ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คำประกาศของความรู้สึกใหม่

    ลำดับตอนที่ #6 : Miss

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 59





    06 Miss 




    โทรไปก็หงอดิ

    ผมคิดแบบนี้ แต่ประมาณตีสามก็พบว่าตัวเองคิดผิด ไอ้อินมันรอสายผมจริงๆครับ พอเห็นว่าผมไม่โทรมาก็บุกมาถึงห้องขอนอนด้วย ไอ้ผมน่ะเพิ่งหลับไปได้ไม่นานต้องลุกมาเปิดประตูให้มันก็หงุดหงิดฉิบเป๋ง แต่ให้ทำไง ด่าก็ไม่ได้ หน้ามันตอนนั้นเอาเรื่องมาก คงโกรธที่ใช้ไม้แข็งก็ไม่ได้ ไม้อ่อนก็ไม่ฟัง ไม่ใช่แฟนนี่ครับ จะสนใจมันทำไมนัก แต่คืนนั้นก็ทำให้ผมรู้เลยว่า อะไรที่ยอมมันได้ก็ยอมเถอะ ขัดใจมันแล้วเดือดร้อนตัวเองตลอด ไม่ได้กลัวครับ แต่รำคาญโคตรๆ


    แอดไวเซอร์ว่าไงบ้างวะ แบบมึงน่ะ”

    ผมนั่งอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวข้างมหาลัย วันนี้มาพบอาจารย์ตั้งแต่เข้า เพราะบ่ายมีเรียน ออกจากห้องพักได้ก็เรียกไอ้อั้มมากินเป็นเพื่อน เมื่อคืนมันไปเมามาครับ เดี๋ยวนี้ฉายเดี่ยวเพราะผมนั่งแก้แบบยันเช้า นี่ยังไม่ได้นอนเลย เลิกเรียนก็ต้องกลับไปแก้งานต่อ

    ก็เหมือนเดิม งานมันเครียดตรงที่ต้องทำให้ดีกว่าพี่เฟย”

    เสร่อไปทำแนวเดียวกับเฮียแกเอง ไงล่ะ เละดิ”

    ผมพยักหน้า ก็เละตามสภาพนั่นแหละแต่ก็ไม่แย่เท่าไร ผมอยากทำเทียบกับพี่เฟยจริงครับ อยากวัดระดับตัวเอง ไม่เอก็ไม่เป็นไรถ้าเทียบชั้นกับคนที่สอบเรียนต่อ AA ได้ก็พอใจแล้ว “แล้วของมึงคุยกับแอดไวเซอร์เมื่อไร”

    หลังมิดเทอม ช่วงนี้ก็ทำไปเรื่อยๆ ไม่รีบ”

    ผมจะรอหัวเราะเยาะมันตอนหัวปั่น อาจารย์ที่ปรึกษาผมดีครับ เร่งแก้งานตั้งแต่ช่วงนี้ ตอนปลายเทอมจะได้ไม่เครียดมาก ผมบอกอาจารย์ไปตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่นิยมอดหลับอดนอนปลายเทอม นี่เลย โดนซัดตั้งแต่ก่อนมิดเทอมเลยกู

    เออ ยู มึงจะมิ้มได้มั้ย” 

    มิ้ม? มิ้มไหนวะ ผมส่ายหัวหวือ ไอ้อั้มเลยหัวเราะใหญ่ “กูว่าแล้วไง มิ้มอะ มิ้มวิทยา ที่กูเคยขอเบอร์เมื่อเดือนก่อนที่ป้ายรถเมล์ มึงยังด่ากูอยู่เลยว่าไปทำเขากลัว”
    อ๋ออออ เด็กผู้หญิงท่าทางเนิร์ดๆคนนั้นเอง ไอ้อั้มมันชอบแบบนี้ครับ สาวแว่น เรียบร้อย เพราะแบบนี้มั้งถึงเกลียดนัทเข้าไส้ แรงไป อั้มไม่ปลื้ม

    ทำไม อย่าบอกนะว่ามึงคบกันแล้ว”

    ไอ้อั้มยิ้มเขินๆ ว่าแล้วไง หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ ถ้าไม่เจอที่ร้านพี่ตุ้ยก็เจอมันแค่ในห้องเรียนครับ น้อยครั้งมากจะว่างมาเจอผมแบบนี้ โทรไปทีไรก็บอกยุ่งอยู่ตลอด เสือซุ่มชัดๆ

    แล้วเขาสนใจมึงได้ไงวะ คนอย่างมึงเนี่ยนะไอ้อั้ม”

    เฮ้ย กูก็มีดีนะโว้ย”

    พูดไปหัวเราะไป ไอ้ดีน่ะรู้อยู่ว่ามีแต่ไม่ค่อยเห็นแสดงออกเลยลืมไปแล้วว่ามี แต่แฟนแต่ละคนของมันเจ๋งๆทั้งนั้น ไม่ได้สวยเด็ดดวง เปรี้ยวเข็ดฟันอะไรแต่เป็นผู้หญิงแบบที่ไอ้อั้มพูดได้ทุกทีว่าคนนี้แหละแม่ของลูกกู

    ขอให้เจอแม่ของลูกมึงตัวจริงสักทีล่ะคราวนี้”

