นางฟ้าหรือนางมารร้าย - นางฟ้าหรือนางมารร้าย นิยาย นางฟ้าหรือนางมารร้าย : Dek-D.com - Writer

    นางฟ้าหรือนางมารร้าย

    ฉันอาจจะเป็นคนที่ดีในสายตาหลายๆ คน และอาจจะเป็นนางมารร้ายในสายตาคนบางคน ไม่มีใครหรอกนะที่รู้ทั้งรู้ว่ามันผิดแล้วอยากทำ....

    ผู้เข้าชมรวม

    580

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    580

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    3
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ต.ค. 48 / 13:40 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ความฝันของหญิงสาวเกือบทุกคน ประมาณ99.99 % คงเป็นเรื่องแต่งงาน  หลายๆ คนวาดภาพงานแต่งของตัวเองเอาไว้  วาดภาพเจ้าบ่าวของตัวเอง  ออกแบบชุดที่จะใส่  รูปแบบงาน ของชำร่วย  ฯลฯ  ฉันก็เหมือนกัน
           แต่ฉันคงไม่ได้แต่งงานแล้วตั้งแต่.......

           ฉันชื่อ พิม  หลายคนมักบอกกับฉันว่าคนชื่อพิมน่ารักทุกคนเลย  ยังไงคุณก็ลองสังเกตดูนะว่าจริงหรือเปล่า???  ฉันเป็นพนักงานอยู่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง  ที่ทำเกี่ยวกับการโฆษณา  ฉันเป็นคนไม่ค่อยพูดหรอกนะ  และด้วยเหตุนี้มั้ง  หลายๆ คนมักมองว่าฉันหยิ่งซึ่งเมื่อคบกันจริงๆ แล้วเพื่อนๆ มักบอกว่าไม่ใช่เลย  นิสัยส่วนตัวของฉันเป็นพวกรักสงบ ไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใคร ว่างๆ ก็มักจะไปทำบุญที่บ้านคนตาบอด ไปพูดคุยกับเด็กๆ คุณลองคิดดูซิว่าถ้าอยู่ๆ ตื่นขึ้นมาแล้วโลกมืดไปหมด ฉันก็เลยคิดว่าการที่เราไปคุยเล่นกับเขาก็ทำให้เขารู้สึกว่าไม่โดดเดี่ยว จนเพื่อนๆ ฉันมักบอกว่าฉันเป็นแม่พระเสียจริง น่าจะไปประกวดนางสาวไทย ^_^ น่าสนนะเนี่ย!!!!  จริงๆ ฉันเป็นคนพูดน้อยแต่เวลานำเสนองานจะพูดเยอะนะ  เป็นคนเก็บความลับเก่งพอตัว  และเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อนร่วมงานก็หลายครั้ง(โดยเฉพาะเรื่องหัวใจ)  และนี่คงเป็นเหตุผลของเรื่องราวทั้งหมด

