The last day i will be... วันสุดท้าย ฉันจะเป็น
" สัญญาได้มั้ยว่าจะไม่ร้องไห้แบบนี้อีก " " ได้สัญญา " ผมพูดแบบนี้มากี่ครั้งแล้วนะ...
ผู้เข้าชมรวม
64
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
.
.
.
" เฮ้อ... "
เขาบอกกันว่าถ้าถอนหายใจบ่อยๆ จะอายุสั้นลง ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมคงจะตายวันพรุ่งนี้แล้วล่ะ
ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนโซฟาภายคอนโดของผมกับเขา เป็นสถานที่ที่แสนคุ้นเคย.. และไม่อยากที่จะกลับมาอีก
'คนเราต้องรู้จักยอมรับความจริงนะ'
เพราะคำพูดคำนั้น ทำให้ผมยอมกลับมาเหยียบที่นี่อีกครั้ง ผมใช้เวลาหกเดือนในการท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ ญี่ปุ่น เกาหลี อิตาลี อังกฤษ ล้วนเป็นสถานที่ที่เราเคยไปมาด้วยกัน แต่ตอนนี้ ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะสวยสักแค่ไหน ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด มีแต่จะทำให้ผมคิดถึงเขามากขึ้น สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับมา...
ผมนั่งนึกถึงอดีต ตอนที่เรายังอยู่ด้วยกัน เสียงหัวเราะที่เราเคยมีให้กัน
'เธอไข่ดาวไหม้แล้ว ผมไม่อยากเป็นมะเร็งนะ'
'ผมยอมแล้ว ไม่ทอดแล้วก็ได้'
ทั้งที่พูดแบบนั้น แต่กลับยอมกินไข่ดาวไหม้ๆ ของผม แล้วยังชมว่ามันอร่อยอีกต่างหาก
" คนโง่... "
ตอนนี้มันไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ ไม่เหลืออะไรเลย
'สัญญาได้มั้ยว่าจะไม่ร้องไห้แบบนี้อีก'
ผมผิดสัญญาอีกแล้ว
นํ้าตาค่อยๆ ไหลรินลงมาจนถึงปลายคาง ก่อนหยดลงสู่พื้น ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นที่โอบล้อมรอบตัว ผมรู้เขายังคงเป็นห่วงผม ผมไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจเลย แต่ผมทำไม่ได้ เพราะอดีตที่ไม่เคยลืมเลือน
หรือตัวผมเอง ที่ไม่เคยออกมาจากมัน
ผมนั่งร้องไห้อยู่ราวครึ่งชั่วโมง ก่อนจะมีเสียงประท้วงจากท้องน้อยๆ ของผม เอี่ยวตัวไปมองนาฬิกาข้างผนัง
'เธอนาฬิกาตายอีกแล้ว'
'เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมซื้อถ่านมาเปลี่ยนให้นะ'
ไม่มีพรุ่งนี้ นาฬิกาที่ตายตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ก็ยังไม่ได้กลับมาเดินตรงเหมือนเดิม
" ถ่านยังไม่ได้เปลี่ยนเลย ทำไมเธอไม่กลับมาล่ะ "
ผมเริ่มร้องไห้อีกครั้ง จนเผลอหลับไป
.
.
.
ผิดสัญญาอีกแล้วสินะ
ผมตัดสินใจกลับบ้านที่ไม่ได้กลับมานาน เสียงของแม่ยังคงดีใจและสดใสเสมอเวลาที่ผมโทรหา แต่ครั้งนี้มันมีอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมา เสียงสะอื้น
" แม่คิดถึงนะลูก " เสียงที่ทำให้ผมยิ้มได้ในหลายเดือนที่ผ่านมา
ผมยกมือไหว้แม่ เรากอดกันนานมาก ผมรู้...แม่กำลังร้องไห้
ผมเดินเข้ามาในบ้าน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม บรรยายกาศยังคงอบอุ่นเสมอ พ่อหันหน้ามามองผม ผมยกมือขึ้นไหว้ก่อนที่พ่อจะพูดขึ้น
" กลับมาแล้วหรอ " คำพูดธรรมดา แต่ผมรู้ดี ว่ามันเต็มไปด้วยความห่วงใย
เรานั่งกินข้าวกันเงียบๆ แม่ชวนผมคุยบ้างประปราย หลังจากกินเสร็จ ผมขอตัวขึ้นห้องนอนตัวเอง
ห้องที่ไม่ได้กลับมานานยังคงสะอาด แม่ดูแลมันอย่างดี
.......Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr.......
