ove Live Super Star ( Fan Fiction) Sumire & KeKe - ove Live Super Star ( Fan Fiction) Sumire & KeKe นิยาย ove Live Super Star ( Fan Fiction) Sumire & KeKe : Dek-D.com - Writer

    ove Live Super Star ( Fan Fiction) Sumire & KeKe

    ( Fan fiction นี้ เเต่งขึ้นก่อนจะดู season2 จบ เพราะงั้นเลยจะมีเนื้อหาบางส่วนที่ขัดจากตัว เนื้อเรื่องหลัก หากไม่ชีเรียสก็เชิญตํากันได้เลยจ้า  )

    ผู้เข้าชมรวม

    140

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    140

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ม.ค. 66 / 00:02 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    “ คูคู ถ้ามีเวลาไปวิ่งเล่นไร้สาระ ไปอ่านหนังสือเพิ่มดีกว่าไป “

     

    “ ค่ะ “

     

    “ คูคู หาที่เรียนพิเศษอีกที่ไว้ให้เเล้วนะ ไปด้วยล่ะ “

     

    “ ค่ะ “

     

    “ คูคู สอบครั้งนี้ทําไมได้คะเเนนเเค่นี้กัน ตอนพี่เค้าอายุเท่าเรายังทําได้ดีกว่านี้อีก “

     

    “ กระดาษข้อสอบที่มีตัวเลย 86 ประดับไว้ถูกกระเเทกลงบนโต๊ะ “

     

    ไร้คําโต้เถียงใดๆ ให้กับ หกอารมณ์เดือดดาลของอีกฝ่าย สิ่งที่ออกจากปากของฉันก็เหมือนเดิมกับทุกครั้ง

     

    “ ค่ะ เข้าใจเเล้วค่ะ “

     

    “ คูคู “

     

    “ คูคู “

     

    “ คูคู “

     

    “ คูคู “



     

    ไม่รู้ว่ามันกลายเป็นอย่างนี้ตั้งเเต่เมื่อไหร่ เสียงที่เคยคิดว่าอบอุ่น กลับกลายมันเป็นดั่งเงาดําที่คอยไล่ตามตัวตลอดเวลา

     

    คําพูดกับนิ้วที่ชี้มาเป็นดั่งบทบัญญัติ เเละ ตัวเลขสีเเดงบนกระดาษกลายเป็นดั่ง ตัวตีตราคุณค่าของชีวิต

     

    โลกทั้งใบสําหรับฉันมีเพียงห้องเรียนสี่เหลี่ยม ที่มีโต๊ะ เก้าอี้ กระดาษเเผ่นชีท กระดาน เเละ ตุ็กตาที่ถูกประดับชื่อลงไปเท่านั้น

    เเม้จะเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนผู้คนรอบข้าง เเต่ตุ็กตาก็ยังเป็นตุ็กตาอยู่ดี

     

    จนกระทั่งวันที่เสียงเเละเเสงได้ส่องลงมายังตุ็กตาตัวนั้น

     

    ในห้องเรียนที่มักจะมีบรรยกาศตึงเครียดอยู่เสมอกลับมีเสียงหัวเราะคิดคักของเด็กสาวสองคน

    ใบหน้าของพวกเธอมีความสุขมากซะจนโดนดึงดูดความสนใจไป

     

    “ นี่นี่ เห็น ไลฟ์ล่าสุดของ วง Sunny Passion สุดยอดมากเลยเนอะ “

     

    “ อื้ม ยังตื่นเต้นไม่หายเลยล่ะ “

     

    “ เปิดฟังกันอีกรอบดีกว่า “

     

    “ เอาสิๆ “

     

    “ อ้ะ คูคู สนใจดูด้วยกันรึเปล่า “

     

    “ มะ ไม่ล่ะค่ะ ต่อจากนี้ต้องรีบไปเรียนพิเศษต่อด้วย “

     

