คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ราตรีที่ 4 ตัวจริงของคนสวน(รีไรต์)
ราตรีที่ 4
ตัวจริงของคนสวน
“ได้พบแล้วนะครับคุณฮารุนะ” คานาเมะส่งยิ้มฮารุนะที่กำลังมองเขาด้วยสีหน้าตกตะลึงอย่างถึงที่สุด เชื่อว่าเธอคงตกใจไม่น้อยเลยที่พบเขาในสภาพนี้
“อ...น... อะไรกันเครื่องแบบนี่... น... ไนต์คลาสเหรอ!!?” ฮารุนะชี้คานาเมะอย่างตกใจ คานาเมะหัวเราะเบาๆกับท่าทางแบบนั้น
“อ๊ะ! ท่านพี่ นี่รู้จักกันมาก่อนเหรอค่ะ?” ยูกิที่เริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ถามเพื่อความแน่ใจ
“ก็คุณคนสวนที่บอกให้ฮารุมาที่นี่ยังไงละค่ะ” เพียงได้คำตอบ เสียงหัวเราะจากนักเรียนไนต์คลาสและเดย์คลาสก็ดังระงมไม่แม้แต่ยูกิที่หัวเราะจนท้องแข็งเว้นเสียแต่เซโร่ที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ไกลนัก
“ฮ่าๆๆๆ”
คานาเมะยิ้มน้อยๆกับความไร้เดียงสาของคนตรงหน้า เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะไร้เดียงสาไม่รู้สึกสงสัยอะไรเขาเลย แต่จะว่าเธอก็ไม่ได้
“ฮ่าๆ อ๊ะ! ฮ... ฮารุนะจัง...ท...ทำไม ฮ่าๆ ถ ถึงมองว่าท่านพี่เป็นคนสวนละค่ะ ฮ่าๆ” ยูกิถามทั้งๆที่ยังหัวเราะอยู่ ฮารุนะที่หน้าแดงเพราะความอายมองคนตัวใหญ่ที่ยืนส่งยิ้มขำๆมาให้ตนอย่างเสียใจ
“ก็ฮารุถามแล้วคุณไม่บอกแถมยังพูดเออออตามกันด้วย แบบนี้จะให้ฮารุคิดว่าคุณเป็นใครละ? ฮารุไม่ได้เคยเห็นคนสวนบ่อยๆนะ จะได้หามาตรฐานอะไรมาบอกว่าคุณไม่ใช่คนสวน” ฮารุนะแก้ตัวแก้มใสแดงขึ้นเพราะความอาย นี่เป็นการหน้าแตกครั้งแรกที่เธอจะจำไปจนวันตายเลย!!!
“หึๆ แต่ผมก็ไม่เคยพูดว่าผมเป็นคนสวนนี่” คานาเมะตอบคำถามของฮารุ
“ฮะๆ อีกอย่างนะคานาเมะคนนี้น่ะ เขาเป็นหัวหน้าหอพระจันทร์ด้วยนะสาวน้อย” อิจิโจเดินมาข้างหลังฮารุนะพร้อมบอกในสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงที่สุด
“ห... หัวหน้า... หอพระจันทร์เหรอ!?”
“ครับ คุรัน คานาเมะ หัวหน้าหอพระจันทร์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ” คานาเมะตอบด้วยรอยยิ้ม ฮารุนะมองคนตรงหน้าอย่างตกตะลึง นอกจากจะเป็นนักเรียนไนต์คลาสแล้วเขายังเป็น...ห หัวหน้าของไนต์คลาส!!!
“.......” ฮารุนะเงียบลงทันตาใบหน้าหวานก้มลงนึกเจ็บใจที่ถูกหลอกแบบนี้ จริงอยู่เธอเป็นคนเชื่อคนง่ายแถมยังถูกหลอกบ่อยๆด้วย แต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกว่ามันเสียความรู้สึกมากกว่าที่ผ่านๆมา
“ฮารุนะจัง เอ่อ...”
“สนุกนักรึไง?”
