In your soul - นิยาย In your soul : Dek-D.com - Writer
×

    In your soul

    เรื่องราวต่อจากนวนิยายเรื่อง In a hopeless place ( เล่ม 1 ) เฟธ ไซอัล ต้องพบกับอุปสรรคในการเดินทางไปยังอาณานิคมใหม่ครั้งใหญ่ที่สุดรวมถึงความลึกลับเกี่ยวกับดวงจิตปริศนาที่แอบแฝงอยู่ภายในและอำนาจวิเศษ

    ผู้เข้าชมรวม

    435

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    435

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  30 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ธ.ค. 67 / 20:15 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สภาพอากาศแถบเทือกเขาสีเขียวขจีมีอุณหภูมิที่ร้อนจัดจนน่าตกใจ หลายคนล้มหมดสติเนื่องจากความร้อนระอุของดวงอาทิตย์และขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับดื่มแก้กระหาย ระหว่างทางคณะเดินทางแวะพักคล้ายร้อนใต้ต้นไม้ใหญ่ยักษ์ กิ่งก้านของต้นไม้แข็งแรงทนทานจนแผ่ขยายตีวงกว้างกว่าต้นไม้อื่นๆ โดยรอบ ความสูงของต้นไม้พุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าคงจะโดนแสงอาทิตย์แผดเผา แต่ถึงกระนั้นต้นไม้ต้นนี้ก็สามารถโอบรับแสงอาทิตย์ได้อย่างหน้าเหลือเชื่อ สายลมอ่อนพัดผ่านใบหน้าของฉันที่เต็มไปด้วยเหงื่อ เส้นผมเปียกชุ่มจนต้องรวบรัดเพื่อระบายความร้อนบริเวณต้นคอที่เหงื่อไหลเยอะที่สุดรองจากแผ่นหลัง เมื่อนั่งลงพิงต้นไม้ไหล่ของฉันผ่อนคลายลง จากนั่นจึงจัดแจงสัมภาระที่นำมาด้วยไว้ด้านข้าง

    “คันลาแฮน พวกเราทุกคนก็เดินทางมาไกลจากประเทศไลมพอสมควรแล้วนะ ตอนนี้หลายต่อหลายคนเริ่มเดินทางต่อไม่ไหวแล้ว น้ำสะอาดก็หายากเหลือเกิน” ชายร่างใหญ่ผิวดำกล่าวขึ้น ดวงตาของเขาแสดงความห่วงใยออกมาชัดเจน

    “ขอโทษด้วยที่ต้องมาลำบากเช่นนี้ ความจริงแล้วฉันเองก็เหนื่อยล้าจนแทบจะลากเท้าไปต่อไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” ฉันตอบ “คำสั่งใหม่ฝากบอกทุกคนด้วยว่า พวกเราจะหยุดพักกันบริเวณนี้จนกว่าพลบค่ำมาเยือน เปลี่ยนช่วงเวลาออกเดินทางเป็นช่วงเวลากลางคืนแทนช่วงเวลากลางวันเพื่อหลบเลี่ยงความร้อนจากแสงอาทิตย์ จากนั่นบอกบุคคลที่มีพรสวรรค์ด้วยว่าเมื่อเปลี่ยนช่วงเวลาเดินทางแล้วความอันตรายจากสัตว์ป่าอาจเป็นอุปสรรค ให้เตรียมพร้อมมนต์คาถาเกี่ยวกับการป้องกันเผื่อเกิดเหตุต้องปะทะ มีเพียงเท่านี้ฝากด้วยนะ เด็นก้า”

    เด็นก้าพยักหน้ารับแต่ก็ยังคงจ้องฉันราวกับมีเรื่องอยากจะถาม “มีเรื่องอะไรอีก”

    “ถ้าหากเดินทางตอนกลางคืนและหยุดพักผ่อนตอนกลางวัน อากาศร้อนจัดเช่นนี้ยังไงก็นอนหลับไม่ลงหรอก” เด็นก้าเอ่ยขึ้น อย่างน้อยคำพูดของเขาก็มีเหตุผล