    เออ คนนี้แหละชัวร์ ปี 5 แล้วไอ้ห่า รีบๆหาแฟน จบไปทำงานใช่ว่าจะมีเวลาไปเกี้ยวสาว มึงเถอะ เมื่อไรจะหาใหม่ ตัดใจจากนัทได้หรือยัง”

    ไม่พูดก็ลืมอยู่หรอก แต่นึกถึงทีไรก็ยังเจ็บว่ะ ไม่รู้ว่าเรียกว่าลืมได้ไหม เพราะลึกๆยังอยากไปเจอ อยากโทรหา ตั้งแต่วันที่ไปชกไอ้อินถึงคณะวันนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ไม่สิ ที่จริงควรพูดว่าตั้งแต่ที่มีอะไรกันเพื่อประชดไอ้อินคืนนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันมากกว่า
    ผมรับปากไปแล้วว่าจะเลิกยุ่ง ไม่ใช่เพื่ออิน แต่เพื่อทั้งนัททั้งผมต่างหาก

    แค่นี้ทำถอนหายใจ มันมาวอแวกับมึงอยู่ป่าวพี่ชาย” ไอ้เชี่ยอั้มถามล้อ ทุกวันนี้มันก็ยังล้อที่นัทบอกว่าอยากเป็นน้องผมไม่เลิก อย่าให้มันเลิกกับมิ้มนะ กูจะล้อยันลูกบวช

    ไม่ติดต่อมาเหมือนกันว่ะ”

    แปลก นึกจะหายก็หายไปเนี่ยนะ” ถามว่าแปลกไหม ก็แปลกครับ ก่อนหน้านี้ยังมีโทรมาหรือมาหาที่คณะบ้าง คนคบกันมาตั้งนาน ตอนเลิกก็ไม่ได้เกรี้ยวกราดใส่อะไร ยังมีความสัมพันธ์ดีๆอยู่ แต่นั่นแหละ ใครจะรู้ ไอ้อินอาจทำหน้าที่แฟนที่ดีจนนัทไม่ต้องเหงาแล้วก็ได้

    กูควรจะหาเมียใหม่ได้แล้วใช่ปะ”

    นัทไม่กลับมาแล้ว.. นั่นแหละความจริงที่ผมจะต้องยอมรับ พูดแล้วก็คิดถึง เมื่อก่อนพานัทมากินที่ร้านนี้บ่อยๆ อะไรหลายๆอย่างในชีวิตผมยังดำเนินไปตามปกติ เพียงแค่ไม่มีคนข้างๆคอยหัวเราะเสียงใสให้อีกแล้ว 

    กูแนะนำให้คนนึง รับรอง มึงลืมนัทขาดเลย”

    ใครวะ” ปากไวรีบถาม ยังไม่ทันสังเกตหูตาแพรวพราวของเพื่อนสนิท ไอ้อั้มยกน้ำขึ้นดื่ม กลืนลูกชิ้นในปากลงคอให้หมดแล้วหลิ่วตา อินทรี อุดมภักดี”
    พูดเองหัวเราะเอง ขำ ขำเกินไปละ เออดี เอาเรื่องเครียดของเพื่อนมาพูดเล่นได้หน้าระรื่นเลยนะมึง

    เมาก๋วยเตี๋ยวเหรอมึง ไปเรียนเหอะ”

    ผมวางเงินไว้พอดีกับค่าอาหาร เดินออกมาจากร้านแล้วซ้อนฟีโน่ไอ้อั้มกลับเข้าไปเรียน เลคเชอร์ปี 5 ไม่หนักครับ แต่ที่เข้าเรียนเพราะไม่อยากมาอ่านทฤษฎีเป็นบ้าเป็นหลังช่วงสอบ อาจารย์ที่สอนป.ตรีส่วนใหญ่จบนอก มีเด็กๆบ้างเหมือนกัน ก็พวกรุ่นพี่ผมนี่แหละ จบโทมาได้ก็กลับมาเป็นอาจารย์หาทุนต่อเอกไปเรื่อย วัยไล่เลี่ยกันดีอย่างครับคือพูดจาประสาเดียวกัน เจอพวกอาร์ตจัดๆแบบอาจารย์รุ่นเดอะนี่ต้องแปลอังกฤษเป็นไทย แล้วแปลไทยเป็นไทยอีกตลบ เข้าใจยาก วิชานี้เป็นอาจารย์รุ่นพี่ตุ้ยแต่ไม่สนิทหรอก ไม่เคยเจอที่ร้านเหล้าสักครั้ง ผมไม่ใช่ขี้เมานะครับ แค่ชอบบรรยากาศเฉยๆเลยไปบ่อย

    เลิกเรียนแล้วกูไปหามิ้มนะ มึงกลับหอเลยป่าว เดี๋ยวไปส่ง”

    ผมพยักหน้า ติดรถมันไปก็ดี แป๊บเดียวถึง หมดชั่วโมงเรียนเลยต้องรีบโกยออกมาก่อนใครเพื่อน ไอ้เพื่อนผมมันคนดีครับ ขนาดอาจารย์ปล่อยเลททำให้ต้องไปเจอแฟนสายยังบอกว่าจะแวะไปส่งผมที่ห้องก่อน

    โทรไปบอกมิ้มแล้ว จะซื้อเค้กหน้าหอมึงด้วยพอดี รีบๆขึ้นมาเถอะ”

    ถุย กูก็นึกว่ามึงรักเพื่อน ที่แท้จะเอาของไปเซ่นสาว ผมทำหน้ามันไส้นิดหน่อยแต่ก็ไม่ว่าครับ คนมีความรัก เข้าใจ






    อยู่ไหน?”

