ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [LOOP&GAME I] THE REACTION LOOP (YAOI)

    ลำดับตอนที่ #2 : LOOP STORY : "RESTART" [CHAPTER 01]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 45
      0
      11 ส.ค. 57

    "RESTART"





     

    น้องๆ ครับมาถึงแล้วจัดแถวให้เรียบร้อยนะครับ สัตว์แพทย์นั่งตรงนี้นะครับ…” เสียงพี่.. อะไรสักอย่าง พอดีผมไม่สนใจ ก็มันไม่ใช่เรื่องของผมนี่ ไอ้บ้านั่นกำลังแหกปากใส่โทรโข่งบอกให้นักศึกษาแพทย์สาขาสัตว์แพทย์ปีหนึ่งมารวมตัวกันที่ลานคณะฯ เพื่อจัดแถว

    ทุกอย่างตกอยู่ในความวุ่นวาย ร้อนก็ร้อน คนก็เยอะ เสียงก็ดัง ผมเกลียดอะไรที่มันไม่เป็นระบบและยุ่งยาก

    มันทำให้ผมหงุดหงิด

    เวลาผ่านไปสักพัก ไม่นานความเป็นระเบียบก็เกิดขึ้น พี่สต๊าฟว๊ากก็เริ่มพูดถึงกฎระเบียบ การแต่งกาย การมีสัมมาคารวะกับรุ่นพี่ ฯลฯ จนผมเริ่มเบื่อและใกล้จะหลับเต็มที - - ก็คนมันนอนไม่พอนี่ครับ งานพิเศษให้แน่น ผมไม่ใช่ลูกคนรวยสักหน่อย

    ..ครับ พี่ขออธิบายกฎเพียงเท่านี้ ขอให้น้องทุกคนมีความสุขกับชีวิตมหาลัยครับ ต่อจากนี้พี่ขอให้ประธานรุ่นมาพูดคุยกับน้องๆ แทนนะครับ กล่าวจบพี่แว่นหน้าตาแบบฉบับนักศึกษาแพทย์ตามตำราก็เดินหายออกไป แล้วกับมาแทนทีด้วยผู้ชายอีกคน

    ชายอีกคนที่เดินออกมาหน้าตาดีราวกับหลุดออกมาจากแม็กกาซีน สาวๆ หลายคนในสาขาพากันกรี๊ดกันเกรียวกราว.. ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมสาวๆ ถึงพากันกรี๊ดปรอทแตกขนาดนี้ ก็เพราะคุณพี่ประธานรุ่นดันเป็นนายแบบควบด้วยนักแสดงที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้

    สวัสดีครับน้องๆ ปีหนึ่งทุกคน พี่ชื่อพี่เฟรชชี่นะครับ อยู่ปี สาขาสัตวแพทย์” พี่เขาเดินออกมาพร้อมแผ่ออร่าความหน้าตาดีมาด้านหน้าแล้วเริ่มแนะนำตัวตามปกติ

    ผมจำได้ว่าเคยไปแอบยืนอ่านนิตยสารฟรีตามร้านสะดวกซื้อ ในคอลัมน์ลงว่าพี่แก่ชื่อว่า เฟรช’ เฉยๆ แต่ด้วยความกระแดะพี่มันเลยเติม ชี่

    ...แล้วผมจะไปคิดเล็กคิดน้อยกับชื่อพี่มันทำไมเนี่ย...

    อย่างที่พี่โอเพิ่งพูดเมื่อกี้นะครับว่าการเรียนของสาขาเราค่อนข้างหนักทีเดียว หวังว่าน้องๆ ทุกคนจะตั้งใจเรียน และพี่ก็ยังหวังอีกว่า.. พี่เฟรชเว้นจังหวะการพูดไว้นิดหนึ่งเหมือนกับว่าอยากให้พวกปี 1 ได้ลุ้นว่าพี่แกจะพูดเริ่มสำคัญอะไรต่อ

    ..แต่ทว่าคำที่พี่เฟรชพูดออกมานั่นกลับทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกทรยศหักหลังกับภาพลักษณ์ที่เขาสร้างขึ้นก่อนหน้านี้..

