ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { EXO }Pandora of love [ Chanbaek ]

    ลำดับตอนที่ #26 : Pandora 21

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.94K
      8
      24 พ.ย. 56

    Chapter 21

     

     

    ในที่สุดก็ถึงเวลา.. เวลาที่แบคฮยอนจะได้เริ่มต้นใหม่กับสิ่งใหม่ๆ เสียที...

     

    เวลาล่วงเลยมา 3 วันแล้วนับตั้งแต่ชานยอลมาหาเขาที่บ้าน..

    แต่ละวันยังคงทุกข์ทรมานเช่นเคย.. เวลาช่างเดินไปช้าเหลือเกินกว่าจะถึงวันที่จะได้ออกเดินทางจากดินแดนบ้านเกิดที่นี้

     

    แบคฮยอนนั่งอยู่บนเก้าอี้ในสนามบินอินชอนเพียงลำพังเพื่อรอเวลาที่เครื่องจะขึ้น..  เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้เฮเคียวดูลุกลี้ลุกลนแปลกๆ แถมยังบังคับให้เขาโทรไปเปลี่ยนไฟท์บิน.. พอถามถึงเหตุผลก็ได้คำตอบเดิมๆ ว่าอยากให้อยู่กับแม่อีกสักพัก..

     

    นี่เขาก็อยู่บ้านมาเกือบอาทิตย์แล้ว แถมยังไปนอนคุยกับคุณแม่คนสวยทั้งคืน ยังไม่พอใจอีกหรอ ?

     

    แต่สุดท้ายแบคฮยอนก็ดึงดันว่าจะไม่เลื่อนไฟท์.. เฮเคียวจึงต้องยอมตามใจลูกชายในที่สุด

     

    คนตัวเล็กยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกาก็พบว่าถึงเวลาแล้ว  เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหันไปลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่บรรจุเสื้อผ้าไว้เป็นจำนวนมากพอที่จะใช้ได้ถึง 1 – 2 ปี...

     

    ทว่าตอนที่แบคฮยอนกำลังจะก้าวเดินออกไปนั้นกลับมีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน...

     

    เสียงที่สามารถเรียกน้ำตาให้ไหลรินออกมาได้เมื่อได้ยิน..

     

    แบคฮยอน !”  เสียงแหบทุ้มตะโกนลั่นซึ่งสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของเจ้าของชื่อได้ทันที

     

    แบคฮยอนก้มหน้าแล้วหลับตาลงอย่างพยายามข่มไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก  พอแล้วกับการอ่อนแอ.. ตอนนี้เขากำลังจะเริ่มต้นใหม่แล้ว...

     

    แต่สุดท้ายน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ไหลรินมาเป็นสายเมื่อได้รับสัมผัสอบอุ่นจากคนที่เรียกเขาจากทางข้างหลังเมื่อสักครู่นี้

    ชานยอลเดินเข้ามากอดแบคฮยอนไว้จากทางด้านหลัง.. แม้จะไม่เห็นหน้าแต่เขาก็รับรู้ได้ว่าแบคฮยอนกำลังร้องไห้เพราะสัมผัสได้จากอาการสั่นไหวเล็กน้อยของไหล่บาง  เขาพาดคางลงบนไหล่ของแบคฮยอนแล้วหลับตาลงเหมือนกับคนในอ้อมกอด

     

    แบคฮยอนจะไปไหน.. ทำไมไม่บอกยอลเลย

    ไม่มีเหตุผลที่จะต้องบอก.. ปล่อยได้แล้ว ฮึก..

    จะทิ้งกันไปไหนแบคฮยอน...”  ไม่ใช่ว่าชานยอลไม่รู้ว่าแบคฮยอนจะไปไหน.. ความจริงเขารู้เรื่องตั้งแต่วันที่กลับมาจากบ้านของคนตัวเล็กนี่แล้วด้วยซ้ำ..

    เฮเคียวกับชานยอลปรับความเข้าใจกัน  ชานยอลขอโทษเฮเคียวถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการกระทำของเขาเองทั้งนั้น..

     

    จะไปไหนก็เรื่องของฉัน... สรรพนามที่เรียกแทนตัวเปลี่ยนไป.. แสดงได้ชัดเจนถึงระยะห่างที่แบคฮยอนจงใจสร้างมันขึ้นมาในความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคน

     

    อย่าไปเลยนะแบคฮยอน.. อย่าทิ้งยอลไปเลยนะครับ

    ปล่อย...

