ความลับ...ของผม ตอน มุมลึกของ.....กำปั้น - ความลับ...ของผม ตอน มุมลึกของ.....กำปั้น นิยาย ความลับ...ของผม ตอน มุมลึกของ.....กำปั้น : Dek-D.com - Writer

    ความลับ...ของผม ตอน มุมลึกของ.....กำปั้น

    ครูเล็ก ชลพรรษ

    ผู้เข้าชมรวม

    82

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    82

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ก.ค. 58 / 17:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    ความลับ...ของผม

    ตอน

    มุมลึกของ.....กำปั้น

    พูดถึงความลับ...ของผม มีเยอะครับหลายมุม หลายแง่ แต่ละมุมแต่ละแง่อาจจะคล้ายๆ กับใครหลายๆ คนก็อาจเป็นได้  โดยส่วนตัวผมเองเป็นอารมณ์ดี เฮฮาไม่ค่อยจะมีความเครียดกับใคร  นั่น คือ ภาพลักษณ์ที่ทุกคนสัมผัสได้แต่ลึกๆ แล้วผมมีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงแอบติสต์เล็กๆ อีกด้วย ผมเป็นลูกชายคนเล็กในจำนวนพี่น้องสองคน มีพี่สาวคนโต หนึ่งคนและผมเองเป็นน้องคนเล็กด้วยความที่มีความอาร์ตอยู่ในตัวโลกส่วนตัวจึงค่อนข้างสูง ดังที่บอกตั้งแต่ต้นแล้ว  อ้อ!!! ลืมแนะนำตัวไป ผมชื่อ กำปั้น ครับไม่มีแฟนไม่ใช่ว่าไม่มีใครสนใจผมนะ แต่เป็นเพราะว่ายังไม่มีใครที่ถูกใจผมมากกว่าหลายคนที่ผมเคยคบด้วย ไม่นานก็มีอันต้องห่างและแยกย้ายกันไปก็ไม่มีอะไรมากนะ ผมแค่อาร์ตนิดๆ อยากทำอะไรก็ทำไม่ค่อยมีแบบแผน ส่วนมากจะอยู่กับเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกัน กินบ้าง เที่ยวบ้าง รับงานถ่ายรูปบ้าง แบบนี้มั้ง ผมกับแฟนเลยต้องห่างๆ กันออกไป แต่ผมจะโทษใครได้ล่ะ จะว่าไปมันก็เป็นเพราะตัวผมนี่แหระ  ที่อินดี้ไปเรื่อย   รักอิสระไม่ค่อยได้ใส่ใจกับความรักสักเท่าไร พอถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันไปก็ฟูมฟายพักใหญ่ สุดท้ายก็ต้องปล่อยมือ เพราะรั้งไว้มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นนอกจากจะเจ็บทั้งคู่ดังนั้น ผมจึงคิดว่า ผมเป็นฝ่ายให้เขาบอกเลิกจะดีกว่า ฝ่ายโน้นเขาจะได้สบายใจนิ๊ดนึงอ่ะน่ะ

                       แต่เมื่อผมได้ทำกิจกรรมต่างๆ กับน้องคนนึงบ่อยๆ เป็นประจำไม่ว่าจะเที่ยว กิน เดินทางไปโน่น นี่ นั่น เจ้านี่ก็จะติดสอยห้อยตามผมไปทุกที บางครั้งก็กินนอนด้วยกันเลยก็มี เรียกได้ว่า ถ้าเจอผมที่ไหนก็ต้องเจอมันที่นั่นเลยทีเดียว “นพ วันนี้พี่มีธุระจะไปถ่ายรูปที่วัดพระบาทนะ ไม่เที่ยงก็บ่ายๆ น่าจะกลับ” นพยิ้มกริ่มทันทีขยับเป้เตรียมพร้อมทีเดียว ผมรีบยกมือโบกทันที “เฮ้ยๆ พี่จะไปคนเดียวอ่ะแก” นพอมยิ้มพลางตอบ “พี่จะเหงานะ ถ้าไม่มีผม ผมไปด้วยไม่ได้หรอ นะๆๆ ไปด้วยนะ อยากไป” ไม่พูดอย่างเดียวนะ แถมทำตาปริบๆ น่าสงสารเชียว ไอ้เด็กเปรต!!

