ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Hanchul] My Mummy? อยากเป็นคุณแม่ใหม่ พิชิตใจเราให้ได้สิ

    ลำดับตอนที่ #1 : My Mummy? Chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 56


                    






               ในยามค่ำคืนที่ผู้คนในกรุงโซลพากันหลับใหลเพราะความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมเมื่อตอนกลางวันบ้าง บางคนก็ยังทำงานอยู่บ้าง บางคนก็ไปสังสรรค์รื่นเริง  ผู้คนทุกคนมีสิ่งที่ต้องทำมากมายไปหมด จนไม่มีเวลามาชมความงามของธรรมชาติ จะมีใครรู้ไหมนะว่าท้องฟ้ายามกลางคืน ที่มีดาวระยิบระยับประดับเต็มไปหมดนั้น สวยงามมากเพียงใด

     

                คิมฮีชอลก็เป็นอีกคนนึงที่ออกมาชมความงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้ ร่างบางยังอยู่ในชุดนอนสีหวานบางเบา การได้ออกมามองท้องฟ้าและคิดอะไรไปเรื่อยมีเป็นสิ่งที่ดีทีเดียวล่ะ มือบางเลื่อนมากอดอกด้วยความหนาว

     

                อากาศเย็นขนาดนี้ น่าจะเอาผ้าคลุมไหล่ออกมาด้วย...

     

     

                หมับ!!

     

                “อ๊ะ!!” ยังไม่ทันจะทำอะไร ผ้าคลุมไหล่ผืนหนาก็ถูกห่มลงมาพร้อมกับอ้อมกอดอุ่นๆของใครบ้างคน

    “ออกมาดูดาวคนเดียวอีกแล้วนะ” พูดจบร่างหนาที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักซุกหน้าเข้ากับไหล่บางของฮีชอล

     

    ลี ฮันคยอง นักธุรกิจพันล้านที่เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของบริษัทของคุณแม่ฮีชอล ฮันคยองได้เจอฮีชอลครั้งแรกตอนไปติดต่อธุรกิจ เขาตกหลุมรักฮีชอลตั้งแต่แรกพบ ใบหน้าสวยหวานตามแบบเจ้าหญิงและดวงตากลมโตเหมือนลูกแก้วใสนั่นติดตราตรึงใจเขาอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็ตามจีบฮีชอลเรื่อยมา พอยิ่งได้รู้จักนิสัยใจคอก็ยิ่งชอบ เวลาผ่านไปจากชอบก็กลายเป็นรัก รักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น จนในที่สุด เขาและฮีชอลก็ได้คบกัน

     

    จากวันที่ได้คบกัน...ตอนนี้ก็สามปีเต็มแล้ว

     

                วันที่ฮีชอลกลับจากนิวยอร์กวันแรก เขาไปที่บริษัทของคุณแม่เพื่อไปกอดคุณแม่ให้หายคิดถึง ฮีชอลไม่อยากเชื่อเลยว่า เขาจะได้เจอกับรักแรกพบ

     

                ร่างหนาแต่งตัวภูมิฐาน ดูมีอายุมากกว่าเขาสักไม่กี่ปี ใบหน้าคมและตาเรียวนั่นบ่งบอกได้ว่าเขาไม่ใช่คนเกาหลี จนได้ทำความรู้จักกันถึงได้รู้ว่าเป็นคนจีน ช่วงแรกๆที่รู้จักกัน ฮันคยองพาเขาไปนู่นมานี่ทั่วเกาหลี มาให้เขาทำกับข้าวเลี้ยงทุกเย็น เนียนๆมาจีบเขาตลอด คุณแม่กับคุณพ่อของเขาก็ไม่ได้คัดค้านเสียด้วย

     

    ไม่รู้ว่าความสนิทสนม หรือความใกล้ชิด ทำให้ฮีชอลเริ่มตกหลุมรักฮันคยองทีละนิดจนปีนขึ้นมาไม่ได้ซะแล้ว สุดท้ายก็ได้ตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน

     

     

    สามปีเต็มที่คบกัน ถือว่านานพอสมควร แต่ฮีชอลรู้สึกว่า

     

    เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวของฮันคยองเลย

     

    ฮันคยองไม่เคยพาเขาไปบ้าน ไปเที่ยวกันถึงจีนก็ไม่คิดจะพาฮีชอลไปแนะนำกับพ่อแม่ของตัวเองเลย จนบางทีฮีชอลก็แอบน้อยใจ อดคิดไม่ได้ว่า ฮันคยองไม่ได้คิดจะจริงจังกับเขา

     

    “เฮีย...”เสียงหวานเรียกคนรักที่ซบหน้าอยู่กับไหล่ลาดของตน

                “ครับ”

                “ฉันคิดมาตั้งนานแล้วว่าจะบอกเฮียเรื่องนี้ดีหรือเปล่า”

                “??

