้มบางๆ ลูกชายคนเดียวของเค้าไม่เคยงอแงหรือทำให้ลำบากใจเลยซักครั้ง
“พ่อรักเซฮุนนะ บ๊ายบาย” ริมฝีปากอิ่มแตะลงบนกลีบปากสีชมพูแผ่วเบาเพื่อเป็นการบอกลา
“รักพ่อเหมือนกันครับ” เซฮุนกดริมฝีปากกลับเบาๆก่อนจะผละออกแล้วส่งยิ้มหวานไปให้ เด็กชายยืนมองรถBMWสีขาวของบ้านกำลังเคลื่อนที่ออกไปพร้อมกับโบกมือไปมา
รอยยิ้มที่เคยฉีกกว้างค่อยๆหุบลงทันทีเหมือนไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ขายาวก้าวพี่เลี้ยงคนสนิทที่อยู่ด้านหลังแล้วกดใบหน้าลงกับหน้าอกของคนตัวสูงกว่า
“ทั้งที่สัญญากันเอาไว้แท้ๆเนอะพี่ลู่...”
ทั้งที่สัญญาว่าจะไปส่งเค้าในวันเปิดเทอมวันแรกแท้ๆ..
เสี่ยวลู่หานเม้มริมฝีปากแน่นโดยไม่ปริปากพูดอะไร มือเรียวยกขึ้นมาลูบผมของเซฮุนอย่างปลอบโยนเมื่ออีกคนกำลังพยายามกลืนก้อนสะอื้นลงไปในคออย่างยากลำบาก
ทำไมเด็กน้อยของเค้าต้องมาทำตัวเป็นผู้ใหญ่แบบที่คนอื่นต้องการด้วยนะ..
.
.
.
“ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง” เซฮุนก้มหัวให้เล็กน้อยก่อนจะปิดประตูรถให้อีกฝ่ายที่กำลังนั่งส่งยิ้มมาให้อยู่
“ไว้ตอนกลับพี่จะมารับ โทรบอกด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้”
“คนเป็นแฟนกันก็ต้องไปรับไปส่งกันสิ” ชานยอลยื่นคำขาด พร้อมกับกดปิดกระจกรถทันทีเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กขัดขืน มือบางยกขึ้นมาดันกรอบแว่นหนาแล้วถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อปอร์เช่คันสวยเคลื่อนที่ออกไปทั้งที่ยังพูดไม่จบประโยคดี
ปาร์คชานยอลกำลังจะทำให้เขากลายเป็นคนเอาแต่ใจ..
เสียงดนตรีบาดแก้วหูของ bad romance ดังออกมาจากโทรศัพท์เครื่องสวยพร้อมแรงสั่นน้อยๆบนโต๊ะไม้ที่เค้ากำลังฟุบอยู่ใต้ตึกของคณะในช่วงบ่ายของวัน หลังจากพาตัวเองกลับไปอาบน้ำที่คอนโดเรียบร้อยแล้ว
มือเรียวกวาดไปมาอย่างงัวเงียก่อนจะหรี่ตามองชื่อคนโทรเข้าบนหน้าจอทัชสกรีนแล้ววางไว้ที่เดิมเมื่อปลายสายคือนักศึกษารุ่นน้องคณะบัญชีซึ่งเป็นคู่นอนของเค้าเมื่อสองวันก่อน
“เป็นเหี้ยอะไรทำไมไม่รับ?” เสียงของเพื่อนสนิทผิวสีเข้มดังขึ้นพร้อมกับการกระแทกแก้วกาแฟเย็นลงบนโต๊ะด้วยความแปลกใจ
“ขี้เกียจ” ชานยอลตอบเรียบๆก่อนจะดึงแก้วกาแฟที่ฝากอีกคนซื้อมาดูด
“แดกยาหมดอายุป่ะครับ ปกติดี๊ด๊าชิบหาย” คิมจงอินทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อีกฝั่งแล้วยกมือขึ้นมาท้าวคาง ถ้าเป็นปกติเพื่อนตัวสูงข้างๆคงจะเอาแต่ถือโทรศัพท์เดินไปเดินมาตามด้วยการกรอกเสียงอันมีเสน่ห์และกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างน่าหมันไส้
“เรื่องของกู” เสียงของเพลง bad romance ดังขึ้นมาอีกรอบก่อนคนตัวสูงจะหยิบมันขึ้นมาหรี่มองชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอ แล้วกดรับอย่างรวดเร็ว
“เลิกเรียนแล้วเหรอ?” เสียงทุ้มกรอกไปตามสายอย่างตื่นเต้น ริมฝีปากอิ่มที่ยกยิ้มออกมาบางๆผิดกับเมื่อกี้อย่างสิ้นเชิงทำเอาจงอินงงเป็นไก่ตาแตก
“ยังครับ เหลืออีกวิชานึง”
“หือ แล้วโทรมาทำไมล่ะ?”
