คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : something nine [What's happy?] : 3
topic : What's happy? #3
ขายาวภายใต้กางเกงสแล็คเนื้อดีก้าวไปบนเกทของสนามบินอินชอนในเวลาตีสองที่ไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ถูกลากตามเจ้าของมาติดๆก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้นวมแล้วกระชับเสื้อโค้ทเข้าหากันเพราะอากาศที่หนาวเย็นในตอนกลางคืน มือเรียวหยิบโทรศัพท์เครื่องสวยออกมาก่อนจะกดโทรออกโดยไม่คิดเกรงใจเวลาที่อยู่ในอีกฟากโลกของปลายสาย
“กลับถึงเกาหลีแล้วครับคุณอี้ฟาน” เสียงที่ติดจะทุ้มไปเล็กน้อยสำหรับใบหน้าค่อนไปทางหวานกรอกลงไปทันทีเมื่อเจ้าของชื่อกดรับ
“อือ รีบกลับบ้านล่ะ” อู๋อี้ฟานตอบกลับเสียงเบาพร้อมมือใหญ่ที่เซ็นชื่อลงในเอกสารสัญญาอย่างคล่องแคล่ว ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่ดังเข้ามาในสายทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเจ้านายของเขากำลังอยู่ในเวลาทำงาน
“เซฮุนอยู่บ้านคนเดียวคงจะเหงา ฝากด้วยนะ”
“รับทราบครับ”
“บอกด้วยว่าอีกสองวันฉันถึงจะกลับ..”
“ครับ”
“เตือนเซฮุนด้วยนะว่าถ้าจะไปนอนบ้านเพื่อนให้บอกก่อน”
“ครับ...ฮะ? ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด” ใบหน้าของพี่เลี้ยงอ้าปากเหวอทันทีเมื่อได้ยินประโยคข้างบน นิ้วเรียวกดลงบนหน้าทัชสกรีนอย่างร้อนรนพร้อมคำสบถเป็นภาษาจีนเพราะอยู่ๆอีกฝ่ายก็ตัดสายไป
หมายความว่ายังไง เซฮุนไปนอนบ้านเพื่อน?
คำถามร้อยแปดวนเวียนอยู่ในหัวของลู่หานจนตีกันมั่วไปหมด เด็กตัวขาวไม่ได้บอกเค้าเลยเรื่องมีแผนจะไปนอนบ้านเพื่อนสนิทอย่าง บยอนแบคฮยอน หรือถ้ามีฝ่ายเพื่อนตัวเล็กก็จะเป็นคนโทรมาบอกเค้าเองด้วยซ้ำ..
แล้วเซฮุนอยู่ที่ไหน?
พี่เลี้ยงกดค้นหาสัญญาณ GPS จากโทรศัพท์ของอีกคนอย่างร้อนรน ภาพแผนที่ที่ค่อยๆปรากฏขึ้นบนหน้าจอดูจะชักช้าจนรู้สึกอารมณ์เสียทั้งที่เป็นความเร็วปกติ
นิ้วเรียววาดออกจากกันกว้างเพื่อให้เห็นสถานที่ระบุตำแหน่งได้ชัดเจน เป็นครั้งแรกที่ลู่หานเห็นตัวบอกพิกัดตั้งแสดงอยู่ที่อื่นนอกเหนือจากบ้านใหญ่ มหาวิทยาลัย หรือบ้านของแบคฮยอน..
คอนโดของใครกัน?
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูที่ดังมาจากหน้าห้องเรียกให้เปลือกตาที่ปิดอยู่ค่อยๆลืมขึ้นมาอย่างงัวเงีย ขายาวลุกออกจากโซฟาที่ห้องนั่งเล่นพร้อมผ้าห่มผืนหนาก่อนจะเดินไปที่ต้นเสียง
ใครมันมาหาตอนตีห้าวะเนี่ย..