    ขอร้องล่ะแบคฮยอน อย่าไปได้มั้ย ?” อ้อมแขนแกร่งเริ่มกระชับมากขึ้น.. จนแบคฮยอนรู้สึกอึดอัด

     

    ไม่มีเหตุผลที่ฉันจะต้องบอกนาย ! ปล่อยได้แล้ว !”

    ฮึก.. ให้โอกาสยอลได้มั้ยแบคฮยอน ทุกวันนี้ก็ทรมานมากพออยู่แล้วนะ ฮึก..คราวนี้ชานยอลกลับเป็นฝ่ายที่แสดงความอ่อนแอออกมาให้แบคฮยอนเห็นอีกครั้ง..

     

    เกือบจะใจอ่อนแล้วถ้าภาพเมื่อตอนนั้นไม่ย้อนกลับมาให้เห็นในห้วงความคิด..

     

    ฉันก็ทรมานไม่ต่างจากนาย...

    ฮึก.. ขอโทษ

    แต่ในเมื่อความทรมานทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพราะนายเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง.. แล้วนายจะมีสิทธิ์มาเรียกร้องอะไรได้อีกล่ะชานยอล..

     

    แบคฮยอนค่อยๆ ดึงมือของชานยอลออกจากรอบเอวของเขา แล้วคราวนี้ไม่ต้องออกแรงมากก็ทำได้สำเร็จ...

    ชานยอลทรุดเข่าลงกับพื้นแล้วก้มหน้าลงอย่างคนอ่อนแรง.. น้ำตาจำนวนมากที่หลั่งรินล่วงสู่พื้นกระเบื้องสีขาว...

     

    แม้จะไม่ได้หันหลังไปมองแต่แบคฮยอนก็รับรู้ได้ว่าเบื้องหลังของเขาเกิดอะไรขึ้นบ้าง.. คนตัวเล็กยืนชั่งใจอยู่สักพักแล้วหันกลับไปดึงร่างสูงให้ลุกยืนขึ้น แล้วสอดแขนขาวไปโอบกอดทันที..

     

    แบคฮยอน...

    เรื่องของเรามันจบแล้วชานยอล.. มันจบไปตั้งแต่วันที่นายกอดกับคนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน...

    ฮึก..

    กลับไปได้แล้ว.. ดูแลตัวเองให้ดีๆ.. ฉันเชื่อว่ายังมีคนอีกมากมายที่รักนาย....ตาเรียวเล็กหลับลงอย่างกลั้นน้ำตา..

     

    แล้วแบคไม่รักยอลแล้วหรอ.. แบคลืมเรื่องราวทุกอย่าง ฮึก.. ที่เกิดขึ้นไปหมดแล้วหรือไง ?”

    รัก.. รักมาก..

    ......

    แล้วทุกสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา.. ฉันจะไม่ลืมมันเลย แบคฮยอนผละกอดแล้วดันตัวเองออกมา...

    ยอลไม่อยากเป็นเพียงความทรงจำ...

    ......”  แบคฮยอนไม่ตอบอะไร เพียงแต่ยิ้มให้บางๆ เท่านั้น.. คนตัวเล็กถอยห่างออกจากชานยอลไปเรื่อยๆ โดยที่ร่างสูงก็ไม่ได้เอ่ยทักท้วงอะไรออกมา

     

    เวลาจะทำให้นายลืมฉันไปเอง...

    ยอลจะรอ...

    ฉันเชื่อว่าสักวันทั้งนายและฉันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม...

    อย่างไง ?”

    เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้เมื่อถึงเวลา..คราวนี้แบคฮยอนหยุดเดินแล้วเอื้อมไปคว้ากระเป๋ามาไว้ในมือเช่นเดิม..

    ดวงตาของทั้งคู่จ้องกันอย่างสื่อความหมายบางอย่างที่ทั้งคู่รู้ดีว่ามันคืออะไร..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ลาก่อนชานยอล.. นายคือความทรงจำที่สวยงามที่สุดของฉัน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     




















     

     

     

     

     

     

     

    ..................................................................................

