คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ll Memories fade ll Rewrite
คุณ... เคยนิยามความรักของคุณไว้แบบไหนหรอ???
คุณ... เคยฝันถึงความสุขที่เป็นไปไม่ได้บ้างไหม???
คุณ... เคยรู้สึกไหมว่าการยิ้มจากใจต้องทำยังไง???
คุณ... เคยคิดไหมว่าวันนี้จะอยู่หรือตายดี???
.
.
.
.
แต่สำหรับผม
การที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้
มันก็ไม่ต่างอะไรกับ
คนที่ตายไปแล้วทั้งเป็น...
“ ฮือๆๆ ฮึก ม แม่ครับ อ... อย่าหลับนะครับ ฮึก ฮือๆ ผมอยู่นี่... ม แม่อย่าทิ้งผมไปนะ ”
เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังร้องไห้จนแทบจะขาดใจพลางกอดร่างของหญิงสาวผู้เป็นแม่ของตนไว้แน่ ซึ่งร่างทั้งร่างของหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยเลือดซึ่งมันมากมายจนสามารถทำให้รู้ได้ว่าเธอคนนี้คง... ไม่รอด
ร่างของหญิงสาวที่แทบจะลมหายใจแผ่วเบากับสติที่ใกล้ลบเลือน แต่เธอก็พยายามที่จะบอกอะไรบางอย่างกับลูกชายสุดที่รักของเธอ...
“ สะ สัญญากับแม่นะ ด แดฮยอน ว่าลูกจะเป็น ด เด็กดี ”
หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มพร้อมใช้มือที่เปื้อนเลือดสัมผัสมาที่ใบหน้าของลูกชายตนเองที่กำลังร้องไห้...
“ สัญญาครับ ผ ผมสัญญา ฮึก แม่ครับ ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ ฮือๆ เดี๋ยวกำลังจะมีรถมารับเราแล้วนะครับ ฮึก ไม่ต้องเป็นห่วง ม แม่ต้องอยู่กับผมนะ ฮือๆๆ ”
เด็กหนุ่มพูดทั้งน้ำตาแต่ความคิดของเขาตอนนี้คือ ทำไมเขาคนนั้นถึงไม่ส่งรถมาพวกเขาทั้งสองทำไมถึงได้ไม่สนใจเลย... ทำไมถึงทิ้งให้แม่เค้าต้องตายแบบนี้ ทำไม...
“ ม แม่รักลูกนะ แล้วจำไว้นะว่า ลูก..................................... ”
เฮือก
“ ฝันแบบนี้... อีกแล้วหรอ ”
ร่างเล็กที่พึ่งตื่นจากฝันร้าย แต่ใบหน้ากลับไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใดทั้งๆที่ในความฝันนั้น เป็นคืนที่ทำให้เขาต้องสูญเสียแม่ผู้เป็นที่รักไป ทั้งๆที่เป็นแค่ความฝันแท้ๆ แต่ทุกอย่างกับเหมือนจริงไปหมด รวมทั้งกลิ่นคาวของเลือดแล้วก็ความรู้สึกที่เหมือนกับมันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน
เค้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม... ทุกครั้งที่คิดจะลืมหรืออยากลืม เค้าก็มักจะฝันถึงเรื่องนี้เกือบทุกครั้ง เหมือนเป็นการเตือนความจำบางอย่าง ว่าห้ามลืม...
“ คืนนั้น... แม่พูดอะไรกับผมกัน ทำไม ผมถึงนึกไม่ออก ”
ร่างเล็กถอนหายใจก่อนจะลุกออกจากเตียง เดินไปที่ระเบียงข้างนอกเพื่อสูดอากาศยามเช้ารับวันใหม่ที่น่าเบื่อหน่าย เพราะทุกอย่างมันก็เหมือนเดิม... เหมือนกันทุกๆวันที่แสนหน้าเบื่อ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ คุณหนูครับ ผมขอเข้าไปนะครับ ”
“ เข้ามา แล้วก็ไม่ต้องเรียกแบบนั้นก็ได้... ผมไม่ชอบ ”
“ ครับ คุณแดฮยอน... วันนี้ตื่นเช้ากว่าปกตินะครับ มีอะไรหรือป่าว? ”
คุณคิมฮิมชาน จะเรียกว่าพ่อบ้านก็คงจะไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะทำงานเกือบจะทุกอย่างในบ้านหลังนี้ รวมทั้งทำตามคำสั่งของคนนั้นๆ ซึ่งต่อให้ไม่ชอบใจหรือไม่เต็มใจก็ต้องทำ...