“.......” ชานยอลกระชากประตูไม้ให้เปิดออกทั้งๆที่ตายังปิดอยู่ เส้นผมหยิกหยอยสีน้ำตาลเข้มชี้ไปคนละทางก่อนจะกระชับผ้าห่มผืนหนาแน่นเมื่อเจอกับอากาศหนาวเย็นข้างนอก
“ขอโทษนะครับ ผมมาหาเซฮุน” ดวงตาเรียวเบิกออกจากกันทันทีเมื่อได้ยินชื่อของคนที่นอนอยู่ในห้อง ความง่วงที่มีหายเป็นปลิดทิ้งราวกับโดนน้ำเย็นสาด
ผู้ชายวัยกลางคนที่มีส่วนสูงประมาณไหล่ของเค้ากำลังมองเค้าอย่างหวาดระแวงผิดกับใบหน้าที่ค่อนไปทางหวานนั้นเสียเหลือเกิน
รู้เรื่องของเซฮุนได้ยังไง...หรือจะเป็นคนรู้จัก?
“ขอโทษนะครับ คุณเป็นใคร?” ร่างสูงถามอย่างสุภาพ แม้อีกคนทำท่าเหมือนอยากจะกระชากเขาออกจากประตูแล้วเข้าไปข้างในเสียให้ได้
“ผมควรจะถามคำถามนี้กับคุณมากกว่า” ลู่หานจ้องคนตัวสูงกว่าอย่างไม่วางตา ทำไมเด็กน้อยของเค้าถึงได้มายุ่งกับผู้ชายที่ท่าทางเจ้าชู้และไม่น่าไว้ใจแบบนี้ได้..
มือเรียวยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้งเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจ ตัวบอกพิกัดสีแดงอยู่ห่างออกไปไม่ถึงห้าสิบเมตรในทิศเหนือ ซึ่งก็คือห้องตรงหน้าที่มีผู้ชายหูกางยืนกั้นอยู่
“ผมปาร์คชานยอล เป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย แล้วคุณ?” ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มขึ้นมาน้อยๆอย่างระงับอารมณ์เมื่อได้รับคำตอบแสนไม่มีมารยาท ถ้าไม่ติดว่าอาจจะเป็นคนรู้จักของเด็กตัวขาวเค้าคงจะถีบคนแก่ตรงหน้าไปแล้ว
“ผมลู่หานเป็นพี่เลี้ยงของเซ...”
แอ๊ดดดดดดดดดดดดด
เสียงประตูที่ค่อยๆเปิดขึ้นเรียกความสนใจจากคนหน้าห้องได้เป็นอย่างดี ร่างบางในชุดนอนขายาวสีเขียวอ่อนเดินออกมาช้าๆพร้อมมือบางที่ยกขึ้นมาขยี้ตาอย่างงัวเงีย เส้นผมสีวอลนัทที่ชี้ไปคนละทางเพราะการนอนดิ้นกับใบหน้าหวานที่ไร้การบดบังจากแว่นกรองแสงสีดำดูน่ารักกว่าที่ชานยอลจินตนาการไว้หลายเท่านัก
“ขอโทษนะ ทำให้ตื่นรึเปล่า” มือเรียวยีหัวของคนตัวเล็กอย่างเอ็นดูก่อนจะเผลอยิ้มออกมาบางๆ
เซฮุนส่ายหน้าเล็กน้อยทั้งที่ตาใกล้จะปิด ใบหน้าขาวหันไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ริมฝีปากบางค่อยๆวาดรอยยิ้มหวานก่อนจะตกลงสู่อ้อมกอดของพี่เลี้ยงทันที
“กลับมาแล้วเหรอครับพี่ลู่”
“ครับ คิดถึงเซฮุนนาที่สุดเลยย” สันจมูกของลู่หานกดลงบนแก้มขาวแบบไม่กลัวช้ำพร้อมเสียงสูดหายใจฟอดใหญ่ที่ทำเอาชานยอลหน้าเหวอ
“มาถึงตอนไหน ทำไมไม่โทรบอกครับ ”
“สักพักนี่เอง แล้วทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” สายตาไม่เป็นมิตรถูกส่งไปให้อีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับกระชับกอดเด็กตัวขาวอย่างหวงแหน
เส้นเลือดในสมองเต้นตุบๆเหมือนหัวจะระเบิดเพราะความหงุดหงิดที่พุ่งสูงจนแทบทะลุปรอท ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มที่มุมปากเพราะเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ก่อนแขนยาวๆจะเอื้อมไปโอบไหล่บางแล้วดึงเข้ามาใกล้ทันที
มันชักจะมากเกินไปแล้วครับลุง..