    “ไม่ๆ ฉันหาแฟนไม่ได้พอดี ขอร้องอย่ามาอ้อน เดี๋ยวจะโดนหน้าแข้งนะ นพ” นพทำตาละห้อย “ไม่ให้ไปแน่นะ พี่” ผมรบตอบ “เออดิ ไอ้นี่” นพยังยิ้มหน้าทะเล้นใส่ผม เผื่อว่าผมจะเปลี่ยนใจ

    “ไม่เปลี่ยนใจจริงรึพี่” ผมเลยต้องลุกเดินออกมาเฉยๆ ตัดความรำคาญ แต่จริงๆ ผมก็อยากให้มันมาด้วยนะ แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหระ ขืนมันติดสอยหอยตามบ่อยๆ พอดีแหระ ผมหาแฟนไม่ได้พอดี ดีไม่ดี เขาจะหาว่าเป็นเกย์เอาอีก สมัยนี้ยิ่งกำลังฮิตซะด้วยซิไอ้ประเภทชายรักชายเนี่ย เมื่อเดินทางมาถึงวัด ผมก็รีบทำงานของผมทันทีเตรียมกล้อง เช็คแบต อ้าว!!! ลืมเมมกล้องเฉยเลย   ให้ตายเถอะ ผมจึงตัดสินใจโทหาไอ้เจ้านพทันที เพราะงานใกล้เริ่มแล้ว “นพๆ” เสียงนพหัวเราะเบาตามสายมา “โห่ พี่ห่างผมแป๊บเดียว คิดถึงผมแล้วรึ แหมๆ ขอไปด้วยก็ไม่ให้ไป” ผมเลยด่าเข้าให้ “ไอ้บ้า จะเล่นไปถึงไหน พี่รีบนะเดี๋ยวแกรีบเอาเมมกล้องมาให้พี่ด่วนเดี๋ยวนี้เลยนะ ไวๆ ไม่เล่น” นพยังคงหัวเราะตามสายมาอีก “นั่นไง เพราะพี่ขาดผมไม่ได้เลยทำเป็นลืมใช่ไหม ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่นพี่ ไปแหระๆ ไม่เล่นแล้ว ฮ่าๆๆๆ” ไม่กี่อึดใจ  นพก็โผล่หน้ามาพร้อมเมม “ไงพี่ รอนานมั้ย” ผมรีบรับเมม “อืม ไวดีนี่แก” นพรีบช่วยผมทำงานทันที นพอายุน้อยกว่าผม 2 ปี เป็นคนอารมณ์ดีบางทีดีเกินไปด้วยซ้ำ บ่อยครั้งก็ทำให้ผมอารมณ์ดีตามไปด้วยเพราะขำมันนั่นแหระ ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าวันหนึ่ง นพ มันมีแฟนไปผมจะทำยังไง แล้วถ้าคิดในทางกลับกันถ้าผมมีแฟนมันจะคิดแบบผมมั้ยนะ เอาแล้วซินี่ผมคิดอะไรเนี่ย เลอะเทอะไปกันใหญ่แล้วพอๆ ไม่คิดดีกว่าทำงานดีกว่า “พี่ๆ เสร็จงานจะไปไหนต่อไหมครับ” ผมมองมันแล้วถาม “มีไรรึเปล่า แกจะไปไหนล่ะ พี่จะไปเดินเล่นที่เย็นๆ ซะหน่อยรึแกว่าไง นพ” พูดพลางตบไหล่มันเบาอย่างเอ็นดู “ผมว่าจะไปหาเหมียวซะหน่อยอ่ะพี่ เขางอนผมอยู่” ผมพยักหน้ารับรู้ “อ้อ แฟนงอน ฮ่าๆๆๆ พี่บอกแล้วอย่ามาตัวติดกับพี่” ผมพูดไปงั้นแหระ ไม่อยากให้นพมันรู้สึกไม่ดี “ไม่หรอกพี่ เขางอนเป็นประจำแหระ ผู้หญิงไม่งอนเขาว่าจะไม่งาม ฮ่าๆๆๆ” ไอ้นพมันตอบยียวนผม “เออ ไปเลยแก ก่อนที่ไอ้เหมียวจะงอนไปกว่านี้ พี่ไม่ช่วยแกง้อแฟนนะเว้ย” นพหัวเราะเบาๆ ตามเรื่อง “งั้นผมแยกกับพี่ตรงนี้เลยนะ เย็นๆ ผมจะแวะเข้าไปหานะ พี่ อย่าดื้อ อย่าซนล่ะ ง้อแฟนแป๊บเดียว เครนะ ฮ่าๆๆ” ไม่วายที่มันจะหยอดผมตลอด “มึงเริ่ม กวน....กูล่ะ ไอ้นพ” นพหัวเราะเอิ๊กอ๊ากก่อนจะเดินผิวปากออกไป ผมได้แต่มองตาม