ตอนแรกที่ผมกับแม่เข้ามาในบ้านหลังนี้ คุณฮิมชานก็ได้รับหน้าที่ให้มาดูแลผมกับแม่…
“ ...ฝันร้ายนิดหน่อย ”
ผมลืมบอกไป ผม จองแดฮยอน เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของ จองฮยอนจา ส่วนพ่อของผม
ผมไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร... และผมก็ไม่สนหรอกว่าเค้าจะเป็นใคร หน้าตาเป็นยังไง เพราะ แม่ไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับพ่อให้ผมฟังเลย และผมก็ไม่คิดที่จะถามด้วย เพราะตอนนี้แม่ผมแต่งงานใหม่กับคนที่มียามเป็นพ่ออีกคนของผมก็คือ...
บังยองซอก แต่ผมไม่ค่อยจะอยากเรียกชื่อของคนๆนี้นักหรอกครับ เพราะตั้งแต่ที่แม่ผมแต่งงานกับเค้าหรือแม้กระทั่งก่อนที่ท่านจะเสียผมแทบไม่เคยเห็นแม่มีความสุขเลยสักครั้ง เค้าแต่งงานใหม่เดิมทีภรรยาคนแรกคือแม่ของยงกุกและจุนฮง แต่แล้วก็เลิกรากันไป บังยองซอกบังคับภรรยาโดยเอาลูกชายทั้งสองคนไว้ แล้วต่อมาก็แต่งงานกับแม่ของผมและ 9 ปีต่อมาท่านก็เสียชีวิตแบบปริศนา
“ คุณแดฮยอน... คุณแดฮยอนครับ ฟังผมอยู่หรือป่าว? ”
ฮิมชานเรียกแดฮยอนที่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ บางทีเค้าก็อยากได้แดฮยอนได้พักบ้างไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตาม... อยากให้พักบ้าง เพราะเป็นห่วง
“ ครับ... เมื่อกี้คุณฮิมชานว่าอะไรนะ ”
แดฮยอนหันมาสนใจฮิมชานที่เรียกตนให้หลุดออกมาจากห้วงความคิด แต่ก็ยังคงคิดอะไรอยู่ในหัวแทบจะตลอดเวลาเหมือนเดิม บางทีร่างเล็กก็สงสัย... ว่าทำไมเค้าถึงไม่เลิกคิดบ้าง
เพราะมันปวดหัว... และน่าเบื่อหน่าย
“ เฮ้อ! คุณแดฮยอน... ไม่ได้ฟังผมเลยหรอครับ? ”
แดฮยอนมองฮิมชานด้วยสายตาที่เรียกได้ว่ามันเกือบจะว่างเปล่า... ปกติแดฮยอนไม่ใช่เด็กที่ไร้ความรู้สึกแบบนี้ข้อนี้ฮิมชานรู้ดี แต่ที่แดฮยอนเปลี่ยนไปคงเพราะ... เรื่องของแม่และคนๆนั้น
“ ขอโทษที... ว่าแต่มีอะไร ”
แดฮยอนพูดก่อนจะเดินไปหยิบมือถือบนเตียงขึ้นมาดูเวลาว่ากี่โมงแล้ว
“ ผมบอกว่าวันนี้มีประชุม... และท่านยองซอกก็เรียกคุณไปพบด้วย ”
ประโยคหลังฮิมชานพูดเบาลง หากแต่ก็ยังคงดังฟังชัดมากเพราะในห้องนั้นเงียบพอที่ใครอีกคนจะได้ยิน เพียงแต่เค้าไม่สามารถรู้ความรู้สึกของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ได้เลย
“ เค้า... กลับมาแล้วหรอครับ ”
แดฮยอนที่ได้ยินประโยคดังกล่าว ถึงสีหน้าจะไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาก็ตามเพียงแต่ฮิมชานรู้ดี ว่าดวงตาที่กำลังพยายามซ่อนอะไรมากมายบัดนี้กำลังสั่นเทา หากแต่ก็ไม่เคยคิดที่จะเผยด้านอ่อนแอให้ใครได้เห็นทั้งสิ้น...