     




















     

     

     

    แบคฮยอนอา จงแด ! มากินข้าวได้แล้ว เสียงแหลมเล็กของมินซอกดังขึ้นลั่นบ้านเพื่อปลุกผู้ใหญ่ไม่รู้จักโตทั้งสองคน... ซึ่งเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้วกับการที่ต้องมาตะโกนทุกเช้าแบบนี้

     

    จากเด็กน้อยอายุ 24 ปี ที่เคยน่ารักขยันขันแข็งตื่นแต่เช้ามาช่วยทำอาหารกับพี่ชายตัวเล็ก กลับเปลี่ยนไปนับตั้งแต่เข้าปีที่ 2 ที่มาอยู่ที่นี่..

     

     

    แบคฮยอนขยับตัวยุกยิกในผ้าห่มผืนหนา.. แล้วดันตัวเองขึ้นมานั่งบนเตียง  ผมที่ชี้ไปมา ดวงตาที่ยังคงปิดสนิทอยู่ทำให้แบคฮยอนยังคงเป็นเหมือนเด็กน้อยน่ารัก..  มือบางยกขึ้นขยี้ตาแล้วอ้าปากหาว ก่อนจะเดินลงจากเตียงเพื่อไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แล้วออกจากห้องไป

     

    เมื่อพี่ชายตัวเล็กเห็นน้องชายเดินลงมาแล้วก็ยิ้มเปร่กับภาพตรงหน้า..

     

    แม้แบคฮยอนตอนนี้จะอายุ 26 แล้ว แต่ดูจากใบหน้าและท่าทางก็สามารถทำให้เข้าใจผิดไปได้ว่าพึ่งจะอายุ 20 ต้นๆ เท่านั้น.. หากบอกอายุจริงไปแล้วมาเห็นภาพแบบที่มินซอกเห็นตอนนี้ใครที่ไหนเขาจะเชื่อกันล่ะ !

     

    ฝ่ายจงแดที่เดินออกจากประตูห้องมา เมื่อเห็นน้องชายเดินลงบันไดอยู่ก็อดที่จะหลุดขำกับสภาพของแบคฮยอน..

     

    คนตัวเล็กรวบผมหน้าม้ามามัดไว้เป็นทรงน้ำพุ แล้วสวมใส่ชุดนอนลายหมาน้อยสีเหลืองอ๋อยตัดกับรองเท้ารูปหมาสีชมพูอ่อน...  แฟชั่นชุดนอนยอดฮิตของแบคฮยอนเขาเลยล่ะ....

     

    เห้อ.. นี่นายจะตกบันไดตายก่อนมั้ยเนี่ยแบคฮยอน ? เวลาเดินน่ะ พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ลืมตา ! จงแดก็เหมือนกัน.. บอกกี่ครั้งแล้วว่าเวลาจะทานข้าวไม่ต้องเอาหนังสือสวดมนต์มาน่ะ !” จงแดที่โดนภรรยาตัวน้อยว่าทำหน้ายู่แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อเอาหนังสือสวดมนต์ไปเก็บ  ปากก็บ่นขมุบขมิบกับความขี้บ่นของมินซอก..

     

    มินซอกอา.. เพราะไม่รู้จักอ่านหนังสือพวกนี้ไง ถึงได้เป็นคนใจร้อนแล้วยังขี้บ่นขนาดนี้ !”

     

     

     

     

     

     

    เมื่อทั้งสามคนทานข้าวมื้อเช้ากันเสร็จแล้ว แบคฮยอนก็ขึ้นห้องไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะออกไปข้างนอกอย่างที่เคย... คนตัวเล็กเลือกที่จะสวมเสื้อผ้าหนาๆ กับผ้าพันคอสีเทาผืนโปรดของเขา...

     

    มินซอกเคาะประตูห้องของแบคฮยอนแล้วเปิดประตูเข้าไปเมื่อได้รับคำอนุญาต

     

    แบคฮยอนอา.. วันนี้จะไปที่นั่นอีกแล้วหรอ ?”

    ใช่ฮะ...

    อือ.. งั้นสวมเสื้อผ้าหนาๆ นะ นี่ก็ใกล้ช่วงที่หิมะจะตกแล้ว.. เดี๋ยวจะไม่สบายพี่ชายตัวเล็กยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วหันไปหยิบเสื้อคลุมมายื่นให้แบคฮยอน..

