ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #43 : เรื่องไม่จริงที่ถูกโจษจัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 235
      0
      20 เม.ย. 51

    พี่ได้ยินคนโจษกันว่าน้องกับศิรสิทธิ์เออ... ศิรสิทธิ์ทำร้ายน้องหรือ มรกตพูด อะไรนะ... ไม่จริง วชิรารัตน์รีบปฏิเสธ แล้วเรื่องมันเป็นยังไง ทำไมถึงมีข่าวลือแบบนี้ได้หละ แก้วไพฑูรย์พูด ไม่มีอะไรหรอกเพคะพระพี่นาง ไม่ต้องห่วงน้องหรอก ก็แค่เกือบไป ศิรสิทธิ์คงขาดสติ อย่าได้มีใครถือโทษเลย แล้วอีกอย่าง เค้าก็ให้เกียรติน้องมาก จึงหยุด วชิรารัตน์ว่าด้วยน้ำเสียงอ่อนๆไม่แข็งกร้าว แต่น้องก็ไม่กล้าสู้หน้าศิรสิทธิ์อีกเลยใช่ไหม มรกตว่า วชิรารัตน์ก้มหน้าน้ำตาคลอ มรกตโอบน้องสาวคนเล็กไว้อย่างปลอบโยน แต่เรื่องลือนั่นว่ากันว่าเจ้า... มณีกาฬพูดยังไม่ทันจบวชิรารัตน์ก็ทำตาร้ายใส่ ไม่ต้องพูด ได้ยินความจริงจากปากเราแล้วนี่นา เราจะไปจัดการนังคนปากไม่นิ่งที่มันแพร่เรื่องไป วชิรารัตน์ท่าทางเคืองใจไม่เบาเช่นกันจึงรีบรุดออกไป น้องวชิรารัตน์ มรกตเร่งตามไป มณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์หันมาสบตากันแล้วรีบตามไป

                    ที่พระตำหนักของจันทรัตน์ จันทรัตน์นั่งคุยอยู่กับรดามณี วชิรารัตน์ก็พรวดเข้ามา กระชากแขนจันทรัตน์มาแล้วตบหน้าอย่างแรง นังตัวดี... เจ้าใช่ไหม ที่เอาเรื่องแบบนั้นไปโจษจันทั่วเมืองหนะ วชิรารัตน์ต่อว่าใหญ่ วชิรารัตน์หยุดเถอะ วชิรารัตน์อย่าทำร้ายกันเลย พวกเดียวกันนะ รดามณีพูด เราไม่นับญาติกับนังคนนี้ เจ้าอยากนับ ก็นับเองเถอะรดามณี จันทรัตน์เอาเรื่องเสียๆหายไปพูดทั่ววัง เราก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะทำยังไงถึงจะล้างอายได้ วชิรารัตน์พูดกระแทกหูใหญ่ วชิรารัตน์... อย่าโกรธเราเลยนะ เราแค่เอาเรื่องไปปรึกษากับศดิศรันย์ คงมีคนไปได้ยินเข้า จันทรัตน์ว่า ยังไงก็เป็นเพราะปากเข้าเจ้าอยู่ดี เจ้าสมควรตายที่สุด วชิรารัตน์โกรธมาจนเขี้ยวยักษ์งอก จะตรงดิ่งเข้าไปทำร้ายจันทรัตน์มรกตรีบเข้ามารั้งไว้ รดามณีชวยประคองจันทรัตน์ มณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์ตามเข้ามา แล้วก็มีทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามากราบทูล ขอเดชะ พระอาญามิพ้นเกล้า เพลานี้ศิรสิทธิ์ กับ ศดิศรันย์ต่อสู้กันใหญ่แล้วพระเจ้าข้า ทหารนั้นว่า รดามณีมีท่าทางตกใจอยู่พอตัว ส่วนวชิรารัตน์ที่เดือดพล่านอยู่แล้วยิ่งเดือดดาลข้าไปอีกหันมาจ้องจันทรัตน์ตาเขียว ที่สองคนนั่นต่อสู้กัน ก็เพราะเจ้าอีกนั่นแหละ คอยดูนะจันทรัตน์ ถ้าใครเป็นอะไรไป เราไม่ไว้ชีวิตเจ้าเชียว วชิรารัตน์พูด จันทรัตน์ก้มหน้าลงนิ่งไม่พูดอะไร ไป... รดามณี วชิรารัตน์พูดแล้วก็เดินนำออกไป รดามณีหันมองจันทรัตน์ด้วยสายตาที่สงสารแล้วเดินตามวชิรารัตน์ออกไป พระพี่นางเพคะ... จะตามไปอีกไหม แก้วไพฑูรย์ว่า มณีกาฬสะกิดแก้วไพฑูรย์แล้วกระซิบว่า จะบ้าเหรอ ตามไปอีกเค้าก็หาว่าเราสาระแนสิ แค่ไปแอบๆดูก็พอ มณีกาฬพูด แต่พี่เป็นห่วงน้องวชิรารัตน์ มรกตว่า โถ่ ไม่ต้องห่วงหรอกเพคะ วชิรารัตน์หนะเก่งอยู่แล้ว มณีกาฬพูด ใช่ เราอยู่เป็นเพื่อนจันทรัตน์ดีกว่าเนอะ มณีกาฬ แก้วไพฑูรย์ว่า มณีกาฬพยักหน้าคล้อยตามกัน มรกตถอนใจ

