ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #64 : ทองเนื้อเก้า เพชรน้ำดี มณีแดง เขียวใสแสงมรกต เหลืองใสสดบุษราคัม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 815
      1
      24 เม.ย. 51

    คือพลอยแหวนแสนงามนามเลื่องชื่อ             ที่เล่าลือบุษราคัมล้ำคุณค่า

    เหลืองใสสดสีขมิ้นหนึ่งทองทา                                       กรุณาเมตตาคือเทพี

                    ผู้ครอบครองอ่อนหวานหนึ่งนางแก้ว             ที่ผ่องแผ้วใจกายสะอาดศรี

    รูปก็งามนามเพราะพริ้งปีตมณี                                         ดวงฤดีกรุณาต่อทุกคน

                    ศักรศรผู้ที่นางกุมใจไว้                                       ทั้งยิ่งใหญ่ใจแกร่งยิ่งฉงน

    ว่าเหตุใดจึงหลงรักดั่งมีมนต์                                             สะกดดลให้เรียกนางว่าดวงใจ

    ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบนาง ศักรศรยังคะนึงไม่ละลดว่าเขา คือผู้ที่โอบอุ้มนางไว้จนปลอดภัย เขายังจำได้ถึงเหตุการณ์วันนั้น นางเป็นนารีอ่อนโยน อ่อนหวานรวมไปทั้งเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา นางผู้นี้มิใช่ใคร นางคือปีตมณี ว่าที่พระมเหสีของศักรศรนั่นเอง ที่เศวตสรวง พอพิธีจะมีในวันพรุ่ง เจ้าดีใจหรือไม่ปีตมณี ศักรศรพูด เพคะ ปีตมณีตอบเพียงเท่านั้นแต่สีหน้าบ่งชัดซึ่งความรู้สึก เจ้ารู้ไหมแต่ก่อน ตอนที่เรายังเป็นเด็กเราเคยคิดว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นมเหสีของเรานั้นจะต้องเป็นผู้หญิงเก่ง เพียบพร้อม กล้าหาญ และ เด็ดเดี่ยว ศักรศรพูด ปีตมณีน่าเศร้าลงด้วยเพราะตนนั้นตรงกันข้าม แต่แปลกที่เรารู้สึกรักเจ้าตั้งแต่วันแรกเจอ... ไม่รู้อะไรดลใจให้เราเปลี่ยนความคิดนะเจ้ารู้ไหมปีตมณี ความอ่อนโยน ความอ่อนหวาน และความดีงามทั้งหมดที่อยู่ตรงนัยน์ตาของเจ้า กลับเป็นสิ่งที่ต้องใจเรายิ่งนัก เรารู้สึกว่าเราโชคดี ศักรศรพูด ปีตมณีหันมาสบตาศักรศรพลางยิ้มอย่างยินดี หม่อมฉันก็โชคดีเพคะที่ต่อไปจะได้มีพระองค์คอยดูแล ปีตมณียิ้ม

                    แก้วมณีสีเขียวแสงแสนวาววับ                         งามระยับจับตาน่าชวนฝัน

    มิ่งมณีมรกตศรีสุนันท์                                                         เทพเทวัญเทพธิดาหยั่งรู้ใจ

                    เอกธิดานาคราชครอบครองอยู่                         ว่าโฉมตรูผู้หยั่งรู้จิตอ่อนไหว

    ถึงแก้วแก่นเก่งกล้าสักเพียงใด                                         ก็หยั่งใจใครบางคนมิได้เลย

                    ปักษยุครุฑฑาปรปักษ์                                         ปักใจรักนางนาคีนางนี้เฉย

    ทั้งสู้รบประทะคารมก็เคย                                                  ความรักเอยจากเวหนสู่ธารา

