{FIC: Assassination Classroom} กรงที่มองไม่เห็น KARMA X NAGISA - {FIC: Assassination Classroom} กรงที่มองไม่เห็น KARMA X NAGISA นิยาย {FIC: Assassination Classroom} กรงที่มองไม่เห็น KARMA X NAGISA : Dek-D.com - Writer

    {FIC: Assassination Classroom} กรงที่มองไม่เห็น KARMA X NAGISA

    เรื่องนี้ เป็นเรื่องวาย เตือนแล้วนะ karma x nagisa nc

    ผู้เข้าชมรวม

    15,416

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    35

    ผู้เข้าชมรวม


    15.41K

    ความคิดเห็น


    34

    คนติดตาม


    295
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  1 ธ.ค. 59 / 06:47 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     

    {FIC: Assassination Classroom} กรงที่มองไม่เห็น KARMA X NAGISA

     

     

     

     

    ถ้าหากนี้เป็นเวรกรรมละก็

     

    ผมคง จะชดใช้มันไม่หมดแน่น

     

    เรื่องนี้เป็นวายเรื่องแรก ของข้าพเจ้าค่ะ เรื่องสั้นแต่ติดRต้องขออภัยพะเจ้าค่ะ

     

     

    หากนี้คือโชคชะตาเทพเจ้าก็คงจะใจร้ายสิ้นดี

     

    หากนี้คือบทลงโทษของสวรรค์อย่างน้อยๆก็ขอให้มีรอยยิ้มอย่างเต็มใจด้วยเถอะ

     

     

    ป.ลแต่งเพื่อฉลอง งานวันเกิดให้กับตัวเอง

     

     

     

    ขอเตือนเจ้าค่ะหากใครไม่ชอบวาย  ข้าน้อยต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ

     

    แนวนี้ เป็น ชาย-ชาย เป็นเรื่องผิดศิลธรรม อาจจะทำให้ใครบางคนรับไม่ได้

     

    เพราะงั้นข้าน้อยขอความกรุณาด้วยนะขอรับได้โปรดอย่าแบน  ถ้าไม่พอใจหรือไม่ชอบ

     

    กดออกได้เลยนะขอรับข้าน้อยไม่โกธร

     

    ส่วนใครที่อายุต่ำกว่า 18 ก็โปรดอ่านด้วยวิจราญาณด้วยนะขอรับ

     

    ขอเตือน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องก็เนื้อหาหลักแต่อย่างใด แต่งขึ้นด้วยความมโนของผู้เขียนล้วนๆ

     

    และความชอบส่วนตัว

     

    ขอเชิญอ่านได้เลยขอรับกระผม

    {cheesecakes Theme
by cheesecake theme theme} "Times New Roman" size="3">

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


       

       


      ผม  นางิสะ ชิโอโตะ เป็นเด็กผู้ชาย มอต้นคนหนึ่ง ชีวิตผมควรจะธรรมดาเหมือนเด็กมอต้อทั่วไป ชีวิตคงจะต้องดีกว่านี้แน่นนอนถ้าผมเป็นเด็กธรรมดา ใช้ชีวิตเหมือนเด็กผู้ชายธรรมดา เล่นเกมวันหยุด นอนกลางวัน นอนค้างบ้านเพื่อนและออกไปเที่ยวกับเพื่อนทุกค่ำคืนคงจะมีแต่ความสนุก ถ้าหากผมไม่ถูกขังด้วยกรงนกที่มองไม่เห็นละก็

       

      ผมคงมีความสุขกว่านี้แน่นนอน

       

      “อะ..อ่า..พอก่อนคารุมะคุง...ง”คำพูดห้ามที่รู้ทั้งๆรู้ว่าอย่างไงคนที่อยู่ด้านบนคงไม่มีทางฟัง แต่ก็ยังจะพูดออกไปอยู่ดี เพราะว่าร่างกายเล็กๆที่แสนเปราะบางของเขาใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว มือเล็กกำผ้าปูที่นอนไว้แน่นเพื่อระบายความเจ็บปวดและความเสียวซ่าส์ที่ผ่านทั่วร่างนั้น ก่อนที่คนตัวโตจะก้มลงเข้าไปกระซิบหูของคนตัวเล็ก

       

      “อย่าพึ่งสิ...ฉันยังไม่พอใจเลยนะ...ทนอีกนิดหน่อยสิ”พูดพร้อมกับเลื่อนริมฝีปากมาขบกัดที่ใบหูพร้อมกับลากริมฝีปากนั้นวนที่แก้มเล็กๆด้วยความหลงไหล

       

      “อ่ะ.อ่า.ไม่ไหว..อ่า”

       

      ทั้งๆที่เป็นผู้ชายแท้ แต่กลับคร่ำครวญร้องครางออกมาอย่างกับผู้หญิง ถูกจับให้กดกับที่นอนอย่างกับเด็กสาว น่าสมเพชจริงๆคนอย่างเขานะแพ้มาตลอดเลยสินะ เหอะแพ้จนถึงขั้น ให้เพื่อนสนิทที่ตัวเองไว้ใจจับกดกับที่นอนแบบนี้ เขามันโง่เอง

       

      “อ่า”

       

