ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #57 : ชะตากรรมมณีนพรัตนานคร

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 280
      0
      24 เม.ย. 51

                    ใต้พิภพ แหวนเพชรของวชิรารัตน์นั้น ลอยอยู่ ดูวิจิตรพิสดารมากขึ้นกว่าเดิม ดูแวววาวระยับจับตาเป็นหนักหนาแตกต่างไปจากแหวนวงเดิมจนเปรียบกันมิได้ วชิรารัตน์จ้องมองแหวนนั้นอย่างพอใจนางยิ้มออกมา ส่วนเจ้าศิลาแลงถือคทาที่งดงามเกินพรรณนาเช่นกัน นี่คือคทาวิศิษฏ์เวท มันจะเป็นอาวุธคู่กับแหวนของเจ้า วชิรารัตน์... เจ้าจงรับไปซะ แล้วไปทำลายมณีนพรัตนาให้พินาศ เร็วเถิดหลานข้า ครานี้จงแผดเผานครให้ราบคาบ อย่าให้มันกลับมาฟื้นฟูกันได้อีก ศิลาแลงพูด วชิรารัตน์พยักหน้าพลางรับคทามา วชิรารัตน์เรียกแหวนเพชรที่ลอยอยู่นั้นมาสู่มือ นางสวมแหวนวงนั้นแล้วก็พิศมองแหวนและคทาก่อนยิ้มอย่างพอใจนัก

                    ที่ในป่าหิมพานต์ อะไรนะ... งั้นก็หมายความว่า วชิรารัตน์ ได้ของทั้งสามสิ่งไปหมดแล้วนาสิ เทวอสุพูด กิ่งโกมินทร์ที่ยืนข้างๆเทวอสุหันมามองตาเทวอสุด้วยสีหน้ากังวลใจ ศิรสิทธิ์ และ ศดิศรันย์ก้มหน้า เราขอโทษ เราขอโทษจริงๆ แต่ก็ยังน่าคาใจอยู่ เรื่องวิศิษฏ์บุษบา แปลกใจว่าทำไมวชิรารัตน์ต้องให้ศิรสิทธิ์เด็ดมาให้ ทั้งๆที่นางจะไปเด็ดเองก็ง่ายกว่าตั้งเยอะ รดามณีพูด วิศิษฏ์บุษบาหนะ มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่จะเด็ดได้ เทวอสุว่า ข้าพระองค์เสียใจ ที่หลงกลของพระขนิษฐาวชิรารัตน์ ศิรสิทธิ์พูด ไม่เป็นไรหรอกศิรสิทธิ์ เราฟังดูแล้ว เราดีใจ ที่เจ้าอาจช่วยนางได้ เช่นที่ปักษยุ ช่วยมรกต เช่นที่สมุทรักษ์ ช่วยพิมพ์เพทาย จันทรัตน์พูด ศิรสิทธิ์ก้มหน้านิ่ง เอาหละ อย่างนี้วชิรารัตน์ต้องไม่ปล่อยพวกเราไว้แน่ๆ ตอนนี้ที่นาห่วงที่สุดก็คือมณีนพรัตนา พวกเราควรจะรีบกลับ นพคุณว่า

                                    มณีนพรัตนานครแก้ว                                        วับวาวแววเวียงวังวิศิษฏ์ศรี

                    ในพระราชมนเทียรประดับมณี                                        ต้องรวีวามวับระยับตา

                                    ศานต์สงบอยู่อยู่มาทุกข์ร้อน                            ฝูงภมรที่เคยวะว่อนชมบุปผา

                    สุมามาลย์ในอุทยานสราญตา                                        วารนี้ฟ้ามืดหม่นลงทันใด

                                    ผกามาศอุทยานถูกแผดเผา                              ถูกรุมเร้าด้วยพลังไม่อ่อนไหว

                    มณีรัตน์นพเก้าทลายไป                                                    ให้มอดไหม้เกือบทั่วทั้งวังเวียง

                    พระตำหนักพระมเหสีไอศิกา ไอศิกามองออกไปทางหน้าต่างด้วยสีหน้ากังวลใจ เกิดอะไรขึ้นข้างนอกกันนะ... หรือว่า... ไอศิกาพูดแล้วก็รีบรุดไปสู่พระตำหนักของพระมารดาพลัน