หลังจากที่แดฮยอนเสียแม่ไปและเสียคนๆนั้น...
ไม่มีใครเคยเห็นน้ำตาของแดฮยอนอีก รวมทั้งรอยยิ้มที่คล้ายลูกแมวที่ทำให้ใครต่อใครเป็นต้องยิ้มตามก็หายไปด้วยเช่นกัน
จากที่เคยร่าเริงก็กลายเป็นเด็กเก็บตัว ไม่เปิดรับใคร...
“ ...ใช่ ท่านกลับมาแล้ว อีกอย่างตอนเที่ยงวันนี้คุณแดฮยอนต้องไปกินข้าวกับยงกุกนะ ที่หมอนั่นมันนัดเราไว้ แล้วหลังจากนั้นก็ต้องไปคุยกับหุ้นส่วนรายใหม่ด้วยคุณแดฮยอนไหวหรือป่าวครับ? ”
“ ถึงไม่ไหว... ก็ต้องไหวอยู่ดี ”
ยังไงผมก็ไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว... เพราะท่านยองซอกคงไม่ยอม และไม่ว่าใครก็ปฏิเสธไม่ได้
“ คุณแดฮยอน ถ้าไม่ไหวบอกผมได้นะครับ... ผมจะได้เลื่อนไปก่อน ”
ฮิมชานพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงออกมาอย่างจริงจัง เพราะพักหลังๆมานี้ งานเยอะมาก แล้วยังต้องไปที่นั่นที่นี้ ไหนจะต้องทานข้าวกับหุ้นส่วน ติดต่องาน หรือประชุมระหว่างประเทศซึ่งก็ต้องเป็นแดฮยอนที่ต้องไปเพราะเป็นคำสั่งของท่านยองซอก แล้วยังต้องไปดูงานที่ต่างประเทศหรือง่ายๆ 3-4 อาทิตย์จะกลับมาที จนฮิมชานเริ่มจะสังเกตเห็นอาการแปลกๆ ที่แดฮยอนมักไม่ยอมบอกเค้า ไม่ว่าจะเป็นไข้ปวดหัวหรืออะไรก็ตามอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งที่ผมจับได้ว่าแดฮยอนไม่สบายแดฮยอนมักจะปฏิเสธว่าไม่เป็นอะไรเสมอ อาจเพราะจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยด้วยที่เป็นเหตุ และผมก็ไม่อยากให้แดฮยอนต้องเจ็บป่วยยันเข้าโรงพยาบาลหรอกนะ แต่แดฮยอนมักจะปฏิเสธผมเสมอ ที่ผมทำไม่ใช่เพราะหน้าที่แต่เพราะดวงใจของผมมักต้องการแบบนั้น...
ถึงจะเป็นแค่การคอยดูแลอยู่ห่างๆ ทั้งที่อยากจะเข้าไปดูแลให้ใกล้กว่านี้
แต่ก็ทำไม่ได้...
“ ไหวสิค... ผมล้อเล่นว่าแต่จะให้ผมไปอาบน้ำได้ยังครับ ”
จากนั้นแดฮยอนก็พูดขึ้นถามฮิมชานพร้อมกับเดินไปเอาผ้าขนหนูในตู้เตรียมจะเข้าห้องน้ำ
“ อ่อ ครับเชิญครับ ใครจะไปห้ามคุณหนูได้ล่ะ ”
“ ก็คุณฮิมชาน พูดอยู่ผมจะไปยังไง? อีกอย่างอย่าเรียกผมว่าคุณหนู ผมไม่ชอบคุณก็รู้ อีกอย่างที่ผมสงสัย... วันนี้คุณพูดมากแต่เช้าระวังจะแก่เร็วนะ... ”
แดฮยอนพูดทิ้งไว้แค่นั้น ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ทั้งๆที่พูดอะไรออกมาแบบคนได้ฟังถึงกับสะอึกไปเลยทีเดียว
“ อ อ่าว คุณหนู... พูดทิ้งไว้แล้วหนีหรอแน่จริงเนี่ย แน่จริงยืนปากเก่งต่อให้ผมจูบก่อนสิ ”
ฮิมชานยิ้มให้กับความร้ายเงียบของคุณหนู แต่ก็น่ารักปนกวนเบาๆ ก็ยังดีที่แดฮยอนเหมือนจะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนขึ้นมาบ้าง เวลาคงพอใช้รักษาแผลในใจของแดฮยอนได้... ถึงจะต้องใช้เวลามากก็ตาม
เฮ้อ... ผม คิมฮิมชาน เป็นเพื่อนของ บังยงกุก
ลูกชายคนโตของ ท่านบังยองซอก
แต่กับลูกชายคนเล็กอย่าง ชเวจุนฮง ผมไม่ค่อยสนิทกับเด็กนั่นเท่าไหร่...