           \"พิม  เลื่อนนัดเสนองานเป็น บ่าย 2 นะ ทางผู้ว่าจ้างขอเลื่อนน่ะ\"
           \"อืม...แล้วแป้งล่ะคะพี่ไหม  แป้งยังไม่กลับมาเลย\"
           \"เราก็คงต้องลุยเดี่ยวแล้วล่ะ  เตรียมตัวให้พร้อมนะ  อีก 20 นาทีเจอกันที่ห้องประชุมเล็ก\"
           \"ค่ะ\"ก็จะให้ตอบอย่างไรได้ล่ะ  ฉันเตรียมตัวอยู่เกือบ 20 นาทีก็รีบไปห้องประชุมเล็ก เมื่อเข้าไปฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ก็ในห้องเขานั่งกันพร้อมหมดแล้ว  นี่ฉันมาช้าหรือเนี่ย
           \"นี่ พิมค่ะ  เป็นคนคิดรูปแบบงานในครั้งนี้  ส่วนนี่คุณพงษ์  และคุณกริช เจ้าของงานในครั้งนี้\"พี่ไหมแนะนำฉัน  จากนั้นฉันก็เริ่มอธิบายงานต่างๆ      งานโฆษณาครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับงานแสดงหนังสือที่ใหญ่พอควร  ก็ใช้เวลาในการอธิบายงานค่อนข้างนาน ออกมาก็เย็นมากแล้ว พี่ไหมจึงชวนชายหนุ่มทั้งสองทานข้าวด้วย  มันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรหากแต่นายกริช ทำทีเป็นไม่เต็มใจ รีบกลับ ทำให้พงษ์ด้องกลับด้วย  ซึ่งจะว่าไปก็ดีแล้ว เพราะฉันไม่ค่อยชอบหน้าตากริชที่ว่านั่นเท่าไหร่นัก  ตอนนำเสนองานก็จ้องเอาๆ อย่างกับจะจับผิดอะไรสักอย่าง
           การทำงานผ่านไปอย่างราบรื่น  ไม่ใช่มีฉันคงเดียวหรอกนะที่ทำ  ก็มีเพื่อนร่วมงานเยอะเหมือนกัน  เรียกว่าก่อนวันงานน่ะ วุ่นมากๆ เลย คนเดินกันควักไขว่ทั่วงาน  แล้วฉันกับพี่พงษ์และพี่กริชก็พูดกันมากขึ้น แต่ท่าจะพูดให้ถูกคือ  พี่พงษ์พูดเสียส่วนมาก มีฉันกับพี่กริชเป็นคนฟัง  ความไม่ชอบขี้หน้าของฉันที่มีต่อพี่กริชก็ลดลง และที่ฉันเพิ่งรู้คือ  เขามีความคิดอะไรหลายๆ อย่างเหมือนฉัน  อย่างงานที่จัดคราวนี้  เขาเล่าให้ฟังทีหลังว่า  ที่มองฉันอย่างกับจับผิดนั่น เพราะว่างง ว่าฉันคิดได้อย่างไร ตรงใจเขามาก ...... เป็นอย่างนั้นไป
           และที่เราสนิทกันมากขึ้นเพราะว่าทางกลับบ้านของฉันกับเขาเป็นทางเดียวกันนั่นเอง พี่กริชก็มักจะมาส่งฉันที่บ้านเสมอ  ฉันเช่าบ้านอยู่คนเดียวแหละ  เพราะว่าพ่อกับแม่ฉันอยู่ต่างจังหวัด  เวลาที่อยู่ในรถเราก็มักจะคุยกันในหลายๆ เรื่อง  เพิ่งรู้ว่าเขาก็พูดเก่งเหมือนกันนะเนี่ย  นานๆ ฉันจึงจะแสดงความเห็นเสียที  เวลา 1 เดือนที่ต้องทำงานร่วมกันทำให้เราสนิทกันมากขึ้น พี่กริชมักมีเรื่องมาให้ฉันช่วยคิดเสมอ ไม่ว่าเรื่องงาน หรือเรื่องเพื่อนเขา แบบว่าขอความคิดเห็นของฉันเพื่อสนับสนุนความคิดของเขานั่นเอง
           เพื่อนที่ทำงานฉันมักแซวว่าฉันกับพี่กริชเป็นแฟนกัน จริงๆ ก็หวังอยู่นะ เพราะฉันก็รู้สึกดีๆ กับพี่กริช  เรียกว่าชอบมากพอดูเลยล่ะ
           แต่แล้ว....
           \"พี่พงษ์  พี่กริชมีแฟนแล้วจริงหรือเปล่า??\"ฉันตัดสินใจถามพี่พงษ์หลังจากได้ยินเรื่องนี้มานานพอควร
           \"อืม  เพิ่งรู้เหรอ\"
           \"อืม\"ฉันจำได้ว่าตอบไปเพียงเท่านั้นจริงๆ ในหัวก็คิดตลอดว่า ทำไมพี่กริชไม่บอกฉันเลย
           ฉันกับพี่กริชก็ยังสนิทกับเหมือนเดิม  ยิ่งสนิทกันฉันก็ยิ่งชอบพี่กริชมากขึ้น ก็คิดเสมอนะว่าฉันคงคิดไปเองฝ่ายเดียว ก็ขอรักเขาข้างเดียวอย่างนี้ต่อไปแล้วกัน