“ก็ที่บ้านไม่มีคนอยู่ หรือจะให้ผมปล่อยเซฮุนไว้คนเดียว” เสียงทุ้มที่ดังแทรกขึ้นมาเรียกสายตาเดือดดาลจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
“แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ ไว้ใจได้รึเปล่าก็ไม่รู้”
“อย่างน้อยก็ยังไม่ได้จู่โจมละกัน”
“ฮะ? เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” คนตัวบางเริ่มยู่หน้าอย่างขัดใจ ไม่ว่าจะเป็นเสียงโต้ตอบที่ดังจนหูแทบแตกหรือแรงฉุดกระชากที่ทำให้ผิวขาวๆขึ้นเป็นริ้วแดงได้ก็ตาม
“พี่ชานยอลครับ คนนี้พี่ลู่หานเป็นพี่เลี้ยงของผม..แล้วก็พี่ลู่หาน คนนี้พี่ชานยอลเป็น..” เซฮุนค่อยๆขืนตัวออกจากทั้งสองฝ่าย เมื่อดูท่าสงครามน้ำลายจะไม่สงบลงถ้าเขาไม่ทำอะไรซักอย่าง
“รุ่นพี่ที่สนิทกัน..มาก” ชานยอลเน้นเสียงคำสุดท้ายชัดๆพร้อมกับจ้องหน้าพี่เลี้ยงกลับอย่างไม่เกรงกลัว
“อย่ามาโกหก เซฮุนไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ผมฟัง..”
“ขอโทษครับ ผมแค่อยากจะเก็บเอาไว้” ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจางๆก่อนจะหันไปทางอื่นเพื่อหลบสายตา ลิ้นเล็กๆเลียริมฝีปากบางอย่างประหม่าพร้อมกับการขยำชายเสื้อจนยับยู่ยี่ ที่ทำเอาคนเห็นลืมหายใจไปหลายวินาที
โอเคครับ พี่ลู่ยอม..
“เอ่อ..พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย...กลับบ้านกันเถอะนะเซฮุนนา” ลู่หานสะบัดหน้าแรงๆเพื่อไล่ตัวเองออกจากภวังค์เมื่อรู้สึกว่าไม่ใช่เค้าเพียงคนเดียวที่กำลังมองเด็กน่ารักตรงหน้าอยู่
นี่จะมองให้ทะลุไปเลยรึไงวะปาร์คชานยอล..
“อา..คือว่าเรื่องนั้น” เซฮุนเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะมองไปที่ชานยอลอย่างขอความคิดเห็น ถึงเค้าจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าแฟนของอีกฝ่ายเท่าไรนัก แต่ถ้าปล่อยให้อยู่คนเดียวแบบนี้จะโดนโกรธรึเปล่านะ..
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ผมว่าจะพาไปส่งพรุ่งนี้พอดี” คนตัวสูงตอบอย่างสุภาพ จะให้เค้าบอกว่าเป็นแฟนกับคนตัวเล็กก็คงจะไม่ใช่เรื่อง ทั้งที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ใจตัวเองแบบนี้
เด็กตัวขาวเอียงคอเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เซฮุนไม่ได้เสียใจหรือน้อยใจที่จะโดนส่งกลับบ้าน เพียงแต่ในใจมันรู้สึกโหวงๆแปลกๆ ถ้าไม่เห็นผู้ชายตัวสูงคนนี้อยู่ในเลนส์สายตาคงจะเหงาพิลึก..