                    ศิรสิทธิ์ และ ศดิศรันย์ต่อสู้กันไม่รู้แพ้รู้ชนะเสียที หยุด... นี่หยุดเดี๋ยวนี้ เราสั่งให้หยุด... วชิรารัตน์ตะโกนตอนนี้เขี้ยวที่งอกนั่นหายไปแล้ว การต่อสู้หยุดลง พี่น้องกัน มาต่อสู้กันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เจ้านี่ชักจะหูเบาใหญ่แล้วนะศดิศรันย์ รดามณีว่า ข้าพระองค์ไม่อยากให้น้องทำเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร ศดิศรันย์พูด ก็ข้าบอกแล้วไงว่าข้าไม่ได้ทำ ศิรสิทธิ์พูด สร้อยสายเพชรเดินมาพอดีพร้อมกับนางกำนัลสองสามคน รดามณี พาศิรสิทธิ์ กับ ศดิศรันย์ไปแผลเสีย วชิรารัตน์ เจ้าหนะมากับแม่ สร้อยสายเพชรว่า เพคะ พระธิดาสององค์ตอบพระกัน

                    ที่พระตำหนักของสร้อยสายเพชร สร้อยสายเพชรตบหน้าธิดาราชองค์สุดท้อง เสด็จแม่... วชิรารัตน์เรียกอย่างไม่เข้าใจ ทำไมถึงทำแบบนี้วชิรารัตน์... ศิรสิทธิ์เป็นของพี่เจ้า เจ้าทำแบบนี้ได้ยังไง สร้อยสายเพชรพูด วชิรารัตน์ส่ายหน้าแล้วน้ำตาก็เริ่มมาคลออยู่ที่ดวงเนตร ไม่... ลูกไม่ได้ทำอะไรนะเพคะ วชิรารัตน์พูด หากแม่เชื่อเจ้า แล้วคนอื่นเล่า คนอื่นเค้าจะเชื่อเจ้าไหม แล้วนี่ต้องอับอายมากแค่ไหน ทางเดียวที่จะล้างอายได้เจ้าก็ต้องแต่งงานกับศิรสิทธิ์ซะ แล้วพี่สาวของเจ้าหละ จันทรัตน์หละ แม่สิ้นไร้หนทางช่วยเจ้าแล้วนะวชิรารัตน์ สร้อยสายเพชรพูด สิ้นหนทางช่วยลูก หรือสิ้นหนทางช่วยจันทรัตน์เพคะ วชิรารัตน์ต่อปากต่อคำ สร้อยสายเพชรน้ำตาไหล เลิกคิดว่าแม่ไม่รักเจ้าซะทีเถอะวชิรารัตน์ ไม่รู้หละ เจ้าจะปล่อยให้เรื่องไม่ดีแพร่ไปอีกนานแค่ไหนเล่า สร้อยสายเพชรพูด ก็มันเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น จะให้ลูกเล่าให้ฟังไหมเพคะว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนั้นบ้าง วชิรารัตน์พูด อย่ามายอกย้อนแม่ แม่รู้ว่าเจ้าไม่ได้มีอะไรกับศิรสิทธิ์ แต่เรื่องมันเป็นที่โจษจันกันไปแล้ว อธิบายไปใครจะฟังเจ้า สร้อยสายเพชรพูด ลูกต้องแสร้งยอมรับ ว่าศักดิ์ศรีธิดาอสุรเวหานครสูญสิ้นหมดแล้วอย่างนั้นหรือเพคะ วชิรารัตน์พูด แล้วเจ้าจะให้แม่ทำยังไง สร้อยสายเพชรว่า เสด็จแม่ก็ให้พวกนางกำนัลไปโจษกันใหม่ ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดสิเพคะ วชิรารัตน์พูด วชิรารัตน์... แม่ถามเจ้าอีกที เจ้ารู้สึกเช่นไรกับศิรสิทธิ์ สร้อยสายเพชรพูด ไม่ทราบเพคะ วชิรารัตน์ตอบเพียงเท่านั้น จะไม่ทราบได้ยังไง ก็ความรู้สึกของเจ้านี่ หากเจ้าไม่ได้รักก็แล้วไป แต่ถ้าหากรัก แม่ขอให้พี่เจ้าเถอะนะ สร้อยสายเพชรพูด คำหลังทำให้วชิรารัตน์รู้สึกไม่พออย่างนักที่พระมารดาพูดราวกับว่ารักจันทรัตน์มากกว่า วชิรารัตน์ไม่ได้ตอบตกลงแต่อย่างได้แต่เดินตาขวางออกไปไม่ลาแม่สักคำ