    “ เอาน่าๆ เเค่เพลงเดียวเอง “

     

    “ ก็บอกว่า…….. “

     

    ทันใดนั้นเอง ทํานองเพลงได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมๆ กับ หัวใจดวงนี้



     

    การไหลของเวลาที่ไม่เคยสนใจในวันนี้กลับคิดถึงมันตลอดเวลา

     

    อยากรีบเรียนให้เสร็จ อยากรีบเดินให้ถึงบ้าน อยากรีบกลับเข้าห้อง

     

    ก่อนจะปล่อยให้ดวงตาจ้องมองความฝันผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยม

     

    ความรู้สึกที่ไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัสค่อยๆ กลับมาอีกครั้ง

     

    ทั้งความตื่นเต้น ความตื่นตาใจ หรือเเม้กระทั่งความสุข

     

    การเฝ้ามองเรื่องราวของพวกเธอเเละ school idol คนอื่นๆ เริ่มทําให้หัวใจดวงนี้ฟองโตขึ้นเรื่อยๆ

     

    เหล่าเด็กสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันต่างพยายามไล่ตามความเป้าหมายของพวกเธออย่างสุดความสามารถ

     

    ทั้งเพื่อตัวเอง เพื่อเเฟนๆ หรือเเม้กระทั่งเพื่อ ปกป้องสถานที่ของ พวกเธอเองเอาไว้

     

    เปรียบเสมือยดั่งดวงดาวบนท้องฟ้าที่เปร่งประกายซะจนจุดประกายความฝัน ของตัวฉันขึ้นมาอีกครั้ง

     

    อยากจะเป็นเเบบนั้นบ้าง อยากจะส่องสว่างไสวเหมือนดั่งพวกเธอ

     

    เพราะฉะนั้นในคืนวันหนึ่ง

     

    “ เจ๋เจ้ คูคู มีเรื่องอยากจะคุย ไม่สิ อยากจะ ขอร้อง “

     

    “ อะไรล่ะ ท่าทางจริงจังเชียว “

     

    จากนั้นฉันจึงได้ตัดสินใจเล่าถึงความฝันของตัวเองออกไป

     

    เเม้ตอนเเรกจะทําหน้าตกใจเเต่หลังจากฟังเรื่องราวจนจบสิ่งที่เธอทํามีเพียงยิ้มมาให้กับฉันเท่านั้น

     

    “ อื้ม เข้าใจเเล้ว จะลองไปคุยกับ อาป๊าให้นะ “

     

    “ จะยอมช่วยง่ายๆ อย่างนี้เลยเหรอ อาจต้องทะเลาะกับ อาป๊าด้วยเลยนะ “

     

    นั้นน่ะก็ใช่เเหละนะ อาป๊าเป็นพวกหัวดื้อด้วย เเต่ยังไงก็วางใจเถอะ ทางนี้เองก็จะสู้ไม่ถอยเหมือนกัน

     

    ……………

     

    “ เพราะยังไงนี่ก็เป็นสิ่งที่ คูคู ต้องการไม่ใช่หรือไงอีกอย่างฉันดีใจนะที่ในที่สุด คูคู ก็ยอมมาพึ่งพาฉันซะที “

     

    ไม่รู้ทําไมพอพูดจบนํ้าตามันก็ไหลออกมาด้วยไม่รู้ตัวจนเจ่เจ้เข้ามากอดเเล้วลูบหัวให้กับฉัน

     

    ตอนนั้นเองถึงได้รู้ว่า ยังมีคนรอบข้างที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่ตลอด

     

    เจ่เจ้กับฉันช่วยกันคุยกับอาป๊าจนในที่สุดท่านก็ยอมให้ เเม้จะมีเงื่อนไขที่ต้องรักษาผลการเรียนไว้กับ

    ต้องห้ามเเพ้ในการเเข่งขัน Love Live เด็ดขาด

     