“เอ๋? ฮารุนะจัง”
“สนุกนักรึไงที่หลอกฮารุแบบนี้ รู้นะ... ว่าอาจจะคิดไปเองทั้งหมด แต่ทำไมถึงต้องทำให้เข้าใจผิดแบบนั้นด้วยละ ทำไมถึงไม่ยอมพูด... หรือคิดว่าฮารุจะรู้สึกสนุกด้วยเหรอถ้าเรื่องมันแดงออกมา คิดผิดแล้ว...มันไม่สนุก ฮารุน่ะ..” คำพูดตัดพ้อจากร่างเล็กๆทำให้คนที่หัวเราะหยุดหัวเราะทันที ยูกิรู้ได้ว่าฮารุนะกำลังเสียใจเธอรู้ว่าฮารุนะเป็นคนที่เชื่อคนง่าย อัธยาศัยดี ไม่แปลกหากเธอจะเคยถูกหลอกจากคนที่เธอเชื่อใจ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องตลกที่ฮารุนะคิดว่าคนหล่อขั้นเทพอย่างคานาเมะเป็นคนสวน แต่สำหรับฮารุนะอาจจะเป็นเรื่องที่เสียใจมากที่สุดก็ได้
“ถือว่าฮารุทำตามที่สัญญาแล้วนะ ขอตัวละคะ ต้องรีบกลับหอ” ฮารุนะบอกแล้วเดินหันหลังจากไปทันที คานาเมะมองแผ่นน้อยๆที่สะท้อนความเสียใจนั่นแล้วเป็นอันต้องเดินตามไป ใช่ว่าเขาสนุกที่ได้แกล้ง แต่ไม่คิดว่าฮารุนะจะซื่อได้ขนาดนี้ ถือเป็นสิ่งผิดคาดเลย
“คุณฮารุนะรอก่อนครับ” คานาเมะเรียกฮารุนะที่กำลังเดินไป เธอใช้แขนเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆแล้วหันกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่คานาเมะคิดว่าฮารุนะว่าเวลาโกรธนั้นรับมือยาก
“มีอะไรคะ? ถ้าช้าจะเข้าชั้นเรียนสายนะคะ?” ฮารุนะบอกใช่ว่าเธอห่วงคานาเมะแค่อยากไล่เขาไปให้พ้นๆก่อนก็เท่านั้น
“ผมไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ผมแค่อยากมาขอโทษที่ไม่ได้บอกว่าผมเป็นใคร”
“ช่างเถอะคะยังไงซะที่ผิดก็เป็นฮารุอยู่ดี แค่นี้ใช่ไหมคะ?” อย่างที่คานาเมะคิดไว้ฮารุนะเวลาโกรธรับมือยาก แต่ไม่แน่อาจจะเป็นคนที่โกรธง่ายหายเร็วกว่าที่เขาคิดก็ได้
“คุณโกรธผม?”
“เปล่าคะ คุณไม่ผิดนี่ แค่ฮารุไม่ถามให้ดีก่อน ก็เท่านั้น”
“แล้วทำไมคุณถึงต้องร้องไห้ คุณไม่น่าจะร้องไห้กับเรื่องแค่นี้นะครับ?”
“เรื่องแค่นี้... สำหรับคุณอาจจะเป็นเรื่องแค่นี้แต่สำหรับฮารุ... มันเป็นเรื่องใหญ่นะ”
“...งั้นผมก็ขอโทษอีกครั้งละกันนะครับ... จะเป็นไปได้ไหมถ้าหากผมอยากชวนคุณไปซื้อของในเมืองพร้อมๆกับยูกิในวันอาทิตย์นี้” คานาเมะลองใช้การไปเที่ยวหลอกล่อ หวังให้ยูกิช่วยทำให้ฮารุนะหายโกรธแต่...
“....”
“....”
“จริงนะ”
“เอ๋?”
“ไปซื้อของ พาฮารุไปจริงๆนะ”
“ค ครับ” คานาเมะไม่สามารถปรับอารมณ์ให้ทันฮารุนะได้ ทั้งที่เมื่อกี้ดูโกรธมากขนาดนั้นแท้ๆ แต่พอเอาเรื่องเที่ยวมาล่อกลับหายโกรธอย่างง่ายดาย
‘เหมือนเด็กจริงๆ’
ในระหว่างมองท่าทางสนใจของฮารุนะ คานาเมะได้กลิ่นซากุระโชยมาอีกครั้งแต่ที่น่าแปลกคือ ก่อนที่เขาจะพบกับฮารุนะกลิ่นนี้เหมือนยาพิษทำให้เขาคลั่งและโหยหา แต่เมื่อได้พบ ได้รู้จัก...สิ่งที่คิดว่าน่าจะรุนแรงขึ้นกลับสงบได้อย่างน่าประหลาด ...แบบนี้จะให้เขาคิดอย่างไรดี?