เหงา..?
“ให้พี่ไปช่วยเก็บของมั้ย?” ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงของพี่เลี้ยงดังขึ้น มือเล็กที่เอื้อมไปจับชายเสื้อเจ้าของห้องเมื่อไหร่ไม่รู้ค่อยๆปล่อยออกอย่างลืมตัว
“ไม่เป็นไรครับ ขอเวลาผมแปปนึง” ขาเรียวก้าวเข้าไปในห้องนอนทันทีก่อนจะปิดประตูลงเสียงเบา เหลือเพียงชานยอลกับลู่หานเท่านั้น
ความเงียบผ่านไปเรื่อยๆอย่างน่าอึดอัด มีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกและสายตากวาดไปทั่วห้องของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นสีโทนอบอุ่นหรือการตกแต่งแบบเรียบๆที่ดูไม่ว่างเปล่าจนเกินไปล้วนเป็นสิ่งที่เซฮุนชอบทั้งนั้น
“เอ่อ..” เสียงทุ้มที่เงียบไปนานเรียกความสนใจจากลู่หานได้ไม่น้อย
“ว่าไง?”
“เซฮุนเพิ่งได้นอนตอนตีหนึ่งเพราะมัวแต่เล่นเกมส์ พรุ่งนี้มีเรียนแค่ช่วงบ่าย ปลุกเค้าตอนสายๆนะครับ” ประโยคยาวๆพร้อมสายตาอบอุ่นแบบที่ไม่คิดว่าผู้ชายหูกางท่าทางเจ้าชู้ตรงหน้าจะมี ทำเอาคิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างประหลาดใจ
ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด...มั้ง??
“โอเค รับทราบ” พี่เลี้ยงพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินตรงไปหาเซฮุนทันทีที่เดินออกมาจากห้องพร้อมกระเป๋าเป้ใบไม่ใหญ่มากนัก
“เดี๋ยวพี่เอาไปเก็บให้ เราไปตรวจดูของอีกรอบเถอะ” มือเรียวแย่งของมาจากมืออีกคนมาถือก่อนจะกล่าวเตือนเด็กขี้ลืมอย่างรู้ทัน เซฮุนพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมขายาวๆที่เดินไปรอบห้องเพื่อสำรวจ
“เสร็จแล้วเจอกันที่ลานจอดรถชั้น7 นะ” ลู่หานพูดเพียงแค่นั้นก่อนเสียงประตูห้องจะปิดลง เหลือเพียงคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาและร่างบางหน้าตาง่วงนอนเท่านั้น
“เห็นแว่นผมรึเปล่าครับ?” คนตัวเล็กถามแล้วหาววอดเมื่อรู้สึกว่าบนสันจมูกมันโล่งแปลกๆ ถึงแม้จะไม่ได้สายตาสั้นแต่การใส่ไว้ตลอดเวลาทำให้กลายเป็นความเคยชินไปแล้ว
“อ่อ พี่เอาวางไว้บนโต๊ะนี่แหละ เห็นว่าหลับเลยไม่อยากปลุก” ชานยอลขยับตัวไปใกล้โต๊ะกระจกหน้าทีวีทันทีเพื่อค้นหาแว่นกรอบสีดำที่เค้าถอดเอาไว้ก่อนจะยกเด็กตัวขาวไปนอนในห้องเพราะผล็อยหลับไป
“อ่า ขอบคุณนะครับ” เซฮุนรับแว่นจากอีกคนมาใส่ก่อนจะกระพริบตาสองสามทีเพื่อปรับแสง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลังเลนส์กรองแสงสะท้อนภาพใบหน้าหล่อคมที่กำลังส่งยิ้มบางๆมาให้
“ไว้เจอกันนะเซฮุน บาย” ชานยอลโบกมือให้สองสามที แต่ในใจกำลังพยายามกลั้นหัวเราะเพราะเด็กตัวขาวที่กอดตุ๊กตาของเค้าเอาไว้แน่นเตรียมพร้อมจะเอากลับบ้าน
“บ๊ายบายครับพี่ชานยอล”