    นับเเต่นั้นมาทุกวันๆ ช่างเเสนสดใส ราวกับได้เกิดใหม่ยังไงอย่างนั้นเเหละค่ะ

     

    ได้มายัง ญี่ปุ่น เเละได้เป็น สคูลไอดอล ตามที่วาดฝันไว้ ได้พบกับผู้คนเเละเพื่อนพ้องมากมาย

     

    ได้หัวเราะในเวลาที่อยากหัวเราะ ได้ร้องไห้ในเวลาที่เศร้า เเละได้ยิ้มในเวลาที่มีความสุข

     

    ราวกับภาพของตัวเองเมื่อสมัยก่อนนั้นเป็นเรื่องโกหก

     

    เเละก็เเน่นอน ได้เรียนรู้ว่าเส้นทางนั้นไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบ

     

    ได้เรียนรู้ว่าการจะเริ่มไล่ตามบางสิ่งบางอย่างนั้นน่ากลัวขนาดไหน

     

    เเต่ถึงอย่างนั้นเพราะว่ามีพวกเธอ ที่คอยอยู่เคียงข้างถึงได้ยังก้าวไปข้างหน้าได้

     

    ทั้งเธอที่หวาดกลัวในความฝันของตัวเอง

    ทั้งเธอที่อยากเป็นกําลังให้ใครสักคน

    ทั้งเธอที่สับสนในความฝันของตัวเอง

    เเละ รวมไปถึงเธอ สุมิเระ

    ทั้งที่คิดมาตลอดเเท้ๆ ขอเเค่เราได้พยายามอย่างถึงที่สุดเเล้ว เเม้ว่าสุดท้ายจะไม่ชนะก็ไม่เป็นไร

    เเม้สักวันหนึ่งจะลาจากที่เเห่งนี้ ก็จะโอบกอดความทรงจําอันเเสนลํ้าค่าเหล่านี้ไว้

    เเต่ในขณะเดียวกันก็หวาดกลัวเกินจะเล่าสิ่งนี้ให้ใครฟังออกไปก็การจากลามันน่าเศร้าเกินไปนิคะ

    ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ก็อยากจะหายตัวไปเงียบๆ มากกว่า ถึงจะรู้ว่านี่เป็นการกระทําที่เห็นเเก่ตัวก็เถอะ

     

    เพราะงั้นเเหละในบรรดาทุกทําไมถึงต้องเป็นเธอที่รู้ด้วยนะ ไม่สิ ต่อให้เป็นใคร ผลลัพธ์ก็คงจะไม่ต่างกันหรอก

     

    บอกตามตรง ตรงเเรก คูคู ไม่ชอบยัยแมลงสาบทะเลเลยค่ะทั้งที่นึกว่าจะได้เจอกับเพื่อนที่ไล่ตามความฝันไปด้วยกันเเท้ๆ

    เเต่กลับ เข้ามาเพราะความอยากเอาดีเอาเด่นซะนั้นเลยค่ะ

    ถึงพอใช้เวลาอยู่ด้วยกันเเล้วจะรู้ว่า สุมิเระ เธอนั้นไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไรเลย

    ทั้งที่ทําหลายๆ อย่างได้ดีเเท้ๆ เเต่บางครั้งก็กลับหวั่นไหวเเละไม่มั่นใจในตัวเอง

    ชอบทําตัว วางมาดอยากเด่น เเต่พอถึงเวลาก็อ่อนโยนซะจนมอบโอกาสนั้นให้กลับคนอื่นไป

    เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่พยายามไล่ตามความฝันของตัวเองอย่างเต็มที่

    พอเห็นตัวเธอที่เป็นอย่างนั้นเเล้วก็นึกได้ว่าดีเเล้วที่ ได้มารู้จักเเละมี่เธออยู่เคียงข้าง

     