     

    อ๊ะ ! พี่มินซอก วันนี้วันที่เท่าไหร่หรอ ?” แบคฮยอนร้องถามมินซอกเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้..  มินซอกทำหน้าสงสัยแล้วตอบกลับไป

     

    อืมม.. วันที่ 24 แล้วล่ะ มีอะไรหรือเปล่า ?”

    ไม่มีอะไรฮะ.. ผมไปแล้วนะพี่มินซอก ! เดี๋ยวกลับมา แล้วแบคฮยอนก็วิ่งออกจากห้องไป เพื่อไปยังสถานที่โปรดของเขา..

     

     

     

    ในที่สุดก็มาถึง....

     

    แบคฮยอนเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ไม้สีขาวที่เขานั่งเป็นประจำ แล้วทอดสายตามองตรงไปยังสะพานโกลเดนเกต สะพานที่ได้ชื่อว่ายาวที่สุดในโลกของสหรัฐอเมริกา..

     

    เขามักจะมาที่นี่เป็นประจำแล้วรอถึงช่วงเวลาที่เขาชอบมากที่สุด.. ในระหว่างที่นั่งรอเขาก็มักจะได้พบปะกับผู้คนมากมาย แล้วบางคนก็เข้ามาคุยด้วย เพราะเห็นว่าแบคฮยอนเหมือนเด็กน้อยน่ารัก.. ดึงดูดสายตาชายหนุ่มและหญิงสาวได้เป็นจำนวนมาก...

     

    ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมานี้.. แม้แบคฮยอนจะโดนชาวต่างชาติสนใจเป็นจำนวนมาก.. แล้วหญิงสาวบางคนที่อยากจะสานความสัมพันธ์ต่อ ก็โดนแบคฮยอนปฏิเสธทุกรายไป..

    ไม่ใช่ว่าเพราะเขาชอบเพศเดียวกันหรอก.. เพียงแต่เขายังไม่อยากเปิดใจให้กับใครทั้งนั้นต่างหากล่ะ...

     

    คนตัวเล็กนั่งรอจนถึงตอนค่ำ.. แสงไฟหลากสีในเมืองเริ่มเรืองรองขึ้นเพื่อสร้างสีสันให้กับความมืดที่เริ่มเข้าปกคลุม..

     

    สิ่งนี้คือสิ่งที่แบคฮยอนนั่งคอยมาตลอดทั้งวัน...

     

     

     

    นี่ก็ใกล้จะถึงวันใหม่อีกแล้วสินะ...

    แบคฮยอนก้มหน้าลงมองไปยังผืนน้ำที่สะท้อนเงาของไฟหลากสี พลางคิดอะไรบางอย่าง.. สายตาของแบคฮยอนจับจ้องไปที่คลื่นน้ำซึ่งกระทบกับฝั่งแล้วเผลอเหม่อลอยออกไปไกล..

     

    วันที่ 27 พฤศจิกายน นี้ก็วันเกิดชานยอลแล้ว... อยากกลับไปฉลองด้วยจัง..

     

    แล้วคนตัวเล็กก็เผลอหลับไปพร้อมๆ กับภาพของชานยอลที่ยังวนเวียนอยู่ในห้วงความคิด.. 

    แม้จะผ่านมาถึง 3 ปีแล้ว แต่ไม่มีสักวันที่แบคฮยอนจะลืมชานยอลได้เลย.. ไม่เคยที่จะไม่รัก และไม่คิดถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของชานยอล...

     

     

     

     

    เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงเที่ยงคืน คนตัวเล็กก็สะดุ้งตื่นขึ้นเพราะแรงสั่นจากโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อ  มือเรียวหยิบขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตกใจกับเวลาที่เห็น 

     

    หวา ! เที่ยงคืนแล้วหรอเนี่ย ! โดนพี่มินซอกดุแน่ๆ เลยเรา งื้อออ..”  บ่นกับตัวเองสักพักแล้วก็กดรับสายที่โทรเข้ามา..

     

    ยอโบเซโย ! คิดถึงจังครับคุณแม่ !”  แบคฮยอนยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใคร  เขาลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังเพื่อเตรียมที่จะเดินกลับบ้าน  ทว่าสิ่งที่เขาได้ยินต่อจากนี้ก็ทำให้ทุกการเคลื่อนไหวของเขาหยุดชะงักทันที...