                       นพเป็นแฟนกับเหมียวมานานแล้วตั้งแต่เริ่มรู้จักกับผมมา เห็นมันทะเลาะกันประจำโกรธกันงอนกันไม่ทันข้ามคืนก็คืนดีกันทุกที นพมันเก่งง้อแฟนเก่ง ผมยังนึกอิจฉามันเล็กๆ เลย ผิดกับผมที่ไม่เคยอดทนกับการง้อแฟนเลยเมื่อเขาอยากจะเลิกผมก็ไม่พูดอะไรต่อยินยอมให้เขาไปแต่โดยดี เหมียวเป็นเด็กสาวหน้าตาดีทีเดียว แต่ขี้งอนไปหน่อย น่านๆ วิจารณ์แฟนเขาอีกผมแต่ระยะหลังๆ ผมกับนพชอบกล้อง ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน นพจึงมาคลุกอยู่กับผมเป็นประจำทำให้ห่างกับเหมียวไปบ้างซึ่งผมเองก็เข้าใจ ตามอารมณ์ของผู้หญิงที่อยากให้แฟนเอาใจพาไป โน่น นี่ นั่น เป็นธรรมดาไอ้ผมเองก็เคยเตือนมันแล้วนะ แต่มันก็ขำๆ ไม่เครียดอะไร เอาเป็นว่าเย็นๆ ถ้ามันแวะมาหาผมจะพามันไปเลี้ยงปลอบใจซะหน่อย นั่น!! พูดไม่ทันขาดคำมันโทมาล่ะ “ฮัลโหล ว่าไงแก” เสียงตามสายของนพ ฟังดูไม่ดีเลย “พี่ผมๆๆ ผมเสียใจ พี่มารับผมหน่อยดิ” ผมรับปากรีบไปรับมันทันทีสภาพที่ผมเห็น ผมพูดไม่ออกเลย 3 ชั่วโมงตะกี้ ไอ้นพน้องที่ร่าเริง กวนๆ มันไม่หลงเหลือภาพนั้นเลยพับผ่าซิ หน้าเหมือนคนแบกโลกไว้ทั้งใบ ตาลอย เหม่อมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย “เฮ้ย!! นพ” ผมเรียกได้แค่นั้นเท่านั้นเอง เจ้านพก็โผเข้ากอดผมสะอึกฮักๆ เหมือนเด็กได้ที่พึ่ง “พี่ เขาทิ้งผมไปแล้ว เหมียวทิ้งผมไปแล้ว พี่ปั้น ผมจะทำไง ผมต้องทำไง พี่ช่วยผมด้วย” ผมอึ้งกอดตอบตบไหล่เบาปลอบน้อยๆ ผมพานพนั่งรถมาด้วยกันนพไม่พูดเลยสักคำ นั่งนิ่งเหมือนไม่มีใครนั่งมากับผมเลย ผมรู้ซึ้งกับความเสียใจแบบนี้ ผมเข้าใจอารมณ์เป็นอย่างดีพลันนพก็พูดขึ้นมาว่า “พี่แวะ บาร์ตรงหัวมุมก่อนดีมั้ย ผมอยากเมา ผมจะได้ไม่ต้องคิดมาก” ผมพยักหน้าแล้วเลี้ยวรถหาที่จอด “พี่ครับผมขอวันนึงนะ” ผมสงสารมันจับใจแต่ไม่อยากถามหรือพูดอะไรที่จะทำให้มันเลวร้ายไปกว่านี้ “ได้ซิไอ้น้อง เดี๋ยวพี่กินเป็นเพื่อน สั่งเลยพี่เลี้ยง” นพยิ้มแหยๆ ผมไม่ชอบเลยพับผ่าซิ “อเมริกันแชร์ดีกว่าพี่ ผมรบกวนพี่มาเยอะแล้ว” ผมพยักหน้า “อืม ตามใจแก ว่าไงว่าตามกัน” นั่งกินกันไปเรื่อยนพเริ่มได้ที่ ไอ้ผมไม่เท่าไรเพราะต้องขับรถเลยกินนิดหน่อยต้องดูแลมันอีก “พี่รู้มั้ย เขาคบกันมาตั้งนานพอๆ กับที่คบกับผมที่เด็ดสุด เขาเลือกคนนั้นไม่ได้เลือกผม ถ้าเขาจะคบเผื่อเลือกทำไมไม่บอกผมตั้งแต่แรก ผมเสียใจที่สุดเพราะผมไม่เคยมีใครเลยนอกจากเขานะพี่ พี่เข้าใจผมใช่มั้ย” ผมพยักหน้าตบไหล่น้องเบาๆ “เอาน่า เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่พี่เห็นแกโกรธกันไม่ทันข้ามคืนทุกทีนี่น่า สู้ดิแก” นพส่ายหน้าตาแดงเพราะฤทธิ์ความเมา “ม่ายยยยยยอ่ะพี่ เขาไปอยู่ด้วยกันมันจะเป็นเหมือนเดิมได้ไงอ่ะ” หนักเลยงานนี้ หนักกว่าที่ผมคิดไว้อีก ในขณะที่ผมคิดๆ หันมาอีกทีนพก็ฟุบไปกับโต๊ะแล้ว “เฮ้ยๆๆ นพๆๆ ลุกๆๆ กลับบ้านกัน น้องๆ เก็บตังค์ด้วยครับ” ผมรีบจ่ายเงิน สรุปผมต้องทั้งแบกทั้งลากมันเข้าบ้าน ตัวหนักฉิบ!!!! จะปล่อยมันนอนบนโซฟาแบบนั้นก็สงสารเลยเอาน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ซะหน่อยดีกว่า จะได้นอนสบายขึ้น ผมค่อยๆ บิดน้ำที่ผ้าหมาดๆ เพื่อเช็ดหน้าลำคอ ไล่ลงไปเรื่อยจนถึงแผงอก เจ้ากรรม!!! ผมไม่รู้ว่ามันละเมอหรือว่าอะไร นพกอดรอบคอผมโน้มหน้าผมจนติดหน้ามัน ปากประกบกันอย่างจัง เอิ่ม!!!! ก่อนที่อะไรๆ จะเกินไปมากกว่านั้นผมรีบยันอกมันไว้ นพปรือตามองผม ตางี้เยิ้มมมมเชียว “พี่......อยู่กับผมนะ ผมไม่มีใคร” ผมตะลึงและยันอกมันไว้ “เฮ้ย!!!” นพยังพูดต่อ “พี่ไม่รักผมหรอ” ผมอึ้งความรู้สึกสบสนปนเปกันไป เคยว่าคนอื่นไว้ด้วยแต่คราวนี้กับสับสนลึกๆ ผมเองก็แอบดีใจที่ได้อยู่ใกล้มันผมจึงต้องยอมให้มันกอดอย่างนั้นจนมันหลับสนิทผมเองก็เผลอหลับไปในอ้อมกอดนั้น นั่นเองนี่ผมเริ่มเบี่ยงเบนแล้วใช่มั้ย?????