    เพราะงั้นในตอนที่เธอได้รับเลือกให้เป็น เซ็นเตอร์ เเล้วเลือกที่จะปฎิเสธขึ้นมา ถึงได้คิดว่า บ้าไปเเล้วหรือไงคะ

    ทั้งๆ ที่เเสงที่ตัวเองตามหามาตลอดอยู่ตรงหน้าเเล้วเเท้ๆเเล้วจะเลือกทิ้งมันไปงั้นเหรอ

     

    ทว่า

     

    “ เเต่ต้องชนะให้ได้ไม่ใช่รึไง

     

    เธอต้อง……. ชนะให้ได้ไม่ใช่เหรอ “

     

    ในตอนที่ได้เห็นใบหน้าเเละนํ้าตา ที่ไม่เคยเห็นนั้นของเธอ

     

    ถึงได้เข้าใจว่า เธอนั้นบ้าจริงๆ บ้าจนถึงขึ้น ยอมทิ้งความฝันที่คอยไล่ตามมาตลอด ของตัวเอง เพื่อคนอย่างฉัน

     

    ถึงเเม้เรื่องราวจะจบลงไปได้ด้วยดี เเต่ในตอนที่เเพ้ Love Live เเม้จะโชคดีที่ได้รับโอกาสอีกครั้ง

    เเต่ก็เกิดกลัวขึ้นมา

    หากรอบหน้าเเพ้ขึ้นมา………

    พอคิดว่าต้องเห็นใบหน้าเศร้าสร้อยเเบบนั้นของสุมิเระ อีกครั้ง

    หัวใจมันก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา

    ไม่เอาอีกเเล้ว

    ไม่อยากเห็นใบหน้าเเละนํ้าตาเเบบนั้นของเธออีกเเล้ว

    ไม่อยากให้ตัวเธอที่เเสนอ่อนโยนต้องมาร้องไห้เพื่อ คูคู อีกเเล้ว

    เพราะอย่างงั้น จึงเลือกที่จะผลักไส เเละ ค่อยๆ เดินห่างออกมา

    ถึงเเม้จะเจ็บปวด เเต่ถ้าในท้ายที่เเล้วต้องจากลากัน อย่างน้อยๆ เเม้จะไม่ใช่รอยยิ้มเเต่ขอให้เธอไม่ต้องร้องไห้ก็พอเเล้ว

    “ พอคิดว่าทิ้งระยะห่างมาได้มากพอเเล้วเเท้ๆ เเต่ทําไมทุกครั้งที่ หันกลับไป

    ถึงได้ยังคอยเจอเธอยืนอยู่ตรงหน้าเสมอเลยล่ะ สุมิเระ “

    “ เธอนี่บื้อจริงๆ เลยนะ คูคู

    คิดว่าพวกเราอยู่ด้วยกันมาเท่าไหร่เเล้วกันล่ะ เรื่องเเค่นี้ทําไมถึงจะดูไม่ออก “

    ยิ่งเป็นเธอด้วย ยัยบ้าที่มักจะชื่อตรงกับอารมณ์ของตัวเองอยู่เสมอ

    ชอบไปจุ้นช่วยเหลือเรื่องของชาวบ้านเขา เเต่ะพอเป็นเรื่องของตัวเองกลับปิดเงียบเอาไว้ซะอย่างนั้น

    เเต่ก็เพราะงั้นเเหละถึงได้น่าเป็นห่วงที่สุด

    “ ถ้าคิดมากขนาดนี้ล่ะก็เเค่ชนะให้ได้ก็พอเเล้วไม่ใช่หรือไงล่ะ “

    “ ก็เพราะมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นไงล่ะคะ “

    “ นั้นสินะ บางที พวกเราอาจเเพ้เเละเธอก็อาจต้องกลับประเทศจริงๆ ก็ได้ “

    “ พอเป็นอย่างนั้นขึ้นมาไม่ใชเ่เค่ฉัน เเต่ทั้ง คาน่อนเเละคนอื่นๆ ก็คงจะ ร้องไห้เสียใจกันนั้นเเหละ “