    เสียงโทรศัพท์ผมดังตั้งแต่เข้าห้องน้ำแต่เพิ่งออกมารับหลังจากคนโทรเข้าตัดสายไปแล้วหนึ่งรอบ อินทรีถามเสียงห้วนขณะที่ผมกำลังทิ้งตัวลงบนพื้น กางกระดาษแผ่นใหญ่ขึ้นมาแก้แบบ ง่วงครับแต่อยู่ในระดับทนได้ ทำงานต่อสักพักก็จะนอนแล้ว

    หอ ทำไม”

    เดี๋ยวไปรับ”

    ไม่ต้องอะ กูไม่ไปไหน จะทำงาน” พูดตัดรอนแบบไม่รักษาน้ำใจไปเลย ไม่งั้นเซ้าซี้อีก

    กินข้าวยัง”

    จะกินก็ซื้อเข้ามาแล้วกัน กูไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ แค่นี้นะ”

    พูดจบก็วางสายใส่ ยังไม่ทันจะโยนทิ้งได้ปลายสายก็โทรเข้าอีกรอบ “อะไรของอีก กูบอกว่าทำงานอยู่”

    กินไร”

    อะไรของมันวะ?

    ก็ให้ซื้อเข้าไปไม่ใช่เหรอ อยากกินอะไร”

    ซื้อมาเหอะ กินหมดอะ เออ ฝากซื้อกระทิงแดงเข้ามาด้วย”

    ตอนแรกตั้งใจจะนอนแต่อินเข้ามาหาคงหลับไม่ลง อัดกระทิงแดงแล้วทำงานต่อแม่งก็ได้วะ ผมแก้แบบไปพลาง ๆ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงเคาะประตูห้องดัง แขกไม่ได้ตั้งใจเชิญสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นรองเท้าผ้าใบผิดกับทุกครั้งที่เจอยืนหน้าหงิกอยู่ที่ประตู ในมือหิ้วถุงร้านค้าสะดวกซื้อกับข้าวกล่องสองกล่อง 

    ร้อนว่ะ เปิดแอร์ดิ๊”

    ถึงมันจะออกคำสั่งให้ผมเปิดแต่สิ่งที่อินทรีทำคือยัดถุงของฝากใส่มือผมแล้วเดินไปหยิบรีโมทแอร์มากดหน้าด้านๆ ยังไม่ทันได้เปิดข้าวกล่องว่ามันซื้ออะไรเห็นแว้บๆว่าในถุงจากร้านสะดวกซื้อมีสปอนเซอร์ก็รื้อก่อน ชัดเลย.. 

    เชี่ยอิน กูฝากซื้อเครื่องดื่มชูกำลัง ไม่ใช่เกลือแร่”

    เหมือนกันแหละ” เหมือนกันบ้านมึงสิ อย่าบอกนะว่าไม่รู้จัก ไม่.. ไม่มีทางแน่ๆ

    มึงเคยแดกกระทิงแดงมั้ย?”

    ไม่เคยอะ กินแต่สปอนเซอร์ตอนเล่นกีฬา ทำไม? ไม่ได้จะเอาอันนี้เหรอ”

    คนละเรื่องเลยโว้ย ผมจิ๊ปากขัดใจแต่ทำอะไรไม่ได้ เห็นหน้าซื่อๆแล้วด่าไม่ลงว่ะ ผมผิดเองที่ไม่บอกมันให้ละเอียด ไม่ถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ที่อยากได้ไปให้มันดู ความผิดผมเองครับ คราวหลังจะระบุให้ชัดเจนยิ่งกว่านี้ ตัดใจเอาเกลือแร่ไปแช่ตู้เย็นแล้วแกะข้าวกล่อง ดีหน่อยที่มันซื้อข้าวผัดกุ้งมาให้ผม ผมชอบกินอาหารทะเล ไปกินข้าวกับมันทีไรก็สั่งอาหารทะเล ไม่แปลกใจที่มันจำได้ แต่แปลกใจที่มันสังเกต ขนาดผมยังไม่รู้เลยว่ามันชอบกินอะไร 

    นี่วาดอะไรอะ”

    อินนั่งบนพื้น ดูงานบนโต๊ะผมไปพับเสื้อขึ้นเปิดพุงไป ท่าทางคงร้อนจริงเหงื่อท่วมเลย “ธีสิสกู มึงไปอาบน้ำไป เดี๋ยวกูหยิบเสื้อให้เปลี่ยน”

    แค่เห็นก็เหม็นแล้ว นี่วิ่งขึ้นมาจากลานจอดรถหรือเปล่าวะ ไอ้อินมันเป็นคนเหงื่อออกง่าย ไม่ค่อยมีกลิ่นตัว แต่สภาพเหมือนเดินข้ามซาฮาร่ามาแบบนี้ไม่อยากเสี่ยงไปดมเลยไล่มันเข้าห้องน้ำ หยิบเสื้อกล้ามกางเกงบอลให้มันไปแล้วยกของกินมาวางบนโต๊ะ รวบงานไว้ฝั่งนึงกว่ามันจะออกมาผมก็กินอิ่มแปล้