                       มารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว ผมขยับตัวนิดนึงเพื่อบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ เพราะมันกอดไว้ทั้งคืน “ตื่นแล้วเหรอ พี่ หลับสบายมั้ย” ดูมันทักผม “อืม ก็ดีนิ” ยังมันยังจะถามต่อ “จะลุกแล้วเหรอ ผมนอนดูพี่หลับตั้งนานแล้ว ไม่กล้าขยับกลัวพี่ตื่น ขอบคุณนะครับที่ไม่ทิ้งผม” ผมได้แต่อมยิ้มพยักหน้ากลบเกลื่อนไอ้ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ผมรีบลุกขึ้นยืนสะบัดแขนขาเบาๆเลี่ยงเข้าห้องเพื่อทำธุระส่วนตัว แล้วนึกทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เฮ้อ!! ผมสับสนใช่มั้ย?? ผมไม่ใช่? ไม่ใช่มั้ย??? เอ? ผมจะตอบตัวเองยังไงดี แต่ไอ้อารมณ์เมื่อคืนผมไม่รู้สึกโกรธ เกลียด หรือโมโหไอ้นพมันเลยนะ กลับรู้สึกมีความสุขดีเสียอีก ปัง ปัง ปัง เสียงเคาะประตูดังขึ้นจนผมสะดุ้ง “พี่ๆ อาบน้ำเสร็จยัง ผมจะอ๊วก” ผมรีบคว้าผ้าเช็ดตัวทันที “เออๆ แป๊บ” ผมเปิดประตูหน้าตาตื่นออกมา “อะไรของแกว่ะ” นพหน้าเซียวๆ “สงสัยจะแฮงค์มั้งพี่ พี่ก็รู้ผมกินเหล้าไม่เก่งเหมือนพี่นี่ ปวดหัวด้วย” เออ ใช่ๆ นพคออ่อนแล้วเมื่อคืนซัดแทบหมดขวด เฮ้อ!!! เด็กหนอเด็ก พลันเสียงอาเจียนดังลั่นห้องน้ำทีเดียว ด้วยความเป็นห่วงผมรีบถลันเข้าห้องน้ำไปทันที เจ้ากรรมดันเหยียบชายผ้าเช็ดตัว “เฮ้ย!!” ผมพูดได้แค่นั้นหัวก็คะมำเข้าไปในห้องน้ำ นพตกใจหน้าเหรอหรา “เฮ้ย!! พี่ระวังหัว” นพพุ่งตัวรับผมไว้ในอ้อมกอดอีกรอบ เลยกลายเป็นผมกับนพนอนจ้องตากันเป็นครู่ใหญ่ จนผมรู้สึกตัวรีบขยับผ้าเช็ดตัวให้เข้าทีแล้วทำทีถามอาการนพ “เอิ่ม ขอบใจ เป็นไงมั่งว่ะ ม่ะเดี๋ยวพี่ลูบหลังให้” นพยิ้ม “ค่อยยังชั่วแล้วพี่” ผมยังเขินไม่หาย “อืม งั้นพี่ชงกาแฟให้นะ แก้แฮงค์” นพตอบไล่หลัง “ระวังผ้าหลุดอีกนะพี่ ผมเป็นห่วง” ดูมันหยอดผมซิ นี่ผมชักจะหวั่นไหวไปกับมันแล้วนะ “ขอบใจว่ะ” ผมรีบเข้าห้องแต่งตัวให้เรียบร้อย แต่ไม่วายหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ติดมือมาด้วย “อ่ะ อาบน้ำอาบท่าซิ จะได้สบายตัวขึ้น พักได้ตามสบายเลยนะ จะกี่วันก็ตามสบาย” นพมองหน้า “ขอบคุณครับพี่ ขอบคุณจริงๆ” ผมมองหน้านพแล้วถอนหายใจ แต่ลึกๆ รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แกไม่ต้องขอบคุณฉันเลยนะ เพราะฉันรู้สึกดีที่มีแกอยู่ใกล้ขอเวลาค้นพบตัวตนก่อนนะ ตอนนี้บอกตามตรงฉันสับสนว่ะ แต่ก็ขอร้องล่ะนะ อย่ามาทำให้ฉันรู้สึกสับสนมากไปกว่านี้เลย