     

    “ ………………. ก็เพราะไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นไง ถึงได้…… “

     

    “ เเต่เเล้วมันทําไมกันล่ะ “

     

    “ เอ๊ะ “

    “ ก็อาจจริงที่ว่าการจากลามันน่าเศร้า มัน เจ็บปวด เเละสุดท้ายก็คงจะต้องมีนํ้าตา

    เเต่ว่านั้นก็เป็นสิ่งที่ยํ้าเตือนไม่ใช่รึไงว่า สายสัมพันธ์นี้ มันช่างมีความหมายขนาดไหนกัน “

    “ เพราะงั้นเเหละต่อให้เธอ จะพยายามพลักใสหรือวิ่งหนีไปมากขนาดไหน ต่อให้เธอจะตีตัวออกไกล

    ห่างไปจนถึงสุดขอบกาเเล็กซี่ ฉันก็จะคอยไปอยู่ตรงนั้นเคียงข้างเธออยู่ดี “

    “ ต้องให้คูคูจะทําเรื่องไม่ดีขนาดไหนก็ตามเหรอคะ “

    “ ยัยบื้ออย่างเธอ คงจะอดทนได้ไม่นานหรอก เพราะงั้นในวันที่เธอหันหลังกลับมาเเละอยากร้องไห้ขึ้นมา

    จะได้มีคนที่สามารถปลอบเธอได้ ไม่ใช่เเค่ฉันหรอก มั่นใจว่าทุกๆ คนเองก็คงจะเหมือนกัน “

    ……………………

    “ ดังนั้นเเล้ว ตอนนี้ อย่าฝืนอีกเลยนะ “

    …………………..

    .

    .

    .

    .

    “ ถ้าบอกทุกคนไปล่ะก็ คงต้องโดนว่าที่เก็บเป็นความลับจนถึงตอนนี้เเน่เลยค่ะ “

    “ นั้นสินะ คิดภาพ ยัยคาน่อนออกเลยล่ะ ยิ่งเป็นพวกคิดมากอยู่ด้วย “

    “ เเต่ยังไงก็ต้องบอกออกไปค่ะ “

    “ เอาจริงๆ เเล้ว ต่อให้เธอต้องกลับไปอยู่จีนฉันก็เเค่ออกตามหาเธอให้เจอก็พอเเล้วไม่ใช่รึไง “

    “ อย่าพูดเรื่องอะไรที่เป็นไปไม่ได้สิคะ “

    “ เธอลืมไปเเล้วรึไง ถ้าเป็นเรื่องความพยายามละก็ฉันไม่เเพ้ใครหรอกนะ

    กะอีกเเค่ ภาษา สัก ภาษาเดียว มันจะยากสักเท่าไหร่กันล่ะ “

    “ เเค่ได้ภาษาไปจีนไม่ได้หรอกนะ ต้องมีเงินด้วย สุมิเระนี่ บ้าจริงๆ ด้วยนะคะเนี่ย “

    “ เรื่องนั้น.. . ค่อยๆ เก็บเงินไปเดี๋ยวสักวันมันก็ได้เองเเหละน่า “

    ……….

    ………

    “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ๋า ฮ่า “

    “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า “

     

    เเม้ในท้ายที่สุดจุดจบอาจไม่ได้เป็นไปตามหวังไว้ เเต่ก็พราะอย่างงั้น

    ในตอนที่ยังอยู่ด้วยกันก็มาหัวเราะเเละยิ้มให้เต็มที่กันเถอะ เเละ

    ไปร้องไห้ด้วยกันอีกครั้งในตอนที่ต้องลาจาก

    เพื่อจะได้เน้นยํ้าว่ามิตรถาพเเละความทรงจําที่เรามีกันนั้นช่างเเสนลํ่าค้าเพียงใด

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×