SF: Hormones : WinTar 2 ...จับมือ
ภาคต่อของ SF: Hormones : WinTar
ผู้เข้าชมรวม
1,107
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จะง้อผู้หญิงนี่ต้องทำยังไงนะ ?
ผมนอนคิดถึงคำตอบของคำถามข้อนี้มาทั้งคืน
แล้วก็......คิดไม่ออก
หมอกบอกให้แต่งเพลงให้..
บอกว่าผู้หญิงเป็นโรคแพ้เสียงดนตรี
ผู้ชายหล่อๆ ...
ก็ไอ้วินพึ่งบอกว่ากูน่ารัก
กีต้าร์สักตัว ...
เอออันนี้มี เล่นเป็น เก่งด้วย
แต่งเพลงเพราะๆให้สักเพลง..
คือ..แต่งไม่เป็น
.
.
แล้วจะทำอะไร ?
ถ้าไม่ทำอะไรเลยมันก็คงจะเป็นแบบนี้ต่อไป
ไม่เอาด้วยหรอก..
ไม่อยากถูกเต้ยเกลียดตลอดไป
อยากกลับไปคุยด้วย
อยากนั่งข้างๆเหมือนเดิม
อยากยิ้มให้เหมือนเดิม
อยากหัวเราะไปด้วยกัน
อยากเล่นดนตรีแล้วมีเต้ยเป็นนักร้อง....เป็นนักร้อง ร้องเพลงเพราะๆให้ฟัง
.
.
ร้องเพลง...เพราะๆ
.
.
ผมอยากร้องไห้
ขั้นบันไดเตี้ยๆบริเวณด้านหลังโรงเรียนถูกผมใช้เป็นที่พักหัวใจช้ำๆของตัวเองหลังเลิกเรียน กีต้าร์ตัวเก่งที่ติดมือมาถูกหยิบขึ้นมาตั้งสาย มือซ้ายจับคอร์ดมือขวาดีดเป็นเพลงรักง่ายๆ ที่เล่นจนคุ้นมือ ดีดไปได้ไม่ถึงครึ่งเพลงก็ต้องหยุดมือลง..
มันรู้สึกไม่อยากเล่น รู้สึกว่าไม่รู้จะเล่นเพลงอะไรดีเหมือนข้างในสมองกลวงโบ๋ไปหมด เพลงบางเพลงขนาดคอร์ดที่เล่นจนชินยังเผลอคิดว่าลืมไปแล้วด้วยซ้ำ
ตั้งแต่วันที่สารภาพความในใจไปก็ไม่ได้พูดอะไรกับเต้ยอีก ไม่ใช่ไม่อยากพูดนะ อยากคุยด้วยใจจะขาดแต่พอเจอหน้าเต้ยจริงๆกลับรู้สึกแย่ รู้สึกโคตรเฟลที่เต้ยยังคุยกับผมปกติ ทำตัวเหมือนไม่มีอะไร ทำตัวเหมือนความรู้สึกของผมไม่ได้มีอิทธิพลอะไรกับชีวิตเธอ ..
อยากคุยด้วย..
แต่พอเค้าคุยด้วยปกติเหมือนเดิมก็รู้สึกแย่
กีต้าร์ที่กอดไว้เย็นเฉียบ เย็นจนหนาวบาดเข้าไปถึงหัวใจ..
“มึงมาทำบ้าอะไรตรงนี้ว่ะ”
ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงตะโกนข้างหู ตัวเอียงไปตามแรงตบที่บ่า กีต้าร์ที่กอดไว้แทบหลุดมือ
“เชี่ยวิน!”