           วันนี้พี่พงษ์และพี่กริชพาฉันมาเลี้ยงข้าว ฉลองที่งานสำเร็จออกมาด้วยดี  ทั้งที่งานเสร็จไปนานแล้วนะ  แต่เพิ่งว่างพร้อมกันก็วันนี้แหละ  วันนี้เรากินเบียร์กันด้วย  ปกติฉันเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์  แต่เมื่อพี่ๆ ขอร้อง  ก็ดื่มไปนิดเดียวเท่านั้น  พี่ทั้งสองซิ ที่กินเอาๆ อย่างกับน้ำเปล่า เรากินข้าวไปคุยไป จน 5 ทุ่ม ก็ต้องแยกย้าย  เหมือนเดิมที่พี่กริชต้องไปส่งฉันที่บ้าน  แต่ระหว่างที่อยู่ในรถพี่กริชก็เล่าเรื่องครอบครัว กับเรื่องงานให้ฉันฟัง  วันนี้รู้สึกพี่กริชเครียดมาก มิน่าถึงได้กินเบียร์อย่างกับน้ำอย่างนั้น  เราแวะพักในสวนสาธารณะ เพราะพี่กริชบอกว่าอยากสูดอากาศเย็นๆ  พอมาถึงหน้าบ้านฉัน  พี่กริชก็ยังพูดเรื่องหนักหัวแกอยู่  แล้วก็ไม่ยอมลงรถด้วย  พอฉันลงรถไปหันกลับมาดู  อ้าว.....ฟุบคาพวงมาลัยเสียแล้ว  ฉันจำเป็นต้องพยุงพี่กริชเข้าบ้าน หนักมากๆๆๆๆ  ที่เขาว่าคนเมาจะตัวหนักกว่าปกตินี่ถ้าจะจริงซะมั้ง
           ระหว่าวที่ฉันแบกพี่กริชเข้าบ้าน ก็เกิดเหตุขึ้น
           \"ขอหอมแก้มหน่อยซิพิม\"พูดจบไม่ฟังคำตอบฉันก็หันหน้ามาหอมแก้มฉันเสียแล้ว  ฉันจะทำไงได้ ก็อึ้งซิ
           อย่าถือคนบ้า  อย่าว่าคนเมา
           \"พิมน่ารักจังเลย\"
           เขาว่าคนเมามักจะพูดความจริง
           \"พี่ชอบพิมนะ  พิมชอบพี่ไหม\"พูดเสร็จก็หันมาหอมแก้มฉันอีกรอบ
           .......
          
           รู้สึกเมื่อยตัวจังเลย  กี่โมงแล้วเนี่ย
           ฉันลืมตาตื่นมาดู  ฟ้ายังมืดอยู่มีแสงสลัวๆ จากไฟข้างนอกเข้ามาเท่านั้น ฉันจึงมองหามือถือเพื่อจะดูเวลา  แต่แล้วก็พบกับสิ่งที่น่าตกใจ
           \"อรุณสวัสดิ์\"พี่กริชนอนยิ้มแฉ่งอยู่ข้างๆ ฉันนั่นเอง
           ฉันใช้เวลาประมาณ 3 วินาทีนึกถึงเรื่องต่างๆ
           ใช่แล้ว....เมื่อคืนพี่กริชเมา  แล้วฉันก็พาเข้าบ้านมา พี่กริชบอกว่าชอบฉันแล้วก็แอบหอมแก้มฉันตั้ง 2 รอบ แต่ถ้าฉันจำไม่ผิดฉันจับพี่กริชนอนที่โซฟาห้องรับแขกนี่หน่า แล้วทำไมถึงมานอนบนที่นอนฉันอย่างนี้ล่ะ
           \"พี่กริชทำไมมานอนตรงนี้ล่ะ\"ในเมื่อหาคำตอบเองไม่ได้ฉันก็ถามเสียเลย
           \"ก็อยากมานอนดูหน้าพิมไม่ได้เหรอ\"พี่กริชยิ้มแบบที่ฉันต้องเขิน
           \"กี่โมงแล้วเนี่ย\"ฉันรีบเปลี่ยนเรื่อง แล้วพลิกตัวหันหลังให้พี่กริช ก็เขินนี่หน่า  แต่สงสัยฉันจะคิดผิด
           พี่กริชกอดฉันนะซิ
           \"พี่กริช\"ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไร  ก็ตกใจอยู่น่ะ แล้วก็ตื่นเต้นด้วย ก็ฉันรู้สึกถึงแผ่นอกที่สัมผัสหลังฉันอยู่น่ะซิ เสียงหัวใจของพี่กริช แล้วนี่พี่กริชจะได้ยินเสียงหัวใจฉันหรือเปล่านะ
           \"พี่ชอบพิมนะ  พิมชอบพี่หรือเปล่า\"พี่กริชกระซิบถามฉัน  ใจฉันยิ่งเต้นแรงใหญ่
           \"คือ......\"ฉันนึกคำไม่ออก ก็เลยเงียบไป
           \"นอนต่อดีกว่า  ยังไม่เช้าเลย.......พี่ขอกอดพิมไว้อย่างนี้นะ\"พี่กริชคงเห็นฉันเขินมั้ง เลยบอกให้นอน แต่กอดไว้อย่างนี้ใครจะหลับได้ล่ะ  แต่คนที่กอดฉันอยู่คงไม่รู้สึกอย่างฉัน  ไม่นานฉันก็รู้สึกถึงการหายใจอย่างสม่ำเสมอ แปลว่าหลับเสียแล้ว
           ละเมอหรือเปล่าเนี่ย???
          
