Red Riding Hood & The Wolf {15%} - Red Riding Hood & The Wolf {15%} นิยาย Red Riding Hood & The Wolf {15%} : Dek-D.com - Writer

    Red Riding Hood & The Wolf {15%}

    เมื่อหนูน้อยหมวกแดงตกหลุมรักหมาป่า แล้วความรักของทั้งสองคนจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม

    ผู้เข้าชมรวม

    268

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    268

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 พ.ย. 58 / 22:01 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



      ในเช้าวันหนึ่งที่อากาศสดใส เด็กสาวหน้าตาน่ารักนาม
    หนูน้อยหมวกแดงได้กำลังนั่งอยู่บนโซฟาเหมือนกับทุกวันเพียงแค่วันนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงจากทุกๆวันไปเสียนิดหน่อย เพราะเสียงเรียกจากคุณแม่สุดที่รักของเธอ..

    หนูน้อยหมวกแดง.. น้ำเสียงอบอุ่นและอ่อนโยนที่ฟังดูก็รู้ถึงความรักและความห่วงใยจากเธอผู้เป็นแม่ดังขึ้นเล็กน้อย ก่อนตัวเธอจะขานรับเสียงใสด้วยถ้อยคำสุภาพ

    มีอะไรหรือเปล่าคะแม่? คุณแม่ของเธอเมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากเธอจึงระบายยิ้มบางๆออกมา

    ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ.. แม่แค่อยากจะให้หนูไปเยี่ยมคุณยายเสียหน่อย.. ท่านไม่สบายนิดหน่อยน่ะนะเธอบอกด้วยน้ำเสียงที่ดูจะเป็นกังวลเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหยิบตะกร้าที่จัดเตรียมสำหรับการเยี่ยมครั้งนี้ให้กับหนูน้อยหมวกแดงก่อนจะไม่ลืมทวนคำพูดสำคัญที่เธอต้องให้ลูกสาวพูดอยู่ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

    อย่าเถลไถล---- แต่เมื่อยังพูดไม่ทันจบหนูน้อยหมวกแดงก็กล่าวตัดบทด้วยรอยยิ้มสดใสขึ้นมาเสียก่อน
    และอย่าไว้ใจคนแปลกหน้า.. หนูไม่ลืมหรอกค่ะ.. ไม่ต้องห่วงนะคะแม่ หนูจะรีบกลับมาก่อนที่ฟ้าจะมืด ~ “

    เมื่อเธอย้ำกับคุณแม่สาวสวยแล้ว ก็ก้าวขาออกมาจากบ้านด้วยท่าทีกระฉับกระเฉง และถึงแม้ถ้อยคำที่ว่าอย่าเถลไถลและอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าจะยังคงเตือนใจเธออยู่เสมอๆ แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะคุยกับคนแปลกหน้า ในป่าที่ผู้คนไม่ค่อยผ่านอยู่แล้ว นอกเสียจากว่าเขาคนนั้นจะกำลังเดือดร้อนอยู่จริงๆ ในป่าแห่งนี้ที่ค่อนข้างกว้างใหญ่และมืดไวกว่าปกติ มันยังคงน่ากลัวสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะอย่างเธออยู่ นั่นเพราะ เรื่องงมงายที่ว่าจะมีหมาป่าจับเด็กที่ดื้อและขี้โกหกไปกิน แต่เธอก็ไม่เคยโกหกเสียหน่อย

    ส่วบ ! ส่วบ ! “ เสียงปริศนาที่ดังขึ้นที่พุ่มในข้างๆทางมันทำให้เธอที่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ระแวงขึ้นก่อนจะหยุดก้าวเดินไปเสียอย่างนั้น

    ค- ใครน่ะ! “ เธอตะโกนขึ้นก่อนจะจ้องมองไปทางพุ่มไม้ที่มีเสียงปริศนาเมื่อกี้ดังขึ้น ก่อนขาทั้งสองข้างจะค่อยๆถดถอย
    ไปด้านหลังช้าๆ

    น- หนูถามว่าใคร ! “ ดูเหมือนว่าเธอจะกลัวจนอ่อนแรงไปเสียแล้ว เลยได้ล้มแหมะอยู่บนพื้นที่ห้างจากพุ่มไม่นั่นเพียงไม่กี่ร้อยเซนติเมตร

    เอ่อ.. ข้าเอง.. แต่ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ! ข้าไม่.. ไม่ได้คิดจะมาทำร้ายเจ้าเลยแม้แต่นิดเดียวมันค่อยๆปรากฏตัวออกมาจากพุ่มไม้ช้าๆก่อนจะสารภาพออกมา แต่ก็ไม่ทั้งหมด ว่ากำลังคอยตามอีกฝ่ายเพื่อปกป้องจากอันตรายในป่าแห่งนี้มานับครั้งไม่ถ้วน