                “เฮีย เราคบกันมานานพอที่จะ...แต่งงานกันได้หรือยัง”

     

                ฮันคยองถึงกับนิ่งไป ค่อยๆปล่อยอ้อมกอดจากฮีชอลจนร่างบางใจเสีย ฮันคยองทำหน้าเครียด หันมามองหน้าร่างบางตรงๆ มือหนายกขึ้นมาลูบหน้าตัวเองแรงๆ ฮีชอลได้แต่มองตาปริบๆ คนรักของเขาคิดอะไรอยู่

     

                “...มันเร็วไป”

               

    ห่ะ เร็วไป!! เร็วไปหรอ!! เร็วไปตรงไหน เขาทำตัวติดกันฮันคยองมาตั้งสามปี ควงกันออกหน้าออกตาจนใครๆก็รู้ เขาไม่อยากยิ้มแห้งๆทำหน้าเจื่อนๆ เวลาพวกเพื่อนๆของคุณแม่มาถามเขาว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานกันสักที เขาก็รอร๊อรอว่าเมื่อไหร่ฮันคยองจะขอเขาแต่ง แต่ฮันคยองก็ไม่ยอมทำสักที

     

    “สามปีบ้านเฮียมันยังเร็วไปอีกหรอ” ฮีชอลพูดเสียงแหลม ใบหน้าสวยหงิกง้ำลงทันใด

    “ไม่เอาน่าฮีชอล...วันนี้ฟ้าออกจะสวยอย่าอารมณ์เสียเลยนะ”

    “ไม่เกี่ยว เฮียอย่ามานอกเรื่อง เฮียจะไม่จริงจังกับฉันใช่มั้ย??

    “ไปกันใหญ่แล้ว...”

    “ฉันบอกไว้ก่อนนะว่าฉันไม่ใช่คนที่เฮียจะมาทิ้งไปง่ายๆ ฉันจริงใจกับเฮียและรักเฮียมากนะ...ฉันว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ” พูดตัดบทเมื่อเห็นอีกคนนิ่ง ฮีชอลสะบัดหน้าเดินกลับเข้าห้องไปหยิบกระเป๋ากับเสื้อโค้ท ฮันคยองผวารีบวิ่งไปจับแขนฮีชอลไว้ทันที

     

    “จะไปไหนฮีชอล”

    “ฉันจะกลับบ้าน!!

    “เที่ยงคืนเนี่ยนะ!! อย่าทำแบบนี้สิฮีชอล”

    “ฉันไม่อยากอยู่กับเฮีย ไม่อยากเห็นหน้าเฮียแล้ว!!” ฮีชอลสะบัดแขนจนหลุดจากฮันคยอง เดินกระทืบเท้าเสียงดังออกไป ตบท้ายด้วยการปิดประตูดังปัง

     

    “โธ่เอ๊ย!” ฮันคยองสบถ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ยกมือขึ้นมากุมหัว ด้วยความเครียดแบบสุดๆ

     

     

    ไม่ใช่ว่าเค้าไม่อยากแต่งงานกับฮีชอล

     

    แต่ว่าเขามีบางอย่าง...บางอย่างที่เป็นตัวถ่วงให้เขาไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับฮีชอลเป็นสามีภรรยาตามนิตินัยได้  บางอย่างที่เขายังไม่ได้บอกฮีชอล เพราะเขาไม่รู้ว่าถ้าบอกไป ฮีชอลจะรับได้ไหม ฮีชอลจะเลิกกับเขาหรือเปล่า นั่นเป็นสิ่งที่เขากลัวที่สุด เขาอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีฮีชอล

     

    ~~~My mummy??~~~

               

    เฮ้ออออออ

     

    คิดผิดจริงๆที่หนีกลับบ้านมา เช้าวันต่อมาฮีชอลถึงได้ตื่นเสียเช้า เอ่อ จริงๆไม่ได้อยากจะตื่นเช้าหรอกนะ ที่จริงแล้วน่ะ ไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืนต่างหาก นอนร้องไห้ทั้งคืนเลย ตาถึงได้บวมเป็นตากบแบบนี้ไงล่ะ ปกติเวลา 9 โมงเช้าๆ(?) แบบนี้ ฮีชอลยังคงนอนหลับสบายอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆของฮันคยองนั้นแหละ พอหนีกลับมาบ้านก็เลยต้องมานั่งปล่าวเปลี่ยวเอกาอยู่คนเดียวกลางสนามหญ้าหน้าบ้านนี่ไงล่ะ

     

                “เฮ้อออออออ~~~ ขอถอนหายใจอีกครั้ง ว่าแล้วก็ไถลเลื้อยตัวนอนหมอบไปกับโต๊ะอัลลอยด์สีขาว นี่เขาทำตัวงี่เง่าเกินไปหรือเปล่านะ?? ฮันคยองจะโกรธหรือเปล่า?? ฮันคยองจะตามมาง้อไหม??