           อุ่นดีจัง แต่ทำไมรู้สึกหนักๆ
           แล้วฉันก็ได้คำตอบ  ก็พี่กริชยังคงกอดฉันอยู่เหมือนก่อนนอน หากแต่ต่างกันคือ ฉันพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับพี่กริชเมื่อไหร่เนี่ย??? ตอนนี้ฉันกำลังหายใจรดหน้าอกเขานะเนี่ย ฉันรู้สึกว่าหน้าฉันร้อนขึ้นมาทันใด
           \"ตื่นแล้วเหรอ\"พี่กริชทักฉันแล้วก็จูบลงที่หน้าผากฉันเสียอีก  ฉันยิ่งไม่กล้าเงยหน้าขึ้นใหญ่เลย ได้แต่พยักหน้าอยู่ในอ้อมกอดเขา ก็จะให้ทำยังไงล่ะ??
           \"ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวไปทำงานสาย  พี่ก็จะกลับไปอาบน้ำบ้านเหมือนกัน  แล้วพี่จะโทรหานะ\"พูดไปก็พยุงฉันลุกนั่ง พอพูดจบก็หอมแก้มฉันอีกทีแล้วก็ออกห้องไป  ฉันนั่งแข็งเป็นหินจนได้ยินเสียงรถพี่กริชขับออกไป ก็พยายามลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
           ฉันฝันไปหรือเปล่าเนี่ย????
          
           หลังจากวันนั้น ฉันรู้สึกว่าพี่กริชเปลี่ยนไป เอาใจใส่ฉันและมักจะมีคำพูดหวานๆ มาให้เสมอ แต่เป็นเวลาที่เราอยู่กันสองคนเท่านั้นนะ และพักหลังด้วยเหตุที่พี่พงษ์ไม่ค่อยว่าง ทำให้เรามักไปไหนมาไหนด้วยกัน 2 คนเสมอ
           นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกชอบพี่กริชมากขึ้น เรียกว่า รัก เลยแหละ
           ฉันรู้สึกว่าฉันรักพี่กริชอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยมีแฟนนะ ฉันเคยมีแฟน เคยมีคนที่ชอบ  แต่ไม่เหมือนกับพี่กริช  ทั้งที่ฉันก็รู้ว่าพี่กริชมีแฟนแล้ว  แต่เหมือนความรักทำให้คนตาบอดจริงๆ  ความสัมพันธ์ของเราเป็นไปได้ด้วยดี  เรียกว่าดีมากเลย  ฉันไม่เคยคิดเลยว่าพี่กริชก็ชอบฉันเหมือนกัน  และยิ่งไม่คิดว่าฉันจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้  
           ฉันกับพี่กริชมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันเสียแล้ว
           นั่นคือสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึ้น  และฉันจะกล้าทำ  วันนั้นอาจเป็นเพราะบรรยากาศและอะไรก็ไม่รู้ผลักดันให้เราทำสิ่งนั้น  ฉันจะเป็นนางมารร้ายเกินไปหรือเปล่าถ้าฉันบอกว่าฉันไม่รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น  แม้จะรู้สึกผิดต่อแฟนพี่กริชบ้าง  สิ่งที่ทำให้ฉันยังเชื่อมั่นในความคิดของฉันคือ พี่กริชมักบอกเสมอว่ารักฉัน
          