ร่างบางเขย่งปลายเท้าเล็กน้อย มือเล็กแตะลงที่โครงหน้าหล่อคมแผ่วเบาก่อนจะตามด้วยกลีบปากนิ่มที่ทับลงมาบนริมฝีปากอิ่มแบบไม่ทันให้ตั้งตัวเป็นการบอกลาเหมือนที่ทำกับคุณพ่อและพี่เลี้ยงคนสนิท
ความอุ่นจากอุณหภูมิร่างกายที่ส่งผ่านมากับกลิ่นหอมประจำตัวอ่อนๆทำเอาระบบสั่งการของสมองตีกันมั่วไปหมด ดวงตาเรียวเบิกกว้างเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตก่อนจะตามด้วยเสียงหวานๆและลมหายใจอุ่นที่เป่ากระทบข้างแก้ม ซึ่งเค้าทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่เฉยๆเท่านั้น..
แผ่นหลังบอบบางค่อยๆไกลออกไปพร้อมประตูไม้เนื้อดีที่ปิดลงอีกรอบ มือเรียวยกขึ้นมาแตะริมฝีปากอิ่มของตัวเองแผ่วเบาเมื่อสัมผัสอุ่นนุ่มยังคงติดอยู่จางๆ เสียงหัวใจที่เต้นดังจนน่ารำคาญกับอาการหายใจผิดจังหวะกำลังทำให้เค้าจะเป็นบ้าตาย
ปาร์คชานยอลแพ้จูบเด็ดประถมแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ..
“เชี่ยหยอยครับ น้องแทอิลโทรมา” จงอินพูดทั้งที่ยังรัวนิ้วลงบนปุ่มคอนโทรลของ PSP ไม่หยุด
“เมื่อวานแ-ม่งคุยกับกูทั้งคืน พอ เบื่อ” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันก่อนจะกดตัดสายรัวๆแล้วตั้งปิดเสียง ปล่อยให้โทรศัพท์เครื่องสวยสั่นอยู่ในกระเป๋าเป้
“มิน่าตาถึงแ-ม่งเป็นงี้” เพื่อนสนิทหัวเราะอย่างสะใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบกับใบหน้าหล่อคมที่ใต้ดวงตาเป็นสีดำคล้ำเหมือนพวกอดหลับอดนอน
“แล้วใครใช้ให้มึงแจกเบอร์กูมั่วล่ะครับ” มือใหญ่ตบหัวของคนที่กำลังหัวเราะอย่างหมันไส้ ลำพังผู้หญิงคนก่อนๆก็สายซ้อนเป็นสิบแล้วยังมาสร้างภาระให้เค้าเพิ่มอีก
“อย่าให้กูเอาเบอร์ใหม่มึงไปแจกนะจงอิน จะโปรยให้ทั่วมหาลัยเลย”
“ฆ่ากูเลยเหอะครับ..กูไม่คุยแล้ว อยากใช้ชีวิตเงียบๆ” ชานยอลระเบิดหัวเราะออกมาทันทีเมื่อไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้ยินคำว่า เงียบ จากปากของคิมจงอิน ที่มีดีกรีความเจ้าชู้ไม่ต่างกันหรืออาจจะมากกว่า
“พี่คยองซูเล่นของเหรอวะ”
“เออ กูโดนเต็มๆครับ” คนผิวสีเข้มยักคิ้วน้อยๆ ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาคนรักที่เพื่อนตัวสูงพูดถึง ตั้งแต่เริ่มคบกับรุ่นพี่ตัวเล็กคนนี้เค้าก็เลือกที่จะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่และบอกต่อเฉพาะคนสนิทเท่านั้นเพื่อป้องกันการรบกวนจากหญิงสาวในสต็อก
รู้สึกตัวอีกทีทั้งบันทึกการโทรและข้อความก็มีแต่ โดคยองซู ซะแล้ว ในหัวมีแต่ภาพใบหน้าหวานที่ประดับด้วยรอยยิ้มกว้างแล้วเรียกชื่อเขาซ้ำๆด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนต้องเผลอยิ้มออกมาเหมือนคนบ้า
พี่เค้าเล่นของใส่ผมจริงๆด้วย..