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก่อนที่ผมจะกดรับ
' ฮัลโหล.. '
' ไอ้ทิน มึงรับแล้ว มึงรู้มั้ยว่ากูโทรหามึงไปกี่สายยย '
' โทษที '
' เฮ้อ.. กูรู้ว่ามึงเสียใจ ทุกคนก็ต่างเสียใจ แม้มันจะไม่เท่ากับความรู้สึกของมึงก็ตาม ' บีมพูดปลอบผม มันรู้ดีว่าผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก จนหนีไปต่างประเทศคนเดียว
' ทีมมันไปสบายแล้วนะ ถ้ามันรู้ว่ามึงยังเศร้าเสียใจจนไม่เป็นอันทำอะไรแบบนี้ มันคงไม่สบายใจนะมึง '
ชื่อที่ผมไม่ได้ยินมานานดังขึ้น
ใช่... ทีมคือคนรักของผม
เราคบกันตั้งแต่ปี 2 ตอนแรกที่บ้านผมไม่ได้ยอมรับ แต่เขาก็พิสูจน์ตัวเอง จนในที่สุดก็สำเร็จ ทีมทำลายกำแพงของคนที่บ้านผมจนทุกคนยินยอมให้เราคบกัน เราคบและอยู่ด้วยกันมา7ปี
ทีมไม่มีพ่อแม่ เขาเติบโตในบ้านเด็กกำพร้า เขาส่งเงินและกลับไปเยี่ยมที่นั่นทุกๆเดือน และวันนั้น...
'เธอนาฬิกาตายอีกแล้ว'
'เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมซื้อถ่านมาเปลี่ยนให้นะ'
'พรุ่งนี้เธอจะไปเยี่ยมที่บ้านใช่มั้ย'
'อือ คงไปตอนเย็นหลังเลิกงานน่ะ'
'ให้ไปด้วยมั้ย'
'ไม่เป็นไรหรอก เธอทำงานเถอะ พรุ่งนี้ค่อยตามมานะ'
'ขับรถดีๆ'
'ทราบแล้วครับ' เขาตอบก่อนจะโอบเอวผมเข้าหาตัว
'รักนะครับ'
'อืม'
ก่อนที่เขาจะประทับริมฝีปากลงมา
เราจูบกัน... เป็นครั้งสุดท้าย
20:38
.......Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr.......
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมคิดว่าเป็นทีมโทรมาบอกว่าถึงบ้านเด็กกำพร้าแล้ว ใช่เป็นเบอร์ของทีม... แต่ไม่ใช่เสียงของทีม
' ขอโทษนะครับ ใช่แฟนของเจ้าของโทรศัพท์รึเปล่าครับ ' ผมได้ยินเสียงดังชุลมุนออกมาจากปลายสาย
' ใช่ครับ มีอะไรหรอครับ '
' แฟนคุณรถชน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุนะครับ '
หูผมดับไปชั่วขณะ
อะไรนะ...
' ตอนนี้กำลังนำศพไปโรงพยาบาล N ครับ '
สายตัดไป ผมรีบวิ่งไปหาบีมที่อยู่ชั้นเดียวกันให้รีบพาไปโรงพยาบาล
' มึงตั้งสติก่อนนะ '
ผมไม่สามารถห้ามนํ้าตาไว้ได้ ถ้าพระเจ้าได้ยินเสียงนี้ได้โปรดช่วยเขาด้วย ขอให้เขายังอยู่ ขอให้เขายังอยู่ ผมยังไม่ได้บอกรักเขาเลย ได้โปรดเถิด ผมได้แต่นึกแบบนี้ไปตลอดทาง
และแล้วเสียงของผมก็ส่งไปไม่ถึง...