    คุณหมาป่า?.. “ ทั้งๆที่เมื่อเจอหมาป่าตัวเป็นๆแบบนี้แล้วเธอสมควรจะตกใจด้วยซ้ำ แต่ไม่เลย.. เธอไม่ได้รู้สึกกลัวอีกฝ่ายเลย เป็นเพราะอะไรกันนะ...  แต่เธอก็ไม่ได้เอะใจอะไรถึงขนาดนั้น เพราะนี่เป็นไม่ใช่การพบกันครั้งแรกของหนูน้อยหมวกแดงและหมาป่า 

    แล้วคุณหมาป่ามาทำอะไรในนี้งั้นเหรอคะ? “ น้ำเสียงสดใสอย่างคนมองโลกในแง่ดีกล่าวถามอีกฝ่ายด้วยความหวังดี ก่อนจะชี้เข้าไปในพุ่มไม้ที่ดูจะมีหนามแหลมคมเอามากๆ แบบนั้นจะเจ็บตัวเอาได้ง่ายๆนะคะ..

    อา.. ตอนนี้เขาแทบจะคลั่งเพราะการที่ได้พูดคุยกับหนูน้อยหมวกแดงช่างเป็นอะไรที่น่ายินดีเสียหรือเกิน หลายครั้งที่เขาพยายามจะเข้าไปคุยกับเธอเพื่อหวังจะลดความกลัวเกี่ยวกับป่าแห่งนี้ แต่เป็นเพราะความกล้าที่มีไม่มากพอทำให้ได้แต่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้นี้ครั้งแล้วครั้งเล่านั่นเอง แต่ดูเหมือนความไม่ตรงกับใจนั้นจะเป็นอะไรที่แก้ไม่ได้สักที

    นั่นมันเรื่องของข้า เจ้ามีหน้าที่อะไรก็รีบไปเถอะ สาวน้อยตรงหน้าดูจะหน้าเสียไปในทันที แหงล่ะ.. ในเมื่อความหวังดีของเธอมันสูญเปล่าแถมยังโดนไล่ไปทำอย่างอื่นเสียอีก

    เอ๋? งั้นหนูก็ขอโทษแล้วกันค่ะ.. ที่ดันจุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง.. “  หนูน้อยหมวกแดงพึมพัมคำหลังเสียงแผ่วเบาอย่าไม่ตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่ถึงจะไม่ได้ยินก็พอจะเข้าใจว่าเธอกำลังแอบน้อยใจอีกฝ่ายเล็กน้อย ก็สีหน้าบูดๆกับท่าทีน่ารักน่าหยิกแบบนั้นมันฟ้องได้ฃัดเจนเลยยังไงล่ะ
    แต่ไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย
    ! หมาป่าตะโกนกู่ร้องในใจอย่างหัวเสีย เขาก็แค่อยากจะให้เธอไม่กลับบ้านช้าจนเกินไปต่างหาก ในป่าค่ำมืดดึกดื่นเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้เสียเลย..

    งั้นก็รีบไปซะสิ.. สองแขนกำยำยกขึ้นกอดอกตัวเองอย่างเสียไม่ได้ เขาดูเหมือนพี่ชายของเธอมากเกินไปหรือเปล่า? ก็ไม่ได้อยากจะเหมือนนักสักเท่าไหร่หรอก เพียงแค่ว่าความเป็นห่วงมันห้ามกันได้ซะที่ไหน

    ถ้ายังไล่กันแบบนี้จะไม่คุยด้วยแล้วนะคะ.. ร่างเล็กไม่มีท่าทีจะขยับเขยื้อนไปไหนเลยแม้แต่น้อย และดูเหมือนว่าเธอเองก็เริ่มจะไม่พอใจเขาขึ้นมานิดหน่อยแล้วด้วย ไม่ว่าจะเจอกันกี่ครั้งก็เอาแต่ไล่กันอยู่อย่างนั้น ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
    หรือว่าเขาจะอึดอัดที่อยู่ใกล้ๆเธอกันนะ
    ?..

