คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : LOOP STORY : "INTRO" [CHAPTER 00]
“เอาล่ะ หมดคลาสของผมแล้ว งานที่ผมสั่งไปวันนี้อย่าเลทล่ะ ไม่งั้นเจอ F!!” เสียงแหบใหญ่ที่บงบอกถึงความมีอายุกล่าวเป็นประโยคสุดท้ายและเดินหายไปจากห้อง พร้อมกับนักศึกษาหลายๆ คนเริ่มเดินไปออกันหน้าประตูคลาสเหมือนกับฝูงมด ส่วนผมก็นั่งดูภาพตรงหน้านั่นเฉยๆ ใครจะออกไปตอนนี้ล่ะ คนเยอะจะตาย เบียดกันไม่อึดอัดหรือไงพวกประสาท..
..น่าเบื่อชะมัดเลย..
“เฮ้อ..” ถอนหายใจอออกมาดังๆ พลางนั่งตัดพ้อชีวิตอยู่ในหัวสักพัก ไม่นานก็มีเสียงเสียงหนึ่งก็เรียกผมให้ลากสายตาไปมอง
“เฮ้ คริน!” เมื่อหันไปตามเสียงเรียก ผมก็พบกับผู้ชายสูงใหญ่ รอยยิ้มอบอุ่นดูใจดีประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาดูดี ดวงตาสีน้ำตาภายใต้กรอบแว่นสีดำสี่เหลี่ยมยิ้มตาหยี๋ส่งมาให้ผม
ถึงหน้าหมอนี่จะคุ้นๆ ก็เถอะ ..ใครวะ?..
“อา.. ว่าไง?” ผมขานรับกลับไปพร้อมปั้นหน้ายิ้มแย้มทั้งๆ ทีผมก็ไม่รู้จักเขา เหอๆ - -
“หมดคลาสแล้ว จะไม่ออกจากห้องหรือไง?” เขาบอกผมกลับมายิ้มๆ
“อ่อ.. นั่นสินะ” ผมตอบไปส่งๆ อีกครั้ง พร้อมกับดึงสติให้กลับมอยู่กับปัจจุบัน พลางมองไปรอบๆ ห้องก็เห็นนักศึกษาอยู่แค่ไม่กี่คน
ผมเลยเริ่มเก็บอุปกรณ์การเรียนต่างๆ นาๆ ลงกระเป๋า ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมออกไปจากคลาสและเดินผ่านผู้ชายคนนั้นแบบไม่อยู่ในสายตา
ผมเกลียดคำว่า ‘สายสัมพันธ์’ เพราะเมื่อคนเรารู้จักกัน เริ่มพูดคุย แบ่งปันเรื่องราว เริ่มแชร์ความรู้สึกของกันและกัน จากคำว่า ‘คนรู้จัก’ จึงกลายมาเป็น ‘เพื่อน’ เมื่อผูกผันกันยาวนานจากแค่คำว่า ’เพื่อน’ มันจะเพิ่มขึ้นมาอีกตามระยะเวลาที่ถักทอเป็นความเชื่อใจ จนกลายเป็น ‘เพื่อนสนิท’
แต่คำว่าเพื่อนสนิทนั้น จะต้องใช้มันกับคนทั้งคู่.. ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเราคนเดียว..
“แล้วคุณ.. จะตามผมไปอีกนานแค่ไหนกัน?” ผมหันไปถามคนข้างกายที่เดินตามผมตั้งแต่เลิกเรียนมามากว่าครึ่งชั่วโมง!!
จะใครกันอีก ก็ไอ้บ้าแว่นคนนั้นที่มันทักผมในคลาสไงล่ะ! โดนคนไม่รู้จักเดินตามมาติดๆ ก็ต้องหงุดหงิดกันทั้งนั้นแหละ ใครมันจะไปมีอารมณ์มาปั้นหน้ายิ้มแย้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้เล่า!
ประสาทจริงๆ!!
“เอ้า! ก็ฉันกับนายกลับทางเดียวกัน เป็นเพื่อนร่วมคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน จะกลับด้วยกันก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่” เขาว่ากลับมาแบบไม่ทุกข์ไม่ร้อน แถมยิ้มตาหยี๋ส่งมาให้
แต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นหรืออยากเป็นเพื่อนขึ้นมาเลย! บางทีอาจจะหงุดหงิดเพิ่มเสียอีก!