จะว่าไปตั้งแต่วันนั้นเมื่อ 9 ปี...
เด็กคนนี้ จองแดฮยอน ที่โผล่เข้ามาในบ้านหลังนี้พร้อมกับท่านฮยอนจา อยู่ๆก็เกิดเรื่องขึ้นมากมาย แต่ผมรู้ดีครับว่ามันไม่ใช่เพราะแดฮยอนและไม่ใช่เพราะท่านฮยอนจาด้วย แต่เรื่องของท่านฮยอนจาแม่ของแดฮยอนนั่น ทุกวันนี้การตายนั้นยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้...
ผมพยายามที่จะหาคำตอบของเรื่องราวทั้งหมดให้ได้ แต่กลับโดนท่านยองซอกสั่งให่เลิกยุ่งเรื่องนี้
“ คุณแดฮยอน ถ้าอาบน้ำเสร็จแล้วก็รีบลงไปข้างล่างนะครับ วันนี้ยงกุกกับจุนฮงก็ลงมากินข้าวเช้าด้วยเหมือนกัน ”
ฮิมชานเดินมาบอกแดฮยอนที่หน้าประตูห้องน้ำก่อนจะออกจากห้องไป หลังจากที่ได้ยินคำตอบของแดฮยอน
“ ครับ เดี๋ยวผมรีบลงไป ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ แดฮยอนยังไม่ลงมาอีกหรอ ฮิมชาน... ”
“ อีกเดี๋ยวก็คงลงมาแล้วครับ อาจจะกำลังแต่งตัวอยู่ครับคุณยงกุก”
“ หรอ... พอดีเลย ถ้างั้นวันนี้ให้แดฮยอนออกไปพร้อมฉันเลยนายค่อยไปรับตอนเที่ยงหลังจากแดฮยอนกินข้าวกับฉันเสร็จแล้ว ฉันมีธุระจะให้นายไปทำ ”
“ แล้วมยองซูล่ะครับ ”
ฮิมชานถามยงกุกด้วยความสงสัย เพราะปกติเวลามีธุระอะไร ยงกุกก็มักจะส่งคนสนิทของตัวเองอย่างมยองซูไปเสมอ แต่ทำไมถึงเป็นเค้ากัน... นี่เพื่อนนะครับไม่ใช่คนใช้ส่วนตัว
ถึงพวกเราจะเป็นเพื่อนกันแต่ก็ไม่ได้สนิทอะไรมากนักโดยเฉพาะกับคุณชายคนเล็กของบ้านนี้
“ มยองซูก็ไปกับฉันไง... ทำไมฉันใช้นายไม่ได้งั้นหรอฮิมชาน ”
ยงกุกถามฮิมชานด้วยน้ำเสียงที่ฟังยังไงก็รู้ว่าไม่พอใจเท่าไหร่นักกับสิ่งที่ฮิมชานถามกลับมา
“ ป่าวครับ ผมแค่สงสัย ”
ฮิมชานที่ตอบเพื่อหลีกเลี่ยงบรรยากาศชวนอึดอัดนี้ซะ เพราะเค้าไม่อยากให้มื้อเช้าที่นานๆทีจะได้มารวมหน้ารวมตากันแบบนี้ตอนพังลง...
เค้าอยากเห็นแดฮยอนมีความสุขบ้าง...
แม้แค่ช่วงเวลานึงก็ยังดี...