      “อ่าส์”แรงโยกครั้งสุดท้ายนั้นทำให้คนตัวโตล้มตัวลงมาอย่างช่วยไม่ได้เขายอมปล่อยมือจากคนตัวเล็กที่กำลังหลับตาไปด้วยความเหนื่อย ก่อนที่คารุมะจะหยุดได้เขาก็เกือบตายเหมือนกัน คารุมะยอมลงจากตัวคนตัวเล็กก่อนจะมานอนข้างๆอีกฝ่ายพร้อมกับพลิกตัวขึ้นมาให้นอนหอบ นางิสะพลิกข้างให้พร้อมกับดึงผ้าห่มที่หล่นอยู่ใกล้ๆมาห่มกายเอาไว้ รังเกียจเหลือเกินแต่ก็มีความสุขในยามที่อีกฝ่ายสัมผัสตัว มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไงนะตัวของเขานะ ความสัมพันธ์ของพวกเขามันเลยจุดๆนั้นมาได้อย่างไง ทั้งๆที่ผ่านมาก็เข้ากันดีแท้ๆ

       

      เหตุการณ์ที่จดจำได้ก่อนที่จะมาเป็นแบบนี้ ก็ตอนที่คนตัวโตหลอกล้อและขืนใจเขา ทำร้ายและทารุณอย่างกับว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เหตุการณ์ในวันนั้นเขาปรารถนาให้มันเป็นแค่ฝันร้ายพอลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องและตกเตียงเพราะฝันร้าย แต่ความเป็นจริงนั้นมันทารุณและทำร้ายจิตใจ พอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบคนตัวโตนอนหลับอยู่ข้างๆ ร่างกายของเขานั้นบอกช้ำไปทั้งตัวสองมือนั้นถูกล็อกด้วยกุญแจ สภาพห้องอย่างกับสงครามโลก เสื้อผ้านั้นถูกฉีกขาดจนไม่เหลือเค้าโครงของสิ่งที่สวมใส่ พอตัวต้นการตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่ยอมพูดจาอะไรเพียงแต่ปลดกุจแจข้อมือให้เท่านั้น

       

      ก่อนที่เขาจะหาเสื้อผ้าสวมใส่ให้คนตัวเล็ก เจ็บใจที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้ บริเวณรอบคอมีแต่ร่องรอยที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้เป็นของดูต่างหน้า แล้วผมก็เดินออกจากบ้านหลังนั้นด้วยความเงียบ ผมคิดว่านี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้เจอหน้าเพื่อนคนนี้ เพราะว่าผมจะไม่เข้าใกล้เขาอีกและก้าวพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง

       

      แต่ผมคิดผิด

       

      เมื่อผ่านไปแค่อาทิตย์เดียว เขาก็กลับมา!!

       

      “อ่ะ..อ่าอย่า.ทะ..ผม  ไม่”เสียงที่ออกมาจากจอโทรศัพท์มือถือนั้นทำให้คนที่ดูถึงกับตัวสั่นส่วนคนที่เอามาให้ดูนั้นยิ้มอย่างคนเจ้าเล่ห์ก่อนจะก้มลงเข้าไปกระซิบข้างๆหูคนดู

       

      “นางิสะคุงว่าตัวเอกหนังAV คนนี้หน้าคุ้นๆไหม”พูดอย่างเจ้าเล่ห์พร้อมกับมองคนที่ดูโทรศัพท์ นั้นอย่างกับถือไพ่เหนือกว่า

       

      “ยะ..อย่าคารุมะคุง”โทรศัพท์สั่นด้วยแรงของคนตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าโกธรหรือกลัวภาพวันวานที่แสนโหดร้ายเข้ามาย้ำเตือนอีกครั้งกันแน่น


      “ฉันควรจะเอาไปให้คนในโรงเรียนดูไหม หรือจะเอาไปให้แม่ของนางิสะคุงดูดีละ”พูดพร้อมกับกระซิบที่ใบหูสีขาว “ควรเลือกอันไหนดีละนางิสะคุง”

       

      “ตะ..ต้องการอะไร”

       

      “อ้าวฉลาดดีนินางิสะคุง ฉันก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากหรอกนะแค่ขออะไรเล็กๆน้อยๆจากนางิสะคุงก็เท่านั้น”ไม่พูดเปล่ามือหนานั้นไม่อยู่สุขเลื่อนมือมาโอบที่รอบเอวเล็ก พร้อมกับดึงให้เข้ามาใกล้ตัว ดวงตาสีทะเลสั่นอย่างไม่อาจควบคุมในการกระทำของเขา เป็นคนแบบนี้ได้อย่างไงนะเขาดูผู้ชายคนนี้ผิดมาตั้งแต่ต้นเลยเหรอ

       

      “อะไร” ขออย่าได้เป็นอย่างที่เขาคิด เพราะอย่างไงคารุมะก็คงไม่ชอบผู้ชาย

       

      “ก็ไม่อะไรมากหรอก ถ้านางิสะยอมมาตามนัดที่ฉันบอกละก็ ฉันจะยอมทำตามที่นางิสะต้องการไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็จะทำให้”พูดเว้นวรรคก่อนจะเอามือที่โอบเอวข้างหนึ่งขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าที่หวานกว่าเด็กผู้ชาย “แม้แต่ลบคลิปนี้ ฉันก็จะทำให้” ดวงตาสีฟ้าคู่สวยเบิกตากว้าง ให้ตายสิหมอนี้เกิดมาผิดเพศสะจริงที่อดทนมาได้ถึงทุกวันนี้ก็ถือว่าเหนือกว่าแรงแล้วนะ ริมฝีปากสวยเม้นปากเข้าหากันแน่น

       

      แสดงว่า ตัวของเขาต้องอยู่ ภายใต้การควบคุ้มของผู้ชายคนนี้หรือไง ใบหน้าสวยเริ่มมีเกร็ดน้ำตาออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง นั้นยิ่งทำให้คนมองใจสั่น ไม่ใช่สงสารแต่มันคือความหลงใหล

       