     

    [ แบคฮยอน ! ช.. ชานยอล ฮึก.. ตอนนี้ชานยอลอยู่ที่ห้อง ICU เขาเสียเลือดมาก ฮือ.. ] เสียงของจีมินพูดเข้ามาตามสายโทรศัพท์ ก่อนจะตามด้วยเสียงอีกมากมายจนแยกไม่ออกว่าเป็นของใครแทรกเข้ามา..

     

    แต่เหมือนการรับรู้ของแบคฮยอนจะหยุดลงนับตั้งแต่ที่ได้ยินว่าชานยอลอยู่ที่ไหน..

     

    แบคฮยอนก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นการวิ่งแทน..  น้ำตาใสไหลออกจากดวงตาเรียวไม่ขาดสาย  หัวใจกระตุกด้วยความเจ็บปวด... เป็นห่วง.. กลัวว่าชานยอลจะเป็นอะไรไป..

     

    พระเจ้า.. ได้โปรดปกป้องคนรักของลูกด้วยเถอะครับ..

     

     

     

     

    แล้วในที่สุดเขาก็มาถึงบ้าน.. แบคฮยอนวิ่งเข้าไปข้างในแล้วขึ้นไปชั้นสอง ก่อนจะทุบประตูห้องนอนของมินซอกและจงแดเสียงดังเพื่อปลุกทั้งสองคน

     

    พี่ ฮึก.. พี่มินซอก พี่จงแด ! เปิดประตู ฮึก.. ฮือ...

     

    เสียงร้องไห้ที่ดังแทรกเข้าไปถึงในห้องบวกกับเสียงเคาะประตูอย่างแรงทำให้จงแดที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่สะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ ก่อนจะเขย่าคนรักให้ตื่นแล้วเดินไปเปิดประตูห้องออก 

     

    แบคฮยอนวิ่งเข้าไปกอดมินซอกโดยที่อีกคนไม่ทันได้ตั้งตัว มือเล็กลูบศีรษะของน้องชายเพื่อปลอบโยนแม้ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

     

    พี่มินซอก ฮึก.. จองตั๋วเครื่องบินให้แบคฮยอนทีฮะ ฮึก.. แบคจะไปหาชานยอล ฮือ...

     

     

     

     

    ใช้เวลาเพียงไม่นาน แบคฮยอนก็มาถึงที่สนามบินพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ที่ใช้เมื่อตอนที่เดินทางมาที่นี่ครั้งแรก

    คนตัวเล็กกระวนกระวายรอจนกว่าจะถึงเวลาที่เครื่องจะบินออกจากอเมริกาแล้วกลับไปที่เกาหลี.. มินซอกและจงแดที่เห็นท่าทางแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง จึงต้องมานั่งรอเป็นเพื่อน..

    ระหว่างทางที่นั่งรถมาแบคฮยอนพร่ำบอกเขาทั้งสองว่าเป็นห่วงชานยอล กลัวว่าชานยอลจะเป็นอะไรไป..

     

     

    และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง...

    แบคฮยอนลุกขึ้นยืน แล้วหันไปหาพี่ๆ ทั้งสองคนที่นั่งเป็นเพื่อนมาเกือบชั่วโมง

     

    ขอบคุณนะครับ สำหรับการดูแลมาตลอด 3 ปี.. แล้วผมจะมาใหม่นะ แบคฮยอนยิ้มให้ทั้งสองแล้วโค้งตัวให้ตามมารยาทก่อนจะก้าวเดินออกไป...

    โดยมีจุดหมายปลายทางที่กรุงโซล ประเทศเกาหลี..

     

     

     

    อย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะชานยอล...  ฉันกำลังกลับไปหานายแล้ว..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ย้อนกลับไปตอน 16.30 ของกรุงโซล ประเทศเกาหลี... ( เวลาของประเทศเกาหลีจะเดินเร็วกว่าที่อเมริกา 17 ชม. )






     

     

    ชานยอลเดินออกมาจากคอนโดหลังจากที่กระเพาะของเขาเริ่มส่งเสียงเรียกร้อง.. คนตัวสูงเดินเตร็ดเตร่ไปตามพื้นหิมะ ภายในหัวก็คิดไปถึงภาพของกินต่างๆ นาๆ

    แล้วเมื่อนึกถึงของกินทีไร ก็มักจะนึกถึงแบคฮยอนทุกที...