           ความรักทำให้คนตาบอดจริงๆ
           เมื่อมีครั้งแรกก็ย่อมมีครั้งที่สอง

           เมื่อก่อนฉันไม่เคยใส่ใจกับสองข้อความนี้ ไม่เคยคิดจริงจัง เคยคิดด้วยว่า  ความรักจะทำให้เราตาบอดได้อย่างไร คนเรามีสมองย่อมคิดพิจารณาสิ่งต่างๆ ได้ ส่วนประโยคที่สอง ฉันว่าถ้าเรารู้ว่ามันผิดเราย่อมไม่อยากทำอีกแน่ๆ
           แต่แล้ว  ณ วันนี้  สองข้อความนี้เป็นสิ่งที่ฉันเชื่ออย่างสนิทใจ เรียกว่า  ผงเข้าตาตัวเองถึงจะรู้สึก  หลังจากนั้นเราก็มีอะไรกันอีกหลายครั้ง  แม้ฉันจะรู้ว่าจริงๆ แฟนของพี่กริชนั้นอยู่ในฐานะคู่หมั้นแล้วก็ตาม  แต่ทำอย่างไรได้  ในเมื่อฉันรักพี่กริชอย่างหมดหัวใจ  พี่กริชก็ยังคงดีกับฉันเสมอต้นเสมอปลาย  ฉันเคยคิดว่าวันที่พี่กริชแต่งงานคงเป็นวันที่ฉันกับพี่กริชต้องเลิกกัน  หากแต่ไม่ใช่เลย พี่กริชยังคงเหมือนเดิมทุกอย่าง  ยังโทรมาหา และเอาใจใส่ฉันตลอด  รวมถึงความสัมพันธ์ของเราด้วย   ตอนนี้สถานะของฉันก็คงไม่ต่างอะไรกับเมียน้อยเสียล่ะมั้ง
           หลายๆ ครั้งที่ฉันมักได้ยินคนพูดหรือว่าด่าคนที่เป็นเมียน้อย  ฉันอยากรู้ว่าทำไมไม่ลองหันมาดูจิตใจเมียน้อยเสียบ้าง  ไม่มีใครหรอกนะ ที่อยากทำผิด  หากแต่ความรักมันห้ามกันไม่ได้ แถมยังเป็นความรักที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ จะแสดงออกให้คนอื่นเห็น จะบอกใครก็ไม่ได้ จิตใจของเมียน้อยล่ะ??? การที่ต้องรับรู้ว่าคนที่ตัวเองรักไปนอนกับคนอื่น  อยู่กับคนอื่น  ใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตอยู่กับคนอื่น คุณจะรู้สึกอย่างไร  บางทีการที่ไม่รู้ว่าคนรักของตัวเองมีคนอื่นน่ะดีที่สุดแล้ว อย่างที่โบราณว่า ความจริงบางอย่างไม่รู้จะดีกว่ารู้
           บางครั้งที่ฉันก็คิดว่า ทำไมฉันไม่ไปบอกแฟนพี่กริชเสียเลยว่าฉันกับพี่กริชมีอะไรกัน เผื่อว่าแฟนพี่กริชจะทำใจไม่ได้แล้วเลิกกับพี่กริชเสีย ฉันก็จะได้พี่กริชมาอยู่กับฉัน แต่ฉันกลัวว่าการทำอย่างนั้นอาจทำให้ฉันเสียพี่กริชไปด้วย
           ตอนนี้  ความฝันเรื่องแต่งงานของฉันก็คงไม่มีทางได้เกิดขึ้น  ไม่มีทางเป็นจริง
          
           ในเวลานี้ ฉันอยากลองถามคุณดูว่า ตกลงฉันเป็นนางฟ้าใจดีที่รู้ทั้งรู้ว่าคนที่ตัวเองรักมีอะไรกับคนอื่นก็ยังรักเขายอมให้เขาทุกอย่าง ยอมปิดเรื่องความรักของเรา  หรือฉันเป็นนางมารร้ายที่ทำลายครอบครัวหนึ่งโดยที่เธอคนนั้นไม่รู้ตัวกันแน่????

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×