    “พี่ปั้น เอิ่ม ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อย พี่ว่างมั้ยครับ” ผมละมือจากที่กำลังทำความสะอาดกล้อง “ว่ามาดิ ” นพนิ่งไปพักก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า “ผมจะปรึกษาพี่ว่า ผมเพิ่งรู้ตัวว่าชอบผู้ชายคนนึงแต่ผมกลัวว่า เขาจะไม่เข้าใจแล้ว เอ่อ.....ไม่คุยกับผมอ่ะพี่” ผมนิ่งฟังต่อ “แล้วแกบอกกับเขาหรือยังล่ะ” นพทำหน้าครุ่นคิดนิดนึง “ยังอ่ะ พี่ ผมปรึกษาพี่ก่อนเผื่อพี่จะมีคำแนะนำดีๆ ไง” ผมทำหน้านิ่งเหมือนคิด “พี่เองก็ไม่รู้หรอกว่า ความคิดของพี่มันจะถูกต้องมั้ย แต่สิ่งหนึ่งที่แนะแกได้คือ ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามเสมอไม่ว่าจะเป็นความรักเพศไหนก็ตาม” นพอมยิ้มทันที “จริงดิพี่ พี่คิดแบบนั้นจริงรึ” ผมหันมองหน้าเพราะน้ำเสียงที่ตื่นเต้นของนพ “อะไรของแก ไอ้บ๊อง” นพยิ้มกริ่มลุกมานั่งใกล้ๆ ทันที “พี่ไม่อคติแล้วแหงะ” ผมมองหน้ามันที่ลอยหน้าลอยตายียวน “เดี๋ยวต่อยตาแตกเลย สงสัยจะยังไม่สร่างใช่มั้ย” นพหัวเราะร่วน “แน่ะๆๆ มีพิรุธนะเนี่ย” ผมเลยผลักมันออกไปนั่งห่างๆ “ไปนั่งไกลๆ ป่ะ มีที่เป็นไร่จะมานั่งเบียดทำไมห๊ะ!!!” นพอมยิ้มเบียดเข้ามาอีก “ไอ้นพ พี่จะทำงาน เมิงเข้าใจนะ” ผมทำเสียงสูงใส่เป็นเชิงไล่ “คร้าบบบบบบบบ เข้าใจ