      “ว่าไงละนางิสะคุง ฉันต้องการคำตอบของนายนะ”ไม่พูดเปล่ามือหนาที่ลูบใบหน้าด้วยความหลงใหลเมื่อครู่นั้น ก็เลื่อนลงมาดึงคอเสื้อของอีกฝ่ายลงพร้อมกับริมฝีปากแดงสดประทับบนรอยเดิมที่ตอนนี้มันเริ่มจางหาย สงสัยเขาคงต้องเพิ่มสีสันให้มันแล้วสิ

       

      “ผะ..ผมตกลงเพราะงั้นนายช่วยปล่อยผมด้วย”นี้ไม่ใช่ประโยคขอร้องแต่มันเป็นคำสั่ง เขาไม่พอใจที่อีกฝ่ายทำอย่างกับว่าเขาเป็นผู้หญิง ชายหนุ่มยอมปล่อยตัวคนตัวเล็กพร้อมกับเอาโทรศัพท์คืนก่อนจะผละออกคอสีขาวนวลด้วยความนึกเสียดาย แล้วดึงเสื้อของคนตัวเล็กให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะหยิบกระดาษสีขาวที่ถูกพับเป็นสี่เหลี่ยมอย่างดีเอามาใส่กระเป๋าเสื้อของนางิสะ ก่อนจะกระซิบที่ใบหูเล็กนั้น

       

      “อย่าสายละ”

       

      นางิสะเปิดดูจดหมาย มีเนื้อความประมาณว่า คารูมะจะรอที่หน้าโรงแรมใกล้ๆตอนเลิกเรียน ชะตาชีวิตของคงจะเต็มไปด้วยความมืดมิด

       

      และนั้นก็คงเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตที่อยู่ในกรงที่อีกฝ่ายสร้างขึ้น แค่นึกมาถึงตรงนี้ก็เจ็บใจถ้าเขาแข็งแกร่งกว่านี้ก็คงไม่มานอนร้องครางที่ใต้ร่างผู้ชายด้วยกันหรอก ก่อนที่เขาจะหลุดออกมาจากความหลังอันขมขื่มก็เมื่อมีมือหนามาสัมผัสที่เอวเล็ก พร้อมกับดึงคนที่หันข้างนั้นเข้ามากอด รู้อยู่หรอกว่าอีกฝ่ายไม่พอใจกับการกระทำของเขา แต่ทำอย่างไงได้ ก็ในเมื่อไม่อยากเสียไปนิ

       

      “ปล่อยผม..ผมจะกลับแล้วเดี่ยวแม่จะเป็นห่วง”พูดพร้อมกับขืนตัวออกมาน้อยๆเพราะเรี่ยวแรงนั้นถูกคนตัวโตสูบออกมาใช้งานจนหมด คำพูดที่แข็งกระด้างมันทำให้คนตัวโตอดที่จะอารมณ์เสียไม่ได้ ไหนตอนนั้นถึงร้องว่าเหนื่อยหนักเหนื่อยหนา พอตอนนี้ก็จะรีบกลับเลยเหรอ มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ?

       

      “แต่นี้มันดึกแล้วนะ”

       

      “ไม่เป็นไร ผมหาทางกลับเองได้”พูดพร้อมกับกัดฟันฝืนร่างกายของตัวเองให้ลุกขึ้น การที่ได้ร่วมเตียงกับผู้ชายด้วยกันมันเป็นอะไรที่น่าสะอึดสะเอียดสิ้นดี

       

      “เดี่ยวสิถ้ามีแรงขนาดนั้นละก็ฉันไม่ควรหยุดเลย เรามาต่อกันดีกว่า”


      “ไม่ ผมเหนื่อย..ปะ..ปล่อยนะ.ขอร้องละ”เขาควรจะนอนเป็นหมอนข้างนิ่งๆสะยังจะดีกว่าการดื้นด้านเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรกับชายคนนี้ตรงข้ามนั้นยิ่งจะสร้างความไม่พอใจให้กับเขาอีกตลกร้ายสิ้นดี

       

      “อยากจะหนีไปจากฉันหนักใช่ไหมนางิสะคุง ฉันขอบอกว่าก่อนเลยนะ ว่านายไม่มีทางที่จะหนีไปจากฉันคนนี้ได้”ประโยคสุดท้ายก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง

       

      ผมมัน คนโง่ที่ไปติดกับผู้ชายคนนี้

      .
      .

      “งิสะคุง..นางิสะคุง..นางิสะคุง!!!

       

      “คะ..ครับๆ เอ้าตกใจหมดเลยคายาโนะมีอะไรงั้นเหรอ”

       

      “ก็เรียกนางิสะตั้งนาน แต่ก็เหม่อเป็นอะไรเหรอหมู่นี้ นายดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวาเลยนะ”ถามออกไปด้วยความเป็นนห่วง เพราะหมู่นี้เพื่อนสนิทนั้นถ้าไม่นอนในคาบก็หายไปไหนก็ไม่รู้ตอนคาบบ่ายพร้อมกับคารุมะคุง นี้ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงคิดว่าไปทำเรื่องไม่ดีไปแล้ว

       

      “ผมแค่เพลียนะหมู่นี้ ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”พูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ตามปกติ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับหัวแดงๆของใครบางคนที่อยู่กับเด็กสาวที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา

       

      “คารูมะคุงเนี่ยเสน่ห์แรงจังเลยนะเดือนนี้ก็มาไม่ขาดสายเลย”

       

      “ใครเหรอครับ คายาโนะจัง”ทำไมต้องอยากรู้ ปล่อยไว้แบบนี้ละดีแล้วอย่างไงคารุมะก็คงเห็นัััเขาเป็นแค่นกในกรงที่อยากจะหยิบเล่นตอนไหนก็ได้ ใจร้ายจังเลยนะคารูมะคุงนิ

       