     

                    หรือ ฮันคยองจะเห็นว่าเขาเป็นแค่ของเล่นจริงๆ??

     

    “จะถอนหายใจย่นอายุตัวเองไปถึงไหนจ๊ะ??” เสียงหวานดูมีอายุดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามืออุ่นๆที่ทาบลงมาบนหัวทุยๆ ฮีชอลเงยหน้าขึ้นมามองแล้วเรียกคนเหนือหัวด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

     

                “คุณนายแม่..”

    “ไปทำอะไรมาเนี่ย? หน้าโทรมเชียว”

    “นอนไม่หลับอ่ะสิคุณนาย”ว่าพลางเอามือเท้าคาง

    “นอนไม่หลับเรื่องอะไรล่ะ เล่าให้แม่ฟังได้ไหม?

    ฮีชอลไม่ตอบแต่ทำปากยู่ เบนหน้าหนีไปทางอื่น มองนกมองไม้ไปเรื่อย แต่คนเป็นแม่ที่เลี้ยงฮีชอลมาตั้ง 20 ปีอย่างคิมแทฮีก็ดูออก

     

    “เอาเถอะ! ไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่า แต่คงจะไม่พ้นเรื่องของฮันคยองใช่มั้ยล่ะ”

     

    “ใช่ฮะ T0T ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมฮันคยองไม่ขอผมแต่งงานสักที ทั้งๆที่เค้าก็มีทุกอย่างพร้อม ผมกับเขาก็คบกันมานานพอแล้วด้วย หรือเขากลัวสังคมจะรับไม่ได้ที่มีภรรยาเป็นผู้ชายฮะ?” ฮีชอลยอมรับและยอมสารภาพเรื่องทั้งหมดแต่โดยดี ผู้หญิงคนนี้รู้ทันเขาไปทุกเรื่องเลยจริงๆ

     

    “นี่ขนาดไม่อยากเล่านะเนี่ย” คิมแทฮีอมยิ้ม สุดท้ายฮีชอลก็เล่าให้เธอฟังอยู่ดีไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ฮีชอลทำหน้ามุ่ย เมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดเรื่องของตนไปหมดแล้ว

     

     “แม่ว่าไม่หรอก ไม่งั้นฮันคยองคงไม่คบกับหนูออกสื่อมาตั้งสามปีหรอก และถ้าเขาแคร์สังคมขนาดนั้นน่ะนะ เขาคงไม่จีบหนูตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ฮันคยองอาจจะไม่พร้อมจริงๆก็ได้ อย่าคิดมากเลยนะลูกนะ”

     

    “...”

     

    “คนเราน่ะถ้ารักกันแล้ว มันก็ต้องรู้จักให้อภัยกัน หนักนิดเบาหน่อยก็อย่าไปถือสา จะได้รักกันนานๆนะลูก จำไว้” ฮีชอลพยักหน้ารับยิ้มๆกับคำสอนของคุณนายแม่ คิมแทฮีลูบหัวลูกชายคนเดียวของเธอเบาๆด้วยความเอ็นดู ตั้งแต่เธอคลอดฮีชอลออกมา เธอก็รู้แล้วว่าเธอคงไม่ได้ลูกสะใภ้แน่ๆ ก็ในเมื่อฮีชอลออกมา มีใบหน้าสวยหวาน ตากลมโตเหมือนเธอตอนสาวๆไม่มีผิด ยิ่งโตขึ้นผิวก็ยิ่งขาวเนียน ทรวดทรงองค์เอวก็ดีกว่าผู้หญิงบ้างคนเสียอีก ถ้าฮีชอลได้รักกับผู้ชายดีๆที่ดูแลเจ้าตัวได้โดยที่ไม่หวังสมบัติ จากที่ดูๆมาผู้ชายคนนั้นก็เป็นฮันคยองนี่แหละ

     