                    ตำหนักของวิหงค์จันทร์ ไอศิการีบเข้าไปหาพระมารดา เสด็จแม่... รีบเสด็จหนีเถอะเพคะ เราอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ไอศิกาพูด ไอศิกา... แม่กำลังแปลกใจ ว่าอยู่ๆ มณีนพรัตนาที่แสนสงบ เกิดลุกเป็นไฟเฉกนี้ได้อย่างไร ไอศิกา... ลูกรู้ไหมลูก วิหงค์จันทร์พูด ไม่ทราบหรอกเพคะ เจ้าพี่นพคุณก็ยังไม่กลับมา... เสด็จแม่ เรารีบไปกันเถอะเพคะ ไอศิกาพูด แล้วประคองพระมารดา เดี๋ยวลูก ไอศิกา... พระนางสร้อยสายเพชรหละลูก วิหงค์จันทร์พูด ไอศิกาถอนใจ อยู่กับองค์รติวุฒิ ลูกว่าปลอดภัยเพคะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลูกจะพาเสด็จแม่ไปหาองค์รติวุฒิ ให้พระองค์พาเสด็จแม่ไปด้วย ส่วนลูก จะป้องกันบ้านเมืองของเจ้าพี่ให้ถึงที่สุด ไอศิกาพูด ไม่ได้นะไอศิกา แม่ทิ้งลูกไม่ได้ วิหงค์จันทร์พูด ไม่เป็นไรนะเพคะ ลูกจะพาไปที่ตำหนักพระนางสร้อยสายเพชร ไอศิกาพูด

                    ที่ตำหนักของสร้อยสายเพชร เร็วเถิดสร้อยสายเพชร ไปอสุรเวหานครกับพี่ รติวุฒิพูด ไม่เพคะ หม่อมฉันเป็นห่วงลูก ไม่รู้ว่าคนที่มาทลายล้างมณีนพรัตนาวันนี้เป็นผู้ใด อาจจะเป็นลูกของเราก็ได้นะเพคะ พระองค์อย่าให้หม่อมฉันไปเลย หม่อมฉันจะอยู่ห้ามลูก สร้อยสายเพชรพูด วชิรารัตน์ต้องคำสาป วชิรารัตน์ไม่เชื่อใครทั้งนั้นหรอกนะสร้อยสายเพชร แม้แต่พ่อ กับ แม่ เจ้าก็รู้ เจ้าก็เห็นตอนที่ลูกถูกคำสาปนั่น เจ้าศิลาแลง มันเลือกลูกของเรา มันเป็นกรรม เจ้าต้องหักห้ามใจไว้บ้าง เชื่อเช่นพี่สิ ทุกคน ไม่มีทางปล่อยให้ลูกเป็นเช่นนี้ ทุกคนจะต้องช่วยกัน ทุกคนจะต้องช่วยลูกของเรานะสร้อยสายเพชร องค์รติวุฒิพูด สร้อยสายเพชรสะอึกสะอื้น ทำไมต้องเป็นลูกของเราด้วยเพคะ วชิรารัตน์คนนี้ ปานดวงใจของหม่อมฉัน หม่อมฉันรักหนักหนา พระองค์ก็รู้ วชิรารัตน์น่าเป็นห่วงมาก นิสัยใจคอก็มิได้เหมือนผู้อื่น ถ้าจะเอาอะไร จะเอาให้ได้ แล้วแบบนี้ บ้านเมืองของหม่อมฉัน ลูกของหม่อมฉัน ต้องเป็นปรปักษ์ต่อกันงั้นเหรอเพคะ หม่อมฉันคงขาดใจตาย สร้อยสายเพชรพูด น่าเสียดายที่เจ้าไม่เคยแสดงให้ลูกได้เห็นเลย ว่าลูกคือหัวใจของเจ้า รติวุฒิพูด ไอศิกาพาพระมารดามาถึงที่นั่น ก็ยกมือไหว้องค์รติวุฒิ เสด็จลุง... หม่อมฉันขอฝากเสด็จแม่วิหงค์จันทร์ให้หนีไปด้วยนะเพคะ หม่อมฉันจะอยู่ที่นี่ เพื่อป้องการมณีนพรัตนาเอง ไอศิกาพูด แน่ใจหรือไอศิกา อันตรายมากมายนัก องค์รติวุฒิรับสั่ง เลือดครึ่งหนึ่งของหม่อมฉันเป็นเทพ หม่อมฉันน่าจะพอต่อต้านอำนาจชั่วร้ายได้บ้างเพคะ อย่างน้อยก็อาจยื้อเวลาจนกว่าเจ้าพี่นพคุณจะกลับมาถึง ไอศิกาพูด ไอศิกา... จะให้แม่ทิ้งลูกไปได้ยังไง แม่ห่วงเจ้านักนะไอศิกา วิหงค์จันทร์พูด ทั้งชีวิต ลูกมิได้สนองคุณเสด็จแม่ ครานี้จะให้เสด็จแม่ต้องมาเสี่ยงภยันตรายด้วยลูกนั้น เห็นทีจะยอมไม่ได้ เสด็จเถอะนะเพคะ ลูกสัญญาว่าจะระวังตัวให้มากๆ จะเอาชีวิตรอดกลับมากราบเสด็จแม่ให้ได้ ไอศิกาพูด สร้อยสายเพชร เจ้าหละตัดสินใจว่ายังไง รติวุฒิว่า หม่อมฉันเป็นห่วงวชิรารัตน์ สร้อยสายเพชรพูด ไปกับพี่นะ เพื่อความปลอดภัยของเจ้า รติวุฒิพูดพลางพาวิหงค์จันทร์ และ สร้อยสายเพชรไปจากที่นั่น ไอศิกามองตามไปด้วยสายตาที่อดห่วงไม่ได้ ว่าแล้วก็รีบใช้พลังเปลี่ยนฉลองพระองค์แบบนางกินรีที่คล่องตัวก่อนจะวิ่งออกไป