      “เด็กผู้หญิงอาคารหลักนะ ช่วงนี้ติดคารุมะคุงแจเลย”ทำไมเขาถึงไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยนะ หรือเพราะอาจมีเขาเข้ามาในหัวใจแล้ว  ไม่มีทางกับคนใจร้ายพันนั้นนะไม่มีทางรักเด็ดขาด แต่มันก็เจ็บนะ

       

      “หึงเหรอนางิสะจัง”คำพูดนั้นทำให้คนที่มองไปทางคนผมสีแดงถึงกับตกใจ

       

      “อะไรนะครับไม่ใช่สักหน่อยกับคนพันนั้นนะ ว่าแต่คุณนากามุระมาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”พูดอย่างตกใจหวังว่าหญิงสาวคนนี้คงไม่จับสังเกตได้หรอกนะ


      “ก็มาตั้งแต่ ใครบางคนก็ไม่รู้ตาร้อนเป็นไฟมองไปทางคารุมะคุงอยู่นะสิ”คำพูดนั้นทำให้คนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงทันทีอะไรกันไอ้ความรู้สึกที่ถูกต้อนจนมุมแบบนี้

       

      “คุณนากามุระคิดไปเองละครับ ผมนะเป็นผู้ชายนะไม่มีทางที่จะชอบผู้ด้วยกันหรอกครับ”ไม่มีทางอยู่แล้ว

       

      555 ฉันแค่ล้อเล่นเองนะนางิสะคุงคิดมากไปได้ แต่มันก็ไม่แน่นนะ ยิ่งหมู่นี้พวกนายสองคนหายไปมานะ ฉันรู้นะ”ประโยคท้ายๆนั้นยื่นเข้ามากระซิบหูเขา ที่ว่านะหมายความว่าไงนากามุระจังรู้แล้วเหรอไม่มีทาง

       

      “ปะ..เปล่านะ”ท่าทางของนางิสะนั้นยิ่งทำให้สาวสวยยิ้ม หมอนั้นคงไม่ได้บอกสินะ

       

      “อย่าห่วงไปเลยนางิสะมีพียงฉันกับอาจรย์โคโระเท่านั้นที่รู้ คารุมะนะพูดออกมาจากปากตัวเองเลยนะ”ดวงตาสีสวยเบิกกว้าง มะ..หมายความว่าไง ไหนว่าจะไม่บอกใครคนใจร้าย ทำไมถึงทำอย่างงี้ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของนางิสะถึงกับยิ้มสมเพชตัวเอง จะถูกฆ่าหรือเปล่าว่ะ อาจรย์นะอาจรย์คิดแผนอะไรที่ไม่เอาเธอไปเสี่ยงกับความตายได้ไหม มือสวยนั้นกำเข้าหากันแน่นสั่นไปทั้งมือ สองเท้าเล็กรีบเดินไปหาคนที่ทำให้เขาเสียใจขนาดนี้ ก่อนจะเจอตัวต้นเหตุยืนพิงกำแพงที่หน้าห้องน้ำ

       

      “อ้าวว่าไงนางิ...”

       

      เพียะ

       

      “คนหลอกลวง ผมโง่เองที่เชื่อนาย”น้ำตาไหลออกมาจากตาคู่สวย เขาโง่เองที่เชื่อคำพูดของคนๆนี้

       

      “นี้มันอะไรนางิสะ”

       

      “อะไรงั้นเหรอ ไหนนายบอกว่าจะไม่บอกใครไง แล้วทำไมนากามุระกับอาจรย์โคโระถึงรู้เรื่องละ นายมันคนไม่รักษาคำพูดผมจะไม่เชื่อคำพูดของนายอีกแล้ว”พูดพร้อมกับจะหันหลังเดินหนีจะอะไรก็ช่าง ที่จะหยุดเขาได้ แม้ว่าจะเป็นคลิปก็ตามไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว แต่ก่อนจะก้าวขาออกไปก็โดนคนตัวโตคว้าไว้คนตัวเล็กดิ้นคลุกอยู่กับอ้อมแขนของเขา

       

      “ฉันอธิบายได้นะ...นางิสะ นางิสะ”


      “ปล่อยผม ผมไม่อยากฟัง ปล่อยนะนายมันคนหลอกลวงมันน่าดีใจนักหรือไงที่ให้คนอื่นมารู้เรื่องพรรณนี้ ไอ้เรื่องบ้าๆนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นตั้งแต่แรก..”เจ็บใจในคำพูดของคนตัวเล็ก สำหรับเขามันน่าดีใจมากด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนตัวเล็กนั้น.... แค่คิดเขาก็เริ่มโกธร

       

      “โอ๊ยเจ็บ”เสียงร้องดังขึ้นเมื่อคารุมะผลั่กร่างเล็กที่กำลังดิ้นอยู่ในอ้อมกอดนั้นให้ติดกับผนังห้อง มือทั้งสองข้างนั้นจับมือเล็กให้ยึดติดกับผนังห้องน้ำก่อนจะพูดออกมาในเสียงที่โหดเหี้ยม

       

      “ทำไม นายกลัวคนทั้งโลกจะรู้เรื่องของเราหรือไง ไอ้ทีแบบนี้นะยอมรับไม่ได้สินะ แล้วไอ้ที่ร้องครางขอให้ฉันทำต่อนะมันเสียงของใครฮะนา..”