วินยืนยิ้มหล่อตามแบบมันอยู่ข้างตัวผม มันยกมือเสยผมแล้วทรุดตัวนั่งลงข้างๆ “กูเคยบอกมึงยังว่ะต้าร์ว่ามึงโคตรเหมือนจีจี้เลย ขนาดตกใจยังเหมือน”
“ใครว่ะจีจี้” ผมทำหน้างงใส่มัน ไอ้วินฉีกยิ้มให้ผมก่อนตอบ
“หมาเจ๊ข้างบ้าน กูชอบ นางน่ารัก แต่นางอกหักเพราะสุดหล่อโกเด้นไม่รักนาง”
ผมอ้าปากเหวอค้างไปเมื่อไอ้วินตอบ จีจี้นี่หมาป่ะ!
“สัด กูไม่ใช่หมา” ผมด่ามันไป แต่ในใจคิดทำไมสตอรี่จีจี้นี่แอบเหมือนชีวิตผมจัง จีจี้นี่ร่างแยกกูป่ะว่ะเนื่ย
ไอ้วินหัวเราะร่าที่ผมด่ามันจนผมหน้ามุ้ยใส่มันถึงหยุด
พอมันหยุดหัวเราะแล้วมันก็เงียบ
ผมก็เงียบ
เราสองคนเงียบ...
“ดีกันยัง ?”
วินเป็นฝ่ายทำลายความเงียบด้วยคำถาม แววตาที่จ้องมองมาดูเป็นห่วง ผมยิ้มให้มันแล้วส่ายหัวเบาๆ เป็นอันเข้าใจกัน มันก็ได้แต่ส่ายหัวอ่อนใจ เอื้อมมือมาโยนหัวผมไปมา ปากพูด “ไม่เป็นไรน้า โอ๋ๆ” เหมือนปลอบเด็กสองขวบ
“พอเลย เดี๋ยวผมเสียทรง”
พอไอ้วินชักเริ่มโยกหัวแรงผมก็พยายามสะบัดหัวออกจากมือมัน แต่แม่งจับแน่นเหมือนหัวผมเป็นลูกบาสคาบพละ ผมจึงต้องทำใจวางกีต้าร์ไว้ข้างตัวแล้วยกมือขึ้นไปแกะมือปลาหมึกของมันออกแต่ก็ไม่สามารถ จับนิ้วมันแงะออกทีละนิ้วๆก็ยังไม่หลุดจนหมดปัญญา ก็ได้แต่วางมือตัวเองทับบนมือไอ้วิน รอจังหวะที่มันเผลอแล้วค่อยดึงมือมันออก
แล้วมันก็ไม่เผลอสักที มือมันลูบหัวผมเล่นเหมือนลูบขนหมา มือผมที่วางทับอยู่บนมือมันก็พลอยขยับลูบหัวตัวเองตามมือมันไปด้วย
แรกๆก็รำคาญนะ แต่พอมันลูบหัวแล้วผมเคลิ้ม...
มือไอ้วินใหญ่ แต่นิ้วกลับมันเรียวสวย มือผมที่วางทับอยู่ด้านบนสัมผัสได้ถึงความอุ่นที่ส่งผ่านมาจากมือนั้น จู่ๆเกิดนึกพิลึกอะไรก็ไม่รู้ เอ่ยคำที่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะออกมาจากปากตัวเอง
“วินขอกูจับมือหน่อยดิ”
“ห๊ะ !” มันหันมาทำหน้าตกใจ ชะงักมือที่ลูบหัวผมกะทันหัน
“จับมือกูหน่อย” ผมขอร้องแต่มันยังทำหน้างง “จับมือหน่อย แปปหนึ่ง”
“อะไรของมึงว่ะ” มันบ่น แล้วลดมือลงจากหัวผม พลิกมือขึ้นจับมือผมที่ทับอยู่บนมือมันทั้งสองข้างมากุมไว้
มือนั้นใหญ่จนกุมมือผมไว้ได้ทั้งมือ มือมันอุ่นอย่างที่ผมคิด แม้จะจับเพียงสั้นๆแต่ความอบอุ่นจากมือนั้นก็ค่อยๆส่งผ่านมาถึงผมจนรู้สึกอุ่นไปทั้งมือ เมื่อเงยหน้าขึ้นสบตามันก็พบกับรอยยิ้มหวานดุจเทวดาที่เจ้าตัวยิ้มมาให้ ดวงตาที่เป็นประกายจ้าจ้องมองผมอย่างล้อเลียน
มันยิ้มให้ผมทั้งปากทั้งตาจนผมรู้สึกวูบหนึ่งดวงตาพร่ามัวไปหมด รู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มสูบฉีดขึ้นมาตามใบหน้า ยิ่งมันยิ้มล้อเลียนทำให้เกิดความรู้สึกเขินขึ้นมาประหลาด จนอยากจะชักมือออก
“เอ้า! อย่าเกร็งดิ อะไรของมึงเนื่ย ” ไอ้วินขำ หัวเราะจบมันก็ปล่อยมือข้างหนึ่งออกมาดึงแก้มผม “นี่มึงเขินอ่อเนื่ย ?”