                    ส่วนวชิรารัตน์สวมแหวนเพชรัตน์วิจิตรพิสดารงดงามหนักหนา และ ควงคทาทลายล้างทุกสิ่งที่กรายมาขวางหน้า ไอศิกาวิ่งออกมา คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเจ้า ไอศิกาพูด ไอศิกา... ยอดดวงใจนพคุณ... ดี... เราจะได้ทำลายดวงใจของมันให้แหลกลาญ ก่อนที่จะฆ่ามันให้ตายตามไป วชิรารัตน์พูดพลางใช้พลังของคทาวิศิษฏ์เวทนั่น ไอศิกาก้มหลบพลังนั้น แล้วบินขึ้นฟ้าไป วชิรารัตน์มองตาม พลางกระโดดขึ้นตามไป

                    นพคุณ และ ทุกคนกำลังเหาะกลับมาจากป่าหิมพานต์ จึงกระโดดลงที่ผืนป่า รติวุฒิซึ่งกำลังพาสร้อยสายเพชร กับ วิหงค์จันทร์หนีอยู่มาพบกันที่นั่นพอดี เสด็จแม่ นพคุณเรียกพลางวิ่งเข้าไปสู่อ้อมกอดของนางวิหงค์จันทร์ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นมารดาบุญธรรมอันกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมาแต่เป็นทารก เสด็จพ่อ เสด็จแม่ รดามณีวิ่งมากราบ รติวุฒิกอดพระธิดาพระองค์แรกไว้ด้วยความยินดี เสด็จแม่เพคะ จันทรัตน์เข้ามาสู่อ้อมกอดของสร้อยสายเพชร พระขนิษฐาวชิรารัตน์หละพระเจ้าข้า ศิรสิทธิ์ถามขึ้น สร้อยสายเพชรก้มหน้า ตอนนี้เกิดเรื่องที่มณีนพรัตนา สงสัยคงเป็นลูกวชิรารัตน์ที่เข้าโจมตี พ่อจึงต้องพากันหนีไป ตอนนี้กำลังจะไปที่อสุรเวหานคร พ่อคิดว่าน่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัย รติวุฒิพูด เสด็จแม่วิหงค์จันทร์ ไอศิกาหละพระเจ้าข้า นพคุณพูด จริงด้วยพระเจ้าข้าเสด็จน้า น้องไอศิกาหละ ปักษยุถามขึ้น ไอศิกาอาสาอยู่ป้องกนมณีนพรัตนาแทนเจ้านั่นแหละลูก นพคุณ วิหงค์จันทร์พูด ไอศิกา ทั้งนพคุณ และ ปักษยุเรียกขึ้นพร้อมกันอย่างเป็นห่วงในพลันทันทีก็พรวดลุกขึ้นกระโดดเหาะไป ปักษยุก็แปลงร่างเป็นพญาครุฑบินตามไปติดๆ มรกตเห็นปักษยุไปก็เรียกขึ้นอย่างเป็นห่วง ปักษยุ... มรกตเรียกพลางเหาะตามไปด้วย มณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์เห็นก็จะตามไปด้วย คิมหันต์รีบเข้ารั้งตัวมณีกาฬไว้ เช่นเดียวกับสิทธิราชที่เข้ารั้งตัวแก้งไพฑูรย์ไว้พลัน โอ๊ย ปล่อยเรานะ มณีกาฬพูด พวกเจ้าอย่าตามไปยุ่งเลย มากคน ก็ยิ่งมากความ คิมหันต์พูด แต่ถ้าน้อยคน ก็สู้วชิรารัตน์ไม่ได้อยู่ดี แก้วไพฑูรย์พูด