    คร้าบบบบบ แต่อยากนั่งใกล้ๆอ่ะ” ผมเลยยกเท้าเตรียมยัน “โอ๊ะๆๆ เล่นเท้าเลยรึพี่ อ่ะ ผมให้” พูดจบนพก็ส่งกรรไกรมาให้ผมด้ามนึง “เอามาให้ทำไมว่ะ ไอ้นี่ กวน.......” นพหัวเราะชอบใจ “จะได้ไม่ห่างกันไกลไงพี่ โห่ ไม่รับมุกเลยพี่เนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆ” ไอ้บ้านี่สรุปที่มันทำไปเนี่ยเพราะมันเหงาใช่หรือไม่นะ จริงๆ แล้วมันอกหักใช่ป่ะ หรืออกหักจนเพี้ยนไปแล้วว่ะ

                       “พี่ปั้นๆ ว่างมั้ยไปซื้อของกับผมหน่อยดิ”เอาอีกแหระมันนี่ ช่างวุ่นวายกับผมจริงๆ เลย “ว่าง แต่ไม่นานนะ” มันยิ้มแฉ่งมาเลยทีเดียว “ไม่นานหรอกพี่ ครึ่งชั่วโมงก็พอ” ผมชักนึกสงสัยได้ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก “จะไปไหนล่ะ” นพตอบมาว่า “ผมจะชวนพี่ดูของขวัญซักหน่อย ผมเลือกของไม่เก่ง พี่อาร์ตดีน่าจะเลือกของอาร์ตๆ ได้ดี เลยชวนไปเป็นเพื่อนหน่อยนะๆๆ” ผมพยักหน้ากับความช่างเจรจาของมัน “เออ รอแป๊บนะ พี่เคลียร์งานแป๊บนึง อ่ะ เรียบร้อยแหระ” พอขึ้นรถมามันก็ไม่พูดกับผมสักคำ ทั้งๆ ที่มันเป็นคนช่างเจรจากับนั่งเงียบเอาแต่นั่งจิ้มไอโฟนตลอดทางก่อนถึงห้างที่ไม่ไกลจากตัวบ้านพักมากนัก แต่ผมก็เฉยๆ ไม่พูดก็ไม่พูดจนผมหาที่จอดรถได้ มันก็เดินนำหน้าผมไปยังร้านขายเสื้อแบบที่ผมชอบทันที คราวนี้มันพูดกับผมได้นะ “ผมเห็นพี่ชอบใส่เสื้อแบบนี้เหมือนกับคนที่ผมจะซื้อของขวัญให้ เลยอยากให้พี่ช่วยเลือกให้หน่อย ผมเลือกไม่เป็นอ่ะ นะๆๆ” ดูมันเกาะแขนผมกระตุกเหมือเด็กอยากได้ของเล่นที่ถูกใจก็ไม่ปาน ซึ่งผมเองรู้สึกอึดอัดไอ้ที่เคยพูดกับผมว่าชอบผู้ชายคงเป็นคนนั้นมั้ง คงอยากซื้อให้กัน ผมรู้สึกเจ็บแปลบๆ ไม่อยากจะเลือกขึ้นมาทันที “ทำไมต้องเป็นพี่ด้วยว่ะ”  นพไม่พูดแต่ดันหลังผมเข้าร้านทันที “น่า ช่วยผมหน่อยเอาที่พี่คิดว่าสวยนะ” ผมชักอึดอัด “ทำไมแกไม่เลือกเองล่ะ เขาจะได้ถูกใจ” นพยิ้มมีเลศนัย “เพราะพี่เป็นพี่ไง พี่เลยต้องช่วยผมนะๆๆ” ตกลงผมก็ต้องเลือกช่วยมันแต่กว่าจะได้จ่ายตังค์ มันถามอยู่นั่น สีนี้สวยแน่นะ ดูดีแน่นะ ผมชอบแน่นะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกะตูว่ะ ไอ้นี่