“งั้นผมขอตัวนะครับ แล้วเจอกันวันอาทิตย์” คานาเมะเอ่ยลา แล้วเดินไปยังห้องเรียนของตัวเองในหัวนึกถึงกลิ่นเจ้าปัญหาที่ทำให้เขาตื่น กับกลิ่นที่ทำให้เขากลายเป็นปีศาจกระหายเลือด และสุดท้ายกลิ่นของฮารุนะที่ทั้งอบอุ่น อ่อนโยนดั่งดวงอาทิตย์ถึงแม้ว่ากลิ่นจะเหมือนกันแค่ไหนก็ตามแต่เขาไม่ค่อยอยากจะฟันธงเท่าไรว่าเป็นกลิ่นเดียวกัน
“ท่านพี่... ฮารุนะจังหายโกรธแล้วใช่ไหมค่ะ?” ยูกิถามเมื่อได้พบกับคานาเมะที่ออกมาเดินข้างนอกหลังจบคาบเรียน
“ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ผมหาคนที่จะไปซื้อของด้วยกันอาทิตย์นี้ได้อีกคนแล้วละครับ”
“ฮารุนะจังงั้นเหรอคะ!!!”
“ครับ รบกวนเธอช่วยพาคุณฮารุนะเที่ยวด้วยนะครับ” คานาเมะมองใบหน้าที่ดูตื่นเต้นของยูกิแล้วรู้สึกว่าตัวเองคิดถูกแล้วที่ชวนฮารุนะไปด้วย
“ไว้ใจได้เลยค่ะ ต้องเป็นการซื้อของที่สนุกที่สุดเลยละคะ” ยูกิพูดด้วยรอยยิ้มก่อนจะชะงักเมื่อนึกถึงเรื่องบางอย่างได้
“ว่าแต่ ท่านพี่ไปรู้จักกับฮารุนะจังได้ยังคะ? แล้วไปทำยังไงถึงถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนสวนได้ละ?”
“...นิดหน่อยครับ เรียกว่าเป็นความบังเอิญคงได้”
“ความบังเอิญมันไม่มีในโลกหรอกท่านพี่ มันแต่พรหมลิขิต” ยูกิยิ้มกรุ้มกริ่ม เมื่อเรื่องชักถูกดึงมาทางนี้คานาเมะจึงเลือกที่จะบอกลา
“งั้นผมขอตัวนะ” ว่าแล้วคานาเมะก็เดินออกจากตรงนั้นทันที ทิ้งให้ยูกิยิ้มกับความคืบหน้าในสิ่งที่เธอต้องการแม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่หนึ่งในแผนของเธอ แต่การพบกันโดยที่อยู่นอกเหนือแผนแบบนี้จะเรียกว่าเป็นความสำเร็จก้าวแรกดีไหมนะ
ทางด้านคานาเมะที่ดินห่างออกมาใจจริงของเขาต้องการจะเดินเพื่อตรวจความเรียบร้อยแต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงมาหยุดที่หอพระอาทิตย์ คานาเมะเดินเข้าไปข้างใน ไม่ใช่เพื่อมาหาอาหาร ตัวเขาเองไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาที่นี่ นับตั้งแต่ได้พบกับฮารุนะมีบางอย่างที่เขาไม่แน่ใจ เป็นความดึงดูดเล็กๆจากตัวฮารุนะที่ทำให้เขาต้องมาพบเธอ มีหลายครั้งที่คิดว่าควรออกห่างแต่ทุกครั้งที่คิดแบบนั้นเท้าเจ้ากรรมก็พาตัวเขามาหาเธอทุกครั้ง...
“...นี่ยังไม่นอนอีกงั้นเหรอ?” คานาเมะเอ่ยเขามองขึ้นไปยังห้องที่กลิ่นของฮารุนะมากที่สุด ไฟยังสว่างอยู่แสดงว่าเจ้าตัวยังไม่นอน
“ทำอะไรอยู่นะ?” คานาเมะมองการเคลื่อนไหวของเงาในห้องพอเดาได้ว่าเธอกำลังอ่านหนังสือ แล้วกำลังไปนอนเพราะงั้นเขาควรกลับ เมื่อไฟในห้องฮารุนะดับลงคานาเมะจึงเดินออกมาใบหน้าประดับยิ้มน้อยๆราวกับคนที่มีความสุข โดยไม่รับรู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังมองทุกๆการกระทำของเขาอยู่...
...วันอาทิตย์...