    พวกมึงคงไม่ทำอะไรให้รุ่นพี่แบบพวกกูเดือดร้อนนะครับเจอกันรับน้องเย็นนี้นะครับที่รัก!” จบคำพูดกระชากใจสาวๆ ในสาขากับความกวนตีนหน้าตายก่อนจะเดินหันหลังล้วงกระเป๋ากางเกงผิวปากอย่างเท่จากไป..

     


     

    หลังเลิกเรียน พวกผมก็โดนต้อนให้ไปรวมตัวที่หน้าตึกคณะเพื่อรับน้อง พวกรุ่นพี่ให้ผมนั่งกันกลางสนามหญ้าที่ไม่มีต้นไม้บังแดดสักต้น ในขณะที่พวกเขานั่งกันอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนอย่างร่มเย็น ออกซิเจนโคตรจะเพียงพอ แต่พวกผมต้องนั่งแย่งออกซิเจนกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ไอ้คนข้างหลังแทบจะนั่งหายรดต้นคอผม แสนอึดอัด แสนเบียด แสนจะร้อน และแสนจะหงุดหงิด!

    เอ้าๆ จะเหลือที่ให้พ่อคุณมานั่งเหรอครับ? เขยิบเข้ามาอีก!” เสียงพี่ที่เป็นสต๊าฟว๊ากสักคนแหกปากขึ้น อยากจะบอกว่า มึงไม่เห็นเหรอครับ? นี่นั่งกันแทบจะไปขี่คอคนข้างหน้าแล้วเฮ้ย!

    ระหว่างที่กำลังแอบด่าพวกพี่สต๊าฟว๊ากอยู่ในใจ อยู่ดีๆ ก็มีคนสะกิดหลังของผม

    นายๆ ชื่อไรอ่ะ คนถามส่งยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร

    อ้อ เราชื่อ..” ผมกำลังจะตอบเขา

    เสือก เสียงคุ้นหูดังแหวกอากาศมาอย่างไร้มารยาท.. พอหันไปตามต้นเสียงก็ต้องเบะปากเล็กน้อย คนที่พ่นคำว่า ‘เสือก’ ออกมาก็คือไอ้แว่นเมื่อวานที่เดินตามผมเป็นชั่วโมง สรุปแล้วเมื่อวานนี้มันก็ตามผมไปยัน BTS ก่อนที่มันจะโบกแท็กซี่แล้วจากไป ไม่เข้าใจว่ามึงกลับแท็กซี่ทำไมต้องไปขึ้นที่ BTS กับกูด้วย ตอนนี้มันนั่งกอดเข่าก้มหน้าเหมือนคนอมทุกข์อยู่ข้างๆ ผม

    ไอ้แว่น! มึงก็เสือก!!” ผมว่ากลับไป

    คำก็ไอ้แว่น สองคำก็ไอ้แว่น ผมก็มีพ่อมีแม่ มีชื่อเรียกนะครับ มันเงยหน้าขึ้นมาทำหน้ามึนๆ มาตอบผม

    ...” ผมเลยเลิกที่จะสนใจไอ้แว่น แล้วหันมานั่งก้มหน้าเด็ดหญ้าในสนามเล่นแทนไปพลาง ระหว่างเด็ดเล่นก็มีเสียงกรี๊ดกร๊าดวีดว๊ายมาเป็นระลอกๆ ได้ยินแว่วๆ อะไรพี่นินๆ นี่แหละ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าพวกพี่ว๊ากเขาคงให้เล่นกิจกรรมกันนั่นแหละ

    ผมชื่อไม้นะ” อยู่ๆ ไอ้แว่นก็พูดขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ

    ง่วง ขอพิงไหล่หน่อยสิคริน” เสียงทุ้มอบอุ่นปนขี้เล่นยังพ่นออกมาเรื่อยๆ

    ไม่ตอบ.. แสดงว่าตกลงสินะ” รอบนี้มันก็ยังพูดออกมาให้ผมเมินตามปกติ แต่มันจะไม่ปกติก็ตรงที่น้ำหนักที่ไหลข้างขวาผมเพิ่มขึ้น พร้อมกับกลิ่นแชมพูหอมๆ โชยมา

    รู้สึกเหมือนเส้นด้ายของความอดทนนั้นขาดลงเอาดื้อๆ!!

    มึงบ้าป่าววะ!?! เมื่อวานก็เดินตามกลับบ้าน! วันนี้ก็ยังพูดคนเดียวแถมเอาชื่อคนอื่นไปอ้างเฉย! เราไม่ได้รู้จักกันซักหน่อย!” ผมตะคอกใส่ไอ้แว่นลักยิ้มมีเขี้ยวหน้าตาดีไปชุดใหญ่โดยลืมไปว่ากำลังรับน้องอยู่

    ผลที่ตามมาก็คือ..

    ตรงนั้นคุยอะไรกันครับ! ยืน!!” เสียงทรงพลังตะโกนลั่นสนามแถมชี้หน้าผมอย่างโกรธแค้นกันมาเป็นสิบๆ ปี โธ่เว้ย

    ไอ้เหี้ยเอ๊ย! ซวยเพราะมึงเลย!” ผมผลักไอ้แว่นข้างๆ แรงๆ ด้วยความโมโห ก็เพราะว่าถ้ามันไม่กวนประสาทผมก่อน ผมคงไม่ปรี๊ดแตกง่ายๆ แบบนี้

     

    Nick Story

    [เห้ย ตกลงมาช่วยกูรับน้องมั้ยเนี่ย?เสียงปลายสายถามขึ้น

    กูคงไปไม่ได้ ติดเรียนว่ะ” โกหก ผมโกหกครับ ติดเรียนอะไรไม่มีหรอก เลิกตั้งแต่บ่ายโมงเลยด้วยซ้ำ

    ผมกำลังคุยโทรศัพท์กับไอ้เฟรชครับ เพื่อนสมัยมัธยม แต่พอเราแยกย้ายกันไปเรียนมหาลัยก็ไม่ค่อยได้เจอกันเราเรียนคณะแพทย์สาขาสัตว์แพทย์เหมือนกัน แต่ผมไปสอบเข้าคนล่ะที่กับมันเพราะเหตุผลบางอย่าง

    [ไม่ไปจริงเหรอวะ?]

    เออ” ผมตอบอย่างมั่นใจ

    [โอเคๆ แต่กูมีเรื่องนึ่งที่อยากจะบอก ตอนกูเช็ครายชื่อน้องปี1 กูเจอ ลิลภพมันพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา แต่เชื่อเถอะ คนนิสัยขี้โกงอย่างมันถ้าพูดลอยๆ แบบนี้ เรื่องนั้นไม่มีธรรมดาสำหรับคนอื่นล่ะ!

    ..เพราะเรื่องนี้น่ะมันสำคัญมากสำหรับผม!

    [หึหึ งั้นแค่นี้นะเพื่อน พรุ่งนี้อย่าทำให้กูผิดหวังเสียงหัวเราะเหมือนผู้อยู่เหนือทุกอย่างแว่วมาตามสายอย่างน่าโมโห แต่ตอนนี้ผมไม่ได้สนใจเรื่องพรรค์นั้นสักนิดเดียว

    ติ๊ด!!