    เฮ้ย กินไม่รอ”

    ทำไมต้องรอวะ จะทำงานต่อ มึงเอาไปนั่งกินไกลๆเลยเดี๋ยวหกใส่งานกู”

    ไม่ต้องทำหน้าเป็นหมาหงอยเว้ย ไม่เห็นใจ ผมนั่งทำงานไปสักพักก็เริ่มง่วง ตาไม่ลืม อินทรีหนีไปเล่นกีต้าร์อยู่ที่ระเบียงแล้วห้องเงียบชะมัด มันหันหน้ากลับมาอีกทีเห็นผมมองอยู่ก็ยิ้มให้ ร้องเพลงไปมองผมไป ไม่ได้ยินโว้ย ร้องเพลงเชี่ยอะไรของมึง สักพักพอสาแก่ใจมันก็กลับเข้ามาในตัวห้อง ส่วนผมน่ะเลื้อยไปกับโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ตากำลังจะปิด ถึงอดหลับอดนอนจนเป็นนิสัยแต่ผมก็ยังต้องการการพักผ่อนอยู่ครับ ไม่ใช่คนเหล็กที่อยู่ได้จนกว่าจะกดชิพออก

    ง่วงเหรอ” อินทรีถามยิ้มๆแล้วพูดต่อ “นอนตักผมได้นะ ถึงจะไม่นิ่มแต่อุ่นนะ”

    ผมหัวเราะ เสี่ยวสัดแหละไอ้เชี่ยนี่ ไม่ได้หน้าตากับฐานะนี่จะไปจีบใครติดวะ สักพักมันก็ขยับตัวมานั่งข้างผม ใช้มือลูบหัวผมเบาๆ สบายดีครับ ผมไม่ถือหรอกเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้อง ชอบให้คนเล่นผมอยู่แล้ว ปลายนิ้วยาวไล่จากกลางหัวลงไปท้ายทอยยันแผ่นหลัง ก่อนจะยกขึ้นลูบซ้ำๆหลายครั้ง

    เป็นหมาหรือไง ชอบให้ลูบหัว”

    เสียงมันพูดเหมือนดังมาจากที่ไกล ไม่ไหวแล้ว ขอนอนก่อนแล้วกันค่อยลุกมาเถียง สัมผัสหยุ่นจากริมฝีปากแตะบนขวัญเล็กๆกลางหัวผมเบาๆอย่างถือวิสาสะ ก่อนย้ายที่มาจูบที่ข้างแก้ม

    ฝันดียู” 









    มันกลับไปตอนไหนวะ

    แล้วที่แน่ๆ.. คือผมจำได้โคตรแม่นเลยว่ากะจะงีบหลับบนโต๊ะแล้วตื่นมาทำงานต่อ แต่พอรู้สึกตัวตื่นในเที่ยงของวันถัดมา ถูกแล้วครับ ผมตื่นอีกครั้งในเที่ยงของวันถัดมาก็พบว่าตัวเองนอนหลับอุตุกอดผ้าห่มผืนหนาอยู่บนเตียง ปราศจากร่องรอยของแขกผู้มาเยือน หลักฐานที่ทิ้งไว้ว่าเมื่อวานอินมาหาจริงๆคือจานชามที่ไม่ได้ล้างกับสปอนเซอร์สองขวดในตู้เย็น ที่เหลือเหมือนเดิมหมด งานผมถูกวางไว้ยังไงก็วางอย่างนั้น ไม่มีใครแตะต้องมันหลังจากที่ผมทำเพิ่มไปนิดหน่อย อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ลงมาหาอะไรกินข้างล่างแล้วค่อยกลับขึ้นไปทำต่อ พี่แจ็คเคยสอนว่าปี 5 เรียนน้อยแล้ว จะทรมานไม่ได้พักหรือใช้ชีวิตแบบชิวๆก็อยู่ที่การจัดสรรงานของตัวเองทั้งนั้น ทฤษฏีไม่เกี่ยว อยู่ที่ความเจ๋งแต่ละคนว่าจะแบ่งงานยังไง

    ผมเปิดคอมลองร่างแบบลงสเกตอัพสักพักก็ท้าวคางมองไปที่ระเบียง ภาพของคนที่มานั่งร้องเพลงแบบไม่มีเสียงให้ฟังก็ผุดขึ้นมา ตลกว่ะ ทำไมจู่ๆก็นึกถึงมันก็ไม่รู้ ออกไปตอนไหน กลับไปยังไง ว่าแล้วก็โทรถามมันหน่อยดีกว่า อุตส่าห์ซื้อข้าวมาให้เดี๋ยวมันจะหาว่าแล้งน้ำใจ


    โทรผิดหรือเปล่า”

    กวนตีนจริงๆไอ้อิน คนอุตส่าห์เสียตังค์โทรหาแทนที่จะถามว่ามีธุระอะไรดีๆดันยอกย้อนอยู่ได้ ผมกระแทกเสียงว่าเออ กลับไปมันก็หัวเราะร่วนมาตามสาย