ละพยศบ้างได้ไหมแก้วไพฑูรย์ หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้อวดเก่งไม่เข้าเรื่อง ผลีผลามไปได้ สิทธิราชพูด พี่เห็นด้วยกับคิมหันต์ แล้วก็สิทธิราชนะ ตอนนี้พวกที่ไปก็แค่ไปช่วยไอศิกาเท่านั้น มิได้หมายใจไปรบกับวชิรารัตน์โดยตรง เพราะพวกเรายังไม่ได้วางแผนกันเลย ขืนสุ่มสี่สุ่มห้าก็พากันไปตายเสียเปล่าๆ กิ่งโกมินทร์พูด แล้วคัมภีร์ของเราหละ เราจะได้คืนไหมเนี่ย ตอนนี้อยู่ที่ใครกัน เทวอสุพูด อย่าพึ่งพูดถึงคัมภีร์ได้ไหม มันยังสำคัญไม่เท่า ตอนนี้เราทุกคนต้องช่วยกันหยุดยั้งวชิรารัตน์ แล้วเดี๋ยวเจ้า ก็ได้คัมภีร์คืนเองหละน่า หวงของไปได้ กิ่งโกมินทร์พูด ก็หวงสิ อะไรที่เป็นของเราเราหวงหมดทุกอย่างนั่นแหละ แม้นเป็นคน หากแต่เป็นของเราแล้ว เราก็หวงเหมือนกัน เทวอสุพูด ไม่ใช่เวลาพูดแบบนี้นะ กิ่งโกมินทร์พูด เอาเถอะ ตอนนี้พ่อว่าเราไปตั้งหลักกันที่บ้านเมืองของพ่อดีกว่า อย่างน้อยอสุรเวหาก็เป็นเมืองยักษ์ เรามีไพร่พลที่เป็นยักษ์มากมาย น่าจะพอนำมาต่อกรได้บ้าง รติวุฒิพูด ทุกคนต่างพยักหน้าแล้วกำลังจะพากันไป แต่พลันแผ่นดินเกิดสนั่นสะเทือนขึ้นมา เจ้าศิลาแลงผุดขึ้นมาจากใต้ธรณี ทุกคนต่างถอยออกห่างจากมัน เจ้าศิลาแลงใช้พลังในรูปแบบของก้อนดินใส่ทุกคนจนล้มระเนระนาดไปเสียหมด องค์รติวุฒิยืนขึ้นหมายต่อกร ตัวข้านี้สายเลือดสืบจากท่าน อยากขอความเมตตาให้ท่านยุติทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทางมณีนพรัตนาจะจัดพิธีบวงสรวงแก่ท่านเป็นประเพณีสืบไป รติวุฒิพูด ไม่สำเร็จหรอก แม้นเจ้าจะสืบเชื้อสืบเครือมาจากข้า ทว่าเมียเจ้าเป็นสายเลือดมณีนพรัตนาโดยตรง ข้ารู้ว่าคนอย่างเจ้ารักลูกรักเมียแค่ไหน เจ้าไม่มีทางยอมให้มณีนพรัตนาเป็นอะไรไป แต่ตอนนี้ลูกของเจ้า เป็นคนของข้า นางเป็นหลานรักของข้า ไม่เหมือนเจ้ารดามณีนั้น มันเป็นศัตรูต่อข้า เจ้าศิลาแลงว่า เรารดามณีรู้จักหน้าที่ของเทพสงคราม เราไม่เคยหวั่นเกรงการต่อสู้ ทว่าจะช่วยให้มณีนพรัตนาหลุดพ้นจากคำสาป ช่วยกำจัดมารร้ายเช่นเจ้าไปจากโลกานี้ได้ หน้าที่ก็ส่วนหน้า สายเลือด ก็อีกส่วน เลือดมณีนพรัตนา และ เลือดอสุรเวหาเรามีอยู่ในตัวเท่ากัน แต่เลือดเทพ... มีมากกว่าเลือดมาร รดามณีพูด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×