“แต่ผม ไม่ รู้ จัก คุณ! ดังนั้นกรุณาอย่าตามมาอีก!” ผมตอบกลับคำถามของเขา โดยพูดเน้นคำช้าๆ ชัดๆ เพื่อให้เขารับรู้ว่าผมจริงจัง!
“แต่ผมอยากรู้จักนาย เป็นเพื่อนกันนะ?” ไม่ละความพยายาม เขายังคงตามผมมาติดๆ เขาพูดมันออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เหมือนกับที่เราบอกกับแม่ค้าตอนซื้อของทั่วไปอย่าง ‘ป้าครับ กระเพราหมูจานนึ่งครับ’ ไม่ก็ ‘ขอโทษนะครับ ขอทางหน่อย’ งั้นละ!
“แต่ผม ไม่-อยาก-เป็น !” ผมว่ากลับเสียงดังฟังชัดอีกครั้งก่อนจะรีบเดินหนีอย่างรวดเร็ว
ความเงียบโรยตัวขึ้นระหว่างผมกับไอ้แว่นที่กำลังเดินอยู่บนฟุตบาท โดยที่ผมเดินนำมันอยู่ประมาณ 2 ก้าวได้
เมี๊ยววววว~~~~!
เสียงเล็กๆ ดังขึ้นท่ามกลางเสียงรถยนต์ที่แล่นไปมากันให้วุ่นผมหันไปหาต้นเสียงก็พบแม่แมวสีขาวลายจุดสีดำกำลังร้องอยู่ พอกวาดสายตามองไปอีกหน่อยก็เห็นลูกแมวที่น่าจะอายุราวๆ สี่ถึงห้าเดือน (ถ้าเทียบกับคนก็อายุราวๆ สิบขวบ)
“มองอะไรอยู่งั้นเหรอ?” ไอ้แว่นถามผมอีกครั้ง.. จะสงสัยอะไรนักหนามีตาก็ดูเองสิ่ว่ะ!
ผมไม่ตอบ เมินให้กับคำถามนั่นก่อนจะมองเจ้าเหมียวน้อยที่กำลังอยู่บนเกาะกลางถนนทำท่าเหมือนจะข้ามฝั่งมา ผมคาดว่าคงเป็นแมวจรจัดแถวนี้ แม่เจ้าเหมียวนั่นคงจะข้ามถนนมา แล้วพอดีเจ้าเหมียวน้อยดันข้ามตามมาไม่ทันเพราะกลัวรถที่วิ่งกันอยู่ให้ว่อน
ปรี๊นนนนนนนนนนนนน!!
“คริน!!!”
ตัวผมขยับไปก่อนที่ใจคิดด้วยซ้ำ.. ทันทีที่ผมเห็นเจ้าเหมียวน้อยกำลังข้ามถนนมาและรถยุโรปคันหรูพุ่งตรงเข้ามาหาเจ้าเหมียวน้อยพร้อมกับเสียงของไอ้แว่นสี่ตาที่แหกปากเรียกผมลั่นรวมเสียงแตรที่ดังประสานกับเสียงไอ้แว่น
…และตัวผมที่พุ่งไปอยู่กลางถนนคอนกรีด!!
เอี๊ยดดดด!!!
ผู้คนเริ่มเข้ามามุงดูก่อบังเกิดความวุ่นวายขึ้น
เมื่อรถยุโปรคันงามที่ขับมาอย่างรวดเร็ว แตะเบรกอย่างกะทันหันทำให้เกิดการดริฟอย่างสวยงามกลางถนน แล้วตูดมันก็ไปกระแทกทดสอบความแข็งแรงกับเสาเหล็ก..
หวังว่าเขาคงไม่เก็บเงินค่ารถที่บุบไปหรอกนะ เพราะผมคงไม่มีปัญญาจ่ายมันแน่ๆ
“บ้าเอ๊ย! นึกยังไงถึงไปนอนเล่นกลางถนนเนี่ยห๊ะ!?!” ไอ้แว่นเดินเข้ามาฉุดกระฉากผมที่นั่งหันหลังให้รถคู่กรณีอยู่กลางถนนให้ลุกขึ้นมาด้วยท่าทางหัวเสียสุดๆ
“โอ้ย! มันเจ็บนะไอ้บ้า!” ผมสะบัดมือออกจากมือใหญ่ของไอ้แว่นตรงหน้าแล้วตะคอกมันกลับอย่างหัวเสียไม่แพ้กัน โอ้ยย! เล่นบีบแขนกันมาได้ นี่แขนคนนะ ไม่ใช่ไม้ซุง จะได้บีบเท่าไหร่มันก็ไม่เจ็บ!!