       

      เพียะ

       

      “สมองของนายก็คงจะคิดได้แค่นี้สินะ แล้วใครละมันใส่ยาเร่งเซ็กส์ลงไป นายมันโหดร้าย...โอ๊ย”

       

      “ ตบฉันสองครั้งแล้วนะ ถ้ากลัวคนอื่นรู้ขนาดนั้นฉันจับนายกดต่อหน้าทุกคนเลยดีไหมค่อยไม่ต้องมีอะไรปิดบังกัน”

       

      “นายมันปากร้าย ปล่อยผม ผมจะไม่สนนายอีกแล้ว ปล่อยนะ”พูดขึ้นเมื่ออีกคนอุ้มเขาฝาดบ่า จะทำอย่างที่ปากพูดจริงเหรอบ้าเอ่ย

       

      “ปล่อย..ขอร้องละ..ไม่ไปแล้วได้โปรดปล่อยผมลง”ตอนนี้เขาแทบจะร้องให้ได้เลยเมื่อร่างสูงอุ้มเขาแล้วตรงไปที่ห้องเรียน ตัวของเขาสั่นอย่างกับลูกนกตกน้ำทำไมถึงจร้ายได้ขนาดนี้

       

      “ขอร้องคารุมะคุง...ผมจะไม่ทำมันอีกแล้ว อึก”ใบหน้าสวยเปียกชื้นไปด้วยน้ำตา กลัวเหลือเกิน ทั้งที่เขาน่าจะเป็นคนโกธรแต่ทำไมถึงกับเป็นร่างสูงละ เมื่อได้ฟังแบบนั้นเขาก็เลื่อนเป้าหมายไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์พละทันที แพ้ให้เขาอีกแล้วอยากจะตายหนัก อยากจะตายจริง

       

      ปัง เสียงประตูปิดลงพร้อมกับความหวังที่ไม่มีทางเป็นจริง ร่างสูงปล่อยร่างที่เล็กกว่าตัวเองไว้บนฟุตที่เอาไว้ฝึกปฏิบัติการม้วนตัวหรือการป้องกันตัว พร้อมกับลากเก้าอี้มานั่งต่อหน้าคนที่กำลังกลัว รู้เลยว่ากลัวใคร

       

      “ทำให้ฉันพอใจแล้วฉันจะยกโทษให้”

      .
      .

      “อ่าส์ อืม”เสียงร้องครางออกมาด้วยความสุขที่สะสมอย่างเต็มอก มือหนาข้างขวายกขึ้นมาจับหน้าผากตัวเอง ส่วนอีกมือหน้าจับหัวคนตัวเล็กไว้ เมื่อลิ้นเล็กนั้นทำการสัมผัสส่วนที่อ่อนไหวที่สุดของเขา

       

      “อ่าส์..แบบนั้นละนางิสะ..อืม”กัดฟันพูด ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างกดหัวคนตัวเล็กไว้พร้อมกับปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมา

       

      “แฮ่กๆ”นางิสะไอออกมาก่อนจะคายสิ่งนั้นออกแต่ก็ช้ากว่าร่างสูงเมื่อเขายื่นมือมาปิดปากคนตัวเล็กก่อนจะกระซิบที่ใบหูนั้น

       

      “กลืนลงไปสะ”เสียงๆนั้นหนักแน่นก่อนที่เขาจะจำใจกลืนลงไป คารุมะปล่อยคนตัวเล็กก่อนนางิสะจะไอออกมา

       

      “แฮ่กๆ”ใบหน้าหวานเปี้ยกชื้นไปด้วยน้ำตาชายหนุ่มมองปฏิกิริยาร่างเล็ก ก่อนจะฉุดมืออีกฝ่ายให้ลุกขึ้นจนร่างเล็กเซตามแรงดึงจนร่างกายมานั่งบนตักอีกฝ่ายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ นางิสะสะบัดหัวสองสามครั้งก่อนจะมองอีกฝ่ายใบหน้าที่อยู่ใกล้กันจนแทบไม่ถึงเซนต์ นั้นทำให้ร่างเล็กจูบอีกฝ่ายอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จนคนตัวโตถึงกับเบิกตากว้างกับการโจมตีของร่างเล็กแต่ก็แค่ตกใจน้อยๆก็เท่านั้นเมื่อเห็นท่าทีเงาะๆแงะๆเขาก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ลิ้นเล็กที่แทบทำอะไรไม่เป็นแต่ก็อยากสัมผัสเขาให้มากขึ้น นางิสะนายกำลังคิดอะไรนะ ก่อนที่คนตัวโตจะทนไม่ไหวเป็นฝ่ายนำเกมลิ้นหนาเกี่ยวตวัดลิ้นเล็กไปมา พร้อมกับสำรวจโพรงปากสีชมพูนุ่ม มือหนาเลื่อนมาที่เอวกิ่วก่อนจะปลดเข็มขัดของอีกฝ่ายพร้อมกับดึงกางเกงอีกฝ่ายลง มือหนาล้วงเข้าไปในกางเกงชั้นใน ก่อนจะทำให้ช่องทางด้านหลังเตรียมพร้อมส่วนอีกมือหนึ่งก็สือไปหาหน้าอกที่ราบแบน

       

      “อะ..อืม”ใบหน้าหวานเม้นปากไปด้วยความเสียวซ่าส์ที่ได้รับ ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากขบกัดรอบคออีกฝ่าย เขาจงใจให้เกิดรอยเพราะในเบื้องก้นของหัวใจรู้สึกไม่ชอบผู้หญิงพวกนั้นเอาสะเลย

      .