    เสียงปลายสายตัดไปพร้อมกับหัวใจของผมที่เต้นระรัวไม่จาง.. ในหัวตอนนี้มีแต่ใบหน้าหวานของใครบางคนฉายซ้ำวนไปวนมาในความทรงจำ

     


     

    ไหนมึงบอกว่าติดเรียนไงวะ? ตอแหลนี่หว่า” ทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้าไปในรัศมีสองเมตรจากซุ้มหน้าคณะแพทย์ในมหาลัยของไอ้เฟรช คำว่าตอแหลนี่แถบจะเสยหมัดตรงใส่หน้าผมทันที ก่อนที่มันจะหันไปพูดกับเพื่อนๆ ในโต๊ะต่อ พวกมึงอ่ะ คนล่ะห้าร้อยๆ ฮ่าๆๆๆๆ

    อาจสงสัย ห้าร้อย อะไรของพวกมัน ไม่มีอะไรมากครับ ไอ้เหี้ยพวกนี้มันเล่นพนันกัน มันพนันกันว่าผมจะมาตามที่มันนัดมั้ย แต่ก็เอาเถอะ ผมไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว

    แล้วมึงเรียกรวมปี 1 หรือยัง?” ผมถามหาถึงสิ่งที่เป็นแรงผลักดันทำให้ผมต้องขับรถถ่อมาไกลมาถึงที่นี่ ทั้งๆ ที่มหาลัยผมกับมหาลัยของไอ้เฟรชแทบจะเรียกว่าอยู่กันคนล่ะขั้วเลยก็ว่าได้

    เรียกแล้ว มึงแหกตาดูบ้างเถอะไอ้นิค” ไอ้เฟรชพยักเพยิดหน้าไปส่งๆ ทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตานับเงินพนันในมือไป พอผมลองกวาดสายตาดูก่อนจะพบนักศึกษาปี 1 นั่งกับเป็นกลุ่มใหญ่เกือบร้อยคนรวมตัวกันอยู่ท่ามกลางแดดยามบ่ายที่โคตรจะร้อนตรงลานคณะฯ ข้างหน้าสุดมีสต๊าฟว๊ากกำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่ และคงไม่พ้นเรื่องทั่วๆ ไปอย่างกฎระเบียบอะไรทำนองนี้

    ตรงนั้นคุยอะไรกันครับ! ยืน!!” หนึ่งในสต๊าฟว๊ากตะโกนขัดบรรยากาศขึ้นมาก่อนจะชี้ไปที่ต้นเหตุของเสียง

    เด็กปี1 สองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ แต่ถ้าดูดีๆ จะเหมือนทะเลาะกันมากกว่า คนหนึ่งใส่แว่น หน้าตาดี อีกคนหนึ่ง..!!

    อ้าว นั่นไง หึหึ แสดงตัวออกมาเองเชียว มึงคงไม่ต้องเสียเวลาหาแล้วว่ะนิค

     


     

    ผมลุกขึ้นยืมพร้อมกับไอ้แว่นตัวปัญหาที่ทำให้ผมโดนลงโทษตั้งแต่วันแรกที่รับน้อง ทุกสายตามารวมอยู่ที่ผมกับไอ้แว่น อย่างเด่นเลยครับ..

    จบสิ้นแล้วชีวิตสงบสุขในรั้วมหาลัย..

    บอกชื่อและรหัสนักศึกษามาครับ!” ทันทีที่ยืนขึ้น นี่คือคำถามแรงที่พี่เขาสาดมาครับ

    ชื่อ เมธาวิน นามสกุล สมิธ ชื่อเล่น ไม้ รหัสนึกศึกษา 57114456” ในขณะที่ไอ้แว่นกำลังบอกชื่อและรหัสนักศึกษา อยู่ๆ พี่เฟรชก็เดินไปหาพี่คนที่เรียกให้พวกผมยืนนั่นแหละ กระซิบกระซาบอะไรกันสักอย่างแล้วก็เดินจากไป

    ชื่อ ลิลภพ นามสกุล เชาวกรกุล ชื่อเล่น คริน รหัสหนัก…” คราวนี้ถึงทีผมบอกชื่อและรหัสนักศึกษาบ้าง ทุกอย่างมันคงจะราบรื่น ถ้าเกิดว่าสายตาของผมไม่ไปสะดุดเข้ากับใบหน้าเย็นชาของใครบางคนที่กำลังเดินมาทางผม