    “ฉันคิดเอาไว้อยู่แล้ว เปลี่ยนวิธีเดินทางโดยการเดินเลียบลำธารหรือแม่น้ำเมื่อรุ่งอรุณฉายคณะเดินทางจะได้นอนหลับพักผ่อนใกล้กับความชื้นของน้ำ ไอเย็นของธาตุรวมถึงพลังของเสียงแห่งธรรมชาติจะช่วยกล่อมให้ทุกคนสามารถนอนหลับได้แม้ว่าอากาศจะร้อนระอุ” ฉันอธิบายถึงภาพในหัวที่แล่นผ่านไปมาบนพื้นฐานของความเป็นจริง “ซึ่งแน่นอนว่าก่อนอื่นต้องมองหาแหล่งน้ำให้ได้ก่อน สำหรับฉันคิดว่าไม่ยากเกินความสามารถเพราะคณะของเรามีบุคคลที่เชี่ยวชาญเยอะ ต้องมีสักคนที่สามารถค้นหาวิธีในการเสาะหาแหล่งน้ำเมื่อนั้นเป้าหมายของพวกเราจะยังคงเหมือนเดิม”

    “มันจำเป็นจริงๆ หรือ การเดินทางไปให้ถึงเป้าหมายในขณะที่ต้องรับผิดชอบชีวิตคนอื่นอีกหลายชีวิต” เด็นก้านั่งลงจนไหล่กระแทกชนกัน คิ้วทั้งสองขมวดพร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนัก ซึ่งฉันรู้ดีว่าเขาแอบต่อต้านอยู่ภายในใจเรื่อยมา “พวกเราเดินทางออกห่างจากประเทศไลมมากแล้ว ร่วมเดือนที่ต้องเดินเท้าจากความหนาวเย็นสู่ความร้อนระอุเพื่อจุดประสงค์ของเธอ ทำไมกันคันลาแฮน ทำไมถึงต้องเป็นทะเล ถ้าหากพวกเราไปถึงสถานที่แห่งนั้นจะรอดตายอย่างนั้นหรือ”

    “เด็นก้า พวกเราให้ผู้มีพรสวรรค์เปิดประตูมิติข้ามมา จากนั่นก็เดินเท้าเนื่องจากประตูมิติจะสามารถเปิดได้ก็ต่อเมื่อรู้ถึงจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน จินนี่บอกฉันมา” ฉันกล่าว ซึ่งจินนี่คือผู้มีพรสวรรค์ที่ติดตามคณะเดินทางมาด้วยจากประเทศไลม แน่นอนว่าเธอก็มีอุดมการณ์เดียวกันกับทุกคนในคณะ “เพราะฉะนั้นจากจุดสุดท้ายที่เปิดประตูมิติก็ยังห่างไกลจากประเทศไลมมากพอที่จะรอดพ้นจากสายตาของพวกขุนนางและอิทธิพลของกษัตริย์องค์ใหม่ ยิ่งเดินทางไกลมากเท่าใดอาณานิคมใหม่ในอุดมคติของพวกเราจะยิ่งมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น”

    “ส่วนทำไมถึงต้องเป็นทะเล เพราะฉันมีข้อมูลถึงแหล่งอาหารชั้นเลิศใต้น้ำสีครามและอากาศที่อบอุ่นจากลมทะเลซึ่งช่วยทำให้เลือดลมหมุนเวียนได้ดียิ่งขึ้น อีกอย่างฉันเอือมละอองหิมะ ชาตินี้ทั้งชาติขอให้อย่างได้เจอกันอีกเลย” ฉันตอบ ซึ่งคำตอบของฉันทำให้เด็นก้าพ่นลมหายใจออกมา จากนั่นเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น

    “ชักอยากเห็นกับตาเสียแล้วสิ ทะเลที่เธอพูดถึง” เด็นก้าพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

    ในวันที่แสงแดดแผดเผาพวกเราราวกับอยู่ในกองเพลิง เดินทางเหมือนคณะเร่ร่อนไม่มีหลักแหล่งบนภูมิประเทศขอบแผนที่ที่มนุษย์ยังไม่เคยสำรวจกลับกลายเป็นความหวังสุดท้ายจนตัดสินใจยอมเสี่ยงเดินทางมาไกลขนาดนี้ ในภายภาคหน้าจากเมล็ดพันธุ์ไร้ค่าจะเติบโตขึ้นกลายเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงบดบังความร้อนให้กับผู้คนได้หลบอาศัย ต้นไม้ที่ผู้คนจะตั้งชื่อให้กับมันว่า ต้นไม้แห่งประชาธิปไตย…

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น