“ใครเขิน..” ผมตอบอุบอิบไม่เต็มเสียง
“โธ่...มึงเอ๊ยยย นี่ขนาดกูเป็นเพื่อนมึงมึงยังหน้าแดงขนาดนี้ ถ้ามึงเป็นแฟนเต้ยขึ้นมาจริงๆ...ตอนจับมือกันมึงคงเป็นลมคลานซมซานมาให้กูหามอ่ะ ไม่งั้นก็หัวใจวายตาย ” มันบ่นไปหัวเราะไปไม่จริงจังแต่ไอ้คำพูดไม่จริงจังเนื่ยล่ะทำผมนิ่ง
ผมเคยคิดมาตลอดว่าถ้าได้เป็นแฟนกับเต้ยคงจะวิเศษที่สุด ผมไม่เคยคิดต่อจากนั้นเลยว่าหลังจากเป็นแฟนกันเราสองคนจะเป็นยังไง แค่คิดว่าผมจับมือกับเต้ย ผมคงเขินจนทำอะไรไม่ถูก ความเป็นจริงนั้นแค่เต้ยยิ้มให้ทีหัวใจก็กระตุกวูบ รู้สึกเหมือนหัวใจถูกไฟช็อตอยู่ร่ำไป แค่เต้ยชมผมสักคำ ก็เหมือนตัวลอยไปถึงดาวอังคาร เขินจนตัวจะระเบิด ถ้าได้เป็นแฟนกันจริงๆ มีเต้ยส่งยิ้มมาให้ทุกวัน ได้จับมือกัน กอดกัน....
โอ๊ยยยยยยย แค่คิดผมก็รู้สึกเหมือนถูกธูปจี้ มันคงสะดุ้งสะเทือนจนทำอะไรไม่ถูกแน่ๆ บางทีถ้าได้เป็นแฟนเต้ยจริงผมอาจจะต้องหัวใจวายตายอย่างที่ไอ้วินว่าก็ได้
“ต้าร์!” ไอ้วินเรียกชื่อดังๆให้ผมหลุดจากภวังค์ มือข้างที่จับกับมือผมอยู่ยกเขย่าขึ้นลงเรียกสติ “อย่าเหม่อเมินกูดิ กูอยู่นี่สนใจกูก่อน”
“สนใจแล้วๆ” ผมบีบมือมันให้หยุดเขย่า มันถึงได้ยิ้มแล้วดึงมือข้างที่จับกับมือผมไปวางบนตัก
“คิดไรอยู่ห๊ะมึงอ่ะ อย่าคิดมากเข้าใจป่ะ”
“กูแค่คิดตามที่มึงพูดอ่ะ” ผมตอบอุบอิบ ทอดสายตามองมือตัวเองที่ถูกกุมไว้ “ถ้ากูเป็นแฟนเต้ยจริงๆ...กูคงตายไวว่ะ”
“ไมมึงคิดงั้นอ่ะ” ไอ้วินกระชับมือผมแน่นอีกเหมือนให้กำลังใจ มันเขยิบเข้ามานั่งชิดตัวผม
“กูบอกแล้วไงว่าคิดตามที่มึงพูด แม่งกูก็เป็นอย่างที่มึงพูดมาอ่ะ ความรักของกูคงจบเหมือนไอ้จีจี้หมาบ้านเจ๊อะไรนั่นของมึงอ่ะ มันถูกทิ้งใช่ม่ะ ”
“ใครว่าเหมือน” ไอ้วินแย้ง “อย่างน้อยจีจี้ก็เคยจิ๊จ๊ะกับสุดหล่อก่อนจะเลิกกันนะ แต่มึงนี้....”