      ชายหนุ่มรู้สึกแปลกใจกับการกระทำของอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะยกตัวของคนตัวเล็กขึ้น

       

      “อะ..อ่าส์ คารุมะเจ็บ”แม้จะมีอะไรกันมาหลายครั้งแต่ร่างกายของเขาก็ยังไม่ชิน ชายหนุ่มจับตัวของร่างเล็กให้ตอกรับกับสัมผัสกับเขาจนมิดด้าม ดวงตาสีฟ้าสวยมีหยดน้ำตาไหลออกมาพร้อมกับผวากอดคนตัวโตแน่น ก่อนที่มือหนาจะลูบที่แผ่นหลังร่างเล็กเบาๆเพื่อปลอบระบมขวัญของร่างเล็กก่อนที่มือหนาจะยกสะโพกบางขึ้นลงช้าๆ

       

      “อะ..คา..รุมะ..จะ..เจ็บ..ยะ..อย่าพึ่ง”แม้จะเจ็บแต่ก็ยังรู้สึกดี คนตัวโตยอมหยุด ก่อนจะเอามือออกจากเอวเล็ก และถอดเสื้อที่หอหุ้มร่างกายที่แสนแบะบางไว้ลิ้นหนาเลียยอดอกขออีกฝ่ายเพื่อให้คลายความเจ็บลงบ้าง ความเสียวซ่าส์วิ่งผ่านทั่วร่างก่อนที่คนตัวเล็กจะเคลิ้มกับสัมผัสของเขาและยอมเป็นคนขึ้นลงช้าๆ

       

      “อะ..อ่าส์”มือเล็กออกแรงบีบไหล่กว้างแน่น

       

      “ไม่เจ็บแล้วใช่ไหม”คนตัวเล็กไม่ตอบได้แต่พยักหน้าก่อนจะเอาใบหน้าซุกที่ลำคอของเขาเพื่อหนีความเขินอาย แต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรเมื่ออีกฝ่ายจับเอวเขาแล้วยกตัวเขาขึ้นและลงช้าๆ

       

      “อ่าส์...”เสียงครางที่ดังป็นจังหวะพร้อมกับลมหายใจที่จรดต้นคอของเขานั้นยิ่งทำให้เขา อดทนแทบไม่ไหวก่อนจะผลั่กคนตัวเล็กลงกับฟุตฝึกซ้อมจับเจ้าของใบหน้าหวานให้อยู่ใต้ร่าง

       

      “ยะ..อย่าพึ่ง อ่าส์”ไม่ฟังชายหนุ่มไม่ฟังคำพูดของคนตัวเล็กเมื่ออารมณ์ปรารถนาวิ่งเข้ามาจนทำให้ความโกรธเมื่อกี้หายไปในพริบตา

       

      “อ่าส์ อ่าส์”เสียงทุ้มต่ำบวกสลับกับเสียงร้องครางของคนตัวเล็ก แรงโยกของร่างสูงเหมือนสัตว์ป่า รุนแรงและดุดัน จนคนตัวเล็กแทบสิ้นสติ แผ่นหลังร่างหนาเต็มไปด้วยรอยเล็บของมือเล็ก เพื่อระบายความเสียวซ่าส์ ผมที่เคยมัดแกะก็ถูกปล่อยให้ยาวสวย  ผมสีฝ้าแผ่ซ่าส์เต็มฟุตนั้นยิ่งทำให้นางิสะเหมือนผู้หญิงเข้าไปใหญ่

       

      ความรุนแรงที่ผ่านร่างกายทำให้ตัวเล็กๆของเขาเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งภายใต้ร่างกายของร่างสูง สองกายกอดกันกลมจนถึงเฮือกสุดท้ายชายหนุ่มปล่อยน้ำสีขวาขุ่นพร้อมกับอีกฝ่ายที่ถึงจุดหมาย

       

      “แฮ่กๆ”เสียหอบหายใจของทั้งสองดั่งระงมทั่วห้องเก็บอุปกรณ์

       

      “อ่าส์..ดะเดี่ยวก่อนคารูมะคุง”เสียงเตือนเมื่อคนที่นอนบนตัวเขาเริ่มขยับตัว   พึ่งเสร็จไปแท้ๆยังจะมาทำอีกเหรอ

       

      .”อะไร แค่นี้ฉันไม่ยกโทษให้หรอกนะ รับรองเลยว่านายจะไม่มีทางมาหาเรื่องฉันอีก”พอจบประโยคนั้นเขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอทันทีอะไรกัน ฝันร้ายของเขาคงต้องดำเนินมันต่อไปสินะ

      .

      .

      เสียงหายใจสม่ำเสมอของคนที่เหนื่อยจนหมดสติ ถ้าไม่หมดเขาคงไม่หยุด มือหนาลูบไล้ใบหน้าที่หวานกว่าผู้ชายด้วยความหลุ่มหลงยิ่งแสงของเสี้ยวพระจันทร์ส่องใบหน้านั้นมันยิ่งทำให้คนตัวเล็กนั้นสวยกว่าผู้หญิงคนไหนๆ อ้อมแขนใหญ่โอบกอดกายเล็กเอาไว้ด้วยความห่วงแห ราวกับว่าถ้าเขาไม่กอดไว้แน่นๆจะมีคนมาขโมยคนตัวเล็กไป

       

      ที่วางแผนทำร้ายเพราะ นางิสะไปคุยกับผู้ชายคนอื่นแถมยังยอมให้พวกนั้นสัมผัสตัว มิหนำซ้ำยังใจดีให้กับคู่อริเขาอีกด้วย เพราะงั้นนายต้องเป็นของฉันเท่านั้น อยู่ข้างกายฉันไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม ก่อนที่เขาจะหยิบชุดที่กระจัดกระจายมาสวมใส่ก่อนที่ บานประตูไม้เก่าจะถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของอาจรย์สัตว์ประหลาด มือหนาขว้ามีดและปาไปทิศทางของคนที่แก่กว่า

       

      “มันอันตรายนะครับคารุมะคุง จะเล่นอะไรก็ระวังๆกันบ้าง”ใบหน้านั้นยิ้มตลอดเวลาก่อนจะเดินมาหาลูกศิษย์

       