     

    ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาเวลาที่มีหิมะแบบนี้ แบคฮยอนมักจะไม่ออกไปข้างนอกเลยถ้าไม่จำเป็น... แบคฮยอนเป็นคนที่ชอบหิมะ แต่ก็ไม่ชอบอากาศหนาวเย็น.. แล้วตอนที่เขาอยู่ด้วยกัน เวลาตอนกลางคืนแบคฮยอนก็ชอบที่จะขยับตัวมาซุกเขาไว้ หรือไม่ก็แย่งผ้าห่มไปห่มคนเดียวโดยที่ทิ้งให้เขาต้องนอนหนาวอยู่อย่างนั้น..

     

     

    หึ..แล้วเขาก็มักจะหลุดขำออกมาคนเดียวทุกครั้ง เมื่อนึกถึงเวลาที่ได้ใช้อยู่ร่วมกันกับแบคฮยอน..

     

    ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา พวกคุณเชื่อมั้ยว่าปาร์คชานยอลไม่เคยเปิดใจให้ใครเข้ามาอีกเลย.. ไม่ว่าจะความสัมพันธ์ทางใจหรือทางกายก็ตาม..

    ชานยอลหยุดแล้ว แล้วเลือกที่จะรอคนรักของเขาเพียงคนเดียว ซึ่งคนนั้นก็คือ แบคฮยอน..

    หัวใจของเขา ยินดีที่จะรักแค่คนคนนี้คนเดียวเท่านั้น...

     

     

    เพราะตอนนี้เป็นฤดูหนาว ท้องฟ้าเลยถูกปกคลุมด้วยความมืดเร็วกว่าปกติ.. ชานยอลเดินไปตามทางเรื่อยๆ จนไปถึงบริเวณที่เริ่มห่างไกลจากผู้คน

    ขายาวก้าวไปตามทางแล้วก็หยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเหมือนเสียงผู้หญิงกรีดร้องจากซอยที่เขากำลังจะเดินไปถึง..

    แล้วจากที่เดินไปเรื่อยๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นการออกวิ่งแทน..  ชานยอลวิ่งไปถึงบริเวณนั้นก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่กำลังยืนรุมผู้หญิงตัวเล็กอยู่กลางวงล้อมนั่น..

     

    ถ้าจะวิ่งไปตามคนอื่นมาช่วย มีหวังผู้หญิงคนนั้นคงไม่รอดก่อนแน่ล่ะ...

    สุดท้ายชานยอลจึงตัดสินใจที่จะเดินเข้าไปคนเดียว แล้วตะโกนสุดเสียงจนพวกวัยรุ่นทั้งหมดหันมามอง

     

    เห้ย ! ทำอะไรกันวะ ?!”

    แล้วมึงหยุดเหี้ - อะไรด้วย !?” คำตอบที่ได้รับทำเอาชานยอลเริ่มโมโห... รู้ว่าไม่ใช่เรื่องของเขา แต่จะให้อยู่เฉยๆ มันก็ไม่ใช่อีกนั่นล่ะ...

     

    พวกมึงนี่ดีเนาะ ! รุมแม้กระทั่งผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวชานยอลเดินเข้าไปใกล้วงล้อมนั้น แล้วส่งสายตาไปทางหญิงสาว เชิงว่าให้ค่อยๆ เดินเข้ามาหาเขา

    แต่.. ทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายเสมอไปอย่างที่เขาคิด..

     

    เมื่อผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินมาทางชานยอล ก็มีมือหยาบกร้านจากคนในวงล้อมนั่นจับเข้าที่แขนของเธอ แล้วกระชากจนร่างผอมบางนั่นเซเข้าไปหา

     

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด !”

    เห้ย ! พวกมึงแม่ง.. มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกันสิวะ

    แต่พวกกูไม่ได้อยากคุยกับมึงว่ะไอ้พี่หูกาง ! ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็ไสหัวไปสะ !!” แล้วไอ้เด็กตัวผอมแห้งคนหนึ่งก็เดินมาผลักอกของชานยอลอย่างแรง   ชานยอลหลับตาลงอย่างพยายามข่มอารมณ์ที่เริ่มปะทุในอกตอนนี้

     

    อย่าเสือกทำตัวเป็นคนดีไปหน่อยเลยมึง ! หึ ! มาคนเดียวทำเป็นกร่าง 

    ค.. คุณ ช่วยด้วย ! ฮึก.. อย่านะ กรี๊ดดดดด !”  เสียงแหลมกรี๊ดขึ้นเมื่อมาหยาบกร้านของคนที่จับเธอไว้เริ่มไล้เข้าไปใต้กระโปรงของเธอ  ชานยอลลืมตาขึ้นมา ก่อนจะปล่อยหมัดใส่คนตรงหน้าอย่างแรง !