                    ที่เรือนหนึ่ง ศิรสิทธิ์ ศดิศรันย์ ต่างรักษาตัวกันอยู่ รดามณีนั่งเฝ้าอยู่ด้วย เราขอร้องนะ อย่ากลับนภาภัทรนครเลย รดามณีว่า ทำไมหละพระเจ้าข้า พระนัดดานพคุณ และพระนัดดาจันทรัตน์ควรจะได้กลับไปกราบพระอัยกา พระอัยกีได้แล้ว ศิรสิทธิ์ว่า อย่าพึ่งเลยนะ... เราขอร้อง รดามณีว่า

                    นพคุณเก้าน้ำ อยู่ที่พนาวรรษานครยังมิวายนึกถึงยอดรักที่จรมา เดินอยู่ในเขตพระราชฐานเหม่อไปยังห้วงฟากฟ้าเห็นเงาร่างนางกินรีร่ายรำบินอยู่เหนือห้วงเวหา สง่างามนักกินรีนางนี้ หามีกินรีนางใดสง่าเท่านางไอศิกาไม่ นพคุณเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์ ป่านนี้แล้ว นางแก้วที่จากมาจะเป็นเช่นไรบ้างก็มิรู้ได้ ร่างกินรีร่ายรำอ่อนช้อยงดงามหายพร้อมกันกับที่นพคุณหลุดจากภวังค์เพราะลูกไฟหนึ่งถูกรัวมาเฉียดร่าง เจ้าของลูกนั้นแต่งกายด้วยเครื่องทรงอย่างนักรบกระโดดลงมา พิมพ์เพทาย นพคุณเรียก อีกร่างหนึ่งกระโดดลงมาข้างๆเช่นกันคือมรกต และวชิรารัตน์ก็กระโดดลงมาด้วย เรามาท้าประลองพี่นพคุณเพคะ พิมพ์เพทายว่า นารีผู้ครอบครองพลังอำนาจแห่งเพชร มรกต และ เพทายต่างเรียกดาบออกมา ทั้งสามถือดาบไว้อย่างเหมาะมือก่อนที่วชิรารัตน์จะรุดเข้ามาเป็นคนแรก หมายจะฟาดฟัน นพคุณไหวตัวทันหลบได้แล้วดันมือวชิรารัตน์ไว้ วชิรารัตน์ใช้มืออีกข้างที่เหลืออยู่จะชกพี่ชาย นพคุณก็ใช้มืออีกข้างมารับไว้อีก วชิรารัตน์... นี่ไม่ใช่การประลองแล้วกระมัง นพคุณว่า วชิรารัตน์ถีบออกไป ฉลาดนี่ วชิรารัตน์พูด คราวนี้พิมพ์เพทายเข้ามาบ้าง พิมพ์เพทายฟันเอาฟันเอาไม่ยั้งมือ นพคุณไม่ทันทำอะไรได้แต่หลบอย่างเดียว พิมพ์เพทายฟันไม่ถูกสักทีก็เริ่มอารมณ์ไม่ค่อยดีเสียแล้วจึงโยนดาบนั้นทิ้งแล้วใช้พลังจากแหวนเพทายใส่ แต่นพคุณก็ยังหลบได้  นพคุณรีบตั้งหลักลุกขึ้นมาหอบเหนื่อย พิมพ์เพทายหยุดโจมตีมรกตก็เข้าไปสู้แทน มรกตเข้ามามือเปล่าจะชกนพคุณ นพคุณรีบคว้ามือมรกตไว้แล้วบิดแขนมรกตปวดจนล้มลง ทั้งสามนรีสู้นพคุณไม่ไหวจึงหันมาสบตากันแล้วยืนล้อมนพคุณเป็นสามเส้าแล้วรัวลูกไฟใส่ นพคุณก้มหลบ แล้วทั้งสามก็ใช้พลังอำนาจจากแหวนของตน นพคุณรับด้วยแหวนนพเก้า พลังนั้นต้านกันอยู่ครู่ใหญ่ก่อนที่จะทำให้สามนรีล้มลงพร้อมกันกระอักเลือดเล็กน้อย พี่ขอโทษ พี่ต้องป้องกันตัว นพคุณว่า