ชายหนุ่มวัยกลางคนในชุดสีดำเรียบร้อยเป็นทางการดูท่าว่าเขาคงจะเป็นคนขับรถ เขาลงมาจากรถยุโรปคันหรูแล้วถามผมด้วยสีหน้าวิตกกังวล
“เอ่อ.. ขอโทษนะครับคุณ ไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
“ผมไม่เป็นไรครับ” ผมหันไปตอบกลับเขาพร้อมกับรอยยิ้มคอนเฟริมว่าร่างกายปกติ! ครบ 32!
“อ่า ค่อยยังชั่วหน่อย.. นี่ค่าทำขวัญครับ” เขาว่าก่อนจะยื่นซองสีน้ำตาลอ่อนๆ มาให้ตรงหน้า
ผมชักสีหน้าใส่นิดหน่อย มันรู้สึกเหมือนผมกำลังโดนเอาเงินฟาดหัว แต่เพราะผมไม่ใช่เจ้าของเงินนั่น จึงไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร บางทีเขาอาจแค่มีน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้? ผมเลยตัดสินใจดันมือของเขากลับไปอย่างมีมารยาท
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ต้องการ ขอโทษด้วยที่ทำให้รถคุณเสียหาย ผมเพียงแค่ต้องการจะช่วยเจ้านี่เท่านั้น” ผมว่ากลับไปยิ้มๆ พร้อมกับชี้เจ้าตัวการที่อยู่ในอ้อมกอด พลางนึกในใจว่าเขาไม่เก็บค่าเสียหายที่ทำรถเขายุบไปก็บุญโขแล้ว..
“เอางั้นเหรอครับ ถ้าเช่นนั้นผมขอตัว” ว่าจบเขาก็หันหลังกลับไปที่รถคันงามแล้วออกตัวไปทันที ดังนั้นที่นี่จึงเหลือผมกับกับไอ้สี่ตา
เราต่างเงียบกัน ผมก็ไม่รู้จะคุยอะไร หมอนั่นก็คงกำลังระงับสติอารมณ์บ้าๆ อยู่ ผมเลยพาเจ้าเหมียวน้อยที่ผมกำลังอุ้มอยู่ส่งกลับคืนสู่อ้อมอกแม่ของมัน ทันทีที่มันได้สัมผัสพื้นดิน เจ้าเหมียวก็วิ่งไปหาแม่มันทันที ทั้งสองตัวคลอเคลียกันไปมาอย่างอบอุ่น
คิดแล้วก็น่าอิจฉา
ผมเรียนสัตวแพทย์ เพราะผมรักสัตว์ ผมเชื่อว่าพวกมันสื่อสัตย์ และไม่โกหกหลอกลวงเหมือนมนุษย์เรา!!
อีกด้านหนึ่งภายในรถยุโรปสุดหรู
“ว่าไงบ้างเก้า” ชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดสูทนั่งไขว่ห้างเอ่ยถามคนขับรถคนสนิทด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เขาบอกว่าไม่ต้องการครับคุณนิค” เก้า หนุ่มคนขับรถตอบกลับอย่างสุภาพ
“งั้นเหรอ..” ชายหนุ่มรับคำนิ่งๆ ก่อนจะเปิดซองเงินนั่นออกแล้วล้วงหยิบกระดาษโน้ตเล็กๆ ที่สอดไส้อยู่ในซองพร้อมกับปึกเงินจำนวนไม่น้อยขึ้นมา เขาอ่านข้อความนั้นด้วยสายตาเย็นชาแต่ทว่ากลับแฝงไว้ซึ่งความโหยหาแทบขาดใจ
ก่อนที่มันจะถูกเผาด้วยซิปโปราคาแพงภายในรถคันหรู..
You know? Sometime at I'd seem cold to you.
I feel so pain in my heart for that time at I lied to you, I'm sorry
DRAMA,SIN,BAD STORY,YAOI,18+
OPEN : 28/07/2014 | CLOSE : XX/XX/XXXX | Don't Copy Anything | PRESENT Mr. question
ความคิดเห็น