     

    เสียงหมัดที่กระทบกับสันกราม แล้วตามด้วยเสียงคนล้มทำให้ทุกคนหยุดการกระทำของตนแล้วมองไปทางชานยอล  ก่อนที่ทุกคนจะพากันวิ่งไปรุมคนตัวสูงพร้อมกัน !

     

    เสียงหมัดแลกหมัดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหญิงสาวที่โดนทำร้ายก่อนหน้านี้ก็ยังคงยืนอยู่กับที่ ไม่ไปไหน.. ขาเรียวสั่นจนแทบประคองตัวไว้ไม่อยู่ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อเสียงของชานยอลดังขึ้นเตือนสติของเธอในตอนนี้...

     

    ออกไป อั่ก ! ไปตามคนมาเร็วๆ !!”  แล้วหญิงสาวคนนั้นก็รีบวิ่งออกไปทันทีที่ฟังคำสั่งนั้นจบ..  เหมือนจะมีคนจะวิ่งตามไป ทว่าก็โดนชานยอลดึงกลับมาก่อน..

    คนพวกนี้แม้จะตัวเล็กกว่าชานยอลมาก แต่เมื่อเขามีเพียงแค่คนเดียว แล้วต้องมาสู้กับคน 5 คนแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ...

     

    การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เมื่อไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้...

     

    แต่แล้วทุกการเคลื่อนไหวก็หยุดชะงักลง เมื่อชานยอลทรุดตัวลงกับพื้นหิมะสีขาวโพลน..

     

    มือหนายกขึ้นกุมกับหน้าท้อง บริเวณที่โดนมีดปักไว้... เลือดจำนวนมากไหลรินจากปากแผลหยดลงสู่พื้นหิมะ

     

    เห้ย ! หนีเร็ว !” หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นพวกนั้นตะโกนขึ้น แล้วพากันวิ่งออกไป  จนบริเวณนั้นเงียบสนิทเหลือเพียงแค่ชานยอลเพียงคนเดียว...

     

    ชานยอลเลื่อนมือไปจับที่ด้ามมีดไว้แน่น แล้วออกแรงดึงมีดเล่มนั้นออกมาพรวดเดียว.. เลือดสีแดงข้นจำนวนมากไหลออกมาตามบาดแผลของชานยอล

     

    เหมือนโลกมันหยุดหมุนไปแล้วตอนนี้.. ภาพข้างหน้าทุกอย่างเริ่มพร่าเบลอ และเป็นสีดำรางเลือน.. ร่างสูงทิ้งตัวนอนคว่ำลงกับพื้น แล้วนอนหายใจโรยระรินเพียงลำพังตรงนั้น...

    เลือดที่ไหลออกมาไม่หยุดเริ่มซึมไปตามหิมะจนกระจายเป็นวงกว้าง..

     

    ชานยอลปรือตาขึ้นอย่างอ่อนแรงแล้วพบกับภาพหลอนของคนที่หัวใจโหยหามากที่สุด

     

    แบคฮยอน..

     

    หากต้องตายจริงๆ ก็ไม่เสียดาย.. เพียงแต่อยากพบอีกสักครั้ง...

     

    ย.. ยอลขอโทษ....แล้วโลกทั้งใบของชานยอลก็ถูกความมืดเข้าแทรกทันที..

     

     

     

    ผ่านไปเกือบ 10 นาทีก็มีผู้คนวิ่งเข้ามาในบริเวณนั้น หญิงสาวที่วิ่งออกไปตามคนกลับมาช่วยแล้ว..

    แต่เมื่อเห็นภาพของชานยอลที่นอนอยู่พร้อมกับหิมะที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเพราะเลือดที่รินไหลออกมาก็ถึงกับตกใจ.. เธอรีบวิ่งเข้าไปดูชานยอล แล้วก็พบว่ายังหายใจอยู่.. หากแต่มันช่างดูอ่อนแรงเสียจนน่าใจหาย

     

    รอเพียงพักเดียวก็มีรถโรงพยาบาลมารับไป..