    อ— ก็แล้วแต่เจ้าคำพูดชวนเอาแต่ใจแบบนั้นทำเอาร่างสูงชะงักไป จะไม่คุยด้วยกับหมาป่าอย่างเขานี่น่ะเรอะ? ยัยเด็กประหลาดนี่กำลังคิดอะไรอยู่กัน เดิมทีมันก็เป็นภาพที่แปลกประหลาดมากพออยู่แล้ว

    ข้าก็แค่เป็นห่วง.. เท่านั้นล่ะ.. เธอคงจะไม่สังเกตว่าร่างสูงที่อยู่ตรงหน้ากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ ก็เขาเล่นหันหน้าไปอีกทางซะแบบนั้น
    ช่างเป็นอะไรที่เข้าใจอย่างเสียเหลือเกินได้เพียงแค่ความคิดเท่านั้นเธอก็เริ่มจะเข้าใจประโยคอีกฝ่ายพูดออกมา

    อื้อ.. ง- งั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ แก้มใสขึ้นสีระเรื่อก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นด้วยท่าทางเร่งรีบ มือทั้งสองข้างยกมือมาแปะตรงหน้าอกข้างซ้ายที่มันกำลังเต้นระรัวไม่มีจังหวะพักหายใจ ศีรษะกลมหันกลับไปมองที่เดิมอีกครั้ง ที่ที่เธอเดินออกมาเมื่อกี้และยังปรากฏภาพที่เขายืนอยู่ที่เดิมด้วยรอยยิ้มแสยะดูสนุกสนาน
    อ๋า! เมื่อกี้หลอกเราสินะ.. เจ้าเล่ห์จริงๆเลยเชียว ริมฝีปากจิ้มลิ้มขยับขึ้นลงบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวก่อนแหงนมองท้องฟ้าก็พบว่ามันเริ่มจะมืดเสียแล้ว เห็นดังนั้นก็รีบก้าวขาสั้นๆให้ยาวขึ้นเพื่อลดเวลาที่จะเดินไปจนถึงบ้านคุณยาย
    [ 15 นาทีผ่านไป ]

    หนูน้อยหมวกแดงเดินมาจนถึงบ้านคุณยายที่ตั้งอยู่กลางป่า บ้านของคุณยายไม่มีรายละเอียดอะไรมากนัก เป็นเพียงบ้านไม้หลังเล็กๆเหมาะกับที่หญิงชราวัยช่วงปลายจะอาศัยอยู่คนเดียว
    เธอก้าวเข้าไปยืนอยู่หน้าประตูก่อนจะค้นหากุญแจสำรองบ้านในตะกร้าที่คุณแม่ให้เธอมาเพื่อเยี่ยมคุณยายจนเจอ จึงไม่รอช้าที่จะนำมาออกมาเพื่อไขประตูบ้านและเข้าไปทันที

    สวัสดีค่ะคุณยาย.. หนูขอโทษที่มาช้า.. เรามาเริ่มทานพายองุ่นที่คุณยายชอบเลยดีหรือเปล่าคะ? “ น้ำเสียงหวานใสดังขึ้นทันทีที่เธอย่างเข้ามาในบ้าน

    จ้ะ.. วางตะกร้าลงแล้วนั่งพักก่อนเถอะ คงจะเหนื่อยน่าดู? “ หญิงชราพูดติดตลกเล็กน้อยก่อนจะเหลือยสายตามองใบหน้าหนูน้อยหมวกแดงที่มีเหงื่อโชกด้วยท่าทางขบขัน

    แหะๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ.. เด็กสาวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะโบกมือปัดไปมาเชิงปฏิเสธ เธอไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลยสักนิด
    ใช่
    ! เธอไม่ได้เหนื่อยเลยสักนิด เพียงแค่มีเรื่องต้องให้คิดระหว่างทางมาเพียงเท่านั้นเอง เรื่องที่ว่าเขาบอกเธอว่าแค่เป็นห่วงนั่นน่ะสิ.. ถึงจะเป็นคำพูดที่อีกฝ่ายไม่ได้ใส่ใจที่จะพูดมันออกมามากนัก แต่ก็ทำให้เธอหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งที่คิดทันที

    หน้าแดงขนาดนั้นไม่เหนื่อยจริงๆน่ะเหรอ? “ คุณยายถามด้วยน้ำเสียงเจือเป็นห่วง

    หรือว่าหลานยายกำลังมีความรักกันนะ? “

    ความรัก.. ? สิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่นี่คืออาการของคนมีความรักอย่างนั้นเหรอ?..

    [ ตัดไปที่ข้างบ้านของคุณยาย ]

    เจ้ากำลังมีความรักกับใครกัน?.. “ หมาป่าหนุ่มดูจะกระวนกระวายขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินสองหลานยายคุยกันเรื่องนี้ ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้หากเธอกำลังมีความรัก.. แต่มันก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้อยู่กับเธอเสีย 24 ชั่วโมง

    ทั้งๆที่ข้า.. รักเจ้ามากขนาดนี้แล้วแท้ๆ.. เหตุใดเจ้าถึงยังไม่รู้.. เสียงของเขาดังขึ้นแผ่วๆราวกับกระซิบ แต่ถึงแม้ว่าจะบอกให้ดังเพียงใด มันก็
    คงจะเป็นแค่เสียงที่ส่งไปไม่ถึงเท่านั้น  


    Red Riding Hood Say


    เมื่อกี้ฉันว่าฉันคงไม่ได้ตาฝาดไปใช่หรือเปล่า
    ?.. แวบแรกที่เห็นเป็นเส้นผมสีน้ำตาลเข้มดูนุ่มนิ่มปลิวไปทานด้านข้างเล็กน้อย กับอาการสั่นเกร็งเวลาที่ถูกสายตาคมเฉียบคู่นั้นจ้องมอง

    ไม่ผิดแน่.. คุณหมาป่า!