    ว่าไง คิดถึงเหรอ?” เอะอะหยอดตลอดไอ้เวรนี่

    เปล่า กูจะถามว่ากลับไปตอนไหน”

    เมื่อเช้าครับ ผมมีเรียนตอน 9 โมง โดดไม่ได้ เอาตารางเรียนผมไหมเดี๋ยวส่งเมลให้”

    ไม่ต้องมาเสนอตัว กูไม่ได้อยากรู้” 

    สักนิดก็ไม่เหรอ หึๆ ทำอะไรอยู่

    ทำงาน แค่นี้นะจะไปทำงานต่อแล้ว”

    เดี๋ยวๆ บ่ายมีเรียนหรือเปล่า”

    ไม่มี” 

    สิบนาที เดี๋ยวไปรับ” อ้าวเฮ้ย ไอ้เชี่ยอิน ไอ้ตัวหายนะ กูเพิ่งบอกไปว่าจะทำงานต่อนี่จะมาพาไปไหนอีกแล้ววะ ผมโยนโทรศัพท์ไว้แถว ๆ นั้นแล้วนั่งทำงานต่อไปเรื่อย ๆ งานแม่งไม่ปะติดปะต่อเลย เข้าเจอแอดไวเซอร์รอบนี้ท่าจะเละ ช่วงก่อนนัดเจออาจารย์หนึ่งสัปดาห์คงต้องสั่งแบนมนุษย์อินทรีไปก่อน เมื่อก่อนผมก็มีชีวิตเรียบๆ ทำงานเรื่อยๆเหมือนคนอื่นแหละครับ เพิ่งรู้สึกถึงความวุ่นวายเมื่อไม่นานมานี้ที่มีมันเข้ามาในชีวิตเอง 

    เข้ามาแบบงงๆ แย่งแฟนกูแล้วบอกว่าชอบกู ตลกสาดดด



    ประมาณ 15 นาที หลังจากวางสายอินทรีก็โผล่มาตามที่บอก ใส่ชุดนักศึกษาเต็มยศยิ้มหน้าบานแล้วพยักหน้าหงึกหงักชวนผมไปไหนสักที่ ยัดกุญแจบีเอ็มใส่มือแล้วรีบลากไปที่ลิฟท์

    เฮ้ยๆ จะไปไหน?”

    กินข้าว ยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้า”

    ถามกูหน่อยเฮ้ย “กูกินแล้ว”

    งั้นไปนั่งเป็นเพื่อนดิ” ผมยื้อแขนตัวเองไว้แต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย สุดท้ายก็ยอมมัน ไปหยิบหนังสือที่ยืมหอสมุดไว้ติดมือมาด้วย เดี๋ยวพามันไปหาอะไรกินในมหาลัยแล้วเข้าไปยืมต่อเลยจะได้ไม่เสียเที่ยว

    หนังสือครบกำหนดแล้ว เดี๋ยวกินเสร็จแล้วเข้าห้องสมุดนะ”

    รุ่นน้องอมยิ้มชอบใจแล้วรีบกดลิฟท์รอ วันนี้ดูมันอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ไม่รู้อะไรเข้าสิง หรือว่าที่ผมโทรหาวะ ถ้าใช่เรื่องนั้นนี่ปัญญาอ่อนมากเลยนะ ทำตัวเป็นเด็กหัวนมเพิ่งแตกพานแล้วมีความรักไปได้ 

    มึงปุ๊นมาปะเนี่ย”

    ยาเสพติดผมไม่ยุ่ง”

    ดูอารมณ์ดีพิลึกเลยสงสัย” ผมไขกุญแจ สตาร์ทรถ ไอ้อินก็รีบทำตัวเป็นตุ๊กตาหน้ารถยิ้มแฉ่งจนน่าหมั่นไส้ ตอนเก็กมึงก็เก็กเกิน ตอนกวนนี่ก็วอนโดนตีนเสียจริงๆ

    อารมณ์ดีดิ วันนี้ยูคิดถึงผม”

    โวะ ไม่อยากจะคุยด้วยเลย ผมหัวเราะขึ้นจมูก เลิกเถียงกับมันแล้ว ไร้สาระชะมัด ไม่นานรถก็มาจอดแถวตึกคณะสถาปัตย์ขี้เกียจไปไกลลากมากินในถิ่นนี่แหละ เปรี้ยวนักจะได้มีพรรคพวกมายำตีนมันสักที “อะไรอร่อย”

    แดกๆไปเถอะ กันตาย เร็วๆด้วยเดี๋ยวห้องสมุดปิด”

    โห นี่เพิ่งบ่ายสอง” มันยกนาฬิกาขึ้นโชว์ รุ่นเดียวเรือนเดียวกับที่คิวใช้เลย เห็นแล้วจี๊ด จากวันนั้นที่ผมจับได้ว่าคิวแอบไปมีอะไรกับไอ้อินผมก็เลิกขาดเลยครับ กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ไม่ยื้อแย่งกลับมาหรอกยังไงผมกับคิวก็ถือว่าถูกใจแต่ไม่ได้รัก ถ้าจะต้องลงทุนลงแรงชิงกลับมาต้องเป็นนัทเท่านั้น แต่อย่างว่าแหละ คนอย่างผมมีอะไรสู้อินทรีได้ หัวใจปอนๆใครเขาอยากจะได้วะ

