เพราะเจ้าคือเจ้าสาวของข้า(yuri) - นิยาย เพราะเจ้าคือเจ้าสาวของข้า(yuri) : Dek-D.com - Writer
×

    เพราะเจ้าคือเจ้าสาวของข้า(yuri)

    รักวุ่นๆของเทพสมุทรสาวที่ต้องขึ้นบกเพื่อมาจับเด็กสาวตัวแสบกินความอลม่านเลยเริ่มขึ้นจนสะเทือนถึงสามภพ

    ผู้เข้าชมรวม

    353

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    353

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    14
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 ม.ค. 63 / 23:25 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ภายใต้กระโจมผ้าแพรสีฟ้าที่ปักลวดลายดอกไม้ทะเลหลากสีอย่างประณีตบรรจงร่างของผู้ทรงอำนาจแห่งท้องทะเลลืมตาขึ้นดูสิ่งตรงหน้าด้วยความเกียจคร้านเต็มทน

    ดวงเนตรสีฟ้าไพลินดุจดังอัญมณีล้ำค่ากระพริบขับไล่ความง่วงงุนออกไปแม้จะยากเต็มทีพอขยับร่างกายลุกขึ้นนั่งพับเพียบและดึงผ้าห่มหนาที่คลุมตัวออกก็เผยร่างเปล่าเปลือยขาวสร่างประหนึ่งรูปสลักเทพีแห่งความงามความเยาว์วัย..

    เรือนผมสีเงินที่ยาวยักโศกถึงข้อเท้าบัดนี้ถูกเจ้าตัวรวบมาปิดเนื้อตัวตนเองต่างอาภรณ์หูก็เงียบฟังเสียงเดินที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ..

    ค่ำคืนนี้ข้าต้องตื่นเพื่อมารับเจ้าสาวคน177หรือ?

    นางนึกอย่างเบื่อหน่ายพอสูดดมกลิ่นกำยานรัญจวนพันปีที่ไม่เคยมอดก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเเต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายนักเท่าที่ควร

    .ค่ำคืนนี้อีกยาวไกลแต่ในใจนางหาได้นึกถึงร่างของเจ้าสาวคนใหม่ในค่ำคืนนี้ไม่

    มันดันไปนึกถึงแม่เด็กกระโปโรที่บังอาจมาขโมยเสื้อในมุกของรักของหวงของตนไปอย่างร้ายกาจ!!

    เฮอะ..ข้าขอสาปส่งเจ้าอย่าได้มีบุรุษผู้ใดปราถนาเจ้าไปเป็นเมียเลยเจ้าเด็กนรกส่งมาเกิดเอ๋ย!!!

    "เจ้าสาวมาถึงแล้วพะยะค่ะ!! "

    เสียงราชครูหอยเม่นประกาศหน้าห้องซึ่งทำให้นางนำตัวเองออกมาจากอาการโกรธแค้นอาฆาตมาชั่วคราวและตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    "ให้เข้ามา...แล้วพวกเจ้าก็ไสหัวออกไปด้วยให้หมดอย่าคิดบังอาจมาแอบดูข้าเชียว"

    ห้ามได้ก็เท่านั้นแหละ

    "ถ้าข้าจับได้จะสาปแช่งให้เป็นโลมาเกยตื้นเสียให้สิ้นทั้งโครต! "

    มันก็อยากมาฝืนคำสั่งอยู่ดี..

    พอจบประโยคคำสั่งกึ่งๆ ขู่ฆ่าแทนที่เหล่าอยู่ภายนอกจะหวาดกลัวกลับนึกเอ็นดูในทีเพราะองค์อยู่หัวนั้นไม่ได้คิดอยากจะทำจริงอยู่แล้ว

    ทรงน้ำพระทัยมีเมตตาจะตายไป

    ..ตายในนิยามนี่คือตายยกเมืองล้างทั้งโครตเผ่าพันธุ์นะ

    "ถวายเพคะฝ่าบาท"

    เสียงหวานปานระฆังทองดังขึ้นพร้อมกับประตูทวารีเปิดอ้าออกเสียงฝีเท้าของผู้เข้ามากำลังดังอย่างเนินนาบใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