                       อีกสองวันจะถึงวันเกิดผมแต่ผมไม่เคยจัดงานวันเกิดสักครั้ง ปีนี้ก็คงไม่ต่างกับทุกๆ ปีที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจหรือรู้เรื่องวันเกิดของผมสักเท่าไร ผมนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง อย่างทอดอารมณ์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ เพื่อให้ผ่อนคลายผมไม่รู้ว่าเผลองีบไปตอนไหนเพราะต้องการแค่พักผ่อนสายตา มาสะดุ้งเพราะมือใครบางคนที่นวดขมับไล่เรื่อยไปถึงไหล่ ผมปรือตาขึ้นมอง “อ้าว!!!นพ มาตั้งแต่เมื่อไร” แล้วค่อยๆ ชันกายลุกขึ้น “นอนต่อเถอะพี่ ผมนวดไม่ดีรึ” ผมเลยนอนลงไปใหม่ “ก็ดีนะ” ไม่อยากจะพูดอะไรที่มันมากความ “พี่ไม่สบายหรา ปกติไม่เคยเห็นนอนกลางวัน” ผมลืมตาแหงนหน้ามา สบตากับนพแบบจังๆ นัยน์ตาใสเป็นประกายน่าค้นหาจ้องไม่กระพริบเพราะมันยืนบนหัวผมพอดี แถมโน้มหน้าลงมาใกล้ๆ อีก “เปล่าๆ แค่รู้สึกเหนื่อยๆ เลยอยากพักสายตา” ไม่พูดเปล่านพยังคงนวดไปเรื่อย จนผมรู้สึกแปลกๆ กับการนวดของมัน “นพๆ พี่ว่าแกหยุดนวดเหอะ พี่จั๊กจี้ว่ะ” นพหัวเราะเบาๆ ตามเคย “ทำไมพี่กลัวเคลิ้มหราพี่” ผมงี้รีบลุกเลย “ไอ้เด็กเปรต เอ็งนี้วอนโดนเตะนะ” คราวนี้ไอ้นพหัวเราะปากกว้างทีเดียว แหม!! ไอ้นี่กวนใจจริง “ผมเห็นพี่ เป็นแบบผมก็สบายใจ ฮ่าๆๆๆ” เออ!! ดูมันทำ เป็นซะแบบนี้ซิ แต่ผมก็ไม่เคยโกรธมันลงซักทีแล้วผมก็ต้องตกใจอีกรอบเมื่อจู่ๆ มันก็เข้ามากอดผมจากด้านหลังหน้าของนพแนบที่หลังของผม บอกตามตรงตอนนี้ใจผมเต้นแรงมากได้แต่คิดไปว่า “มึงจะมาไม้ไหนอีกว่ะ” แต่นพไม่ได้ทำอะไรที่มากไปกว่านั้นแต่พูดกับผมเบาๆ ว่า “ขอบคุณนะ ที่ดูแลผมมาตลอด” ผมยังคงยืนนิ่งๆ รู้สึกอบอุ่นลึกๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก “พี่ครับ ผมขอกอดพี่แบบนี้นานๆ ได้ไหม” ผมยังไม่ทันตอบอะไรนพก็พูดต่อไปอีกว่า “พี่ไม่ต้องตอบผมก็ได้ เพราะคำตอบผมรู้อยู่แล้ว” คราวนี้ผมเองที่เขินจนต้องแกะมือมันออกจากตัว “อะไร คำตอบอะไรของแก พูดมา” นพยิ้มบางๆ แล้วขยับเข้ามาใกล้ๆ แนบริมฝีปากกระซิบที่ริมหู “พี่รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว ผมไม่ต้องพูดหรอกจริงมั้ย” ผมเบี่ยงตัวหลบ “บ้าล่ะ ไอ้นี่” นพหัวเราะเบาๆ “พี่อย่าหลอกตัวเอง เลยน่า” ใช่ผมกำลังสับสนแต่ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจในสิ่งที่ใจของผมเอง แต่วันนี้ตอนนี้ผมกลับหวั่นไหวกับไอ้เด็กนี่เหลือเกินและตัวมันเองก็ดูผมออกเสียด้วย บ้า!! จริง ความลับ...ที่ผมปกปิดมาตั้งนาน ความลับ...ที่ไม่เคยเปิดเผยกับใคร มาแพ้ทางให้ไอ้เด็กคนนี้นี่เอง