    พี่อิน”

    นึกถึงเป็นต้องเจอ ไม่ใช่ความบังเอิญหรอกครับที่คิวจะมายืนตรงหน้าผมกับอินตอนนี้ ปีหนึ่งมีเรียนอยู่ตึก 3 ทำไมผมจะไม่รู้ รถไอ้อินก็เอาไปจอดไว้ตรงนั้นมา ตอนนั้นนักศึกษายังไม่เลิกเรียนด้วยซ้ำ แต่เหงื่อตกหอบแฮกมาแบบนี้แสดงว่าเห็นรถอินแล้ววิ่งมาแหง ผมไม่พูดอะไร ไม่เดินหนี ไม่โวยวาย เอาสองมือล้วงกระเป๋ารอดูว่ามันจะจัดการกับเมียมันยังไง

    มาหาคิวเหรอ ทำไมไม่โทรมาบอก”

    กูบอกเหรอว่าจะมาหามึง” เสียงไอ้อินเย็นเยียบมากครับ ตีหน้านิ่งเรียบดุดันราวเป็นคนละคนกับบนรถ คิวห่อไหล่ลงเหลือตัวนิดเดียว จะว่าสงสารก็สงสารนะ แต่เชิญเลย เรื่องผัวเมีย เรื่องนี้ยูจะไม่ยุ่ง

    พี่อิน...”

    ไปไหนก็ไปเลยไป กูมาแดกข้าวไม่ได้มาหามึง” เฮ้ย เกินไปหน่อยมั้ง จะเลิกหรืออะไรก็พูดจากันดีๆสิ ทำไมต้องทำแบบนี้ “มึงคุยกับน้องดีๆหน่อยไอ้อิน”

    จะปกป้องมันทำไม หรือเพราะมันเป็นเมียเก่าพี่? ตัดไม่ขาดใช่ไหม? ทำไมไม่คิดบ้างวะว่าไอ้เด็กนี่มันเอาพี่แลกกับนาฬิกาแค่เรือนเดียว”

    จึ้ก...เจ็บโคตรรร
    ความจริงบางอย่างคนถูกกระทำก็ไม่ได้อยากจะฟังเพื่อตอกย้ำนะครับ ผมรู้ว่าสำหรับคิวผมไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยแต่ก็ไม่ได้ต้องการจะฟังใครเอาเรื่องนั้นมาดูถูก ผมอยากมีค่ามากกว่านี้ อยากเป็นคนที่ได้รับความรักจนไม่สามารถเอาอะไรมาแลกได้เหมือนกันแต่ถ้ามันไม่ใช่กับคนที่ผ่านมาแค่ชั่วข้ามคืนผมไม่โกรธ แต่ที่โกรธคือไอ้อินมองผมมีราคาสักเท่าไรกันเชียว
    ผมทนยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ ที่ๆมีคนสองคนหักหลังผมซึ่งๆหน้าเลยเดินกลับไปที่รถ กุญแจรถไอ้อินยังอยู่กับผมเลยไขเอาหนังสือได้สบาย อินทรีวิ่งตามผมมา กว่าจะทันผมก็พร้อมคืนกุญแจให้มันแล้ว

    มึงไปหาอะไรกินเถอะ เดี๋ยวกูไปธุระของกูเอง”

    ยู ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ”

    มือใหญ่คว้าข้อศอกผมเอาไว้ดันหลังจนชิดรถ ผมไม่อยากอยู่ในท่านี้เดี๋ยวคนอื่นจะเข้าใจผิดเปล่าๆ “ไม่ได้โกรธ ปล่อย กูจะไปห้องสมุด”

    เดี๋ยวพาไป”

    มึงไปกินข้าวเถอะ”

    ไม่ ฟังก่อนดิ ผมไม่ได้มีเจตนาจะพูดไม่ดีกับพี่ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่อยากให้พี่ชอบใคร”

    มึงก็เลยลงทุนด้วยการเอามึงมีไปซื้อกูมาจากคนอื่นใช่ไหม มึงจ่ายนัทไปเท่าไรล่ะ ไหนบอกกูมาซิว่าค่าตัวกูที่มึงให้นัทไปมันกี่บาท ถูกหรือแพงกว่าสองหมื่นที่มึงให้คิว”

    อย่าพูดกับผมแบบนี้”

    ทำไมกูจะพูดไม่ได้ มึงเลิกยุ่งกับกูเถอะว่ะ กูไม่อยากเห็นหน้ามึง”

    ดวงตาที่อ่อนแรงในทีแรกฉายแววแข็งกระด้างขึ้นมาทันที อินดันไหล่ผมให้แนบกับรถแล้วแทรกเข่าเข้ามาระหว่างกลาง ดันขึ้นสูง ผมขืนตัวออกแต่ก็ไม่หลุด ยิ่งดิ้นหว่างขายิ่งเสียดสีกับหัวเข่า เบียดตัวเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆจนได้กลิ่นน้ำหอมที่มันใช้ “ปล่อยกูไอ้อิน! อย่าให้กูต้องใช้กำลังนะโว้ย”

    กล้าก็ลองสิ เข้าไปในรถ! หรือจะให้ผมจูบพี่ในคณะพี่ก็ได้นะ คิดว่าผมทำไม่ได้เหรอ”

    พูดจบมันก็เปิดประตูผลักผมเข้าไปนั่งเบาะหลัง เบียดตัวเองเข้ามาด้วยให้ผมขยับไปชิดอีกฝั่งแต่ก็ไม่พูดอะไร จับมือผมที่กำแน่นไว้ให้ผมใจเย็นลง อย่างน้อยมันก็ยังฉลาดไม่กวนโอ๊ยผมตอนนี้ไม่งั้นได้ซัดกันอีกรอบแน่

    ยู...”