    “แล้วมานั่งซึมอยู่แบบนี้จะได้อะไรขึ้นมาล่ะ วันนี้แม่ว่าง หนูไปช่วยแม่ทำขนมดีกว่า” พูดแล้วยิ้มไปพยักหน้าไป พยายามดึงมือลูกชายร่างบางที่นั่งแกร่วเป็นผักชีเหี่ยวๆให้ลุกขึ้น แต่ฮีชอลกลับส่ายหัวด๊อกแด๊กแล้วทำปากยื่น

     

    “ขอบายฮะ ไม่ชอบเข้าครัว ผมว่า...คุณนายว่างๆแบบนี้ เราไปช็อปปิ้งกันดีกว่าน๊า” ฮีชอลพูดอ้อนๆพลางเอียงหัวไปซบกับแขนของคิมแทฮี ถูไถไปมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ

     

    “ลูกคนนี้นี่!! = = เอ่า! ก็ได้ ตอนนี้ไปกินข้าวก่อนเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด”

     

    “เย่ๆ คุณนายแม่ใจดีที่สุดเล๊ยย!” ร่างบางหอมแก้มมารดาดังฟอด แล้วจัดการลากคิมแทฮีเข้าบ้านไปอย่างเร่งรีบ เพราะยิ่งกินข้าวเร็วเท่าไหร่ หลุยส์คอลเลคชั่นใหม่ที่หมายปองเอาไว้เมื่อตอนต้นเดือน ก็มาอยู่ในกำมือเร็วเท่านั้น!!

     

    ~~~My mummy??~~~

     

    “ลาล๊า~~” ฮีชอลฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ มีคนเคยพูดไว้ว่า ถ้าเครียดเมื่อไร ก็ออกไปช็อปปิ้ง คิมฮีชอลคนนี้ขอยืนยัน นั่งยัน นอนยันเลยว่ามันเป็นจริงซะยิ่งกว่าจริง เมื่อเช้าเค้ายังมานั่งนอยด์เรื่องฮันคยองอยู่เลย แต่พอได้ออกไปช็อปปิ้ง ฮีชอลจำเป็นต้องใช้หัวในการคำนวณว่าร้านไหนเซลล์มากกว่ากัน

     

    มือขวาโยนกุญแจรถให้คนรถที่นั่งรดน้ำต้นไม้อยู่แถวนั้น ซึ่งอีกคนก็สามารถกระโดดรับได้อย่างทันท่วงที มือซ้ายหอบถุงแบรนด์ชื่อดังต่างๆเสียพะรุงพะรัง ก่อนจะวิ่งอ้อมมาเปิดประตูให้คุณนายแม่ผู้เป็นคนจ่ายเงินให้กับของในมือทั้งหมด ก่อนที่สองแม่ลูกจะเดินจับมือควงแขนกันเข้าบ้านหลังใหญ่

     

    “คุณหนูคะ คุณฮันคยองมารอพบตั้งแต่เที่ยงแล้วค่ะ” ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน คนรับใช้ก็รีบเข้ามาบอกทันที มืออวบอ้วนเอื้อมมารับถุงจำนวนมากในมือคุณหนูของเธอ ก่อนจะโค้งทีนึงแล้วเอาของไปเก็บตามหน้าที่

     

    “สงสัยเขามาง้อแล้วมั้ง? งั้นแม่ขึ้นไปข้างบนดีกว่า” คิมแทฮีปล่อยมือของลูกชาย ใช้มือเดิมดันหลังลูกชายให้เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นพลางยิ้มให้ แล้วคุณนายแม่ของฮีชอลก็เดินขึ้นบันไดไป

     

    ~~~My mummy??~~~

     

    “นี่” เสียงแหลมบาดแก้วหูคนจะหลับจะนอนเสียเหลือเกิน และยังจะสัมผัสกึ่งนิ่มกึ่งแข็งนี่อีก จะอะไรกันหนักหนาวะคร้าบบบ!! จะให้คนจีนนอนหลับสบายๆได้ม้ายยยย!! ว่าแล้วก็ปัดสัมผัสกวนใจนั้นทิ้งซะ ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเหมือนเด็กโดนกวน ก่อนจะเริ่มกรนออกมาเบาๆ

     

    ฮีชอลอยากจะบ้า! ร่างบางหรี่ตามองคนตัวใหญ่ที่นอนเหยียดกินพื้นที่บนโซฟาบ้านของเขาไปมากกว่าครึ่ง แถมยังมากรนใส่อีก!! คนบ้าเอ๊ย!!

     

    “นี่! เฮีย” เพิ่มเสียงขึ้นอีกนิด มือที่จิ้มๆที่แก้มสากเมื่อกี้ก็เปลี่ยนมาเป็นจับไหล่แล้วเขย่าแรงๆหวังจะให้อีกคนตื่นมาคุยกัน

     

    “คร่อกกก...”