                    เรื่องที่นพคุณเอาชนะสามนารีแห่งรัตนมณีได้นั้น ยังความแค้นใจให้กับทั้งสามเป็นหนักหนาจนวันที่ทุกคนจะต้องเดินทางกับมณีนพรัตนา หน้าวังพนาวรรษานคร สร้อยสายเพชร พระนัดดาทั้งสิบของมณีนพรัตนา ศิรสิทธิ์ และ ศดิศรันย์มารวมกัน วันนี้เราจะกลับมณีนพรัตนากัน ทุกคนคงพร้อมแล้วใช่ไหม นพคุณพูด เดี๋ยวเราจะพาเสด็จแม่สร้อยสายเพชรของเราเหาะไปด้วยเอง รดามณีพูด ทุกคนพยักหน้า ถ้างั้น ก็รีบเดินทางกันเถอะ ตอนเช้าอากาศดี ถ้าสายแล้ว จะร้อนนัก กิ่งโกมินทร์ว่า

                    กลางเวหาในขณะที่ทุกคนกำลังเหาะมุ่งหน้าสู่มณีนพรัตนานครนั้น ศิรสิทธิ์ถือโอกาสเหาะมาใกล้จันทรัตน์ พระนัดดาพระเจ้าข้า... ไปกับข้าพระองค์เถิด ศิรสิทธิ์พูดพลางกระชากแขนจันทรัตน์เหาะไปอีกเส้นทางหนึ่ง วชิรารัตน์แอบมองอยู่เห็นก็คงโกรธนักกระมัง จะไปไหนกัน วชิรารัตน์รีบเหาะตามไป มรกตกับพิมพ์เพทายหันมาสบตากัน แล้วต่างพยักหน้าให้กันอย่างนัดแนะแล้วรีบเหาะตามไปด้วย จันทรัตน์ วชิรารัตน์... สร้อยสายเพชรหันไปอย่างเป็นห่วง เสด็จแม่ พระทัยเย็นๆก่อนเพคะ รดามณีพูด