“ พอได้แล้ว... เช้าๆ อย่ามาทำให้บรรยากาศเสีย รำคาญ ”
ผม ชเวจุนฮง พวกฮยองนี่ก็แปลกมาคุใส่กันอยู่ได้ แล้วยังไอ้คำสุภาพนั้นอีก จะบ้าตาย
“ พ่อไม่ได้อยู่สักหน่อย พวกฮยองนี่... ”
“ ก็ฝึกไว้บ่อยๆไง ถ้าหลุดขึ้นมาจะทำยังไงใช่ไหมยงกุก? ”
ผม... ล้อเล่นครับ ฮ่าๆ คุณคงเชื่อไปแล้วสินะ เอาจริงๆพวกเราสองคนก็สนิทกันนั่นแหละครับ ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานนี่นา...
แล้วก็... แค่ผมมาทำงานกับพ่อของไอพวกนี้ก็เท่านั้นเอง...
คุณโดนผมหลอกแล้ววววว...
“ มีแต่นายคนเดียวมากกว่าที่ชอบหลุด ความจำแย่ก็งี้แหละ... ”
ยงกุกเล่นปนจริงจังเบาๆ หากแต่ก็ทำให้ฮิมชานเจ็บจี๊ดได้ไม่น้อย...
“ เฮ้อ! จะพูดอะไรก็ชั่งแกเหอะ... ความจำแกกับฉันก็พอกันล่ะว่ะ ”
“ ฉันความจำดีกว่าแกเยอะโว้ยยย อย่าอิจฉา ”
“ เลิกทะเลาะกันเป็นเด็กๆเหอะครับ ผม รำคาญ ”
ฮิมชานและยงกุกหันไปมองที่จุนฮงกันเป็นตาเดียวโดยได้ต้องนัดหมาย...
“ คำก็รำคาญ สองคำก็รำคาญ ”
ฮิมชานพูดก่อนจะรอให้ยงกุกพูดต่อ...
“ กูจะฟ้องแดฮยอน... ”
ยงกุกพูดจบทั้งคู่รวมฮิมชานด้วยก็ทำใบหน้ายิ้มร้ายคล้ายว่าตัวเองมีไพ่เหนือกว่า เพราะทุกคนในนี้ แคร์มากที่สุดเพียงคนเดียวเท่านั่น...
คือจองแดฮยอน...
“ พวกฮยองนั่นแหละ... โคตรน่ารำคาญ ”
ส่วนนี่ลูกชายคนเล็ก ชื่อ ชเวจุนฮง ใช้นามสกุลเดียวกับแม่จุนฮงไม่อยากให้นามสกุลบัง ตอนนี้ท่านตกลงจะแยกจากกัน...
“ นี่ เซโล่แกเป็นน้องนะโว้ยยยย น้อยๆหน่อย ”
ยงกุกที่กำลังดูงานต่างๆในไอแพดอยู่ ถึงกับเงยหน้าขึ้นมาพูดเตือนน้องชายที่แสนปากดี เซโล่คือชื่อที่ไอเด็กนี่อยากให้พวกเค้าเรียก มันบอกว่า จุนฮง มีแค่สองคนเท่านั้นที่เรียกได้... คือแม่ของตัวเองกับแดฮยอน
“ ใช่ อีกอย่างพวกฮยองอายุเยอะกว่านายมากนะ ”
ฮิมชานพูดขึ้นอีกคน จริงๆก่อนหน้านี้ตัวเค้าเองต้องดูแลจุนฮง เพียงแต่... เพราะแดฮยอนเข้ามาในบ้านหลังนี้ เค้าเลยต้องมาดูแลแดฮยอนแทนและนั้นเป็นเรื่องที่เค้ารู้สึกมีความสุขสุดๆ
ดีกว่า... ต้องคอยตามดูแลไอเด็กกวนประสาทหน้าตายแต่กวนส้นแบบนี้...
“ ยอมรับว่า แก่ กันแล้วหรือครับ ” ( ยิ้ม )
“ ไอเซโล่!!!!!!!! ไอแหมบบบบบ ” ----> ยงกุก
“ วอนโดนตีน... เออ!! ไม่เถียง... คนบ้านนี้มันยังไงกันว่ะปาก ” ----> ฮิมชาน
to be continued…
........................................................................................................................................
เปลี่ยนนิดหน่อยเรื่องตัวละครคะ และบทอาจเปลี่ยนนิดหน่อย ^^
Duck- Fly
ความคิดเห็น