ไอ้วินหยุดพูดแค่นี้เพราะเห็นผมสลด มันยกมือข้างที่ว่างขึ้นแปะหน้าผากทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจ แล้วใช้มือข้างนั้นโน้มหัวผมลงซบไหล่มัน มือข้างที่จับมือผมอยู่บีบกระชับแน่นขึ้นอีก
“ถึงมึงจะอกหัก...แต่สักวันมึงจะเจอคนของมึง ต้าร์” มันพูดเบาๆ สายตามองไปยังเส้นขอบฟ้า
“กูเชื่อ..ว่าสักวันจะมีคนที่ทำให้มึงรักเค้าสุดหัวใจ”
“…”
“สักวันมึงจะเจอคนที่มึงอยากจะจับมือเขาไปตลอดชีวิต” ผมทอดมองไปยังมือเราสองคนที่จับกันอยู่เมื่อวินพูดถึงประโยคนี้ มันคงเห็นและหันมายิ้มให้ผม “พูดแบบนี้ไม่สมเป็นกูเลยเนอะ”
“มึงดูเป็นผู้เป็นคนจนกูขนลุก” ผมแซะมันเบาๆ
“กลับบ้านกันกูไปส่ง เย็นแล้ว เก็บของเร็วมึง”มันตัดบทแล้วผุดลุกขึ้น ฉุดมือผมให้ยืนขึ้นตามมัน ปล่อยมือผมเพื่อให้ผมหันไปเก็บกีต้าร์ลงกระเป๋า วินรอดูจนผมสะพายกระเป๋ากีต้าร์กับกระเป๋านักเรียนแล้วก็กลับคว้ามือผมไปจับไว้อีก
“ไม่จบนะมึงอ่ะ” ผมดึงมือออกแต่วินกลับยึดไว้
“ซ้อมจับมือกูไว้ก่อน” มันอธิบาย “ไว้มึงเจอใครสักคนของมึงแล้ว..มึงจะได้ไม่เขินเวลาจับมือเค้า”
“สัด จับมือใครกูก็เขินหมดอ่ะ กับมึงกูยังเขินๆแปลกๆเลย” ผมทำหน้าปูเลี่ยนให้มันหัวเราะ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึงของมันไป
อยากที่เคยบอกไปว่ามือวินมันอุ่น พอจับแล้วความอุ่นมันแผ่เข้ามาทุกส่วนไล่ความหนาวในหัวใจไปจนหมด พออยู่ในมือคู่นี้แล้วเหมือนความทุกข์ที่มีต่อเรื่องเต้ยจะทุเลาลง ผมจึงยอมให้มันจูงไป ในใจนึกทึ่งในความสามารถของมืออุ่นๆของมันจริงๆ
.
.
.
วูบหนึ่งของความคิดระหว่างทางกลับบ้าน
ผมเผลอคิดว่าถ้าสักวันผมจะเจอใครที่เป็นคนของผมจริงๆ
ผมขอให้คนคนนั้นมีมืออุ่นๆ มือที่ผมจับเมื่อไรความทุกข์ก็ดูเหมือนจะบรรเทาลงไป
.
.
มืออุ่นๆ
...แบบมือไอ้วิน
ผลงานอื่นๆ ของ bcly ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ bcly
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น