     

     

     

     

     

     

     

    บุรุษพยาบาลวิ่งมารับร่างชานยอลขึ้นมานอนบนเตียงแล้วรีบไสไปยันห้องไอซียู.. ใบหน้าของชานยอลซีดเผือกราวกับคนที่ไม่มีเลือดอยู่ในตัว  ริมฝีปากซีดพร้อมกับลมหายใจที่อ่อนแรงจนน่าเป็นห่วง

     

    บาดแผลยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด แม้จะพยายามห้ามเลือดไว้แค่ไหนก็ตาม...

     

    หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ที่นำมาจากกระเป๋ากางเกงของชานยอลแล้วถือวิสาสะกดโทรออกหาผู้เป็นแม่ของร่างสูงอย่างร้อนใจ  แล้วเพียงไม่นาน จีมิน มินโฮ และเฮเคียวก็รีบมาด้วยความกระวนกระวาย

     

    จีมินน้ำตาไหลพรากด้วยความเป็นห่วงลูกชายของเธอ.. แม้ข้างๆกายจะมีมินโฮและเฮเคียวคอยปลอบอยู่แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้เลย 

    หญิงสาวที่ได้รับการช่วยเหลือจากชานยอลเดินเข้ามา แล้วอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ทั้งสามฟัง เธอกล่าวขอโทษหลายต่อหลายครั้งเพราะความรู้สึกผิด แต่ทั้งสามก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเรื่องแบบนี้ใครๆ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นทั้งนั้น

     

    เฮเคียวนั่งเงียบๆ อยู่สักพักเพื่อตัดสินใจว่าจะโทรบอกแบคฮยอนดีมั้ย แต่สุดท้ายโทรศัพท์ของเธอก็โดนจีมินหยิบไปทันที   จีมินกดโทรออกหาแบคฮยอนอย่างร้อนใจแล้วรอเพียงไม่นานปลายสายก็รับ

     

    [ ยอโบเซโย ! คิดถึงจังครับคุณแม่ ]

    แบคฮยอน ! ช.. ชานยอล ฮึก.. ตอนนี้ชานยอลอยู่ที่ห้อง ICU เขาเสียเลือดมาก ฮือ.. จีมินละล่ำละลักออกไป บวกกับน้ำตาที่เริ่มไหลเยอะขึ้นจนคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ทั้งสองอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง

    แล้วจังหวะเดียวกันคุณหมอคนสวย.. จางอี้ชิงก็เดินออกมาจากห้อง ICU

     

    ชานยอลเป็นอย่างไรบางคะคุณหมอ !?” เฮเคียววิ่งไปหาอี้ชิงแล้วถามด้วยความใจร้อน   ใบหน้าของคุณหมอดูไม่ค่อยสู้ดีนักทำให้คนทั้งสามรู้สึกใจเสียอย่างบอกไม่ถูก

     

    หากแต่คำตอบที่ได้รับก็ยังพอสร้างความสบายใจขึ้นได้ในระดับหนึ่ง...

     

    พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่อาการน่าเป็นห่วงอยู่มากเพราะคุณชานยอลเสียเลือดไปเยอะทีเดียว... หมอคงต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดนะครับ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     











     

     

    พระเจ้าได้โปรดอย่าใจร้ายกับชานยอล... อย่าให้เขาต้องทุกข์ทรมานไปมากกว่านี้ได้มั้ย ?
    หากต้องการที่จะเอาชีวิตเขาไปก็มีเพียงสิ่งเดียวที่อยากขอก่อนตาย...






    ขอให้เขา... ได้เจอกับแบคฮยอนอีกสักครั้ง.....

     

     

     

     

















































     

    To be continued….

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


















     

     































     

     

    มีข่าวจะบอกไม่รู้ว่าข่าวดีหรือข่าวร้าย แต่... ฟิค Pandora จะจบแล้วนะคะ คาดว่าอีกประมาณ 3 ตอนเท่านั้น !  

    เตรียมตัวพบกับเรื่องใหม่  ‘.Geminate.’ { Chanbaek } ได้เลยยยย รับรองว่าขนมาทั้งความดราม่า ความละมุน และความอบอุ่นมาพร้อม >_O

     

    จบแล้วรบกวนติดแท๊ก #ฟิคPandora หน่อยน๊า ขอบคุณฮับ ^^

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×