    แต่เมื่อหนูน้อยหมวกแดงตั้งใจมองมันดีดีอีกครั้ง ตรงหน้าต่างบานเดิมนั่นก็ไร้วี่แววว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ซะแล้ว
    ไวดีแฮะ..

    ฮ่ะฮ่ะ.. ฮ่ะฮ่ะ.. เธอหลุดหัวเราะเสียงแหบแห้งออกมาเบาๆ แต่นั่นก็ทำให้คุณยายได้ยินเสียงหัวเราะของเธอ จึงหันมามองด้วยสายตาเป็นห่วงเล็กน้อย

    เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ? หนูน้อยหมวกแดง?.. “

    อ๊ะ.. ศีรษะกลมที่มีหมวกฮู้ดปกคลุมถูกดึงลงมาห้อยไว้ทางด้านหลังก่อนจะส่ายหัวไปมา
    ไม่มีอะไรหรอกค่ะ.. หนูแค่.. แล้วจะอธิบายกับคุณยายของเธออย่างไร ที่ว่ามองเห็นคุณหมาป่าแวบไปมาอยู่ที่ริมหน้าต่างบานนั้นนั่นน่ะ  ช่างเถอะ.. ไม่ต้องพูดอะไรก็พอแล้วล่ะนะ..

    หนูแค่ร้อนน่ะค่ะ.. ก็อากาศมันร้อนนี่นา.. ช่างเป็นคำอธิบายที่ขอไปทีอย่างบอกไม่ถูก แต่หญิงชราก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะไม่เชื่อเธอเลยแม้แต่น้อย ออกจะดูโล่งใจเสียด้วยซ้ำ

    วันนี้ก็มืดแล้ว.. หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ..
    ร่างเล็กลุกขึ้นกระชับฮู้ดให้แน่นยิ่งขึ้นก่อนจะขับฮู้ดที่ถูกหล่นลงไปในตอนแรกดึงขึ้นมาที่เดิมก่อนจะโค้งลาคุณยายผู้เป็นที่รักแล้วขอตัวออกมาทันที
    ถึงแม้ว่าบรรยากาศข้างนอกจะน่ากลัวเพียงใดแต่ว่าคุณแม่ของเธอคงจะรู้สึกไม่ดีเป็นแน่ถ้าหากว่าเธอจะนอนค้างที่นี่โดยไม่ได้บอกอะไรสักคำ

    ขาเรียวก้าวฉับๆออกมาพร้อมกับตะกร้าใบเดิมที่เกี่ยวแขนมาในตอนแรก เพียงแต่ว่าทิวทัศน์รอบๆมันไม่เหมือนเดิมก็เท่านั้น มันมืดสนิทราวกับว่าไม่มีแสงสว่างของดวงจันทร์ลอดเข้ามา และเป็นแบบนี้ทุกครั้งในขากลับจากบ้านของคุณยาย
    ซึ่งคนขี้กลัวอย่างเธอก็ไม่ได้รู้สึกชอบสักเท่าไหร่เลย
    ถ้าในเวลาแบบนี้มีคนมาเดินทางเป็นเพื่อนหรือมีเพื่อนคุยเสียบ้าง คงจะดีไม่ใช่น้อย และดูเหมือนพระเจ้าจะเข้าข้างเธอ เพราะเพียงแค่ความคิดที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจเธอจบลง ก็ได้พบกับบุคคลที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี..

    นั่นคือ.. ?

    To Be Continue..

     

    ห็นดังนั้นก็รีบก้าวขาสั้นๆให้ยาวขึ้นเพื่อลดเวลาที่จะเดินไปจนถึงบ้านคุณยายเริ่มจะมืดแด้วยท่าทีดูสนุกสนานเสียเหลือเกินาจะเจอกันกี[ อ่านตอนพิเศษวันป๊อกกี้เดย์ได้ที่นี่ : http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1407402 ]

    [ คุยกับไรท์เตอร์ : แฮฮ เริ่มจะดราม่าขึ้นมานิดๆแล้วนะคะ YAY สารภาพเลยค่ะว่าตอนแรกอยากจะแต่งให้ดราม่าสุดๆถึงขั้นหนูน้อยหมวกแดงหรือหมาป่าตายไปเลย[?] แต่พอลองมาคิดดูอีกทีจะแต่งให้สองคนนี้สมหวังค่ะ ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ]




    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×