“ฮารุนะจังช้าจังเลย” ยูกิพูดเมื่อทั้งเธอ เซโร่และคานาเมะยืนรอฮารุนะมาหลายนาทีแล้ว พอได้ข่าวมาบ้างว่าฮารุนะเป็นคนที่ชอบมาสาย...
ยูกิหันไปมองคานาเมะในเสื้อโค้ทสีดำที่เจ้าตัวชอบใส่ นึกไปนึกมาก็อยากให้ท่านพี่ของเธอได้ใส่เสื้อผ้าสีอื่นบ้างนอกจากสีดำ
‘ลองให้ฮารุนะเลือกเสื้อผ้าให้ท่านพี่ดีไหมนะ?’
“ขอโทษที่สายค่ะ” ฮารุนะวิ่งมาหาในชุดเดรสสีขาวยาวระเข่า ปกเสื้อแบบกะลาสีผูกริบบิ้นสีฟ้า เส้นผมสีนิลมัดรวบหางม้าอย่างดี ด้านหน้าปล่อยหน้าม้าและปลอยผมเล็กน้อย
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ได้สายอะไรขนาดนั้น” ยูกิตอบด้วยน้ำเสียงติดร่าเริงเมื่อเห็นคนข้างตัวมองสาวน้อยตาไม่กระพริบ
“รีบไปกันเถอะฮารุนะจัง” ว่าแล้วก็รีบจูงมือฮารุนะออกจากโรงเรียน การเลือกซื้อของในวันนี้เป็นยูกิที่คอยพาฮารุนะเดินไปตรงนั้นที ตรงนี้ทีผิดกับฮารุนะที่ดูจะสนใจของในเมือง ความเป็นอยู่มากกว่าคล้ายกับเพิ่งเคยมาครั้งแรก
“ฮารุนะจังดูเสื้อตัวนี้สิสวยไหมๆ” ยูกิถามเธอทำแบบี้มาแทบทุกร้านและคำตอบที่ได้ก็ยังเหมือนเดิม
“สวยดีนะคะ” ฮารุนะตอบทั้งๆที่ยังไม่ได้มองอะไร เธอสนใจผู้คนข้างนอกมากกว่า ยูกิมองฮารุนะที่ตอบทั้งอย่างนั้นแล้วรู้สึกแปลกใจ ทั้งที่ดูน่ารักขนาดนี้แต่เธอกลับดูเหมือนจะไม่สนใจพวกเครื่องประดับ เสื้อผ้าหรือของจุกจิกเหมือนเด็กทั่วๆไปเลย เธอเหมือนกับเพิ่งได้ออกมาโลกภายนอกครั้งแรกยังไงยังงั้น
การเดินซื้อของจบลงที่ร้านขนม ถึงยูกิจะเป็นแวมไพร์ไม่รับรสชาติแต่การเลือกจะมานั่งร้านอาหารแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ควรทำเมื่อตัวเองต้องมากับมนุษย์ ฮารุนะไม่ใช่แวมไพร์ถึงจะแข็งแรงยังไงแต่สุดท้ายก็ต้องกินต้องดื่มถ้าไม่ให้ฮารุนะได้พักบ้างมันก็จะใจร้ายเกินไป แต่จะนั่งมองฮารุนะกินอยู่ฝ่ายเดียวก็คร้านจะถูกสงสัยเลยต้องสั่งอะไรมาทานเพื่อกลบเกลื่อน
ยูกิสั่งพาเฟ่ต์มาทานส่วนเซโร่และคานาเมะที่นั่งแยกออกไปไม่ได้สั่งอะไร ได้แต่นั่งมองหน้ากันนิ่งๆเชื่อได้ว่าสองคนนี้มีความคิดไม่ได้ต่างจากเมื่อก่อนเลยคือเกลียดขี้หน้ากัน แม้ว่าเซโร่จะมียูกิเป็นคนรักแล้วก็ตาม
“คุณฮารุนะทานอะไรดีครับ?” คานาเมะเลิกมองเซโร่แล้วหันมาถามฮารุนะที่เอาแต่มองเมนูไม่ยอมสั่งอะไรเสียที
“ดีละเอาอันนี้คะ อันนี้ อันนี้....แล้วก็อันนี้คะ” เมื่อฮารุนะตัดสินใจได้แล้วก็เริ่มสั่งของหวานมาหลายอย่างชนิดที่ว่าพนักงานถึงกับจดแทบไม่ทัน คานาเมะมองฮารุนะแล้วรู้สึกทึ่งในอารมณ์ ตัวเล็กอย่างกับเด็กประถมแต่ดันเป็นคนกินจุ...