                    ศิรสิทธิ์พาจันทรัตน์เหาะมา กลับนภาภัทรนครนะพระเจ้าข้า ศิรสิทธิ์ว่า จันทรัตน์พูดไม่ออกหันไปมองข้างหลังเห็นว่าวชิรารัตน์กำลังเหาะตามมา ศิรสิทธิ์... จันทรัตน์พูดอย่างหวาดหวั่น ศิรสิทธิ์หันไปเห็นว่าวชิรารัตน์ตามมาติดจึงกระโดดลงไปข้างล่าง วชิรารัตน์จึงกระโดดตามลงไป พวกเจ้าจะหนีเราไป... เราสั่งห้ามแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเรา วชิรารัตน์น้ำตาไหล มรกต และ พิมพ์เพทายกระโดดตามลงมา ศิรสิทธิ์ช่างเป็นคนใจร้ายที่สุด... มรกตพูด วชิรารัตน์มองตามไปสุดสายตา เราเกลียดพวกมัน เราจะเอาชีวิตพวกมันให้ได้ วชิรารัตน์พูดพลางนิรมิตกายเป็นยักษ์ มรกต กับพิมพ์เพทายได้แต่มองดูอย่างตกใจ แย่แล้ว... คราวนี้แหละ ศิรสิทธิ์ กับ จันทรัตน์ไม่รอดแน่ พิมพ์เพทายว่า ธิดายักษ์ทรงอาภรณ์สง่างามดูทรงพลังอำนาจแต่เขี้ยวเล็กเพราะมีเลือดยักษ์แค่ครึ่งเดินไปทั้งน้ำตาแววตาของนางนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บแค้นใจ วชิรารัตน์ตามมาทันแล้ว จันทรัตน์หลบอยู่หลังศิรสิทธิ์ด้วยความกลัว วชิรารัตน์กำมือแน่นเงื้อมือเหมือนจะทำร้ายศิรสิทธิ์กับจันทรัตน์ แล้วนางก็ทำไม่ลงกลับร่างเป็นร่างมนุษย์ดังเดิมแล้วทรุดลงกับพื้น เสียแรงรัก... ทำไมถึงไม่เข้าใจความรู้สึกของเราเอาซะเลย วชิรารัตน์สะอึกสะอื้น จันทรัตน์จะเข้าไปปลอบโยนน้องศิรสิทธิ์รั้งแขนไว้แล้วรีบพาวิ่งหนีไปไกล มรกต และ พิมพ์เพทายรีบวิ่งตามมา มรกตประคองพระขนิษฐาไว้ เลวมาก พิมพ์เพทายพูด วชิรารัตน์เช็ดน้ำตาที่รินไหลแล้วกัดฟันแน่นด้วยความโกรธเคือง ความเสียใจ และหลายๆอย่างรวมกัน มันทำกับเราขนาดนี้แล้วเสด็จแม่ยังจะให้เราเสียสละให้มันอีก เสด็จแม่ของเราลำเอียงเหลือเกิน วชิรารัตน์พูด

                                    อยู่อยู่ฟ้ากระจ่างแจ้งกลับจะดับ                        แสงระยับสุรีย์อับดับแสงสาย

                    ทิวากาลกลับมืดหม่นเหมือนมลาย                                   รวิวายหายลับที่ร้อนแรง

                                    ฟ้าสลัวมัวครึ้มกระหึ่มเสียง                               เป็นสำเนียงเปรี้ยงปร้างกระจ่างแสง

                    สายฟ้าฟาดผาดเห็นเป็นเส้นแดง                                     ดุจวันแห่งวินาศโลกา

                                    ปฐพีมีรอยแยกเหมือนแตกหัก                          แล้วประจักษ์ให้เห็นเป็นหลุมผา

                    พื้นสนั่นพรั่นสะเทือนเตือนอุรา                                      พสุธาแยกเป็นทางให้ตกไป

                    เกิดเป็นฟ้าหลัวอย่างรุนแรงเสียงฟ้าผ่า ฟ้าร้องดังก้องกัณฑ์ สามนารีแห่งนพรัตน์ มองฟ้าด้วยจิตหวั่นพรั่นสะพรึงไปเสียหมด พื้นดินที่นิ่งเงียบเกิดสะนั่นสะเทือนไหวติงไม่หยุด เกิดเป็นรอยแยกที่ใหญ่พอที่คนจะตกลงไปได้ ราชกัญญาทั้งสามลุกขึ้นยืนแล้วก็กำลังจะเหาะขึ้นไปแต่ไม่ทัน พลัดตกลงไปเบื้องล่างธรณีทั้งสามคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×