ไม่มีเขาอีกแล้ว มีแต่ ร่างไร้วิญญาณ ของเขานอนอยู่ตรงนั้น ใช่... เขาจากผมไปแล้ว
บีมวางสายไป
ผมได้แต่นั่งนิ่งๆ นึกถึงอดีตที่ผ่านไป ผมนั่งมองรูปภาพที่เข้าแปะไว้ที่ผนังห้องตอนที่เรามาห้องผมครั้งแรก
'แอบเขียนอะไรไว้อะ'
'ไม่บอกหรอก วันเกิดค่อยมาเปิดดูนะ'
อยู่ๆก็นึกขึ้นได้ ตั้งแต่วันนั้นผมยังไม่ได้แกะมัน
ผมเดินไปลอกสติ๊กเกอร์ทั้งสี่มุมออกจากผนัง แล้วพลิกรูปขึ้น
ถึงทินที่รัก... สุขสันต์วันเกิดอีกปีหนึ่งของคุณ
ความจริงผมมีของขวัญอีกอย่างที่จะให้คุณแล้ว แต่อยู่ๆก็ยากเขียนสิ่งนี้ให้ ไม่รู้ว่าคุณจะได้อ่านมันเมื่อไหร่
ตั้งแต่ผมเกิดมาชีวิตของผมมีบ้านแสงบุญเป็นที่เลี้ยงดู ผมไม่เคยเห็นอะไรสำคัญเท่ากับที่นั่น จนมาเจอ คุณ
หลังจากคุณเข้ามาผมคุณก็เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่ผมอยากรักษาไว้ทั้งชีวิต ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
ผมขอให้คุณดูแลตัวเองดีๆ ผมก็จะดูแลคุณเช่นกัน สิ่งที่ผมคาดหวังมากที่สุด คือการเห็นคุณ มีความสุข
รักคุณนะ คุณทินมนัส ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม ยิ้มเยอะๆ รอยยิ้มของคุณเป็นสิ่งสวยงามที่สุดในโลกนะ
รัก
- ทิรากร
หลังอ่านจบผมไม่สามารถจะห้ามนํ้าตาของผมได้อีก แต่ถึงแม้จะร้องไห้แต่ครั้งนี้กลับแตกต่าง
เพราะผมกำลังยิ้มอยู่
ผมสัญญา ว่าจะทำสิ่งที่คุณคาดหวังมากที่สุดในชีวิตให้เป็นจริง
ตอนเช้าผมตัดสินใจบอกแม่ว่าจะไปทำบุญที่วัด แม่ยิ้มและเตรียมของต่างๆไว้ให้
" ฝากทักทายทีมด้วยนะลูก "
ผมยิ้มตอบ
หลังจากถวายสังฆทานเสร็จ ผมเดินไปยังที่ไว้โกศของเขา แม้จะมีคนมาดูแลให้บ้างแต่ก็ไม่บ่อยนัก ผมจัดการทำความสะอาดแจกัน เปลี่ยนดอกไม้ใหม่ ดึงก้านธูปที่ปักไว้ออก นําผ้ามาเช็ดแผ่นหินอ่อนสลักชื่อของเขา
" หล่อเหมือนเดิมแล้วนะ "
หลังจากทำความสะอาดเสร็จ ขณะที่ผมกำลังเดินออกมา หลวงตาท่านเดินผ่านมาก็พูดขึ้นว่า
" การปล่อยวางเป็นสิ่งที่ดีแล้วโยม นอกจากเขาผู้นั้นจะสบายใจแล้ว ตัวโยมก็จะสบายใจเช่นกัน "
ผมมือไหว้ก่อนที่ท่านจะเดินจากไป ผมหันกลับไปยังที่เก็บโกศของเขา
ผมเห็นเขายืนอยู่ ทีมยืนอยู่ตรงนั้น...
เขามองผมด้วยรอยยิ้ม ผมไม่สามารถจะห้ามนํ้าตาได้อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะพูดบางอย่างกับผม
' มีความสุขนะ '
ผมพยักหน้าตอบ แล้วพูดกลับไป
'รักนะ'
เขาพยักหน้ารับ แล้วยกมือขึ้นมาเอานิ้วโป้งแตะกับนิ้วชี้กำนิ้วที่เหลือ แล้วเอาไว้ใต้ปากก่อนจะกางนิ้วทั้งสองที่แตะกันอยู่ออกแล้วยิ้ม
ผมทำตามเรามองตากันและยิ้มให้กัน ก่อนเขาจะหายไป
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผมจะผิดสัญญากับเขา เขาจะเห็นผมมีความสุขได้แล้วต่อจากนี้ นํ้าตาที่เคยมีเหือดแห้งไปหมดแล้ว เหลือแค่เพียงรอยยิ้มบนหน้าเท่านั้นที่ยังคงอยู่ ผมหันหลังกลับ และตัดสินใจเดินออกไป...
'นายชื่ออะไรอะ'
'อ่อ เราชื่อทิน'
'ชื่อเราคล้องกันเลย เราชื่อทีมนะ ยินดีที่ได้รู้จัก'
'อืม' เขาทำหน้าอํ้าอึ้งเหมือนต้องการจะพูดอะไรสักอย่าง
'มีอะไรรึเปล่า'
'คือนาย...
.
.
.
ยิ้มสวยดีนะ'
จบไปกับเรื่องของทินและทีม ต่อจากนี้ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆ ยัยน้องก็ปลดล็อกตัวเองแล้วก็ดำเนินชีวิตต่อไป ส่วนคุณพี่ก็มองน้องลงมาจากบนสวรรค์เนาะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของไรท์เลย หากมีอะไร สามารถติชมได้เลยนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ
twitter : https://twitter.com/HomHuaLY
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ็HuaHom ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ็HuaHom
ความคิดเห็น