ไม่นานเกินรอของที่ฮารุนะสั่งก็มาวางเต็มโต๊ะ ยูกิมองของหวานตรงหน้าแล้วอดกลัวไม่ได้
‘กินเยอะขนาดนี้จะอ้วนไหมเนี้ย’
“ทานละคะ~”
“เดี๋ยวคะ!!!” ยูกิเรียกเอาไว้ก่อนที่ฮารุนะจะลงมือทาน
“??? มีอะไรเหรอคะ”
“ฮารุนะจังจะทานหมดนี่จริงๆเหรอ? เยอะขนาดนี้?”
“คะ” ฮารุนะตอบด้วยรอยยิ้ม
“ไม่กลัวอ้วนเหรอ? ไม่สิเดี๋ยวกลับโรงเรียนไม่ไหวนะ”
“สบายมาก ท้องฮารุน่ะ เป็นหลุดดำของหวานนะคะ งั้นทานละนะคะ” ฮารุนะตอบแล้วลงมือทานทันที ใช้เวลาเพียงไม่นานของหวานที่เต็มโต๊ะเมื่อครู่ค่อยๆพร่องลงไปจนไม่เหลือซักจาน แต่ท้องของฮารุนะกลับไม่ใหญ่ขึ้นเลย ที่ว่ามีหลุมดำของหวานเนี้ยอาจจะจริงก็ได้
“อิ่มแล้วคะ ฮ้า~อิ่มจัง” ฮารุนะลูบท้องอย่ามีความสุข
“ส สุดยอด...” ยูกิมองไม่นึกเลยว่าเด็กตัวเล็กๆแบบนี้จะทานหมด
“...กระเพาะผู้หญิงน่ากลัวจริงๆ” เซโร่ว่ามองกองจานกับตัวของคนกินอย่างอึ้งๆ
“น นั่นสิครับ” คานาเมะเห็นด้วย
“อ๊ะ!!! ฮารุนะขอตัวซักเดี๋ยวนะค่ะ”
“จะไปไหนเหรอค่ะ?”
“ไปซื้อของส่วนตัวน่ะค่ะ ไปแค่แปบเดียว เดี๋ยวมาคะ” ว่าแล้วก็ออกจากร้านไปทันที ทิ้งหนึ่งสาวกับอีกสองหนุ่มนั่งมองกองจานจำนวนไม่น้อยต่อไป
เวลาผ่านไปฮารุนะที่บอกว่าจะไปแปบเดียวนั้นหายไปร่วมชั่วโมงทำให้ยูกิกลัวเด็กน้อยจะไปหลงทางที่ไหน
“นานจังเลย ไปหลงทางที่ไหนเข้ารึเปล่านะ?” ยูกิพูดขึ้น คานาเมะเองก็รู้สึกมานานแล้วจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที ยูกิมองตามท่านพี่ของเธอแล้วยิ้มจางๆ
‘นึกว่าต้องใช้เวลามากกว่านี้ซะอีก’
คานาเมะที่ออกมาจากร้านมองหาฮารุนะท่ามกลางฝูงคนในสถานที่ที่คนอยู่เยอะแบบนี้กลิ่นของฮารุนะเจื่อจางเกินกว่าจะตามหาเจอได้ง่ายๆ แต่แล้วสิ่งที่ตามหาก็ปรากฏตรงหน้าฮารุนะเดินออกจากร้านหนังสือเธอมองหาทางที่จะกลับแต่ก็ถูกชนอยู่หลายครั้ง ก็นะคนตัวเล็กแบบนั้นจะเดินในที่ที่คนอยู่เยอะแบบนี้ก็ไม่แปลกเลยที่จะถูกชน
คานาเมะมองคนตัวเล็กอย่างขำๆ ช่างเป็นคนที่ทำให้เขาหัวเราะได้บ่อยดีจริงๆ
“อ๊ะ! รุ่นพี่” ดูเหมือนเธอจะเห็นเขาแล้ว ฮารุนะพยายามฝ่าผู้คนเพื่อมาหาเขา ดังนั้นคานาเมะจึงเดินเข้าไปหาเธอเพื่อไม่ให้เธอถูกเบียดไปมากกว่านี่แต่ว่า
“อุ้ย!! ขอโทษค่ะ” ฮารุนะที่ชนใครเข้าขอโทษ ชายร่างใหญ่ก้มลงมากระซิบบางอย่างกับเธอแล้วถูกต่อยเข้าที่ท้องและถูกพาออกไปจากจุดนั้นทีนที คานาเมะที่เห็นเหตุการณ์จึงรีบออกตามแม้ว่าจะไม่ชินกับเส้นทางก็ตาม
ร่างของฮารุนะถูกวางในตรอกเล็กๆแห่งหนึ่ง ชายร่างใหญ่มองผิวขาวๆของฮารุนะอย่างหิวกระหายลิ้นสีชาดเลียริมฝีปากนึกกระหยิ่มใจ
“หอมจริงๆ กลิ่นของแม่หนูน้อยน่ะ” เสียงแตกพร่าของเขาพูด เขาก้มลงสำรวจร่างน้อยๆเหยื่อของเขา...
“ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอของหายากในที่แบบนี้ โชคดีของเราจริงๆ ฮ่าๆ” เขาหัวเราะเสียงดังสูดกลิ่นอย่างพอใจ มือใหญ่ยกตัวฮารุนะขึ้น ปัดเส้นผมของเธอออกจากต้นคอ กลิ่นหอมของดอกซากุระทำให้น้ำลายสอ เขาอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวยาวแล้วก้มลงไปหาฮารุนะพร้อมจะฝังเขี้ยวที่คอเพื่อดูดกินเลือดสดๆที่น่าลิ้มลอง
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าดังขึ้นที่หน้าทางเข้าตรอกแวมไพร์ระดับ E เงยหน้าขึ้นจากฮารุนะก่อนที่จะได้เห็นว่าใครที่มาในเวลานี้ร่างของเขาก็ถูกแขนสีดำแทงทะลุอก แวมไพร์ผู้หิวกระหายกลายเป็นฝุ่นในทันที แขนเงาสีดำหายไปพร้อมกับร่างของคานาเมะที่ก้าวเข้ามาหาฮารุนะที่หลับไม่ได้สติอยู่
“อย่ามาแตะต้องเธอ” เขาพูดเบาๆแล้วนั่งคุกเข่าข้างๆฮารุนะ
“คุณฮารุนะครับ คุณฮารุนะ”
“...อ อือ...” ฮารุนะขยับตามเสียงเรียก เธอมองรองๆตัวที่ไม่คุ้นตาอย่างมึนงงก่อนจะหยุดที่ใบหน้าเรียบเฉยของคานาเมะ ฮารุนะขยับลุกขึ้นช้าๆรู้สึกเจ็บที่ท้องที่โดนต่อย...
‘กลิ่นหอมดีจริงๆนะ เธอน่ะ’
“!!! อ๊ะ! โอ๊ะ!” เพราะขยับตัวเร็วเกินไปฮารุนะจึงก้มลงไปกุมท้องที่ยังเจ็บไม่หาย
“ไม่เป็นไรนะครับ?”
“แล้วคนที่ทำร้ายฮารุละ?” เธอถามมองหน้าคานาเมะ เธอต้องการคำตอบ
“หนีไปแล้วครับ” เขาโกหกไม่อยากให้เธอตกใจกลัวหากรู้ว่าที่ทำร้ายเธอคืออะไร
“ง งั้นเหรอ...” ฮารุนะคราง มองไปรอบๆที่ที่เธอถูกพามานึกสงสัยกับกองฝุ่นที่พื้น ถึงจะอยากรู้แต่จะถามก็ใช่ที่ฮารุนะจึงเลือกที่จะเงียบ
“พอจะลุกไหวไหมครับ เราจะกลับโรงเรียนกัน”
“พอไหวคะ” ฮารุนะตอบเธอพยายามลุกขึ้นแต่ก็เกือบล้มไม่เป็นท่า คานาเมะที่เห็นท่าไม่ดีจึงพยุงฮารุนะแล้วให้เธอขึ้นหลังของตัวเอง
“แบบนี้จะช้านะครับให้ผมพาไปเถอะ”
“ต... แต่...”
“เดี๋ยวยูกิจะรอนานนะครับ” เมื่อเถียงไม่ได้ฮารุนะจึงยอมที่จะให้คานาเมะพาตัวเองไป นึกสงสัยกับคำพูดสุดท้ายของคนที่พาเธอมาก่อนที่เธอจะไม่ได้สติ
‘ขอได้ไหมเลือดของเธอน่ะ’
To be continuing…
ความคิดเห็น