    ครุฑ กับ นาค ความรักที่ไม่มีทางและไม่น่าจะเป็นไปได้เลย ที่ครุฑฑานครนั้น เรื่องระหว่างครุฑกับนาคเคยเกิดขึ้นที่นั่น ปักษยุ ตัดสินใจพามรกตมาเข้าเฝ้าพระบิดา ปักษยุ... เจ้าทำอะไรลงไป เจ้าคิดแบบนั้นได้ยังไง ครุฑกับนาค ไม่มีทางมาเกี่ยวดองกันได้ พ่อจะฆ่านังเด็กมรกตนั่นซะ เจ้าจะได้ตาสว่างซะที องค์วายุภักษ์เคืองพระทัยจัด ไม่ได้นะพระเจ้าข้า เสด็จพ่อ... งั้นก็ทรงลืมไปได้เลยว่ามีลูก ลูกไม่ใช่พญาครุฑอีกต่อไป ลูกจะไปกับมรกต ลูกรักนาง ปักษยุพูด ไม่จำเป็นหรอกปักษยุ ยังไงมันก็ไม่มีทางเป็นไปได้ มรกตว่าแล้วเดินหนีไป ปักษยุ ใช่ว่าพ่อจะไม่ยอมรับ แต่ถ้าเจ้าพิสูจน์ได้ว่าความรักไร้พรมแดน ความรักไม่เกี่ยวกับชาติพันธ์ พ่อจะยอมรับนางเป็นลูกสะใภ้ องค์วายุภักษ์รับสั่ง ปักษยุรีบตามมรกตไป มรกต... เรารักเจ้า เราจะไปกับเจ้าทุกที่ปักษยุวิ่งตามนางออกมา มรกตหันมาน้ำตานองหน้า ไม่ได้หรอกปักษยุ ยังไงก็ไม่ได้ นางพูดทั้งน้ำตา ปักษยุเข้ามากุมมือนางไว้ ได้เสมอ ถ้าเรารักกัน เสด็จพ่อรับสั่งว่าจะยอมรับเจ้า หากว่านี่คือรักแท้ ปักษยุพูด มรกตมองตาปักษยุน้ำตาไหล ทั้งสองกอดกันแน่นด้วยความรักนั้นไร้เขตกั้นแล้วไม่มีพรมแดนอย่างแท้จริง องค์วายุภักษ์แอบมองอย่างพอพระทัย

                    แก้วประพาฬยอดมณีที่เลิศลักษณ์                    งดงามนักนามทับทิมพิจิตรศรี

    คือพลอยแดงแห่งเทพปราบกลี                                        คือเทพที่หมายถึงซึ่งสงคราม

                    ผู้ครอบครองคือธิดารากษส                               ที่งามงดศรีสง่าจนต้องถาม

    ธิดาผู้แข็งแกร่งนี้รูปงาม                                                     อีกพระนามเพรียกกันว่ารดามณี

                    ศดิศรันย์องครักษ์ผู้เคียงข้าง                              อนงค์นางด้วยจิตใจไม่หน่ายหนี

    แอบหมายปองดอกฟ้ายอดนารี                                         หวังรอที่ดอกฟ้าร่วงสู่หัตถ์พลัน

    ศดิศรันย์ และ รดามณีเดินเล่นอยู่ในอุทยานด้วยกันนั้น รดามณีดูมีสีหน้ารื่นรมย์ไม่อมทุกข์ดั่งเช่นทุกคราที่มาเดินเล่น ข้าพระองค์ดีใจ... ศดิศรันย์ว่า ดีใจ... รดามณีพูดอย่างแปลกใจ พระเจ้าข้า พระขนิษฐาทรงแย้มพระโอษฐ์แล้ว เห็นพระขนิษฐามีความสุขข้าพระองค์ก็ดีใจ ศดิศรันย์พูด ศดิศรันย์ เจ้าไปอยู่ที่อสุรเวหาดีไหม รดามณีพูด ฐานะอะไรพระเจ้าข้า ศดิศรันย์พูด เราจะไปอยู่ที่นั่น เจ้าก็ต้องตามเราไปสิ พ่อยอดองครักษ์ ลืมหน้าที่แล้วหรือ รดามณีพูด ไม่ลืมพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ต่ำต้อย คงเป็นได้แค่องครักษ์ ศดิศรันย์พูด ไม่จริงนะ เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าทำความดีมาก เสด็จพ่อเราอาจให้รางวัลย์เจ้า รดามณีพูด จะมีรางวัลย์ใดมีค่าเท่ากับดวงใจพระขนิษฐาอีกเล่า ศดิศรันย์พูด แล้วถ้าได้ไปจะรักษาไว้ได้ไหม รดามณีว่า ได้สิพระเจ้าข้า ด้วยชีวิต ศดิศรันย์ว่า

                    มณีรัตน์อันทรงค่าที่กร้าวแข็ง                           พิสุทธิ์แสงวาววับระยับศิลป์

    คือหยาดเพชรน้ำเนืองเลื่องระบิล                                    แก้วพระอินทร์เทพเจ้ารัตนา

                    ผู้ครอบครองเป็นยักษาธิดาราช                        ประกายมาศราชนารีศรีสง่า

    วชิรารัตน์ภัทรอัปสรา                                                         ราชธิดาแข็งกร้าวกว่าใครใคร

                    ศิรสิทธิ์ผู้ซึ่งเคยหาญหัก                                     มองความรักด้วยนัยนาหาถูกไม่

    เห็นน้ำตานางนึกถึงน้ำพระทัย                                        เมื่อมองใจเกิดมั่นรักด้วยภักดี