    = = คนบ้า!!!!

     

     

    เพียะ!!

     

    “โอ๊ยย! ใครมาทำไรอั๊ววะ!!” ฮันคยองที่สะดุ้งตื่นจากแรงตบของฮีชอลโวยวายเป็นภาษาบ้านเกิดลั่น ร่างสูงทำหน้าตื่น มองซ้ายมองขวาอย่างระแวง จนสายตามาป๊ะเข้ากับฮีชอลที่ยืนเท้าสะเอวมองตนอยู่

     

    “อ่าว...ฮีชอลหรอ..เอ่อ”

    “นี่ตกลงจะมาง้อหรือมาหลับเนี่ย ทำยังกับเมื่อคืนไม่ได้นอน”

    “...ก็ใช่นะสิ เฮียคิดถึงหมอนข้างนุ่มๆจนนอนไม่หลับเลยเนี่ย” นี่พูดจริงจากใจ ไม่ได้หยอดคำหวานเลยจริงๆนะ ร่างสูงลุกขึ้นนั่ง จัดการเสยผมอันยุ่งเหยิงให้เข้าที่ ก่อนจะดึงมือคนขี้งอนมานั่งข้างกัน

     

    “ฮีชอล...หายโกรธเฮียหรือยัง”

    “ยัง!” ฮีชอลตอบห้วนๆตามอารมณ์ ใบหน้าสวยสะบัดหนีไปอีกทางเหมือนเด็กๆแต่หางตาก็ยังแอบเหลียวมองคนรัก

    “ฮีชอล...ถ้าเป็นเรื่องเมื่อคืน เฮียมีเหตุผลจริงๆนะ”

    “เชอะ...เงินเฮียก็มี หน้าตาทางสังคมเฮียก็มี ทุกอย่างเฮียมีพร้อมหมดแล้ว ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมเฮียจะแต่งงานกับฉันไม่ได้” พูดไปก็หูแดงหน้าแดงก่ำไปหมด ให้ตายสิ น่าอายชะมัด พูดไปแบบนี้เหมือนว่าเขาอยากจะแต่งงานกับฮันคยองซะจนตัวสั่น ทั้งๆที่เขาอยากได้ความแน่ใจว่าร่างหนาจะไม่ไปมีใครอีกก็แค่นั้นเอง ก็ฮันคยองทั้งหล่อทั้งรวย มีคนอยากมาสมัครเป็นคุณนายตระกูลหานไม่รู้ตั้งกี่คน แค่กระดิกนิ้วทีหนึ่งก็มากันจนเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว อะไรจะเป็นหลักประกันได้ว่าฮันคยองจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นกันล่ะ

     

    นอกเสียจาก...ทะเบียนสมรส!!

     

    ฮันคยองถอนหายใจ ดวงตาคมสบตากับคนรัก ทำไมเขาจะไม่รู้ ฮีชอลแค่อยากได้หลักประกันที่เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่มีใครมาแย่งเขาไปได้ ใช่ว่าเขาจะไม่ห่วงเรื่องนี้ ฮีชอลเองก็เป็นคนสวย ใครๆก็มอง เขาเองก็แอบหวงอยู่ แต่ทำอะไรไม่ได้

     

    สงสัยต้องบอกแล้วล่ะ เหตุผลที่เขาไม่สามารถแต่งงานกับฮีชอลได้

     

    ฮันคยองคิดในใจ ก่อนจะคว้ามือคนตรงหน้าแบบที่ฮีชอลไม่ทันตั้งตัว

     

    “ถ้าฮีชอลอยากรู้เหตุผลนัก เฮียจะพาไปดูเดี๋ยวนี้เลย”

     

    ~~~My mummy??~~~
     

    Talkative :3
    เย่ๆ ได้ฤกษ์ลงฟิคยาวเรื่องแรกแล้ว ^0^ จริงๆเรื่องนี้กะไว้ว่าจะแต่งให้
    จบก่อนค่อยลง แต่ตอนนี้เครื่องกำลังร้อนค่ะ อยากให้รีดเดอร์ได้อ่านไวๆ
    แต่ไม่ต้องห่วงนะ สัญญาว่าจะเข็นให้จบแน่นอนค่ะ ช่วยคอมเม้นติชมด้วยน๊าา
    ตัวอักษรอยากจะให้เว้นมากกว่านี้ไหม ใบพลูอยากให้อ่านกันแบบสบายตานะคะ

     

     
    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×