    มินานท่านพระธิดาสมุทรก็ได้ยลโฉมเจ้าสาวของตนเองนางรูปโฉมเพริมเพราน่าเอ็นดูดีนักใบหน้าที่ถูกผ้าแพรบางๆ สีขาวคลุมพอลองมองดีๆ ก็เป็นโฉมงามผู้หนึ่งองค์เอวออดแอ้นอรชรดุจดังต้นอ้อลู่ลมนั้นคงรับเเรงกระแทกได้ดี

    ..เอิ่มถึงหน้าอกส่วนนั้นจะเล็กไปบ้างแต่ก็มีนู่นๆ ให้รู้ว่ายังมี

    ‘สงสัยจะยังไม่โตมั้งนะ’

    "เจ้านั่นมีนามว่าอะไร? "

    "....."

    เงียบ..ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากอีกคนทำเอาธิดาสมุทรเงยหน้าขึ้นมองบนอย่างขอไปที

    "ข้าถามว่าเจ้ามีนามว่าอะไร? "

    "..."

    สตรีในชุดเจ้าสาวคุกเข่าตรงหน้าคนเป็นใหญ่ค่อยๆ หมอบคำนับลงที่พื้นอย่างงดงามสมกับการผ่านการอบรมมานานนับสิบปี

    "เซรานี ลูเซีย พะยะค่ะฝ่าบาท"

    "ชื่อเพราะดีจัง"

    "ล่ะๆ แล้วฝ่าบาทจ้าวสมุทรล่ะเพคะ? "

    เซรานีเอ่ยถามหลังจากถูกคนตรงหน้าดึงมานั่งร่วมกันที่แท่นบรรทมพร้อมกับเปิดผ้าคลุมออก

    เมื่อเห็นหน้าเจ้าสาวชัดๆเจ้านางคนงามก็รู้สึกว่างามมากแต่น้อยกว่าคนแรกนิดหน่อยแต่นามสกุลลูเซียคือกันนางคงจะเป็นย่าหลานกันล่ะมั้งนะ

    ถ้าแบบนั้นล่ะก็...

    บรรลัยแล้วไงล่ะ

    "ก็อยู่ตรงหน้าเจ้ายังไงเล่า"

    "!!! "

    "เป็นอะไร..หืม"คนสูงวัยกว่านับพันปีได้เชยคางเจ้าสาวของตนขึ้นมาสบตาริมฝีปากบางเฉียบเสียยิ่งกว่ากลีบดอกแอปเปิ้ลยักยิ้มอ่อนหวานความงามของนางต่อให้อยู่บนบกก็อาจจะเหนือเสียยิ่งกว่าเซรานีหลายขุมนัก

    คาดไม่ถึงว่าบนโลกใบนี้จะมีสตรีใดมีเครื่องหน้าสวยเท่านี้มาก่อน

    "อ๋อข้านึกออกแล้วบนโลกของเจ้านั้น..ชายหญิงต้องคู่กันสินะหากเพศเดียวกันรักกันเข้าจะเป็นนอกรีต"

    "พะ..เพคะ"

    ตอนนี้เซรานีมิอาจสู้สายตางามพิสุทธิ์ได้เลยมันไม่ใช่ความรู้สึกริษยาหากแต่ใจสั่นระรั่วไปหมดนี่สิ!

    หนะ..นี่ข้ากำลังจะมีคืนแรกกับสตรีผู้มีความงามราวเทพธิดารึนี่

    "เอาล่ะตอนนี้ถ้าไม่ชินล่ะก็..ก็เริ่มจากถอดเสื้ออันรุ่มร่ามของตนเองออกเสียสิ"

    "0_0"

    "เร็วเข้า..หรือจะให้ข้าถอดให้เองเล่า"

    จบคำคนเป็นพระสวามีก็ลุกขึ้นยืนเดินไปที่ห้องอาบน้ำที่อยู่ไม่ไกลใต้มหาสมุทรแห่งนี้ใช้แสงสว่างจากไข่มุกราตรีนับแสนเม็ดแทนมันจะทำให้ส่องสว่างดุจแสงตะวันแม้ว่าจะอุ่นไม่เท่าก็เถอะส่วนวังของจ้าวสมุทรก็มีแก้วมาติเน่ที่สามารถทำให้สัตว์น้ำเป็นมนุษย์ได้อยู่ด้วยเหตุนี้สายเลือดเทพไพโซดอน*

    อย่างนางจึงสามารถเป็นมนุษย์ได้รวมถึงบริวารเหล่าราชวงศ์มหาสมุทรทั้งหมดด้วย..

