วิถีบ้านๆ

ข้อมูลเบื้องต้น

ผลงานเขียนของ​ "อ้ายกล้า" ซึ่งได้เล่าเรื่องราวของครอบครัวเด็กชายนัด​ เด็กชายนิก​ ในวิธีเด็กอีสานผ่านเหตุการณ์ต่างๆ​ ​มา​ 3​ ตอน​ และจากนี้ไป​ ผู้เขียนขอนำเสนออีกหนึ่งเหตุการณ์​ ติดตามอ่านได้เลยครับ

วันนี้​ถือเป็นวันแรกที่โรงเรียนปิดเทอม​ เป็นวันที่เด็กชายนัด​ เด็กชายนิก​ ไม่ต้องไปโรงเรียน​ เป็นการปิดเทอมแรกของปีการศึกษา​ในช่วงเดือนตุลาคม​ คนที่มีความสุขที่สุดคือเด็กชายนัด​ ไม่ต้องไปโรงเรียน​ ได้อยู่บ้าน​ ได้ดูทีวี​ แต่กระนั้นเองยังคงมีภาระหน้าที่​ ที่ต้องรับผิดชอบคือการเลี้ยงควาย​ ซึ่งทางภาคอีสานพ่อกับแม่จะมอบหน้าที่นี้ให้ลูกๆ​รับผิดชอบ​ พ่อกับแม่ก็ออกไปหารับจ้างรายวัน​ เช่น​ รับจ้างปลูกมันสัปหลัง​ ดายหญ้า​ ก่อสร้าง​ ฯลฯ

เมื่อเด็กชายนัด​ เด็กชายนิก​ ทำภาระกิจช่วงเช้าที่บ้านเสร็จ​ ก็ได้เวลาต้องนำควายออกไปเลี้ยง​ ซึ่งช่วงนี้พื้นที่เลี้ยงค่อนข้างน้อย​ เนื่องจาก​พื้นที่ส่วนใหญ่ทำนา​ ทำไร่​ ซึ่งช่วงนี้ข้าวออกรวง​ มีเหลืองบ้าง​ เขียวบ้าง​ พื้นที่ไร่ก็เต็มไปด้วยมันสัปหลัง​ ดังนั้นเด็กๆก็จะรู้ดีว่าต้องต้อนควายไปเลี้ยงที่ไหน​ ซึ่งที่นั้นก็คือ​ พื้นที่ริมเขื่อนซึ่งน้ำเริ่มลดลงทำให้หญ้าขึ้นมาก​ ซึ่งเด็กๆทั้งหมู่บ้านก็จะต้อนวัว​ ควาย​ ไปเลี้ยง​ ณ​ จุดเดียวกันโดยไม่ต้องนัดหมาย

เมื่อเด็กๆเกือบทั้งหมู่บ้านมารวมกันก็จะมีกิจกรรมสนุกๆ​ เกิดขึ้นเสมอ​ แต่สิ่งที่เด็กๆทุกคนต้องนำติดตัวไปด้วยคือห่อข้าว​เหนียว​ มีกับข้าวบ้าง​ ไม่มีบ้าง​ บางคนก็หาปลา​ หากบ​ หาหอย​ แถวๆริมเขื่อนมาเป็นกับข้าวมื้อเที่ยง​ เด็กชายนัด​ เด็กชายนิก​ วันนี้ได้ห่อข้าวกับบองปลาแดก(ปลาร้าสับ)​ ซึ่งเด็กๆก็ปล่อยควายกินหญ้าตามลานเขื่อน​ แล้วตามลานเขื่อนก็จะบวก(มีหนองน้ำเล็กๆ)​ก็จะมีปลา​ ปู​ หอย​ ตกค้างในบ่อ​ เด็กๆก็จะวีดน้ำออกจนแห้ง​ จับปลา​ จับปูมาทำอาหารเที่ยงกินกัน

วันนี้ถือว่าเป็นวันโชคดี​ของเด็กชายนัด​ กับเด็กชายนิก​ ซึ่งจับปลาได้มากมาย​ มีปลาดุก  ปลาซ่อน​ ปลาหมอ​ ปู​ ด้วย​ เด็กๆจับปลาอย่างสนุก​ สนาน​ มีความหวังว่ากับข้าวมื้อเที่ยงต้องอร่อยแน่นอน​ #ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้ใหญ่​ตะโกนเสียงแข็ง​ๆ​ แบบโมโห​ มาไกลๆ​ จับใจความได้ว่า  "ควายกินมัน​ ควายกินมัน" (ควายไปกินมันสัปหลัง)​ ของชาวบ้าน​ ซึ่งไม่ใช่ควายของใคร ควายเด็กชายนัด​ เด็กชายนิกนั้นเอง​ ซึ่งเด็กๆมัวแต่สนุกกับการจับปลาจนลืมดูควายตัวเอง​ เด็กๆตกใจรีบวิ่งไปไล่ต้อนควายตัวเองกลับมา​ ซึ่งผู้ใหญ่คนนั้นบอกจะขึ้นปรับไหมที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน​(สมัยนั้นผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ไกล่เกลี่ยคดี)​จึงทำให้เด็กๆกลัว​ ทั้งกลัวพ่อกับแม่ด่า​ ที่ปล่อยให้ควายไปกินของชาวบ้านเสียหาย​ กับข้าวมื้อเที่ยงคงไม่อร่อยแล้ว​ และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป​ #ฝากติดตามและให้กำลังใจ เด็กชายนัด กับ เด็กชายนิก ด้วยนะครับ

โปรดติดตามตอนต่อไป  #อ้ายกล้า