    อินทรีเรียกเสียงอ่อน ก่อนเอนหัวลงมาซบไหล่ ไอ้นี่ก็เลือดจะไปลมจะมา ตอนผมบอกไม่อยากเห็นหน้ามันยังทำท่าจะฆ่าจะแกงกันให้ได้ทีตอนนี้กลับทำเป็นลูกแมวขี้อ้อน สมกับที่มันเป็นน้องเล็กของบ้าน ไม่ใช่แค่เพราะอายุ 19 ของมัน แต่อินดูเป็นเด็กแบบที่ต่อให้อายุมากกว่านี้มันก็จะยังง้องแง้งกับคนที่สนิทด้วยไปเรื่อยๆ

    ส่วนถ้าไม่สนิทน่ะเหรอ ภาพที่มันด่าคิวแบบไม่สนใจใยดียังติดตา เสียงแข็งจนถ้าผมเป็นคิวคงกลัวหัวหดขนาดนั้นยังติดหูผมอยู่เลย ทั้งในฐานะพี่ชายคนโต ในฐานะที่แก่กว่ามันจะถือว่าสอนเอาบุญแล้วกัน “ถ้ามึงไม่ชอบคิวก็บอกเขาดี ๆ ไม่ใช่ทำแบบนี้นะอิน”

    คู่สนทนาพยักหน้ารับคำจับมือผมแน่น สักพักก็ใข้มืออีกข้างมาจับสันคางผมให้หันมาหาคนที่เงยหน้ารออยู่ กลิ่นลมหายใจอ่อนๆร้อนปะทะข้างแก้ม สิ่งที่เกิดจากนั้นคืออินบังคับให้ผมก้มลงไปจูบ อินเป็นคนที่จูบเก่ง จูบของมันละเลียดบอกความรู้สึกได้หลายๆอย่าง เป็นต้นว่าแทนคำขอโทษในครั้งนี้ ความนุ่มชื้นบดเบียดเข้ามาแน่น ริมฝีปากหยุ่นขยับช่วงชิมรสชาติจากปลายลิ้นผม แม้ไม่ได้จูบกลับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ สักพักมันก็ถอนจูบออกมาจ้องหน้า ใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยที่ข้างแก้ม

    ผมขอโทษ ไม่ทำแล้ว แต่อย่าพูดว่าไม่อยากเห็นหน้าผมอีก ผมไม่ชอบ ไปกินข้าวที่อื่นเถอะนะ”
    พูดจบก็เอาคางมาเกยบนไหล่ ใช้จมูกชนกกหูผมเบา ๆแล้วหอมฟอด ผมเอามือลูบหน้าตัวเองพลางเบือนออกไปนอกกระจก

    ไอ้เชี่ยยูเอ๊ยยย...
    มึงยอมให้มันจูบอีกแล้วว่ะแม่ง!





    ท้ายที่สุดผมกับอินก็มากินข้าวกันแถวๆหอสมุดนี่แหละครับ แว้บเข้าไปต่อเวลายืมหนังสือได้ก็พามากินข้าวแถวนี้ต่อ เจอรุ่นน้องผมยกมือไหว้กันงงๆที่ผมมากับรุ่นน้องต่างคณะแถมยังเป็นคนดังอีกด้วย หลายคนอยากเข้ามาทักแต่บุคลิกอินทรีถ้ามันไม่ไปกะลิ้มกะเหลี่ยใครก่อนก็ไม่ใช่พวกน่าเข้าหาเท่าไร ผิดกับภาพผู้ชายกินสปายร้องเพลงชิวๆริมทะเลตอนนั้นคนละเรื่อง แต่กับเพื่อนกันมันก็ดูปกติเหมือนตอนอยู่กับผมนะครับ ตบหัวลูบหลังกันได้ไม่ถือตัวอะไร

    เฮ้ย ไอ้อิน เมื่อวานรีบไปไหนวะ เล่นบาสยังไม่จบตาก็ออกมาแล้วกูล่ะตกใจนึกว่าพี่ชายมึงบุกคอนโด มากับแฟนเหรอ”
    พ่อหนุ่มเคราแพะข้างนึงกอดลูกบาสมากับสาวสวยที่ผมเคยเห็นหน้าว่าเป็นเด็กเศรษฐศาสตร์นี่แหละ เคยเจอตอนไปรับนัทที่คณะครั้งสองครั้ง แต่คงจำกันไม่ได้ เพื่อนอินท้าวแขนกับบ่ากว้าง เจ้าตัวเลยเหลือบตามองแล้วกินข้าวต่อโดยตอบสั้นๆว่า “เสือก”