      “แล้วอาจรย์เข้ามาทำไมละครับ”พูดก่อนจะถอดเสื้อนอกของตัวเองออกแล้วห่มให้ร่างกายเล็ก ไม่อยากให้ไอ้สัตว์ประหลาดนี้เห็นของๆเขา

       

      “ชิชิๆ ไม่ต้องห่วงหรอกครับคารุมะคุง อย่างไงก็เบาๆมือหน่อยก็แล้วกันนะครับร่างกายของนางิสะคุงนะไม่ได้ทึกเหมือนคารุมะคุงนะครับ”พูดพร้อมกับใช้ความเร็ว 20 มัดเอาผ้าห่มมาห่มให้ร่างเล็กที่ยังไม่ได้สติก่อนจะโดนอีกคนปามีดใส่แต่ก็ยังรับได้อย่างสะดวก ชายหนุ่มเดินด้วยความเร็วแสงไปช้อนตัวคนตัวเล็กขึ้นมา

       

      “ไม่ต้องมายุ่งกับผมดีกว่า แล้วอีกอย่างอาจรย์ใช่ไหมที่เป็นคนวางแผนทั้งหมด”พูดก่อนจะจี้อย่างปากไม่พอใจทำไมต้องมายุ่งเรื่องของเขา

       

      “แต่ผลที่ได้มันก็คุ้มนะครับ แล้วอีกอย่างนะคารุมะคุง คนเรานะไม่ใช่สัตว์มนุษย์นะมันมีขีดจำกัดของมันนะครับว่าแต่ว่านางิสะคุงจะมีขีดจำกัดเท่าใดก็เท่านั้นเองครับ คุณข่มเขาไปตลอดไม่ได้หรอกนะครับคารุมะคุง”ย้ำเตือนลูกศิษย์ก่อนจะลูบผมสีแดงนั้น

       

      “ผมรู้”พูดพร้อมกับย่อซอกตัวเองเพื่อให้คนตัวเล็กที่หมดสติเข้ามาหาตัวก็แค่อยากเก็บไว้กับตัวมันไม่ได้เหรอ

       

      “งั้นก็ฝากนางิสะคุงด้วยนะครับ แล้วก็เดินกลับบ้านดีๆด้วยละครับ”คารุมะไม่ตอบอะไรกับอาจรย์เขาเดินออกจากที่นั้นทันที

       

      คารุมะ อาคาบาเนะ ไม่ชอบผู้ชายไม่เคยคิดจะชอบด้วย แต่นี้ละนะเกลียดสิ่งไหนย่อมได้สิ่งนั้น เขากลับมาชอบผู้ชายหน้าหวานที่มีรอยยิ้มแต่แววตานั้นอมทุกข์ มันทำให้เขาหลงใหลแบบแปลกๆ ตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็มองเด็กหนุ่มมาโดยตลอดแต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย

       

      แต่ตอนนี้ร่างกายของอีกฝ่ายนั้นเต็มไปด้วยรอย ฟกช้ำไปทั้งตัวผิวสวยๆนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยของเขา มือหนาจับผ้าขนหนูเช็ดตัวให้อีกฝ่ายเบาๆ พร้อมกับไล้ดวงตาสำรวจร่างกายนั้นด้วยความนึกคิด ว่าอยากสัมผัสให้มากกว่านี้ แต่ความคิดก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นน้ำตาของคนตัวเล็กและคำที่เพ้อออกมา

       

      “พะ..พอไม่เอา”เสียงนั้นช่างอ่อนแรงสะเหลือเกิน ชายหนุ่มก้มตัวลงจูบหน้าผากของเขาด้วยความอ่อนโยน พยายามลบฝันร้ายที่ตราตรึงอยู่ในห้วงแห่งความฝันนั้นออกไป  ก่อนจะหาเสื้อผ้ามาใส่ให้ร่างเล็กและสอดกายเข้าใต้ผ้าห่มนั้นพร้อมกับนอนกอดอีกฝ่ายด้วยความหลงไหล ล็อกกรงไว้ด้วยอ้อมกอดที่หนาแน่น นกที่สง่างามไปทั้งตัวมีหรือที่เขาจะปล่อย

      .

      .

      แสงแดดอ่อนๆกระทบกับใบหน้าสวยก่อนที่เจ้าของใบหน้านั้นจะพลิกกายหลบแสงที่มากวนเวลานอนก่อนจะพบกับหมอนข้างที่ดูแข็งกระด้านไปหน่อยแต่ด้วยความเหนื่อยอ่อนจากเมื่อคืนเขาก็ไม่มีแรงที่จะสงสัยได้เลยมันเหนื่อยมากจนเขาไม่อยากจะสนอะไรอีกแล้ว

       

      ก่อนที่เขาจะเริ่มหายใจไม่ออก มือเล็กยันหมอนข้างที่เริ่มทำตัวรุกรามพร้อมกับเบื้อนหน้าหนีเพราะเริ่มหายใจไม่ออก ก่อนที่ดวงตาสีฟ้าสวยจะลืมตาขึ้นก็พบดวงตาสีอำพันมองมาทางเขาด้วยเล่ห์กลก่อนที่ขาจะหลับตาแน่น มือหนาวนที่แผ่นหลังร่างเล็กพร้อมกับริมฝีปากหยาบบดขยี้ริมฝีปากเล็กก่อนจะยอมผละออกคนตัวเล็กรีบผลั่กคนตัวโตออกด้วยความตกใจก่อนจะสำรวจดูรอบๆห้อง

       