“วันนี้มึงมาแปลกนะ ปกติหลับตั้งแต่อาจารย์ยังไม่เข้า วันนี้แ-ม่งตาสว่างทั้งคาบ” จงอินมองอีกคนที่กำลังจดโน้ตย่อที่ค้างไว้เป็นเดือนลงสมุดอย่างเร่งรีบหลังจากพาตัวเองมานั่งที่สวนแถวห้องสมุดหลังเรียนการเรียนภาคเช้า
มือเรียวที่กำลังตวัดปากกาชะงักไปเล็กน้อยจนหมึกซึมลงในสมุดเป็นวงก่อนจะลงมือเขียนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ในหัวกำลังฉายซ้ำเหตุการณ์เมื่อตอนตีห้าของสองวันก่อนเป็นรอบที่ร้อย
โอเซฮุนเป็นเด็กนิสัยไม่ดีที่ทำให้เค้าสูญเสียสมาธิ..
“กูไม่ง่วงไง”
“อย่ามาโกหก มึงคิดถึงน้องตัวบางคนนั้นอยู่”
“น้องตัวบางไหน?” ดวงตาเรียวฉายแววสงสัยอย่างเห็นได้ชัด ครั้งที่แล้วเด็กปีหนึ่ง ครั้งนี้น้องตัวบาง มึงช่วยระบุชื่อด้วยครับ
“เซฮุนไงฟายยย ที่พ่อเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของมหาลัยอ่ะ”
“มึงรู้จักน้องเค้าด้วยเหรอ?” ชานยอลจ้องเพื่อนสนิทไม่วางตา ทั้งที่เค้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเจ้าของชื่อนั้นเลยซักอย่าง..
“เออ เพื่อนแบคฮยอนน้องชายกูเอง”
ขาเรียวยาวภายใต้ชุดสูทสีกรมท่าเดินออกมาจากเกทของสนามบินอินชอนอย่างไม่เร่งรีบ ใบหน้าคมที่ประดับด้วยแว่นกันแดดสีดำเข้มตัดกับเส้นผมสีทองยาวระต้นคอดูอ่อนกว่าวัยจนไม่อยากจะเชื่อว่ามีลูกแล้วด้วยซ้ำ มือใหญ่ดึงแว่นตาบนสันจมูกโด่งออกก่อนจะหันไปหาเลขาคนสนิทที่หอบกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ติดตัวตลอดเวลา
“วันนี้มีประชุมกี่โมง?”
“บ่ายสามโมงครับ คุณอี้ฟานจะเข้าบ้านก่อนรึเปล่า” อี้ซิงยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้เที่ยง พร้อมกับหยิบสมุดโน้ตเล่มเล็กในกระเป๋าเสื้อออกมาดู
“ไปหาเซฮุนที่บ้านก่อนละกัน” คริสพยักหน้ารับเล็กน้อย ริมฝีปากบางยกยิ้มออกมาทันทีเมื่อพูดถึงลูกชายของตัวเองก่อนจะแทรกตัวไปที่เบาะด้านหลังคนขับอย่างเคยชิน
“รับทราบครับ” เลขาหนุ่มตอบสั้นๆแล้วเดินไปประจำตำแหน่งคนขับรถทันทีเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่เป้าหมายซึ่งห่างหายมาเกือบอาทิตย์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
|
:) Shalunla
ความคิดเห็น