    ที่อสุรเวหานคร ธิดายักษาเหม่อมองไปยังห้วงนภาแสนไกล ศิรสิทธิ์สวมกอดนางเอาไว้จากด้านหลัง ทรงนึกถึงสิ่งใดอยู่ บอกข้าพระองค์ได้หรือไม่ ศิรสิทธิ์พูด เรากำลังนึกถึงเรื่องราวของเรา ตั้งแต่เด็กๆ เราอยู่ที่นี่ วิ่งเล่นที่นี่ แล้ววันหนึ่งก็ต้องไปอยู่ที่มณีนพรัตนา ต้องไปอยู่ที่อารยะมณี ไปพบกับสิ่งมากมายที่ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น วชิรารัตน์พูด ข้าพระองค์ก็เช่นกัน จากคนมีตราบาป ก็รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ข้าพระองค์ขอโทษ ที่เคยมองความรักของพระธิดาผิดไป ขอโทษที่เห็นแต่ความแข็งกร้าวภายนอก จึงไม่มองให้ลึกไปถึงความดีข้างใน ข้าพระองค์ช่างขลาดเขลา กว่าจะรู้ ก็แทบจะเสียดวงใจไป ศิรสิทธิ์พูด ตอนแรกเราคิดว่าเราแค่อิจฉาจันทรัตน์ ไม่ได้รักเจ้าจริงๆ แต่ตอนนี้... อะไรรู้ไหมที่ทำให้เรามั่นใจ วชิรารัตน์พูดแล้วหันมาสบตาศิรสิทธิ์กุมมือนางไว้ พระธิดารู้หรือไม่อะไรที่ทำให้ข้าพระองค์รักพระธิดา ศิรสิทธิ์พูด หัวใจ ทั้งสองพูดพร้อมกัน คนที่แข็งกร้าว เบื้องลึกอาจเป็นคนที่มีน้ำใจงามนักก็ได้ เหมือนพระธิดาไงเล่า ศิรสิทธิ์พูด

                    กนกทองสุวรรณศรีพรรณราย                          ที่เนื้อกายพรายแสงแฝงเนื้อเก้า

                    นพรัตน์ล้ำค่าเกินคาดเดา                                                   ที่เนื้อเจ้าคือเนื้อทองอันผ่องพรรณ

                                    นพคุณบุญส่งลงมาสู่                                          ปราบศัตรูศิลาแลงอย่างแข็งขัน

    โอ้กรรมเก่าการก่อนย้อนมาพลัน                                     พบจอมขวัญไอศิกายอดนารี

                    กินรีแสนงามในดวงพักตร์                                ที่ประจักษ์ดั่งวงเดือนต้องใจนี้

    ทั้งงามสมชาติพันธุ์กินรี                                                     แก้วตาพี่ดวงใจเจ้าเทวินทร์

    ป่าหิมพานต์ นพคุณกับไอศิกามากราบองค์เหนือหัวปักษินราช และ มเหสีวินตา เบื้องบนสั่งมาให้พวกเจ้าครองเมืองนี้ต่อจากตา ตาจะไปบำเพ็ญเพียรตบะที่เขาไกรลาสกับยายเจ้า ขอให้พวกเจ้าจงอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขเถิด องค์เหนือหัวรับสั่ง หมายความว่าเรื่องทั้งหมด... เป็นคำสั่งเบื้องบนหรือพระเจ้าข้า นพคุณว่า ใช่ พวกเจ้าสิ้นกรรมแล้ว ตาก็หมดหน้าที่ สร้อยสายเพชรก็จะต้องไปกับตาด้วย อย่าห่วงเลย จากนี้พวกเจ้าจงใช้ชีวิตให้ความสุขเถิดนะ องค์เหนือหัวว่า

    นพคุณ และ ไอศิกาได้ครองเมืองเวียงทิฆัมพรสืบไป พี่พระตำหนักไอศิกา นางนั่งเหม่อมองไปด้วยสีหน้าเศร้าๆ นพคุณเข้ามา คิดถึงลูกอีกแล้วเหรอ นพคุณพูด เพคะ ไอศิกาพูด นพคุณถอนใจพลางโอบกอดนางไว้ อยู่ๆไอศิกาก็เกิดวิงเวียนขึ้นมา นางวิ่งไปที่หน้าพลันและก็อาเจียนหนัก นพคุณรีบเข้าไปช่วย ไอศิกา หรือว่าน้อง... นพคุณพูดอย่างดีใจพลางกอดไอศิกาไว้ ทุกอย่างจบลงแล้ว ด้วยดี ไอศิกา ภพนี้เราได้ครองรักกัน พี่สัญญาพี่จะรักเจ้ากับลูกเท่าชีวิตนพคุณว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×