      แล้วลุกออกจากที่นอนทันที เวรละเขาไม่ได้กลับบ้านแม่ต้องโกรธเขาแน่น แต่ก็ลุกได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องทรุดลงนั่งอย่างไม่อาจช่วยได้เพราะความเจ็บนั้นวิ่งแล่นเข้ามาหาเขาให้ตายสิเอวเคล็ด เขาละอยากจะร้องให้จริงๆใบหน้าเล็กเงยเกยไปด้วยความเจ็บก่อนที่คนตัวโตจะช่วยพยุง

       

      “จะรีบไปไหน”ถามพร้อมกับวางอีกฝ่ายบนที่นอน

       

      “ผะ..ผมจะรีบกลับบ้าน ผมกลัวแม่เป็นห่วง”ตอบออกไปตามความจริงเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายโกรธเดี่ยวเขาจะซวย

       

      “ฉันโทรบอกแม่นายแล้วว่านายมาเข้าค่าย”คำพูดนั้นทำให้อีกฝ่ายถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนที่คารุมะจะดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด สิ่งนั้นทำให้อีกฝ่ายตกใจจนเผลอผลั่กออก แต่ก็ไม่สำเร็จคนตัวโตกอดคนตัวเล็กแน่น


      “..อะ..อะไร..กันคารุ..”

       

      “ขอโทษ”ชายหนุ่มชิงตัดบทสะก่อน พร้อมกับกระชับอ้อมกอดให้มากขึ้น

       

      “.....”

       

      “ฉันขอโทษ..ที่ทำผิดมาตลอด ที่ฉันทำไปทั้งหมดก็เพราะฉันรักนายนะ”ดวงตาสีฟ้าสวยเบิกตากว้างกับคำพูดของเขา ข้างในดวงใจนี้รู้สึกดีแปลกๆอย่างประหลาด

       

      “.....”

       

      “นางิสะ ฉันรักนายนะ”

       

      “ตะ..แต่ผมเป็นผู้ชายนะ”คำพูดนั้นทำให้คนตัวโตอดที่จะยิ้มไม่ได้

       

      “แล้วไง”

       

      “มันจะเป็นไปได้เหรอ บางทีคารุมะแค่หลงผมเชยๆ อีกไม่นานก็คงจะเบื่อผมและไปชอบสาวๆแหง่ๆ”คำพูดที่ออกทางน้อยใจนั้นทำให้คนตัวโตอดที่จะยิ้มไม่ได้ ก่อนจะผละเขาออกเพื่อดูใบหน้าหวานนั้นชัดๆ


      “ฉันไม่มีทางทิ้งนายแน่นๆ”น่ารักขนาดนี้ใครจะไปทิ้งลงจริงไหม? เมื่อได้ยินคำยืนยันจากปากร่างสูงคนตัวเล็กก็อดที่จะอดยิ้มไม่ได้ ใบหน้าหวานซุกไปที่อกเขาเพื่อหนีความเขิน หรือบางทีเขาอาจจะชอบคารุมะคุงไปแล้วนะ หัวใจดวงน้อยๆเต้นรั่วอย่างบ้าคลั่ง

       

      “แล้วนายละรักฉันไหม? ”เมื่อได้ยินคำนั้นใบหน้าก็ซุกเข้าไปในอกของอีกฝ่ายจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันอยู่แล้ว คนตัวเล็กพยักหัวน้อยๆ

       

      “ระ..รักครับ..”เพียงแค่สองคำนี้ก็ทำให้ตนตัวโตหัวเราะอย่างมีความสุขได้ ใบหน้าคมคายยิ้มออกมาจนแก้มบานกอดอีกฝ่ายแน่น ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยไปแน่น

      .
      .

      “คารุมะคุงพาผมมาที่โบสถ์ทำไมครับ”ถามอีกฝ่ายเมื่อเขาลากร่างเล็กๆของเขามาที่โบทส์แห่งนี้ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรได้เพียงแต่ยิ้ม ตอนนี้พวกเขามายืนต่อพระเยชู

       

      “ฉันแค่อยากทำให้นายเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด”พูดก่อนจะหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋าแล้วจับมือบางขึ้นมาแล้วสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายให้อีกฝ่ายก่อนจะจูบมือเล็กนั้น

       

      “......”ดวงตาสีฟ้าสวยมองการกระทำนั้นด้วยความรู้สึกตื้นตันเขาพูดอะไรไม่ออกจริงๆ

       

      “ผม คารุมะ อาคาบาเนะขอสัญญาว่าจะรัก นางิสะ ชิโอโตะ ไปชั่วชีวิต จะไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายไปไหนอีกเด็ดขาด ต่อให้ต้องร่ามโซ่ไว้ หรือมัดไว้กับเตียง ผมก็จะทำถ้าหากสิ่งนั้นจะทำให้เขาอยู่กับผมไปชั่วชีวิต เขาจะไม่มีทางหนีจากผมไปไหนได้เด็ดขาด”สิ้นคำประกายสิตนั้นใบฝีปากหนาก็ทาบลงบนมือนุ่มที่นุ่มกว่าผู้หญิงขึ้นมาจูบอีกครั้ง ก่อนที่คนตัวล็กจะโผกอดอีกฝ่ายด้วยความดีใจ

       

      ภาพที่เด็กชายสองคนในชุดเครื่องแบบนักเรียนมอต้นกอดกันต่อหน้าพระเยชู สิ่งนั้นทำใหน้ำตาของอาจรย์ไหล ถึงฝั่งสักทีนะครับทั้งสองคน

       

      จบแล้ว ก็วายเรื่องแรก  แต่งเพื่อฉลางงานวันเกิดให้กับตัวเอง ขอให้รีดทุกคนอวยพรให้ด้วยเด้อ สาธุๆ555

      ถ้ากระแสดี ไรท์ก็คงคิดว่ามันน่าจะมีภาคต่อนะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×