    นั่นแหนะ แซวไม่ได้ด้วย ชื่ออะไรครับน้อง ผมป้องนะ เป็นเพื่อนที่เล่นบาสกับมัน เรียนคณะอะไรครับ ไม่เคยเห็นหน้า”

    ผมเหลือบตามองอินทรีที่ไม่คิดจะเถียงแล้วส่ายหน้า มึงกะให้เพื่อนมึงลามปามกูไปถึงไหนเนี่ย ใจคอจะแดกข้าวไม่สนใจเคลียร์เลยว่างั้น 

    ผมไม่ใช่แฟนมัน ชื่อยู ถาปัตย์ปีห้า”

    อ้าว รุ่นพี่เหรอ ขอโทษครับพี่ หน้าพี่อย่างเด็กเลยผมนึกว่ารุ่นน้อง เหอ ๆ แล้วนี่มารีบไปไหนหรือเปล่าครับ ว่าจะชวนไอ้อินไปเล่นบาสหน่อย เมื่อวานบ่ายมันก็ชิ่งรีบร้อนออกจากสนาม” 

    เมื่อวานบ่าย ก็ตอนที่มันใส่ชุดประหลาดๆเหงื่อซกมาหาผมนี่หว่า ว่าแต่มึงจะรีบออกจากสนามมาหากูทำซากอะไรครับอินทรี ก็บอกไปแล้วว่ากูก็ยุ่ง

    ไม่ไปอะ พี่เขาต้องกลับไปทำงาน” อินทรีตอบไปกินข้าวไป ผมเหลือบตามองเพื่อนมันเชิงว่าก็ตามนั้น

    อ่า พี่ก็ไปเล่นด้วยกันก่อนก็ได้นิ่ เพื่อนๆไอ้อินมันหมดแหละ ส่วนใหญ่เด็กเศรษศาสตร์”

    เหอะๆ ไม่เล่นกีฬาว่ะ ขอบายนะงานนี้”

    อ่าวเหรอ เออ วันหลังไปดูก็ได้พี่ ไอ้อินมันเล่นดีแต่อ่อนซ้อม สงสัยต้องให้มีคนพามา มันเป็นตัวเล่นของคณะด้วยนะ เขาด่ากันระนาวว่ามันขี้เกียจ อย่าลืมนะพี่ ว่างๆก็แวะไป งั้นเดี๋ยวผมไปก่อน นัดเพื่อนไว้ที่สนามบาส เปลี่ยนใจก็ตามมานะอิน ที่เดิมแหละ”

    ผมโบกมือไล่ไอ้ป้องแล้วหันกลับมามองอิน มันเงียบ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าผมจะถามอะไร ทำทีว่ากินข้าวไปเรื่อยๆไม่เดือดเนื้อร้อนใจ

    อยู่กับเพื่อนแล้วจะรีบออกมาทำไม เดี๋ยวเพื่อนมึงก็ด่าพ่อกูกันยกทีม”

    อินทรีกลืนข้าวคำสุดท้ายลงคอ หยิบน้ำดื่มขึ้นมาจิบแล้วค่อยตอบหน้าตาเฉย “เมื่อวานยูยังไม่ได้กินข้าวไม่ใช่เหรอ เลยรีบออกมาซื้อให้ไง”

    เหตุผลเหี้ยมาก อินทรี ถ้าจะหวังดีกับกูขนาดนั้นก็แวะมาส่งข้าวแล้วกลับไปเล่นบาสก็ได้นะ ไม่ใช่มานั่งเกากีต้าร์อารมณ์ดีกล่อมกูนอนข้ามวันข้ามคืน

    ยูอยากให้ผมซ้อมบาสวันหลังก็ไปเฝ้าที่สนามสิ หลังมิดเทอมมีแข่งกีฬาคณะด้วย นี่ยังไม่ค่อยได้ซ้อมเลย”

    งานกูก็มีมั้ง หนังสือหนังหากูก็ต้องเริ่มอ่านแล้ว ใครจะไปว่างเฝ้ามึง”

    งานกีฬาคณะมึงก็ต้องแข่งกับคณะกูสิวะ ดีๆ ไอ้ป้องยิ่งบอกว่ามันเป็นตัวโหดอยู่ เวลามาแข่งกับถาปัตย์จะได้ไม่แพ้ คณะผมกีฬากากมากครับ โดยเฉพาะบาส เรียนมา 5 ปี ตกรอบแรกทุกปี ไม่รู้ว่าเพราะไอ้อั้มมันลงแข่งด้วยหรือเปล่า ตัดกำลังไม่ให้มันไปซ้อมนี่ทำเพื่อคณะดีกว่า เผอิญเป็นคนดี

     “ไม่เฝ้าก็ไม่เป็นไร ไม่ซ้อมก็ได้ แต่ถ้าผมชนะอีกขออะไรอย่างนะ”

    อะไร?”

    อินทรียกยิ้มที่มุมปากแล้วยักคิ้ว กวนตีนเชี่ยๆ มันลุกขึ้นจ่ายเงินค่าข้าวแล้วเดินมากระซิบกับผมเสียงต่ำ อีโรติกเป็นบ้า

    ถึงเวลาแล้วจะมาบอกเอง”



    TBC

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×