                       วันนี้ผมกลับมาที่ห้องประมาณ สองทุ่มปรากฏว่าทั้งห้องเงียบเชียบ ไฟไม่เปิดซักดวง นพไปไหนนะเท่าที่จำได้ เมื่อบ่ายมันเป็นคนโทนัดให้ผมกลับมาไม่เกิน สองทุ่มนี่น่าผมยกข้อมือขึ้นมาดูนี่ก็ไม่เกินเวลานี่น่า ทำไมห้องเงียบเล่นอะไรของมันอีกผมจึงตัดสินใจไขประตูเข้าไปทันที แต่สิ่งที่ผมสะดุ้งคือ เงาตะคุ่มๆ ที่โต๊ะอาหาร ผมรีบเปิดไฟทันที โอ้!!!! ให้ตายซิ เค้กปอนด์ใหญ่ตั้งบนโต๊ะ ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม เหมือนรอใครให้มาจุดเทียน “นพๆ แกอยู่ไหน ไอ้บ๊อง”นพเข้ามาด้านหลังอีกแล้ว “ผมอยู่นี่ สุขสันต์วันเกิดครับพี่” พูดพลางเข้าไปจุดเทียนที่เค้กพร้อมส่งให้ผม “อธิฐานซิพี่” ผมมองหน้ามันพลางเอานิ้วจิ้มที่อกตัวเอง “พี่นั่นแหระ อธิฐานเลย” ผมรีบทำตามที่มันบอกอธิฐานเสร็จก็เป่าเค้กทันที “อ่ะ พี่ของขวัญ เปิดเลยนะ ผมอยากรู้ว่าพี่ชอบมั้ย” ผมเลยต้องทำตามที่มันบอกทุกคำ “เฮ้ย!! นี่มันเสื้อที่พี่เลือกนี่หว่า ไหนแกบอกว่าจะเอาไปให้....” นพยื่นหน้ามาใกล้ๆ “ก็พี่นี่ไง คนๆ นั้น...” ผมยิ้มโล่งอก “รู้งี้เลือกตัวแพงๆ สวยๆ กว่านี้ก็ดีแหระ แกนี่มันแสบจริง” นพยิ้มล้อเลียน “แสบแล้วพี่รักมั้ยล่ะ” ผมขยี้หัวมันเบาๆ แทนคำตอบ “ไม่เอาขยี้หัวดิ หมดหล่อกันพอดี ขอรางวัลเป็น.........หอมแก้มทีนึงได้ป่ะ” ดูมันทะเล้นไม่สร่างแต่ผมก็ยื่นหน้าที่มีเคราเล็กๆ ไปให้มันนะ “แค่เนี่ย ฟอร์มอยู่ได้ ม่ะๆ ผมตัดเค้กให้นะ” นพทำโน่น ทำนี่  ให้ผมอย่างมีความสุขคืนนี้เรานั่งกินเค้ก จิบเบียร์ ชมจันทร์นพนอนหนุนตักผมปากก็พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดปากแต่ผมก็ชอบนะ จนเคลิ้มหลับไปผมนั่งมองหน้าที่หลับสนิทของมันเพลินจนมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่หน้ามันกับหน้าผมชนกันไปแล้ว วันเกิดปีนี้ผมมีความสุขที่สุดไม่ต้องฉลองกับใครให้มากเรื่องแต่ได้ฉลองกับคนที่เข้าใจเราที่สุดก็พอแล้ว และความลับนี้ก็จะเป็นความลับตลอดไป.......เพราะจะมีเพียงผมกับนพเท่านั้นที่เราเข้าใจกัน.....แค่นั้นพอ.... 

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×