    เมื่อเซรานีปลดชุดที่ตนใส่จนหมดก็ไม่ลืมแกะกลุ่มผมออกจากมงกุฎมุกรุ่มร่ามค่อยๆสอดนิ้วตัวเองต่างหวีสยายเส้นเกศาที่มีสีดำดุจท้องนภายามราตรีลงจนมันยาวคลุมแผ่นหลังทั้งหมดก่อนจะก้าวเข้าไปยังห้องอาบน้ำที่ท่านจ้าวนำไปก่อนนั้นแล้ว

    "พวกนั่นจับเจ้าโยนลงมาเจ็บหรือเปล่า? "

    "ไม่เลยเพคะ"

    "งันเหรอ.."ใบหน้าจ้าวสมุทรตอนนี้ไม่บึ้งก็คงแปลกแล้วนางพาเจ้าสาวลงไปแช่น้ำอุ่นในอ่างที่เป็นเปลือกหอยมุกสีขาวขนาดยักษ์สามารถแช่ได้สองคน

    วงหน้าของเซรานีตอนนี้ถูกล้างเจ้าเครื่องประทิมไปเสียสิ้นแล้วเหลือแต่ความงามธรรมชาติที่งามงดหากก็เย้ายวนในเวลาเดียวกันนางมนุษย์น้อยกำลังทำหน้าที่เอาผ้าแพรนุ่มถูแผ่นหลังให้คนตัวโตกว่าอย่างเต็มใจ

    "เจ้ามีต้นตระกูลชื่อเมอร์รีย่าหรือเปล่า? "

    "เป็นท่านย่าของหม่อมฉันเพคะ"

    "อื้ม..แล้วคนในครอบครัวเจ้าบอกหรือเปล่าว่านางคือเจ้าสาวคนที่หนึ่งของข้าน่ะ"

    "ไม่เลยเพคะ"

    "ข้ารักนางมากๆ เพราะนางคือคนที่สวยมากคนนึงเสียดายแท้ๆ ที่นางดันแก่แล้วตายจากข้าในวันที่นางอายุแปดสิบเก้าปี"

    "พระองค์.."

    เซรานีเอ่ยเพียงเท่านั้นจริงๆ เมื่อพบว่าคนตรงหน้ามีศักดิ์มิต่างจากท่านปู่ของนางเองไม่คิดเลยว่าจ้าวสมุทรจะมีอารมณ์อ่อนไหวเหมือนดังชาวมนุษย์

    "วันนี้เจ้าไม่ต้องถวายตัวให้ข้านะรุ่งขึ้นข้าจะให้ราชครูเม่นแต่งตั้งเจ้าเป็นเจ้าหญิงน้อยแทน"

    "เป็นพระมหากรุณาธิคุณเพคะ"

    "ใช้ศัพท์แสงสามัธเถิดอย่าเอาวิสัยของพวกมนุษย์เดินดินมาใช้กับข้าเลย"

    "เจ้าค่ะท่านปู่"

    "........"

    "ทะๆ ท่านจ้าวสมุทร"

    "ข้าชื่อว่าคลาเมล่าเรียกปู่แก่ไป--เรียกว่าท่านจ้าวสมุทรก็ห่างเหินเอาไงดีนะ"

    "เรียกท่านเมล่าดีมั้ยเจ้าคะ"

    "อื้ม..ก็ดี..หลานคนงามของข้า"

    ท่านหญิงคนงามที่ตอนนี้กลายเป็นปู่คนไปแล้วยิ้มตรงมุมปากก่อนจะให้เจ้าหลานถูกหลังให้ตัวเองต่ออย่างน้อยๆการตื่นของนางในรอบนี้มันก็ไม่แย่ซ่ะทีเดียวหรอกนะ..

    อา..เจ้าแพนวันพรุ่งนี้ข้าขึ้นบกไปหาเจ้าดีหรือไม่หนอ~

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น