“เอ่อ..คือผมลืมหยิบกระเป๋าตังมา”
“แล้ว?”
“...หิวข้าว” ชานยอลระเบิดหัวเราะออกมาทันทีเมื่อจบคำพูดของคนปลายสาย ทำเอาเพื่อนสนิทสะดุ้งเล็กน้อยอย่างตกใจ
“ตอนนี้อยู่ไหนล่ะ?” คำถามตะกุกตะกักถูกส่งมาเพราะพยายามกลั้นเสียงหัวเราะพร้อมมือเรียวที่ยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกลวกๆ
“หน้าตึก11ครับ”
“รออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวไปรับ” ใบหน้าหล่อคมระบายไปด้วยรอยยิ้มกว้างแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก เมื่อส่วนใหญ่มักจะถูกแทนที่ด้วยการยิ้มมุมปากราวกับปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้ ก่อนจะกดวางสาย
“เดี๋ยวนี้มึงคบกับเด็กปีหนึ่งแล้วเหรอ?” คนผิวสีเข้มที่นั่งเงียบอยู่นานยิงคำถามใส่เมื่อการสนทนาจบลง ดวงตาคมมองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างหวาดระแวง ทำเอาชานยอลเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างงงๆ
“มึงไปเอามาจากไหน?”
“เค้าลือกันทั้งมหาลัยว่ามึงพาเด็กขึ้นคอนโดแน่ะ ฟายยย” ร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ นี่ข่าวมันไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?
“ดีๆนะมึง อย่ามัวแต่หัวเราะ โบราแ-ม่งวีนจนร้านคอฟฟี่ช็อปจะพังละ” จงอินทำหน้าตาเบื่อโลกทันทีเมื่อนึกถึงหญิงสาวที่เตรียมจะเหวี่ยงแก้วกาแฟเซรามิคลงบนพื้นได้ทุกเมื่อ
“คงงั้นมั้ง” ชานยอลยกยิ้มออกมาบางๆ การขอคบกับเซฮุนเหมือนจะไม่ตรงกับความตั้งใจในตอนแรกของเขาเท่าไรนัก ถึงจะบอกว่าเป็นแฟนแต่นั่นก็แค่ข้ออ้างที่เอาไว้ใช้ในการทำอะไรบางอย่างเพื่อคนตัวเล็กเท่านั้น
อันที่จริงแล้วเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทั้งที่โอเซฮุนไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่คนรู้จัก ไม่ใช่เพื่อนสนิท เป็นใครที่ไหนก็ไม่รู้ ที่อยู่ๆเค้าก็ต้องมาคอยเป็นห่วง คอยเอาใจใส่โดยไม่รู้ตัว จะว่าไปแล้ว
มันคงเหมือนการดูแลเด็กเสียมากกว่า...
“ไหนบอกว่าไม่สนใจรุ่นน้องไงครับคุณเพื่อนหยอย”
“ก็ใช่ ก็ไม่ได้สนใจรุ่นน้อง..”
“แล้วที่มึงพาขึ้นคอนโดตัวเองคือเหี้ยไร?” ปาร์คชานยอลไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนขึ้นคอนโดของตัวเองเลยซักครั้ง..
“แต่คนนี้กรณียกเว้น”
:) Shalunla
ความคิดเห็น