    หัวใจเหมือนกับหยุดเต้น บรรยากาศรอบตัวเย็นลง เหมือนกับที่นี่เป็นสูญกาศ ลมหายใจของผมสะดุดจนแทบจะลืมหายใจ อึดอัด ขยะแขยง เจ็บปวด น่ารังเกียจ เศร้า ความรู้และอารมณ์ด้านลบหลายๆ อย่างตีรวนมาที่ผมอย่างไม่หยุดหยั้ง ความทรงจำเลวร้ายในอดีตผุดขึ้นมาไม่หยุด แทบจะเป็นลม อยากจะบอกกับตัวเองว่าแค่ตาฝาด มันแค่ความฝัน คนที่อยู่ตรงหน้าของผมมันก็แค่ภาพหลอนที่ถูกจิตใต้สำนึกของผมสร้างขึ้น แต่ความรู้เจ็บที่หัวใจมันยังคงบ่งบอกได้ดีว่านี่มันไม่ใช่ความฝัน

    “..ริน..ริน.. คริน!!” เสียงของร่างสูงที่อยู่ข้างๆ เรียกสติของผมที่หลุดลอยไปไกลให้กลับมา ไม้เขย่าๆ ผมเบาๆ เหมือนเรียกสติ พอรู้สึกตัวอีกทีไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมถึงกับเข่าอ่อนแทบจะทรุดลงไปกับพื้นสนาม โชคยังดีที่ไอ้แว่นช่วยผยุงผม กลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนมันกอดผมอยู่กลายๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างมองผมเป็นสายตาเดียว

    เป็นอะไร ทำไมหน้าซีดแบบนี้ ไม่สบายรึเปล่าคริน” ร่างสูงที่ประครองผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงติดจะตกใจ แต่ตอนนี้มันไม่ได้เข้าหัวผมเลยสักนิดเดียว

    แว่น! ระ..เราอยากไปห้องพยาบาล” ผมด้วยพูดให้น้ำเสียงที่นิ่งที่สุด แต่เหมือนว่ายิ่งผมพยายามจะปกปิดมันเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจะสั่นมากขึ้นเท่านั่น

    เอ่อ... ได้ เดี๋ยวไปบอกพี่ประธานก่อน ครินรออยู่ตรงนี้นะ” เขาบอกผมแล้วทำท่าว่าจะให้ผมรออยู่ตรงนี้ ผมเลยดึงแขนอีกคนเอาไว้ไม่ยอมให้ไป เพราะผมไม่อยากอยู่คนเดียว!

    เราไป...” ในตอนที่ผมกำลังจะบอกว่าผมจะไปกับไม้ด้วยนั่นเอง

    หมับ!

    สัมผัสเย็นเฉียบบางอย่างเกิดขึ้นที่ข้อมือของผมพร้อมน้ำเสียงเย็นชาแสนคุ้นหูดังขึ้นข้างหลังของของผม

    “หึ! ไม่เจอกันนานนะคริน กูคิดว่ามึงคงยังลืมอดีตคนเคยเอากันอย่างกูหรอกใช่ไหม?

    !!!!!!

    นิค..”

    รู้สึกเหมือนเวลาได้หยุดหมุน ตัวของผมชาราวกับถูกผิดร้ายแรงก็คงไม่กล่าวเกินจริงนัก เพราะผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้น่ะ มันยิ่งกว่า ยาพิษ เสียอีก!



    Ah... God, it’s a dream?

    Please, tell me... it’s just the dream.







    DRAMA,SIN,BAD STORY,YAOI,18+
    OPEN : 28/07/2014 | CLOSE : XX/XX/XXXX | Don't Copy Anything | PRESENT Mr. question


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×